สุขภาพ

สุขภาพ เป็นเรื่องสำคัญ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้นไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารสุขภาพ ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป และอื่น ๆ อีกมากมาย หากคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยคุณได้แน่นอน

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพ

ทำความรู้จัก "ปลูกฝี" สำคัญยังไง ยังจำเป็นอยู่ไหม

การปลูกฝีเคยเป็นหนึ่งในนวัตกรรมทางการแพทย์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่โรคฝีดาษ (Smallpox) เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อชีวิตมนุษย์ วัคซีนป้องกันฝีดาษซึ่งเริ่มต้นจากการปลูกฝี ไม่เพียงช่วยลดการเสียชีวิตนับล้านคนทั่วโลก แต่ยังนำไปสู่การประกาศกำจัดโรคฝีดาษอย่างสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2523  อย่างไรก็ตาม ความทรงจำเกี่ยวกับการปลูกฝีเริ่มจางหายไปเมื่อวัคซีนนี้ไม่ได้เป็นที่จำเป็นในยุคปัจจุบัน บทความนี้จะพาผู้อ่านย้อนรอยความสำคัญของการปลูกฝีในอดีต และพิจารณาว่าการปลูกฝียังมีความจำเป็นในยุคสมัยใหม่หรือไม่ [embed-health-tool-vaccination-tool] ปลูกฝี ในอดีตเป็นอย่างไร? การปลูกฝีเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1796 โดย ดร.เอ็ดเวิร์ด เจนเนอร์ ผู้ค้นพบว่าวัคซีนจาก Cowpox สามารถป้องกันโรคฝีดาษได้ ทำให้เกิดการพัฒนาวัคซีนที่ใช้ทั่วโลกเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคร้ายแรงนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รณรงค์ฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางในช่วงศตวรรษที่ 20 จนนำไปสู่การประกาศว่าฝีดาษถูกกำจัดอย่างสมบูรณ์ในปี 1980 สำหรับประเทศไทย การปลูกฝีเริ่มต้นในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยมักทิ้งรอยแผลเป็นเล็ก ๆ บริเวณหัวไหล่ หลังจากการกำจัดโรคฝีดาษอย่างสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2523 การปลูกฝีก็หยุดลง แต่กลับมาเป็นประเด็นที่น่าสนใจอีกครั้งในยุคที่โรคฝีดาษลิงระบาด โดยวัคซีนที่พัฒนาจากวัคซีน Smallpox เช่น JYNNEOS กำลังถูกศึกษาเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่นี้ โรคฝีดาษลิงคืออะไร โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่เกิดจากไวรัสในตระกูล Orthopoxvirus ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคฝีดาษ (Smallpox) แม้ว่าจะมีลักษณะคล้ายกัน แต่โรคฝีดาษลิงมีอาการรุนแรงน้อยกว่าและมีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่า โรคฝีดาษลิงเกิดจากเชื้อ ไวรัส Monkeypox ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกในลิงในปี ค.ศ. 1958 และตรวจพบในมนุษย์ครั้งแรกในปี […]

หมวดหมู่ สุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพ

ขั้นตอนทางการแพทย์และการผ่าตัด

กรอกระเดือก ศัลยกรรมที่ทำให้กระเดือกหายไป

สำหรับผู้หญิงบางคนการมีลูกกระเดือกนูนออกมาอาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ เนื่องจากดูเหมือนผู้ชายมากเกินไป ส่วนผู้ชายที่ต้องการจะเป็นหญิงก็ต้องการที่จะทำให้ลูกกระเดือกหายไปเช่นกัน ดังนั้น วิธีที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ก็คือ การ กรอกระเดือก นั่นเอง แต่ขั้นตอนการกรอกระเดือก วิธีการดูแลตัวเอง รวมถึงผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร ลองมาติดตามในบทความนี้ของ Hello คุณหมอ กันเลย ทำความรู้จักกับการ กรอกระเดือก (Tracheal Shave) การกรอกระเดือก (Tracheal Shave) เป็นขั้นตอนการผ่าตัดเพื่อลดขนาด และความโดดเด่นของกล่องเสียง ซึ่งเป็นอวัยวะที่อยู่ด้านบนของต่อมไทรอยด์ตรงกลางลำคอ ซึ่งความโดดเด่นของกล่องเสียงมักจะเรียกกันโดยทั่วไปว่า “ลูกกระเดือก” ในระหว่าง การกรอกระเดือก กระดูกอ่อนของต่อมไทรอยด์จะถูกเอาออกจากด้านหน้าของกล่องเสียง ซึ่งบทบาทที่สำคัญของกระดูกอ่อนบริเวณต่อมไทรอยด์ก็คือ การปกป้องสายเสียงจากความเสียหายนั่นเอง เหตุใดถึงต้องกรอกระเดือก ในช่วงวัยแรกเกิดของเพศชาย ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะเพิ่มขนาดและปริมาตรของกล่องเสียง และกระดูกอ่อนต่อมไทรอยด์ และส่งผลให้สายเสียงยังสามารถยาวขึ้นได้ในช่วงเวลานี้ และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้นี่เองที่ทำให้เสียงทุ้มขึ้น อีกทั้งยังทำให้ช่วงด้านหน้าของลำคอนูนยื่นออกมา ส่วนในวัยแรกเกิดของเพศหญิงนั้น ด้านหน้าของลำคอจะไม่นูนออกมาเหมือนเพศชาย ในช่วงวัยแรกรุ่นจึงทำให้ทั้งใบหน้าดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น ดังนั้น บางคนจึงเลือกที่จะกรอกระเดือกไปพร้อม ๆ กับขั้นตอนการศัลยกรรมส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า เช่น ลดคาง ลดกราม เสริมริมฝีปาก เสริมแก้ม เสริมหน้าผาก (Forehead Contouring) ผ่าตัดเสริมจมูก ขั้นตอน การกรอกระเดือก ที่คุณควรรู้ สิ่งแรกก่อนที่จะเข้ารับ การกรอกระเดือก คุณหมอจะต้องประเมินและให้คุณเข้ารับการตรวจวินิจฉัย เพื่อตรวจสอบว่า คุณมีสุขภาพแข็งแรงเพียงพอสำหรับการผ่าตัดหรือไม่ ซึ่งการตรวจนี้จะรวมไปถึงการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram […]


การทดสอบทางการแพทย์

การตรวจวัดการดูดซึมของวิตามินบี 12 (Schilling Test) ของร่างกาย

การตรวจวัดการดูดซึมของวิตามินบี 12 (Schilling Test) เป็นกระบวนการตรวจสอบว่าร่างกายสามารถดูดซึมของวิตามินบี 12 ได้ดีหรือไม่ ซึ่งวิตามินบี 12 นั้นมีส่วนช่วยทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของระบบประสาทและการทำงานของสมอง วันนี้ Hello คุณหมอ จึงอยากพาทุกคนไปรู้จักกับ Schilling Test ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีตรวจการดูดซึมของวิตามินบี 12 ว่าแต่วิธีการนี้จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ การตรวจวัดการดูดซึมของวิตามินบี 12 (Schilling Test) ทำเพื่ออะไร การตรวจวัดการดูดซึมของวิตามินบี12 เป็นการตรวจสอบว่าร่างกายของเรานั้นขาดวิตามินบี 12 หรือไม่ การทดสอบนี้สามารถตรวจสอบได้ว่ากระเพาะอาหารของเรานั้น สามารถผลิตโปรตีนที่ชื่อว่า “อินทรินซิกแฟกเตอร์ (Intrinsic Factor)” ได้มากน้อยขนาดไหน อินทรินซิกแฟกเตอร์ เป็นโปรตีนเปปไทด์ชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากกระเพาะอาหาร มีหน้าที่สำคัญในการดูดซึมวิตามินบี 12 หากร่างกายผลิตโปรตีนชนิดนี้ได้ไม่เพียงพอ ก็จะไม่สามารถดูดซึมวิตามินบี 12 ได้อย่างเต็มที่ และสามารถส่งผลให้เกิดโรคโลหิตจางชนิดเพอร์นิเชียสแอนีเมีย (Pernicious Anemia) ซึ่งเป็นโรคโลหิตจางชนิดที่อันตรายได้ด้วย วิธี การตรวจวัดการดูดซึมของวิตามินบี 12 ก่อนเข้ารับการตรวจ Schilling Test ผู้ที่ต้องการเข้ารับการตรวจจะต้องมีการเตรียมตัวก่อน คือ ต้องงดการฉีดหรือรับประทานอาหารเสริมวิตามินบี 12 […]


ขั้นตอนทางการแพทย์และการผ่าตัด

การฉีดเกล็ดเลือด (PRP) สามารถส่งผลดีต่อสุขภาพของเราอย่างไร

นอกจากการรับประทานอาหาร วิตามิน หรือการออกกำลังกาย อย่างเป็นประจำ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรงแล้ว การฉีดเกล็ดเลือด เข้าสู่ร่างกาย ก็อาจเป็นอีกสิ่งที่สามารถส่งผลดีแก่สุขภาพของคุณได้เช่นกัน แต่ก่อนคุณจะเข้ารับการฉีดนั้น ควรจำเป็นอย่างมากที่ต้องทำการศึกษาถึงประโยชน์ และผลข้างเคียงเบื้องต้น จากบทความ Hello คุณหมอ เสียก่อนค่ะ การฉีดเกล็ดเลือด (PRP) คืออะไร การฉีดเกล็ดเลือด (Platelet-Rich Plasma Injections; PRP) คือการฉีดพลาสมาที่ประกอบด้วยเกล็ดเลือด น้ำและโปรตีนเข้าไปช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อให้สร้างเซลล์ในร่างกายได้แข็งแรงขึ้น ซึ่งมักนิยมนำมาฉีดบริเวณศีรษะ กล้ามเนื้อ ข้อต่อ และผิวหนัง โดยมีกระบวนการ หรือขั้นตอนการฉีด ดังนี้ แพทย์จะทำการวินิจฉัย พร้อมประเมินปัญหา และกำหนดปริมาณของพลาสมาด้วยการดูดเลือดจากตัวคุณเองออกมา เลือดที่ได้จากตัวคุณจะถูกนำไปห้องปฏิบัติการ หรือเข้าเครื่องปั่นเฉพาะ เพื่อให้ส่วนประกอบของเลือดที่ต้องการจะนำมาฉีดแยกออกจากกัน ซึ่งมักใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 15 นาที เมื่อได้พลาสมาที่แยกออกมาแล้ว แพทย์จะเริ่มทำการเตรียมฉีดเข้าสู่บริเวณร่างกายที่คุณต้องการรักษา ในขณะฉีดแพทย์อาจมีการใช้เครื่องมืออัลตร้าซาวด์ร่วม เพื่อเป็นการระบุบริเวณที่จะได้รับพลาสมาเข้าไปได้อย่างตรงจุด ก่อนเข้าขั้นตอนการฉีด แพทย์อาจมีการนัดหมายล่วงหน้า พร้อมให้คำแนะนำถึงการเตรียมตัว ซึ่งคุณควรปฏิบัติตามทุกข้ออย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลลัพธ์นั้นออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด การฉีดเกล็ดเลือด เหมาะกับการรักษาภาวะสุขทางภาพใด ส่วนใหญ่การฉีดเกล็ดเลือด หรือพลาสมาตามจุดต่าง ๆ บนร่างกาย แพทย์มักนิยมใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่ประสบกับปัญหาทางสุขภาพ ดังนี้ อาการบาดเจ็บที่เส้นเอ็น เส้นเอ็นเป็นเนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อ และกระดูกที่ค่อนข้างมีลักษณะเหนียว และหนาอย่างมาก และเมื่อประสบกับอาการบาดเจ็บจึงทำให้เส้นเอ็นนั้น ใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูได้นานกว่าปกติ ซึ่งแพทย์จึงมักเลือกใช้การฉีดเกล็ดนี้นำไปรักษาด้วยการฉีดเข้าสู่บริเวณเส้นเอ็นโดยตรง เพื่อบรรเทาอาการปวด […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ไขข้อสงสัย! ทำไมต้อง อ้าปากเวลาปัดมาสคาร่า

การแต่งหน้ากับผู้หญิงนั้นเป็นของคู่กัน นอกจากจะช่วยเพิ่มเสน่ห์เสริมความมั่นใจให้กับเราแล้ว ยังช่วยเสริมบุคลิกภาพให้กับเราอีกด้วย และเชื่อว่าขณะแต่งหน้าทุกครั้งหลาย ๆ คนมักตั้งข้อสงสัยทุกทีว่า ทำไมต้อง อ้าปากเวลาปัดมาสคาร่า วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาไขข้อสงสัยนี้กันค่ะ  เกิดเป็นผู้หญิง อย่าหยุดสวย ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ต้องขอยอมรับเลยนะคะว่า เรื่องความสวยความงามกับผู้หญิงนั้นเป็นของคู่กันจริง ๆ ไม่ว่าจะเสื้อผ้า หน้าผม ผิวพรรณ ผู้หญิงอย่างเราต้องเป๊ะ มั่นใจไว้ก่อน อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเสริมความมั่นใจของเราคงหนีไม่พ้น การแต่งหน้า ที่จะช่วยปกปิดจุดบกพร่องบนใบหน้าให้ดูสวยโดดเด่น สะดุดตา ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ มาสคาร่า จึงเป็นอีกหนึ่งไอเทมสำคัญที่จะช่วยเนรมิตให้ดวงตาเราดูคมสวยมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งสำคัญเราต้องคำนึงในเรื่องของความปลอดภัย เลือกมาสคาร่าที่ได้มาตรฐาน เลือกหัวแปรงที่เหมาะกับขนตา เพื่อความปลอดภัยของดวงตา  ไขข้อสงสัย! ทำไมต้อง อ้าปากเวลาปัดมาสคาร่า  คุณผู้หญิงหลายคนอาจไม่รู้ตัว เวลาแต่งหน้าจะปัดมาสคาร่าทีไร ต้องเผลออ้าปากทุกที จากการศึกษาของเว็บไซต์ Popsugar ของประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า 70% มัก อ้าปากเวลาปัดมาสคาร่า โดยมีสาเหตุมาจากการหดตัวของกล้ามเนื้อบนใบหน้าโดยอัติโนมัติ ขณะปัดมาสคาร่าจะทำให้เราไม่กระพริบตากล้ามเนื้อบนใบหน้าจึงตึง ผิวหนังบริเวณเปลือกตาจะตึงมากขึ้น เมื่อเปลือกตาตึงกล้ามเนื้อตรงส่วนปากจึงผ่อนคลายและอ้าปากออก  การอ้าปากขณะปัดมาสคาร่า นอกจากจะช่วยให้เราเห็นขนตาชัดขึ้น ปัดได้ง่ายและสะดวกขึ้นแล้ว ยังทำให้ใบหน้าเราผ่อนคลาย ไม่เมื่อยอีกด้วย  เคล็ดลับแก้มาสคาร่าแห้ง  คุณผู้หญิงที่ชอบปัดมาสคาร่า มักประสบกับปัญหา ผลิตภัณฑ์มาสคาร่าแห้งเร็วเกินไป จึงทำให้เราต้องซื้อเปลี่ยนบ่อย ๆ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ทำไมก่อนเข้ารับ การตรวจเลือด จึงควร อดอาหาร กันนะ?

เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ผู้คนส่วนใหญ่มักตั้งข้อสงสัย ว่าเหตุใดทุกครั้งที่มีการนัดเข้ารับ การตรวจเลือด ทางแพทย์มักจะแนะนำอย่างเคร่งครัดให้ผู้ป่วยต้อง อดอาหาร ก่อนเสมอ ซึ่งวันนี้ Hello คุณหมอ จึงนำความรู้ พร้อมคำตอบในเบื้องต้น มาฝากทุกคนให้คลายข้อสงสัยดังกล่าวกันค่ะ เหตุผลที่คุณควร อดอาหาร ก่อน การตรวจเลือด เนื่องจากอาหาร หรือเครื่องดื่มที่คุณรับประทานเข้าไปนั้น มักถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง จนทำให้บางครั้งที่คุณต้องเข้ารับการ ตรวจเลือด เพื่อรับทราบถึงผลลัพธ์ถึงสภาวะทางสุขภาพ อาจเกิดการบิดเบือนขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็นในเชิงบวกหรือเชิงลบ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ คุณจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารก่อนการตรวจเลือดก่อนประมาณ 8-12 ชั่วโมงด้วยกัน และควรเตรียมร่างกายตนเองให้พร้อมด้วยการพักผ่อน และพกเครื่องดื่ม อาหารรองท้องติดกระเป๋าเอาไว้ เพราะเมื่อการเจาะเลือดสิ้นสุดลง คุณสามารถที่จะรับประทานอาหารต่าง ๆ ได้ในทันที เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดอาการอ่อนเพลีย มึนงง หรือหมดสติ การตรวจเลือดแต่ละประเภท กับ ช่วงเวลาที่ควรอดอาหาร ช่วงเวลาที่ควรอดอาหาร สำหรับประเภทของการตรวจเลือดที่คนไทยส่วนใหญ่มักจะเข้ารับการตรวจ มีดังนี้ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Blood glucose test)  คุณควรมีการอดอาหารเป็นเวลาข้ามวัน หรือประมาณ 8-10 ชั่วโมง จนกว่าจะถึงช่วงเวลานัดหมาย การตรวจไขมันในเลือด (Blood cholesterol test) สำหรับการตรวจไขมันในเลือดบางประเภทอาจไม่จำเป็นต้องมีการอดอาหาร แต่การตรวจหาระดับไขมันชนิด LDL อาจจำเป็นต้องมีการอดอาหารประมาณ 14 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการตรวจ การทดสอบระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

เพลียแดด (Heat exhaustion)

เพลียแดด (Heat exhaustion) เป็นอาการที่เกิดขึ้นเนื่องจากอากาศร้อน ร่วมกับความชื้นสูง และการออกกำลังกายอย่างหนัก ทำให้ความร้อนในร่างกายสูงมากเกินไป จนเกิดอาการต่าง ๆ [embed-health-tool-heart-rate] คำจำกัดความ เพลียแดด คืออะไร เพลียแดด (Heat exhaustion) เป็นอาการที่เกิดขึ้นเนื่องจากอากาศร้อน ร่วมกับความชื้นสูง และการออกกำลังกายอย่างหนัก ทำให้ความร้อนในร่างกายสูงมากเกิน และเกิดอาการต่าง ๆ เช่น หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกมาก หรือตะคริว และมักจะเกิดขึ้นพร้อมกับภาวะขาดน้ำ (Dehydration) โดยปกติภาวะเพลียแดดนี้จะไม่มีอาการที่เป็นอันตรายอะไร และสามารถหายได้เพียงแค่นั่งพักในที่ร่มประมาณ 30 นาที แต่หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำการรักษา ก็อาจจะนำไปสู่ภาวะเป็นลมแดด หรือฮีทสโตรก (Heatstroke) ซึ่งอาจเป็นอันตราย และจำเป็นต้องรับการรักษาฉุกเฉินได้ เพลียแดด พบบ่อยแค่ไหน ภาวะเพลียแดดพบได้ค่อนข้างบ่อยในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีอาการร้อน และมีความชื้นสูง ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และอาจจะพบได้บ่อยกับผู้ที่ต้องออกกำลังกายกลางแจ้ง เช่น นักกีฬา หรือนักเรียนที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง เป็นต้น อาการ อาการของภาวะเพลียแดด สัญญาณและอาการที่พบได้บ่อยของภาวะเพลียแดด มีดังต่อไปนี้ เหนื่อยล้า ปวดหัว เหงื่อออกมาก ผิวเย็น หรือมีอาการขนลุก แม้ว่าจะมีอากาศร้อน สับสน วิงเวียน หน้ามืด หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตต่ำ ตะคริว […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

รอยช้ำกับห้อเลือด มีความแตกต่างกันอย่างไร

หลายคนมักเข้าใจว่า รอยช้ำกับห้อเลือด คือสิ่งเดียวกัน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ดังนั้น การเรียนรู้เกี่ยวกับสาเหตุและอาการของรอยช้ำกับห้อเลือด จะช่วยทำให้คุณรับรู้ถึงเงื่อนไขของการเกิด ความแตกต่างระหว่างรอยช้ำกับห้อเลือด รวมทั้งจะได้เข้าใจถึงการรักษาที่จำเป็นได้ดีขึ้น ซึ่งทาง Hello คุณหมอ ได้นำเรื่องนี้มาฝากกัน ทำความรู้จัก รอยช้ำกับห้อเลือด รอยช้ำกับห้อเลือดมักจะปรากฏในลักษณะเดียวกัน แต่ทั้ง 2 มีเงื่อนไขการเกิดที่แตกต่างกัน ห้อเลือดเป็นภาวะที่ร้ายแรงกว่ารอยช้ำ ซึ่งบางครั้งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หากเกิดรอยช้ำขึ้นตามร่างกายมักไม่จำเป็นต้องไปพบคุณหมอ ในขณะที่ห้อเลือดนั้นอาจต้องได้รับการดูแลทันที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับห้อเลือดประเภทที่รุนแรง ดังนั้น คุณควรทำความรู้จักกับรอยช้ำกับห้อเลือด เพื่อจะได้แยกแยะได้อย่างถูกต้อง รอยช้ำคืออะไร รอยช้ำ หรือที่เรียกกันว่า “บาดแผลฟกช้ำดำเขียว (Contusions)” มันจะปรากฏบนผิวหนัง เมื่อได้รับบาดเจ็บที่ร่างกาย รอยช้ำจะเกิดขึ้นเมื่อเส้นเลือดเล็ก เส้นเลือดฝอย เนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อ และเส้นใยใต้ผิวหนังแตก ห้อเลือดคืออะไร ห้อเลือด คือ การสะสมของเลือดภายนอกหลอดเลือด เกิดจากการบาดเจ็บที่ผนังของหลอดเลือด ซึ่งทำให้เลือดออกไปยังเนื้อเยื่อรอบ ๆ ห้อเลือดสามารถเกิดขึ้นได้ที่หลอดเลือดทุกประเภท รวมทั้งหลอดเลือดแดง เส้นเลือดฝอย และหลอดเลือดดำ สาเหตุของการเกิดรอยช้ำกับห้อเลือด แม้ว่า รอยช้ำกับห้อเลือดจะมีลักษณะที่เหมือนกัน แต่ความจริงแล้ว สาเหตุของการเกิดรอยช้ำกับห้อเลือดมีความแตกต่างกัน โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยช้ำกับห้อเลือด มีดังนี้ สาเหตุของการเกิดรอยช้ำ รอบช้ำมักเป็นผลมาจากการกระแทกโดยตรง หรือการกระแทกซ้ำ ๆ จากวัตถุไม่มีคมที่กระทบส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย สำหรับสาเหตุอื่น ๆ ของการเกิดรอยช้ำ […]


อาการของโรค

โรคเหน็บชา ปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวเนื่องกับการขาดวิตามินบี 1

คุณผู้อ่านหลายท่าน คงประสบกับอาการชาที่มือและเท้ากันมาบ้าง ซึ่งอาการชาที่มือและเท้าโดยทั่วไปก็มักจะเกิดขึ้นแค่เพียงชั่วครู่ชั่วคราว ไม่นานก็หายไป แต่ถ้าคุณมีอาการชาที่มือและเท้าบ่อย ๆ หรือรู้สึกชาตามมือและเท้าเป็นประจำ อาจเป็นไปได้ว่าคุณกำลังเสี่ยงต่อโรคเหน็บชา แต่ โรคเหน็บชา คืออะไร วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับโรคเหน็บชามาฝากค่ะ โรคเหน็บชา คืออะไร โรคเหน็บชา (Beriberi) เป็นปัญหาสุขภาพอันเนื่องมาจากการขาดแคลนสารอาหารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า ไทอามีน (Thiamine) หรือวิตามินบี 1 (Vitamin B1) ซึ่งเป็นสารอาหารที่ทำหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย คือ สลายคาร์โบไฮเดรต ช่วยในการหกตัวของกล้ามเนื้อ กระตุ้นกระบวนการนำความรู้สึกของเซลล์ประสาท ผลิตกลูโคส (Glucose) ผลิตกรดสำหรับใช้ในการย่อยอาหาร วิตามินบี 1 นั้นจะถูกสลายในร่างกายภายในเวลาไม่นาน โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะขาดแคลนวิตามินบี 1 นั้น วิตามินบี 1 จะถูกสลายออกไปจากร่างกายภายในระยะเวลา 2 – 3 สัปดาห์เท่านั้น โรคเหน็บชามีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดหลัก ๆ ได้แก่ เหน็บชาชนิดผอมแห้ง (Dry beriberi) เป็นโรคเหน็บชาที่มีผลต่อระบบประสาท เสี่ยงที่จะทำให้เส้นประสาทถูกทำลาย ผู้ป่วยมีรูปร่างผอมแห้ง กล้ามเนื้อแขนและขาอ่อนแรง หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเป็นอัมพาต โรคเหน็บชาประเภทนี้ หากไม่ได้รับการรักษาอาจเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้ เหน็บชาชนิดเปียก (Wet […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ระวัง!!! เจ็บใต้ราวอกซ้าย สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรละเลย

เจ็บใต้ราวอกซ้าย เป็นหนึ่งในสัญญาณทางสุขภาพเบื้องต้นที่ช่วยเตือนให้รู้ถึงความปกติของร่างกายตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีอวัยวะสำคัญ ๆ ซึ่งต้องหมั่นสังเกตและตรวจสอบไว้เป็นระยะ ๆ ว่าอาการเจ็บน้อย ปาน กลาง และมากนั้น สะท้อนปัญหาสุขภาพด้านใดได้บ้าง [embed-health-tool-bmi] เจ็บใต้ราวอกซ้าย เสี่ยงต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง บริเวณหน้าอกข้างซ้าย หรือใต้ราวนมซ้าย เป็นจุดที่มีอวัยวะสำคัญ ๆ หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ ปอด กระเพาะอาหาร หรือไตดังนั้น หากเกิดอาการเจ็บหรือปวดบริเวณใต้ราวอกข้างซ้ายขึ้น อาจสะท้อนปัญหาสุขภาพได้หลายรูปแบบ ทั้งยังต้องดูอาการอื่น ๆ ประกอบด้วย เพื่อให้สามารถจำแนกปัญหาสุขภาพที่เฉพาะเจาะจงได้มากขึ้น โดยทั่วไปแล้วหากเจ็บใต้ราวอกซ้าย อาจหมายถึงสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพ ดังนี้ 1. หัวใจขาดเลือด เนื่องจากบริเวณใต้ราวอกซ้ายเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับหัวใจ หากเกิด อาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย จึงอาจเป็นสัญญาณความเสี่ยงของภาวะหัวใจวายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย เหงื่อออกมาก ใจสั่น เจ็บแน่น คลื่นไส้หรืออาเจียน หายใจถี่และสั้น ปวดที่แขนหรือไหล่ อาการเจ็บลามไปยังแขน คอ ขากรรไกร หลัง และอวัยวะอื่น ๆ วิงเวียนศีรษะ 2. เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ โดยปกติหัวใจมีเยื่อบาง ๆ ล้อมรอบ เรียกว่าเยื่อหุ้มหัวใจ เมื่อเยื่อนี้เกิดอาการระคายเคืองหรืออักเสบเนื่องจากการติดเชื้อ หรือความผิดปกติทางระบบภูมิคุ้มกัน ปัจจัยเหล่านี้จะก่อให้เกิด […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

บอร์ดเกม กิจกรรมสานสัมพันธ์ ที่มีประโยชน์มากกว่าแค่ความสนุก

การเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็นเกมคอมพิวเตอร์ เกมในโทรศัพท์มือถือ เกมในเครื่องเล่นเกมพกพา ถือเป็นกิจกรรมโปรดของใครหลาย ๆ คน เพราะไม่ใช่แค่สนุก ช่วยแก้เครียดได้เป็นอย่างดี แต่บางเกมยังช่วยเสริมสร้างทักษะต่าง ๆ ได้ด้วย แต่นอกจากเกมในรูปแบบที่ยกตัวอย่างมาข้างต้นแล้ว ยังมีเกมอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง นั่นก็คือ บอร์ดเกม ที่ไม่ใช่แค่เป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ชั้นยอด แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในแบบที่คุณอาจคาดไม่ถึงด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาไปหาดูกัน ประโยชน์สุขภาพของ บอร์ดเกม ช่วยคลายเครียด ความสนุกสนานในการเล่นบอร์ดเกมจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งยังเป็นวิธีคลายเครียดที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยด้วย ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า การที่คุณโฟกัสอยู่กับบอร์ดเกม จะช่วยให้คุณลืมปัญหาด้านต่าง ๆ ที่เผชิญอยู่ เช่น ปัญหาด้านการงาน ปัญหาด้านการเงิน และช่วยให้คุณคิดบวกมากขึ้น โดยผลการวิจัยชิ้นหนึ่งเผยว่า ร้อยละ 64 ของผู้เข้าร่วมการวิจัยรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเมื่อได้เล่นบอร์ดเกม และร้อยละ 53 ของผู้เข้าร่วมการวิจัยเครียดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ งานศึกษาวิจัยเกี่ยวกับวิธีจัดการความเครียดชิ้นหนึ่งเมื่อปี ค.ศ. 2017 ยังพบว่า การเล่นบอร์ดเกมบางประเภทเปรียบเสมือนการฝึกให้การเกิดปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียดที่เรียกว่า การตอบสนองแบบสู้หรือหนี ของร่างกายเป็นปกติ และเมื่อกระบวนการนี้ทำงานได้ดี ไม่ผิดพลาด ก็เท่ากับว่าคุณจะสามารถรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้นนั่นเอง ช่วยพัฒนาความสามารถในการรู้คิด ความสามารถในการรู้คิด หรือศักยภาพในการรู้คิดของสมอง (Cognitive Function) หมายถึงกระบวนการที่แสดงถึงการทำงานของสมองในระดับสูง เช่น […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน