ข้าวบาร์เลย์ ต้นธัญพืชที่หลายคนมักจะไปสับสนกับพืชชนิดอื่น เพราะลำต้นไปคล้ายกับข้าวสาลี ส่วนเมล็ดก็ดันไปคล้ายกับลูกเดือยเสียอย่างนั้น แต่ต้นข้าวบาร์เลย์นี้ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพดี ๆ ที่ไม่น้อยหน้าพืชชนิดไหนกันเลยนะคะ วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมารู้จักกับ ต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์ สมุนไพรจากธรรมชาติ มากประโยชน์ต่อสุขภาพ ที่ทุกคนไม่ควรพลาดค่ะ
ต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์ คืออะไร
ต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์ (Barley grass) หรือบางที่อาจจะเรียกว่าใบอ่อน ข้าวบาร์เลย์ หมายถึงส่วนใบอ่อนของต้นบาร์เลย์ที่เพิ่งจะโตได้ไม่นาน ยังคงเป็นในอ่อนสีเขียวสดอยู่ และยังไม่โตพอที่จะเกิดเมล็ด ซึ่งต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์นั้นจะอุดมไปด้วยสารอาหารและคุณค่าทางโภชนาการต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และหากเรารับประทานเข้าไปก็จะทำให้เราได้รับประโยชน์เหล่านั้นอย่างเต็มที่
ต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์นั้นได้รับความนิยมในการนำมาคั้นน้ำหรือทำเป็นน้ำปั่นต่าง ๆ เพื่อรับประทาน โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ที่จะมีเมนูเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่เรียกว่า “อาโอจิรุ” (Aojiru) ซึ่งเป็นเมนูน้ำปั่นสีเขียวที่มีต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์เป็นส่วนผสมนั่นเอง
ในปัจจุบัน นอกเหนือไปจากต้นสดแล้ว ต้นอ่อน ข้าวบาร์เลย์ ยังสามารถหาได้ในรูปแบบของผงต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์ ยาแคปซูล และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทาน และการนำไปประกอบอาหารมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ประโยชน์ของต้นอ่อน ข้าวบาร์เลย์
ผิวสวยสุขภาพดี
ต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์นั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ โดยเฉพาะวิตามินซี และวิตามินเอ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องร่างกายจากการเสื่อมโทรมของเซลล์ผิว และสามารถช่วยลดปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย หรือจุดด่างดำ นอกจากนี้ วิตามินซีในต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์ยังสามารถช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใส และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างคอลลาเจน (Collagen) สารสำคัญที่จะทำให้ผิวดูเต่งตึง ไม่หย่อนคล้อยอีกด้วย
ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
งานวิจัยพบว่า การรับประทานต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์อาจสามารถช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้ เนื่องจากต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์นั้นมีใยอาหารสูง ทำให้สามารถช่วยลดการดูดซึมของน้ำตาลจากอาหาร และทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณที่สม่ำเสมอ ไม่พุ่งขึ้นสูง ง่ายต่อการควบคุม ต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์ยังอาจสามารถช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลินของร่างกาย ทำให้สามารถจัดการกับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้อีกด้วย
ดีต่อระบบย่อยอาหาร
ใยอาหารที่มีอยู่มากในต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์นั้นจะกลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของ แบคทีเรียดี ที่มีอยู่ในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น ดูดซึมน้ำตาลได้ช้าลง อีกทั้งยังสามารถช่วยแก้ปัญหาท้องผูกได้อีกด้วย
ดีต่อสุขภาพหัวใจ
การรับประทานต้นอ่อน ข้าวบาร์เลย์ อาจทำให้ระดับของคอเลสเตอรอล (Cholesterol) และน้ำตาลในเลือดลดลง ซึ่งเป็นผลดีต่อหัวใจและหลอดเลือด มีงานวิจัยที่พบว่า การรับประทานสารสกัดต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์ อาจสามารถช่วยลดระดับของไขมันไม่ดี (LDL) ซึ่งทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย
ช่วยลดน้ำหนัก
มีงานวิจัยที่พบว่า การรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูงอย่างต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์ จะทำให้เรารู้สึกอิ่มได้นานยิ่งขึ้น และทำให้เรากินอาหารอื่นได้น้อยลง ทำให้สามารถช่วยลดน้ำหนักได้
นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบอีกว่า การรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูงอย่างต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์ อาจสามารถช่วยลดน้ำหนักตัวและค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ในสัตว์ทดลองได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังไม่ได้ทำการทดลองกับมนุษย์ ทำให้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าผลของการรับประทานต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์จะส่งผลเช่นเดียวกับในงานวิจัยหรือไม่
ข้อควรระวังในการรับประทาน ต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์
การรับประทานต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์นั้นแม้ว่าจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็อาจนำมาซึ่งผลข้างเคียงได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคภูมิแพ้ต่ออาหาร เช่น แพ้กลูเตน (Gluten) หรือแพ้อาหารจำพวกธัญพืชอื่น ๆ ก็อาจจะมีอาการแพ้ต่อต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์ได้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคเซลิแอค (Celiac Disease) ก็ควรจะหลีกเลี่ยงการรับประทานต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ สรรพคุณบางอย่างจากการรับประทานต้นอ่อน ข้าวบาร์เลย์ เช่น การลดน้ำตาลในเลือด หรือปริมาณของวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ ที่อยู่ในต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์ เช่น วิตามินเค โพแทสเซียม (Potassium) และฟอสฟอรัส (Phosphorus) ก็อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาต่อผู้ที่กำลังใช้ยา หรือผู้ป่วยโรคอื่น ๆ อีกด้วย
หากคุณต้องการรับประทานต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์ ทางที่ดีจึงควรปรึกษากับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน ว่าคุณสามารถรับประทานต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์เป็นอาหารเสริมได้หรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงตามมาในภายหลัง
[embed-health-tool-bmr]