ปลา เช่น ปลาทู ปลากะพงขาว ปลาสลิด ปลาช่อน ปลาสำลี ปลาตะเพียน ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า เป็นแหล่งพลังงานที่ดีต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยโปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และมีแร่ธาตุอย่างฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ซีลีเนียม แมกนีเซียม ไอโอดีน (พบในปลาทะเล) ที่จำเป็นต่อระบบการทำงานของร่างกาย อีกทั้งปลาบางชนิดที่กินได้ทั้งตัว เช่น ปลาข้าวสาร ปลาตัวเล็กตัวน้อย ปลากระป๋อง ยังให้แคลเซียม และในเครื่องในและตับปลายังมีวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเค
นอกจากนี้ ปลาบางชนิด เช่น ปลาแซลมอน ปลาสวาย ปลาช่อน ปลาจะละเม็ดขาว ปลากะพงแดง ยังมีไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3 fats) ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่ช่วยลดการจับตัวของเกล็ดเลือด ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง และอาจช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจหรือไขมันในเลือดสูงได้ จึงควรกินปลาอย่างน้อย 2 ส่วน/สัปดาห์
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน International Journal of Molecular Sciences เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างกรดไขมันโอเมก้า 3 จากอาหารทะเลกับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด พบว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 อย่างกรดไอโคซาเพนตะอีโนอิก (EPA) และกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) ที่พบได้ในอาหารทะเล โดยเฉพาะปลาทะเลที่มีไขมันสูง อาจลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD) โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคหลอดเลือดหัวใจ (CHD) และกล้ามเนื้อหัวใจตาย (MI) และลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดในประชากรทั่วไปได้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย