โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

สมุนไพรลดน้ำหนัก ตัวช่วยดี ๆ สำหรับคนอยากผอม

สมุนไพรลดน้ำหนัก เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก เพราะสารสกัดในสมุนไพรบางชนิดอาจช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญภายในร่างกาย ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันที่สะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เพื่อความปลอดภัยควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคทุกครั้ง  [embed-health-tool-bmi] สมุนไพรลดน้ำหนัก ตัวช่วยดี ๆ สำหรับคนอยากผอม ขมิ้นชัน สรรพคุณ สารเคอร์คูมิน (Curcumin) ในขมิ้นชันมีสรรพคุณช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญภายในร่างกาย ทำให้ระบบการเผาผลาญภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สมุนไพรขมิ้นชันจึงเป็นอีกกนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก ผลข้างเคียง หากรับประทานขมิ้นชันในปริมาณสูงติดต่อกัน อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย คลื่นไส้และอาเจียน  ขิง สรรพคุณ สารซิงเจอโรน ((Zingerone) ในขิงเป็นสารประกอบที่มีรสชาติเผ็ดร้อน อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญภายในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้สามารถควบคุมปริมาณในแต่ละวันได้อย่างเหมาะสม ผลข้างเคียง ขิงเป็นสมุนไพรฤทธิ์ร้อน หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารได้  แนะนำรับประทานไม่เกินวันละ 4 กรัม และในสตรีมีครรภ์ไม่เกินวันละ 1 กรัม  ส้มแขก สรรพคุณ หลายคนมักรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีสารสกัดจากส้มแขก เนื่องจากส้มแขกมีกรดมีกรดไฮดรอกซีซิตริก (Hydroxycitric Acid: HCA) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการเผาผลาญไขมันภายในร่างกาย และยังมีสารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ทำให้รู้สึกหิวน้อยลง  ผลข้างเคียง เวียนศีรษะ ปากแห้ง ปวดศีรษะ ปวดท้อง ท้องเสีย  เม็ดแมงลัก สรรพคุณ เม็ดแมงลักเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สูตรอาหารเพื่อสุขภาพ

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

กินแบบหยินหยาง สร้างความสมดุลให้ร่างกายตามหลักแพทย์แผนจีน

ตามความเชื่อของชาวจีน ทุกสรรพสิ่งล้วนมีสองด้านที่ตรงข้ามกัน แต่ส่งเสริมกันเรียกว่า “หยินและหยาง” และแม้แต่อวัยวะภายในร่างกายของเราเอง ก็แบ่งเป็นหยินกับหยางด้วยเช่นกัน การทำให้หยินหยางในร่างกายสมดุล จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราแข็งแรงขึ้นได้ และการกินอาหารก็เป็นอีกวิธีง่ายๆ ที่การแพทย์แผนจีนเชื่อว่าจะสามารถช่วยให้เรารักษาความแข็งแรงของร่างกายเอาไว้ได้ วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับการ กินแบบหยินหยาง กันค่ะ หยินหยางสัมพันธ์กับอาหารอย่างไร ตำราแพทย์แผนจีนกล่าวไว้ว่า อวัยวะที่สำคัญทั้ง 5 ในร่างกายได้แก่ หัวใจ ปอด ไต ม้าม และ ตับ แบ่งออกเป็นหยินสามส่วน และหยางสองส่วน คือ ปอด ไต ม้าม เป็นหยิน หัวใจและตับเป็นหยาง ซึ่งอวัยวะภายในทั้ง 5 ที่มีพื้นฐานตรงข้ามกันนั้น ทำหน้าที่สร้างความสมดุลในร่างกาย ข่มความร้อนและเย็นให้เป็นปกติ หากกินอาหารที่มีฤทธิ์ร้อน ก็จะไปช่วยบำรุงให้ตับและหัวใจทำงานมากขึ้น จนส่งผลให้ไปข่มการทำงานของอวัยวะที่เป็นหยินมากเกินไปจนเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ ดังนั้น การเลือกกินอาหารให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย และการเลือกกินอาหารที่มีฤทธิ์ร้อนเย็นสลับกัน ไม่กินอาหารที่มีลักษณะร้อนหรือเย็นเพียงอย่างเดียวถี่จนเกินไป เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยเสริมให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้ เนื่องจากการทำงานในร่างกายเกิดความสมดุล กินแบบหยินหยาง เป็นอย่างไร ตามความเชื่อของแพทย์แผนจีน คนเราจะมีลักษณะที่อาจจะเอนเอียงไปทางใดทางหนึ่ง  โดยเราจะสามารถแบ่งลักษณะของคนเราตามหยินและหยางได้ โดยการสังเกตจากลักษณะนิสัยและสภาพร่างกายของคนๆ นั้น และเมื่อรู้ว่าเรามีความเป็นหยินหรือหยางมากกว่ากันแล้ว ก็สามารถที่จะเลือกการ กินแบบหยินหยาง […]


ข้อมูลโภชนาการ

แคนตาลูป ประโยชน์สุขภาพ และข้อควรระวัง

แคนตาลูป ผลไม้ตระกูลเดียวกับแตงไทย อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส วิตมมินเอ วิตามินซี ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ทั้งช่วยบำรุงผิว บำรุงสายตา ตลอดไปจนถึงอาจช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตาม แคนตาลูปอาจปนเปื้อนยาฆ่าแมลงอยู่มาก จึงควรล้างให้สะอาดเพื่อช่วยกำจัดสารพิษตกค้างก่อนรับประทาน [embed-health-tool-”bmi”] ทำความรู้จักกับ แคนตาลูป แคนตาลูปเป็นผลไม้ตระกูลเดียวกับแตงไทยและแตงกวา ลักษณะผลค่อนข้างใหญ่ น้ำหนักมาก เปลือกหนา ส่วนผิวเปลือกมีทั้งแบบเรียบ และแบบมีร่างแห เนื้อมีสีส้มหรือสีเหลือง ในต่างประเทศมีแหล่งปลูกที่สำคัญ ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศในอเมริกากลาง และเม็กซิโก ส่วนประเทศไทยปลูกมากในจังหวัดนครสวรรค์ ปราจีนบุรี และสระแก้ว พันธุ์ที่นิยมปลูก ได้แก่ พันธุ์ฮันนี่ พันธุ์ซันเลดี้ และพันธุ์ฮันนี่ดิว คุณค่าทางโภชนาการของแคนตาลูป แคนตาลูป 100 กรัม อาจมีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้ พลังงาน 34 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 8.69 กรัม น้ำตาล 7.88 กรัม แคลเซียม 9 มก. โพแทสเซียม 157 มก. โซเดียม 30 มก. ฟอสฟอรัส 17 มก. แมกนีเซียม […]


ข้อมูลโภชนาการ

ประโยชน์ของน้ำมะพร้าว ที่รู้แล้วคุณจะรักน้ำมะพร้าวมากขึ้น

น้ำมะพร้าว ได้นำมาใช้ในการรักษาโรคเป็นระยะเวลาหลายร้อยปี ในกรณีฉุกเฉิน ยังใช้น้ำมะพร้าวเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในร่างกายได้ด้วย เพราะในน้ำมะพร้าวมีปริมาณอิเล็กโทรไลท์ (electrolyte) สูง การดื่มน้ำมะพร้าวเป็นที่นิยมมาก เพราะน้ำมะพร้าวมีรสชาติที่หอมหวาน ดื่มแล้วสดชื่น แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะนอกจากรสชาติเด็ดแล้ว ประโยชน์ของน้ำมะพร้าว ต่อสุขภาพมาฝากกันนั้นยังมีอีกมากมายเลยทีเดียว Hello คุณหมอ มีข้อมูลมาฝากกัน ประโยชน์ของน้ำมะพร้าว เพิ่มปริมาณน้ำในร่างกาย ในช่วงอากาศร้อนๆ น้ำมะพร้าวถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่ม ที่ช่วยดับกระหายและคลายร้อนได้ดีมาก เพราะอิเล็กโทรไลท์ในน้ำมะพร้าวจะช่วยรักษาปริมาณน้ำในร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่เกิดภาวะขาดน้ำ แถมยังช่วยควบคุมการสูญเสียน้ำในร่างกายด้วย ภาวะขาดน้ำและการสูญเสียน้ำในร่างกาย จะเกิดขึ้นเมื่อคุณท้องเสีย อาเจียน หรือตอนที่คุณเสียเหงื่อมาก น้ำมะพร้าวจะช่วยปรับสมดุลพลังงานในร่างกาย และยังเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ดีอีกด้วย ลดความดันโลหิต น้ำมะพร้าวมีวิตามินซี โพแทสเซียม และแมกนีเซียมสูง จึงทำให้น้ำมะพร้าวมีประโยชน์ในการช่วยควบคุมปริมาณโซเดียมในร่างกาย โดยเฉพาะโพแทสเซียม ที่จะช่วยเรื่องปริมาณโซเดียมในร่างกายโดยตรง ถ้าร่างกายมีปริมาณโซเดียมน้อย ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับความดันโลหิต เช่น โรคความดันโลหิตสูง ถ้าจะควบคุมความดันโลหิต ลองดื่มน้ำมะพร้าววันละ 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงน้ำมะพร้าวที่ขายเป็นขวดๆ เพราะกระบวนการผลิตจะทำให้ไม่ได้รับประโยชน์จากน้ำมะพร้าวเท่าที่ควร ควรดื่มน้ำมะพร้าวสดที่ปอกจากลูกเลยดีกว่า เพราะจะได้รับคุณค่าของสารอาหารจากน้ำมะพร้าวเต็มที่ ช่วยเรื่องการทำงานของหัวใจ น้ำมะพร้าวไม่มีคอเลสเตอรอล และไม่มีไขมัน จึงดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดเป็นอย่างมาก น้ำมะพร้าวช่วยเพิ่มไขมันดีหรือ HDL (high-density lipoprotein) และลดปริมาณไขมันไม่ดีหรือ LDL (low-density lipoprotein) นอกจากนี้น้ำมะพร้าวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ ช่วยป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดจับตัวเป็นก้อน […]


โภชนาการพิเศษ

โรคโลหิตจาง ปัญหาสุขภาพที่คนกินมังสวิรัติต้องระวังให้ดี

อาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิด โรคโลหิตจาง (anemia) ได้อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเพิ่มสารอาหารที่ร่างกายต้องการโดยเฉพาะสารอาหารที่ช่วยบำรุงเลือด เช่น ฟักทอง แครอท มะเขือเทศ ผักใบเขียวเข้ม ข้าวเสริมธาตุเหล็ก ข้ามหอมนิล ปัจจุบันคนเลือกกินมังสวิรัติ ไม่บริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น ไข่ นม ชีส กันมากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลหรือความเชื่อที่ว่า กินเนื้อสัตว์เท่ากับทำบาป กินเนื้อสัตว์แล้วจะเป็นโรคต่างๆ เป็นต้น แต่หากจะเลือกกินมังสวิรัติ คุณก็ต้องจัดตารางอาหารของตัวเองให้ดี กินอาหารให้หลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับอาหารครบ 5 หมู่ เพราะการกินมังสวิรัติ หากกินแต่อาหารชนิดเดิมๆ ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่ต้องการอย่างครบถ้วน ก็จะทำให้ขาดสารอาหาร โดยเฉพาะสารอาหารที่พบได้มากในเนื้อสัตว์ อย่างธาตุเหล็ก เมื่อร่างกายได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอก็ทำให้เสี่ยงเป็นโรคโลหิตจางมากขึ้น เนื่องจากร่างกายไม่สามารถผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงซึ่งมีหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนได้อย่างเพียงพอ สำหรับผู้ที่กินมังสวิรัติแบบเคร่งครัดมาก คือ กินแต่พืชผักผลไม้อย่างเดียว นอกจากอาจทำให้ร่างกายได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอแล้ว ยังทำให้ร่างกายขาดวิตามินบี 12 ซึ่งพบมากในไข่ นม ผลิตภัณฑ์จากนม น้ำผึ้ง อีกด้วย และหากร่างกายขาดวิตามินบี 12 ก็อาจทำให้เป็นโรคโลหิตจางได้เช่นกัน การดูดซึมธาตุเหล็ก ธาตุเหล็กมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน เช่น ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยกำจัดโลหะหนักออกจากร่างกาย ช่วยให้เซลล์สมองเติบโตได้ดี โดยคนแต่ละเพศ แต่ละช่วงวัยต่างก็ต้องการธาตุเหล็กในปริมาณที่ต่างกัน ดังนี้ เพศชาย (14-18 […]


โภชนาการพิเศษ

9 เคล็ดลับการกินอาหาร สำหรับผู้ป่วยโรค เบาหวาน และความดันโลหิตสูง

งานวิจัยมากมายแสดงให้เห็นว่า 70% ของผู้ป่วยเบาหวาน มีความดันโลหิตสูงด้วยเช่นกัน การรับประทานอาหารที่ดีสามารถช่วยควบคุมปริมาณการบริโภคของคุณ และช่วยคุณรับมือกับโรค เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ได้ ติดตามเรื่องนี้ได้ในบทความของ Hello คุณหมอ เคล็ดลับการกินอาหาร สำหรับผู้ป่วยโรค เบาหวาน และความดันโลหิตสูง 1. หลีกเลี่ยงโซเดียม ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง หมอจะแนะนำให้บริโภคอาหารที่มีโซเดียม (Sodium) น้อยกว่า 1500 มิลลิกรัมต่อวัน (น้อยกว่า 1 ช้อนชา) หลีกเลี่ยงการใช้เกลือ กระเทียม ขิง ออริกาโน ยี่หร่า หรือ ดอกโรสแมรี่ ในการปรุงอาหาร นอกจากนี้ อาหารที่ทำจากร้านอาหาร มักจะอุดมไปด้วยโซเดียมมากกว่าอาหารทั่วไป ดังนั้น เมื่อคุณมีอาการของโรคเบาหวานแล้วความดันโลหิตสูง การทำอาหารเองที่บ้านเป็นสิ่งที่ควรต้องทำ 2. เพิ่มธัญพืชในอาหาร ธัญพืชโฮลเกรน (Whole grain) หรือธัญพืชแบบไม่ขัดสี เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์และสารอาหาร ซึ่งช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดและทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้นานขึ้น ให้แน่ใจว่าคุณบริโภคธัญพืช แบบไม่ขัดสี 3 ถึง 5 หน่วยบริโภค ต่อวัน 3. ผูกมิตรกับกล้วย กล้วยอุดมไปด้วยโพแทสเซียม (Potassium) ซึ่งช่วยจัดการความดันโลหิตโดยการลดผลกระทบของโซเดียม ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงยกเว้นผู้ที่มีปัญหาทางไต […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

วิตามินรวม มีประโยชน์อย่างไร จำเป็นต้องกินไหม

วิตามินรวม และวิตามินชนิดต่างๆ กลายเป็นสิ่งคุ้นเคยสำหรับคนสมัยนี้ไปแล้ว เนื่องจากผู้คนยุคนี้หันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น แต่บางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่า วิตามินที่เรากิน ๆ กันอยู่เป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายจริง ๆ หรือเปล่า? ก่อนตัดสินใจกินควรหาข้อมูลเพื่อจะได้เลือกรับประทานวิตามินรวมอย่างถูกต้อง วิตามินรวม คืออะไร วิตามินรวมคือ อาหารเสริมชนิดเม็ดประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม วิตามินดี วิตามินบี วิตามินเอ วิตามินเค โพแทสเซียม ไอโอดีน ซีลีเนียม โบรอน ซิงค์ แมงกานิส โมลิบดีนัม เบต้า–แคโรทีน และธาตุเหล็ก ในร้านขายยาชั้นนำ วิตามินรวมมีอยู่มากมายหลายชนิดและมีปริมาณในการรับประทานแตกต่างกันออกไป อย่างเช่น วิตามินรวมสำหรับเด็ก ผู้ชาย ผู้หญิง สตรีมีครรภ์ หรือผู้สูงอายุ และอาจมีชนิดที่เพิ่มวิตามินและเกลือแร่บางอย่างเข้าไป สำหรับกลุ่มคนที่มีความต้องการแตกต่างกันไป วิตามินรวม มีประโยชน์อย่างไร แม้ว่าเราจะเห็นตามแผ่นพับหรือโฆษณาตามสื่อต่าง ๆ ว่าวิตามินรวมดีอย่างโน้นอย่างนี้ แต่วิตามินรวมไม่ใช่ยามหัศจรรย์ที่จะช่วยเพิ่มพลังให้คุณกลายเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ทันที สิ่งที่วิตามินรวมทำได้ ก็คือ ช่วยทดแทนวิตามินในส่วนที่ขาด หรือที่ไม่มีอยู่ในอาหาร  ยกตัวอย่างเช่น หากกินอาหารสำเร็จรูปบ่อย ๆ ก็มีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่ร่างกายจะขาดวิตามินและเกลือแร่บางชนิด ซึ่งวิตามินรวมจะช่วยทำหน้าที่ตรงนี้ในการเป็นตัวช่วยเสริมได้ วิตามินรวม […]


โรคติดเชื้อจากอาหาร

อาหารเสริมไบโอติน ดีอย่างไร เราจำเป็นต้องกินรึเปล่า

ไบโอติน (Biotin) เป็นสารอาหารที่ผู้คนในยุคนี้หันมาให้ความสนใจกันมาก เนื่องจากมักจะมีคำโฆษณาให้เราเห็นกันอยู่เสมอว่า ช่วยทำให้ผมดูดกดำและมีสุขภาพดี รวมทั้งทำให้ผิวหน้าดูเปล่งปลั่ง และช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเล็บด้วย ถึงแม้จะยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าไบโอตินช่วยเราในเรื่องนั้นได้จริงหรือเปล่า แต่คนที่กิน อาหารเสริมไบโอติน ก็มักจะสังเกตถึงความแตกต่างได้ ซึ่งจริงๆแล้วไบโอตินส่งผลดีต่อร่างกายได้มากกว่าที่กล่าวมาแล้วซะอีกนะ ซึ่งนี่คือข้อมูลเกี่ยวกับไบโอตินที่คุณควรรู้เอาไว้ รวมทั้งวิธีสังเกตว่าคุณจำเป็นต้องกินอาหารเสริมชนิดนี้หรือเปล่าด้วย ไบโอตินพบได้ในอาหารประเภทใด สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของอเมริกาว่าเอาไว้ว่า วิตามินบีชนิดนี้คือสารอาหารจำเป็นต้องร่างกาย ซึ่งเราอาจจะคุ้นในชื่อไบโอตินซึ่งเป็นอาหารเสริมกันมากกว่า ซึ่งจริงๆ แล้วไบโอตินมีอยู่ในอาหารทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเนื้อสัตว์ อย่างเนื้อวัวและตับนั้น นับเป็นแหล่งไบโอตินที่สำคัญมาก รวมทั้งเนื้อหมูและแฮมเบอร์เกอร์ ก็พบไบโอตินอยู่มากด้วย นอกจากนี้ยังพบในเนื้อปลา ไข่ ถั่วเปลือกแข็ง ธัญพืช และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมด้วย แถมในพืชผักต่างๆก็ยังเจอด้วย อย่างเช่น มันฝรั่ง ผักโขม และบร็อคโคลี่ ไบโอตินทำหน้าที่อะไร ไบโอตินช่วยทำหน้าที่เผาผลาญกรดไขมัน กลูโคส (หรือน้ำตาลในเลือด) และกรดอะมิโนต่างๆในร่างกาย หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ไบโอตินจะช่วยเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรท ไขมัน และโปรตีนในอาหารที่คุณกินเข้าไปให้เป็นพลังงาน แถมยังช่วยควบคุมการทำงานของยีน รวมทั้งการส่งสัญญานไปยังเซลล์ต่างๆในร่างกายด้วย นอกจากนี้ไบโอตินยังช่วยควบคุมระบบประสาทให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีบทบาทสำคัญในการสร้างเล็บ ผิวหนัง และเส้นผมให้มีสุขภาพดีด้วย แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า ถ้าคุณมีไบโอตินอยู่ในร่างกายอย่างพอเพียงแล้ว การกินอาหารเสริมไบโอตินเพิ่มเข้าไปอีก ก็จะช่วยให้ผิว ผม และเล็บดูสวยและมีสุขภาพดีขึ้นหรอกนะ จะรู้ได้อย่างไรว่าร่างกายต้องการไบโอตินเพิ่ม ยังไม่มีการระบุอย่างแน่นอนว่าร่างกายคนเราต้องการไบโอตินในปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน จึงทำให้เรารู้ได้ยากว่าควรกินอะไรในปริมาณแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญจากเมโยคลีนิคในสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำให้กินวันละ 30 […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ซาลโมเนลลา เชื้อแบคทีเรียในไข่ไก่ เราควรต้องกลัวหรือเปล่า

ซาลโมเนลลา (Salmonella) เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง พบได้มากในสัตว์ปีกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ เชื้อโรคชนิดนี้ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ ซึ่งถ้าเชื้อเข้ากระแสเลือดได้ ก็อาจจะรุนแรงถึงตายได้ ฉะนั้น ก็ศึกษารายละเอียดพวกนี้ไว้ เพื่อจะได้หาทางป้องกันการติดเชื้อโรคชนิดนี้ได้ ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของอเมริกาได้รายงานว่า มีผู้ป่วยจำนวย 11 รายถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล และมีการยืนยันว่าได้ติดเชื้อซาลโมเนลลาด้วย โดยการระบาดนี้เกิดขึ้นจากผักสลัดที่มีการปนเปื้อน โรคระบาดจากอาหารไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในทุกๆปี แค่โรคซาลโมเนลลาอย่างเดียว ก็ทำให้มีผู้ป่วยถึง 1.2 ล้านคน มีผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 23,000 คน โดยมีผู้เสียชีวิตถึง 450 ราย ถ้าใครกำลังเป็นกังวลถึงการระบาดของโรคนี้  Hello คุณหมอ ขออาสามาชี้แจงให้ฟังถึงสาเหตุโรคนี้ รวมทั้งวิธีป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคตัวนี้ด้วย ซาลโมเนลลา คืออะไร? เชื้อซาลโมเนลลา เป็นแบคทีเรียที่มีลักษณะรูปท่อน ต้องการออกซิเจนในการเติบโต อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเติบโตของเชื้อซาลโมเนลลา คือประมาณ 37 องศาเซลเซียส ค่า pH ที่เหมาะสมในการ เติบโตอยู่ระหว่าง 4.1-9.0 เชื้อซาลโมเนลลา มีความสามารถในการทนความร้อนแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิด สายพันธุ์ และผลพวงจากสิ่งแวดล้อมในการเติบโต เชื้อซาลโมเนลลาเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไร เชื้อซาลโมเนลลา เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทําให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ และสามารถถ่ายทอดเข้าสู่ร่างกายได้ โดยรับประทานอาหารที่มีเชื้อซาลโมเนลลาปนเปื้อน ซึ่งก็ได้แก่อาหารประเภทเนื้อ เช่น […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

กลิ่นตัว เกิดจากการกินอาหารชนิดใดบ้าง

อาหารบางอย่างนอกจากจะทำให้เกิดกลิ่นปากแล้ว ถ้ากินเข้าไปในปริมาณมาก ๆ ก็อาจทำให้เกิด กลิ่นตัว ได้ โดยกลิ่นที่เกิดขึ้นเกิดจากการกินสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds หรือ VOCs) เข้าไป ซึ่งส่งผลทำให้เหงื่อมีกลิ่นฉุน รวมถึงยังอาจทำให้เกิดแก๊สที่มีกลิ่นเหม็นในกระเพาะอาหารได้ด้วย ดังนั้น การรู้ว่าอาหารชนิดใดที่ทำให้เกิดปัญหากลิ่นตัว อาจช่วยให้หลีกเลี่ยงการกินอาหารเหล่า รวมถึงอาจช่วยลดปัญหากลิ่นตัวได้ด้วย [embed-health-tool-bmi] อาหารที่อาจทำให้เกิด กลิ่นตัว ปัญหากลิ่นตัวอาจเกิดจากอาหารต่าง ๆ เหล่านี้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเป็นวิสกี้ เบียร์ หรือไวน์ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว เนื่องจากเมื่อร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าไป แอลกอฮอล์จะเกิดการเผาผลาญจนกลายเป็นสารละลายในน้ำที่เรียกว่า กรดแอซีติก (Acetic Acid) และเข้าไปผสมกับเหงื่อและเชื้อแบคทีเรีย จึงทำให้เกิดเป็นกลิ่นตัว ผักตระกูลกะหล่ำ ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี คะน้า บร็อคโคลี่ อาจทำให้เกิดกลิ่นตัว ได้ เพราะผักพวกนี้มีกำมะถัน ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีกลิ่นเหม็นคล้ายกลิ่นไข่เน่า เมื่อกินผักเหล่านี้เข้าไปก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มกำมะถันให้กับร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายผลิตสารประกอบที่มีกำมะถันออกมามากขึ้น ซึ่งจะทำให้กลิ่นตัวมีกลิ่นคล้ายกับกลิ่นไข่เน่า นอกจากนี้ ผักตระกูลกะหล่ำยังอาจทำให้เกิดกลิ่นคาวปลาในคนที่เป็นโรคกลิ่นตัวเหม็น (Trimethylaminuria)  ซึ่งเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้ร่างกายไม่สามารถทำลายสารประกอบที่มีกลิ่นเหม็นในผักตระกูลกะหล่ำ รวมถึงอาหารบางชนิด เช่น ถั่ว ไข่ นม […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หากอยากมี อายุยืน

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หากอยาก อายุยืน อาจเป็นอาหารที่หน้าตาธรรมดา แต่สามารถส่งผลร้ายต่อร่างกาย เช่น เนื้อสัตว์ที่ผ่านการแปรรูปต่าง ๆ (ไส้กรอก แฮม หรือเบค่อน) ซึ่งถ้ารับประทานบ่อย ๆ หรือรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยและโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ดังนั้น การใส่ใจเรื่องอาหารอาจช่วยให้สุขภาพดีและมีอายุยืนยาวได้ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หากอยากมี อายุยืน สำหรับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อช่วยให้อายุยืนยาว อาจมีดังนี้ เนื้อสัตว์แปรรูป เนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการแปรรูป เช่น เบคอน ไส้กรอก ซาลามี เนื้อเค็ม เป็นอาหารที่ผ่านการหมักด้วยเกลือ รมด้วยควัน หรือวิธีอื่น ๆ อาจช่วยให้อาหารสามารถเก็บไว้ได้นานขึ้น ซึ่งการรับประทานอาหารเหล่านี้มากเกินไป อาจทำให้องค์ประกอบของจุลินทรีย์ในร่างกายเปลี่ยนแปลงไปจนขาดความสมดุล จนทำให้ร่างกายมีการอักเสบเรื้อรังได้ สารให้ความหวานแทนน้ำตาล สารให้ความหวานแทนน้ำตาลอย่างแอสปาร์แตม (Aspartame) ซึ่งให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทราย 180-200 เท่า มีรสชาติใกล้เคียงกับน้ำตาลทรายมากที่สุด การรับประทานสารให้ความหวานแทนน้ำตาลมากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร และอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเสียสมดุลด้วย ซึ่งความไม่สมดุลที่เกิดขึ้นอาจมีส่วนทำให้ร่างกายเกิดปัญหาเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นการอักเสบ โรคอ้วน โรคมะเร็ง หรือโรคออทิสซึ่ม ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นเนื่องจากพัฒนาการทางสมองผิดปกติ ผลิตภัณฑ์จากนม ถึงแม้ผลิตภัณฑ์จากนม มีส่วนผสมของไขมันอิ่มตัว น้ำตาล ฮอร์โมน และสารปฎิชีวะนะตกค้างต่าง ๆ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน