โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ด้วย “นานะ” ในรังนกแท้

ใครๆ ก็ไม่อยากป่วย แต่บางครั้งเราก็อาจต้องเจอกับสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ จนทำให้ภูมิคุ้มกันตก ไม่ว่าจะเป็นงานหนักจนเครียด พักผ่อนน้อย อากาศเปลี่ยนแปลง เจอมลภาวะ  ฝุ่น PM2.5 หรืออื่นๆ สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ คือการดูแลตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ทั้งนี้ การมีสุขอนามัยในชีวิตประจำวันที่ดี เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารมีประโยชน์ นอนหลับเพียงพอ ก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ทำความรู้จัก “นานะ” คุณประโยชน์ดีๆ ที่มีในรังนกแท้ เมื่อพูดถึงอาหารที่มีประโยชน์ และช่วยเสริมภูมิคุ้มกันอย่างมีประสิทธิภาพ หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่า “รังนกแท้” เป็นหนึ่งในอาหารที่น่าสนใจ นั่นเพราะรังนกมีสารสำคัญอย่าง “นานะ” ที่มีส่วนช่วยในการเสริมภูมิคุ้มกัน ต้านไวรัสไม่ให้เข้าสู่เซลล์ร่างกาย “นานะ” (NANA) มีชื่อเต็มว่า N-Acetylneuraminic Acid เป็นกรดไซอะลิค (Sialic Acid) ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ร่างกายผลิตขึ้นตามธรรมชาติ พบได้ในส่วนหนึ่งของน้ำนมแม่และเนื้อเยื่อประสาท1 โดย นานะ จัดเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายด้าน เช่น มีส่วนช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด6,7 เสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน2 ต้านไวรัสไม่ให้เข้าสู่เซลล์ร่างกาย โดยเฉพาะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่3,5 ทั้งนี้  นานะ มี คุณสมบัติต้านการยึดเกาะ […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

วิตามินบำรุงผม ที่ช่วยให้ผมสวยสุขภาพดี มีอะไรบ้าง

วิตามินบำรุงผม มีอยู่ด้วยกันหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วตามิซี วิตามินเอ วิตามินบี ซึ่งช่วยให้ผมมีสุขภาพดี เงางาม นอกจากนี้ ยังอาจช่วยแก้ปัญหาที่เกี่ยวของกับผม เช่น ผมแห้ง ผมขาดหลุดร่วง ผมแห้ง โดยวิตามินบำรุงผมอาจพบได้ในอาหารหลากหลายชนิด ดังนั้น การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และอุดมด้วยวิตามิน อาจช่วยส่งเสริมสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรง วิตามินบำรุงผม เพื่อผมสวยสุขภาพดี สำหรับวิตามินบำรุงผมที่ช่วยให้ผมสวยสุขภาพดี อาจมีดังนี้ วิตามินเอ วิตามินเออาจจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ และเส้นผม รวมถึง ยังอาจช่วยส่งเสริมการผลิตไขมันบนหนังศีรษะ ซึ่งเป็นน้ำมันตามธรรมชาติที่ช่วยให้เส้นผมชุ่มชื่นเงางาม มีสุขภาพดี โดยวิตามินเออาจพบได้มากในแครอท มันหวาน ฟักทอง คะน้า โยเกิร์ต นม และไข่ อย่างไรก็ตาม การรับประทานวิตามินเอมากเกินไปก็อาจทำให้ผมร่วงได้ โดยปริมาณวิตามินเอที่ควรได้รับในแต่ละวัน สำหรับในแต่ละช่วงวัย อาจมีดังนี้ เด็กแรกเกิดถึง 6 เดือน ควรได้รับวิตามินเอ 400 ไมโครกรัม/วัน ทารกอายุ 7-12 เดือน ควรได้รับวิตามินเอ 500 ไมโครกรัม/วัน เด็กอายุ 1-3 ปี ควรได้รับวิตามินเอ 300 ไมโครกรัม/วัน […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

อาหารทำลายความต้องการทางเพศ ที่ผู้ชายควรหลีกเลี่ยง

อาหารทำลายความต้องการทางเพศ เป็นอาหารที่ผู้ชายควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากอาหารบางชนิด เช่น ผลิตภัณ์จากนม กาแฟ ช็อกโกแลต อาจส่งผลกระทบต่อระดับฮอร์โมนที่มีผลต่อสุขภาพทางเพศโดยตรง ดังนั้น หากรู้ว่าอาหารชนิดใดบ้างที่ทำให้ความต้องการทางเพศลดลง ก็อาจช่วยให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเหล่านั้นได้ นอกจากนี้ ยังควรเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม เพื่อช่วยส่งเสริมสุขภาพทางเพศที่ดี อาหารทำลายความต้องการทางเพศ สำหรับอาหารที่สามารถทำลายความต้องการทางเพศ อาจมีดังนี้ ผลิตภัณฑ์จากนม ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ไอศกรีม ชีส มีกรดแลคติกที่อาจทำให้ระดับความต้องการทางเพศในผู้ชายลดลง นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนมวัวยังอุดมไปด้วยฮอร์โมนสังเคราะห์ ซึ่งหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินอาจทำให้ร่างกายหยุดผลิตฮอร์โมนตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม แคลเซียมก็ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพทางเพศ ดังนั้น จึงควรเสริมแคลเซียมให้ร่างกายด้วยอาหารอื่น ๆ เช่น งา เมล็ดเจีย ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน อัลมอนด์ ผักใบเขียว แทนการรับประทานผลิตภัณฑ์จากนมเพียงอย่างเดียว ไขมันทรานส์ อาหารที่มีไขมันทรานส์ เช่น ของทอด โดนัท เค้ก คุกกี้ ครีมเทียม นมข้นหวาน อาจเป็นอาหารที่ผู้ชายควรเลี่ยง เพราะอาหารที่มีไขมันทรานส์เป็นส่วนประกอบอาจทำให้ความต้องการทางเพศลดลง รวมถึงยังอาจทำให้การผลิตอสุจิมีความผิดปกติ นอจกจากนี้ ไขมันทรานส์ยังอาจทำให้เกิดโรคเรื้องรังต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง กาแฟ แม้คาเฟอีนในกาแฟอาจช้วยทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า คึกคัก แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับผู้ชายทุกคน […]


ข้อมูลโภชนาการ

ชาเขียว ประโยชน์ และข้อควรระวัง

การใช้ประโยชน์ ชาเขียวชาเขียวใช้ทำอะไร ชาเขียว (Green Tea) มีสารคาเฟอีนเป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ระบบหัวใจและกล้ามเนื้อ และใช้รักษาอาการต่างๆ ดังนี้ ช่วยลดน้ำหนัก อาเจียน ปวดศรีษะ โรคกระดูกพรุน โรคพาร์กินสัน ความดันต่ำ โรคฟันผุ นิ่วไนไต มะเร็งตับ มะเร็งปอด การทำงานของชาเขียวเป็นอย่างไรส่วนที่เป็นประโยชน์ของชาเขียวคือส่วนใบ และลำต้น ชาเขียวถูกผลิตขึ้นโดยการอบใบในอุณหภูมิสูง ระหว่างกระบวนการนี้ สามารถป้องกันอาการอักเสบบวม คุ้มกันกระดูกอ่อน และลดการเสื่อมของข้อ ชาเขียวยังสามารถต่อต้านการติดเชื้อไวรัส HPV และลดการเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติในบริเวณปากมดลูก  ข้อควรระวังและคำเตือนเราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้ชาเขียว ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่: ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะให้นมบุตรนั้น ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น กำลังใช้ยาอื่น ๆ รวมถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ มีอาการแพ้สารในชาเขียว ยาอื่น ๆ หรืออาหารเสริมอื่น ๆ มีโรคอื่น ๆ มีความผิดปกติหรือพยาธิสภาพอื่น ๆ มีอาการแพ้อื่น ๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูดหรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากชาเขียวนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่นๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ชาเขียวมีความปลอดภัยแค่ไหนข้อควรระวังและคำเตือนพิเศษ การตั้งครรภ์และให้นมบุตร: ยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้ชาเขียวในระหว่างการตั้งครรภ์และช่วงให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยควรหลีกเลี่ยงการใช้ ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ชาเขียวมีอะไรบ้าง ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ชาเขียว ได้แก่: ปวดหัว อาการของโรคระบบทางเดินอาหาร ตับเป็นพิษ ผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน และอาจจะมีอาการของผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้นหากกังวลเรื่องผลข้างเคียง ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ ปฏิกิริยาระหว่างยายาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับชาเขียวมีอะไรบ้าง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรชนิดนี้อาจมีผลต่อยาหรือพยาธิสภาพในปัจจุบัน ควรปรึกษาหมอผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนการใช้งาน ขนาดการใช้ข้อมูลนี้ไม่สามารถเป็นคำสั่งในการใช้ยาได้ ควรปรึกษานักสมุนไพรศาสตร์หรือแพทย์ก่อนการใช้ยาเสมอ ปกติแล้วควรใช้ชาเขียวในปริมาณเท่าใดการรับประทาน: สำหรับผู้มีคอเลสเตอรอลสูง: ในชาเขียวหรือสารสกัดจากชาเขียวมี catechin 150-2500 มิลลิกรัม ใช้ครั้งเดียวต่อวัน หรือแบ่งเป็นสองครั้งต่อวันเป็นเวลา 24 สัปดาห์ สำหรับการเติบโตของเซลล์ผิดปกติในช่องคลอด: […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน