โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* ทางเลือกเสริมความจำ มีงานวิจัยรองรับ

ยิ่งอายุมากก็ยิ่งหลงๆ ลืมๆ อาการแบบนี้มีสาเหตุ เพราะอายุที่เพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่ภาวะความจำถดถอย ซึ่งอาจเริ่มปรากฏในช่วงวัยผู้ใหญ่ และรุนแรงขึ้นตามอายุ1-4 ดังนั้น การใส่ใจดูแลสมองตั้งแต่วันนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ จากงานวิจัย “Hydrolyzed Chicken Extract (ProBeptigen®) on Cognitive Function in Healthy Middle-Aged People: A Randomized Double-Blind Trial”  เกี่ยวกับไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* ที่พัฒนาต่อยอดจากซุปไก่สกัดด้วยเทคโนโลยีการสกัดเฉพาะ พบว่ามีส่วนช่วยเสริมความจำ ไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* คืออะไร? โปรตีนและเปปไทด์เป็นสารอาหารสำคัญที่มีบทบาทในการฟื้นฟูปฏิกิริยาตอบสนองในผู้สูงอายุและความจำในผู้ที่เสี่ยงต่อภาวะเครียด8 ซุปไก่สกัดซึ่งเป็นแหล่งของโปรตีนและเปปไทด์มีการศึกษารายงานว่า มีประโยชน์ต่อความจำ (เช่น ความจำใช้งานและสมาธิ)7-10  ในการศึกษาก่อนหน้านี้ คณะผู้วิจัยพบว่าอาสาสมัครซึ่งมีความเครียดจากการทำงาน มีความจำระยะสั้นดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มที่มีภาวะเครียดสูงหลังรับประทานซุปไก่สกัดต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์11           ไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* เป็นผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ที่ผ่านกระบวนการไฮโดรไลซิสด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ ซึ่งประกอบด้วยเปปไทด์และกรดอะมิโน ที่ช่วยส่งเสริมความจำ ไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* มีหลักฐานว่าปลอดภัยและมีประโยชน์ ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยชี้ว่าไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* ปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นพิษ23-25 โดยมีการศึกษาในอาสาสมัครที่มีสุขภาพแข็งแรงรายงานว่า ไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* ช่วยเสริมให้ความจำดีขึ้น และไม่ก่อผลข้างเคียงที่เป็นพิษทั้งในระหว่างการศึกษาและภายหลังสิ้นสุดการศึกษา26   ไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* มีส่วนช่วยเสริมความจำในผู้ใหญ่ ผลลัพธ์จากการศึกษานำร่องข้างต้นนำมาสู่การศึกษาผลลัพธ์การเสริมความจำของไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

โรคติดเชื้อจากอาหาร

อาหารเสริมไบโอติน ดีอย่างไร เราจำเป็นต้องกินรึเปล่า

ไบโอติน (Biotin) เป็นสารอาหารที่ผู้คนในยุคนี้หันมาให้ความสนใจกันมาก เนื่องจากมักจะมีคำโฆษณาให้เราเห็นกันอยู่เสมอว่า ช่วยทำให้ผมดูดกดำและมีสุขภาพดี รวมทั้งทำให้ผิวหน้าดูเปล่งปลั่ง และช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเล็บด้วย ถึงแม้จะยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าไบโอตินช่วยเราในเรื่องนั้นได้จริงหรือเปล่า แต่คนที่กิน อาหารเสริมไบโอติน ก็มักจะสังเกตถึงความแตกต่างได้ ซึ่งจริงๆแล้วไบโอตินส่งผลดีต่อร่างกายได้มากกว่าที่กล่าวมาแล้วซะอีกนะ ซึ่งนี่คือข้อมูลเกี่ยวกับไบโอตินที่คุณควรรู้เอาไว้ รวมทั้งวิธีสังเกตว่าคุณจำเป็นต้องกินอาหารเสริมชนิดนี้หรือเปล่าด้วย ไบโอตินพบได้ในอาหารประเภทใด สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของอเมริกาว่าเอาไว้ว่า วิตามินบีชนิดนี้คือสารอาหารจำเป็นต้องร่างกาย ซึ่งเราอาจจะคุ้นในชื่อไบโอตินซึ่งเป็นอาหารเสริมกันมากกว่า ซึ่งจริงๆ แล้วไบโอตินมีอยู่ในอาหารทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเนื้อสัตว์ อย่างเนื้อวัวและตับนั้น นับเป็นแหล่งไบโอตินที่สำคัญมาก รวมทั้งเนื้อหมูและแฮมเบอร์เกอร์ ก็พบไบโอตินอยู่มากด้วย นอกจากนี้ยังพบในเนื้อปลา ไข่ ถั่วเปลือกแข็ง ธัญพืช และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมด้วย แถมในพืชผักต่างๆก็ยังเจอด้วย อย่างเช่น มันฝรั่ง ผักโขม และบร็อคโคลี่ ไบโอตินทำหน้าที่อะไร ไบโอตินช่วยทำหน้าที่เผาผลาญกรดไขมัน กลูโคส (หรือน้ำตาลในเลือด) และกรดอะมิโนต่างๆในร่างกาย หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ไบโอตินจะช่วยเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรท ไขมัน และโปรตีนในอาหารที่คุณกินเข้าไปให้เป็นพลังงาน แถมยังช่วยควบคุมการทำงานของยีน รวมทั้งการส่งสัญญานไปยังเซลล์ต่างๆในร่างกายด้วย นอกจากนี้ไบโอตินยังช่วยควบคุมระบบประสาทให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีบทบาทสำคัญในการสร้างเล็บ ผิวหนัง และเส้นผมให้มีสุขภาพดีด้วย แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า ถ้าคุณมีไบโอตินอยู่ในร่างกายอย่างพอเพียงแล้ว การกินอาหารเสริมไบโอตินเพิ่มเข้าไปอีก ก็จะช่วยให้ผิว ผม และเล็บดูสวยและมีสุขภาพดีขึ้นหรอกนะ จะรู้ได้อย่างไรว่าร่างกายต้องการไบโอตินเพิ่ม ยังไม่มีการระบุอย่างแน่นอนว่าร่างกายคนเราต้องการไบโอตินในปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน จึงทำให้เรารู้ได้ยากว่าควรกินอะไรในปริมาณแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญจากเมโยคลีนิคในสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำให้กินวันละ 30 […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ซาลโมเนลลา เชื้อแบคทีเรียในไข่ไก่ เราควรต้องกลัวหรือเปล่า

ซาลโมเนลลา (Salmonella) เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง พบได้มากในสัตว์ปีกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ เชื้อโรคชนิดนี้ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ ซึ่งถ้าเชื้อเข้ากระแสเลือดได้ ก็อาจจะรุนแรงถึงตายได้ ฉะนั้น ก็ศึกษารายละเอียดพวกนี้ไว้ เพื่อจะได้หาทางป้องกันการติดเชื้อโรคชนิดนี้ได้ ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของอเมริกาได้รายงานว่า มีผู้ป่วยจำนวย 11 รายถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล และมีการยืนยันว่าได้ติดเชื้อซาลโมเนลลาด้วย โดยการระบาดนี้เกิดขึ้นจากผักสลัดที่มีการปนเปื้อน โรคระบาดจากอาหารไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในทุกๆปี แค่โรคซาลโมเนลลาอย่างเดียว ก็ทำให้มีผู้ป่วยถึง 1.2 ล้านคน มีผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 23,000 คน โดยมีผู้เสียชีวิตถึง 450 ราย ถ้าใครกำลังเป็นกังวลถึงการระบาดของโรคนี้  Hello คุณหมอ ขออาสามาชี้แจงให้ฟังถึงสาเหตุโรคนี้ รวมทั้งวิธีป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคตัวนี้ด้วย ซาลโมเนลลา คืออะไร? เชื้อซาลโมเนลลา เป็นแบคทีเรียที่มีลักษณะรูปท่อน ต้องการออกซิเจนในการเติบโต อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเติบโตของเชื้อซาลโมเนลลา คือประมาณ 37 องศาเซลเซียส ค่า pH ที่เหมาะสมในการ เติบโตอยู่ระหว่าง 4.1-9.0 เชื้อซาลโมเนลลา มีความสามารถในการทนความร้อนแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิด สายพันธุ์ และผลพวงจากสิ่งแวดล้อมในการเติบโต เชื้อซาลโมเนลลาเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไร เชื้อซาลโมเนลลา เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทําให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ และสามารถถ่ายทอดเข้าสู่ร่างกายได้ โดยรับประทานอาหารที่มีเชื้อซาลโมเนลลาปนเปื้อน ซึ่งก็ได้แก่อาหารประเภทเนื้อ เช่น […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

กลิ่นตัว เกิดจากการกินอาหารชนิดใดบ้าง

อาหารบางอย่างนอกจากจะทำให้เกิดกลิ่นปากแล้ว ถ้ากินเข้าไปในปริมาณมาก ๆ ก็อาจทำให้เกิด กลิ่นตัว ได้ โดยกลิ่นที่เกิดขึ้นเกิดจากการกินสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds หรือ VOCs) เข้าไป ซึ่งส่งผลทำให้เหงื่อมีกลิ่นฉุน รวมถึงยังอาจทำให้เกิดแก๊สที่มีกลิ่นเหม็นในกระเพาะอาหารได้ด้วย ดังนั้น การรู้ว่าอาหารชนิดใดที่ทำให้เกิดปัญหากลิ่นตัว อาจช่วยให้หลีกเลี่ยงการกินอาหารเหล่า รวมถึงอาจช่วยลดปัญหากลิ่นตัวได้ด้วย [embed-health-tool-bmi] อาหารที่อาจทำให้เกิด กลิ่นตัว ปัญหากลิ่นตัวอาจเกิดจากอาหารต่าง ๆ เหล่านี้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเป็นวิสกี้ เบียร์ หรือไวน์ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว เนื่องจากเมื่อร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าไป แอลกอฮอล์จะเกิดการเผาผลาญจนกลายเป็นสารละลายในน้ำที่เรียกว่า กรดแอซีติก (Acetic Acid) และเข้าไปผสมกับเหงื่อและเชื้อแบคทีเรีย จึงทำให้เกิดเป็นกลิ่นตัว ผักตระกูลกะหล่ำ ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี คะน้า บร็อคโคลี่ อาจทำให้เกิดกลิ่นตัว ได้ เพราะผักพวกนี้มีกำมะถัน ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีกลิ่นเหม็นคล้ายกลิ่นไข่เน่า เมื่อกินผักเหล่านี้เข้าไปก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มกำมะถันให้กับร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายผลิตสารประกอบที่มีกำมะถันออกมามากขึ้น ซึ่งจะทำให้กลิ่นตัวมีกลิ่นคล้ายกับกลิ่นไข่เน่า นอกจากนี้ ผักตระกูลกะหล่ำยังอาจทำให้เกิดกลิ่นคาวปลาในคนที่เป็นโรคกลิ่นตัวเหม็น (Trimethylaminuria)  ซึ่งเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้ร่างกายไม่สามารถทำลายสารประกอบที่มีกลิ่นเหม็นในผักตระกูลกะหล่ำ รวมถึงอาหารบางชนิด เช่น ถั่ว ไข่ นม […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หากอยากมี อายุยืน

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หากอยาก อายุยืน อาจเป็นอาหารที่หน้าตาธรรมดา แต่สามารถส่งผลร้ายต่อร่างกาย เช่น เนื้อสัตว์ที่ผ่านการแปรรูปต่าง ๆ (ไส้กรอก แฮม หรือเบค่อน) ซึ่งถ้ารับประทานบ่อย ๆ หรือรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยและโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ดังนั้น การใส่ใจเรื่องอาหารอาจช่วยให้สุขภาพดีและมีอายุยืนยาวได้ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หากอยากมี อายุยืน สำหรับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อช่วยให้อายุยืนยาว อาจมีดังนี้ เนื้อสัตว์แปรรูป เนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการแปรรูป เช่น เบคอน ไส้กรอก ซาลามี เนื้อเค็ม เป็นอาหารที่ผ่านการหมักด้วยเกลือ รมด้วยควัน หรือวิธีอื่น ๆ อาจช่วยให้อาหารสามารถเก็บไว้ได้นานขึ้น ซึ่งการรับประทานอาหารเหล่านี้มากเกินไป อาจทำให้องค์ประกอบของจุลินทรีย์ในร่างกายเปลี่ยนแปลงไปจนขาดความสมดุล จนทำให้ร่างกายมีการอักเสบเรื้อรังได้ สารให้ความหวานแทนน้ำตาล สารให้ความหวานแทนน้ำตาลอย่างแอสปาร์แตม (Aspartame) ซึ่งให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทราย 180-200 เท่า มีรสชาติใกล้เคียงกับน้ำตาลทรายมากที่สุด การรับประทานสารให้ความหวานแทนน้ำตาลมากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร และอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเสียสมดุลด้วย ซึ่งความไม่สมดุลที่เกิดขึ้นอาจมีส่วนทำให้ร่างกายเกิดปัญหาเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นการอักเสบ โรคอ้วน โรคมะเร็ง หรือโรคออทิสซึ่ม ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นเนื่องจากพัฒนาการทางสมองผิดปกติ ผลิตภัณฑ์จากนม ถึงแม้ผลิตภัณฑ์จากนม มีส่วนผสมของไขมันอิ่มตัว น้ำตาล ฮอร์โมน และสารปฎิชีวะนะตกค้างต่าง ๆ […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

แพ็คสลัดใส่กล่อง ไปกินมื้อกลางวันให้คงความสดใหม่ได้นานๆ

แพ็คสลัดใส่กล่อง ไปกินเป็นมื้อกลางวันนั้น นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างมหาศาลแล้ว ยังเป็นวิธีควบคุมน้ำหนักที่ได้ผลดีด้วย แต่การลุกขึ้นมาหั่นผักเพื่อเตรียมทำสลัดในแต่ละวันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะ ทำไปทำมาผักสลัดก็อาจจะเหี่ยวได้ ครั้นจะซื้อมากินก็อาจจะสิ้นเปลือง เพราะเมนูสลัดสมัยนี้ก็มักจะมีราคาแพง โดยเฉพาะถ้าเป็นผักออร์แกนิคด้วยล่ะก็ กินบ่อยๆ กระเป๋าอาจจะแฟบได้ โชคดีนะที่มีวิธีการดีๆ ที่ทำให้สามารถ แพ็คสลัดใส่กล่อง โดยยังคงความสดใหม่อยู่ได้หลายวัน คุณจึงสามารถจัดเตรียมแค่ครั้งเดียวในหนึ่งสัปดาห์ แล้วสามารถทะยอยนำออกมากินได้ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์เลย ซึ่งเคล็ดลับในการแพ็คสลัดนี้ที่เรากำลังพูดถึงนี้ไม่มีกฎตายตัว คุณสามารถแต่งเติมโน่นนี่ได้ตามความคิดสร้างสรรค์ของคุณเอง และถึงแม้คุณจะแพ็คสลัดครั้งละ 5 กล่อง ก็ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องทำสลัดแบบเดียวกันทั้งหมด คุณสามารถเปลี่ยนท้อปปิ้งหรือน้ำสลัดให้แตกต่างกันได้ เลือกกล่องใส่สลัดให้เหมาะ จุดเริ่มต้นของการแพ็คสลัดใส่กล่องให้กินได้นานๆ นั้นก็คือ การเลือกกล่องให้เหมาะกับการใช้งาน และปลอดภัยจากสิ่งแปลกปลอมต่างๆด้วย ซึ่งถ้าอยากได้แบบที่ปลอดภัยจริงๆ ก็ควรเลือกแบบที่ตัวกล่องเป็นแก้ว และมีฝาพลาสติกชนิดสูญญากาศที่สามารถกันลมและกันหกเลอะเทอะได้ และที่สำคัญต้องเป็นพลาสติกชนิดที่มีไม่สาร BPA (สารก่อมะเร็งที่มักพบในภาชนะพลาสติก) รวมทั้งสามารถใช้กับเตาอบหรือเตาไมโครเวฟได้อย่างปลอดภัย และเนื่องจากกล่องชนิดนี้จะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมแบนๆ จึงสามารถวางซ้อนกันได้อย่างสวยงามในตู้เย็น ซึ่งช่วยให้ประหยัดเนี้อที่ไปในตัว ข้อเสียของกล่องแก้วชนิดนี้ก็คือ อาจจะมีความหนักและมีราคาแพง ร่วมทั้งมีความเสี่ยงต่อการตกแตกด้วย ส่วนถ้าใครอยากประหยัดเงินค่ากล่องลงมาอีกหน่อย และเพิ่มความสะดวกในการพกพามากขึ้น ก็ควรเลือกกล่องพลาสติกสำหรับบรรจุอาหาร และมีฝากล่องที่มีสาร BMP เช่นเดียวกัน ซึ่งกล่องชนิดนี้จะมีน้ำหนักเบามาก และไม่ต้องกลัวจะตกแตกด้วย จึงช่วยให้คุณสามารถพกพากไปไหนมาไหนได้อย่างสบาย ไม่ว่าคุณจะเดินทางด้วยการนั่งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถไฟฟ้า หรือแม้แต่รถเมล์ นอกจากนี้ยังมีขนาดที่เหมาะกับการใช้งานคู่กับกล่องข้าวกลางวัน หรือแพ็คน้ำแข็งสำหรับเพิ่มความสดใหม่ให้ผักสลัดด้วย เคล็ดลับการจัดวางผักสลัด หลังจากเลือกกล่องใส่สสัดที่ถูกใจแล้ว ก็ถึงเวลาต้องจัดเรียงผักสลัดกันแล้ว และนี่คือเทคนิคดีๆ ที่ช่วยให้ผักสลัดคงความสดใหม่อยู่ได้น๊าน…นาน 1 […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

นอนไม่หลับ วิตามินและแร่ธาตุ เหล่านี้อาจจะช่วยได้

อาการ นอนไม่หลับ เป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญที่ทำให้หลาย ๆ คนมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า และปวดหัว ซึ่งอาการนอนไม่หลับอาจเริ่มจากการใช้เวลานานกว่าจะหลับ และตื่นกลางดึกจนทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ ตื่นนอนเร็วเกินไป เหนื่อยล้า และง่วงนอนระหว่างวัน ดังนั้น การรับประทาน วิตามินและแร่ธาตุ อาจช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับได้ อาการนอนไม่หลับเป็นอย่างไร โรคนอนไม่หลับมักจะทำให้มีอาการนอนไม่หลับ แต่ยังมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ซึ่งอาการที่พบได้บ่อยในอาการนอนไม่หลับ อาจมีดังนี้ นอนหลับยากในเวลากลางคืน ตื่นขึ้นมาตอนกลางคืน หรือตื่นเร็วเกินไป ไม่รู้สึกผ่อนคลายหลังจากนอนหลับ เหนื่อยและง่วงนอนในเวลากลางวัน รู้สึกหงุดหงิด ซึม หรือมีความวิตกกังวล มีปัญหาในการใช้สมาธิ หรือการให้ความสนใจกับเรื่องงาน และการจดจำ ปวดหัว รู้สึกปั่นป่วนในกระเพาะอาหารและลำไส้ มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการนอนหลับ วิตามินและแร่ธาตุ ที่ช่วยแก้ไขปัญหา นอนไม่หลับ สำหรับวิตามินและแร่ธาตุที่อาจช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับ อาจมีดังนี้ แมกนีเซียม แมกนีเซียม เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อกระดูกและฟัน การทำงานของระบบกล้ามเนื้อ และระบบประสาท ซึ่งอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์จะมีปริมาณแคลเซียมที่สูงด้วย เช่น ธัญพืช พืชตระกูลถั่ว อัลมอนด์ ผัก ผลไม้ การขาดแมกนีเซียมอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโณคต่าง ๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ นอกจากนี้ การรับประทานแมกนีเซียมยังอาจช่วยแก้ไขปัญหานอนไม่หลับ […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ชอบกินดึก ส่งผลเสียอย่างไร ควรแก้ไขปัญหาอย่างไร

ชอบกินดึก เป็นพฤติกรรมที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน เนื่องจากการกินอาหารตอนดึกในปริมาณที่เท่ากับตอนกลางวัน อาจไม่ได้ทำให้รู้สึกอิ่มได้เหมือนตอนกลางวัน จึงทำให้เผลอกินอาหารให้ปริมาณที่มากเกินไป ดังนั้น การแก้นิสัยชอบกินดึกจึงอาจช่วยทำให้น้ำหนักไม่เกินมาตรฐาน รวมถึงยังอาจลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ อีกด้วย ชอบกินดึก มีผลเสียอย่างไรต่อสุขภาพ ยังไม่มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงเหตุผลทางกายภาพว่า ทำไมการกินกลางดึกจึงทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ แต่ในงานวิจัยหลาย ๆ ชิ้นแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ชอบกินดึกอาจมีโอกาสที่น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ เนื่องจากกินอาหารหรือขนมเพิ่มขึ้นจากมื้อปกติ จึงทำให้ร่างกายเลยได้รับแคลอรี่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ คนส่วนใหญ่มักจะรู้สึกหิวมากที่สุดในช่วงเย็น การกินในกลางดึกจึงอาจทำให้บริโภคแคลอรี่มากเกินกว่าที่ต้องการในแต่ละวัน นอกจากนี้ การกินกลางดึกยังอาจทำให้โรคกรดไหลย้อนแย่ลง เพราะเมื่อมีอาหารอยู่เต็มท้องแล้วล้มตัวลงนอน อาจทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับเข้าสู่ลำคอได้ง่ายขึ้น ส่งผลทำให้มีอาการแสบร้อนกลางอก กลืนลำบาก มีก้อนในคอ หรือมีอาการหอบแย่ลงในตอนกลางคืน ดังนั้น ผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนจึงควรหลีกเลี่ยงการกินข้าวก่อนนอน อย่างน้อย 3 ชั่วโมง 5 วิธีแก้ไขพฤติกรรมชอบกินดึก สำหรับวิธีที่แก้ไขพฤติกรรมชอบกินดึก อาจมีดังนี้ ลุกขึ้นมาแปรงฟัน ถ้ามีความรู้สึกอยากหยิบอะไรเข้าปากในช่วงกลางคืน อาจลุกขึ้นไปแปรงฟัน เพื่อให้ร่างกายรู้สึกว่าถึงเวลาเข้านอนแล้ว ซึ่งอาจช่วยลดความอยากอาหารได้เป็น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาสีฟันรสมิ้นท์ที่อาจทำให้รู้สึกซาบซ่านเวลาแปรงฟัน หาอะไรร้อน ๆ ดื่ม หากเริ่มรู้สึกว่าหิวกลางดึกและอยากหาอะไรกิน อาจชงชา กาแฟ หรือโกโก้ร้อน ๆ ดื่มแทน เพราะเครื่องดื่มร้อน ๆ พวกนี้ นอกจากจะจิบได้เพลิน ๆ แล้ว ยังช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องได้ในระดับหนึ่งด้วย […]


ข้อมูลโภชนาการ

ชาเขียวมัทฉะ ชาญี่ปุ่นอร่อยและดีต่อสุขภาพ

ชาเขียวมัทฉะ เป็นชาที่อุดมไปด้วยสารคาเทชิน กรดอะมิโนที่เรียกว่า แอล-ธีอะนีน ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ไมว่าจะเป็นช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยทำให้จิตใจสงบ ลดอาการหวาดวิตก การดื่มชาเขียวมัทฉะ 1 ถ้วย อาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โพแทสเซียม วิตามินเอ วิตามินซี ธาตุเหล็ก โปรตีน แคลเซียม แม้ชาเขียวมัทฉะจะมีประโยชน์ต่อสุขภพ แต่ก็ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ ประโยชน์ของ ชาเขียวมัทฉะ 1. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แม้แต่ผักและผลไม้ที่ขึ้นชื่อลือชาว่ามีสารต่อต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง อย่างผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ หรือผักโขม ก็ยังเทียบไม่ได้กับปริมาณสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในชาเขียวมัทฉะ ผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการวัดค่าความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของชาเขียวมัทฉะนั้น สรุปตัวเลขได้ถึง 1,537 ยูนิตต่อกรัม ในขณะที่ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่าง ๆ มีตัวเลขอยู่ที่ 93 ยูนิต/กรัมเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ชาเขียวมัทฉะยังมีความเข้มข้นกว่าชาเขียวปกติ และมีสารต่อต้านอนุมูอิสระมากกว่าชาเขียวตามปกติถึง 137 เท่า 2. ช่วยให้จิตใจสงบและมีสมาธิ ร่างกายอาจดูดซึมคาเฟอีนจากชาเขียวมัทฉะต่างจากกาแฟ โดยคาเฟอีนจากกาแฟจะกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้ออกซิเจนแล่นขึ้นไปเลี้ยงสมองและเนื้อเยื่อต่าง ๆ มากขึ้น ส่งผลให้รู้สึกตื่นตัวและกระฉับกระเฉง แต่พอคาเฟอีนจากกาแฟหมดฤทธิ์ก็จะทำให้รู้สึกสะลึมสะลือขึ้นมาอีกครั้ง ไม่เหมือนกับความกระฉับกระเฉงที่ได้จากชาเขียวมัทฉะ เนื่องจาก ชาชนิดนี้มีกรดอะมิโนที่เรียกว่า แอล-ธีอะนีน (L-theanine) ที่ช่วยลดอาการหวาดวิตก และช่วยลดความดันโลหิตได้ ทั้งยังทำให้รู้สึกมีสมาธิในการทำอะไรต่อไปได้นานขึ้น […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

แคลอรี่ต่อวัน สำคัญอย่างไร กับวิธีนับแคลอรี่ที่ควรรู้

แคลอรี่ต่อวัน และวิธีนับแคลอรี่ที่ถูกต้อง ถือเป็นข้อมูลพื้นฐานในการดูแลสุขภาพที่ควรทราบ โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องการลดหรือควบคุมน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม พลังงานและแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวันควรมาจากอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วย จึงจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างสุขภาพดีในระยะยาว [embed-health-tool-bmi] แคลอรี่ต่อวัน สำหรับคนแต่ละกลุ่ม แคลอรี่ (Calorie) คือ หน่วยวัดพลังงาน หากเป็นพลังงานที่ได้รับจากอาหารหรือพลังงานที่ร่างกายใช้ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ จะเรียกว่า กิโลแคลอรี่ (kcal) โดยทั่วไปแล้ว แต่ละคนจะมีปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายควรได้รับต่อวันแตกต่างกัน อาจขึ้นอยู่กับเพศ อายุ ส่วนสูง น้ำหนัก และระดับการเคลื่อนไหวร่างกาย หรือกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน วิธีการ คํานวณ แคลอรี่ต่อวันอาจแบ่งตามระดับความเข้มข้นของการเคลื่อนไหวร่างกายหรือกิจกรรมทางกาย (Physical activity) ดังนี้ 1. กลุ่มที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย (Sedentary) หรือส่วนใหญ่ทำกิจกรรมที่ใช้พลังงานน้อย เช่น นอน นั่ง ยืน เดินในระยะทางใกล้ ๆ ไม่เกิน 10 นาที แคลอรี่ต่อวัน เด็ก อายุ 2-3 ปี ควรได้รับแคลอรี่ต่อวัน 1,000 กิโลแคลอรี่ แคลอรี่ต่อวัน ผู้หญิง อายุ 4-8 ปี ควรได้รับแคลอรี่ต่อวัน 1,200 […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ใช้อาหารเสริม สำหรับผู้ที่มีคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สูง

ใช้อาหารเสริม อย่างไรให้เหมาะกับผู้ที่มีคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สูง อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย อาหารเสริมนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายยี่ห้อ ซึ่งการเลือกอาหารเสริมนั้นควรตรวจสอบฉลากให้แน่ใจเสียก่อนว่ามีมาตรฐานรองรับหรือไม่ สำหรับผู้ต้องการใช้อาหารเสริมเพื่อลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ อาจต้องปรึกษาคุณหมอก่อนรับประทานทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย อาหารเสริมลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ สำหรับอาหารเสริมที่อาจใช้ลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ มีดังนี้ น้ำมันปลา น้ำมันปลา อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 จากอาหารที่ร่างกายไม่สามารถผลิตได้ ประกอบด้วย กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) และกรดไอโคซาเพนตาอีโนอิก (EPA) ซึ่งอาจช่วยลดระดับไตรกลีไซอไรด์ได้มากถึงร้อยละ 30 นอกจากนี้ การรับประทานอาหารเสริมที่มี EPA และ DHA ขนาด 250 มิลลิกรัม เป็นประจำทุกวัน อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ และภาวะหัวใจหยุดเต้นฉับพลันได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สูงต้องการรับประทานน้ำมันปลาควรปรึกษาคุณหมอก่อนเสมอ เพื่อขอคำแนะนำก่อนเริ่มใช้ รวมถึงคุณหมออาจสั่งจ่ายน้ำมันปลาให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายในแต่ละคน ไนอาซิน ไนอาซิน (Niacin) เป็นวิตามินบีรูปแบบหนึ่งที่ช่วยรักษาความสมดุลของระดับไขมันดี (HDL) และไขมันเลว (LDL) ในร่างกายได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สูงไม่ควรซื้อไนอาซินมารับประทานเอง เพราะการรับประทานไนอาซินเพื่อช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ต้องรับประทานในปริมาณที่ค่อนข้างสูง ดังนั้น ควรปรึกษาคุณหมอก่อนเสมอ และควรรับประทานตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ สารสกัดจากใบอาร์ติโช้ค สารสกัดจากใบอาร์ติโช้ค (Artichoke Leaf Extract) อาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และอาจช่วยให้ระดับของไขมันเลว (LDL) ลดลงราวร้อยละ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน