พ่อแม่เลี้ยงลูก

ในทุกช่วงชีวิตของลูกน้อย เหล่าคุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องรู้วิธีดูแลและสนับสนุนสุขภาพโดยรวมของลูกน้อย เพื่อให้ความเป็นอยู่ของลูกน้อยดีขึ้น เพราะฉะนั้นใน พ่อแม่เลี้ยงลูก คุณจะได้พบกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงเคล็ดลับในการดูแลลูกให้แข็งแรง มีความสุข และสามารถปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์

เรื่องเด่นประจำหมวด

พ่อแม่เลี้ยงลูก

สาเหตุอะไรที่ทำให้ วัยรุ่นสูบบุหรี่ พิษร้ายทำลายสุขภาพในระยะยาว

วัยรุ่นสูบบุหรี่ เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองไม่ควรละเลย เพราะบุหรี่เป็นสิ่งอันตรายที่สามารถส่งผลเสียระยะยาวต่อร่างกายของวัยรุ่นได้ ในปัจจุบัน มีวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยที่สูบบุหรี่และมีแนวโน้มว่าจำนวนของวัยรุ่นที่สูบบุหรี่จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย สาเหตุหนึ่งเพราะเรื่องนี้ถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติ หรือบางก็คนใช้เป็นเครื่องมือระบายความเครียด เพื่อจัดการกับปัญหาวัยรุ่นสูบหรี่ บทความนี้อาจช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุ และอันตรายของบุหรี่มากขึ้น เราไปหาคำตอบเรื่องนี้กันเลย สาเหตุที่ทำให้ วัยรุ่นสูบบุหรี่ สาเหตุที่ทำให้วัยรุ่นสูบบุหรี่มีด้วยกันหลายสาเหตุทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก มาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง สภาพแวดล้อมทางสังคมและทางกายภาพ การโฆษณาจากสื่อโทรทัศน์อาจทำให้วัยรุ่นหนุ่มสาวรู้สึกอยากลองสูบบุหรี่ แนวโน้มการสูบบุหรี่จะเพิ่มขึ้น หากพวกเขาเห็นเพื่อนในวัยเดียวกันสูบบุหรี่ หากคนในครอบครัวสูบบุหรี่ ก็มีแนวโน้มว่าบุตรหลานอาจรู้สึกอยากลองสูบบุหรี่ตามไปด้วย ปัจจัยทางชีวภาพและพันธุกรรม วัยรุ่นบางคนอาจมีความรู้สึกไวต่อสารนิโคติน จึงทำให้รู้สึกอยากนิโคตินได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ ปัจจัยทางพันธุกรรมบางอย่างอาจทำให้การเลิกบุหรี่ในวัยรุ่นยากขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์สูบบุหรี่อาจส่งผลต่อลูก และอาจส่งผลให้เด็กสูบบุหรี่เป็นประจำในอนาคต สุขภาพจิต ปัญหาสุขภาพจิตในวัยรุ่น เช่น ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และความเครียด อาจทำให้วัยรุ่นต้องการสูบบุหรี่ ความรู้สึกส่วนตัว วัยรุ่นบางคนเริ่มสูบบุหรี่เพราะต้องการระบายความเครียดที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เนื่องจากพวกเขารู้สึกว่าบุหรี่เป็นเพียงทางออกเดียวในการกำจัดความเครียด อิทธิพลอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อวันรุ่น ความเครียดจากเศรษฐกิจตกต่ำ หรือรายได้ลดลง ไม่รู้ว่าจะเลิกบุหรี่อย่างไร ครอบครัวไม่สนับสนุนหรือมีส่วนร่วมในการเลิกบุหรี่ วัยรุ่นยังสามารถเข้าถึงการซื้อบุหรี่ได้ อาจมีพฤติกรรมเกเร ไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง มองว่าตัวเองต่ำต้อย เห็นจากโฆษณาผลิตภัณฑ์บุหรี่ในร้านค้า โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต ภาพยนตร์ นิตยสาร หรือหนังสือพิมพ์ วัยรุ่นสูบบุหรี่ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ในบุหรี่มีสารเคมีหลายชนิดที่เป็นสารพิษและส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่น นิโคติน ไซยาไนด์ ผู้ที่เริ่มสูบบุหรี่ครั้งแรกมักมีอาการเจ็บหรือแสบร้อนในลำคอและปอด บางคนถึงกับอาเจียนได้ และเมื่อสูบบุหรี่เป็นระยะเวลานานอาจทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา […]

หมวดหมู่ พ่อแม่เลี้ยงลูก เพิ่มเติม

สำรวจ พ่อแม่เลี้ยงลูก

โรคเด็กและอาการทั่วไป

ทารกแหวะนม อย่าตกใจ ลองหาสาเหตุเพื่อแก้ไขอาการน่าห่วงของลูกน้อย

ทารกแหวะนม สามารถเกิดขึ้นได้เป็นครั้งคราว โดยเฉพาะในช่วงขวบปีแรก เนื่องจากเด็กกำลังปรับตัวเข้ากับการกินอาหาร และร่างกายกำลังค่อยๆ พัฒนาขึ้น ส่วนใหญ่มักจะหายไปภายใน 6-24 ชั่วโมง โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษ นอกจากดูให้แน่ใจว่า ลูกไม่ขาดน้ำเท่านั้น แต่ต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่า ลูกแหวะนม ไม่ใช่การอาเจียนอย่างต่อเนื่อง เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้  ทารกแหวะนมหรืออาเจียน ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่ต้องรู้จักความแตกต่างระหว่างการอาเจียนจริงๆ กับการแหวะอาหารของเด็ก การอาเจียนเป็นการที่อาหารที่อยู่ในกระเพาะพุ่งออกมาโดยไม่สามารถบังคับได้ ขณะที่การแหวะ (ที่พบบ่อยให้เด็กวัยต่ำกว่าหนึ่งขวบ) เป็นการที่เด็กขย้อนเอาอาหารออกมาทางปาก ปกติแล้วมักจะมาพร้อมกับอาการเรอ การอาเจียนเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อหน้าท้องและกระบังลมเกร็งอย่างรุนแรง ในขณะที่กล้ามเนื้อกระเพาะอาหารหย่อนตัว ปฏิกิริยาสะท้อนนี้ถูกกระตุ้นจาก “ศูนย์ควบคุมการอ้วก” ในสมอง หลังจากที่มันถูกกระตุ้นโดยเส้นประสาทจากกระเพาะอาหารและลำไส้ ที่อาจเกิดจากสาเหตุเหล่านี้ ระบบย่อยอาหารระคายเคืองหรือบวมขึ้น เนื่องจากอาการติดเชื้อหรือเกิดการอุดตัน สารเคมีในเลือด (อย่างเช่นจากยา) การถูกกระตุ้นทางประสาทสัมผัส เช่น ภาพหรือกลิ่น การกระตุ้นจากประสาทหูส่วนกลาง (อย่างเช่น การอาเจียนที่เกิดจากการวิงเวียน) สาเหตุของทารกแหวะนม สาเหตุที่พบได้บ่อยของการแหวะหรืออาเจียนในเด็ก แตกต่างกันไปตามช่วงอายุ เช่น ในช่วงสองสามเดือนแรก ทารกส่วนใหญ่จะแหวะนมเล็กน้อยออกมา ปกติแล้วจะเป็นในช่วงชั่วโมงแรกหลังป้อนนม ปกติจะเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว อาการนี้จะลดน้อยลงเมื่อเด็กโตขึ้น แต่อาจยังปรากฏอยู่บ้างเล็กน้อยจนอายุ 10-12 เดือน ซึ่งถ้าไม่มีอาการอื่น และไม่ทำให้เด็กน้ำหนักลดลง ก็ถือว่าไม่ผิดปกติ แต่หากเด็กมีอาการอาเจียนต่อเนื่อง อาจมีสาเหตุต่างๆ ดังนี้ โรคลำไส้อุดตัน ในช่วงอายุสองสัปดาห์จนถึงสี่เดือน การอาเจียนอย่างต่อเนื่องอาจมีสาเหตุมาจาก การที่กล้ามเนื้อบริเวณทางออกของกระเพาะอาหารหนาตัวขึ้น ทำให้เกิดการอุดตัน จนอาหารไม่สามารถผ่านเข้าไปสู่ลำไส้ได้ นี่เป็นอาการร้ายแรงที่ต้องรักษาอย่างทันท่วงทีด้วยการผ่าตัด […]


เด็กทารก

ภาษากาย ของลูกรัก ท่าทางแบบไหน มีความหมายว่าอย่างไร

ภาษากาย ของเด็กทารกโดยเฉพาะในช่วงอายุขวบปีแรกนั้นสำคัญต่อคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นช่วงที่ลูกน้อยยังไม่สามารถสื่อสารได้ด้วยการพูด การตีความหมายจากภาษากายได้อย่างถูกต้องจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ทราบถึงอารมณ์ ความต้องการ และความรู้สึกของลูกน้อย เพื่อที่จะตอบสนองได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม [embed-health-tool-vaccination-tool] ความสำคัญของ ภาษากาย ในเด็ก การทำความเข้าใจกับภาษากายของเด็กเป็นเรื่องสำคัญมาก เนื่องจากเสียงเด็กทารกร้องไห้ ท่าทางต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นวิธีการสื่อสารถึงความต้องการของเด็ก ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ควรตีความหมายให้ใกล้เคียงสิ่งที่เด็กต้องการ และทำความเข้าใจ เพื่อตอบสนองความต้องการของเด็กได้อย่างเหมาะสม เด็กน้อยจะได้มีความสุขจากการดูแลเอาใจใส่ของคุณพ่อและคุณแม่ ภาษากาย ของเด็ก ๆ ที่พบได้บ่อย เตะขา ถ้าเด็กเตะขาพร้อมกับยิ้มและดูมีความสุข อาจเป็นสัญญาณว่า เด็กกำลังอยากเล่น แต่ถ้าเตะขาไปร้องไห้ไปด้วยอาการหงุดหงิดก็สื่อว่า กำลังมีอะไรรบกวนเด็กอยู่ อาจจะเป็นผ้าอ้อมเปียกแฉะหรืออาการท้องอืด หรือแน่นท้องต้องการเรอ ซึ่งพ่อแม่ควรรีบตรวจดูว่า มีอะไรที่ทำให้เด็กหงุดหงิดอยู่ และรีบจัดการให้ตรงกับความต้องการเพื่อที่เด็กจะน้อยอารมณ์ดีมีความสุข จับหูหรือดึงหู อาจเป็นเพียงการแสดงออกของเด็ก ๆ ที่เพิ่งสำรวจเจอว่าตัวเองมีหู ซึ่งเป็นอวัยวะใหม่ที่เด็ก ๆ อาจจะไม่เคยสำรวจหรือสัมผัสโดนมาก่อน ส่วนใหญ่แล้วมักไม่เกี่ยวข้องกับอาการติดเชื้อที่หูแต่อย่างใด เพราะหากมีการติดเชื้อที่หู มักมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้ คัดจมูก ร้องไห้งอแง นอกจากนั้น เด็กมักจะชอบดึงหูตัวเอง เพื่อเป็นการปลอบตัวเองให้หายหงุดหงิดจากบางสิ่งบางอย่าง เช่น ต้องการของเล่น ต้องการดื่มนม ง่วงนอน กำหมัด ท่ากำหมัดเป็นท่าของเด็กส่วนใหญ่ที่กำลังผ่อนคลายและกำลังพักผ่อน เนื่องจากทารกแรกเกิดยังไม่สามารถทำอะไรกับมือตัวเองได้มากนัก เนื่องจากการเคลื่อนไหวนิ้วและมือ ต้องอาศัยพัฒนาการทางระบบประสาทและสมองที่มากพอ ปกติแล้วเด็กจะเริ่มแบมือตอนนอนหลับเมื่ออายุราว 8 สัปดาห์ และสามารถหยิบฉวยและไขว่คว้าสิ่งต่าง ๆ […]


สุขภาพเด็ก

หูฟัง เป็นอันตรายต่อเด็กและวัยรุ่นได้อย่างไร

หูฟัง เป็นอุปกรณ์ที่เด็ก ๆ และวัยรุ่นในปัจจุบันใช้กันเป็นจำนวนมาก ทั้งเพียงเพื่อฟังเพลงที่ชอบ ใช้สำหรับการเรียนหนังสือออนไลน์ คุยโทรศัพท์ ดูภาพยนตร์ออนไลน์ เล่นเกมในมือถือ ซึ่งอาจทำให้ใช้หูฟังนานหลายชั่วโมงโดยไม่รู้ตัว นอกจากนั้น การใส่หูฟังและเปิดเสียงดังเป็นเวลานนาน ยังอาจส่งผลเสียต่อการได้ยินของหูข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้าง ผู้ปกครองควรใส่ใจสุขภาพหูของเด็ก ๆ และคอยสังเกตพฤติกรรมการใช้หูฟังเพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพหู [embed-health-tool-bmr] การใช้ หูฟัง ของเด็กและวัยรุ่น การฟังเสียงดังเป็นเวลานานอาจนำไปสู่การสูญเสียการได้ยิน จากงานวิจัยของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2554-2555 ทดสอบเกี่ยวกับการได้ยินและการสัมภาษณ์ พบว่า ผู้ใหญ่มากถึง 40 ล้านคนในสหรัฐอมเริกาที่อายุต่ำกว่า 70 ปี สูญเสียการได้ยินของหูข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้างจากการได้ยินเสียงดังเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังมีความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างการใช้หูฟังกับการสูญเสียการได้ยินในเด็กวัย 9-11 ปี พบว่า 40% ของผู้ที่ใช้เครื่องเล่นเพลงแบบพกพา มีความสามารถต่ำมากในการได้ยินเสียงที่มีความถี่สูง เนื่องจากมีภาวะประสาทหูเสื่อมจากเสียง (Noise-Induced Hearing Loss) เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ใช้เครื่องเล่นแบบพกพา ภาวะสูญเสียการได้ยิน คืออะไร การได้ยินเสียงเกิดจากการทำงานของอวัยวะ 3 ส่วนภายในหู ได้แก่ หูชั้นนอก หูชั้นกลาง หูชั้นใน โดยส่วนหนึ่งของหูชั้นในเรียกว่า คอเคลีย […]


เลี้ยงลูกด้วยนมแม่

ตั้งท้องขณะให้นมลูก มีโอกาสเป็นไปได้หากไม่คุมกำเนิดจริงหรือ?

ตั้งท้องขณะให้นมลูก คือการให้นมลูกหลังคลอด แล้วตั้งครรภ์ซึ่งโอกาสเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยเนื่องจากช่วงเวลาหลังคลอดประมาณ 3-8 เดือนหญิงให้นมลูกมักจะไม่มีประจำเดือน โอกาสที่ร่างกายของฝ่ายหญิงจะมีไข่ตกนั้นต่ำ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะตั้งท้องขณะให้นมลูกหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาดังกล่าวและไม่คุมกำเนิด โอกาสตั้งท้องขณะให้นมลูกเป็นไปได้หรือไม่ ตั้งท้องขณะให้นมลูก เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เพียงแต่โอกาสจะเกิดขึ้นได้น้อย เพราะภาวะเจริญพันธ์ุในช่วงเดือนที่ให้นมบุตรนั้นลดลง และการให้นมบุตรส่งผลกระทบต่อการตกไข่ เนื่องจากร่างกายของผู้หญิงจะสร้างฮอร์โมนโปรแลคติน (ฮอร์โมนน้ำนม) ขึ้นมาในปริมาณมาก ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้จะยับยั้งฮอร์โมนอื่นที่กระตุ้นการตกไข่ ดังนั้น ยิ่งให้นมทารกบ่อยและนานเท่าไหร่ โอกาสที่จะตั้งครรภ์อีกครั้งก็มักน้อยลงเท่านั้น หากเริ่มให้อาหารเสริมทดแทนน้ำนมแม่ และให้นมลูกลดลง ฮอร์โมนโปรแลคตินก็จะลดลงตามไปด้วย ทำให้ภาวะเจริญพันธุ์กลับคืนมา แต่โดยปกติแล้วมักจะใช้เวลา 3 ถึง 8 เดือน กว่าที่วงจรของไข่ตกจะกลับมาเป็นปกติ [embed-health-tool-ovulation] สัญญาณของการตกไข่ขณะให้นมลูก การตั้งท้องขณะให้นมลูก อาจเกิดขึ้นได้ยาก เพราะร่างกายมักไม่มีการตกไข่ และไม่มีประจำเดือน แต่เมื่อให้นมลูกน้อยลง วงจรของวันตกไข่ก็จะเริ่มกลับมา แต่ถึงอย่างนั้น จะทราบได้อย่างไรว่า ร่างกายเริ่มเข้าสู่ภาวะตกไข่เมื่อใด โดยปกติแล้ว ประจำเดือนมักขาดหลายเดือนหลังจากคลอด แต่การไม่มีประจำเดือนไม่ได้หมายความว่า ไม่อยู่ในภาวะเจริญพันธุ์ เพราะในความเป็นจริงแล้วร่างกายจะมีไข่ตกออกมาก่อนการมีประจำเดือนครั้งแรกหลังคลอด ดังนั้น ควรสังเกตสัญญาณล่วงหน้าของภาวะเจริญพันธุ์หรือการที่ร่างกายพร้อมมีลูกอีกครั้ง ดังนี้ การมีสารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศเพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณแรกของการตกไข่ หากสังเกตเห็นตกขาว ที่สับเปลี่ยนกันระหว่างของเหลวสีขาวข้น ไปเป็นของเหลวที่มีลักษณะใสและยืดหยุ่น อาจจะหมายความว่า ภาวะเจริญพันธุ์นั้นกลับมาเป็นปกติแล้ว อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น อาจเป็นตัวบ่งบอกของการตกไข่ หากสังเกตว่าอุณหภูมิของร่างกายเพิ่มขึ้น นั่นอาจหมายถึงร่างกายกำลังมีภาวะไข่ตก ประจำเดือนครั้งแรก […]


ขวบปีแรกของลูกน้อย

พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 7 ของลูกน้อย

พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 7 ที่สังเกตเห็นได้ชัดคือ ทารกอาจเริ่มมีรอยยิ้ม เริ่มกำและแบมือได้เอง โดยหากนำสิ่งของใส่มือจะสามารถกำไว้ได้นาน และเริ่มซึมซับเสียงและคำพูดของผู้ที่อยู่รอบตัว ช่วงสามเดือนแรกเป็นช่วงที่สมองของทารกกำลังพัฒนามากที่สุด ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรพูดกับลูกบ่อย ๆ สัมผัสลูกด้วยความรัก แม้ว่าทารกจะไม่สามารถสื่อสารออกมาเป็นคำพูดได้ก็ตาม [embed-health-tool-vaccination-tool] การเจริญเติบโต พฤติกรรมและ พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 7 ลูกน้อยจะเติบโตและมี พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 7 อย่างไร ใกล้ครบสองเดือนแล้ว ลูกน้อยสามารถจดจำเสียงของคุณพ่อคุณแม่ได้แล้ว ซึ่งการได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจะช่วยทำให้ลูกน้อยปรับตัวเข้ากับโลกใหม่นอกครรภ์มารดาได้ง่ายขึ้น และทำให้รู้สึกว่าไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว ฉะนั้น ยิ่งพูดคุยกับทารกมากเท่าไหรยิ่งดี แม้ลูกน้อยอาจไม่เข้าใจคำพูดแต่ทารกสามารถรับรู้ได้ถึงความรักและความรู้สึกต่าง ๆ ผ่านคำพูด โทนเสียง น้ำเสียง แววตา ท่าทาง ในสัปดาห์นี้ทารกจะมีพัฒนาการดังต่อไปนี้ เมื่อจับอยู่ในท่านอนคว่ำ ลูกน้อยจะสามารถชันคอขึ้นมาได้ประมาณ 45 องศา สามารถส่งเสียงอื่น ๆ ได้มากกว่าการร้องไห้ เช่น ส่งเสียงอ้อแอ้ในลำคอ สามารถยิ้มตอบได้ เมื่อมีใครยิ้มให้ ควรดูแลลูกน้อยอย่างไร ในช่วงสัปดาห์นี้ ทารกจะตื่นบ่อยขึ้นในช่วงระหว่างวัน ควรใช้ช่วงเวลานี้เพื่อช่วยพัฒนาประสาทสัมผัสโดยการเล่นดนตรีหรือร้องเพลงกล่อมเด็ก ถึงแม้ว่าลูกน้อยจะไม่เข้าใจ แต่อาจแสดงปฎิกิริยาตอบสนองต่อเพลงที่คุณร้องได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องร้องแต่เพลงเด็ก ๆ อาจใช้เพลงได้ตามใจชอบ ตั้งแต่เพลงป๊อปไปจนถึงเพลงคลาสสิค และสังเกตดูว่าลูกน้อยชอบเพลงแบบไหน หากชอบลูกน้อยจะแสดงออกด้วยการขยับปาก […]


วัคซีน

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ สำหรับเด็ก จำเป็นหรือไม่

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นวัคซีนที่เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี ควรเข้ารับการฉีดเนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่มากกว่าผู้ป่วยทั่วไปถึง 6 เท่า อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หากเด็กฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อจะได้สังเกตอาการและสามารถรับมือได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที [embed-health-tool-vaccination-tool] วัคซีนไข้หวัดใหญ่ เด็กต้องฉีดไหม ข้อมูลสถิติโรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม- 8 กันยายน พ.ศ. 2565 จากกรมควบคุมโรค เผยว่า มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 22,922 ราย เสียชีวิต 1 ราย และผู้ป่วยกลุ่มที่พบมากที่สุดคือ เด็กแรกเกิดถึงอายุ 4 ปี รองลงมาคือ เด็กอายุ 5-14 ปี ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ในเด็ก กรมควบคุมโรคและนำให้เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และควรดูแลตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ชุมชน ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ไม่เอามือเข้าปาก ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วย […]


ขวบปีแรกของลูกน้อย

พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 10 ของลูกน้อย

ถ้าคุณเป็นคุณแม่ที่เพิ่งคลอดได้ไม่นาน แล้วอยากจะรู้ถึงพัฒนาการของลูกน้อยในแต่ละช่วงเวลาล่ะก็ นี่คือข้อมูลของ พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 10 ที่คุณแม่ควรรู้เอาไว้ มาดูกันว่าตัวเล็กในสัปดาห์ที่ 10 นี้ เขาจะมีพัฒนาการไปขนาดไหน [embed-health-tool-vaccination-tool] การเจริญเติบโต พฤติกรรมและ พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 10 ลูกน้อยจะเติบโตอย่างไรและมี พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 10 อย่างไร ถ้าลูกน้อยของคุณนอนในเวลากลางคืนเป็นเวลา 5-6 ชั่วโมง ก็นับเป็นความโชคดีของคุณมาก เนื่องจากเด็กอายุ 10 สัปดาห์ ส่วนใหญ่จะตื่นขึ้นกลางดึก แต่ถ้าลูกน้อยไม่ได้นอนข้ามคืนในระยะนี้ เขาก็จะมีช่วงการนอนหลับและตื่นที่ยาวนานกว่า ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถแอบไปงีบหลับเพื่อเอาแรงได้ ลูกน้อยอาจมีช่วงเวลานอนประมาณ 2-4 ครั้ง และตื่นมากกว่า 10 ชั่วโมงในหนึ่งวัน สิ่งที่ต้องจำเอาไว้คือ ไม่ว่าลูกของคุณจะเป็นนกฮูกกลางคืน หรือเป็นนกน้อยในยามเช้า นิสัยการนอนก็จะเป็นแบบนี้ไปตลอดช่วงวัยเยาว์ ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนที่ 2 นี้ ลูกน้อยของคุณอาจจะ ใช้เสียงในรูปแบบต่างๆ แทนที่จะร้องไห้อย่างเดียว สามารถยกหัวขึ้นได้ถึง 45 องศาในขณะที่นอนอยู่ ควรดูแลลูกน้อยอย่างไรในช่วง พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 10 วิธีการสื่อสารกับลูกน้อยนั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน และเพื่อพัฒนาการที่ดีของลูกน้อย คุณก็ควรลองทำสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้ ไม่ว่าจะทำในเดือนนี้หรือในเดือนถัดไป […]


ขวบปีแรกของลูกน้อย

พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 9 ของลูกน้อย

พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 9 หรือประมาณ 3 เดือนแรก เป็นช่วงเวลาที่ลูกน้อยเพิ่มมีพัฒนาการทางด้านการได้ยินมากขึ้น สามารถแยกแยะและจดจำเสียงต่าง ๆ ได้มากขึ้น อีกทั้งยังอาจเปร่งเสียงเพื่อสื่อสารได้เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพของลูกน้อยได้อย่างเต็มที่ คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาเกี่ยวกับวิธีการดูลูกที่เหมาะสมสำหรับเด็กอายุ 9 สัปดาห์ [embed-health-tool-vaccination-tool] การเจริญเติบโต พฤติกรรมและ พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 9 ลูกน้อยจะเติบโตอย่างไรและ พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 9 ตอนนี้ลูกมีอายุได้ 9 สัปดาห์แล้ว เขาสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างเสียงที่คุ้นเคยกับเสียงอื่นๆ ได้ และกำลังจะกลายเป็นผู้ฟังที่ดี นอกจากนี้ลูกน้อยยังแสดงให้เห็นด้วยว่า เขาปรับตัวให้เขากับสภาพแวดล้อมได้แล้ว และเวลาที่มีเสียงอะไรเกิดขึ้น เขาก็จะหันไปมองตามเสียงนั้น การพูดคุยอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ลูกน้อยมีการพัฒนาในการรับรู้เรื่องสถานที่ ลูกน้อยอาจมองปากคุณเวลาที่คุณกำลังพูด หรืออาจจะรู้สึกพิศวงถึงการทำงานของมัน คุณจะต้องทึ่งเมื่อเขาสามารถสื่อสารออกมาเป็นเสียงสูงเสียงต่ำได้แล้ว รวมทั้งยิ้มและร้องไห้เพื่อแสดงความต้องการต่างๆด้วย ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนที่สองนี้ ลูกน้อยอาจจะ… ยิ้มตอบ เวลาที่คุณยิ้มให้ แยกแยะได้ระหว่างเสียงที่คุ้นเคยและเสียงอื่นๆ เริ่มหันไปมองตามเสียง ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น ตอบสนองกับเสียงกระดิ่งในหลายๆ รูปแบบ อย่างเช่น การจ้องมอง ร้องไห้ หรือนิ่งไป ควรดูแลลูกน้อยอย่างไร คุณอาจช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อย ด้วยการพูดคุยกับเขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถึงแม้จะทำให้ดูเหมือนคุณกำลังคุยกับตัวเอง แต่นั่นจะช่วยพัฒนาด้านสติปัญหาให้ลูกน้อยได้ เขาสามารถเรียนรู้จากการเคลื่อนไหวของปาก การแสดงออก และน้ำเสียงที่ชวนให้รู้สึกตื่นเต้น […]


ขวบปีแรกของลูกน้อย

พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 11 ของลูกน้อย

พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 11 ทารกจะเริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้นแล้ว โดยเฉพาะแขนและขาที่อาจมีการขยับมากขึ้นกว่าหลังแรกคลอด คุณพ่อคุณแม่ควรปล่อยให้ลูกได้ขยับร่างกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและพัฒนาการของกล้ามเนื้อ  [embed-health-tool-vaccination-tool] การเจริญเติบโต พฤติกรรมและ พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 11 ลูกน้อยจะเติบโตอย่างไร การเคลื่อนไหวของทารกจะเริ่มต้นอย่างราบรื่น คุณแม่จะสังเกตเห็นว่าลูกเคลื่อนไหวของแขนและขาในรูปแบบที่ซับซ้อนได้มากขึ้น การเคลื่อนไหวเหล่านี้จะช่วยให้ลูกน้อยสามารถเสริมสร้างความแข็งแรงและพัฒนาการของกล้ามเนื้อได้ เมื่อลูกนอนหงายจะเริ่มยกขามากขึ้น นี่คือ ขั้นตอนแรกในการเตรียมความพร้อมสำหรับการคลานของลูกน้อย พัฒนาการด้านต่าง ๆ ของลูกน้อยในสัปดาห์ที่ 11 ควบคุมศีรษะให้อยู่นิ่ง ๆ ได้ เมื่อจับให้นั่งตัวตรง เมื่อนอนลง ลูกน้อยจะสามารถใช้มือดันหน้าอกขึ้นมาได้ หมุนตัวได้ (ไปยังทิศทางเดียว) จับของเล่นเขย่าให้มีเสียง ให้ความสนใจกับสิ่งของขนาดเล็ก เช่น ลูกกวาด (ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสิ่งของเล็ก ๆ จะไม่ทำให้ลูกน้อยสำลัก) เอื้อมมือไปหยิบจับข้าวของต่าง ๆ เปล่งเสียงเป็นคำ ๆ ได้แล้ว ควรดูแลลูกน้อยอย่างไร ควรมีพื้นที่เพียงพอให้ลูกน้อยสามารถยืดตัว และเคลื่อนไหวแขนขาได้อย่างปลอดภัย คุณพ่อคุณแม่ควรปูผ้าห่มลงบนพื้น และปล่อยให้ลูกน้อยเคลื่อนไหวได้ตามใจชอบ วิธีนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและพัฒนากล้ามเนื้อได้ สุขภาพและความปลอดภัย ควรปรึกษาแพทย์อย่างไร คุณหมออาจอาจทำการประเมิน หรือใช้วิธีตรวจสอบที่แตกต่างกันไปตามสภาวะของลูกน้อย ความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง หากลูกน้อยมีอารมณ์เปลี่ยนแปลง อาหารไม่ย่อย มีไข้สูง อุจจาระผิดปกติ มีปัสสาวะหยด มีผื่นคันบริเวณตาและหูเป็นเวลานาน อาจเป็นสัญญาณว่าลูกน้อยป่วย ถ้าลูกน้อยมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจหรือชัก ก็ควรพาไปพบคุณหมอทันที อุณหภูมิ หากลูกน้อยมีไข้ ควรใช้วิธีเช็ดตัว เพราะไข้คือวิธีที่ร่างกายตอบสนองต่อแบคทีเรียที่ร่างกายได้รับ และถือเป็นสัญญาณที่ดี เมื่อโทรศัพท์ไปปรึกษาคุณหมอ […]


ขวบปีแรกของลูกน้อย

พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 12 ของลูกน้อย

พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 12 หรือประมาณ 3 เดือน เป็นช่วงที่ลูกน้อยมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ในช่วงนี้ทารกอาจหัวเราะอย่างต่อเนื่องและยาวนาน สามารถยกศีรษะขณะนอนคว่ำได้ และอาจเริ่มมองของที่อยู่ใกล้ตัว คุณพ่อคุณแม่ควรระวังปัญหาศีรษะทารกลีบแบน รวมไปถึงปัญหาเส้นประสาทกดทับที่อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการ หากสังเกตพบความผิดปกติ หรือลูกมีอาการร้องไห้เป็นเวลานานติดต่อกัน ควรปรึกษาคุณหมอ [embed-health-tool-vaccination-tool] การเจริญเติบโต พฤติกรรมและ พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 12 ลูกน้อยจะเติบโตและมี พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 12 อย่างไร ในช่วงวัยนี้ ลูกน้อยอาจมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในช่วงสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนที่ 2 ลูกจะมีพัฒนาการดังต่อไปนี้ หัวเราะอย่างต่อเนื่องยาวนาน จีบนิ้วมือเข้าหากัน เมื่อนอนคว่ำ ลูกสามารกยกศีรษะได้ 90 องศา หัวเราะเสียงดัง ร้องไห้เมื่อต้องการบางสิ่งบางอย่าง มองตามสิ่งของที่ห่างจากตัวประมาณ 15 เซนติเมตร และหันหน้าได้ประมาณ 180 องศา ควรดูแลลูกน้อยอย่างไร การอ่านออกเสียง เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อย เสียงของคุณพ่อคุณแม่จะช่วยให้การได้ยินของลูกสอดคล้องไปกับทำนองของภาษาพูด การเปลี่ยนน้ำเสียงในขณะเล่านิทาน การลงเสียงหนักเบา หรือการร้องเพลง จะช่วยให้ลูกมีปฏิกิริยาโต้ตอบกับพ่อแม่ อีกทั้งยังช่วยดึงดูดความสนใจจากลูกมากขึ้น แต่หากลูกหันหน้าหนีหรือไม่แสดงความสนใจกับการเล่านิทาน ควรให้เขาได้พักผ่อน มีหนังสือดี ๆ มากมายที่เหมาะสำหรับลูกน้อย ควรเลือกหนังสือที่มีภาพประกอบขนาดใหญ่ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน