โรคผิวหนังติดเชื้อ

ทุกครั้งที่เราเกิดบาดแผลบนผิวหนัง เราก็อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อเนื่องจากเชื้อโรคต่าง ๆ ทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือเชื้อไวรัส จนทำให้เกิดความผิดปกติกับผิวหนัง และกลายเป็น โรคผิวหนังติดเชื้อ ไป เรียนรู้ข้อมูลสุขภาพเกี่ยวกับ โรคผิวหนังติดเชื้อ ทั้งโรคผิวหนังที่พบบ่อย และการดูแลรักษา ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

โรคผิวหนังติดเชื้อ

กลากเกิดจากอะไร วิธีรักษากลาก ให้หายเร็วๆ

กลากเป็นโรคทางผิวหนังที่พบได้บ่อย เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย สาเหตุเกิดจากเชื้อราที่มีอยู่ทั่วไปตามพื้นดิน เชื้อราจะทำให้เกิดโรคได้ทั้งคนและสัตว์ เกิดได้กับทุกส่วนของร่างกาย แต่พบบ่อยบริเวณอับชื้น สาเหตุสำคัญของกลาก แท้จริงแล้วเกิดจากอะไร พบบ่อยบริเวณอับชื้น [embed-health-tool-bmi] กลากเกิดจากอะไร กลาก กลุ่มโรคทิเนีย (Tinea) เป็นโรคติดเชื้อราที่เกิดกับผิวหนังชั้นตื้น (Superficial Fungal Infection) ที่พบได้บ่อย ๆ กลาก (Ringworm) จะมีลักษณะที่สำคัญ ได้แก่ รอยโรคมีลักษณะเป็นวงกลมหรือวงแหวน ผื่นเป็นผื่นสีแดง  ขอบสีแดงชัดเจน  ขอบภายนอกมักมีสีเข้มกว่าผิวหนังด้านใน  อาจมีขุยหรือสะเก็ดที่ขอบ  ตรงกลางมักเกลี้ยง มีอาการคัน  กลากบางแห่งอาจไม่เห็นเป็นวงหรือมีขอบสีแดง  สาเหตุสำคัญของกลาก เชื้อราที่ทำให้เกิดกลาก เป็นเชื้อราในกลุ่มเดอร์มาโตไฟต์ (Dermatophytes) เชื้อของกลากเป็นโรคติดต่อจากคนไปสู่คน จากสัตว์สู่คน หรือจากสิ่งแวดล้อมสู่คน ติดต่อได้ด้วยการสัมผัสโดยตรง หรือผ่านสปอร์ราที่อยู่บนข้าวของเครื่องใช้ เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอน และเสื้อผ้า รวมถึงการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ชื้นก็อาจได้รับสปอร์ราเช่นกัน เชื้อราชนิดนี้จะเติบโตโดยเคราติน (Keratin) ในหนังกำพร้าเป็นอาหาร กลากจะเกิดที่ผิวหนังชั้นนอกสุด เส้นผมและเล็บ ได้แก่ กลากที่ลำตัว แขนและขา กลากที่หนังศีรษะและเส้นผม กลากที่ขาหนีบ รอบอวัยวะเพศและทวารหนัก กลากที่เล็บ กลากที่เท้าหรือโรคน้ำกัดเท้า ส่วนปัจจัยและความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคกลาก เช่น ภูมิคุ้มกันต่ำ […]

สำรวจ โรคผิวหนังติดเชื้อ

โรคผิวหนังติดเชื้อ

น้ำหมึก กับผลกระทบต่อสุขภาพที่ควรรู้

น้ำหมึก คือ สารเคมีที่พบได้ทั่วไป เช่น ในปากกาเน้นข้อความ ในปากกาหมึกซึม รวมไปถึงน้ำหมึกที่ใช้ในการสัก อย่างไรก็ตาม น้ำหมึกก็อาจส่งผลให้เกิดภาวะสุขภาพบางประการได้เช่นกัน อาการที่เกิดขึ้นจากน้ำหมึก การได้รับน้ำหมึกปากกาเข้าสู่ร่างกายผ่านทางช่องปากด้วยการกินน้ำหมึกเข้าไปอาจไม่น่ากังวลนัก เพราะข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ปากกาหัวบอล ปลายปากกา และปากกาหมึกซึม มีน้ำหมึกน้อยมากจนไม่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดพิษหากดูดจากปากกา น้ำหมึก บางชนิดอาจทำให้เจ็บในปาก และน้ำหมึกจำนวนมากที่กลืนเข้าไปจากขวดอาจทำให้ระคายเคือง แต่ยังไม่มีรายงานว่าเป็นพิษร้ายแรง หากคุณกลืนน้ำหมึกเข้าไป ทางองค์การอนามัยโลกแนะนำให้ดื่มน้ำ และระบุว่าไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีก น้ำหมึกจากปากกา ปากกาเน้นข้อความ และปากกาอื่น ๆ ถือว่ามีพิษน้อยที่สุด และมีพิษในปริมาณเล็กน้อย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะไม่มีพิษ อาการที่เกิดขึ้นจากการดูดน้ำหมึกปากกาเข้าปากโดยไม่ตั้งใจ มักจะเกิดขึ้นที่ผิวหนัง ทำให้ลิ้นเป็นคราบ และอาจทำให้ปวดท้องเบา ๆ (Mild Stomach Upset) ส่วนน้ำหมึกในตลับเครื่องพิมพ์ และแผ่นประทับจะมีปริมาณน้ำหมึกมากกว่าน้ำหมึกจากปากกา ซึ่งถ้าได้รับน้ำหมึกจากแหล่งใดแหล่งหนึ่งจาก 2 สิ่งนี้ ควรไปพบคุณหมอทันที ผลกระทบของน้ำหมึกที่ส่งผลต่อผิวหนัง น้ำหมึก เป็นพิษไม่ได้เกิดจากการใช้น้ำหมึกวาดภาพลงบนผิวหนัง น้ำหมึกอาจเปื้อนผิวหนังชั่วคราว แต่จะไม่เป็นพิษต่อผิวหนัง ผลกระทบของน้ำหมึกที่ส่งผลต่อตา การระคายเคืองตาจาก น้ำหมึก มักเป็นปัญหาที่พบบ่อยมากกว่าการระคายเคืองที่ผิวหนัง หากรู้สึกว่ามีน้ำหมึกกระเด็นเข้าตา ให้รีบล้างตาที่ระคายเคืองด้วยน้ำเย็น จนกว่าอาการเคืองตาจะหายไป เมื่อน้ำหมึกกระเด็นเข้าตา อาจทำให้ตาขาวเปื้อนน้ำหมึกชั่วคราว แต่น้ำหมึกในตาจะไม่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนถาวร หรือในระยะยาว แต่ถ้าล้างตาแล้วยังคงมีอาการระคายเคืองอยู่ […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

วิธีรักษาเกลื้อน ด้วยตัวเอง โดยใช้วัตถุดิบใกล้ตัว

เกลื้อน เป็นโรคผิวหนังที่อาจเกิดขึ้นจากการติดเชื้อรา ที่ทำให้เกิดรอยด่างที่มีสีแตกต่างจากสีผิวปกติ ไม่ใช่โรคติดต่อหรืออันตรายแต่อย่างใด และสามารถรักษาเกลื้อนให้หายขาดได้ ด้วยการใช้ยาฆ่าเชื้อรา หรือใช้ วิธีรักษาเกลื้อน โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ทั่วไป เช่น เบกกิ้งโซดา กระเทียม สะเดา อย่างไรก็ตาม หากอาการเกลื้อนยังคงไม่หายไปแม้ว่าจะทำการรักษาแล้ว ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อหาทางจัดการเกลื้อนที่เหมาะสม [embed-health-tool-heart-rate] เกลื้อน เป็นอย่างไร โรคเกลื้อน หรือเกลื้อน (Tinea versicolor) คือ โรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากการติดเชื้อราในผิวหนังที่ชื่อ Malassezia ส่งผลให้กระบวนการสร้างเม็ดสีของผิวหนังผิดปกติ เกิดเป็นรอยด่างที่มีสีเข้มหรือสีอ่อนกว่าสีผิวปกติ รอยด่างเกลื้อนมักเกิดขึ้นในบริเวณผิวหนังที่มีต่อมไขมันอยู่มาก อย่างไรก็ตาม โรคเกลื้อนไม่ใช่โรคติดต่อ และสามารถรักษาให้หายขาดได้ ข้อสำคัญคือควรรักษาความสะอาดของร่างกายอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้เกิดการหมักหมม เพื่อป้องกันไม่ให้ เป็นเกลื้อน หรือเป็นโรคผิวหนังอื่น ๆ  ปัจจัยที่อาจกระตุ้นการเกิดเกลื้อน เกลื้อนอาจปรากฏขึ้นเมื่อเจอปัจจัยกระตุ้น ดังนี้ สภาพอากาศที่ร้อนและชื้น ผิวมัน เหงื่อ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ปัจจัยเหล่านี้ อาจสามารถเร่งการเจริญเติบโตของเชื้อราบนผิวหนัง แล้วทำให้เกิดเป็นอาการของเกลื้อนได้ในที่สุด วิธีรักษาเกลื้อน ด้วยตัวเอง เกลื้อนสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการใช้ยาทาที่มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อราหรือต้านเชื้อรา เช่น คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) ไซโคลพิรอกซ์ (Ciclopirox) หรือคุณหมออาจสั่งจ่ายเป็นยาเม็ดสำหรับฆ่าเชื้อรา เช่น ไอทราโคนาโซล  (Itraconazole) นอกจากนี้ ยังสามารถใช้วิธีธรรมชาติในการช่วยรักษาเกลื้อนได้ […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

โรคงูสวัด คืออะไร สาเหตุ อาการ และการรักษา

โรคงูสวัด เกิดจากเชื้อไวรัส วาริเซลลาซอสเตอร์ (Varicella-Zoster Virus: VZV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกันกับเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคอีสุกอีใส หลังมีอาการปวดตามเนื้อตัวไม่นาน มักมีตุ่มแดงขึ้นที่ผิวหนังบางส่วนของร่างกาย แล้วค่อย ๆ ลุกลามเป็นลายพาดไปตามแนวของเส้นประสาทฝั่งใดฝั่งหนึ่งของร่างกาย อย่างไรก็ตาม อาจป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน [embed-health-tool-bmi] โรคงูสวัด เกิดจากอะไร งูสวัด หรือโรคงูสวัด (Shingles) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ซึ่งถือว่าเป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่ง ดังนั้น หากไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน แล้วสัมผัสบริเวณผื่นของผู้ป่วยที่เป็นงูสวัด ก็ทำให้มีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคอีสุกอีใส อาการของโรคงูสวัด อาการที่พบได้บ่อย อาจมีดังนี้ มีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณผิวหนัง มีไข้ ปวดศีรษะ ดวงตาไวต่อแสง ผิวหนังไวต่อการสัมผัส หลังมีอาการปวดตามเนื้อตัวไม่นาน มักมีตุ่มแดงขึ้นที่ผิวหนังบางส่วนของร่างกาย บางครั้งอาจเกิดที่คอ ใบหน้า หรือดวงตา แล้วค่อย ๆ ลามเป็นลายพาดไปตามแนวของเส้นประสาท จนกระทั่งพันรอบทั้งลำตัว และอาจมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย มีอาการคันและแสบในผิวหนังบริเวณที่มีผื่นแดงและตุ่มน้ำใส ตุ่มแดงจะกลายเป็นตุ่มน้ำใสและแตกออก จนเริ่มตกสะเก็ด วิธีรักษาโรคงูสวัด โรคงูสวัดเป็นโรคที่สามารถหายได้เอง อาจใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 2-6 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันของแต่ละคน คุณหมอจะรักษาโรคงูสวัดตามอาการ โดยอาจสั่งจ่ายยาเพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน เช่น อะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) แฟมไซโคลเวียร์ (Famciclovir) หรือวาลาไซโคลเวียร์ (Valacyclovir) และอาจสั่งจ่ายยาเพื่อบรรเทาอาการปวด เนื่องจากผู้ที่เป็นโรคงูสวัดมักจะมีอาการปวดรุนแรง  นอกจากนี้ […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

วิธีรักษา กลาก ด้วยวัตถุดิบใกล้ตัว

กลาก เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อรา มีลักษณะเป็นผื่นรูปวงแหวนหรือวงกลมตามผิวหนัง สามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนบนร่างกาย สามารถติดต่อไปยังผู้อื่นผ่านการสัมผัสได้ กลากสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาฆ่าเชื้อรา นอกจากนี้ การใช้วัตถุดิบที่หาได้ทั่วไป เช่น กระเทียม แอปเปิ้ลไซเดอร์ ชะเอมเทศ ก็อาจสามารถช่วยบรรเทาอาการกลากได้เช่นกัน [embed-health-tool-heart-rate] กลาก เกิดจากอะไร กลาก (Ringworm of the Body หรือ Tinea Corporis) คือโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราซึ่งอาศัยอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นมือ เล็บ ผิวหนัง หรือเส้นผม เมื่อเกิดการติดเชื้อราเหล่านี้แล้ว ก็จะมีอาการดังต่อไปนี้ มีผื่นแดงรูปวงแหวนหรือรูปวงกลมอยู่ตามแขน ขา ลำตัว ก้น มีอาการคัน ผื่นแดงมีการตกสะเก็ด วงแหวนจะค่อย ๆ ขยายวงกว้างขึ้น อาจเกิดการพุพอง และมีวงแหวนหลายวงทับซ้อนกัน กลาก สามารถติดต่อได้หลายวิธี ได้แก่ ติดต่อจากคนสู่คน ผ่านการสัมผัสผิวหนังของผู้ติดเชื้อโดยตรง ติดต่อจากสัตว์สู่คน ผ่านการสัมผัสกับสัตว์ที่เป็นกลาก เช่น สุนัข แมว หรือวัว ติดต่อจากวัตถุสู่คน ผ่านการสัมผัสกับสิ่งของหรือวัตถุต่าง ๆ ที่ถูกผู้ติดเชื้อหรือเป็นโรคกลากมาสัมผัสก่อนหน้านี้ หรือเกิดจากการใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้ที่เป็นกลาก […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

รอยสักติดเชื้อ อาการและการรักษา

รอยสักเป็นศิลปะบนเรือนร่างอย่างหนึ่ง วิธีการสักคือการใช้เข็มที่เต็มไปด้วยหมึกวาดลงบนผิวหนัง หากดูแลรักษาแผลหลังจากสักเสร็จไม่ดี ก็อาจทำให้ รอยสักติดเชื้อ ซึ่งอาจส่งผลทำให้ผิวหนังเกิดความเสียหาย ทั้งยังอาจเกิดอาการต่าง ๆ เช่น อาการแพ้ คัน ผื่น และหากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษาในทันที อาจทำให้เกิดภาวะช็อคจากการแพ้ รวมถึงอาจต้องทำการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อบริเวณที่ติดเชื้อออก [embed-health-tool-bmi] รอยสัก คืออะไร รอยสัก (Tattoo) เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ชาวอเมริกันราว 4 ใน 10 คนมีรอยสักอย่างน้อย 1 ลายบนตัว นอกจากนี้ รอยสักยังกลายเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันน้อยลงในที่ทำงาน ในหลายอุตสาหกรรม โดยอาจจะเห็นได้จากการที่เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย หรือผู้บริหารหลายคนมีรอยสักที่มองเห็นได้ ความนิยมของรอยสักอาจทำให้หลายคนคิดว่า เมื่อไปสักแล้วอาจจะไม่มีความเสี่ยงใด ๆ ตามมา แต่ความจริงแล้วการสักมีความเสี่ยงหลายอย่าง เนื่องจากการใช้เข็มที่เต็มไปด้วยหมึกสักลงไปบนผิวหนังอาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายหรืออาจเกิดการติดเชื้อได้ การสักกับบุคคลหรือร้านที่ไม่ได้ทำความสะอาดเครื่องมืออย่างถูกต้อง หรือให้ไม่ยอมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษารอยสักที่เพิ่งสักใหม่ให้สะอาด อาจนำไปสู่ปัญหารอยสักติดเชื้อ หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ อาการของ รอยสักติดเชื้อ อาการของรอยสักติดเชื้อที่อาจพบได้บ่อย คือ ผื่นแดง หรือผิวหนังเป็นหลุมเป็นบ่อบริเวณที่มีรอยสัก ในบางกรณีผิวอาจเกิดการระคายเคืองเนื่องจากเข็มที่ใช้สัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีผิวบอบบาง หากเป็นกรณีนี้อาการอาจหายไปภายใน 2-3 วัน แต่หากอาการที่เกิดขึ้นยังเป็นอยู่นานกว่า  […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

อาการผิวหนังผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคผิวหนัง

อาการผิวหนังผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นอาการผื่น กลาก สิว ตกสะเก็ด ผิวแห้ง อาการคัน อาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคผิวหนังต่าง ๆ เช่น ต่อมเหงื่ออักเสบ สะเก็ดเงิน เด็กดักแด้ ซึ่งต่างก็อาจมีอาการและวิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น หากสังเกตพบอาการผิวหนังผิดปกติ ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อทำการรักษาในทันที เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามและเป็นอันตรายในภายหลัง [embed-health-tool-bmi] อาการผิวหนังผิดปกติ เป็นอย่างไร ปัญหาผิวหนังผิดปกติที่อาจพบได้บ่อย อาจเป็นได้ทั้ง สิว กลาก และโรซาเซีย (Rosacea) นอกจากนี้ยังมีสภาพผิวผิดปกติที่หายากอีกมากมายที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งอาการผิวหนังผิดปกตินั้นอาจมีตั้งแต่อาการเล็กน้อยไปจนถึงขั้นอันตรายต่อชีวิต โดยอาการผิวหนังผิดปกติต่าง ๆ ที่อาจพบได้ มีดังนี้ ต่อมเหงื่ออักเสบ ต่อมเหงื่ออักเสบ (Hidradenitis Suppurativa หรือ HS) เป็นภาวะอักเสบเรื้อรัง ที่ทำให้เกิดแผลในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ผิวหนังสัมผัสกับผิวหนัง ซึ่งบริเวณที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ ใต้วงแขน ขาหนีบ ก้น ต้นขาส่วนบน หน้าอก แม้ว่าจะยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดของการอักเสบของต่อมเหงื่อ แต่ก็เป็นไปได้ว่าฮอร์โมนนั้นมีบทบาทสำคัญของการทำให้เกิดการอักเสบของต่อมเหงื่อ โดยทั่วไปจะเริ่มในช่วงวัยแรกรุ่น ซึ่งอาการอักเสบของต่อมเหงื่อนั้นมักจะพบบ่อยในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือสูบบุหรี่  นอกจากนั้น ผู้หญิงจะมีแนวโน้มการอักเสบของต่อมเหงื่อมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า ทั้งยังเชื่อกันว่าพันธุกรรมและระบบภูมิคุ้มกันเป็นปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาโรคอีกด้วย สำหรับอาการเริ่มต้นของการอักเสบของต่อมเหงื่อ คือ […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

เป็นฝีห้ามกินอะไร แล้วควรดูแลตัวเองยังไง ให้ฝีหายเร็วขึ้น

ฝี คือ ตุ่มหนองอักเสบที่เกิดขึ้นใต้ผิวหนัง อาจพบได้ในหลายบริเวณของร่างกาย เช่น ฝีที่รักแร้ ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อหรือมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้บริเวณนั้นบวม แดง กดเจ็บ และเป็นหนองชนิดที่มีกลิ่นเหม็น และบางคนอาจมีไข้ หรือหนาวสั่น เวลาเป็นฝี นอกจากจะรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ และการระบายหนองออกแล้ว เป็นฝีห้ามกินอะไร อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เพราะอาการบางอย่างอาจทำให้ฝีมีอาการแย่ลงได้ ดังนั้น การเลือกกินอาหารร่วมกับการดูแลตัวเองด้วยวิธีอื่น ๆ อาจช่วยให้ฝีหายเร็วขึ้น [embed-health-tool-heart-rate] เป็นฝีห้ามกินอะไร ฝีเกิดจากการติดเชื้อและอักเสบ ฉะนั้น อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหากอยากให้ฝีหายเร็วขึ้น ก็คือ อาหารที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ดังนั้น อาหารที่ห้ามกินตอนเป็นฝีอาจมีดังนี้ น้ำตาล น้ำตาลที่ผ่านกระบวนการ เช่น น้ำตาลทรายขาว อาจกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารตั้งต้นของการอักเสบ (Pro-Inflammatory Cytokines) มากขึ้นได้ ฉะนั้น หากเป็นฝีจึงควรงดหรือลดอาหารที่เติมน้ำตาลที่ผ่านกระบวนการจะดีที่สุด ไขมันอิ่มตัว ไขมันอิ่มตัวอาจกระตุ้นการอักเสบที่เนื้อเยื่อไขมัน ซึ่งนอกจากจะทำให้ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการอักเสบ อย่างฝี ที่เป็นอยู่แย่ลงแล้ว ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้ด้วย อาหารที่อาจมีไขมันอิ่มตัว และควรหลีกเลี่ยงในช่วงที่เป็นฝี เช่น เบอร์เกอร์ พิซซ่า เฟรนช์ฟราย รวมถึงของทอดอื่น ๆ ด้วย กรดไขมันโอเมก้า 6 แม้กรดไขมันโอเมก้า 6 จะเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ แต่หากได้รับโอเมก้า 6 […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

ฝีที่รักแร้ เกิดจากอะไร ป้องกันได้หรือไม่

ฝีที่รักแร้ คือภาวะอักเสบของรูขุมขนหรือต่อมไขมันบริเวณใต้วงแขน ทำให้เกิดเป็นตุ่มฝี มักจะมีอาการปวด บวม หรือเป็นหนอง โดยปกติแล้ว ฝีที่รักแร้มักแห้งไปเองภายใน 2 สัปดาห์ แต่หากฝีที่รักแร้ไม่หายภายในเวลาดังกล่าว หรือขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ควรไปพบคุณหมอ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนโรคอื่น ๆ และอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด [embed-health-tool-bmi] ฝีที่รักแร้ คืออะไร ฝี (Boil หรือ Furuncle) เป็นการติดเชื้อที่รูขุมขนหรือต่อมไขมัน ส่วนใหญ่มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรียสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) ก่อตัวในรูขุมขนและไปผสมเข้ากับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ทำให้ผิวหนังในบริเวณนั้นบวม แดง และมีหนอง หากฝีที่เกิดขึ้นมีลักษณะเป็นก้อนหนอง หรือหัวหนองหลาย ๆ หัวติดกัน จะเรียกว่า “ฝีฝักบัว” (Carbuncle) ซึ่งจะยิ่งสร้างความเจ็บปวด รำคาญ และใช้เวลาในการรักษาค่อนข้างนาน ฝีที่รักแร้ แสดงอาการอย่างไร โดยส่วนใหญ่ ฝีที่รักแร้ ประกอบด้วยลักษณะอาการดังนี้ มีตุ่มฝี หรือก้อนนูนสีแดงหรือชมพูที่รักแร้ เจ็บบริเวณตุ่มฝีที่เกิดขึ้น มีหนองอยู่ด้านในตุ่ม มีไข้ รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว คันที่ตุ่ม หรือบริเวณโดยรอบ ฝีที่รักแร้ มีสาเหตุจากอะไร การเป็นฝีที่รักแร้เกิดจากรูขุมขนติดเชื้อ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากสาเหตุเหล่านี้ การโกนขน รักแร้เป็นแหล่งสะสมเหงื่อและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เมื่อโกนขนรักแร้บ่อย อาจทำให้มีดโกนบาดผิวหนังใต้วงแขนจนเป็นแผลเปิด ส่งผลให้แบคทีเรียเข้าสู่ผิวหนังได้ง่าย […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

สังคัง คืออะไร ควรรักษาและดูแลตัวเองอย่างไร

สังคัง เป็การติดเชื้อราในบริเวณที่อับชื้นของร่างกาย จนทำให้เกิดเป็นผื่นแดงลักษณะเหมือนวงแหวนและมีอาการคัน โดยทั่วไปแล้ว มักเกิดในบริเวณขาหนีบหรือต้นขาด้านใน สังคังสามารถรักษาและป้องกันได้ด้วยการใช้ยาต้านเชื้อรา ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง เช่น หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่น ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เพื่อช่วยบรรเทาอาการสังและ และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสังคังได้อีกด้วย [embed-health-tool-bmr] สังคัง คืออะไร สังคัง คือ เกิดจากการติดเชื้อราในกลุ่มเดอมาโทไฟท์ (Dermatophytes) ทำให้เกิดผื่นแดงและคันในบริเวณที่อับชื้น เช่น ขาหนีบ ต้นขาด้านใน บั้นท้าย อวัยวะเพศ ซึ่งสังคังเป็นโรคผิวหนังที่อาจติดต่อกันได้ผ่านการสัมผัส หรือใช้ของร่วมกับผู้ติดเชื้อ รวมถึงผู้ที่มีน้ำหนักเกิน มีเหงื่อออกมาก มีกลากหรือเกลื้อน และอาจพบได้ทั่วไปสำหรับนักกีฬา อย่างไรก็ตาม สังคังสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ผู้ที่เสี่ยงเป็นสังคัง ผู้ที่สวมใส่เสื้อผ้าคับ ๆ จนทำให้ผิวหนังระคายเคืองเป็นประจำ ผู้ที่เหงื่อออกมาก จนทำให้บริเวณขาหนีบและอวัยวะเพศอับชื้นอยู่ตลอด ผู้ที่อาบน้ำเสร็จแล้ว แต่ยังชอบอยู่ในผ้าเช็ดตัวหรือเสื้อคลุมอาบน้ำ ไม่ยอมเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าที่แห้งและสะอาด ผู้ที่ใช้ผ้าเช็ดตัวหรือเสื้อผ้าเปียกน้ำหรือเปียกเหงื่อร่วมกับคนอื่น ผู้ที่สัมผัสหรือใกล้ชิดกับคนที่เป็นสังคัง ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน ผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือเป็นโรคเบาหวาน วิธีรักษาและป้องกันสังคังด้วยตัวเอง รักษาสังคังด้วยยา สังคังสามารถรักษาได้โดยการใช้ยาต้านเชื้อราทั้งในรูปแบบครีม แห้ง หรือสเปรย์ ที่หาซื้อได้จากร้านขายยา โดยปกติแล้วจะต้องใช้ยาประมาณ 2-3 สัปดาห์จนกว่าอาการจะดีขึ้น สวมเสื้อผ้าที่ไม่คับเกินไป ควรสวมใส่เสื้อผ้า รวมถึงชุดชั้นใน ชุดออกกำลังกาย และเสื้อชั้นในสำหรับเล่นกีฬา ที่มีขนาดพอดีตัว ไม่รัดแน่นเกินไป […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

โรคน้ำกัดเท้า หรือโรคฮ่องกงฟุต อาการ ปัจจัยเสี่ยง วิธีรักษา

โรคน้ำกัดเท้า (Athlete’s Foot) หรือโรคฮ่องกงฟุต (Hong Kong foot) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อราซึ่งพบได้บ่อยเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน หรือหากต้องอยู่ในพื้นที่เปียกชื้น โรคนี้ถือเป็นโรคติดต่อ สามารถติดต่อจากการสัมผัสผิวหนังบริเวณที่ติดเชื้อ หรือสัมผัสกับสะเก็ดผิวหนังที่ติดอยู่ตามรองเท้า ผ้าเช็ดตัว พื้น เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การรักษาสุขอนามัยให้ดีอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคนี้ได้ [embed-health-tool-heart-rate] โรคน้ำกัดเท้า คืออะไร โรคน้ำกัดเท้า (Athlete’s Foot) หรือเรียกอีกอย่างว่า โรคฮ่องกงฟุต (Hong Kong foot) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อรา พบมากในสภาพแวดล้อมที่ชื้นแฉะและอบอ้าว เช่น ห้องอาบน้ำ สระว่ายน้ำ บริเวณที่มีน้ำท่วมขัง อาการของโรคน้ำกัดเท้าที่พบบ่อย อาจมีดังนี้ รู้สึกคัน ระคายเคือง แสบ ที่ฝ่าเท้าหรือง่ามเท้า มีแผลขนาดเล็กที่ทำให้คัน ผิวหนังบริเวณเท้าแห้งแตก เล็บเท้าเปราะบาง เล็บเปลี่ยนสี เท้ามีกลิ่นเหม็นไม่พึงประสงค์ ปัจจัยเสี่ยงโรคน้ำกัดเท้า แม้จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง หรือชื้นแฉะ แต่หากมีภาวะต่อไปนี้ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคน้ำกัดเท้าได้เช่นกัน เป็นโรคเบาหวาน มีเชื้อราที่เล็บ สวมถุงเท้าหรือรองเท้าที่คับหรือรัดจนเท้าอับชื้น และเสี่ยงเกิดเชื้อรา ไม่ทำความสะอาดรองเท้าบ่อย ๆ ทำให้มีคราบเหงื่อและคราบสกปรกสะสมในรองเท้า จนอาจทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ วิธีรับมือกับโรคน้ำกัดเท้า ผู้ที่มีอาการที่เป็นสัญญาณของโรคน้ำกัดเท้า ควรเข้ารับการรักษาโดยเร็ว เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม