เมื่อพูดถึง แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย หลายคนคงเคยได้ยินว่าสิ่งเหล่านี้มีไว้ในเพื่อการสลายการชุมนุม แต่ในบางครั้งผู้หญิงบางคนก็อาจจะพกสเปรย์พริกไทย เพื่อเอาไว้ป้องกันตัวจากพวกมิจฉาชีพ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย สามารถส่งผลต่อร่างกายได้ด้วย แต่สองสิ่งนี้จะส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง ลองมาติดตามข้อมูลจาก Hello คุณหมอ กันเลย
ทำความรู้จักกับ แก๊สน้ำตา
แก๊สน้ำตา (Tear Gas) มีส่วนผสมของสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ตา และระบบทางเดินหายใจ แก๊สน้ำตาถูกใช้เป็นอาวุธเคมีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และถูกห้ามไม่ให้ใช้ในช่วงสงครามในสมัยต่อมา แต่ตอนนี้มีการใช้งานโดยผู้บังคับใช้กฎหมายเป็นหลัก เพื่อควบคุมฝูงชนและการจลาจล
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณสูดดม แก๊สน้ำตา
แก๊สน้ำตาทำให้น้ำตาไหล สร้างความแสบร้อนในจมูกและเยื่อจมูกอย่างเฉียบพลัน หากสูดดมแก๊สน้ำตาเข้าไป อาจทำให้เกิดการระคายเคืองเยื่อบุปอดและทางเดินหายใจส่วนบน ส่งผลให้หายใจเสียงดังฮืด ๆ ไอ หายใจไม่ออก และกลั้นหายใจได้ลำบาก
การกลืนแก๊สน้ำตาเข้าไปอาจทำให้ท้องเสีย คลื่นไส้และอาเจียน โดยทั่วไปแล้วผลกระทบต่อร่างกายจะเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วินาทีหลังจากที่ได้รับสารและสามารถอยู่ได้นานถึง 1 ชั่วโมง โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่า คนส่วนใหญ่ที่สัมผัสกับแก๊สน้ำตามักจะมีอาการไม่รุนแรง แต่ประมาณ 1 ใน 15 คนอาจมีอาการรุนแรง โดยความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับปริมาณแก๊สที่ได้รับ ตำแหน่งที่สัมผัส และระยะเวลาที่การสัมผัส
จากหลักฐานที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ผู้คนที่สัมผัสกับแก๊สน้ำตาในพื้นที่ปิดล้อม มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและมีปัญหาระบบทางเดินหายใจที่รุนแรง ยิ่งหากคุณเป็นโรคหอบหืด ก็ยิ่งทำให้เสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพจากการได้รับแก๊สน้ำตามากขึ้น โดยผู้ที่เป็นโรคหอบหืดอาจมีอาการหลอดลมหดเกร็งอยางรุนแรง จนหายใจลำบากได้
นอกจากนี้ แก๊สน้ำตายังอาจทำให้เกิดโรคหอบหืดและนำไปสู่ภาวะการหายใจล้มเหลว จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ด้วย ส่วนผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหัวใจ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือผู้ป่วยที่ใช้ยารักษาโรคทางจิตเวช ก็อาจมีความเสี่ยงมากขึ้นเช่นกัน
แม้หลักฐานที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวจะยังมีอยู่อย่างจำกัด แต่หลักฐานบางอย่างชี้ให้เห็นว่า บางคนอาจประสบกับผลกระทบเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจในระยะยาวหลายเดือน หลังจากได้สัมผัสกับแก๊สน้ำตา
ทำความรู้จักกับ สเปรย์พริกไทย
สเปรย์พริกไทย (Pepper Spray) หรือทางศัพท์เทคนิคจะรู้จักกันในนาม โอลีโอเรซิน แคปซิคัม (Oleoresin capsicum หรือ OC) มีสารแลชรีมาทอรี (Lachrymatory) ซึ่งมีผลต่อดวงตา ทำให้เจ็บปวด และตามองไม่เห็นชั่วคราว โดยสเปรย์พริกไทย เป็นสารเดียวกับพริกที่ให้ความรู้สึกแสบร้อนเมื่อสัมผัสกับผิว
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณสูดดมหรือสัมผัส สเปรย์พริกไทย
สเปรย์พริกไทยมักมีผลกระทบต่อสุขภาพที่ไม่รุนแรง และอาการต่าง ๆ จะหายไปเองภายใน 1 ชั่วโมง แต่หากผู้ที่สัมผัสหรือสูดดมสเปรย์พริกไทยเข้าไปเป็นผู้ที่มีโรคปอดเรื้อรัง เช่น โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้มากกว่า
จากรายงานในปี ค.ศ. 2003 ที่ตีพิมพ์โดยกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา พบว่า สเปรย์พริกไทยมีส่วนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน โดย 2 ใน 63 คน นั้นเป็นโรคหอบหืด นอกจากนั้น การวิจัยที่ผ่านมายังแสดงให้เห็นว่า การสูดดมสเปรย์พริกไทย อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นอย่างฉับพลัน ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองหรือหัวใจวาย
แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย ส่งผลอย่างไรต่อร่างกาย
เมื่อคุณสูดดมหรือสัมผัสแก๊สน้ำตา และสเปรย์พริกไทย บางครั้งร่างกายอาจแสดงอาการทันที หรือบางครั้งอาจจะส่งผลในระยะยาวก็ได้เช่นกัน ซึ่งแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทยส่งผลต่อร่างกาย ดังนี้
อาการที่แสดงทันทีเมื่อสูดดมหรือสัมผัส แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย
- ดวงตา น้ำตาไหลมากเกินไป ตาพร่ามัว ตาแดง
- จมูก น้ำมูกไหล แสบ บวม
- ปาก แสบร้อน ระคายเคือง กลืนลำบาก น้ำลายไหล
- ปอด แน่นหน้าอก ไอ รู้สึกเหมือนจะสำลัก หายใจมีเสียงดัง หายใจถี่
- ผิวหนัง ไหม้ เป็นผื่น
- คลื่นไส้และอาเจียน
อาการระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นเมื่อสูดดมหรือสัมผัส แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย
- ดวงตาเป็นแผล
- ต้อหิน ต้อกระจก หรืออาจทำให้ตาบอดได้
- เสียชีวิตทันทีเนื่องจากสารเคมีรุนแรงเผาไหม้คอและปอด
- การหายใจล้มเหลว จนอาจเสียชีวิตได้
- เกิดปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ เช่น โรคหอบหืด
อย่างไรก็ตาม หากคุณพยายามออกจากพื้นที่ที่มีการใช้แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย และล้างสารเหล่านี้ออกจากร่างกายแล้วอาการดีขึ้นตามลำดับ นั่นอาจหมายความว่า แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทยจะไม่ส่งผลเสียระยะยาวต่อสุขภาพ แต่หากสังเกตได้ว่าอาการต่าง ๆ ไม่ทุเลา หรือแย่ลง ควรรีบเข้ารับการรักษาทันที
[embed-health-tool-bmi]