ลูกยอ เป็นสมุนไพรพื้นบ้านของไทย ได้มาจากต้นยอ ซึ่งเป็นต้นไม้ยืนต้น มีใบสีเขียว ผลของลูกยอมีลักษณะอ้วน ป้อม ทรงรี เมื่อลูกยอสุกแล้วจะมีสีขาวนวล เนื้อข้างในนุ่ม และมีเมล็ดเป็นจำนวนมากอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ ไม่ว่าจะเป็นเส้นใยอาหาร วิตามิเอ วิตามินซี แคลเซียม ทั้งนี้ ลูกยอนับว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ อาจช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจ รวมถึงอาจช่วยให้ร่างกายออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
[embed-health-tool-bmi]
ประโยชน์ของ ลูกยอ ต่อสุขภาพ
ลูกยอ อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ ต่าง ๆ ซึ่งอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพดังต่อไปนี้
อาจช่วยลดความเสียหายของเซลล์จากควันบุหรี่
หากร่างกายได้รับควันบุหรี่ส่งผลให้สารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายถูกทำลาย เซลล์เกิดความเสียหายและอักเสบ จนนำไปสู่โรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็ง ทั้งนี้ หากดื่มน้ำลูกยอวันละ 1 แก้ว อาจช่วยให้เซลล์แข็งแรงขึ้น ลดโอกาสเสี่ยงเกิดโรคต่าง ๆ
อาจช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ
ลูกยอ จะลดปริมาณระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายและลดอาการอักเสบ การดื่มน้ำลูกยอทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน อาจช่วยให้ปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ลดลง อย่างไรก็ตาม ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันถึงประโยชน์ของลูกยอต่อการช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ
อาจช่วยให้ร่างกายออกกำลังกายได้นานขึ้น
น้ำลูกยอมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ซึ่งมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นระหว่างออกกำลังกาย จึงทำให้ร่างกายสามารถอดทนต่อการออกกำลังกายได้นานขึ้น
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ลูกยอเป็นสมุนไพรที่มีวิตามินซีสูง ซึ่งวิตามินซีช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานดีขึ้น เซลล์ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น และร่างกายมีระดับความเครียดลดลง
ข้อควรระวังในการบริโภค ลูกยอ
โดยปกติ คนส่วนใหญ่มักบริโภคลูกยอโดยการดื่มน้ำ ลูกยอสกัด ทั้งนี้ ควรระวังเรื่องของน้ำตาล เพราะน้ำลูกยอมักใส่น้ำตาลในจำนวนมากเพื่อช่วยให้ดื่มง่ายขึ้น โดยเฉลี่ยแล้วพบว่า น้ำลูกยอ 100 มิลลิลิตรมีปริมาณน้ำตาลประมาณ 8 กรัม ซึ่งการดื่มน้ำที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมาก ๆ อาจส่งผลต่อร่างกาย เช่น เกิดไขมันพอกตับ เบาหวานชนิดที่ 2 ดังนั้น ควรดื่มน้ำลูกยอในระดับที่พอดี โดยควรระวังไม่ให้เกินปริมาณน้ำตาลที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ดังนี้
- เด็กและผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 16 กรัม ต่อวัน หรือน้ำตาล 4 ช้อนชา
- ผู้หญิงและผู้ชายอายุ 14 – 25 ปี ควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัม ต่อวัน หรือน้ำตาล 6 ช้อนชา
- ผู้หญิงและผู้ชายที่ใช้พลังงานมาก ควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 32 กรัม ต่อวัน หรือน้ำตาล 8 ช้อนชา