backup og meta

เมล็ดพืชเพาะงอก ต้นอ่อนพืช ที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ชลธิชา จันทร์วิบูลย์ · แก้ไขล่าสุด 09/06/2021

    เมล็ดพืชเพาะงอก ต้นอ่อนพืช ที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย

    ปัจจุบันการเพาะเมล็ดพืชเพื่อนำมารับประทานนั้นมีความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากเมล็ดถั่วเขียว ที่นำมาเพาะเพื่อให้ได้ถั่วงอกแล้ว ยังมีเมล็ดพืชอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เมล็ดทานตะวัน ถั่วลูกไก่ ถั่วเหลือง ซึ่งการรับประทาน เมล็ดพืชเพาะงอก หรือ ต้นอ่อนพืช ได้ประโยชน์มากมาย วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการรับประทานเมล็ดพืชเพาะงอกมาให้ได้อ่านกันค่ะ

    เมล็ดพืชเพาะงอก (Sprouted grains) คืออะไร

    เมล็ดพืชเพาะงอกเป็นพืชที่เติบโตในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน โดยกระบวนการเพาะงอกสามารถทำได้โดยการนำเมล็ดธัญพืชไม่แช่น้ำนานหลายชั่วโมง จากนั้นนำเมล็ดธัญพืชที่แช่น้ำใส่ภาชนะโดยให้มีอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม หลังจากนั้นรอให้ต้นงอกขึ้นมา โดยจะใช้เวลาประมาณ 2-7 วัน ขึ้นอยู่กับชนิดของเมล็ดธัญพืช หลังจากนั้นรอให้ ต้นอ่อนพืช มีความยาวสัก 2-5 เซนติเมตร จึงสามารถนำมารับประทานได้ มีเมล็ดธัญพืชหลากหลายชนิดที่สามารถนำมาทำเมล็ดพืชเพาะงอกได้ ดังนี้

    โดยส่วนใหญ่แล้วเมล็ดพืชเพาะงอกนิยมรับประทานแบบดิบ ไม่ว่าจะนำมาใส่สลัด รับประทานกับน้ำพริก หรืออาจจะนำมาปรุงสุก โดยผ่านความร้อนเพียงเล็กน้อย เช่น การผัดน้ำมัน ก็ช่วยให้รับประทานได้ง่ายขึ้น

    ประโยชน์ของ เมล็ดพืชเพาะงอก

    อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์

    โดยปกติแล้วเมล็ดพืชเหล่านี้อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย เช่น โปรตีน โฟเลต แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส แมงกานีส วิตามินซี วิตามินเอ และวิตามินเค แต่จากการศึกษาพบว่า การนำเมล็ดพืชเหล่านี้มาผ่านกระบวนการแตกหน่อจะช่วยให้ได้สารอาหารบางชนิดเพิ่มขึ้น เช่น โปรตีน กรดอะมิโนจำเป็น นอกจากนี้การรับประทานพืชเพาะงอกยังดีต่อระบบย่อยอาหารอีกด้วย ที่สำคัญ พืชเพาะงอก เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีอีกด้วย

    ช่วยในการย่อย

    การรับประทาน พืชเพาะงอก มีส่วนช่วยในระบบการย่อยมากมาย โดย พืชเพาะงอก จะมีเอนไซม์ที่มีชีวิตในปริมาณที่สูง ซึ่งเอนไซม์เหล่านั้นมีส่วนช่วยในการส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญและปรับปรุงปฏิกิริยาทางเคมีในการย่อยอาหาร นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารอีกด้วย ที่สำคัญเมล็ดพืชเพาะงอกเหล่านี้มีปริมาณไฟเบอร์สูงช่วยให้ขับถ่ายได้ดี

    ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

    จากการวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่า พืชเพาะงอก มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตลดลง นอกจากนี้ยังเพิ่มการทำงานของเอนไซม์แอไมเลส (Amylase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ร่างกายใช้ย่อยและดูดซึมน้ำตาล ซึ่งดีสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน แต่อย่างไรก็ตามการศึกษาเรื่องนี้ยังมีข้อจำกัด จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อมูลอย่างแน่ชัด

    บำรุงสุขภาพดวงตา

    พืชเพาะงอก ปริมาณวิตามินเอ ซึ่งวิตามินเอเป็นวิตามินที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสุขภาพดวงตา ช่วยปรับปรุงการมองเห็นและสายตาให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ดวงตาอีกด้วย

    ปรับปรุงสุขภาพหัวใจ

    ต้นอ่อนพืช หรือ พืชเพาะงอก มีปริมาณกรดไขมันโอเมกา 3 ซึ่งกรดไขมันชนิดนี้มีส่วนช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลดีให้กับร่างกาย และยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในเลือดอีกด้วย นอกจากนี้กรดไขมันโอเมกา 3 ยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบของร่างกาย และยังช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ

    ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

    วิตามินซีเป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่สามารถพบได้ใน ต้นอ่อนพืช ที่ผ่านกระบวนการแตกหน่อ ซึ่งวิตามินซีมีส่วนช่วนในการเพิ่มการทำงานให้กับเม็ดเลือดขาว เพื่อให้ต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมได้ดียิ่งขึ้น เมื่อเม็ดเลือดขาวทำงานได้ดี ร่างกายก็จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีตามไปด้วย

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย ชลธิชา จันทร์วิบูลย์ · แก้ไขล่าสุด 09/06/2021

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา