ลูกน้อยหายใจครืดคราดคุ หมายถึง อาการที่ลูกน้อยหายใจแล้วมีเสียงบางอย่างแทรกอยู่ด้วย หรือคล้ายมีบางอย่างอุดกั้นหรือติดค้างในลำคอทำให้ลูกหายใจได้ไม่สะดวก ซึ่งอาการเหล่านี้ย่อมทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความสงสัยและวิตกกังวลว่าเกิดจากอะไร เป็นสัญญาณสุขภาพที่อันตรายร้ายแรงหรือไม่ สิ่งสำคัญคือ ควรคอยสังเกตอาการลูกน้อยอย่างใกล้ชิด เพราะหากลมหายใจติดขัด หรือขาดห้วงเป็นเวลานานอาจนำไปสู่อันตรายต่อสุขภาพได้
[embed-health-tool-vaccination-tool]
สาเหตุที่ ลูกน้อยหายใจครืดคราด
อาการหายใจครืดคราดในเด็ก อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียซึ่งทำให้เนื้อเยื่อในทางเดินหายใจบวม เช่น ไข้หวัด
- มีทางเดินหายใจที่แคบและตีบตั้งแต่กำเนิด ทำให้หายใจได้ลำบาก
- เกิดอาการบวมในทางเดินหายใจ จนก่อให้เกิดการอุดตัน หรืออักเสบ
- เนื้อเยื่อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนอ่อนยวบ จนขัดขวางการไหลเวียนของอากาศ ทำให้เวลาหายใจมีเสียงดัง หรือหายใจมีเสียงครืดคราด
- เกิดการกดทับในทางเดินหายใจ จนหายใจลำบาก
- น้ำหนักตัวมาก หรือเป็นโรคอ้วน
- อาการทางสุขภาพเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด โรคปอด ปอดอุดกั้นเรื้อรัง
สัญญาณของ ลูกน้อยหายใจครืดคราด
ลักษณะอาการโดยทั่วไปดังต่อไปนี้ อาจเป็นสัญญาเตือนว่า ลูกน้อยหายใจครืดคราด และควรเฝ้าระวัง ดังนี้
- หายใจแปรปรวน ไม่คงที่
- หายใจเร็ว
- มีการกลั้นหายใจ โดยเฉพาะในขณะนอนหลับ อาจสังเกตเห็นว่าลูกน้อยมีภาวะหยุดหายใจ 2-3 วินาที
- เวลาลูกน้อยหายใจ จะมีเสียงคล้ายเสียงกรน เสียงฮึดฮัด หรือเสียงครืดคราดเกิดขึ้น
หากมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ ไอ สำลักบ่อย หรืออาการที่ผิดปกติ ควรปรึกษากับคุณหมอสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ทำอย่างไรเมื่อลูกน้อยหายใจครืดคราด
เมื่อลูกน้อยหายใจครืดคราด เป็นระยะเวลาหลายวันติดต่อกัน ควรพาไปพบคุณหมอ โดยคุณหมอจะทำการวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยหายใจครืดคราด เช่น หายใจครืดคราดเนื่องจากเป็นหอบหืด หายใจครืดคราดเนื่องจากมีการติดเชื้อในทางเดินหายใจ หรือหายใจครืดคราดเนื่องมาจากมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในจมูกหรือทางเดินหายใจ จากนั้นคุณหมอจึงจะรักษาตามสาเหตุ โดยวิธีการรักษาอาจมีตั้งแต่การรับประทานยา ไปจนถึงการผ่าตัด โดยเฉพาะในกรณีที่เด็กมีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างทางเดินหายใจตั้งแต่แรกเกิด จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อให้สามารถหายใจได้สะดวกและได้ดีขึ้น
ป้องกันลูกน้อยหายใจครืดคราดได้หรือไม่
การป้องกันลูกน้อยหายใจครืดคราด ซึ่งมีสาเหตุมาจากปัจจัยภาพนอกที่ไม่ใช่โรคประจำตัวหรือโรคร้ายแรงอื่น ๆ อาจลองปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- ควบคุมน้ำหนักตัวของลูกน้อยให้เหมาะสม อย่าให้มากเกินจนเสี่ยงต่อโรคอ้วน เพราะอาจนำไปสู่อาการหายใจครืดคราด
- สอนให้ลูกน้อยล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โยเฉพาะหากนำนิ้วมือแหย่เข้ารูจมูก
- ไม่สูบบุหรี่ หรือพาลูกน้อยเข้าใกล้สถานที่ที่มีการสูบบุหรี่ เพราะอาจไปกระตุ้นอาการหายใจครืดคราดให้กำเริบ
- หากลูกน้อยมีอาการแพ้ ให้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่กระตุ้นให้อาการแพ้กำเริบ
ควรไปพบคุณหมอเมื่อไร
หากคุณพ่อคุณแม่พบว่า ลูกน้อยหายใจมีเสียงดัง หรือ หายใจครืดคราด ควรหาเวลาพาลูกไปพบคุณหมอเฉพาะทางโรคหู คอ จมูก เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาต่อไป โดยเฉพาเมื่อมีอาการดังต่อไปนี้ ควรพาลูกไปพบคุณหมอทันที
- หายใจไม่ออกอย่างรุนแรง
- หยุดหายใจ
- ร่างกายมีการเปลี่ยนสี เช่น ริมฝีปากเป็นสีน้ำเงินหรือสีแดงเข้ม
- หายใจแล้วมีเสียงดัง
- เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก
- มีเสมหะ น้ำมูกมีเลือดปน
- วิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย
- ปากบวม
- มีอาการแน่นในลำคอ