ทุกคนคงสงสัย และประหลาดใจเมื่อได้ยินชื่อของโรคนี้อย่างแน่นอน เพราะอาจยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนักสำหรับ โรคสมองน้อยย้อย ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์ที่จะเกิดขึ้นได้ยาก 1 ในพันล้านคนเลยก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ตามเราไม่ควรประมาทกับความอันตรายนี้ เพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้กับคนที่คุณรัก รวมทั้งตัวคุณเองด้วย รู้ก่อน ก็ย่อมรักษาได้ก่อน วันนี้ Hello คุณหมอ ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักโรคสมองน้อยย้อยนี้กัน
โรคสมองน้อยย้อย (Chiari Malformation) เกิดจากอะไร?
โรคสมองน้อยย้อยในภาษาอังกฤษนั้นเรียกว่า เชียรี่ มาลฟอเมชั่น (Chiari Malformation) คือ ความผิดปกติของโครงสร้างความสัมพันธ์ของกะโหลกศีรษะและสมองที่ไม่สมดุลกัน เนื่องจากกะโหลกศีรษะนั้นมีขนาดที่เล็กกว่าทำให้เนื้อเยื้อสมองส่วนท้ายทอยที่มีขนาดที่โตกว่าย้อยลงมากดทับส่วนอื่นๆ เช่น ก้านสมอง กระดูกสันหลัง เป็นต้น
สาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคสมองน้อยย้อย อาจมีปัจจัยมาจากพันธุกรรม การขาดวิตามิน สารอาหาร สารเคมีอันตราย ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นทารกในครรภ์ รวมถึงภาวะครรภ์เป็นพิษ และการไหลเวียนน้ำส่วนของไขสันหลังนำไปสู่การอุดตันสัญญาณบางอย่างที่ส่งจากสมองทำให้เกิดการสะสมของเหลวจนเกิดการเติบโตของสมองส่วนท้ายทอยขึ้น
ประเภทของ โรคสมองน้อยย้อย มีความรุนแรงของโรคต่างกันแค่ไหน
ประเภทที่ 1 เป็นประเภทเกี่ยวข้องกับต่อมทอมซิล อาจมีอาการปวดหัว ไอ จาม หายใจไม่ออก เจ็บคอ อาเจียน ซึ่งยังคงถือว่าเป็นอาการแรกเริ่มที่ไม่ชัดเจนนัก จนกว่าผู้ป่วยจะเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน
ประเภทที่ 2 เกี่ยวข้องกับเนื้อเยื่อสมองน้อยและก้านสมอง บางกรณีเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับสมองน้อยอาจหายไปโดยที่คุณไม่รู้ตัว โดยประเภทนี้สามารถเป็นได้ตั้งแต่ทารกในครรภ์ และมีความเสี่ยงรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้หากไม่รีบตรวจตั้งแต่ต้น
ประเภทที่ 3 มีสภาวะที่ค่อนข้างรุนแรงเช่นกัน ซึ่งมาพร้อมกับอาการโพรงสมองคั่งน้ำ (Hydrocephalus) เกิดจากก้านสมองขยายยื่นออกมาจนถึงไขสันหลัง และสามารถทำลายระบบประสาทจนถึงขั้นเสียชีวิต
ประเภทที่ 4 ซึ่งเป็นความไม่สมบูรณ์ในของ ซีรีเบลลัม (Cerebellum) อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ยังเยาว์วัย หรือสามารถเกิดการเสียชีวิตได้ตั้งแต่ยังเด็ก
สัญญาณเตือนแรกเริ่มของโรคสมองน้อยย้อย
- เวียนหัว อาเจียน
- ไอ หรือจาม
- เสียงแหบลง
- เจ็บคอเวลากลืนอาหาร
- สูญเสียการได้ยิน
- มีปัญหาในการเคลื่อนไหว เช่น การเดิน
- ปริมาณน้ำลายมากเกินไป
- การหายใจผิดปกติ
- อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง
- อาการชัก
รีบรักษาก่อนสายเกินไป ด้วยเทคนิคทางการแพทย์
การผ่าตัดเป็นวิธีรักษาเพียงอย่างเดียวที่สามารถแก้ไข และป้องกันการลุกลามของโรคสมองน้อยย้อยโดยแบ่งออกได้ ดังนี้
- การผ่าตัดแบบบีบอัด
เป็นการกำจัดปัญหาส่วนล่างของกะโหลกศีรษะ และแก้ไขโครงสร้างกระดูกสันหลังที่ผิดปกติ ศัลยแพทย์อาจทำการเปิดขยายเนื้อเยื่อไขสันหลัง เพื่อให้มีพื้นที่การไหลเวียนของเหลวได้ดีในบริเวณไขสันหลัง ซึ่งป้องกันการก่อให้เกิดสภาวะสมองคั่งน้ำ
- กระแสไฟฟ้า
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจใช้ความถี่กระแสไฟฟ้าเข้าช่วย เพื่อย่อเนื้อเยื่อสมองส่วนล่างของซีรีเบลลัม (Cerebellum) ให้เล็กลงในขนาดที่พอดี
- การผ่าตัดกระดูกสันหลังแบบลามิเนกโตมี (Laminectomy)
คือการกำจัดกระดูกส่วนนอกของกระดูกสันหลัง เพื่อลดแรงกดทับบนรากประสาท และไขสันหลัง อาจจำเป็นต้องมีการผ่าตัดแบบอื่นที่เหมาะสมมาเป็นตัวช่วยเพิ่มเติม
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะวินิจฉัยในเบื้องต้น และตรวจสอบร่างกายในด้านการควบคุมการทำงานของสมองน้อยก่อนการรักษา ผู้ป่วยอาจได้รับการผ่าตัดที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่ปัจจัยทางด้าน สุขภาพ โรคประจำตัว และอายุที่เหมาะสม
[embed-health-tool-bmi]