ประโยชน์สุขภาพจากเมล็ดเจียนั้นมีมากมายไม่ต่างจากเมล็ดแฟลกซ์ และนอกจากจะดีต่อการลดน้ำหนักแล้ว เมล็ดเจียยังเป็นอาหารประเภทกลูเตนฟรี หรือไม่มีกลูเตน (Gluten Free) จึงเหมาะกับผู้ที่แพ้กลูเตน มีภาวะไวต่อกลูเตน หรือเป็นโรคเซลิแอค (Celiac disease) ด้วย
3. เมล็ดทานตะวัน
เมล็ดทานตะวันมีโปรตีน ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว แมกนีเซียม และวิตามินอีสูง กินแล้วช่วยป้องกันและซ่อมแซมหลอดเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและบำรุงกระดูก ทั้งยังมีคุณสมบัติต้านสารก่อมะเร็ง และต้านการอักเสบได้ด้วย โดยผู้เชี่ยวชาญเผยว่า การบริโภคเมล็ดทานตะวันอย่างน้อย 5 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยลดระดับของซี-รีแอคทีฟ โปรตีน (C-reactive protein หรือ CRP) ซึ่งเป็นสารเคมีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบของร่างกาย
นอกจากนี้ งานศึกษาวิจัยหลายชิ้นยังเผยว่า แมกนีเซียมที่มีมากในเมล็ดทานตะวันยังช่วยลดระดับความรุนแรงของโรคหอบหืด ลดระดับความดันโลหิต ช่วยป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรน และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และภาวะหัวใจวายด้วย
4. เมล็ดฟักทอง
เมล็ดฟักทองไม่ใช่แค่เคี้ยวเพลิน แต่ยังอุดมไปด้วยฟอสฟอรัส ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และกรดไขมันโอเมก้า 6 ทั้งยังมีไฟเบอร์ โปรตีน แมกนีเซียม แมงกานีส สังกะสี วิตามินบี กรดโฟลิค รวมถึงเซโรโทนิน ในรูปแบบแอล-ทริปโตเฟน (L-Tryptophan) ด้วย
การบริโภคเมล็ดฟักทองจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ช่วยป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อ ช่วยพัฒนาสุขภาพหัวใจ อีกทั้งผลจากการศึกษาเชิงสังเกตการณ์ชิ้นหนึ่งที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 8,000 คน ยังพบว่า ผู้ที่บริโภคเมล็ดฟักทองและเมล็ดทานตะวันเป็นประจำ มีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งเต้านมลดลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ งานศึกษาวิจัยในเด็กยังพบว่า เมล็ดฟักทองช่วยลดปริมาณแคลเซียมในปัสสาวะ จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ด้วย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย