ไวรัสโคโรนา

โรค Covid-19 ที่แพร่ระบาดและส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 ร้อยล้านรายทั่วโลก เป็น ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ชนิดหนึ่ง แต่ไวรัสโคโรนานั้นไม่ได้มีเพียงแค่ Covid-19 เท่านั้น ยังมีไวรัสก่อโรคอีกมากมาย ที่ Hello คุณหมอ ได้รวบรวมข้อมูลมาให้อ่านกัน ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

ไวรัสโคโรนา

สัญญาณเตือน อาการลองโควิด มีอะไรบ้าง รักษาอย่างไร

อาการลองโควิด แตกต่างไปในแต่ละราย โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ เหนื่อยล้าอย่างมาก เหนื่อยง่าย รู้สึกหายใจไม่ออก สูญเสียการได้กลิ่นหรือรับรู้รสชาติ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เป็นผื่น หากรู้สึกว่าตัวเองมีอาการเหล่านี้ ควรดูแลตนเองในเบื้องต้นด้วยการนอนหลับให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อบำรุงร่างกาย และไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาตามอาการ หรือประเมินสภาพร่างกายเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม อาจช่วยให้อาการลองโควิดหายไปได้ในที่สุด [embed-health-tool-bmi] อาการลองโควิด คืออะไร อาการลองโควิด (Long-term effects of COVID-19 หรือ Long COVID) เป็นอาการที่เกิดขึ้นหลังจากหายจากการติดเชื้อโควิดแล้ว โดยร่างกายจะมีอาการผิดปกติหลังจากได้รับเชื้อนานกว่า 4-12 สัปดาห์ขึ้นไป โดยทั่วไป ผู้ป่วยโควิด-19 ไม่ว่าจะมีอาการเล็กน้อยหรือรุนแรง ก็ล้วนมีความเสี่ยงที่จะเป็นลองโควิดหรืออาการป่วยบางอย่างในระยะยาวได้ แม้ว่าจะตรวจไม่พบเชื้อในร่างกายแล้วก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงอาการลองโควิด ผู้ที่มีความเสี่ยงต่ออาการลองโควิด ได้แก่ ผู้ที่มีอาการป่วยรุนแรงจากโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือต้องการการดูแลจากบุคลากรทางการแพทย์อย่างใกล้ชิดในฐานะผู้ป่วยหนัก ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือเป็นโรคเรื้อรังอยู่แล้วก่อนที่จะได้รับเชื้อโควิด-19 เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มีอาการของกลุ่มอาการอักเสบหลายระบบในเด็กหรือภาวะมิสซี (MIS- C) และกลุ่มอาการอักเสบหลายระบบในผู้ใหญ่ หรือภาวะมิสเอ (MIS-A) ในช่วงที่เป็นโควิดหรือหลังหายจากโควิด ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้ยาก เกิดจากระบบต่าง ๆ ในร่างกายเกิดการอักเสบ และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้เสียชีวิตได้ อาการลองโควิดเป็นอย่างไร โควิด-19 […]

สำรวจ ไวรัสโคโรนา

ไวรัสโคโรนา

เช็ก! พื้นที่สีแดงติดเชื้อโควิด มีจังหวัดอะไรบ้าง

ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ในประเทศไทย มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงได้กำหนดพื้นที่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งพื้นที่ที่ต้องควบคุมและเข้มงวดสูงสุด คือ พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก หรือที่เรียกว่า “พื้นที่สีแดง” เรามาเช็กกันหน่อยดีกว่าว่า พื้นที่สีแดงติดเชื้อโควิด มีจังหวัดที่คุณอยู่หรือไม่ และจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรหากอยู่ในพื้นที่สีแดง ติดตามอ่านได้ในบทความ Hello คุณหมอ   พื้นที่สีแดงติดเชื้อโควิด พื้นที่สีแดงติดเชื้อโควิด  คือ พื้นที่ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ซึ่งในปัจจุบัน คือ พื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจากพบยอดผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจำนวนมาก รัฐบาลจึงต้องทำการควบคุมเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่น ให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน พยายามไม่ออกไปในที่ที่คนพลุกพล่าน เว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร  มาตรการป้องกัน สำหรับพื้นที่สีแดงติดเชื้อโควิด ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ออกมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ฉบับที่ 6 โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้  ห้ามใช้อาคารหรือสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ห้ามจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการควบคุมโรค ยกเว้นจะได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ เช่น การจัดงานแต่ง แต่ต้องจัดตามมาตรการตามแนวทางสาธารณสุข  ปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค โดยให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้พิจารณาสั่งปิดพื้นที่ภายในจังหวัด การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ให้จัดระเบียบการเข้าใช้บริการ จำกัดจำนวนคนเข้าร้าน โดยให้จัดสถานที่ตามแนวทางปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร สามารถเปิดได้ตามปกติ แต่เป็นลักษณะซื้อกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถสั่งปิดหรือเปิดพื้นที่นอกเหนือจากที่กำหนดได้ สามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ […]


ไวรัสโคโรนา

ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 มีอะไรบ้าง

กระแสข่าวเกี่ยวกับ ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในปัจจุบัน ส่งผลให้ประชาชนชาวไทยหลายคนเกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยหลังเข้ารับวัคซีนโควิด-19 และลังเลอยู่ว่าจะเข้ารับวัคซีนดีหรือไม่ แต่ความจริงแล้ว การฉีดวัคซีนอาจไม่ได้ร้ายแรงและน่ากลัวอย่างที่ทุกคนคิด เรื่องนี้จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ติดตามอ่านได้ในบทความนี้ของ Hello คุณหมอ เลยค่ะ สถานการณ์โควิด-19 กับ ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ข่าวสารเกี่ยวกับ ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 นับว่าเป็นกระแสข่าวที่ประชาชนชาวไทยหลายคนให้ความสนใจ เพราะรู้สึกกังวลในเรื่องของความปลอดภัยหลังฉีด ไม่มั่นใจระหว่างฉีดวัคซีนกับไม่ฉีดวัคซีนอันไหนจะดีต่อสุขภาพมากกว่ากัน  องค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ร่างกายจะได้รับผลข้างเคียงเล็กน้อยถึงปานกลางหลังได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เช่น มีไข้ต่ำ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายกำลังตอบสนองต่อวัคซีน และกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสารเคมีบางชนิด โดยเฉพาะแอนติเจน สารที่ก่อให้เกิดการตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันและเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับเชื้อไวรัส ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 มีอะไรบ้าง ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุดหลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 มีดังต่อไปนี้ มีไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดเมื่อยบริเวณที่ฉีดวัคซีน ร่างกายอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว บริเวณกล้ามเนื้อ ถึงแม้ว่าวัคซีนจะได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาว่าปลอดภัย แต่การฉีดวัคซีนเหล่านี้ทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนจะมีอาการไม่รุนแรงและสามารถหายได้เอง โดยผลข้างเคียงจะอยู่เพียง 12-24 ชั่วโมงหลังการฉีดวัคซีน หากร่างกายมีผลข้างเคียงนานเกิน 48 ชั่วโมง ควรติดต่อโรงพยาบาลเพื่อขอคำแนะนำในการรักษาตามลำดับขั้นตอนต่อไป ติดเชื้อโควิดมาก่อน ยังจำเป็นต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือไม่? สำหรับผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 มาก่อน ถึงแม้ว่าจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ก็มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้ ดังนั้นจึงควรได้รับวัคซีนโควิด-19 เสมอ แม้ว่าจะเคยเป็นโรคโควิด-19 มาก่อน […]


ไวรัสโคโรนา

ระวัง! โควิดไม่แสดงอาการ ตรวจไม่พบเชื้อ แต่ปอดพัง แถมแพร่เชื้อได้

ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มีอาการเบื้องต้นที่พบได้บ่อย คือ ไข้สูง เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ลิ้นไม่รับรส แต่ในปัจจุบัน กลับพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ หรือที่เรียกว่า โควิดไม่แสดงอาการ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้รับรู้ รักษา และควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ยาก เราจึงควรดูแลตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 บทความนี้ของ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาดูกันค่ะว่า เพราะสาเหตุใด ผู้ป่วยถึงติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่แสดงอาการ แล้วเราพอจะมีวิธีป้องกันตัวเองจากโรคนี้อย่างไรบ้าง [embed-health-tool-vaccination-tool] ทำความรู้จัก โควิดไม่แสดงอาการ โควิดไม่แสดงอาการ (Asymptomatic COVID-19) คือ ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่กลับไม่แสดงอาการใด ๆ ที่บ่งบอกว่าเป็นโรคนี้ โดยพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากกว่า 1 ใน 3 ที่ไม่แสดงอาการ ส่วนใหญ่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีภูมิคุ้มกันต้านทานต่อโรค เป็นต้น   เว็บข่าวด้านสุขภาพ Medical News Today ในประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า จากผลการวิจัยพบ ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซาร์ส-โควี-2 (SARS-CoV-2) มีอายุน้อยกว่า 20 ปี กว่า 81.9% […]


ไวรัสโคโรนา

5 แนวทาง จัดการศพผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19

ในปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาตรการการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 จึงต้องรัดกุมและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อโรค บทความนี้ Hello คุณหมอ นำ 5 แนวทาง จัดการศพผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มาให้คุณผู้อ่านได้ศึกษากันดู แนวทางที่ว่าจะมีอะไรบ้าง ติดตามอ่านได้ในบทความนี้เลยค่ะ 5 แนวทาง จัดการศพผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2564 ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ได้เปิดเผยข้อมูลจากสถาบันพยาธิวิทยาการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับ 5 แนวทางจัดการศพผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต สารคัดหลั่งที่อยู่ในศพยังสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมสารคัดหลั่ง โดยเก็บศพไว้ในถุงซิปกันน้ำอย่างน้อยสองชั้น และใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคทางด้านนอกถุงเก็บศพ ห้ามเปิดถุงเก็บศพออกโดยเด็ดขาด และจะไม่มีการอาบน้ำศพ รดน้ำศพ และฉีดยารักษาศพ บรรจุศพพร้อมถุงลงในโลงศพ ปิดฝาโลงให้สนิท ญาติหรือผู้ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เสียชีวิต สามารถนำศพไปทำพิธีกรรมทางศาสนาได้อย่างปลอดภัย การเผาหรือฝังศพจะไม่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อ กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ ข้อปฏิบัติในการจัดการศพที่ติดเชื้อโควิด-19 คำแนะนำในการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สำหรับเจ้าหน้าที่และญาติ มีแนวทางการปฏิบัติดังต่อไปนี้ คำแนะนำสำหรับเจ้าหน้าที่ ขณะจัดการศพจะต้องสวมชุดPPE ขณะทำงานตลอดเวลา และถอดชุดออกทันทีหลังเสร็จสิ้นการจัดการศพ เจ้าที่หน้าต้องเคยผ่านการอบรมการใส่-ถอด ชุดPPE และการจัดการศพมาก่อน สำหรับศพที่รอการยืนยันทางห้องปฏิบัติการ ควรเก็บในตู้เย็นเก็บศพที่มีช่องแยก ห้ามเก็บในห้องเย็นหรือเก็บรวมกับศพอื่น ๆ  หากศพได้รับการยืนยันว่าพบเชื้อ จะต้องบรรจุศพพร้อมถุงลงในโลงศพ […]


ไวรัสโคโรนา

เฝ้าระวัง! จุดเสี่ยง คลัสเตอร์โควิด-19 ในกรุงเทพมหานคร

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มียอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วัน โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร พบกลุ่มคลัสเตอร์ หรือกลุ่มผู้ป่วยโควิด ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงต้องคอยติดตามข่าวสารเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเฝ้าระวังตนเองให้ปลอดภัยจากสถานการณ์โควิด-19 บทความนี้ Hello คุณหมอ ได้นำข้อมูล จุดเสี่ยง คลัสเตอร์โควิด-19 ในประเทศไทย มาให้ทุกคนเช็กกันดูค่ะ จะมีจังหวัดไหนบ้าง มาดูพร้อมกันเลย  นิยาม คลัสเตอร์โควิด-19 คลัสเตอร์โควิด-19 คือ กลุ่มคนที่ติดเชื้อโควิด-19 จากสถานที่เดียวกัน กลุ่มคนที่อยู่รวมตัวกัน หรือจากสถานที่ที่มีการทำกิจกรรมร่วมกัน โดยมีจำนวนคนมากกว่า 2 คนขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ทางการแพทย์ คำว่า คลัสเตอร์ สามารถใช้ได้กับทุก ๆ โรค รวมถึงภาวะที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพอื่น ๆ เช่น โรคมะเร็ง ภาวะบกพร่องที่เกิดขึ้นเฉพาะที่  เฝ้าระวัง! จุดเสี่ยง คลัสเตอร์โควิด-19 ในกรุงเทพมหานคร ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ได้อัปเดตข้อมูลกลุ่มคลัสเตอร์ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ที่ต้องเฝ้าระวังไว้จำนวน 32 แห่ง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ เขต สถานที่ กลุ่มเฝ้าระวังสูงสุด เขตบางกะปิ ตลาดบางกะปิ, แคมป์ก่อสร้าง เขตหลักสี่ แคมป์ก่อสร้าง เขตคลองเตย ตลาดคลองเตย, ชุมชนแออัดคลองเตย, แคมป์ก่อสร้าง เขตดินแดง ตลาดห้วยขวาง, แฟลตดินแดง  เขตห้วยขวาง ชุมชนโรงปูน, แคมป์ก่อสร้าง เขตบางรัก แคมป์ก่อสร้าง, […]


ไวรัสโคโรนา

ไขข้อข้องใจ การตรวจเชื้อโควิด แบบ RT-PCR คืออะไร?

ในปัจจุบันประเทศไทยมีวิธีการตรวจหาเชื้อโควิดอยู่ 2 วิธี คือ การตรวจเชื้อโควิด แบบ Real-time RT PCR และแบบ Rapid Test โดยโรงพยาบาลหรือสถานที่ให้บริการการตรวจเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่ มักใช้วิธี การตรวจเชื้อโควิด แบบ RT-PCR เนื่องจากมีความแม่นยำสูง ใช้ระยะเวลาในการเก็บตัวอย่างไม่นาน และทราบผลได้ไว เร็วที่สุดคือ ภายใน 24 ชั่วโมง บทความนี้ Hello คุณหมอ จึงนำข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจเชื้อโควิดวิธีนี้มาให้ทุกคนได้ศึกษากันค่ะ  การตรวจเชื้อโควิด แบบ RT-PCR หรือ Real-time RT PCR การตรวจเชื้อโควิดแบบ RT-PCR หรือ Real-time RT PCR เป็นเทคนิคการตรวจหาสารพันธุกรรมที่มีความแม่นยำและน่าเชื่อถือที่สุด จึงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นมาตรฐานสากลและเคยใช้ในตรวจโรคซาร์ส (Severe acute respiratory syndrome : SARS) ที่ระบาดในปี พ.ศ. 2545   สำหรับวิธีการเก็บตัวอย่าง เจ้าหน้าที่จะใช้ก้านเก็บตัวอย่าง หรือที่เรียกว่า “Swab” สอดเข้าไปในโพรงจมูกเพื่อนำเชื้อมาตรวจในห้องปฎิบัติการ […]


ไวรัสโคโรนา

อันตราย! โควิดสายพันธุ์อินเดีย ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นราวติดจรวด

โควิดสายพันธุ์อินเดีย ได้แพร่ระบาดเข้าสู่ประเทศไทยอย่างรวดเร็ว โดยถูกค้นพบครั้งแรก จากแคมป์คนงานก่อสร้างในเขตหลักสี่ จังหวัดกรงเทพมหานคร จำนวน 36 ราย ซึ่งในปัจจุบันยังพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดียอย่างต่อเนื่องตามภูมิภาคต่าง ๆ ในประเทศไทย เนื่องจากเชื้อไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิมถึง 20% ดังนั้นเราจึงต้องป้องกันตนเองเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย บทความนี้ Hello คุณหมอ จึงนำข้อมูลของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์อินดีย มาให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น เพื่อที่จะได้เข้าใจและป้องกันตนเองได้อย่างถูกต้องและถูกวิธี  ทำความรู้จัก โควิดสายพันธุ์อินเดีย  โควิดสายพันธุ์อินเดียมีชื่อทางการว่า สายพันธุ์ B.1.6.7  ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อต้นเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2563 ในเมืองนาคปารุระ รัฐมหาราษฎระ ประเทศอินเดีย โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ลักษณะการกลายพันธุ์ โควิดสายพันธุ์อินเดีย มีเชื้อการกลายพันธุ์แบบ “Double Mutant” ซึ่งการกลายพันธุ์ 2 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งแรกที่ E484Q มีลักษณะคล้ายกับที่พบในประเทศแอฟริกาใต้และประเทศบลาซิล และตำแหน่งที่สองที่ L452R คล้ายกับที่พบในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา   ความรุนแรงของการแพร่กระจายเชื้อโรค เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์อินเดียสามารถแพร่กระจายเชื้อโรคได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิมและสามารถต้านทานวัคซีนบางชนิดได้ ส่งผลให้ผู้ที่ติดเชื้อมีอาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว เชื้อโควิคสายพันธุ์อินเดีย รุนแรงมากแค่ไหน? ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานการยืนยันที่ชัดเจนถึงความรุนแรงของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์อินเดีย แต่จากผลการศึกษาการวิจัยพบว่า เชื้อโควิคสายพันธุ์อินเดียสามารแพร่กระจายเชื้อได้อย่างรวดเร็ว และสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เพิ่มโอกาสในการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น วัคซีนป้องกัน เชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย  ในปัจจุบันพบว่า […]


ไวรัสโคโรนา

5 สายพันธุ์โควิด-19 ที่มีการกลายพันธ์ุในปัจจุบัน

โรคโควิด-19 (Covid-19) หมายถึงการติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก ซึ่งในปัจจุบัน สายพันธุ์โควิด-19 ได้มีการกลายพันธุ์ออกเป็นสายพันธุ์ต่าง ๆ เช่น อัลฟ่า (Alpha) เบต้า (Beta) แกมม่า (Gamma) เดลต้า (Delta) รวมถึงสายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่อว่า โอไมครอนหรือโอมิครอน (Omicron) ซึ่งโควิด-19 แต่ละสายพันธุ์อาจมีอัตราการแพร่กระจาย และความรุนแรงของการติดเชื้อที่แตกต่างกันออกไป 5 สายพันธุ์โควิด-19 ที่มีการกลายพันธ์ุในปัจจุบัน 1. สายพันธุ์อัลฟ่า (สายพันธุ์ B.1.1.7)     โควิด-19 สายพันธุ์อัลฟ่า (Alpha) หรือสายพันธุ์อังกฤษ  ค้นพบที่มณฑลเคนท์ สหราชอาณาจักร ในช่วงเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2564  และแพร่กระจายไปหลายประเทศทั่วโลก  มีอัตราการแพร่กระจายเชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิม 40-90% นอกจากนี้ผลงานวิจัยที่ ถูกแพร่ใน เว็บไซต์ Nature เมื่อ วันที่ 15 มี.ค. ปี พ.ศ. 2564 เรื่องอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อสาย SARS-CoV-2 B.1.1.7  รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากสายพันธุ์ B.1.1.7 […]


ไวรัสโคโรนา

เรื่องที่ควรรู้ก่อน การรับวัคซีนโควิด-19

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยืดเยื้อมาเป็นเวลาปีกว่าแล้ว นับตั้งแต่มีการระบาดครั้งแรกในเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2562 วงการแพทย์ก็เร่งศึกษาโรคอุบัติใหม่นี้ จนสามารถสร้าง วัคซีนโควิด-19 ได้ในช่วงระยะเวลาอันสั้น และตอนนี้หลายประเทศก็ได้เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชากรในประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ ลดอัตราการเจ็บป่วยรุนแรง และอัตราการเสียชีวิตจากโรค การฉีดวัคซีนถือเป็นวิธีลดการแพร่ระบาดของโรคที่ได้ผลที่สุดในปัจจุบัน และประเทศไทยเองก็เลือกรับมือกับโรคโควิด-19 ด้วยวิธีนี้เช่นกัน สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า การรับวัคซีนโควิด-19 สำคัญอย่างไร และเราควรเตรียมตัวก่อนไปฉีดวัคซีนอย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบมาให้คุณแล้ว การรับวัคซีนโควิด-19 สำคัญอย่างไร แนวคิดเรื่องการฉีดวัคซีน มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ผู้คนเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับร่างกาย เป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค เช่น โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคไข้หวัดใหญ่ และในยุคนี้ก็มี วัคซีนโควิด-19 ที่คิดค้นขึ้นเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 ที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยแต่ละประเทศพยายามให้ประชาชนได้รับวัคซีนโควิด-19 อย่างทั่วถึง เนื่องจากการรับวัคซีนโควิด-19 นั้นมีความสำคัญดังนี้ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย และช่วยลดความรุนแรงของอาการที่อาจเกิดขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงในการติดโรคโควิด-19 (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค. 2564 เผยว่า มีวัคซีนโควิด-19 แค่ 3 ยี่ห้อ คือ Pfizer […]


ไวรัสโคโรนา

ชนิดของวัคซีนโควิด-19 มีกี่ชนิด แตกต่างกันอย่างไร มาหาคำตอบกัน

ในปัจจุบัน หลากหลายบริษัทด้านการแพทย์ ได้เร่งแข่งขันกันผลิต วัคซีนโควิด-19 ออกมา เพื่อช่วยรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงทั่วโลก ทำให้มีวัคซีนโควิด-19 ชนิดต่าง ๆ ออกมา แต่ ชนิดของวัคซีนโควิด-19 นั้นจะมีอะไรบ้าง และแต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร มาหาคำตอบพร้อมกันกับ Hello คุณหมอ ได้เลยค่ะ ชนิดของวัคซีนโควิด-19 ที่มีในไทย วัคซีนโควิด-19 ในปัจจุบันมีหลากหลายชนิด แบ่งออกตามยี่ห้อหรือบริษัทที่ผลิตวัคซีนนั้น ๆ และแต่ละประเทศก็อาจจะเลือกใช้วัคซีนที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าจะสั่งวัคซีนชนิดไหนไว้ โดยชนิดของ วัคซีนโควิด-19 ที่มีอยู่ในประเทศไทยตอนนี้ มีอยู่ 2 ชนิดหลัก ๆ ดังนี้ แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) วัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนที่นำเอารหัสพันธุกรรมสำคัญของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 (เชื้อโรคโควิด-19) มาแทรกลงในไวรัสโรคหวัดธรรมดาที่ไม่เป็นอันตราย เมื่อเชื้อไวรัสหวัดธรรมดาที่มีสารพันธุกรรมของเชื้อก่อโรคโควิด-19 เข้าสู่ร่างกาย จะทำการสร้างโปรตีนที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้จดจำและหาทางต่อต้านไวรัสนี้ ทำให้เมื่อร่างกายของเราได้รับเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ขึ้นมาจริง ๆ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเราก็จะพร้อมสำหรับการต่อต้านไวรัสโควิด-19 นั้น วัคซีนชนิดนี้สามารถใช้ได้กับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ผลข้างเคียงที่อาจพบได้หลังจากฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ได้แก่ ปวดเมื่อย เหนื่อยล้า ปวดหัว มีไข้ […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม