โรคทางเดินหายใจ

ระบบทางเดินหายใจ มีส่วนสำคัญในการทำงานตามปกติของร่างกาย ดังนั้น คุณจึงควรเรียนรู้วิธีการรักษาสุขภาพของระบบทางเดินหายใจของคุณให้แข็งแรง ห่างไกลจากความเจ็บป่วย เรียนรู้เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ รวมถึง โรคทางเดินหายใจ ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

โรคทางเดินหายใจ

ความเข้าใจผิดเรื่องไข้หวัด อาจส่งผลให้เราละเลยดูแลสุขภาพตนเอง

ความเข้าใจผิดเรื่องไข้หวัด อาจส่งผลให้เราละเลยการดูแลสุขภาพตนเอง วันนี้ Hello คุณหมอ จึงพาทุกคนมาทำความรู้จักกับโรคไข้หวัดให้มากขึ้นกัน เพื่อที่จะได้ดูแลตนเองได้อย่างถูกต้องและถูกวิธี โดยแบ่งคำถาม-คำตอบ เป็นข้อ ๆ เพื่อให้เข้าใจง่าย ดังนี้ [embed-health-tool-bmi] ความเข้าใจผิดเรื่องไข้หวัด อาจส่งผลให้เราละเลยดูแลสุขภาพตนเอง ถึงแม้ว่าไข้หวัดจะเป็นโรคที่พบได้บ่อย แต่เชื่อว่าหลายคนมักมีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับไข้หวัด ซึ่งอาจส่งผลให้เราละเลยการดูแลสุขภาพของตนเอง หรือดูแลสุขภาพได้ไม่ถูกวิธี วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับโรคไข้หวัดให้มากขึ้น ด้วยการนำ 4 คำถามที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับโรคไข้หวัด มาฝากกันค่ะ ไข้หวัดเป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยที่สุดในโลก จริงหรือไม่ จริง ไข้หวัดเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่พบได้บ่อย จากสถิติพบว่าผู้ใหญ่อาจป่วยเป็นไข้หวัดประมาณ 2-3 ครั้ง/ปี และในวันเด็กอาจป่วยมากกว่าวัยผู้ใหญ่มากขึ้นไปอีก โรคไข้หวัดเกิดจากไวรัส จริงหรือไม่ จริง โรคไข้หวัดเกิดจากเชื้อไวรัสไรโนไวรัส (Rhinoviruses) รวมถึงไวรัสชนิดอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดหวัดอย่างไวรัสอะดีโน (Adenovirus) ไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza virus) เป็นต้น ไข้หวัด รักษาให้หายขาดได้ จริงหรือไม่ ไม่จริง แต่เราสามารถเยียวยาเพื่อบรรเทาอาการได้ เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำปริมาณมาก ๆ รับประทานยาแก้ปวด วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไข้หวัด […]

หมวดหมู่ โรคทางเดินหายใจ เพิ่มเติม

ไข้หวัด

สำรวจ โรคทางเดินหายใจ

ปัญหาระบบทางเดินหายใจแบบอื่น

หายใจมีเสียงวี้ด เป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพหรือเปล่า?

หากคุณสังเกตการหายใจของตัวเอง แล้วพบว่าตนเอง หายใจมีเสียงวี้ด คุณควรจะต้องไปพบคุณหมอ เพื่อวินิจฉัยสิ่งที่เกิดขึ้น จะได้รักษาอาการได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที เพราะอาการหายใจมีเสียงวี้ดนั้น อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพ แต่การ หายใจมีเสียงหวีด จะเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพอะไรบ้าง ในวันนี้ทาง Hello คุณหมอ มีเรื่องนี้มาฝากกัน [embed-health-tool-heart-rate] อาการหายใจมีเสียงวี้ด (Wheezing) เป็นอย่างไร หายใจมีเสียงวี้ด (Wheezing) เป็นการหายใจที่มีการส่งเสียงคล้ายนกหวีดออกมา ซึ่งเสียงที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลมาจากอากาศที่เคลื่อนผ่านทางเดินหายใจที่แคบ โดยโรคหอบหืดจะพบอาการ หายใจมีเสียงหวีด บ่อยที่สุด แต่ก็ไม่ใช่แค่โรคหอบหืดเท่านั้นที่จะมีอาการนี้ อาการหายใจมีเสียงหวีด อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะต่าง ๆ ตั้งแต่ปัญหาเล็กน้อย เช่น การหายใจในอากาศเย็น ไปจนถึงอาการที่ร้ายแรงบางอย่าง เช่น อาการแพ้อย่างรุนแรง สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องจำไว้ก็คือ หายใจมีเสียงวี้ด เป็นเรื่องที่ไม่ปกติ เวลาหายใจเข้าและออกคุณพยายามสังเกตตัวเองให้ดี ๆ หากหายใจมีเสียงวี้ดแทรก อยู่เรื่อย ๆ หรือมีอาการที่แย่ลง คุณควรไปพบคุณหมอ เพื่อเข้ารับการวินิจิยฉัยถึงสาเหตุที่ส่งผลต่อการจำกัดทางเดินหายใจของคุณจะเป็นการดีที่สุด สาเหตุของอาการหายใจมีเสียงวี้ด การตีบของทางเดินหายใจ หรือที่เรียกว่า “การอุดตันของทางเดินหายใจ หรือทางเดินหายใจมีสิ่งกีดขวาง” มักเกิดขึ้นในหลอดลมขนาดเล็ก ในบางกรณีอากเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งรวมถึงหลอดลมคอ (Trachea) หลอดลมขั้วปอด (Bronchi) หรือสายเสียง (Vocal Cords) […]


โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด

ลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (Pulmonary embolism)

ลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (Pulmonary embolism) หมายถึงการที่มีลิ่มเลือดไปอุดกั้นในหลอดเลือดที่อยู่ภายในปอด โดยปกติแล้วลิ่มเลือดที่มาอุดตันนี้มักจะมาจากบริเวณส่วนขา แต่ก็สามารถเกิดขึ้นจากส่วนอื่น ๆ ได้เช่นกัน คำจำกัดความลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด คืออะไร ลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (Pulmonary embolism) หมายถึงการที่มีลิ่มเลือดไปอุดกั้นในหลอดเลือดที่อยู่ภายในปอด โดยปกติแล้วลิ่มเลือดที่มาอุดตันนี้มักจะมาจากบริเวณส่วนขา แต่ก็สามารถเกิดขึ้นจากส่วนอื่น ๆ ได้เช่นกัน ลิ่มเลือดนี้จะไปปิดกั้นการไหลเวียนของเลือดเข้าสู่ปอด ทำให้เลือดไม่สามารถเข้าไปเลี้ยงปอดได้ ทำให้ขาดออกซิเจน และอาจทำให้ปอดและอวัยวะอื่น ๆ เกิดความเสียหายได้ หากลิ่มเลือดที่มาอุดกั้นนั้นมีขนาดใหญ่ เกิดหลายจุดพร้อมกัน หรือไม่ทำการรักษาให้ดี อาจทำให้ปอดเสียหายอย่างถาวร หรือทำให้เสียชีวิตได้ ลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดพบได้บ่อยเพียงใด โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ลิ่มเลือด หรือผู้สูงอายุ อาจจะมีความเสี่ยงมากกว่าผู้อื่น อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถรับมือได้ด้วยการลดปัจจัยเสี่ยง โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อาการอาการลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด อาการของโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด อาจจะแตกต่างกันออกไปตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ขนาดของลิ่มเลือด ลักษณะการอุดตัน หรือโรคประจำตัวอื่น ๆ แต่มีอาการที่พบได้บ่อยดังต่อไปนี้ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก มีอาการคล้ายกับหัวใจจะวาย มีอาการไอ มีเลือดปนในเสมหะ หัวใจเต้นผิดปกติ วิงเวียน หน้ามืด เหงื่อออกมาก เป็นไข้ ขาบวม หรือปวดขา สีผิวคล้ำลง หรือเปลี่ยนสี ควรไปพบหมอเมื่อใด การวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่น ๆ ช่วยให้อาการไม่รุนแรงขึ้น และช่วยป้องกันภาวะฉุกเฉินอื่น ๆ ดังนั้น จึงควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วเพื่อป้องกันอาการรุนแรงไม่ให้เกิดขึ้น หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ […]


ปัญหาระบบทางเดินหายใจแบบอื่น

คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon monoxide) ก๊าซพิษอันตรายที่มองไม่เห็น

คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon monoxide หรือ CO) เป็นก๊าซพิษอันตรายที่มองไม่เห็น แต่หากเคยได้ยินข่าว คนนอนเสียชีวิตในรถ เพราะว่าจอดรถนอนข้างทาง โดยเปิดเครื่องไว้ ไม่ยอมดับเครื่องยนต์ แล้วเกิดข้อสงสัยว่า การนอนหลับโดยสตาร์ทรถไว้มันอันตรายอย่างไร ทำไมเขาถึงเสียชีวิต สาเหตุนั้นก็มาจากคาร์บอนมอนอกไซด์นั่นเอง [embed-health-tool-bmi] คาร์บอนมอนอกไซด์ คืออะไร คาร์บอนมอนอกไซด์  เป็นก๊าซไร้สี ไร้กลิ่น ชนิดหนึ่ง ที่จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดการเผาไหม้เชื้อเพลิง เช่น เตาผิง เตาแก๊สทำอาหาร รถยนต์ หรือแม้กระทั่งควันบุหรี่ เมื่อเราสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปในร่างกาย ก๊าซนี้ก็จะไปแทนที่ออกซิเจนในเลือด และทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ แหล่งของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่พบได้บ่อย ได้แก่ สีย้อมผ้า เครื่องทำน้ำอุ่นแบบเตาแก๊ส ฮีตเตอร์ รถยนต์ เตาแก๊สทำอาหาร เตาผิง เตาถ่านปิ้งย่าง ควันบุหรี่ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์นั้นเป็นก๊าซที่สามารถพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน และคนส่วนใหญ่มักจะเผลอสูดดมก๊าซนี้เข้าไปโดยไม่รู้ตัวกันอยู่บ่อยครั้ง เพียงแต่ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เจอในชีวิตประจำวันนั้นอาจจะไม่มีปริมาณมากพอที่จะทำอันตรายต่อร่างกายได้นั่นเอง อันตรายจากคาร์บอนมอนอกไซด์ แม้ว่าก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่สามารถพบได้ในชีวิตประจำวันนั้นจะมีปริมาณไม่มากพอที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่หากอยู่ในพื้นที่ปิด ไม่มีอากาศถ่ายเท เช่น ในห้องอับที่ปิดหน้าต่าง หรือในรถยนต์ ก็อาจทำให้มีโอกาสสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปในปริมาณมากโดยไม่รู้ตัว และทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหรือชีวิตได้ ออกซิเจนนั้นมีความสำคัญต่างอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น สมอง หัวใจ หรืออวัยวะอื่น ๆ เมื่อสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปในปริมาณมาก ก๊าซนั้นจะจะเข้าไปแทนที่ออกซิเจนที่อยู่ในเซลล์เม็ดเลือดแดง […]


ปัญหาระบบทางเดินหายใจแบบอื่น

คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ (Carbon Monoxide Poisoning)

คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ (Carbon monoxide poisoning) หมายถึงภาวะที่เกิดขึ้น เมื่อเราสูดดมเอาก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปมากเกินไป จนทำให้ระดับของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในเลือดสูง คำจำกัดความคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ คืออะไร คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ (Carbon monoxide poisoning) หมายถึงภาวะที่เกิดขึ้น เมื่อเราสูดดมเอาก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปมากเกินไป จนทำให้ระดับของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในเลือดสูง ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์นี้จะเข้าไปแทนที่ออกซิเจนภายในเซลล์เม็ดเลือดแดง และทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อ อวัยวะ และอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้ เราสามารถพบก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น ท่อไอเสียของรถยนต์ ฮีตเตอร์ เตาถ่านปิ้งย่าง เครื่องยนต์ของรถยนต์ เครื่องปั่นไฟฟ้า เตาแก๊สทำอาหาร การสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในปริมาณเล็กน้อยนั้นอาจจะไม่ทำให้เกิดอันตรายอะไร แต่หากคุณได้รับก๊าซนี้ในปริมาณมาก เช่น จากการเผาถ่านในห้องอับ หรือเปิดเครื่องรถยนต์ไว้แล้วจอดนอนอยู่กับที่ ก็อาจทำให้ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์สะสมอยู่มากเกินไป จนกลายเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษพบบ่อยแค่ไหน ภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะกับผู้ที่ต้องทำงานเกี่ยวกับเครื่องยนต์ หรือเตาถ่านในบริเวณที่เป็นห้องอับ ไม่มีอากาศถ่ายเท หรือผู้ที่ต้องเดินทางไกลด้วยรถยนต์ และจอดนอนพักในรถยนตร์โดยติดเครื่องยนต์ไว้ อาการอาการของคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ อาการที่พบได้บ่อยมีดังต่อไปนี้ ปวดหัวตื้อ ๆ วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน หายใจไม่ออก สับสน มองเห็นไม่ชัด ตาพร่า หมดสติ ภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษนั้นจะมีอันตรายมากกับผู้ที่หมดสติ หรือผู้ที่มึนเมา เพราะอาจเกิดความเสียหายต่อสมอง หรือเสียชีวิตได้ ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวกันเสียอีก ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด สัญญาณเตือนของภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษนั้นอาจจะมองออกค่อนข้างยาก หากคุณสังเกตพบว่าคุณหรือคนรู้จักอาจจะมีอาการของภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ ควรรีบระบายอากาศโดยรอบ และนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลในทันที หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับอาการของโรคโปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดควรปรึกษาแพทย์ เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ สาเหตุสาเหตุของคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ ภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษนั้นเกิดจากการที่ที่เราสูดดมเอาก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปมากจนเกินไป จนส่งผลกระทบต่อร่างกาย ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์นั้นเกิดขึ้นจากการที่เชื้อเพลงต่าง ๆ เช่น แก๊ส น้ำมัน ถ่าน หรือไม้ เผาไหม้อย่างไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ยังอาจเกิดขึ้นจากการทำงานของเครื่องยนต์ การทำอาหาร หรือเผาฟืน แม้ว่าตามปกติแล้วกระบวนการเหล่านี้จะไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในปริมาณที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่หากในบริเวณนั้นเป็นห้องอับ อากาศไม่ถ่ายเท […]


โรคถุงลมโป่งพอง

ถุงลมโป่งพอง โรคอันตรายในระบบทางเดินหายใจ ที่แม้ไม่สูบบุหรี่ก็มีโอกาสเป็นได้

ถุงลมโป่งพอง เป็นอาการทางสุขภาพที่เกิดจากสาเหตุหลักอย่างการสูบบุหรี่ ดังที่เรามักจะเห็นจากการรณรงค์ผ่านสื่อสาธารณะ วิดิโอ ภาพ หนังสือ หรือคู่มือสุขภาพต่าง ๆ ว่าให้เลิกสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่เสี่ยงเป็นถุงลมโป่งพอง แต่รู้หรือไม่ว่า โรคถุงลมโป่งพอง ไม่ต้องสูบบุหรี่ก็มีโอกาสเสี่ยงได้เหมือนกัน แต่อะไรบ้างที่ทำให้เราเสี่ยงเป็นถุงลมโป่งพอง Hello คุณหมอ มีคำตอบมาฝากทุกท่านในบทความนี้ค่ะ ถุงลมโป่งพอง คืออะไร ถุงลมโป่งพอง หรือ โรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema) เป็นหนึ่งในภาวะสุขภาพของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ผู้ที่มีอาการของโรคถุงลมโป่งพองจะหายใจถี่และสั้น เนื่องมาจากถุงลมและผนังถุงลมถูกทำลายจนเสื่อมสภาพ จึงเกิดการอุดกั้นอากาศ อากาศเก่าก็จะถูกกักเก็บเอาไว้ในถุงลมจนไม่เหลือพื้นที่ให้กับออกซิเจนใหม่ที่เข้ามา เวลาที่หายใจออกจึงมีอากาศตกค้างอยู่ภายในถุงลม เมื่อจะหายใจเข้าก็จะหายใจได้ไม่เต็มที่เนื่องจากอากาศที่ตกค้างอยู่ภายในถุงลมมีมากเกินไป จนไม่สามารถกักเก็บเอาอากาศใหม่เข้าไปได้ ทำให้เวลาหายใจจะรู้สึกเหนื่อยหอบ หายใจถี่สั้น และมีอาการไอร่วมด้วย สาเหตุของ ถุงลมโป่งพอง โรคถุงลมโป่งพอง เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้ การสูบบุหรี่ แม้ว่าโดยทั่วไป โรคถุงลมโป่งพอง มักจะมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ หรือสูบบุหรี่ติดต่อกันเป็นเวลานาน แต่แพทย์ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเหตุใดการสูบบุหรี่จึงทำให้เป็นโรคถุงลมโป่งพอง แต่เป็นไปได้ว่าสารเคมีและสารพิษในบุหรี่มีส่วนในการทำลายปอด ผนังปอด ถุงลม รวมถึงผนังของถุงลมด้วย อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่เป็นที่ชัดเจนในแง่ที่ว่าบุหรี่ทำให้เป็นถุงลมโป่งพองได้อย่างไร แต่ผลการวิจัยและผลการศึกษาจากหลายสถาบันพบว่า ผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสเป็นถุงลมโป่งพองมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ สูงถึง 6 เท่าเลยทีเดียว ภาวะขาดแคลนAAT เอเอที (AAT) หรือ Alpha-1 antitrypsin เป็นโปรตีนธรรมชาติที่อยู่ในเลือดของเรา […]


ปัญหาระบบทางเดินหายใจแบบอื่น

ภาวะพร่องออกซิเจน (Hypoxia)

ภาวะพร่องออกซิเจน (Hypoxia) เกิดขึ้นเมื่อระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าปกติ เลือดไม่สามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของเนื้อเยื่อในร่างกายได้  ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการไอ ผิวหนังเปลี่ยนสี ระบบหายใจผิดปกติ เป็นต้น คำจำกัดความภาวะพร่องออกซิเจน (Hypoxia) คืออะไร ภาวะพร่องออกซิเจน (Hypoxia) เกิดขึ้นเมื่อระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าปกติ เลือดไม่สามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของเนื้อเยื่อในร่างกายได้  ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการไอ ผิวหนังเปลี่ยนสี ระบบหายใจผิดปกติ เป็นต้น ภาวะพร่องออกซิเจน พบได้บ่อยแค่ไหน ภาวะพร่องออกซิเจนสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน  โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจและปอด โรคหอบหืด ถุงลมโป่งพอง และโรคหลอดลมอักเสบ เป็นต้น อาการอาการของภาวะพร่องออกซิเจน ผู้ป่วยที่อยู่ภาวะพร่องออกซิเจน จะมีอาการดังต่อไปนี้ ปวดศีรษะ หายใจถี่ หัวใจเต้นเร็ว ไอ หายใจไม่ออก รู้สึกสับสน เหงื่อออก ควรไปพบหมอเมื่อใด หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ สาเหตุสาเหตุของของภาวะพร่องออกซิเจน โดยปกติปอดจะต้องสูดลมอากาศแลกเปลี่ยนออกซิเจนกับคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้เพียงพอต่อการหายใจ มีการไหลเวียนเลือดไปยังปอดและนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยภาวะพร่องออกซิเจนนั้นเกิดจากหลายสาเหตุและหลายปัจจัย ดังนี้ โรคโลหิตจาง กลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (Acute Respiratory Distress Syndrome หรือ ARDS) โรคหอบหืด ความบกพร่องของหัวใจแต่กำเนิด โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง โรคถุงลมโป่งพอง โรคปอดอักเสบ อาการบวมน้ำในปอด เส้นเลือดอุดตันในปอด หยุดหายใจขณะหลับ การวินิจฉัยและการรักษาข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การวินิจฉัยภาวะพร่องออกซิเจน  ในการวินิจฉัย แพทย์จะทำการตรวจร่างกายฟังเสียงหัวใจและปอดของผู้ป่วย เพื่อดูสัญญาณความผิดปกติ รวมถึงการวินิจฉัยอื่น ๆ เพื่อตรวจสอบระดับออกซิเจนในร่างกาย ดังนี้ ตรวจวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (Pulse oximetry) แพทย์จะใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์หนีบที่ปลายนิ้วเพื่อดูปริมาณออกซิเจนในเลือด ทดสอบหลอดเลือดแดง […]


โรคหอบหืด

ชาบรรเทาอาการหอบหืด ดื่มแล้วช่วยให้หายใจโล่งขึ้น

“ชา” ถือเป็นเครื่องดื่มในดวงใจของใครหลายๆ คน เนื่องจากมีให้เลือกหลายชนิด ชาบางชนิดนอกจากจะมีกลิ่นหอม เมื่อดื่มแล้วยังช่วยทำให้ผ่อนคลายได้อีกด้วย มากไปกว่านั้นแล้ว ชาบางชนิดยังสามารถช่วยบรรเทาอาการหอบหืด และทำให้หายใจได้โล่งขึ้นอีกด้วย แต่ ชาบรรเทาอาการหอบหืด จะมีอะไรบ้าง  Hello คุณหมอ มีข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากกันในบทความนี้ โรคหอบหืด เป็นอย่างไร โรคหอบหืด (Asthma) ถือเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลต่อเยื่อบุทางเดินหายใจ ซึ่งการป่วยเป็นโรคหอบหืดนั้นอาจจะส่งผลทำให้คุณมีอาการต่างๆ เช่น หายใจถี่ หายใจเสียงดังฮืดๆ ไอ และแน่นหน้าอก สำหรับการรักษาโรคหอบหืดนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี แต่ ชาบรรเทาอาการหอบหืด ก็เป็นหนึ่งในวิธีทางเลือกที่จะช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นได้ด้วยการใช้สมุนไพรเข้ามาช่วยนั่นเอง ซึ่งชาที่ช่วยบรรเทาอาหารหอบหืดนั้น มีดังนี้ ชาบรรเทาอาการหอบหืด ที่คุณควรรู้จัก ชาขิง ขิง (Ginger) ถือเป็นเครื่องเทศที่เต็มไปด้วยสารอาหารและสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประโยชน์ต่างๆ ที่มีต่อร่างกาย เช่น ลดการอักเสบ บรรเทาอาการคลื่นไส้ และลดระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้จากการวิจัยบางชิ้นยังบ่งชี้ให้เห็นว่า ขิงอาจช่วยบรรเทาอาการหอบหืดได้อีกด้วย จากการศึกษาในหลอดทดลองโดยใช้เซลล์ของมนุษย์ บ่งชี้ว่า สารประกอบในขิง เช่น จินเจอรอล (Gingerol) และสารประกอบโชกาออล (Shogaols) อาจช่วยบรรเทาอาหารหอบหืด โดยลดการอักเสบของทางเดินหายใจได้ ชาขิง นั้นทำได้โดยการนำรากของต้นขิงมาต้ม โดยคุณสามารถซื้อ ชาขิง ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือจะชงกินเองที่บ้านก็ได้ เพียงนำขิงที่ปลอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ […]


โรคหอบหืด

เป็นโรคหอบหืด ควรออกกำลังกายอย่างไรดี

อาการเจ็บป่วย หรือปัญหาสุขภาพ ย่อมส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราไม่มากก็น้อย ยิ่งหากเป็นโรคประจำตัว หรือโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายขาดเสียที ก็จะยิ่งส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ และกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะกังวลว่าตัวเองจะทำได้ไหม หรือต้องทำอย่างไรถึงจะเหมาะสมและปลอดภัย ก็คือ การออกกำลังกาย นั่นเอง แล้วหากคุณเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจยอดฮิต อย่างโรคหืด หรือที่มักเรียกว่าหอบหืดล่ะ จะสามารถออกกำลังกายได้หรือเปล่า วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลเรื่องนี้มาฝากแล้ว คุณจะได้รู้ว่า เป็นโรคหอบหืด ควรออกกำลังกายอย่างไรถึงจะเหมาะสมและปลอดภัย เป็นโรคหอบหืด ออกกำลังกายได้หรือไม่ ปัญหาเกี่ยวกับการออกกำลังกายที่คนเป็นโรคหอบหืดส่วนใหญ่น่าจะสงสัย ก็คือ คนเป็นโรคหอบหืดออกกำลังกายได้ไหม คำตอบก็คือ คนเป็นโรคหอบหืดสามารถออกกำลังกายได้ ความจริงแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า เป้าหมายอย่างหนึ่งในการรักษาโรคหอบหืดก็คือ การช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และมีสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ซึ่งการออกกำลังกายก็ถือเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ป่วยบรรลุเป้าหมายนั้นได้ สิ่งสำคัญคือ คุณต้องออกกำลังกาย ควบคู่กับการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ รับประทานยาตามแพทย์สั่ง และหมั่นตรวจสอบการทำงานของปอดอยู่เสมอ จะได้ทราบว่าปอดของคุณทำงานได้ดีแค่ไหน และอีกอย่างที่ลืมไม่ได้ก็คือ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกายด้วย เป็นโรคหอบหืด ออกกำลังกายแล้วดีอย่างไร การที่คนเป็นโรคหอบหืด ขยับร่างกายบ่อย ๆ หรือออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยส่งเสริมสุขภาพดังต่อไปนี้ ช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้คุณป่วยเป็นไข้หวัดน้อยลง ช่วยควบคุมน้ำหนัก หรือลดน้ำหนัก เมื่อคุณมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์สุขภาพดี ก็จะช่วยลดการเกิดภาวะจับหืด (Asthma Attack) ซึ่งเป็นภาวะที่ผู้ป่วยหลอดลมตีบ นำไปสู่อาการไอ หอบ หายใจมีเสียงหวีด […]


โรคทางเดินหายใจ

กาฬโรคปอด (Pneumonic Plague)

กาฬโรคปอด (Pneumonic plague) เป็นกาฬโรคชนิดหนึ่งที่ถือว่ามีความรุนแรงที่สุด เกิดจากการติดเชื้อ เยอร์ซีเนีย เพสติส (Yersinia Pestis) จนเชื้อชนิดนี้ลามไปที่ปอด จนทำให้เกิดปัญหาในการหายใจ [embed-health-tool-heart-rate] คำจำกัดความ กาฬโรคปอด คืออะไร กาฬโรคปอด (Pneumonic plague) เป็นโรคกาฬโรคชนิดหนึ่งที่มีการติดเชื้อ เยอร์ซีเนีย เพสติส (Yersinia Pestis) ที่ปอด ซึ่งเป็นกาฬโรคชนิดเดียวที่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ และสามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนผ่านอากาศได้ โดยการหายใจเอาเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นละอองที่แพร่กระจายอยู่ในอากาศเข้าไป ก็จะสามารถติดเชื้อได้ นอกจากนี้กาฬโรคปอดยังสามารถแพร่กระจายได้จากลมหายใจของผู้ป่วยหรือสัตว์ที่มีเชื้อได้อีกด้วย การติดเชื้อกาฬโรคปอดนั้นมักจะต้องมีการสัมผัสเชื้อโดยตรงหรือมีความใกล้ชิดกับผู้ป่วย สัตว์ที่ป่วย ผู้ที่เป็นกาฬโรคปอดนั้นมักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่เป็นกาฬโรคต่อมน้ำเหลือง (Bubonic plague) หรือกาฬโรคแบบโลหิตเป็นพิษ (Septicemic plague) และไม่ได้รับการรักษาจนเชื้อนั้นลามลงไปติดที่ปอดด้วย กาฬโรคปอดพบได้บ่อยเพียงใด กาฬโรค เป็นโรคที่พบได้ในประเทศต่าง ๆ ของทวีปแอฟริกา และยังเป็นโรคประจำถิ่นในสาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศอินเดีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มองโกเลีย เมียนมาร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยมีการระบาด ใหญ่เป็นครั้งคราว เช่น การระบาดของกาฬโรคปอด ในเอกวาดอร์ เมื่อปี พ.ศ. 2541 หรือการเกิดกาฬโรค ทางตะวันตกของประเทศสหรัฐอเมริกา […]


ปัญหาระบบทางเดินหายใจแบบอื่น

ควันบุหรี่มือสอง อันตรายต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด

ควันบุหรี่มือสอง เป็นผลกระทบจากการได้รับควันบุหรี่ที่ผู้อื่นสูบแล้วพ่นควันออกมา ถือเป็นการรับควันบุหรี่ทางอ้อม จึงนิยมเรียกว่าควันบุหรี่มือสอง ซึ่งควันบุหรี่มือสองส่งผลกระทบต่อสุขภาพไม่แพ้ควันบุหรี่จากการสูบบุหรี่เองโดยตรง ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ [embed-health-tool-bmi] ควันบุหรี่มือสอง คืออะไร ควันบุหรี่มือสอง หมายถึง ควันที่ออกมาจากบุหรี่ ซิการ์ หรือยาสูบ ที่ผู้สูบพ่นออกมาในอากาศ ทำให้ผู้อื่นได้รับควันบุหรี่หรือหายใจเอาควันบุหรี่ที่ลอยมาเข้าไปในร่างกาย และได้รับผลกระทบต่อสุขภาพจากสารเคมีที่อยู่ในควันบุหรี่ไม่ต่างจากผู้ที่สูบบุหรี่โดยตรงเลยทีเดียว ในควันบุหรี่มีสารเคมีมากกว่า 7,000 ชนิด โดยสารเคมีอย่างน้อย 69 ชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง และมีสารเคมีมากกว่า 250 ชนิดที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ ผลกระทบต่อสุขภาพจากควันบุหรี่มือสอง ผลกระทบของควันบุหรี่มือสองต่อผู้ใหญ่ วัยผู้ใหญ่กลุ่มคนวัยทำงาน ผู้ที่เข้าร่วมวงสังสรรค์ที่มีผู้ร่วมงานคนอื่นสูบบุหรี่ เช่น ตามผับบาร์ หรือมีคนในครอบครัวสูบบุหรี่ เป็นกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่ประเภทนี้มากที่สุด ระบบหายใจ ผู้ใหญ่ที่ได้รับควันบุหรี่มือสองส่วนใหญ่มักมีอาการหอบหืด และมีปัญหาเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ หากเป็นผู้ที่มีอาการหอบหืดอยู่แล้ว ก็จะยิ่งทำให้อาการนั้นแย่ลงเมื่อได้รับควันบุหรี่มือสอง โรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้ที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง จะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองสูงขึ้น 25-30% นอกจากนี้ ควันบุหรี่มือสองยังทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการความดันโลหิตสูงอาการแย่ลงด้วย โรคมะเร็งปอด ควันบุหรี่มือสองทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้ คนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ แต่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่สูบบุหรี่ จะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นถึง 30% นอกจากนี้ การได้รับควันบุหรี่มือสองยังอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งโพรงไซนัส ผลกระทบของ ควันบุหรี่มือสอง […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน