เมื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะย่อยแอลกอฮอล์ให้กลายเป็นสารเคมีอะซีตัลดีไฮด์ (Acetaldehyde) ที่ทำลายดีเอ็นเอ ขัดขวางกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูความเสียหายในร่างกาย เมื่อดีเอ็นเอเสียหาย เซลล์จะขาดการควบคุม ส่งผลให้เซลล์เริ่มเติบโตมากผิดปกติและเกิดเป็นเนื้องอกชนิดร้ายแรงหรือก้อนมะเร็งได้
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากและลำคอ มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม เป็นต้น
การมีน้ำหนักตัวมากเกินหรือเป็นโรคอ้วน
น้ำหนักเกินและโรคอ้วนอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย ส่งผลให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และมีระดับอินซูลินสูงกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
การมีน้ำหนักตัวเกินและโรคอ้วนอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งไต มะเร็งมดลูก มะเร็งต่อมน้ำเหลืองของหลอดอาหาร มะเร็งถุงน้ำดี มะเร็งตับ มะเร็งในช่องท้อง มะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมไทรอยด์ มะเร็งสมอง มะเร็งเม็ดเลือดขาวมัลติเพิลมัยอิโลมา (Multiple Myeloma) เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินและผ่านวัยหมดประจำเดือนมาแล้วยังอาจเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมได้ด้วย
การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย
การติดเชื้อไวรัสดังต่อไปนี้ อาจเพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้
- ฮิวแมนพาพิลโลมาไวรัส (Human Papillomavirus: HPV) อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูก และอาจเชื่อมโยงกับมะเร็งช่องปาก มะเร็งทวารหนัก เป็นต้น
- ไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบซี อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งตับ
- ไวรัสเอ็บสไตบาร์ (Epstein-Barr: EBVX) อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- ไวรัสเอชไอวี อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งซาร์โคมา (Sarcoma)
- ไวรัสมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวทีเซลล์ (T-cell) ในผู้ใหญ่
- เชื้อแบคทีเรีย เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร หรือ เอชไพโลไร (Helicobacter pylori หรือ H. pylori) เป็นเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหารที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย