สุขภาพเด็ก

สุขภาพเด็ก เป็นส่วนสำคัญในการเลี้ยงดูลูก พ่อแม่ควรให้ความสำคัญในการสังเกตความผิดปกติต่าง ๆ ตั้งแต่อาการทั่วไป จนถึงสัญญาณการติดเชื้อต่าง ๆ เรียนรู้เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับ สุขภาพเด็ก เพื่อการดูแลสุขภาพของลูกน้อย ให้เติบโตได้อย่างแข็งแรง ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพเด็ก

โปลิโอ เป็นแล้วรักษาไม่หาย แต่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

โปลิโอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไข้ไขสันหลังอักเสบ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสโปลิโอ (Poliovirus) ซึ่งเคยส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์ในอดีต โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก แม้ว่าในปัจจุบันโรคนี้จะลดลงอย่างมากเนื่องจากการพัฒนาวัคซีน แต่ความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคและการป้องกันยังคงมีความสำคัญ [embed-health-tool-vaccination-tool] โปลิโอ คืออะไร โรคโปลิโอเกิดจากเชื้อไวรัสในตระกูล Picornavirus โดยไวรัสนี้แบ่งเป็น 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ PV1, PV2 และ PV3 ซึ่งไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อน รวมถึงการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยตรง เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย มันจะแพร่กระจายในลำไส้และระบบประสาทส่วนกลาง ทำลายเซลล์ประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออัมพาต การแพร่กระจายของโรค โรคโปลิโอแพร่กระจายได้ง่ายในพื้นที่ที่มีการสุขาภิบาลไม่ดี โดยเชื้อไวรัสจะถูกขับออกจากร่างกายผู้ติดเชื้อผ่านทางอุจจาระ แล้วปนเปื้อนในน้ำหรืออาหาร นอกจากนี้ การสัมผัสใกล้ชิด เช่น การสัมผัสมือหรือของใช้ส่วนตัวที่มีเชื้อไวรัสอยู่ ก็เป็นอีกเส้นทางที่โรคสามารถแพร่กระจายได้ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน อาการของโรคโปลิโอ โรคโปลิโอมีลักษณะอาการหลากหลาย ตั้งแต่ไม่มีอาการไปจนถึงอัมพาตรุนแรง ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ (70-90%) ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อได้ อาการเบื้องต้น รวมถึงไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ และคลื่นไส้ อาการรุนแรง ได้แก่ อัมพาตของแขนขา หรือในบางกรณีเชื้อไวรัสอาจทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ ส่งผลให้เสียชีวิต สำหรับบางคนที่เคยติดเชื้อ อาจเกิดภาวะ กลุ่มอาการหลังโปลิโอ (Post-Polio Syndrome) ในระยะเวลาหลายปีหลังจากการติดเชื้อ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและปวดกล้ามเนื้อ การป้องกันด้วยวัคซีน ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคโปลิโอเฉพาะเจาะจง การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรับวัคซีน […]

หมวดหมู่ สุขภาพเด็ก เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพเด็ก

ปัญหาระบบย่อยอาหารในเด็ก

ลูกท้องผูก อาการ สาเหตุ วิธีบรรเทาอาการ

ลูกท้องผูก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ไม่ว่าจะเป็น เด็กอาจถ่ายอุจจาระไม่ออก อุจจาระมีลักษณะแข็งหรือแห้ง ทำให้เวลาถ่ายอุจจาระแต่ละทีต้องใช้เวลานาน หรือต้องพยายามเบ่งจนเหนื่อย โดยส่วนใหญ่ลูกท้องผูกเป็นอาการที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เและเป็นปัญหาสุขภาพที่คุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือได้  แต่ไม่ควรปล่อยไว้นานเกินไป หากเป็นบ่อยครั้งควรรีปปรึกษาแพทย์ อาการแบบไหนที่ถือว่า ลูกท้องผูก การขับถ่ายของเด็กแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน แต่หากการขับถ่ายอุจจาระของลูกคุณ มีลักษณะเหล่านี้ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่า “ลูกท้องผูก” เข้าแล้ว ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ อุจจาระแข็ง แห้ง และถ่ายอุจจาระยาก อุจจาระก้อนใหญ่ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคในการขับถ่าย มีอาการเจ็บปวดขณะขับถ่าย มีอาการปวดท้อง อุจจาระเหลวหรือมีลักษณะคล้ายดินเหนียว อุจจาระแข็งและมีเลือดปน ทำไมเด็กถึงท้องผูก อาการท้องผูกในเด็กอาจเกิดจากปัจจัยเหล่านี้ อั้นอุจจาระ เด็กๆ อาจไม่สนใจการขับถ่าย เนื่องจากพวกเขาอาจกลัวการเข้าห้องน้ำ หรือติดเล่นจนไม่อยากไปเข้าห้องน้ำ ทำให้เด็กบางคนอาจอั้นอุจจาระ จนเป็นเหตุให้เกิดอาการท้องผูก อาหาร เมื่อเด็กกินอาหารที่มีไฟเบอร์อย่างผักและผลไม้ไม่เพียงพอ รวมถึงดื่มน้ำน้อย ก็สามารถทำให้เกิดอาการท้องผูกในเด็กได้ การเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวัน การเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวัน เช่น การไปท่องเที่ยว อาจส่งผลกระทบต่อเวลาในการขับถ่ายของลูก จนทำให้ลูกท้องผูกได้ ยาบางชนิด ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด สามารถทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ การแพ้นมวัว การแพ้นมวัวหรือการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมวัวมากเกินไปอาจเป็นเหตุให้เกิดอาการท้องผูก ปัญหาสุขภาพ อาการท้องผูกสามารถบ่งบอกได้ว่า เด็กๆอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร หรือมีโรคอื่น […]


ปัญหาสุขภาพเด็กแบบอื่น

อันตรายจากปัญหา ลูกไม่นอน และวิธีการแก้ไข

ลูกไม่นอน เป็นปัญหาหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจต้องพบเจอ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านพัฒนาการและการเจริญเติบโต ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาทางอารมณ์และการเข้าสังคมอีกด้วย คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้เด็กพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อพัฒนาการทางด้านต่างๆของร่างกายและจิตใจ จะได้มีความพร้อมสมบูรณ์ [embed-health-tool-vaccination-tool] ลูกควรนอนวันละเท่าไหร่ ทารกวัยแรกเกิด (อายุต่ำกว่า 6 เดือน) นาฬิกาชีวิตของทารกวัยแรกเกิดยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ ทารกที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน จะนอนเป็นเวลา 18 ชั่วโมงต่อวัน โดยแบ่งเป็นตอนกลางคืนและตอนกลางวันเท่ากัน ในช่วงสองสามสัปดาห์แรก ทารกแรกเกิดควรตื่นทุกๆ 3-4 ชั่วโมงจนกระทั่งพวกเขามีน้ำหนักตัวปกติ หลังจากนั้นทารกวัยแรกเกิดจะสามารถนอนติดต่อกันเป็นเวลานานขึ้นได้ และสำหรับทารกวัย 3 เดือน โดยเฉลี่ยจะนอนหลับ 14 ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลานอน 8-9 ชั่วโมงต่อวัน และจะงีบหลับระหว่างวัน 2-3 ครั้ง ทารกวัย 6-12 เดือน ทารกวัยนี้ต้องการนอนโดยเฉลี่ย 14 ชั่วโมงต่อวัน และงีบหลับระหว่างวัน 2-3 ครั้งๆ ละ 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมง เด็กในวัยนี้ส่วนใหญ่จะเริ่มไม่ตื่นมากินนมกลางคืน หรือหากตื่นขึ้นมากลางดึก ก็ไม่จำเป็นต้องป้อนนมแล้ว วัยเตาะแตะ ในวัย 1-3 ปี เด็กส่วนใหญ่จะนอนหลับประมาณ 12-14 ชั่วโมง […]


โรคติดเชื้อในเด็ก

อีสุกอีใส ใน เด็ก มีวิธีการดูแลอย่างไรบ้าง

โรคอีสุกอีใส (Chickenpox) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ (varicella-zoster virus) ซึ่งเป็นไวรัสงูสวัด (herpes virus) ประเภทหนึ่ง คนทุกเพศทุกวัยสามารถเป็นอีสุกอีใสได้ แต่โดยปกติมักจะพบ อีสุกอีใส ใน เด็ก โดยเฉพาะสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 10 ปี อย่างไรก็ตาม เมื่อติดเชื้ออีสุกอีใส ระบบภูมิคุ้มกันจะสร้างโปรตีนที่เรียกว่าแอนติบอดี ซึ่งทำหน้าที่ต้านไวรัสขึ้นมา ดังนั้น เมื่อผู้ใหญ่หรือ เด็กเป็นอีสุกอีใส หากมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มักไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาล แค่พักรักษาตัวที่บ้านก็เพียงพอแล้ว [embed-health-tool-vaccination-tool] วิธีดูแลและการรักษาอีสุกอีใสในเด็ก ลดอาการคัน เมื่อเด็กเป็นอีสุกอีใสจะมีอาการคัน แต่ไม่ควรปล่อยให้ลูกเกา เพราะอาจทำให้ผิวหนังติดเชื้อหรือเกิดแผลเป็นหลังจากตกสะเก็ด ควรบรรเทาอาการคันให้ลูกด้วยวิธีอื่น เช่น อาบน้ำที่มีส่วนผสมของข้าวโอ๊ตบดหยาบ ประคบเย็น ใช้ยาแก้แพ้ แต่พ่อแม่ควรปรึกษาคุณหมอก่อนให้ยาลูก ลดอุณหภูมิร่างกาย อาการไข้เป็นเพียงการตอบสนองตามปกติของร่างกายที่มีต่อการติดเชื้อ ซึ่งเป็นการกำจัดแบคทีเรียและไวรัสที่ทำให้เกิดโรค เมื่อเกิดอาการไม่สบาย ผู้ป่วยควรใช้เพียงยาที่ซื้อได้เองจากร้าน เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย และควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างระมัดระวัง ก่อนให้ยาใดๆ แก่เด็ก พ่อแม่ควรปรึกษาแพทย์ก่อน ไม่ควรให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ยาแอสไพริน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดกลุ่มอาการเรย์ (Reye’s syndrome) ซึ่งเป็นอาการรุนแรงที่มักพบในเด็กที่ใช้ยาแอสไพริน ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ อีสุกอีใสเป็นโรคที่สามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัส ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะติดเชื้อหลังจากสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อ หากพบ อีสุกอีใส ใน เด็ก อย่าให้ลูกไปโรงเรียน […]


สุขภาพเด็ก

ลูกเป็นตาแดง คุณพ่อคุณแม่ควรรับมืออย่างไรดี

ลูกเป็นตาแดง เป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่ง มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส ส่งผลให้เกิดอาการระคายเคืองตา ตาขาวเป็นสีแดง ขอบตาล่างของเปลือกตาทั้ง 2 ข้างเป็นสีแดง เมื่อลูกมีอาการตาแดง คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบคุณหมอ เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง [embed-health-tool-vaccination-tool] ลูกเป็นตาแดง มีอาการอย่างไร โรคตาแดง (Pink eye or Conjunctivitis) เป็นโรคติดต่อที่อาจพบได้บ่อยในเด็ก โดยมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส นอกจากนี้ โรคตาแดงยังอาจเกิดจากอาการภูมิแพ้ หากลูกเริ่มมีอาการเคืองตา ตาขาวเป็นสีแดง และขอบตาล่างของเปลือกตาทั้ง 2 ข้างเป็นสีแดง อาจหมายถึงอาการของโรคตาแดง นอกจากนี้ เมื่อร่างกายต้องต่อสู้กับการติดเชื้ออาจทำให้มีน้ำตาหรือมีขี้ตามากกว่าปกติ รวมถึงอาจมีอาการเจ็บตา ตาบวม หรือตาไวต่อแสง ในกรณีที่ลูกตาแดงจากภูมิแพ้อาจทำให้มีอาการคันตาและน้ำตาไหลร่วมด้วย สาเหตุของโรคตาแดง การติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัสอาจเป็นสาเหตุที่พบบ่อยของโรคตาแดง นอกจากนี้ โรคตาแดงยังอาจเกิดจากการเป็นภูมิแพ้ได้ด้วย แต่ในกรณีนี้จะไม่ถือว่าเป็นโรคติดต่อ สำหรับสาเหตุของโรคตาแดงอาจมีดังนี้ โรคตาแดงที่เกิดจากเชื้อไวรัส อาจเกิดร่วมกับการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้เป็นไข้ หรือมีอาการเจ็บคอ โดยมักจะมีอาการตาแดงทั้ง 2 ข้าง แต่ไม่มีหนอง อาการตาแดงที่เกิดจากเชื้อไวรัสอาจไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นจึงควรปรึกษาคุณหมอ โรคตาแดงที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เด็กส่วนใหญ่อาจเป็นโรคตาแดงเนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งคุณหมอจะให้ยาหยอดตาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการ ถ้าภายใน 24 ชั่วโมงอาการไม่ดีขึ้นหลังใช้ยาหยอดตา ควรเข้าพบคุณหมออีกครั้ง โรคตาแดงเนื่องจากภูมิแพ้ เด็กอาจมีอาการตาแดงเนื่องจากภูมิแพ้ […]


สุขภาพเด็ก

เข้มงวด กับลูก มีผลดีผลเสียอย่างไร

การ เข้มงวดกับลูก เพื่อให้เขามีวินัย อาจเป็นการสร้างระบบการดำเนินชีวิตให้ลูกอยู่ในระเบียบ อย่างไรก็ตาม อะไรที่มากเกินไปย่อมไม่เป็นผลดีแก่พวกเขาแน่นอน คุณพ่อคุณแม่ควรเรียนรู้สัญญาณที่บ่งบอกว่ากำลังเข้มงวดกับลูกมากเกินไป และควรหาวิธีเลี้ยงลูกที่เหมาะสมยิ่งขึ้น เข้มงวดกับลูก มีผลดีอย่างไรได้บ้าง ประสิทธิภาพทางวิชาการ คุณพ่อคุณแม่ที่เข้มงวดมักจะผลักดันให้เด็กตั้งใจเรียน ทำให้ลูกๆ ประสบความสำเร็จทางด้านการเรียน ควบคุมตนเอง เด็กจะเรียนรู้ที่จะควบคุมตนเอง เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของคุณพ่อคุณแม่อย่างมีวินัย มีความมั่นใจ เมื่อคุณพ่อคุณแม่ผลักดันให้ลูกปรับปรุงตัวเอง และตั้งใจทำสิ่งต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เด็กจะเรียนรู้ที่จะผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากไปได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะทำให้ลูกมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เข้มงวดกับลูก เกินไป อาจส่งผลเสียอย่างไร ไม่กล้าทดลองทำสิ่งใหม่ๆ หากเด็กกลัวความล้มเหลว หรือกลัวการทำผิดพลาด พวกเขาจะทำสิ่งต่างๆ ด้วยความระมัดระวัง จนบางครั้งกลายเป็นการไม่กล้าลงมือทำอะไรใหม่ๆ เลย ซึ่งอาจปิดกั้นโอกาสในชีวิตของพวกเขา ทำให้ความนับถือตนเองต่ำ (Low Self-Esteem) พ่อแม่ที่เข้มงวดเกินไปมักจะไม่ค่อยยอมรับความคิดเห็นของลูก ซึ่งจะทำให้เด็กสงสัยในการตัดสินใจของตนเอง และอาจส่งผลให้มีความนับถือตนเองต่ำ ไม่สามารถคิดหรือตัดสินใจได้ด้วยตนเอง เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ที่เข้มงวดมากเกินไป จะได้รับคำแนะนำและแนวทางต่างๆ ทำให้ไม่สามารถคิดหรือตัดสินใจเรื่องต่างๆ ด้วยตัวเอง จึงอาจส่งผลทำให้พวกเขาไม่สามารถควบคุมชีวิตตัวเองได้เมื่อโตขึ้น เกิดความเครียด การเข้มงวดมากเกินไป อาจทำให้ลูกรู้สึกเครียดได้ สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลัง เข้มงวดกับลูก เกินไป 1. ลูกของคุณโกหกบ่อย บางครั้งเด็กๆ ก็ไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด แต่จากการศึกษาพบว่าการมีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากเกินไป จะทำให้เด็กกลายเป็นคนชอบโกหกได้ เนื่องจากต้องการหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษ ดังนั้นถ้าลูกๆ […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

ไทรอยด์เป็นพิษในเด็ก อาการ สาเหตุ วิธีรักษา

ไทรอยด์เป็นพิษเป็นโรคที่พบได้บ่อยมาก สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย รวมทั้งเด็กทารกและเด็กเล็ก อย่างไรก็ตาม หากเกิดโรค ไทรอยด์เป็นพิษในเด็ก (Hypothyroidism in Children) ขั้นรุนแรงอาจส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กได้ คำจำกัดความไทรอยด์เป็นพิษในเด็ก คืออะไร ไทรอยด์เป็นพิษในเด็ก (Hypothyroidism in Children) เป็นโรคที่เกิดจากต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากผิดปกติ หากอยู่ในระดับรุนแรง อาจส่งผลให้เจริญเติบโตช้า มีพัฒนาการล่าช้า รวมถึงพัฒนาการด้านสติปัญญา อาการของโรคนี้มักไม่แสดงในช่วงแรกเกิด ช่วงอายุของเด็กในการแสดงอาการ และความรุนแรงของอาการ ขึ้นอยู่กับการทำงานของต่อมไทรอยด์ว่าสามารถทำงานได้ดีเพียงใด โรคไทรอยด์เป็นพิษเป็นโรคที่พบได้บ่อยมาก สามารถเกิดได้กับคนทุกวัย รวมทั้งเด็กและทารก อาการอาการ ภาวะไทรอยด์เป็นพิษในเด็ก ทารกแรกเกิด โรคไทรอยด์เป็นพิษเกิดขึ้นได้ทุกช่วงอายุ แต่อาการของโรคในเด็กอาจมีแตกต่างกันไป ในเด็กแรกเกิด อาการเกิดขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์หรือเดือนแรก อาการอาจไม่ชัดเจน จนแพทย์หรือพ่อแม่ไม่สังเกตเห็น อาการอาจมีดังนี้ ตัวเหลือง และจุดขาวที่ตา ท้องผูก เบื่ออาหาร ตัวเย็น ร้องไห้น้อยลง หายใจดัง นอนหลับมากขึ้นหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ น้อยลง จุดนิ่มบนศีรษะขยายใหญ่ขึ้น ลิ้นโต ทารกและเด็กเล็ก ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาวะไทรอยด์เป็นพิษที่เริ่มในวัยเด็กนั้น แตกต่างกันไปตามช่วงอายุ อาการของ ภาวะไทรอยด์เป็นพิษในเด็ก มีดังนี้ ส่วนสูงน้อยกว่าความสูงเฉลี่ย ขนาดตัวสั้นกว่าปกติ ฟันแท้ขึ้นช้ากว่าปกติ เข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ช้ากว่า พัฒนาการทางอารมณ์ช้า อัตราการเต้นของหัวใจช้ากว่าปกติ ผมขาดง่าย หน้าบวม อาการที่พบได้บ่อยในผู้ใหญ่ที่มีภาวะไทรอยด์ มีดังนี้ เหนื่อย ท้องผูก ผิวแห้ง วัยรุ่น ภาวะไทรอยด์เป็นพิษในเด็กวัยรุ่น มักเกิดในเด็กผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และมักเกี่ยวข้องกับปัญหาระบบภูมิคุ้มกัน ได้แก่ โรคต่อมไทรอยด์อักเสบฮาชิโมโต (Hashimoto’s Thyroiditis) วัยรุ่นที่มีประวัติครอบครัวที่เป็นโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน เช่น โรคต่อมไทรอยด์อักเสบฮาชิโมโต โรคเกรฟ หรือเบาหวานชนิดที่ 1 […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

ภาวะผิวลายในทารก สาเหตุ อาการ และการรักษา

ภาวะผิวลายในทารก (Cuties Marmorata) คืออาการทางผิวหนังชนิดหนึ่งที่ทำให้ผิวของทารกมีลายและมีสีแดงอมม่วงคล้ายตาข่าย เมื่อสัมผัสอากาศเย็นหรืออาบน้ำ มักไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ และอาจหายไปได้เองเมื่อเจออากาศอุ่น อย่างไรก็ตาม หากมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ผื่นแดง ระคายเคือง ควรพาไปพบคุณหมอเพื่อทำการตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงและทำการรักษาอย่างรวดเร็ว [embed-health-tool-vaccination-tool] ภาวะผิวลายในทารก คืออะไร ภาวะผิวลาย ในทารกแรกเกิด คือภาวะที่ผิวหนังของเด็กทารกมีลักษณะลายคล้ายร่างแหตาข่าย สีแดงอมม่วง เกิดขึ้นประมาณร้อยละ 50  สามารถพบได้ในเด็กทารกแรกเกิด เมื่อสัมผัสอากาศเย็นหรือตอนอาบน้ำ ส่วนมากพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง อย่างไรก็ตาม มีผลการศึกษาของชาวบราซิลในปี 2011 รายงานว่าในบรรดาทารกแรกเกิดจำนวน 203 คน พบทารกที่เกิดภาวะผิวลายต่ำมาก เพียงร้อยละ 5.91  ของทารกที่มีผิวสีอ่อน ภาวะผิวลายนี้สามารถเกิดในผู้ใหญ่ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะในนักดำน้ำ หากดำน้ำซ้ำกันนาน ๆ หลายรอบ อาจเกิดภาวะผิวลายจากโรคจากการลดความกดอากาศ (Decompression Sickness) ได้ โรคจากการลดความกดอากาศหรือโรคลดความกด เป็นโรคที่เกิดจากฟองก๊าซก่อตัวขึ้นในระบบหลอดเลือดหรือในเนื้อเยื่อ มักเกิดจากการดำน้ำและลอยตัวขึ้นเร็ว ก๊าซไนโตรเจนอยู่ในภาวะเกินความอิ่มตัว เมื่อความดันอากาศลดลง กลายสภาพเป็นฟองอากาศ ซึ่งสามารถเกิดได้กับทุกส่วนของร่างกายทั้งส่วนที่เป็นของแข็งหรือของเหลว เช่น เกิดฟองอากาศที่กล้ามเนื้อข้อต่อจะมีอาการปวด ถ้าเข้าสู่กระแสเลือดไปอุดเส้นเลือดที่ไขสันหลังหรือสมอง จะทำให้สลบหรือเป็นอัมพาต สาเหตุของภาวะผิวลายในทารก เนื่องจากระบบประสาทและเส้นเลือดในทารกแรกคลอด ยังไม่มีการพัฒนาอย่างสมบูรณ์ เมื่อสัมผัสความเย็น […]


โรคผิวหนังในเด็ก

ุ6 ปัญหาผิวลูก ที่พบบ่อย มีอะไรบ้าง

ปัญหาผิวลูก ที่พบบ่อย 6 ประการ ได้แก่ ผื่นมิเลีย (Milia) ผดร้อน ภาวะต่อมไขมันอักเสบ สิว ผื่นแดงอีริทีมาท็อกซิกัม (Erythema Toxicum Neonatorum: ETN) ปาน ซึ่งอาจมีลักษณะและวิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป การทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาผิวลูก อาจช่วยให้สามารถรับมือกับปัญหาผิวได้อย่างเหมาะสม และอาจช่วยป้องกันการเกิดภาวะที่อันตรายได้ 6 ปัญหาผิวลูก ที่คุณแม่ควรรู้ 1. ผื่นมิเลีย ผื่นชนิดนี้เป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาวหรือสีเหลืองที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กทารกนั้น แท้จริงแล้วคือก้อนซีสต์ที่เต็มไปด้วยเคราติน (Keratin) และซีบัมหรือไขมัน ผื่นชนิดนี้ยังอาจเกิดขึ้นที่บริเวณเหงือกได้ อาการนี้อาจจะหายไปภายในไม่กี่วันหรือสัปดาห์ โดยไม่จำเป็นต้องรักษา ในขณะเดียวกัน การใช้น้ำมันหรือครีมทาอาจทำให้อาการนี้แย่ลงได้ 2. ผดร้อน เป็นลักษณะของตุ่มพุพองที่เต็มไปด้วยน้ำหนอง หรือตุ่มแดง ๆ ที่ปรากฏขึ้นที่หลัง หน้าอก หรือใต้วงแขนของเด็กทารก ผดร้อนเกิดจากการอุดตันของท่อเหงื่อที่ผิวหนัง จะพบมากในสภาพอากาศที่ร้อนและชื้น หรือการสวมเสื้อผ้าให้ทารกมากเกินไป 3. ภาวะต่อมไขมันอักเสบในเด็กทารก ภาวะต่อมไขมันอักเสบในเด็กทารก คือ สภาวะของผิวหนังที่ไขผิวหนังส่วนเกิน ยึดติดเซลล์ผิวหนังเข้าด้วยกัน ทำให้ไม่สามารถผลัดออกไปได้ตามปกติ ทำให้เกิดเป็นแผ่นสีเหลืองมันเยิ้ม ที่บริเวณหนังศีรษะของเด็กทารก 4. สิวในทารกแรกเกิด ประมาณ 30% ของทารกแรกเกิด จะมีสิวขึ้นภายใน 4 เดือนแรก […]


ภาวะทุพโภชนาการ

วิตามินบี 12 สำหรับอย่างไรต่อสุขภาพของเด็ก

วิตามินบี 12 มีความสำคัญกับในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะสำหรับเด็ก เนื่องจากเป็นวิตามินชนิดละลายน้ำที่ทำหน้าที่ในการสร้างและรักษาภาวะในร่างกาย จัดเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อระบบประสาท การสร้างเซลล์เม็ดเลือด การสังเคราะห์พลังงาน และกิจกรรมทางชีวเคมีพื้นฐานอื่น ๆ หากเด็กขาดวิตามินบี 12 อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายหลายด้าน [embed-health-tool-vaccination-tool] วิตามินบี 12 มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเด็กอย่างไร วิตามินบี 12 ช่วยเสริมการทำงานของไมอีลิน (Myelin) ซึ่งเป็นสารคล้ายไขมันที่ทำหน้าที่เป็นเยื่อหุ้มเซลล์สมอง ช่วยปกป้องระบบประสาท และกระตุ้นการสื่อสารระหว่างสมองและอวัยวะส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น มือ เท้า นอกจากนี้ วิตามินบี 12 ยังช่วยรักษาระบบการย่อยอาหารให้เป็นปกติ และป้องกันการเกิดโรคหัวใจ โดยช่วยปรับระดับคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต และยังเป็นวิตามินที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถรักษาและป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ การได้รับวิตามินบี 12 ในปริมาณที่ต่ำกว่าปกติ อาจทำให้เด็กเสี่ยงเป็นโรคออทิสติก (Autistic Disorder) มากขึ้น วิตามินบี 12 ยังเป็นสารอาหารที่สำคัญในกระบวนการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง ดังนั้น หากขาดวิตามินชนิดนี้ เด็กอาจเป็นโรคโลหิตจางได้ แหล่งของวิตามินบี 12  อาหารที่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสมจะมีปริมาณวิตามินบี 12 สูง แม้ว่าผักชนิดต่าง ๆ จะมีวิตามิน 12 อยู่เช่นกัน แต่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถดูดซึมได้ดีพอ ผลิตภัณฑ์นม […]


โรคติดเชื้อในเด็ก

โรคมือเท้าปาก สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดได้อย่างไร

โรคมือเท้าปาก (Hand, foot and mouth disease หรือ HFMD) เป็นโรคติดเชื้อไม่รุนแรง ที่เกิดจากไวรัสค็อกแซ็กกี้ (Coxsackie virus) และเอนเทอโรไวรัส (Enterovirus) โรคนี้พบมากในทารกและเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และยังไม่มียารักษาเฉพาะ อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมือเท้าปาก และรับมือกับโรคมือเท้าปากอย่างถูกวิธีได้ [embed-health-tool-vaccination-tool] วิธีลดความเสี่ยงในการเกิด โรคมือเท้าปาก สำหรับวิธีการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมือเท้าปากอาจทำได้ ดังนี้ ลดการแพร่กระจาย โรคมือเท้าปากแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ เช่น น้ำมูก น้ำลาย และไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคมือเท้าปากอาจยังคงอยู่ในทางเดินหายใจ หรือลำไส้ของผู้ป่วยได้หลายสัปดาห์หลังจากอาการทั้งหมดหายไป ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่เชื้อโรคจะแพร่กระจายจากผู้ที่ไม่มีอาการหรือสิ่งบ่งชี้ไปยังผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ทารก เด็ก โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษาเฉพาะ คุณพ่อคุณแม่จึงควรลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายและการรับเชื้อของลูกด้วยการดูแลรักษาสุขอนามัยให้ดี อย่าให้ลูกเข้าใกล้ผู้ที่มีอาการป่วยหรือติดเชื้อ ไม่ให้ลูกใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เป็นต้น และหากลูกป่วยหรือติดเชื้อ ก็ควรให้ลูกพักรักษาตัวอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงที่ลูกจะแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น ป้องกันโรคให้ดี การป้องกันโรคมือเท้าปากที่ดีที่สุด คือ การปฏิบัติตนให้มีสุขอนามัยที่ดี การสอนเด็กเกี่ยวกับวิธีการล้างมือโดยใช้น้ำอุ่นและสบู่ สามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้เป็นอย่างมาก เด็กยังควรได้รับการสอนให้ล้างมือหลังจากหยิบสิ่งของ ใช้ห้องน้ำ และก่อนรับประทานอาหาร หรือทันทีที่เด็กสัมผัสกับสิ่งสกปรก นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกไม่ให้เอามือเข้าปากหรือสัมผัสใบหน้า หรือหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ เข้าปากโดยเด็ดขาด ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องรักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อมโดยรอบลูก […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน