พ่อแม่เลี้ยงลูก

ในทุกช่วงชีวิตของลูกน้อย เหล่าคุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องรู้วิธีดูแลและสนับสนุนสุขภาพโดยรวมของลูกน้อย เพื่อให้ความเป็นอยู่ของลูกน้อยดีขึ้น เพราะฉะนั้นใน พ่อแม่เลี้ยงลูก คุณจะได้พบกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงเคล็ดลับในการดูแลลูกให้แข็งแรง มีความสุข และสามารถปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์

เรื่องเด่นประจำหมวด

พ่อแม่เลี้ยงลูก

โปลิโอ เป็นแล้วรักษาไม่หาย แต่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

โปลิโอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไข้ไขสันหลังอักเสบ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสโปลิโอ (Poliovirus) ซึ่งเคยส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์ในอดีต โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก แม้ว่าในปัจจุบันโรคนี้จะลดลงอย่างมากเนื่องจากการพัฒนาวัคซีน แต่ความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคและการป้องกันยังคงมีความสำคัญ [embed-health-tool-vaccination-tool] โปลิโอ คืออะไร โรคโปลิโอเกิดจากเชื้อไวรัสในตระกูล Picornavirus โดยไวรัสนี้แบ่งเป็น 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ PV1, PV2 และ PV3 ซึ่งไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อน รวมถึงการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยตรง เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย มันจะแพร่กระจายในลำไส้และระบบประสาทส่วนกลาง ทำลายเซลล์ประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออัมพาต การแพร่กระจายของโรค โรคโปลิโอแพร่กระจายได้ง่ายในพื้นที่ที่มีการสุขาภิบาลไม่ดี โดยเชื้อไวรัสจะถูกขับออกจากร่างกายผู้ติดเชื้อผ่านทางอุจจาระ แล้วปนเปื้อนในน้ำหรืออาหาร นอกจากนี้ การสัมผัสใกล้ชิด เช่น การสัมผัสมือหรือของใช้ส่วนตัวที่มีเชื้อไวรัสอยู่ ก็เป็นอีกเส้นทางที่โรคสามารถแพร่กระจายได้ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน อาการของโรคโปลิโอ โรคโปลิโอมีลักษณะอาการหลากหลาย ตั้งแต่ไม่มีอาการไปจนถึงอัมพาตรุนแรง ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ (70-90%) ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อได้ อาการเบื้องต้น รวมถึงไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ และคลื่นไส้ อาการรุนแรง ได้แก่ อัมพาตของแขนขา หรือในบางกรณีเชื้อไวรัสอาจทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ ส่งผลให้เสียชีวิต สำหรับบางคนที่เคยติดเชื้อ อาจเกิดภาวะ กลุ่มอาการหลังโปลิโอ (Post-Polio Syndrome) ในระยะเวลาหลายปีหลังจากการติดเชื้อ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและปวดกล้ามเนื้อ การป้องกันด้วยวัคซีน ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคโปลิโอเฉพาะเจาะจง การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรับวัคซีน […]

หมวดหมู่ พ่อแม่เลี้ยงลูก เพิ่มเติม

สำรวจ พ่อแม่เลี้ยงลูก

ความผิดปกติทางพัฒนาการและพฤติกรรม

เด็กสมาธิสั้น กับการวางแผนการเรียนสำหรับเด็ก

เด็กสมาธิสั้น เป็นอาการสมองและระบบประสาท ที่อาจส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการและพฤติกรรมผิดปกติ และหากส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันหรือการเรียนได้ อย่างไรก็ตาม การวางแผนการเรียนและการใช้ชีวิตที่เหมาะสมให้กับเด็กสมาธิสั้น อาจช่วยให้เด็กใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น และอาจช่วยเสริมสร้างพัฒนาการและพฤติกรรมของเด็กได้ด้วย [embed-health-tool-vaccination-tool] โรคสมาธิสั้น คืออะไร โรคสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder หรือ ADHD) เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและสมอง กล่าวคือ สมองที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการใช้สมาธิ การจดจ่อ เป็นต้น ทำงานผิดปกติ จนอาจส่งผลเด็กสมาธิสั้นมีอาการอยู่นิ่งไม่ได้ มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เป็นนาน ๆ ไม่ได้ เหม่อลอย วอกแวกง่าย มีอาการหุนหันพลันแล่น เป็นต้น และเด็กสมาธิสั้นมักพบโรคอื่น ๆ ด้วย เช่น โรควิตกกังวล โรคกล้ามเนื้อกระตุก โรคการเรียนรู้บกพร่อง การรักษาเด็กสมาธิสั้นที่นิยมใช้กันทั่วไป เช่น การปรึกษาคุณหมอหรือนักบำบัด และในบางกรณีอาจต้องรับประทานยาควบคู่ไปด้วย เช่น เมทิลเฟนิเดต (Methylphenidate) โดยระยะเวลาและวิธีในการรักษาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แผนการเรียนสำหรับ เด็กสมาธิสั้น คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกสมาธิสั้นอาจกังวลว่า ทำอย่างไรลูกจึงจะมีผลการเรียนที่ดี เนื่องจากเด็กสมาธิสั้นมักไม่ค่อยมีสมาธิในการเรียน และไม่สามารถจดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นาน ๆ ทั้งยังอาจมีพฤติกรรม เช่น ทำการบ้านไม่เสร็จ อย่างไรก็ตาม เคล็ดลับหรือแผนการเรียนต่อไปนี้ อาจช่วยให้เด็กสมาธิสั้นสามารถเรียนหนังสือ หรือเรียนรู้เรื่องต่าง […]


การเติบโตและพัฒนาการ

สอนให้ เด็กว่ายน้ำ ได้ประโยชน์มากกว่าที่คิด

การสอนให้ เด็กว่ายน้ำ มีประโยชน์หลายประการ นอกจากจะส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง มีกิจกรรมทำยามว่าง ได้ออกกำลังกาย นอนหลับได้ดีขึ้น และดีต่อสุขภาพจิตของเด็ก ยังช่วยให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย มีความสุขกับการเล่นน้ำ ที่สำคัญเป็นการฝึกทักษะการอยู่รอดทางน้ำอีกด้วย [embed-health-tool-vaccination-tool] ควรเริ่มสอนให้ เด็กว่ายน้ำ เมื่อไร การเรียนว่ายน้ำสามารถเริ่มได้เมื่อเด็กมีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป เพราะหากเด็กว่ายน้ำเป็นจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการจมน้ำสำหรับเด็กอายุระหว่าง 1-4 ปีได้ บางครอบครัวอาจเริ่มให้เด็กลงเล่นน้ำในสระเพื่อทำความคุ้นเคยตั้งแต่เป็นทารก อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจส่วนใหญ่ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของเด็กและผู้ปกครองด้วย หากทั้งสองฝ่ายมีความพร้อมแล้วก็สามารถให้เด็กเริ่มเรียนว่ายน้ำได้เลย แต่ส่วนใหญ่แล้วอายุที่พร้อมสำหรับการเรียนว่ายน้ำนั้นอยู่ที่ 4-5 ปีขึ้นไป   เด็กว่ายน้ำ มีประโยชน์อย่างไร 1. ประโยชน์ทางกาย การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio exercise) ที่ดีเยี่ยม ช่วยสร้างเสริมสุขภาพหัวใจและปอด ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มความสมดุลให้แก่ร่างกายได้ด้วย 2. ประโยชน์ทางด้านสุขภาพจิต การว่ายน้ำช่วยปรับสภาพจิตใจและอารมณ์ของเด็กให้ผ่อนคลายขึ้น มีความสุขกับการอยู่ในน้ำ ช่วยลดความเครียด อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ที่กำลังรักษาภาวะซึมเศร้าสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้นด้วย 3. ช่วยป้องกันโรคอ้วนในเด็ก การว่ายน้ำช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากถึง 340 – 420 กิโลแคลอรี่ ซึ่งมากกว่าการเดินเร็ว 30 นาทีที่เผาผลาญแคลอรี่ไปเพียง 100 กิโลแคลอรี่ และมากกว่าการวิ่ง 9 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่เผาผลาญเเคลอรี่ได้ 300 กิโลแคลอรี่ 4. ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น การว่ายน้ำช่วยให้เด็กนอนหลับได้ง่ายขึ้นในเวลากลางคืน เพราะการว่ายน้ำเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมาก เด็กจึงรู้สึกเพลียและนอนหลับง่ายขึ้นนั่นเอง 5. ช่วยให้ลูกเข้าสังคมได้ง่ายขึ้น หากเด็ก […]


สุขภาพจิตวัยรุ่น

โรคกลัวสังคม คุณพ่อคุณแม่ควรรับมืออย่างไร

โรคกลัวสังคม เป็นโรควิตกกังวลชนิดหนึ่งที่อาจทำให้เกิดความกลัวอย่างรุนแรงในสภาพแวดล้อมทางสังคม ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้อาจมีปัญหาในการพูดคุยกับผู้คน การพบปะผู้คนใหม่ ๆ อีกทั้งยังกลัวการถูกตัดสินจากผู้อื่น อาการดังกล่าวนั้นไม่ได้พบเฉพาะในผู้ใหญ่ แต่เด็ก ๆ ก็อาจเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน โรคกลัวสังคม คืออะไร โรคกลัวสังคม (Social phobia) คือ โรควิตกกังวลนิดหนึ่งที่อาจทำให้เกิดความหวาดกลัวอย่างรุนแรงเมื่อต้องพูดคุยกับผู้คน พบปะผู้คนใหม่ ๆ และการเข้าสังคม นอกจากนั้น ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้อาจกลัวการถูกตัดสินหรือพิจารณาจากผู้อื่น โรคกลัวสังคมอาจเป็นความกลัวที่ไม่มีเหตุผล และอาจรุนแรงจนไม่สามรถก้าวข้ามผ่านไปได้  โรคกลัวสังคมอาจแตกต่างจากการเขินอาย เพราะการเขินอายอาจเกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ และอาจไม่รบกวนชีวิตประจำวัน ส่วนโรคกลัวสังคมอาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนอาจส่งผลทำให้ร่างกายอ่อนแอ และอาจส่งผลต่อความสามารถต่าง ๆ ดังนี้ การทำงาน การเรียนหนังสือ การพัฒนาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนนอกครอบครัว โรคกลัวสังคมอาจเป็นปัญหาที่เริ่มในช่วงวัยรุ่น สำหรับบางคนอาจดีขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น แต่สำหรับหลาย ๆ คนอาจไม่หายไปเองถ้าไม่ได้รับการรักษา ดังนั้น อาจต้องไปพบคุณหมอ เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี อาการของโรคกลัวสังคม อาการของโรคกลัวสังคม อาจมีอาการเกิดขึ้นทั้งด้านกายภาพ และทางจิตใจ โดยอาการที่อาจเกิดขึ้นมีดังนี้ ลักษณะอาการทางกายภาพ  หน้าแดง มีอาการพูดลำบาก เวียนหัวหรือมึนหัว เหงื่อออกมากเกินไป ตัวสั่นหรือมีอาการสั่น อัตราการเต้นของหัวใจอย่างรวดเร็ว คลื่นไส้ อาเจียน ลักษณะอาการทางจิต  กังวลอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ทางสังคม กังวลเกี่ยวกับความอับอายในที่สาธารณะ กังวลว่าคนอื่นจะสังเกตเห็นว่ากำลังเครียดหรือวิตกกังวล มีความกังวลกับวันหรือสัปดาห์ กังวลก่อนเหตุการณ์นั้น ๆ จะมาถึง ต้องการดื่มแอลกอฮอล์เวลาที่ต้องเข้าสังคม ปลีกตัวออกจากสังคม  ขาดเรียน หรือลางาน หากโรคกลัวสังคมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยอาจพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ทางสังคมทั้งหมด เช่น การถามคำถาม การสัมภาษณ์งาน การใช้ห้องน้ำสาธารณะ การคุยโทรศัพท์ การรับประทานอาหารในที่สาธารณะ การไปช้อปปิ้ง วิธีรับมือของคุณพ่อคุณแม่ เมื่อเด็กเกิดโรคกลัวสังคม คุณพ่อคุณแม่อาจดูแลเด็กได้ดังนี้ สอนให้เด็กรู้จักการเอาใจใส่ คุณพ่อคุณแม่อาจสอบถามเด็กว่าเพื่อนคนอื่น ๆ รู้สึกอย่างไร เวลาเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้น และอาจตามติดสถานการณ์ของเด็กอยู่เสมอ สอนให้เด็กเข้าใจในเรื่องของการมีพื้นที่ส่วนบุคคล […]


พ่อแม่เลี้ยงลูก

เด็กบูลลี่เพื่อน ในโรงเรียน ควรดูแลอย่างไร

การถูกแกล้งจากเพื่อนในโรงเรียน อาจส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจของเด็ก แต่ในขณะเดียวกัน หากเด็กไม่ได้ถูกบูลลี่จากผู้อื่น แต่กลับเป็น เด็กบูลลี่เพื่อน คนอื่น ๆ เสียเอง คุณพ่อคุณแม่อาจต้องมีการติดตามพฤติกรรมของเด็กอยู่เสมอ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้พฤติกรรมดังกล่าวส่งผลเสียจนติดเป็นนิสัยไปจนโต ดังนั้น การดูแลเด็กอย่างถูกวิธีอาจช่วยลดปัญหาการบูลลี่ผู้อื่นในโรงเรียนได้ เด็กบูลลี่เพื่อน ในโรงเรียนอย่างไรบ้าง โดยปกติแล้ว เด็กที่มีเพื่อนเยอะอาจอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม รวมทั้งอาจมองเด็กที่มีเพื่อนน้อยว่าเป็นคนแปลกแยก เมื่อเด็กเหล่านี้รวมตัวกันก็อาจมีพฤติกรรมกลั่นแกล้งเด็กที่มีเพื่อนน้อยด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ตะโกน ส่งเสียงล้อเลียน เดินเบียด หรืออาจแกล้งด้วยการนำของบางอย่างมาแปะที่ตัว เช่น กระดาษโน้ตที่เขียนคำล้อเลียน แต่ในกรณีที่ร้ายแรงอาจถึงขั้นทำร้ายร่างกายจนได้รีบบอกเจ็บได้ ในขณะเดียวกัน เด็กบางคนอาจไม่ได้เป็นหัวโจกของการกระทำดังกล่าว แต่เพราะอยู่ในเพื่อนกลุ่มใหญ่ก็อาจต้องทำตามเพื่อน เพื่อจะได้เป็นที่ยอมรับ ซึ่งในปัจจุบัน การบูลลี่นั้นอาจไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในโรงเรียนเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถเกิดในโซเชียลมีเดียได้ด้วย โดยการบูลลี่ในโซเชียลมีเดียอาจเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่ไม่รู้จักเข้ามาร่วมบูลลี่ได้มากขึ้นกว่าเดิม การดูแลเด็กไม่ให้บูลลี่ผู้อื่น โดยปกติแล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจปกป้องลูกของตัวเอง ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถรู่ได้เลยว่า พฤติกรรมของเด็กเมื่ออยู่ที่โรงเรียนเป็นอย่างไร อาจมีความแตกต่างจากตอนอยู่บ้านก็เป็นได้ ดังนั้น การปกป้องเด็กแบบไม่ถูกวิธี อาจส่งผลเสียต่อนิสัยและพฤติกรรมต่าง ๆ ได้ ซึ่งเมื่อเด็กเติบโตไปอาจกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ดีต่อสังคมได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจสอนเด็กให้หลีกเลี่ยงจากพฤติกรรมบูลลี่ผู้อื่นได้ ด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้ 1. สร้างครอบครัวที่อบอุ่น หากพื้นฐานครอบครัวมีความอบอุ่น แวดล้อมไปด้วยความรัก อาจส่งผลทำให้เด้กเติบโตขึ้นอย่างมีความสุข เข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น การที่คุณพ่อคุณแม่ปล่อยปละละเลยเด็กตั้งแต่ที่บ้าน อาจทำให้เด็กขาดความรักและการเอาใจใส่ […]


สุขภาพเด็ก

เด็กผมร่วง เกิดจากอะไร และวิธีรับมือที่ควรรู้

เด็กผมร่วง เป็นปัญหาสุขภาพผมที่ไม่ค่อยพบได้เท่าไหร่ โดยอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น กลาก เกลื้อน โรคดึงผม โรคผมร่วง หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตพบว่าเด็กผมร่วงมากกว่าปกติ ควรพาลูกไปเข้ารับการตรวจเพื่อสาเหตุที่แน่ชัดและทำการรักษาในทันที [embed-health-tool-vaccination-tool] เด็กผมร่วง เกิดจากอะไร โดยปกติแล้ว เมื่อทุกคนเริ่มมีอายุมากขึ้น ผมก็จะหลุดร่วงไป ถือเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นกันได้ทั่วไป และมีสาเหตุต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความเครียด อาการแพ้ การติดเชื้อ ไปจนถึงเรื่องของลักษณะทางพันธุกรรม แต่สำหรับเด็กนั้น ผมร่วงมีสาเหตุมาจาก กลากเกลื้อน  หากพบว่าลูกมีเกลื้อนบนหนังศีรษะ ให้พึงระวังว่านั่นจะเป็นสาเหตุของการทำให้เกิดผมร่วงได้ในเวลาต่อมา เมื่อผมร่วงลงไป บริเวณที่ผมไม่ร่วงก็จะมองดูลักษณะคล้ายกับว่ามีจุดสีดำอยู่ทั่วศีรษะ โรคผมร่วงเป็นหย่อม ๆ ผมร่วงเป็นหย่อมๆ มีสาเหตุมาจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ทำงานผิดปกติและทำลายรูขุมขน อาการที่ปรากฏอย่างเห็นได้ชัดแบบฉับพลันเลยก็คือ ผมจะร่วงเป็นวงกลมหรือรูปไข่  โรคผมร่วงเป็นหย่อมๆจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันดังนี้ ผมร่วงเป็นหย่อมๆ ผมร่วงหมดทั้งศีรษะ ผมร่วงทั้งหมดบนหนังศีรษะและขนตามตัวร่วงทั้งหมด โรคดึงผม เด็กหลายคนชอบที่จะดึงผม ถอนผมของตัวเอง แพทย์จัดอาการนี้อยู่ในรูปแบบของความผิดปกติชนิดที่เรียกว่าโรคย้ำคิดย้ำทำ ซึ่งผลที่ตามมาคือผมจกบาง หรือบางลงเป็นหย่อมๆ ผมร่วงในระยะทีโลเจน (Telogen effluvium) ทีโลเจน (Telogen) เป็นส่วนหนึ่งของการเจริญเติบโตของเส้นผม ตามปกติแล้วเมื่อเส้นผมหยุดการเจริญเติบโต เส้นผมเก่าจะหลุดออกมาเพื่อให้เส้นผมใหม่ได้งอกขึ้น ซึ่งจะมีรูขุมขนแค่เพียง 10 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่อยู่ในระยะนี้ในเวลาใดก็ได้ เด็กที่มีภาวะเกี่ยวกับทีโลเจน (Telogen) รูขุมขนจะเข้าสู่ระยะ ทีโลเจน (Telogen) มากกว่าปกติ ดังนั้นแทนที่จะสูญเสียเส้นผม 100 เส้นต่อวันเหมือนเด็กปกติ แต่จะเหลือ […]


ปัญหาสุขภาพเด็กแบบอื่น

สายตาสั้น ในเด็ก รู้หรือไม่ เกิดขึ้นได้อย่างไร?

สายตาสั้น ในเด็ก อาจเกิดจากพันธุกรรมที่ได้รับสืบทอดกันมาในครอบครัว โดยอาจมีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างเป็นตัวกระตุ้น เช่น การใช้สายตาอย่างหนัก การใช้สายตาในที่มืด การมองจอมือถือ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นและการใช้ชีวิตประจำวันได้ ดังนั้น พ่อแม่จึงควรเรียนรู้วิธีการดูแลและแก้ไขปัญหาสายตาสั้นให้ลูกน้อย [embed-health-tool-vaccination-tool] สายตาสั้น ในเด็ก เกิดขึ้นได้อย่างไร? ส่วนใหญ่แล้ว “สายตาสั้น” มักเกิดขึ้นจากการได้รับพันธุกรรม ของคุณพ่อคุณแม่โดยตรง ซึ่งเมื่อเด็กมีสายตาสั้น จะทำให้พวกเขา เห็นภาพในระยะไกลไม่ชัดเจน หรือภาพที่เห็น อาจจะพร่ามัว แต่นอกจากการได้รับพันธุกรรมแล้ว สายตาสั้น ยังเกิดขึ้นได้เมื่อเด็ก ใช้สายตาอย่างละเอียด หรือใช้สายตาอย่างใกล้ชิดจนเกินไป นอกจากนั้นการอ่านหนังสือ เล่นเกมบนมือถือ หรือแท็บเลต หนักมากเกินไปก็อาจส่งผลให้ สายตาสั้นได้ ภาวะสายตาสั้นในเด็ก มีสัญญาณอะไรบ่งบอก สำหรับ ภาวะสายตาสั้นในเด็กนั้น มักจะถูกพบ ในช่วงอายุ 9-10 ปี ซึ่งสัญญาณเริ่มแรกที่เกิดขึ้น คือ ลูกของคุณจะไม่สามารถอ่านข้อความบนกระดานดำจากหลังห้องได้ แต่ยังสามารถอ่านและเขียนได้โดยไม่มีปัญหาอะไร นอกจาก หากมีอาการเหล่านี้ปรากฏร่วมด้วย ก็ถือว่า เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ลูกของคุณกำลังสายตาสั้น ซึ่งอาการต่างๆ มีดังนี้ ปวดศีรษะ มีอาการคลื่นไส้ หลังจากอ่านหนังสือ ถือหนังสือใกล้ใบหน้ามากกว่าปกติ เวลาเขียนหนังสือ จะมีพฤติกรรมเอาหน้าชิดโต๊ะ นั่งดูโทรทัศน์ในระยะใกล้ขึ้น […]


เด็กวัยเรียน

ลูกโดนแกล้ง คุณพ่อคุณแม่ควรรับมืออย่างไร

การโดนแกล้งกลายเป็นปัญหาใหญ่ในโรงเรียน เพราะนอกจากจะทำให้ลูกไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพจิตในระยะยาวอีกด้วย ทั้งนี้ หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นว่าลูกมีแผลหรือรอยฟกช้ำโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่อยากอาหาร ซึมเศร้า อาจเป็นสัญณาณว่า ลูกโดนแกล้ง ซึ่งควรได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน และคุณพ่อคุณแม่ควรเรียนรู้วิธีรับมือเมื่อลูกโดนแกล้งอย่างเหมาะสม เพราะอาจช่วยลดปัญหาสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวันของลูกที่เกิดจากการโดนแกล้งได้ ชนิดของการกลั่นแกล้ง ที่ควรรู้ การกลั่นแกล้งที่พบได้ทั่วไป เช่น การกลั่นแกล้งทางร่างกาย (Physical Bullying) เป็นการกลั่นแกล้งที่ส่งผลต่อร่างกาย มักเกิดขึ้นในหมู่เด็กผู้ชาย เช่น การชกต่อย การตบตี การเตะ การหยิก และหมายถึงการทำลายทรัพย์สินของอีกฝ่ายได้ด้วย การกลั่นแกล้งทางวาจา (Verbal Bullying) เช่น การด่า การพูดล้อเลียน การพูดเหยียด การพูดวิจารณ์อีกฝ่าย การกลั่นแกล้งทางสังคม (Social Bullying) เป็นการทำให้อีกฝ่ายสูญเสียความน่าเชื่อถือหรือความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ทำให้เสียหน้า หรือทำให้ไร้ตัวตนในสังคม เช่น การปล่อยข่าวลือหรือข่าวเท็จ การวิจารณ์รูปร่างหน้าตาต่อหน้าคนอื่น การเล่นมุกตลกที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอับอายหรือโดนคนอื่นล้อเลียน การทำให้คนอื่น ๆ ไม่คบหากับคนที่โดนแกล้ง การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์หรือโลกออนไลน์ (Cyber bullying) เป็นการกลั่นแกล้งหรือระรานผู้อื่นในสื่อออนไลน์ เช่น การโพสต์ข้อความ ภาพ หรือคลิปวิดีโอที่ไม่สมควรเผยแพร่ของอีกฝ่าย การปล่อยข่าวเท็จของผู้อื่นในสื่อโซเชียล ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]


โภชนาการเด็กวัยเรียน

แคลเซียมในนมแต่ละชนิด ต่างกันอย่างไรบ้าง

เด็กในวัยเรียนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดื่มนม การดื่มนมช่วยในด้านการเจริญเติบโตของร่างกาย เพิ่มโอกาสที่จะสูงขึ้น นมเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญอย่างโปรตีนและแคลเซียมซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต อย่างไรก็ตาม แคลเซียมในนมแต่ละชนิด อาจจะมีปริมาณที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงควรศึกษาเกี่ยวกับปริมาณของแคลเซียมในนมแต่ละชนิด และเลือกชนิดของนมให้เหมาะสมกับความต้องการของลูก [embed-health-tool-bmi] แคลเซียมในนม มีประโยชน์อย่างไรบ้าง นมอุดมไปด้วยแคลเซียมและสารอาหาร มากมาย อีกทั้งยังช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ช่วยให้ฟันแข็งแรง ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ดังนั้นการดื่มนมสำหรับเด็ก ในวัยที่กำลังเจริญเติบโตจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ปริมาณของแคลเซียมในน้ำนมแต่ละชนิด นมถั่วเหลือง นมถั่วเหลือง คือ นมที่ได้จากถั่วเหลือง เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่แพ้นมวัว คนกินมังสวิรัติ และวีแกน (Vegan) ด้วย โดยนมถั่วเหลืองมีปริมาณแคลเซียมอยู่ 25 มิลลิกรัม  นมวัว นมวัวหนึ่งในเมนูสุดคลาสสิกตลอดกาล ที่อุดมไปด้วยสารอาหารและคุณประโยชน์มากมาย ทั้งโปรตีนที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและแคลเซียม โดยนมวัวมีปริมาณแคลเซียม 113 มิลลิกรัม นมแพะ ในปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่หลายคนเริ่มหันมาให้ลูกดื่มนมแพะกันเพิ่มมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบระหว่างนมแพะกับนมชนิดอื่นๆพบว่า นมแพะมีปริมาณของโปรตีนที่สูงกว่านมชนิดอื่นๆ และนมแพะมีปริมาณแคลเซียม 327 มิลลิกรัม นมข้าวโอ๊ต นมข้าวโอ๊ต สกัดมาจากข้าวโอ๊ต ปัจจุบันเป็นกระแสนิยมในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศในอเมริกา และกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะตามร้านกาแฟ ปัจจุบันมีร้านกาแฟหลายร้านที่เริ่มเปลี่ยนมาใช้นมข้าวโอ๊ต และนมข้าวโอ๊ตถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของมังสวิรัติด้วย นมข้าวโอ๊ตมีปริมาณแคลเซียมมากถึง 350 มิลลิกรัม นมอัลมอนด์ นมอัลมอนด์จัดว่าเป็นนมที่มีปริมาณแคลอรี่มากกว่านมชนิดอื่น ไม่มีไขมันอิ่มตัว และไม่มีแลคโตส และยิ่งไปกว่านั้นนมอัลมอนด์ยังจัดว่ามีปริมาณแคลเซียมมากกว่านมวัวอีกด้วย โดยนมอัลมอนด์มีปริมาณแคลเซียมสูงสุดถึง 400 มิลลิกรัมเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม แม้ปริมาณของแคลเซียมในนมแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกัน […]


โภชนาการเด็กวัยเรียน

พ่อแม่รู้หรือไม่ เด็กกินมื้อเช้า สำคัญกว่าที่คิด

เด็กกินมื้อเช้า เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นมื้อเริ่มต้นที่ช่วยให้ร่างกายมีอาหารสำหรับเผาผลาญแคลอรี่และร่างกายนำพลังงานไปใช้อย่างพอเพียงสำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ นอกจากนั้น สารอาหารต่าง ๆ ยังช่วยให้มีสุขภาพที่แข็งแรง เติบโตมีพัฒนาการที่สมวัยทั้งด้านร่างกาย สมอง สติปัญญา และอารมณ์ [embed-health-tool-vaccination-tool] เด็กกินมื้อเช้า ได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง คุณพ่อคุณแม่ควรหาเวลาจัดเตรียมอาหารให้เด็ก ๆ ได้รับประทานทุกเช้า เพราะมื้อเช้านั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้านต่าง ๆ หลายประการ ดังนี้ ช่วยเสริมสร้างสมาธิ อาหารเช้าช่วยให้เด็ก ๆ อิ่มท้อง อารมณ์ดี มีพลังงาน และมีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เรียน ทำให้เด็กเข้าใจเนื้อหาของบทเรียนมากขึ้น เด็กที่กินอาหารเช้าก่อนมาเรียน มักจะมีสมาธิดีกว่าเด็กที่อดอาหารเช้าเนื่องจากความหิวจะทำให้กระวนกระวายและยากจะจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ ช่วยให้เด็กมีผลการเรียนที่น่าพึงพอใจ เมื่อเด็กมีสมาธิในการเรียนที่ดี โอกาสที่การเรียนและผลคะแนนต่าง ๆ จะออกมาน่าพึงพอใจย่อมสูงกว่าเด็กที่ไม่ตั้งใจเรียน ทั้งนี้ อาหารเช้านอกจากจะให้พลังงานที่จำเป็นแล้ว สารอาหารต่าง ๆ ยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการต่า่ง ๆ ทั้งด้านความคิด ความจำ ทักษะการแก้ปัญหาต่าง ๆ งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับบทบาทของอาหารเช้าต่อพฤติกรรมและผลการเรียนของเด็กและวัยรุ่น เผยแพร่ในวารสาร Frontiers in Human Neuroscience พ.ศ.2556 ระบุว่า เด็กที่รับประทานมื้อเช้าเป็นประจำทุกวันมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมตั้งใจเรียนและมีผลการเรียนที่ดี   พลังงานที่เพิ่มขึ้น เด็กหลายคนมักจะนอนดึกเพื่อนั่งทบทวนบทเรียนหรือทำการบ้าน และหลายครั้งมักหลับโดยที่ไม่ได้กินอาหารเย็น เมื่อตื่นเช้าก็ต้องรีบเดินทางไปโรงเรียนทำให้ต้องอดอาหารเช้า และอาจเหลือเพียงมื้อกลางวันเพียงมื้อเดียว ซึ่งทำให้ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารไม่เพียงพอ อาจทำให้ร่างกายง่วงระหว่างวัน การกินอาหารเช้าจะช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่ดีต่อสุขภาพ […]


โภชนาการเด็กวัยเรียน

วิตามินซี สำคัญกับเด็กวัยเรียนอย่างไร

วิตามินซี เป็นอีกหนึ่งวิตามินที่มีความสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับเด็กวัยเรียน ที่ต้องการวิตามินซีในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หลอดเลือด และกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรศึกษาเกี่ยวกับความสำคัญและปริมาณของวิตามินซีที่เด็กวัยเรียนควรได้รับ เพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ [embed-health-tool-vaccination-tool] วิตามินซี สำคัญต่อเด็กวัยเรียนอย่างไร เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสร้างหรือผลิตวิตามินซีได้เอง เด็กวัยเรียนจึงต้องได้รับจากอาหารหรืออาหารเสริมที่มีวิตามินซี เนื่องจากวิตามินซีมีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้ ช่วยรักษาความสมบูรณ์ของ เนื้อเยื่อในร่างกาย และผิวหนัง วช่วยกระตุ้นให้ร่างกายคอลลาเจน หลอดเลือด กระดูกอ่อน รวมถึงกล้ามเนื้อ มีสารช่วยสลายไขมัน เพื่อนำมาสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทำงานดีขึ้น ช่วยสารที่ช่วยให้ระดับ ความวิตกกังวล ที่เกิดขึ้นลดลง ช่วยสร้างและซ่อมแซมเซลล์เม็ดเลือดแดง กระดูก และเนื้อเยื่อ ทั้งยังทำให้เหงือกและหลอดเลือดของเด็กแข็งแรง นอกจากนี้ ยังช่วยลดรอยช้ำ รักษาแผล เพิ่มภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ร่างกายดูดซึมแหล่งอาหารจากธาตุเหล็กได้ดีอีกด้วย ปริมาณวิตามินซีสำหรับเด็กวัยเรียน แม้วิตามินซีจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่เด็กๆ ก็ควรได้รับ ในปริมาณที่เหมาะสม โดยปริมาณที่แนะนำสำหรับเด็กแต่ละช่วยวัย อาจมีดังนี้ 0-6 เดือน : 40 มิลลิกรัม/วัน 7-12 เดือน : 50 มิลลิกรัม/วัน 1-3 […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน