สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Hello คุณหมอ จึงอยากนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ผู้อ่านได้มีสุขภาพทางเพศที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพทางเพศ

ป้องกัน “มะเร็งปากมดลูก” ด้วยการตรวจหาเชื้อ HPV แบบระบุสายพันธุ์

การตรวจคัดกรองเป็นประจำ ทำให้มีโอกาสตรวจพบระยะก่อนมะเร็ง สามารถรักษาได้ มะเร็งปากมดลูกเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของมะเร็งสตรีในผู้หญิงไทย  “โดยทุกๆ 2 ชั่วโมง มีหญิงไทยเสียชีวิต 1 คน” มะเร็งปากมดลูกมีสาเหตุหลักจากเชื้อไวรัส HPV  ซึ่งมี 14 สายพันธุ์เสี่ยงสูงก่อมะเร็ง ประกอบด้วย HPV 16, 18, 31, 33, 35, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 66 และ 68  ประโยชน์ของตรวจ HPV ระบุสายพันธุ์ HPV 14 สายพันธุ์เสี่ยงสูง  เป็นประโยชน์ในการตรวจติดตามการรักษาผู้ที่เคยติดเชื้อแล้วตรวจพบไวรัส HPV  ว่าร่างกายสามารถกำจัดเชื้อได้ (Clearance) หรือยังคงติดเชื้อซ้ำ HPV สายพันธุ์เดิมไม่สามารถกำจัดได้ (Persistence) ซึ่งการติดเชื้อซ้ำนี้มีโอกาสเพิ่มการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้  สามารถบอกถึงภาวะติดเชื้อร่วมหลายสายพันธุ์ (Co-infection) ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ตรวจข้อมูลสายพันธุ์ของเชื้อ HPV  สามารถมีข้อมูลเลือกวัคซีนที่เหมาะสมในการป้องกันได้ สามารถเก็บข้อมูลระบาดวิทยาของ HPV แต่ละสายพันธุ์ได้  ทราบข้อมูลทั้งก่อนและหลังการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากการตรวจแบบแยกระบุสายพันธุ์ได้ ตรวจครอบคลุม […]

สำรวจ สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ

ต่อมลูกหมากหน้าที่ คืออะไร สำคัญอย่างไรต่อระบบสืบพันธุ์

ต่อมลูกหมาก (The prostate gland) เป็นอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชาย ที่อยู่ลึกลงไปในกระดูกเชิงกราน ระหว่างองคชาตและกระเพาะปัสสาวะ โดยจะล้อมรอบท่อปัสสาวะอยู่ ต่อมลูกหมากหน้าที่ สำคัญ คือ ผลิตของเหลวที่หล่อเลี้ยงและปกป้องอสุจิ และในขณะที่ผู้ชายหลั่ง ต่อมลูกหมากจะบีบของเหลวเข้าไปในท่อปัสสาวะ และของเหลวนั้นจะถูกขับออกมานอกร่างกายในรูปแบบของน้ำอสุจิพร้อมกับตัวอสุจิ [embed-health-tool-bmi] ต่อมลูกหมากคืออะไร ต่อมลูกหมากเป็นอวัยวะหนึ่งในระบบสืบพันธุ์เพศชาย เช่นเดียวกับองคชาต ถุงน้ำเชื้อ และลูกอัณฑะ มีรูปร่างคล้ายลูกเกาลัดหรือลูกหมาก กว้าง 4 เซนติเมตร ยาว 3 เซนติเมตร หนา 2 เซนติเมตร และหนัก 30 กรัมโดยประมาณ ต่อมลูกหมากมีตำแหน่งอยู่ที่บริเวณปากทางกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งอยู่ด้านหน้าของลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย (ไส้ตรง) โดยจะหุ้มรอบท่อปัสสาวะซึ่งเป็นท่อที่ไหลผ่านศูนย์กลางของต่อมลูกหมาก จากกระเพาะปัสสาวะไปยังองคชาต และลำเลียงปัสสาวะไหลออกจากร่างกาย ทำให้เมื่อต่อมลูกหมากมีปัญหา อาจส่งผลต่อการไหลเวียนปัสสาวะได้เช่นกัน ต่อมลูกหมากหน้าที่ คืออะไร หน้าที่หลักของต่อมลูกหมาก คือ การผลิตของเหลวหล่อเลี้ยงตัวอสุจิ โดยของเหลวที่ต่อมลูกหมากหลั่งออกมาจะประกอบไปด้วยสารประกอบต่าง ๆ เช่น แอนติเจนเฉพาะของต่อมลูกหมาก (PSA) เอนไซม์ สังกะสี กรดซิตริก ที่ช่วยให้ตัวอสุจิแข็งแรง สามารถเดินทางผ่านท่อปัสสาวะได้สะดวก มีชีวิตรอดเมื่อผ่านเข้าไปในช่องคลอด และสามารถเดินทางเข้าไปผสมกับไข่ที่ปลายท่อนำไข่ได้ ซึ่งจำเป็นอย่างมากในการสืบพันธุ์ […]


การติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์

HIV อาการ ในแต่ละระยะของการติดเชื้อ เป็นอย่างไร

เมื่อติดเชื้อ HIV อาการ ที่ปรากฏจะแตกต่างไปในแต่ละระยะ โดยการติดเชื้อ HIV แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะการติดเชื้อเฉียบพลัน ระยะการติดเชื้อไม่แสดงอาการ และระยะโรคเอดส์ ทั้งนี้ หากผู้ติดเชื้อ HIV ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สะอาดและปราศจากสารตกค้าง และรับประทานยาต้านไวรัสทุกวัน จะช่วยชะลอหรือป้องกันไม่ให้เข้าสู่ระยะโรคเอดส์ได้ ทั้งยังช่วยให้ผู้ป่วยสามารถมีชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพชีวิตใกล้เคียงปกติมากที่สุด [embed-health-tool-bmi] HIV คืออะไร HIV (เอชไอวี) ย่อมาจาก Human Immunodeficiency Virus เป็นเชื้อไวรัสที่ทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่เรียกว่าเซลล์ซีดี 4 (CD4 cells) ซึ่งทำหน้าต่อสู้กับการติดเชื้อและสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดนี้น้อยลง จึงส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง และหากการติดเชื้อ HIV พัฒนาจนเข้าสู่ระยะสุดท้ายหรือระยะโรคเอดส์ (AIDs) ก็จะยิ่งทำให้เสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อฉวยโอกาสที่มักรักษาได้ยากและติดเชื้อซ้ำได้ง่าย เช่น วัณโรค การติดเชื้อรา การติดเชื้อในสมอง เชื้อ HIV สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสหรือได้รับของเหลวในร่างกายของผู้ติดเชื้อ ด้วยวิธีต่อไปนี้ การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดหรือทวารหนักโดยไม่สวมถุงยางอนามัย เป็นวิธีที่พบได้บ่อยมากที่สุด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น เช่น การเสพยาเสพติดด้วยกัน การสัมผัสเลือดหรือของเหลวของผู้ติดเชื้อ […]


โรคซิฟิลิส

ตุ่มซิฟิลิส เป็นแบบไหน รักษาได้อย่างไร

ตุ่มซิฟิลิส เป็นตุ่มที่เกิดขึ้นเมื่อเป็นโรคซิฟิลิส (Syphilis) ในระยะที่ 2 โรคนี้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually transmitted disease หรือ STD) ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง พบได้บ่อยในผู้ที่มีพฤติกรรมทางเพศเสี่ยงสูงหรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย การรักษาทำได้ด้วยการรับยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อออกจากร่างกาย ทั้งนี้ การไปพบคุณหมอตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้โรคไม่พัฒนาเข้าสู่ระยะที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งยังช่วยป้องกันการแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่นได้อีกด้วย [embed-health-tool-bmi] ซิฟิลิส คืออะไร ซิฟิลิส คือ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียทรีโพนีมา แพลลิดัม (Treponema pallidum) จัดเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่งที่แพร่กระจายได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปากกับผู้ติดเชื้อ เมื่อติดเชื้อแล้ว เชื้อจะแฝงอยู่ในร่างกายได้เป็นเวลาหลายปี และอาจทราบได้ว่าเป็นโรคนี้จากการมีตุ่มซิฟิลิสขึ้นตามร่างกาย โรคนี้ไม่สามารถหายได้เองและจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อกำจัดเชื้อออกจากร่างกายและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปยังบุคคลอื่น หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษาอาจทำให้อวัยวะต่าง ๆ เช่น สมอง หัวใจ ดวงตา ระบบประสาท เสียหายได้ ซิฟิลิส อาการ เป็นอย่างไร อาการของการติดเชื้อซิฟิลิส อาจมีดังนี้ มีตุ่มขึ้นตามร่างกาย อ่อนเพลีย มีไข้ น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ผมร่วง ต่อมน้ำเหลืองโต หากการติดเชื้อรุนแรงและลามไปยังระบบประสาท อาจทำให้เกิดอาการต่อไปนี้ คอแข็ง ปวดศีรษะ สูญเสียการได้ยิน มีปัญหาเกี่ยวกับปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกาย […]


สุขภาพทางเพศ

ยาขับเลือด คืออะไร และควรใช้อย่างไรให้ถูกต้อง

ยาขับเลือด เป็นยาสตรีแผนโบราณที่ประกอบด้วยสมุนไพรหลายชนิด มีทั้งชนิดน้ำและชนิดเม็ดสำหรับรับประทาน สรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย ปรับสมดุลฮอร์โมน ปรับการหมุนเวียนโลหิต และช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ ซึ่งหากรับประทานยาขับเลือดอย่างถูกวิธีก็จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพผู้หญิงมากมาย แต่หากรับประทานผิดก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ก่อนรับประทานยาทุกชนิดควรขอคำปรึกษาจากคุณหมอ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงจากยา [embed-health-tool-ovulation] ยาขับเลือด คืออะไร ยาขับเลือด หรือที่หลายคนอาจรู้จักกันในชื่อของ ยาสตรี เป็นยาสมุนไพรที่มีส่วนประกอบของสมุนไพรหลายชนิด เช่น ขิง ดีปรี พริกไทย น้ำมันสะระแหน่ ดอกคำฝอย ชะเอม โกฐเชียง โกฐหัวบัว กิ่งอบเชย ว่านชักมดลูก กวาวเครือขาว เทียนดำ เทียนแดง ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงร่างกาย และอื่น ๆ ดังนี้ บำรุงโลหิต กระตุ้นเลือดลมให้ไหลเวียนดี บรรเทาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการตกขาว ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น ช่วยขับน้ำคาวปลา โดยสมุนไพรในยาขับเลือดมีคุณสมบัติคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่ช่วยในการสร้างเยื่อบุโพรงมดลูกให้หนาขึ้น และเมื่อไม่มีการตั้งครรภ์เยื่อบุโพรงมดลูกจะลอกและสลายตัวกลายเป็นเลือดประจำเดือน ส่งผลให้ผู้หญิงประจำเดือนมาปกติมากขึ้น ยาขับเลือด ใช้อย่างไร ปัจจุบันยาขับเลือดมี 2 ชนิดให้เลือกรับประทานได้ตามความสะดวก คือ ชนิดน้ำและชนิดเม็ด โดยแต่ละชนิดอาจมีวิธีรับประทานที่แตกต่างกัน ดังนี้ ยาขับเลือดชนิดน้ำ รับประทานครั้งละ 2 […]


สุขภาพทางเพศ

ตกขาวสีเขียวอันตรายไหม ควรดูแลตัวเองอย่างไร

ผู้หญิงหลายคนที่พบความผิดปกติของตกขาว อาจสงสัยว่าหากมี ตกขาวสีเขียวอันตรายไหม หากมีตกขาวสีเขียวแต่ไม่มีอาการอื่น ๆ เช่น กลิ่นเหม็นเปรี้ยว ตกขาวเป็นฟอง ผื่นแดง แสบร้อน คันบริเวณอวัยวะเพศ ก็อาจไม่เป็นอันตรายมากนัก แต่หากมีอาการดังที่กล่าวมาร่วมด้วยควรเข้าพบคุณหมอเพื่อหาสาเหตุ เพราะอาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ [embed-health-tool-ovulation] ตกขาวสีเขียว เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ตกขาวสีเขียวส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิจากการมีเพศสัมพันธ์ และอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ทางเดินปัสสาวะ เพราะการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน การเข้าห้องน้ำสาธารณะ การสวนล้างอวัยวะเพศ เป็นต้น ส่งผลให้แบคทีเรียในช่องคลอดเสียสมดุล ซึ่งนำไปสู่การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะและทำให้มีอาการตกขาวสีเหลือง เขียว เทา ตกขาวมีกลิ่น คันและแสบร้อนช่องคลอด ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ (Pelvic Inflammatory Disease หรือ PID) เป็นการติดเชื้อบริเวณระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ส่วนใหญ่เกิดจากโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองใน โรคหนองในเทียม นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากการสวนล้างช่องคลอด หลังคลอดบุตร การแท้งบุตร เป็นต้น อาจทำให้มีอาการอ่อนเพลีย มีไข้ ปวดท้อง เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ตกขาวสีเขียวหรือสีเหลือง ตกขาวมีกลิ่นเหม็น ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Vaginosis […]


สุขภาพทางเพศ

รอบเดือนเกิน 35 วัน ผิดปกติหรือไม่ และเกิดจากสาเหตุใด

ปกติ ผู้หญิงจะมีรอบเดือน 21-35 วัน หรือเฉลี่ยประมาณ 28 วัน หาก รอบเดือนเกิน 35 วัน อาจเป็นภาวะผิดปกติที่มีสาเหตุมาจากกลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ กลุ่มอาการคุชชิงโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบ ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น การรักษาภาวะรอบเดือนเกิน 35 วันสามารถทำได้ด้วยการรักษาภาวะสุขภาพที่เป็นสาเหตุ เพื่อทำให้การทำงานของระบบสืบพันธุ์กลับมาทำงานเป็นปกติ [embed-health-tool-ovulation] รอบเดือนเกิน 35 วัน ผิดปกติหรือไม่ ตามปกติแล้ว ผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์จะมีประจำเดือนนานประมาณ 4-7 วัน และจะมีรอบเดือนประมาณ 21-35 วัน และมีรอบเดือนเฉลี่ยประมาณ 28 วัน ขึ้นอยู่กับอายุและภาวะสุขภาพด้วย ทั้งนี้ หากมีจำนวนวันในแต่ละรอบเดือนเท่า ๆ กัน แสดงว่ารอบเดือนเป็นปกติ สำหรับการมีรอบเดือนเกิน 35 วัน เรียกว่ารอบเดือนห่าง หรือรอบระดูห่าง (Oligomenorrhea) ทำให้ใน 1 ปีมีรอบเดือนน้อยลงและอาจมีประจำเดือนเพียง 4-9 ครั้งเท่านั้น ภาวะนี้พบได้ไม่บ่อยนักในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ แต่ก็ควรเข้าพบคุณหมอ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด รอบเดือนเกิน 35 วัน เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง การมีรอบเดือนเกิน 35 วัน […]


สุขภาพทางเพศ

มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด เกิดจากสาเหตุใด

ตามปกติแล้ว ผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์จะมีประจำเดือนหรือเมนส์มาเป็นประจำทุกเดือน เนื่องจากเยื่อบุผนังมดลูกหลุดลอกออกตามธรรมชาติ ประจำเดือนของแต่ละคนจะมีลักษณะและปริมาณแตกต่างกันไป ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของร่างกาย แต่หากพบว่า มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด ในช่วงที่ไม่ได้เป็นประจำเดือน ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น ปวดท้องน้อย ตกขาวเปลี่ยนสี แสบช่องคลอด [embed-health-tool-bmi] มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด เกิดจากสาเหตุใด อาการมีมูกเลือดออกทางช่องคลอด ที่เกิดขึ้นขณะไม่ได้เป็นประจำเดือน อาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้ ระดับฮอร์โมนผิดปกติ หากระดับฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ อาจทำให้การรับส่งสัญญาณผิดพลาดและทำให้มีมูกเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน อาจพบได้ในผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวมาก โดยทั่วไปสามารถรักษาได้ด้วยการลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม นอกจากนี้ระดับฮอร์โมนที่แปรปรวนยังอาจทำให้วัยรุ่นที่เพิ่งเข้าสู่ช่วงเป็นประจำเดือนและผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทองมีมูกเลือดออกทางช่องคลอดโดยไม่คาดคิดได้ การตั้งครรภ์ การตั้งครรภ์ในระยะแรกอาจทำให้มีมูกเลือดไหลจากช่องคลอด อาจเกิดจากตัวอ่อนฝังตัวเข้ากับโพรงมดลูก หรือที่เรียกว่า เลือดล้างหน้าเด็ก และขณะตั้งครรภ์ปากมดลูกอาจมีเลือดออกได้ง่ายเพราะมีหลอดเลือดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือทางการแพทย์ถ่างช่องคลอดเพื่อตรวจภายในก็อาจทำให้มีมูกเลือดออกทางช่องคลอดได้เช่นกัน ทั้งนี้ หากมีมูกเลือดออกในปริมาณมากขณะตั้งครรภ์ อาจเป็นสัญญาณของภาวะสุขภาพอื่น ๆ เช่น การแท้ง การตั้งครรภ์นอกมดลูก การคลอดก่อนกำหนด ปัญหาเกี่ยวกับมดลูก ปัญหาเกี่ยวกับรก ควรไปพบคุณหมอเพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างเหมาะสม การคุมกำเนิด การคุมกำเนิดด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ห่วงคุมกำเนิด (intrauterine device หรือ IUD) อาจกระทบต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย ส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ จนทำให้ มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด ในช่วงเวลาที่แตกต่างไปจากปกติได้ ปัญหาเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ แม้อาการมีมูกเลือดออกทางช่องคลอดในกรณีนี้จะพบได้ไม่บ่อย แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของภาวะสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์อย่างรังไข่ ปากมดลูก มดลูก […]


สุขภาพทางเพศ

วิธีรักษาตกขาวปนเลือด ทำได้อย่างไรบ้าง

ตกขาวปนเลือด (Bloody Vaginal Discharge) เป็นอาการตกขาวผิดปกติ ที่อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะสุขภาพบางประการ วิธีรักษาตกขาวปนเลือด และอาการตกขาวผิดปกติอื่น ๆ เช่น มีกลิ่นเหม็น เปลี่ยนเป็นสีเหลือง เขียว น้ำตาล จะแตกต่างไปตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ผู้ที่มีปัญหาควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาให้หายโดยเร็ว [embed-health-tool-bmi] สาเหตุ และ วิธีรักษาตกขาวปนเลือด โดยทั่วไป ตกขาวจะมีลักษณะเป็นของเหลว ใส ทำหน้าที่หล่อลื่นช่องคลอด ช่วยรักษาความสะอาดและป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอด หากตกขาวปนเลือดควรไปพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ เพราะสาเหตุของตกขาวปนเลือดนั้นมีด้วยกันหลายประการ วิธีรักษาตกขาวปนเลือด จึงแตกต่างกันไปตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ เช่น ความผิดปกติของฮอร์โมน ระดับฮอร์โมนที่แปรปรวนอาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือนในช่วงวันอื่น ๆ ที่ไม่ใช่วันมีประจำเดือนตามรอบเดือน จึงส่งผลให้มีตกขาวปนเลือดได้ ซึ่งอาจพบได้บ่อยในวัยรุ่นที่เพิ่งมีประจำเดือนและผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน วิธีรักษา อาการที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจบรรเทาลงได้ด้วยการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมโดยการควบคุมอาหาร ลดการกินจุกจิบ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้น้ำหนักลดลงและทำให้ฮอร์โมนกลับมาสมดุล เพราะน้ำหนักที่มากเกินไปมักทำให้ระดับฮอร์โมนแปรปรวนได้ การตั้งครรภ์ เมื่อตั้งครรภ์ กระบวนการตกไข่จะหยุดทำงาน ทำให้ไม่มีประจำเดือนตลอดการตั้งครรภ์ และร่างกายจะผลิตมูกปากมดลูก (Mucus plug) อุดบริเวณปากมดลูกไว้เพื่อป้องกันเชื้อโรค เช่น เชื้อแบคทีเรีย เข้าสู่มดลูกจนทำให้ทารกในครรภ์ติดเชื้อ เมื่อถึงช่วงใกล้คลอด ปากมดลูกจะหดและขยายตัว ส่งผลให้เส้นเลือดบริเวณปากมดลูกแตก ทำให้มีเลือดไหลปนออกมากับมูกปากมดลูก เรียกว่า มูกเลือด (Bloody show) […]


สุขภาพทางเพศ

ผู้ชายเสื่อมสมรรถภาพ อายุเท่าไหร่ มีสาเหตุมาจากอะไร

ผู้ชายเสื่อมสมรรภาพ อายุเท่าไหร่ ? โดยปกติแล้ว ผู้ชายจะยังมีความต้องการทางเพศอยู่จนกระทั่งถึงอายุ 60-70 ปี อย่างไรก็ตาม ระดับความต้องการทางเพศนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละคนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น อายุ ความเครียด ไลฟ์สไตล์ โรคประจำตัว ทำให้ผู้ชายบางรายอาจเสื่อมสมรรถภาพเร็วหรือช้ากว่านั้น [embed-health-tool-bmi] เสื่อมสมรรถภาพ หมายถึง อะไร ผู้ชายเสื่อมสมรรถภาพ หมายถึง การหมดความสนใจเกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศทุกชนิด หมดอารมณ์หรือไม่มีความต้องการทางเพศเป็นระยะเวลานาน รวมทั้งการที่องคชาตไม่แข็งตัว หรือใช้เวลานาน รวมทั้งการถึงจุดสุดยอดช้า หรือไม่สามารถถึงจุดสุดยอดได้ ทั้งนี้ อาการเสื่อมสมรรถภาพเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่โดยปกติแล้ว มักเกิดขึ้นได้ในผู้ชายวัยทอง หรือในช่วงอายุระหว่าง 40 – 65 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่ร่างกายเริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงของระบบสืบพันธุ์ เนื่องจากอัณฑะเสื่อมสภาพไปตามธรรมชาติส่งผลให้ระดับฮอร์โมนแอนโดรเจน และเทสโทสเทอโรนค่อย ๆ ลดลง ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ เริ่มเปลี่ยนแปลงไปรวมทั้งความต้องการทางเพศและความสามารถในการทำกิจกรรมทางเพศที่ลดลงด้วยเช่นกัน สัญญาณเตือนอาการเสื่อมสมรรถภาพ การเสื่อมสมรรภาพทางเพศ ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้น เนื่องจากร่างกายเริ่มเสื่อมถอย อย่างไรก็ตาม หากต้องการทราบว่าตอนเองเสื่อมสมรรภาพทางเพศหรือไม่ อาจลองสังเกตสัญญาณต่อไปนี้ หมดความสนใจในกิจกรรทางเพศ รวมทั้งการช่วยตัวเอง ไม่มีจินตนาการเกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศ หรือแทบจะไม่คิดถึงการมีเพศสัมพันธ์ ไม่มีความสุขที่ตัวเองหมดอารมณ์ทางเพศหรือไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องเพศ สาเหตุที่ทำให้ ผู้ชายเสื่อมสมรรถภาพ สาเหตุที่ทำให้ความต้องการทางเพศลดน้อยลงนั้นมีด้วยกันหลายปัจจัย […]


สุขภาพทางเพศ

การฝันเปียก และการมีประจําเดือน มีความสัมพันธ์กันอย่างไร

ผู้หญิงและผู้ชายที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นอาจมีข้อสงสัยว่า การฝันเปียก และการมีประจําเดือน มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ซึ่งตามปกติทั้ง 2 อาการนี้เป็นสัญญาณของวัยเจริญพันธุ์ที่พร้อมในการสืบพันธุ์ หากทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีเพศสัมพันธ์ด้วยการสอดใส่และหลั่งใน ก็สามารถเกิดการตั้งครรภ์ได้ทันที [embed-health-tool-ovulation] ฝันเปียก คืออะไร ฝันเปียก คือ การหลั่งน้ำอสุจิออกมาจากอวัยวะเพศชายขณะหลับ โดยปกติแล้วฝันเปียกจะเกิดขึ้นขณะนอนหลับและอาจกำลังฝันถึงเรื่องเพศ ในความฝันสามารถปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศจนสามารถทำให้บุคคลถึงจุดสุดยอดขณะหลับได้ โดยที่ไม่ต้องสัมผัสกับอวัยวะเพศ ฝันเปียกเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ฝันเปียกมักเกิดขึ้นครั้งแรกในวัยแรกรุ่นอายุประมาณ 13 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวัยเจริญพันธุ์ โดยร่างกายจะเริ่มผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และอัณฑะเริ่มผลิตตัวอสุจิกับน้ำอสุจิ จากนั้นร่างกายจะปล่อยน้ำอสุจิออกมาเมื่อเกิดการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ โดยเฉพาะในขณะหลับ จึงถูกเรียกว่า ฝันเปียก ประจำเดือนคืออะไร ประจำเดือน คือ เลือดที่ไหลออกมาจากช่องคลอด ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างเป็นวัฏจักรในทุก ๆ เดือน เมื่อถึงช่วงตกไข่ รังไข่จะปล่อยไข่ไปยังท่อนำไข่เพื่อรอการผสมและปฏิสนธิ แต่หากไม่มีตัวอสุจิมาผสม ไข่และเยื่อบุโพรงมดลูกจะสลายตัวกลายเป็นเลือดประจำเดือน และไหลออกมาจากช่องคลอดในทุก ๆ เดือน ประจำเดือนเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ประจำเดือนมักเกิดขึ้นครั้งแรกในผู้หญิงวันแรกรุ่นที่อายุประมาณ 12-13 ปี ซึ่งเป็นวันเจริญพันธุ์ โดยปกติรอบเดือนจะเกิดขึ้นในทุก 28-30 วัน และจะตกไข่ในวันที่ 14 หากไม่มีการผสมกับอสุจิในช่วงเวลานี้ ไข่และเยื่อบุโพรงมดลูกก็จะสลายกลายเป็นประจำเดือน ในขณะเดียวกันผู้หญิงบางคนที่เป็นประจำเดือนอาจมีอาการปวดท้อง ปวดหลังส่วนล่าง ปวดเมื่อยร่างกาย อารมณ์แปรปรวน หรืออาจไม่มีอาการอะไรเลย การฝันเปียก และการมีประจําเดือน มีความสัมพันธ์กันอย่างไร การฝันเปียกและการมีประจำเดือนมีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นอน เนื่องจากทั้ง 2 อาการเป็นสัญญาณของวัยเจริญพันธุ์ […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม