สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Hello คุณหมอ จึงอยากนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ผู้อ่านได้มีสุขภาพทางเพศที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพทางเพศ

วัคซีน HPV ผู้ชายฉีดได้ไหม? ช่วยอะไร?

HPV (Human Papillomavirus) คือไวรัสที่ติดต่อทางการมีเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย อีกทั้งยังอาจนำไปสู่การเกิดโรคร้ายอย่างมะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งลำคอ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจคิดว่า HPV ส่งผลกระทบแค่กับผู้หญิงเท่านั้น จึงมองข้ามความสำคัญของการฉีดวัคซีน hpv สำหรับผู้ชายไปได้ บทความนี้จึงอยากจะมาแก้ไขความเข้าใจผิด และนำเสนอให้ผู้อ่านได้เห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีน HPV ในผู้ชาย [embed-health-tool-vaccination-tool] HPV ส่งผลอะไรต่อผู้ชาย เชื้อไวรัส HPV เป็นเชื้อไวรัสที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดย แบ่งเป็นสายพันธุ์เสี่ยงต่ำ และสายพันธุ์เสี่ยงสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเพศชาย ดังนี้ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งทวารหนักเกิดจากการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูง เช่น HPV 16 และ 18 ซึ่งทำให้เซลล์บริเวณทวารหนักเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเป็นมะเร็งได้  ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ติดเชื้อ HIV  ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย  การมีคู่นอนหลายคน  อาการที่พบบ่อยคือ เลือดออกจากทวารหนัก ปวดหรือกดเจ็บในบริเวณนั้น และรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อ  การป้องกันทำได้โดยการฉีดวัคซีน HPV การตรวจคัดกรองในกลุ่มเสี่ยง และการใช้ถุงยางอนามัย มะเร็งองคชาต มะเร็งองคชาตเกิดจากการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูง เช่น HPV 16 และ […]

หมวดหมู่ สุขภาพทางเพศ เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ

Sex Toy มีกี่ชนิด วิธีใช้ และข้อควรระวัง

Sex Toy หรือ เซ็กส์ทอย คือ อุปกรณ์เสริมสำหรับสร้างความสุขทางเพศให้ทั้งชายและหญิง เช่น ดิลโด้ (Dildo) ไวเบรเตอร์ (Vibrator) มักถูกออกแบบให้มีรูปร่าง ลักษณะ เหมือนอวัยวะเพศ และมีลูกเล่นต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยในการสำเร็จความใคร่   อย่างไรก็ตาม การใช้เซ็กส์ทอยมีความเสี่ยง หากใช้โดยไม่ระวังอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ [embed-health-tool-ovulation] ชนิดของ Sex Toy เซ็กส์ทอย ที่ได้รับความนิยมและพบได้ง่ายตามท้องตลาด อาจมีดังนี้ ดิลโด้ ดิลโด้ คือ เซ็กส์ทอยที่มีลักษณะเป็นแท่ง มักถูกออกแบบมาให้คล้ายกับองคชาตเพื่อสอดใส่ช่องคลอดหรือทวารหนักเพื่อกระตุ้นให้เกิดความสุขทางเพศ ดิลโด้บางชนิดอาจมีลักษณะโค้งเพื่อให้สามารถกระตุ้น G-spot ได้ตรงจุด ดิลโด้ทำจากวัสดุหลายอย่าง เช่น ซิลิโคน พลาสติก แก้ว โลหะ การใช้ดิลโด้ นอกจากเพื่อความสุขทางเพศแล้ว บางครั้งยังเพื่อรักษาปัญหาสุขภาพของผู้หญิง เช่น ภาวะช่องคลอดหดเกร็ง การรัดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน ซึ่งทำให้มีผู้หญิงบางคนไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ ไวเบรเตอร์ ไวเบรเตอร์ เป็นเซ็กส์ทอยที่ผู้หญิงนิยมใช้มากที่สุด มีรูปร่างหลากหลาย บางครั้งเรียกว่า ไข่สั่น เนื่องจากบางรุ่นถูกออกแบบมารูปร่างคล้ายไข่ โดยไวเบรเตอร์สั่นได้ด้วยแบตเตอรี่ มีระดับความสั่นที่หลากหลาย เพื่อให้สอดรับกับรสนิยมของผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน ในการใช้งาน ผู้ใช้จะเหน็บหรือวางไวเบรเตอร์ไว้บริเวณที่ไวต่อความรู้สึกทางเพศ เช่น คลิตอริส ช่องคลอด ทวารหนัก […]


สุขภาพทางเพศ

ทำหมันแล้วท้องได้ไหม และการทำหมันเป็นอย่างไร

ทำหมันแล้วท้องได้ไหม อาจเป็นคำถามที่ผู้ชายหลายคนสงสัย โดยปกติแล้ว การผ่าตัดทำหมันเป็นวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ทั้งนี้แม้จะทำหมันแล้วก็อาจยังมีโอกาสเล็กน้อยที่จะท้อง เพียงแต่เป็นไปได้ยาก อัตราการทำหมันแล้วท้องเกิดขึ้นได้เพียง 0.1 เปอร์เซ็นต์ การตั้งครรภ์หลังจากทำหมัน อาจเกิดได้จากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนการทำหมัน มีเพศสัมพันธ์หลังทำหมันทันทีซึ่งร่างกายของฝ่ายชายอาจมีสเปิร์มหลงเหลืออยู่ในท่ออสุจิ หรือสาเหตุอื่น ๆ ที่พบได้น้อยมาก [embed-health-tool-heart-rate] การทำหมันชาย การทำหมันชาย หมายถึง การคุมกำเนิดถาวรในผู้ชาย โดยการตัดหรือผูกหลอดนำอสุจิ เพื่อไม่ให้อสุจิซึ่งผลิตใหม่จากอัณฑะ ถูกลำเลียงไปยังถุงน้ำเชื้อ ผ่านหลอดนำอสุจิ แล้วหลั่งออกพร้อมน้ำเชื้อ ยามมีเพศสัมพันธ์ การทำหมันชาย ทำได้ 2 แบบ คือแบบดั้งเดิมและแบบเจาะ โดยแบบดั้งเดิมคือการใช้มีดผ่าถุงอัณฑะแล้วผูกหรือตัดหลอดนำอสุจิ จากนั้นเย็บปิดแผล ส่วนแบบเจาะหมายถึงการใช้เครื่องมือเฉพาะเจาะเข้าไปในถุงอัณฑะ เพื่อผูกหรือตัดหลอดนำอสุจิ การทำหมันชายเป็นการผ่าตัดที่ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที และไม่ทำให้สมรรถภาพทางเพศของผู้ชายลดลง ทำหมันชายแล้วทำผู้อื่นท้องได้ไหม การทำหมันชาย จะไม่ได้ผลในทันที เนื่องจากหลังจากทำหมันแล้ว อสุจิมักยังคงหลงเหลืออยู่ในหลอดอสุจิ และร่างกายจำเป็นต้องหลั่งน้ำอสุจิราว 15-20 ครั้ง เพื่อให้อสุจิหมดไป ระหว่างนั้นหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันอาจทำให้ฝ่ายหญิงท้องได้ โดยปกติ คุณหมอจะนัดผู้ชายซึ่งทำหมันแล้วตรวจจำนวนอสุจิในน้ำอสุจิหลังจากทำหมันไปแล้ว 1-3 เดือน หากไม่พบอสุจิในตัวอย่างน้ำอสุจิเลย แสดงว่าการทำหมันสำเร็จ และผู้ชายซึ่งทำหมันแล้วแทบจะไม่มีโอกาสทำให้ผู้หญิงท้องได้เลย อย่างไรก็ตาม สำหรับชายซึ่งทำหมันแล้ว แต่ยังพบอสุจิในตัวอย่างน้ำอสุจิ คุณหมอจะนัดให้เข้ามาตรวจอีกครั้ง หรือในบางกรณี คุณหมออาจขอตรวจเพิ่ม […]


สุขภาพทางเพศ

ทำหมัน วิธีคุมกำเนิดแบบถาวรสำหรับชายและหญิง

ทำหมัน เป็นวิธีคุมกำเนิดแบบถาวรสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งมีวิธีการที่แตกต่างกัน หากต้องการทำหมันควรศึกษาหาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อดีข้อเสียของการทำหมัน รวมทั้งข้อควรรู้อื่น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจให้ดีก่อนปรึกษาคุณหมอเพื่อเข้ารับการทำหมันต่อไป เนื่องจากหากตัดสินใจทำหมันแล้วต้องการแก้หมัน โอกาสในการมีลูกอาจลดลง ทำหมันชาย การทำหมันชาย เป็นการคุมกำเนิดแบบถาวร ด้วยการตัดหรือผูกหลอดนำอสุจิ เพื่อไม่ให้อสุจิถูกลำเลียงไปยังกระเปาะพักเชื้ออสุจิ และหลั่งออกมาพร้อมน้ำเชื้อขณะมีเพศสัมพันธ์หรือเมื่อถึงจุดสุดยอดและไปปฏิสนธิกับไข่ในร่างกายฝ่ายหญิงทำให้ให้เกิดการตั้งครรภ์ หลังทำหมันแล้ว เมื่อถึงจุดสุดยอด ร่างกายยังคงหลั่งน้ำเชื้อตามปกติแต่จะไม่มีอสุจิปนออกมา และอสุจิจะสลายไปตามกรรมวิธีของร่างกาย รูปแบบการทำหมันชาย ทำหมันชายใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที สามารถทำได้ 2 วิธี โดยคุณหมอจะเป็นผู้วินิจฉัยและเลือกวิธีการทำหมันให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละคน ซึ่งมีดังนี้ ทำหมันแบบดั้งเดิม คือ การให้ยาชา แล้วใช้มีดผ่าตัดผ่าบริเวณถุงอัณฑะ เพื่อตัดหลอดนำอสุจิหรือผูกปลายท่อทั้ง 2 ข้างให้ปิดสนิท ก่อนเย็บปิดแผล โดยวิธีนี้เป็นที่นิยมมากกว่า ทำหมันเจาะ คือ การให้ยาชา แล้วใช้เครื่องมือเฉพาะทางการแพทย์แทงทะลุผิวหนังเข้าไปเพื่อผูกหรือตัดหลอดนำอสุจิโดยใช้ความร้อน แผลจากการทำหมันเจาะจะเล็กกว่าการทำหมันแบบดั้งเดิมมาก ทำให้ไม่ต้องเย็บปิดแผล โอกาสติดเชื้อน้อยกว่าและใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า การดูแลตัวเองหลังทำหมันชาย ผู้เข้ารับการทำหมันอาจดูแลตัวเอง ดังนี้ กินยาแก้ปวด ซึ่งคุณหมอจะเป็นผู้จ่ายยาให้ในกรณีที่พบว่าคนไข้มีอัณฑะบวมหรือปวดหลังหลังจากทำหมัน งดกิจกรรมบางอย่าง เช่น การเล่นกีฬา ปั่นจักรยาน ขี่มอเตอร์ไซค์ เพื่อไม่ให้แผลกระทบกระเทือน งดการยกของหนัก เป็นเวลา 7 วันหลังจากทำหมัน แต่สามารถทำงานหรือยกของเบา ๆ […]


สุขภาพทางเพศ

LGBTQ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

LGBTQ (Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender, Queer) เป็นคำเรียกกลุ่มความหลากหลายทางเพศในสังคม ซึ่งกลุ่มหลัก ได้แก่ ชายรักชาย และหญิงรักหญิง สองกลุ่มนี้อาจเสี่ยงเป็น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ต่างจากกลุ่มคนอื่น ๆ ทั้งนี้ ควรศึกษาเกี่ยวกับชนิดของโรค เพื่อจะได้ระวังตนเอง รวมทั้งสังเกตอาการเบื้องต้นและหาทางป้องกัน กลุ่มชายรักชายและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ความเสี่ยงด้านสุขภาพทางเพศหลักของ LGBTQ กลุ่มชายรักชาย คือโรคติดต่อทางเพศพันธ์สัมพันธ์ ซึ่งติดต่อได้ผ่านสารคัดหลั่งต่าง ๆ รวมถึงเลือดและบาดแผล ระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ชายรักชายเสี่ยงต่อโรคประเภทนี้เนื่องจากพฤติกรรมมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในบางคู่ การมีคู่นอนหลายคน รวมถึงการร่วมเพศทางทวารหนักที่มีความบอบบาง อันเสี่ยงให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งมักพบในกลุ่มชายรักชาย มีดังนี้ การติดเชื้อเอชไอวีและเอดส์ เชื้อไวรัสเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus หรือ HIV) มักพบในน้ำอสุจิ สารคัดหลั่ง สามารถติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยป้องกัน โดยเฉพาะผ่านทางทวารหนักหรือเนื้อเยื่ออ่อน การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อ และการได้รับเลือดจากผู้ติดเชื้อ เมื่อติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะ เป็นไข้ ท้องเสีย หนาวสั่น ปวดเมื่อย ต่อมน้ำเหลืองบวม ในกรณีติดเชื้อโดยไม่รีบรักษา การติดเชื้อเอชไอวีอาจทำให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเอดส์ ผู้ป่วยเอดส์จะมีจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาว CD4 ต่ำ ทำให้ป่วยหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น […]


สุขภาพทางเพศ

แก้หมัน ขั้นตอนและความเสี่ยงต่อสุขภาพ

แก้หมัน หมายถึง การทำให้ชายหรือหญิงที่ทำหมันแล้ว กลับมามีลูกได้อีกครั้ง การแก้หมันเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างซับซ้อน ทั้งการแก้หมันชายและแก้หมันหญิงอาจมีความเสี่ยงที่ต้องใส่ใจเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพและการแก้หมันให้สำเร็จ แก้หมันชาย คือ การผ่าตัดต่อท่อนำอสุจิ ทำให้การลำเลียงอสุจิจากอัณฑะ ซึ่งถูกยับยั้งไว้จากการทำหมันให้กลับมาทำงานได้เป็นปกติ โดยหากแก้หมันสำเร็จ เมื่อร่างกายผลิตอสุจิออกมา อสุจิจะถูกลำเลียงไปยังกระเปาะพักเชื้ออสุจิด้านหลังต่อมลูกหมาก เพื่อรอส่งออกจากลูกอัณฑะเมื่อถึงจุดสุดยอดผ่านไปยังองคชาติแล้วปล่อยน้ำเชื้อเข้าสู่ร่างกายผู้หญิงไปผสมกับไข่ที่รอการผสม และทำให้เกิดการตั้งครรภ์ ขั้นตอนการแก้หมันชาย เมื่อผู้ชายต้องการแก้หมัน คุณหมอจะทำการตรวจดังนี้ ความพร้อมของร่างกาย เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายไม่มีความผิดปกติ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และสามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ ความแข็งแรงของอสุจิ จากการตรวจตัวอย่างน้ำอสุจิด้วยกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งหากมีลูกแล้วอาจเป็นข้อบ่งชี้หนึ่งว่าอสุจิอาจมีสุขภาพดี อย่างไรก็ตาม อสุจิอาจสุขภาพแย่ลงได้ ด้วยปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ การสูบบุหรี่ อาหารที่รับประทาน ความพร้อมของฝ่ายหญิง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาเรื่องความพร้อมในการตั้งครรภ์ ในกรณีฝ่ายหญิงอายุ 40 ปี ขึ้นไป โอกาสตั้งครรภ์จะน้อยลง ในกรณีคุณหมออนุญาตให้แก้หมัน จะมีขั้นตอนดังนี้ ดมยาสลบ หลังจากนั้น คุณหมอจะกรีดถุงอัณฑะทั้งสองข้างแล้วส่องกล้องจุลทรรศน์สำหรับการผ่าตัดซึ่งมีกำลังขยายประมาณ 25 เท่าเพื่อมองหาท่ออสุจิซึ่งผ่านการทำหมันไว้แล้ว คุณหมอจะต่อท่ออสุจิ โดยอาจเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งจาก 2 วิธี คือ Vasovasostomy ซึ่งเป็นการเย็บเชื่อมท่อนำอสุจิเข้าด้วยกัน และ Vasoepididymostomy ซึ่งเป็นการเย็บต่อท่อนำอสุจิเข้ากับหลอดเก็บตัวอสุจิโดยตรง โดยวิธีหลังจะค่อนข้างซับซ้อนกว่า โดยคุณหมอจะเลือกวิธีที่ […]


สุขภาพทางเพศ

แปลงเพศ จากชายเป็นหญิง ขั้นตอนและความเสี่ยง

แปลงเพศ จากชายเป็นหญิง เป็นการเปลี่ยนแปลงเพศสภาพจากชายไปสู่หญิง โดยมักใช้วิธี ผ่าตัดอวัยวะเพศ รวมทั้งการใช้ฮอร์โมนเพศหญิงเพื่อปรับสภาพร่างกายร่วมด้วย ทั้งนี้ การแปลงเพศไม่สามารถทำให้ ผู้ที่ได้รับการแปลงเพศกลายเป็นเพศตรงข้ามได้ 100 เปอร์เซ็นต์  และยังมีความเสี่ยงที่ควรระวัง เช่น ผลข้างเคียง จากการใช้ฮอร์โมนในระยะยาว ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด และการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด ขั้นตอนการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง การแปลงเพศมีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน แต่ละบุคคลอาจจะได้รับการวินิจฉัยและวางแผนการแปลงเพศที่แตกต่างกันออกไป โดยปกติการแปลงเพศจากชายไปเป็นหญิงมีขั้นตอน ดังนี้ 1. ก่อนผ่าตัดและการคัดกรองโรค เมื่อบุคคลแสดงความประสงค์จะแปลงเพศกับสถานพยาบาลแห่งใดแห่งใดหนึ่ง มักถูกซักประวัติเป็นอันดับแรก เพื่อตรวจสอบว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะแปลงเพศ โดยเกณฑ์พิจารณาหลัก ๆ มีดังนี้ อายุครบ 20 ปี บริบูรณ์ (ในกรณีอายุ 18 ปีหรือยังไม่ถึง 20 ปี จำเป็นต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครอง) ได้รับการวินิจฉัยว่ามีความทุกข์ใจในเพศสภาพ (Gender dysphoria) ซึ่งเป็นความไม่พอใจที่เพศวิถีของตัวเองไม่ตรงกับเพศโดยกำเนิด รู้ตัวว่าอยากเป็นผู้หญิงมานานแล้ว หรือใช้ชีวิตในฐานะผู้หญิงข้ามเพศมาเกิน 1 ปี มีใบรับรองจากจิตแพทย์อย่างน้อย 2 คน ใช้ฮอร์โมนเพศหญิงมานานเกิน 1 ปี นอกจากนี้ ยังต้องเข้ารับการตรวจโรคเพื่อยืนยันว่าร่างกายเหมาะสมสำหรับการผ่าตัด โดยโรคหรือภาวะผิดปกติต่าง ๆ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจและการวินิจฉัยของคุณหมอ เช่น […]


สุขภาพทางเพศ

ฝันเปียกคืออะไร ผิดปกติหรือไม่ และเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับฝันเปียก

ฝันเปียกคืออะไร ฝันเปียกหมายถึงการหลั่งน้ำอสุจิหรือถึงจุดสุดยอดขณะนอนหลับทำให้กางเกงนอนหรือที่นอนเปียก และบางครั้งอาจเกิดควบคู่กับความฝันเรื่องเพศ  ฝันเปียกเป็นปรากฏการณ์ซึ่งพบได้เป็นปกติในวัยรุ่นชายและเป็นส่วนหนึ่งของการเจริญเติบโตทางเพศ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่อาจยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาการฝันเปียกนี้อยู่ ซึ่งผู้ชายที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ควรทำความเข้าใจ [embed-health-tool-ovulation] ทำไมถึงฝันเปียก? ฝันเปียกเกิดจากการที่ร่างกายของวัยรุ่นชาย เริ่มผลิตเทสโทสเตอโรน (Testosterone) หรือฮอร์โมนเพศที่ทำให้เกิดการสร้างอสุจิและหลั่งออกมาเป็นครั้งคราวเมื่อนอนหลับ ฝันเปียกเกิดขึ้นเมื่อองคชาตแข็งตัวหรือไม่แข็งตัวก็ได้ โดยการฝันเปียกครั้งแรก ปกติจะเกิดขึ้นตอนวัยรุ่นชายอายุประมาณ 13 ปี แต่อาจเกิดขึ้นไวหรือช้ากว่านี้ได้ งานวิจัยเรื่อง “การศึกษาความรู้ เจตคติ ความเชื่อ และพฤติกรรมทางเพศของเยาวชนไทย” โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า อายุต่ำสุดของเด็กผู้ชายที่พบการฝันเปียกคือ เด็กอายุ 8 ปี อย่างไรก็ตาม วัยรุ่นชายบางคนอาจไม่เคยฝันเปียกและผู้ชายบางคนอาจฝันเปียกน้อยครั้งมากในชีวิตหรือไม่เคยเลยซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและไม่จำเป็นต้องวิตกกังวล เพราะร่างกายของคนเราแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน โดยทั่วไป ความถี่ของฝันเปียกในวัยรุ่น คือประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเริ่มช่วยตัวเองหรือเริ่มมีเพศสัมพันธ์ ฝันเปียกยังเป็นสัญญาณที่บ่งบอกอีกว่าร่างกายพร้อมแล้วที่จะสืบพันธุ์หรือสามารถทำให้เพศหญิงตั้งครรภ์ได้หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับฝันเปียก แม้ฝันเปียกจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ และไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายแต่ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับฝันเปียก ดังนี้ ฝันเปียกทำให้อสุจิน้อยลง ความจริงแล้ว ฝันเปียกเป็นกลไกของร่างกายในการกำจัดอสุจิเก่าออกจากร่างกาย เพื่อแทนที่ด้วยอสุจิซึ่งใหม่และแข็งแรงกว่า การฝันเปียกจึงไม่ทำให้อสุจิลดลงแต่อย่างใด ฝันเปียกทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแย่ลง ฝันเปียกไม่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน ความจริงแล้ว การที่ร่างกายขับน้ำเชื้อออกมาขณะหลับจะช่วยลดปริมาณน้ำเชื้อส่วนเกินในลูกอัณฑะซึ่งดีต่อระบบสืบพันธุ์ ฝันเปียกเกิดแค่ในวัยรุ่น ฝันเปียกเกิดได้ในผู้ใหญ่เช่นกัน เพียงแต่มักเกิดขึ้นบ่อยกว่าในวัยรุ่น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนซึ่งยังไม่คงที่ และความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์หรือสำเร็จความใคร่ซึ่งอาจน้อยกว่าผู้ใหญ่ ทำให้ร่างกายขับน้ำเชื้อออกมาขณะหลับแทน ฝันเปียกเป็นสัญญาณของโรค จริง […]


สุขภาพทางเพศ

LGBTQ คืออะไร ข้อเท็จจริงและความเข้าใจผิด ๆ

LGBTQ คือ กลุ่มความหลากหลายทางเพศต่าง ๆ ในสังคม โดยจำแนกตามรสนิยมทางเพศ สังคมไทยในปัจจุบันยอมรับบุคคลกลุ่ม LGBTQ มากขึ้น แต่ยังมีความเข้าใจผิดบางประการ ซึ่งจำเป็นที่คนในสังคมควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่าง ๆ ระมัดระวังการเหยียดเพศโดยไม่ตั้งใจ เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข [embed-health-tool-ovulation] LGBTQ ย่อมาจากอะไร LGBTQ คือ ตัวย่อของรสนิยมเพศทางเลือกหลัก ๆ ในสังคม ดังนี้ L ย่อมาจาก เลสเบี้ยน (Lesbian) หมายถึงผู้หญิงซึ่งชอบผู้หญิงด้วยกัน G ย่อมาจาก เกย์ (Gay) หมายถึง ผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน B ย่อมาจาก ไบเซ็กชวล (Bisexual) หมายถึง คนที่ชอบทั้งผู้ชายและผู้หญิง T ย่อมาจาก ทรานส์เจนเดอร์ (Transgender) หมายถึง กลุ่มคนข้ามเพศ หรือผู้ที่มีเพศสภาพและเพศกำเนิดไม่สอดคล้องกัน เป็นได้ทั้งผู้ชายที่อยากเป็นผู้หญิง และผู้หญิงที่อยากเป็นผู้ชาย ทั้งในกรณีแปลงเพศแล้วและยังไม่แปลงเพศ Q ย่อมาจาก เควียร์ (Queer) หมายถึง ผู้ที่ไม่จำกัดเพศ ไม่นิยามตัวเองว่าเป็นแบบใดแบบหนึ่ง นอกจากกลุ่มรสนิยมทางเพศหลัก ๆ […]


เคล็ดลับเรื่องบนเตียง

ท่า missionary (มิชชันนารี) คืออะไร มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร

ท่า missionary (มิชชันนารี) เป็นท่าร่วมรักพื้นฐานที่คู่รักส่วนใหญ่นิยม โดยปกติแล้ว ฝ่ายหญิงจะนอนหงายอยู่ด้านล่าง ส่วนฝ่ายชายนอนทับบนตัวฝ่ายหญิง อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้ข้อดีข้อเสียของท่า missionary อาจช่วยให้มีเซ็กส์ที่ดี มีประสิทธิภาพ และช่วยให้ถึงจุดสุดยอดจากการร่วมรักในท่านี้ได้ [embed-health-tool-ovulation] ท่า missionary คืออะไร ท่า missionary คือ ท่าร่วมรักพื้นฐานที่ได้รับความนิยม ในท่านี้ ฝ่ายหญิงจะนอนหงาย ฝ่ายชายนอนทับอยู่บนตัวฝ่ายหญิง ทั้งสองฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ขณะร่วมรักด้วยท่านี้ คนที่อยู่ด้านบนอาจเป็นฝ่ายควบคุมท่วงท่าและจังหวะในการทำกิจกรรม ข้อดีและข้อเสียของท่า missionary ข้อดีและข้อเสียของท่า missionary อาจมีดังต่อไปนี้ ข้อดี เป็นท่าที่เรียบง่าย เหมาะสำหรับทุกคู่รัก ช่วยให้เคลื่อนไหวได้ง่าย สะดวกต่อการมีเซ็กส์จนกว่าจะทั้งคู่จะถึงจุดสุดยอด อาจกระชับความสัมพันธ์ได้ เพราะเป็นท่าที่ต้องหันหน้าเข้าหากัน ทำให้คู่รักสามารถสบตา กอด จูบ และร่างกายแนบชิดกันได้มาก สามารถกระตุ้นอารมณ์ของกันและกันได้ง่าย เพราะสามารถลูบไล้ร่างกายได้อย่างไม่ติดขัด ทั้งยังสามารถควบคุมจังหวะ ความเร็ว และความตื้นลึกในการสอดใส่อวัยวะเพศได้ง่าย นอกจากนี้ ยังสามารถเปลี่ยนท่าทางเพื่อเพิ่มอรรถรสได้ตามต้องการ เช่น ให้ฝ่ายหญิงกางขากว้างขึ้น ให้ขาฝ่ายหญิงพาดไหล่หรือเอวของฝ่ายชาย ข้อเสีย สำหรับคู่ที่มีส่วนสูงหรือขนาดตัวต่างกันมาก เช่น ฝ่ายชายที่อยู่ด้านบนสูงหรือหนักกว่าฝ่ายหญิงที่อยู่ด้านล่างมาก อาจทำให้ฝ่ายหญิงหนักและอึดอัด และอาจกระตุ้นอารมณ์ด้วยการจูบ การแนบชิด หรือสบตากันได้ค่อนข้างยาก ฝ่ายที่อยู่ด้านบนอาจเหนื่อย […]


เคล็ดลับเรื่องบนเตียง

10 เทคนิคการร่วมรักที่ผู้หญิงชอบ

การมีเซ็กส์ หรือการร่วมรัก เป็นกิจกรรมทางเพศที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ ทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยคลายเครียด ช่วยบรรเทาปวด งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Journal of Sexual Medicine เผยว่า ผู้หญิงอาจถึงจุดสุดยอดได้ยากกว่าผู้ชาย ดังนั้น การเรียนรู้ เทคนิคการร่วมรักที่ผู้หญิงชอบ อาจช่วยให้ฝ่ายหญิงถึงจุดสุดยอดได้มากขึ้น และทำให้ทุกฝ่ายได้รับประสบการณ์เซ็กส์ที่ดีขึ้น [embed-health-tool-ovulation] จุดกระตุ้นอารมณ์ผู้หญิง ที่ควรรู้ บริเวณต่าง ๆ บนร่างกาย ที่เป็นจุดกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของผู้หญิง อาจมีดังนี้  ริมฝีปาก การจูบอย่างเบาไปจนถึงการจูบแบบดูดดื่มที่ริมฝีปาก อาจช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้ ทั้งยังทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน เช่น ออกซิโตซิน โดปามีน เซโรโทนิน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ช่วยกระตุ้นความรู้สึก ทำให้ทั้งคู่รู้สึกดีต่อกันและผูกพันกันมากขึ้น ต้นคอ บริเวณต้นคอมีเส้นประสาทมากมาย และถือเป็นจุดที่ไวต่อการสัมผัสมากอีกจุดหนึ่ง การจูบ ลูบไล้ หรือสัมผัสต้นคอ อาจกระตุ้นให้ผู้หญิงเกิดอารมณ์ทางเพศ และมีเซ็กส์ที่ร้อนแรงขึ้น หู เป็นจุดกระตุ้นอารมณ์ทางเพศอีกจุดหนึ่งที่ผู้คนมักมองข้าม บริเวณใบหูและติ่งหูมีเส้นประสาทที่ไวต่อการสัมผัสอย่างมาก การสัมผัสใบหูด้วยการเม้มเบา ๆ หรือการจูบ จึงอาจช่วยเพิ่มความเร่าร้อนขณะร่วมรักได้ หัวนมและหน้าอก เป็นบริเวณที่มีผิวบอบบาง มีเส้นประสาทที่ไวต่อการสัมผัส การจูบ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน