สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Hello คุณหมอ จึงอยากนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ผู้อ่านได้มีสุขภาพทางเพศที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพทางเพศ

HPV ในผู้หญิงตั้งครรภ์ ส่งผลกระทบต่อคุณแม่และลูกน้อยอย่างไร

HPV หรือ Human Papillomavirus เป็นไวรัสที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดยบางสายพันธุ์สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกและภาวะผิดปกติอื่น ๆ ในระบบสืบพันธุ์ สตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ HPV มักกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของตัวเองและทารกในครรภ์ โดยเฉพาะการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การคลอดก่อนกำหนด และการถ่ายทอดไวรัสสู่ทารกในระหว่างคลอด ผลกระทบของ HPV ต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ ผลกระทบต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ การเกิดหูดบริเวณอวัยวะเพศ (Genital Warts) การติดเชื้อ HPV อาจกระตุ้นการเกิดหูดในบริเวณอวัยวะเพศ หูดเหล่านี้อาจโตขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและระบบไหลเวียนเลือด หากหูดมีขนาดใหญ่ อาจก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือขัดขวางการคลอดทางช่องคลอด การเปลี่ยนแปลงในปากมดลูก การติดเชื้อ HPV โดยเฉพาะสายพันธุ์ความเสี่ยงสูง อาจทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก ซึ่งอาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูกได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ ความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร ในบางกรณี การติดเชื้อ HPV อาจเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะหากมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด การติดเชื้อ HPV อาจกระตุ้นการอักเสบในระบบสืบพันธุ์ ซึ่งส่งผลต่อการคลอดก่อนกำหนด การคลอดก่อนกำหนดอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาวสำหรับทารก เช่น การเจริญเติบโตที่ช้ากว่าปกติ ผลกระทบต่อทารกในครรภ์และหลังคลอด การติดเชื้อในทารก แม้โอกาสที่ HPV จะส่งต่อถึงทารกในครรภ์มีน้อย แต่มีรายงานว่าการคลอดทางช่องคลอดในกรณีที่แม่มีหูดหรือการติดเชื้อ HPV […]

หมวดหมู่ สุขภาพทางเพศ เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ

ความหลากหลายทางเพศ และปัญหาสุขภาพ

ความหลากหลายทางเพศ หมายถึง ความหลากหลายในอัตลักษณ์ทางเพศของคนในสังคม ซึ่งเกี่ยวข้องกับนิยามเรื่องเพศสภาพของแต่ละบุคคลการเลือกคู่ครองหรือคู่นอน รวมถึงการแสดงออกเรื่องเพศ โดยปกติ ความหลากหลายทางเพศมักถูกจำแนกเป็นกลุ่ม ได้แก่ เลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล และทรานส์เจนเดอร์ (LGBT) กลุ่มความหลากหลายทางเพศจำเป็นต้องระมัดระวังปัญหาเรื่องสุขภาพไม่แตกต่างจากบุคคลอื่น ๆ ทั้งนี้ ปัญหาสุขภาพอาจแตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่ม ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศจึงควรศึกษาถึงความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นกับตนเอง เพื่อการป้องกันอย่างถูกวิธี นิยามของความหลากหลายทางเพศ ความหลากหลายทางเพศ หมายถึง กลุ่มคนดังต่อไปนี้ เลสเบี้ยน (Lesbian) คือ หญิงรักหญิง ซึ่งมักเป็นผู้หญิงที่ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ การแต่งกายเป็นผู้หญิง เพียงแต่มีรสนิยมทางเพศชอบผู้หญิงด้วยกัน ในประเทศไทยอาจส่วนใหญ่มักหมายถึงทอม ผู้หญิงซึ่งแต่งตัวคล้ายผู้ชายและชอบผู้หญิง หรือดี้ซึ่งหมายถึงผู้หญิงซึ่งชอบทอม เกย์ (Gay) คือ ชายรักชาย ซึ่งดูจากภายนอกไม่สามารถระบุได้ว่ามีรสนิยมชอบผู้ชาย อาจมีรูปร่าง หน้าตา การแต่งตัว เหมือนชายแท้ทุกประการ เพียงแต่เกย์บางคนอาจมีกิริยาคล้ายผู้หญิง ไบเซ็กชวล (Bisexual) คือ บุคคลที่ชอบทั้งผู้ชายและผู้หญิง หรือมีความต้องการทางเพศได้กับทั้งสองเพศ หรือมากกว่าหนึ่งเพศที่อาจไม่ใช่แค่เพศตรงข้าม บางครั้ง ไบเซ็กชวลอาจถูกเข้าใจผิดว่าเหมือนกับรสนิยมแบบแพนเซ็กชวล (Pansexual) ซึ่งเป็นรสนิยมทางเพศที่รู้สึกดึงดูดได้กับทุกเพศ ไม่จำกัดแค่ชายหรือหญิง ทรานส์เจนเดอร์ […]


สุขภาพทางเพศ

Transgender คือใคร ทำไมต้องแปลงเพศ

Transgender หรือทรานส์เจนเดอร์ คือ บุคคลข้ามเพศ  ซึ่งมีอัตลักษณ์ทางเพศไม่ตรงกับเพศกำเนิด เช่น ผู้ชายที่รู้สึกว่าตนเองเป็นผู้หญิง หรือผู้หญิงที่รู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ชาย โดยทรานส์เจนเดอร์จำนวนไม่น้อย เลือกรับฮอร์โมนเพศตรงข้าม เพื่อให้ตนมีรูปร่างหรือลักษณะใกล้เคียงกับเพศที่อยากเป็น และบางรายอาจเลือกแปลงเพศ เพื่อให้ตนมีลักษณะใกล้เคียงกับเพศที่อยากเป็นมากที่สุด [embed-health-tool-ovulation] ความทุกข์ใจในเพศสภาพของ Transgender คืออะไร ความทุกข์ใจในเพศสภาพ (Gender Dysphoria) เป็นอาการหนึ่งซึ่งพบได้ในทรานส์เจนเดอร์ หมายถึง ความไม่พอใจที่อัตลักษณ์ทางเพศของตนไม่ตรงกับเพศโดยกำเนิด สัญญาณที่อาจพบได้ของผู้มีความทุกข์ใจในเพศสภาพ คือ ขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่อยากเข้าสังคม ออกห่างสังคม ซึมเศร้าหรือวิตกกังวล ใช้ชีวิตเสี่ยงอันตรายโดยไม่จำเป็น เช่น เล่นกีฬาโลดโผน เล่นการพนัน พึ่งยาเสพติด เมื่อผู้มีความทุกข์ใจในเพศสภาพไปพบคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญ อาจได้รับการรักษา ดังนี้ บำบัดทางจิตวิทยา เช่น การพูดคุยกับนักบำบัด ระบายปัญหา ความรู้สึก ความเครียด การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญถึงวิธีแก้ไข หรือหาทางออก บำบัดด้วยฮอร์โมน เพื่อให้มีลักษณะหรือรูปร่างของเพศที่อยากเป็น อาจโดยการฉีด ทา หรือรับประทานยาฮอร์โมน ผ่าตัดแปลงเพศ โดยมีทั้งจากชายเป็นหญิง และหญิงเป็นชาย การบำบัดด้วยฮอร์โมนสำหรับ Transgender สำหรับทรานส์เจนเดอร์ที่ต้องการรับฮอร์โมนของเพศตรงข้ามอาจใช้วิธีกิน ฉีด หรือทาบนร่างกาย เพื่อสร้างความรู้สึกแง่บวกให้ตัวเอง ด้วยการมีลักษณะของเพศตรงข้าม ทั้งนี้ ไม่ควรหาซื้อฮอร์โมนมาใช้เองเพราะอาจนำมาซึ่งความเสี่ยงทางสุขภาพ […]


สุขภาพทางเพศ

Sex Toy มีกี่ชนิด วิธีใช้ และข้อควรระวัง

Sex Toy หรือ เซ็กส์ทอย คือ อุปกรณ์เสริมสำหรับสร้างความสุขทางเพศให้ทั้งชายและหญิง เช่น ดิลโด้ (Dildo) ไวเบรเตอร์ (Vibrator) มักถูกออกแบบให้มีรูปร่าง ลักษณะ เหมือนอวัยวะเพศ และมีลูกเล่นต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยในการสำเร็จความใคร่   อย่างไรก็ตาม การใช้เซ็กส์ทอยมีความเสี่ยง หากใช้โดยไม่ระวังอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ [embed-health-tool-ovulation] ชนิดของ Sex Toy เซ็กส์ทอย ที่ได้รับความนิยมและพบได้ง่ายตามท้องตลาด อาจมีดังนี้ ดิลโด้ ดิลโด้ คือ เซ็กส์ทอยที่มีลักษณะเป็นแท่ง มักถูกออกแบบมาให้คล้ายกับองคชาตเพื่อสอดใส่ช่องคลอดหรือทวารหนักเพื่อกระตุ้นให้เกิดความสุขทางเพศ ดิลโด้บางชนิดอาจมีลักษณะโค้งเพื่อให้สามารถกระตุ้น G-spot ได้ตรงจุด ดิลโด้ทำจากวัสดุหลายอย่าง เช่น ซิลิโคน พลาสติก แก้ว โลหะ การใช้ดิลโด้ นอกจากเพื่อความสุขทางเพศแล้ว บางครั้งยังเพื่อรักษาปัญหาสุขภาพของผู้หญิง เช่น ภาวะช่องคลอดหดเกร็ง การรัดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน ซึ่งทำให้มีผู้หญิงบางคนไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ ไวเบรเตอร์ ไวเบรเตอร์ เป็นเซ็กส์ทอยที่ผู้หญิงนิยมใช้มากที่สุด มีรูปร่างหลากหลาย บางครั้งเรียกว่า ไข่สั่น เนื่องจากบางรุ่นถูกออกแบบมารูปร่างคล้ายไข่ โดยไวเบรเตอร์สั่นได้ด้วยแบตเตอรี่ มีระดับความสั่นที่หลากหลาย เพื่อให้สอดรับกับรสนิยมของผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน ในการใช้งาน ผู้ใช้จะเหน็บหรือวางไวเบรเตอร์ไว้บริเวณที่ไวต่อความรู้สึกทางเพศ เช่น คลิตอริส ช่องคลอด ทวารหนัก […]


สุขภาพทางเพศ

ทำหมันแล้วท้องได้ไหม และการทำหมันเป็นอย่างไร

ทำหมันแล้วท้องได้ไหม อาจเป็นคำถามที่ผู้ชายหลายคนสงสัย โดยปกติแล้ว การผ่าตัดทำหมันเป็นวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ทั้งนี้แม้จะทำหมันแล้วก็อาจยังมีโอกาสเล็กน้อยที่จะท้อง เพียงแต่เป็นไปได้ยาก อัตราการทำหมันแล้วท้องเกิดขึ้นได้เพียง 0.1 เปอร์เซ็นต์ การตั้งครรภ์หลังจากทำหมัน อาจเกิดได้จากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนการทำหมัน มีเพศสัมพันธ์หลังทำหมันทันทีซึ่งร่างกายของฝ่ายชายอาจมีสเปิร์มหลงเหลืออยู่ในท่ออสุจิ หรือสาเหตุอื่น ๆ ที่พบได้น้อยมาก [embed-health-tool-heart-rate] การทำหมันชาย การทำหมันชาย หมายถึง การคุมกำเนิดถาวรในผู้ชาย โดยการตัดหรือผูกหลอดนำอสุจิ เพื่อไม่ให้อสุจิซึ่งผลิตใหม่จากอัณฑะ ถูกลำเลียงไปยังถุงน้ำเชื้อ ผ่านหลอดนำอสุจิ แล้วหลั่งออกพร้อมน้ำเชื้อ ยามมีเพศสัมพันธ์ การทำหมันชาย ทำได้ 2 แบบ คือแบบดั้งเดิมและแบบเจาะ โดยแบบดั้งเดิมคือการใช้มีดผ่าถุงอัณฑะแล้วผูกหรือตัดหลอดนำอสุจิ จากนั้นเย็บปิดแผล ส่วนแบบเจาะหมายถึงการใช้เครื่องมือเฉพาะเจาะเข้าไปในถุงอัณฑะ เพื่อผูกหรือตัดหลอดนำอสุจิ การทำหมันชายเป็นการผ่าตัดที่ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที และไม่ทำให้สมรรถภาพทางเพศของผู้ชายลดลง ทำหมันชายแล้วทำผู้อื่นท้องได้ไหม การทำหมันชาย จะไม่ได้ผลในทันที เนื่องจากหลังจากทำหมันแล้ว อสุจิมักยังคงหลงเหลืออยู่ในหลอดอสุจิ และร่างกายจำเป็นต้องหลั่งน้ำอสุจิราว 15-20 ครั้ง เพื่อให้อสุจิหมดไป ระหว่างนั้นหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันอาจทำให้ฝ่ายหญิงท้องได้ โดยปกติ คุณหมอจะนัดผู้ชายซึ่งทำหมันแล้วตรวจจำนวนอสุจิในน้ำอสุจิหลังจากทำหมันไปแล้ว 1-3 เดือน หากไม่พบอสุจิในตัวอย่างน้ำอสุจิเลย แสดงว่าการทำหมันสำเร็จ และผู้ชายซึ่งทำหมันแล้วแทบจะไม่มีโอกาสทำให้ผู้หญิงท้องได้เลย อย่างไรก็ตาม สำหรับชายซึ่งทำหมันแล้ว แต่ยังพบอสุจิในตัวอย่างน้ำอสุจิ คุณหมอจะนัดให้เข้ามาตรวจอีกครั้ง หรือในบางกรณี คุณหมออาจขอตรวจเพิ่ม […]


สุขภาพทางเพศ

ทำหมัน วิธีคุมกำเนิดแบบถาวรสำหรับชายและหญิง

ทำหมัน เป็นวิธีคุมกำเนิดแบบถาวรสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งมีวิธีการที่แตกต่างกัน หากต้องการทำหมันควรศึกษาหาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อดีข้อเสียของการทำหมัน รวมทั้งข้อควรรู้อื่น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจให้ดีก่อนปรึกษาคุณหมอเพื่อเข้ารับการทำหมันต่อไป เนื่องจากหากตัดสินใจทำหมันแล้วต้องการแก้หมัน โอกาสในการมีลูกอาจลดลง ทำหมันชาย การทำหมันชาย เป็นการคุมกำเนิดแบบถาวร ด้วยการตัดหรือผูกหลอดนำอสุจิ เพื่อไม่ให้อสุจิถูกลำเลียงไปยังกระเปาะพักเชื้ออสุจิ และหลั่งออกมาพร้อมน้ำเชื้อขณะมีเพศสัมพันธ์หรือเมื่อถึงจุดสุดยอดและไปปฏิสนธิกับไข่ในร่างกายฝ่ายหญิงทำให้ให้เกิดการตั้งครรภ์ หลังทำหมันแล้ว เมื่อถึงจุดสุดยอด ร่างกายยังคงหลั่งน้ำเชื้อตามปกติแต่จะไม่มีอสุจิปนออกมา และอสุจิจะสลายไปตามกรรมวิธีของร่างกาย รูปแบบการทำหมันชาย ทำหมันชายใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที สามารถทำได้ 2 วิธี โดยคุณหมอจะเป็นผู้วินิจฉัยและเลือกวิธีการทำหมันให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละคน ซึ่งมีดังนี้ ทำหมันแบบดั้งเดิม คือ การให้ยาชา แล้วใช้มีดผ่าตัดผ่าบริเวณถุงอัณฑะ เพื่อตัดหลอดนำอสุจิหรือผูกปลายท่อทั้ง 2 ข้างให้ปิดสนิท ก่อนเย็บปิดแผล โดยวิธีนี้เป็นที่นิยมมากกว่า ทำหมันเจาะ คือ การให้ยาชา แล้วใช้เครื่องมือเฉพาะทางการแพทย์แทงทะลุผิวหนังเข้าไปเพื่อผูกหรือตัดหลอดนำอสุจิโดยใช้ความร้อน แผลจากการทำหมันเจาะจะเล็กกว่าการทำหมันแบบดั้งเดิมมาก ทำให้ไม่ต้องเย็บปิดแผล โอกาสติดเชื้อน้อยกว่าและใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า การดูแลตัวเองหลังทำหมันชาย ผู้เข้ารับการทำหมันอาจดูแลตัวเอง ดังนี้ กินยาแก้ปวด ซึ่งคุณหมอจะเป็นผู้จ่ายยาให้ในกรณีที่พบว่าคนไข้มีอัณฑะบวมหรือปวดหลังหลังจากทำหมัน งดกิจกรรมบางอย่าง เช่น การเล่นกีฬา ปั่นจักรยาน ขี่มอเตอร์ไซค์ เพื่อไม่ให้แผลกระทบกระเทือน งดการยกของหนัก เป็นเวลา 7 วันหลังจากทำหมัน แต่สามารถทำงานหรือยกของเบา ๆ […]


สุขภาพทางเพศ

LGBTQ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

LGBTQ (Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender, Queer) เป็นคำเรียกกลุ่มความหลากหลายทางเพศในสังคม ซึ่งกลุ่มหลัก ได้แก่ ชายรักชาย และหญิงรักหญิง สองกลุ่มนี้อาจเสี่ยงเป็น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ต่างจากกลุ่มคนอื่น ๆ ทั้งนี้ ควรศึกษาเกี่ยวกับชนิดของโรค เพื่อจะได้ระวังตนเอง รวมทั้งสังเกตอาการเบื้องต้นและหาทางป้องกัน กลุ่มชายรักชายและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ความเสี่ยงด้านสุขภาพทางเพศหลักของ LGBTQ กลุ่มชายรักชาย คือโรคติดต่อทางเพศพันธ์สัมพันธ์ ซึ่งติดต่อได้ผ่านสารคัดหลั่งต่าง ๆ รวมถึงเลือดและบาดแผล ระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ชายรักชายเสี่ยงต่อโรคประเภทนี้เนื่องจากพฤติกรรมมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในบางคู่ การมีคู่นอนหลายคน รวมถึงการร่วมเพศทางทวารหนักที่มีความบอบบาง อันเสี่ยงให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งมักพบในกลุ่มชายรักชาย มีดังนี้ การติดเชื้อเอชไอวีและเอดส์ เชื้อไวรัสเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus หรือ HIV) มักพบในน้ำอสุจิ สารคัดหลั่ง สามารถติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยป้องกัน โดยเฉพาะผ่านทางทวารหนักหรือเนื้อเยื่ออ่อน การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อ และการได้รับเลือดจากผู้ติดเชื้อ เมื่อติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะ เป็นไข้ ท้องเสีย หนาวสั่น ปวดเมื่อย ต่อมน้ำเหลืองบวม ในกรณีติดเชื้อโดยไม่รีบรักษา การติดเชื้อเอชไอวีอาจทำให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเอดส์ ผู้ป่วยเอดส์จะมีจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาว CD4 ต่ำ ทำให้ป่วยหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น […]


สุขภาพทางเพศ

แก้หมัน ขั้นตอนและความเสี่ยงต่อสุขภาพ

แก้หมัน หมายถึง การทำให้ชายหรือหญิงที่ทำหมันแล้ว กลับมามีลูกได้อีกครั้ง การแก้หมันเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างซับซ้อน ทั้งการแก้หมันชายและแก้หมันหญิงอาจมีความเสี่ยงที่ต้องใส่ใจเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพและการแก้หมันให้สำเร็จ แก้หมันชาย คือ การผ่าตัดต่อท่อนำอสุจิ ทำให้การลำเลียงอสุจิจากอัณฑะ ซึ่งถูกยับยั้งไว้จากการทำหมันให้กลับมาทำงานได้เป็นปกติ โดยหากแก้หมันสำเร็จ เมื่อร่างกายผลิตอสุจิออกมา อสุจิจะถูกลำเลียงไปยังกระเปาะพักเชื้ออสุจิด้านหลังต่อมลูกหมาก เพื่อรอส่งออกจากลูกอัณฑะเมื่อถึงจุดสุดยอดผ่านไปยังองคชาติแล้วปล่อยน้ำเชื้อเข้าสู่ร่างกายผู้หญิงไปผสมกับไข่ที่รอการผสม และทำให้เกิดการตั้งครรภ์ ขั้นตอนการแก้หมันชาย เมื่อผู้ชายต้องการแก้หมัน คุณหมอจะทำการตรวจดังนี้ ความพร้อมของร่างกาย เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายไม่มีความผิดปกติ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และสามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ ความแข็งแรงของอสุจิ จากการตรวจตัวอย่างน้ำอสุจิด้วยกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งหากมีลูกแล้วอาจเป็นข้อบ่งชี้หนึ่งว่าอสุจิอาจมีสุขภาพดี อย่างไรก็ตาม อสุจิอาจสุขภาพแย่ลงได้ ด้วยปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ การสูบบุหรี่ อาหารที่รับประทาน ความพร้อมของฝ่ายหญิง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาเรื่องความพร้อมในการตั้งครรภ์ ในกรณีฝ่ายหญิงอายุ 40 ปี ขึ้นไป โอกาสตั้งครรภ์จะน้อยลง ในกรณีคุณหมออนุญาตให้แก้หมัน จะมีขั้นตอนดังนี้ ดมยาสลบ หลังจากนั้น คุณหมอจะกรีดถุงอัณฑะทั้งสองข้างแล้วส่องกล้องจุลทรรศน์สำหรับการผ่าตัดซึ่งมีกำลังขยายประมาณ 25 เท่าเพื่อมองหาท่ออสุจิซึ่งผ่านการทำหมันไว้แล้ว คุณหมอจะต่อท่ออสุจิ โดยอาจเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งจาก 2 วิธี คือ Vasovasostomy ซึ่งเป็นการเย็บเชื่อมท่อนำอสุจิเข้าด้วยกัน และ Vasoepididymostomy ซึ่งเป็นการเย็บต่อท่อนำอสุจิเข้ากับหลอดเก็บตัวอสุจิโดยตรง โดยวิธีหลังจะค่อนข้างซับซ้อนกว่า โดยคุณหมอจะเลือกวิธีที่ […]


สุขภาพทางเพศ

แปลงเพศ จากชายเป็นหญิง ขั้นตอนและความเสี่ยง

แปลงเพศ จากชายเป็นหญิง เป็นการเปลี่ยนแปลงเพศสภาพจากชายไปสู่หญิง โดยมักใช้วิธี ผ่าตัดอวัยวะเพศ รวมทั้งการใช้ฮอร์โมนเพศหญิงเพื่อปรับสภาพร่างกายร่วมด้วย ทั้งนี้ การแปลงเพศไม่สามารถทำให้ ผู้ที่ได้รับการแปลงเพศกลายเป็นเพศตรงข้ามได้ 100 เปอร์เซ็นต์  และยังมีความเสี่ยงที่ควรระวัง เช่น ผลข้างเคียง จากการใช้ฮอร์โมนในระยะยาว ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด และการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด ขั้นตอนการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง การแปลงเพศมีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน แต่ละบุคคลอาจจะได้รับการวินิจฉัยและวางแผนการแปลงเพศที่แตกต่างกันออกไป โดยปกติการแปลงเพศจากชายไปเป็นหญิงมีขั้นตอน ดังนี้ 1. ก่อนผ่าตัดและการคัดกรองโรค เมื่อบุคคลแสดงความประสงค์จะแปลงเพศกับสถานพยาบาลแห่งใดแห่งใดหนึ่ง มักถูกซักประวัติเป็นอันดับแรก เพื่อตรวจสอบว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะแปลงเพศ โดยเกณฑ์พิจารณาหลัก ๆ มีดังนี้ อายุครบ 20 ปี บริบูรณ์ (ในกรณีอายุ 18 ปีหรือยังไม่ถึง 20 ปี จำเป็นต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครอง) ได้รับการวินิจฉัยว่ามีความทุกข์ใจในเพศสภาพ (Gender dysphoria) ซึ่งเป็นความไม่พอใจที่เพศวิถีของตัวเองไม่ตรงกับเพศโดยกำเนิด รู้ตัวว่าอยากเป็นผู้หญิงมานานแล้ว หรือใช้ชีวิตในฐานะผู้หญิงข้ามเพศมาเกิน 1 ปี มีใบรับรองจากจิตแพทย์อย่างน้อย 2 คน ใช้ฮอร์โมนเพศหญิงมานานเกิน 1 ปี นอกจากนี้ ยังต้องเข้ารับการตรวจโรคเพื่อยืนยันว่าร่างกายเหมาะสมสำหรับการผ่าตัด โดยโรคหรือภาวะผิดปกติต่าง ๆ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจและการวินิจฉัยของคุณหมอ เช่น […]


สุขภาพทางเพศ

ฝันเปียกคืออะไร ผิดปกติหรือไม่ และเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับฝันเปียก

ฝันเปียกคืออะไร ฝันเปียกหมายถึงการหลั่งน้ำอสุจิหรือถึงจุดสุดยอดขณะนอนหลับทำให้กางเกงนอนหรือที่นอนเปียก และบางครั้งอาจเกิดควบคู่กับความฝันเรื่องเพศ  ฝันเปียกเป็นปรากฏการณ์ซึ่งพบได้เป็นปกติในวัยรุ่นชายและเป็นส่วนหนึ่งของการเจริญเติบโตทางเพศ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่อาจยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาการฝันเปียกนี้อยู่ ซึ่งผู้ชายที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ควรทำความเข้าใจ [embed-health-tool-ovulation] ทำไมถึงฝันเปียก? ฝันเปียกเกิดจากการที่ร่างกายของวัยรุ่นชาย เริ่มผลิตเทสโทสเตอโรน (Testosterone) หรือฮอร์โมนเพศที่ทำให้เกิดการสร้างอสุจิและหลั่งออกมาเป็นครั้งคราวเมื่อนอนหลับ ฝันเปียกเกิดขึ้นเมื่อองคชาตแข็งตัวหรือไม่แข็งตัวก็ได้ โดยการฝันเปียกครั้งแรก ปกติจะเกิดขึ้นตอนวัยรุ่นชายอายุประมาณ 13 ปี แต่อาจเกิดขึ้นไวหรือช้ากว่านี้ได้ งานวิจัยเรื่อง “การศึกษาความรู้ เจตคติ ความเชื่อ และพฤติกรรมทางเพศของเยาวชนไทย” โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า อายุต่ำสุดของเด็กผู้ชายที่พบการฝันเปียกคือ เด็กอายุ 8 ปี อย่างไรก็ตาม วัยรุ่นชายบางคนอาจไม่เคยฝันเปียกและผู้ชายบางคนอาจฝันเปียกน้อยครั้งมากในชีวิตหรือไม่เคยเลยซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและไม่จำเป็นต้องวิตกกังวล เพราะร่างกายของคนเราแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน โดยทั่วไป ความถี่ของฝันเปียกในวัยรุ่น คือประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเริ่มช่วยตัวเองหรือเริ่มมีเพศสัมพันธ์ ฝันเปียกยังเป็นสัญญาณที่บ่งบอกอีกว่าร่างกายพร้อมแล้วที่จะสืบพันธุ์หรือสามารถทำให้เพศหญิงตั้งครรภ์ได้หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับฝันเปียก แม้ฝันเปียกจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ และไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายแต่ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับฝันเปียก ดังนี้ ฝันเปียกทำให้อสุจิน้อยลง ความจริงแล้ว ฝันเปียกเป็นกลไกของร่างกายในการกำจัดอสุจิเก่าออกจากร่างกาย เพื่อแทนที่ด้วยอสุจิซึ่งใหม่และแข็งแรงกว่า การฝันเปียกจึงไม่ทำให้อสุจิลดลงแต่อย่างใด ฝันเปียกทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแย่ลง ฝันเปียกไม่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน ความจริงแล้ว การที่ร่างกายขับน้ำเชื้อออกมาขณะหลับจะช่วยลดปริมาณน้ำเชื้อส่วนเกินในลูกอัณฑะซึ่งดีต่อระบบสืบพันธุ์ ฝันเปียกเกิดแค่ในวัยรุ่น ฝันเปียกเกิดได้ในผู้ใหญ่เช่นกัน เพียงแต่มักเกิดขึ้นบ่อยกว่าในวัยรุ่น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนซึ่งยังไม่คงที่ และความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์หรือสำเร็จความใคร่ซึ่งอาจน้อยกว่าผู้ใหญ่ ทำให้ร่างกายขับน้ำเชื้อออกมาขณะหลับแทน ฝันเปียกเป็นสัญญาณของโรค จริง […]


สุขภาพทางเพศ

LGBTQ คืออะไร ข้อเท็จจริงและความเข้าใจผิด ๆ

LGBTQ คือ กลุ่มความหลากหลายทางเพศต่าง ๆ ในสังคม โดยจำแนกตามรสนิยมทางเพศ สังคมไทยในปัจจุบันยอมรับบุคคลกลุ่ม LGBTQ มากขึ้น แต่ยังมีความเข้าใจผิดบางประการ ซึ่งจำเป็นที่คนในสังคมควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่าง ๆ ระมัดระวังการเหยียดเพศโดยไม่ตั้งใจ เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข [embed-health-tool-ovulation] LGBTQ ย่อมาจากอะไร LGBTQ คือ ตัวย่อของรสนิยมเพศทางเลือกหลัก ๆ ในสังคม ดังนี้ L ย่อมาจาก เลสเบี้ยน (Lesbian) หมายถึงผู้หญิงซึ่งชอบผู้หญิงด้วยกัน G ย่อมาจาก เกย์ (Gay) หมายถึง ผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน B ย่อมาจาก ไบเซ็กชวล (Bisexual) หมายถึง คนที่ชอบทั้งผู้ชายและผู้หญิง T ย่อมาจาก ทรานส์เจนเดอร์ (Transgender) หมายถึง กลุ่มคนข้ามเพศ หรือผู้ที่มีเพศสภาพและเพศกำเนิดไม่สอดคล้องกัน เป็นได้ทั้งผู้ชายที่อยากเป็นผู้หญิง และผู้หญิงที่อยากเป็นผู้ชาย ทั้งในกรณีแปลงเพศแล้วและยังไม่แปลงเพศ Q ย่อมาจาก เควียร์ (Queer) หมายถึง ผู้ที่ไม่จำกัดเพศ ไม่นิยามตัวเองว่าเป็นแบบใดแบบหนึ่ง นอกจากกลุ่มรสนิยมทางเพศหลัก ๆ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน