สุขภาพผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะภายนอกที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในร่างกาย ผิวหนังนั้นมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้งเป็นเกราะป้องกันจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ หรือช่วยควบคุมอุณภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ เป็นต้น เรียนรู้เกี่ยวกับการมี สุขภาพผิว ที่ดี และเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย เพื่อการปกป้องดูแลผิวของคุณให้ดียิ่งขึ้น ได้ที่นี่

สนับสนุนโดย:

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพผิว

ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ดีต่อผิวหน้าจริงหรือไม่?

หลายคนเชื่อว่าการ ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับผิวหน้าที่สุด เพราะน้ำเปล่าเป็นสารธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีเจือปน มีความอ่อนโยน เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย และผิวผู้ที่เป็นสิว หลายคนจึงเชื่อว่าการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวเหมาะสมที่สุดสำหรับผิวหน้า แต่ความเชื่อนี้จะจริงหรือเท็จประการใด บทความนี้ Hello คุณหมอ มีคำตอบให้คุณค่ะ ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ดีต่อผิวหน้าจริงหรือไม่? การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า อาจไม่ได้เหมาะสมสำหรับผิวหน้าเสมอไป เพราะตลอดทั้งวันเราเจอทั้งมลภาวะต่าง ๆ และฝุ่นละออง ยิ่งคุณผู้หญิงที่แต่งหน้าด้วยล่ะก็ การใช้น้ำเปล่าทำความสะอาดผิวหน้าเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถดูดสิ่งสกปรกหรือเครื่องสำอางค์บนผิวหน้าออกได้อย่างสะอาดหมดจรด และอาจเสี่ยงต่อการเกิดการอุดตันบริเวณรูขุมขนอีกด้วย ดังนั้นอาจต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าควบคู่ด้วย แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีมาตรฐาน ปลอดภัยต่อผิวหน้า และเหมาะสมกับลักษณะของผิวหน้าคุณ อย่างไรก็ตาม ผิวหน้าของแต่ละคนมีปัญหาแตกต่างกัน การทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวอาจเหมาะสำหรับบางคน ทั้งนี้ทั้งนั้นให้คุณลองสังเกตใบหน้าของตนเองว่าหากทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว เหมาะกับผิวหน้าของคุณหรือไม่ หากไม่เหมาะสมให้ปรับเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าเพื่อความสมดุลของผิว 5 คุณประโยชน์จากการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า น้ำเปล่า มีประโยชน์ที่ดีต่อผิวหน้ามากกว่าที่คุณคิด โดย 5 คุณประโยชน์จากการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า มีดังต่อไปนี้ สะดวกและง่ายต่อการทำความสะอาดผิวหน้า  ลดการเสียดสีกับผิวหน้า ช่วยลดการระคายเคืองกับบริเวณผิวหนัง ปลอดภัยต่อผิวหน้า เพราะมีน้ำมีความอ่อนโยนปราศจากสารเคมี เกิดการระคายเคืองน้อยกว่าเมื่อเทียบกับใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า  ลดความเสี่ยงในการลอกคราบน้ำมันตามธรรมชาติของผิว ช่วยปกป้องเกราะป้องกันผิว ไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ลดต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขั้นตอนง่าย ๆ ในการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว ในตอนเช้าให้ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าสะอาด และซับหน้าด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ซับเบา ๆ ให้แห้งที่ผิวหน้า จะช่วยลดการเสียดสีและลดการระคายเคืองต่อผิวหนัง  ในช่วงตอนกลางคืน […]

หมวดหมู่ สุขภาพผิว เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพผิว

การดูแลและทำความสะอาดผิว

ดูแลผิวหน้า ลดความมันและป้องกันสิว ทำอย่างไร

การดูแลผิวหน้า อาจช่วยแก้ปัญหาสุขภาพผิวต่าง ๆ เช่น ผิวหน้าโทรม ริ้วรอยก่อนวัยอันควร รวมถึงช่วยลดความมันที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดสิวอีกด้วยดังนั้น จึงควรศึกษาวิธี ดูแลผิวหน้า อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เช่น การล้างหน้า การเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างเหมาะสม การทาครีมกันแดด หลีกเลี่ยงการบีบสิว และควรทายารักษาสิวตามที่คุณหมอแนะนำ เพื่อช่วยดูแลผิวหน้าให้มีสุขภาพดีและลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาสุขภาพผิวต่าง ๆ ได้ [embed-health-tool-bmr] การดูแลผิวหน้า สำคัญอย่างไร การดูแลผิวหน้าอย่างเหมาะสม อาจช่วยให้ผิวหน้ามีสุขภาพดี กระจ่างใส ช่วยลดริ้วรอย ป้องกันการเกิดสิวและรอยสิว อีกทั้งยังอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ผิวสามารถดูดซึมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การนวดผิวเบา ๆ ขณะทาครีมบำรุงหรือล้างหน้า อาจช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ซึ่งอาจช่วยให้ร่างกายสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดอาการบวม และอาจช่วยขับสารพิษออกจากผิวหนัง การไม่ดูแลผิวหรือไม่เข้ารับการรักษาเมื่อเกิดปัญหาผิว อาจส่งผลให้ผิวโทรม ผิวหมองคล้ำ มีริ้วรอยก่อนวัย สิวขึ้น และอาจเสี่ยงต่อการเป็นสิวอักเสบเรื้อรังที่อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็น หลุมสิว ผิวหน้าไม่เรียบเนียน รวมถึงอาจเสี่ยงเป็นโรคเซ็บเดิร์มที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อราเนื่องจากน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้ากระตุ้นให้เชื้อราเจริญเติบโตมากเกินไป โดยสังเกตได้จากอาการผิวลอกเป็นขุย ตกสะเก็ด ผิวแดง โดยเฉพาะบริเวณข้างจมูก เปลือกตา ผิวรอบหนังศีรษะและแก้ม วิธีดูแลผิวหน้า วิธีดูแลผิวหน้า อาจทำได้ดังนี้ ล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน เพื่อช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรก ป้องกันรูขุมขนอุดตันที่อาจนำไปสู่การเกิดสิว […]


สุขภาพผิว

Seborrheic Dermatitis (เซ็บเดิร์ม) อาการ การรักษาและการป้องกัน

Seborrheic Dermatitis หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมันอักเสบ เป็นภาวะผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่งที่ส่งผลให้ผิวหนังเป็นสะเก็ดบริเวณที่มีต่อมไขมันอยู่มาก และมีอาการคัน ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อรา ความเครียด สภาพอากาศ กรรมพันธุ์ และมักพบได้ทุกช่วงอายุ ทุกเพศทุกวัย หากสังเกตว่ามีอาการของโรคเซ็บเดิร์ม ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม อีกทั้งยังควรดูแลสุขภาพผิวและหนังศีรษะเพื่อช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคเซ็บเดิร์ม แต่ภาวะนี้ยากที่จะรักษาให้หายขาดได้ [embed-health-tool-bmr] Seborrheic Dermatitis คืออะไร Seborrheic Dermatitis คือ ภาวะผิวหนังอักเสบจากต่อมไขมันในชั้นผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณหนังศีรษะ เปลือกตา คิ้ว หน้าอก ข้างจมูก ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อรามาลาสซีเซีย (Malassezia) ที่อาศัยอยู่ในรูขุมขนเนื่องจากเชื้อราเจริญเติบโตมากเกินไป โรคเซ็บเดิร์มสามารถเริ่มเป็นได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 2 เดือน และอาจกลับมาเป็นซ้ำอีกครั้งเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ และวัยสูงอายุ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจส่งผลให้เป็นโรคเซ็บเดิร์ม ดังนี้ กรรมพันธุ์ในครอบครัว ฮอร์โมนแอนโดรเจนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ที่อาจกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากจนเกินไป ทำให้เชื้อราเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และเสี่ยงเป็นโรคเซ็บเดิร์ม สภาพผิวมัน เป็นสิวบ่อย สภาพอากาศหนาว แห้งหรือร้อน ความเครียด ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

หน้าใส ไร้สิวและจุดด่างดำ มีวิธีการดูแลอย่างไร

การดูแลผิวให้ หน้าใส ไร้สิวและจุดด่างดำ รวมถึงเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูสุขภาพดี อาจทำได้หลายวิธี เช่น การทาครีมกันแดดเป็นประจำก่อนออกจากบ้าน การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้เหมาะกับสภาพผิว และการดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อช่วยลดปัญหาผิวหมองคล้ำ ช่วยป้องกันสิวอักเสบรุนแรง และเพิ่มความมั่นใจเมื่อพบเจอผู้คนมากขึ้น [embed-health-tool-ovulation] หน้าใส คืออะไร หน้าใส คือ ผิวหน้าที่มีสุขภาพผิวดี ไม่หมองคล้ำ ผิวดูอิ่มน้ำ ไร้สิวและจุดด่างดำ ซึ่งเป็นผิวที่ใครหลาย ๆ คนอาจต้องการ เพราะอาจช่วยให้แต่งหน้าติดทนหรือแต่งหน้าน้อยลง ลดปัญหาการเกิดสิวรุนแรง และช่วยเพิ่มความมั่นใจเมื่อออกไปพบเจอผู้คนมากมาย วิธีดูแลผิวให้หน้าใส วิธีดูแลผิวให้หน้าใส อาจทำได้ดังนี้ รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืช ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ ซึ่งอาจช่วยทำให้ผิวดูสุขภาพดี หน้าใส และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง เพราะอาจกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น นำไปสู่การเกิดสิว และรอยแผลเป็นหลังสิวหาย พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการอดนอนอาจทำให้ผิวใต้ตาดำคล้ำ ผิวดูโทรม อีกทั้งยังอาจทำให้ประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันลดลง เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคผิวหนังและการเจ็บป่วยต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำน้อยอาจส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำและผิวแห้งกร้านได้ จึงควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ และอาจช่วยให้หน้าใส หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านในช่วงเวลาแดดจัด และควรทาครีมกันแดดที่มี […]


สุขภาพผิว

ปานดำ เกิดจากอะไร รักษาได้อย่างไร

ปานดำ คือ จุดสีดำบนผิวที่มีมาตั้งแต่กำเนิด อาจมีในรูปแบบนูนหรือเรียบไปกับผิว สามารถปรากฏบนผิวหนังได้ทั่วทั้งร่างกายและอาจมีมากกว่า 1 ตำแหน่ง ปานดำมักไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่อาจส่งผลให้รู้สึกขาดความมั่นใจเมื่อต้องแต่งตัวเผยผิว ดังนั้น จึงควรปรึกษาคุณหมอถึงวิธีการกำจัดปานดำ เพื่อให้คุณหมอประเมินสภาพผิวและทำการรักษาได้อย่างเหมาะสม [embed-health-tool-bmr] ปานดำ เกิดจากอะไร ปานดำ อาจเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนที่ถ่ายทอดในครอบครัว ซึ่งมักปรากฏให้เห็นได้ตั้งแต่กำเนิด หรือหลังจากคลอดได้ไม่นาน โดยสามารถจางหายไปเองได้เมื่อเติบโตขึ้นหรืออาจปรากฏบนผิวหนังถาวร นอกจากนี้ บางคนอาจมีปานดำปรากฏขึ้นในภายหลังที่อาจมีสาเหตุมาจากการผลิตเซลล์เม็ดสีเมลานินมากเกินไปหรืออาจเกิดจากหลอดเลือดส่วนใดส่วนหนึ่งของผิวหนังมีการรวมตัวมากเกินไป จึงทำให้สีผิวบริเวณนั้นคล้ำขึ้นกว่าปกติ ประเภทของปานดำ  ปานดำมีลักษณะที่แตกต่างกันตามประเภทของปานดำ ดังต่อไปนี้ ปานมองโกเลียน (Mongolian Spots) มีลักษณะเป็นจุดหรือปื้นใหญ่ที่มีเทาอมเขียว หรือสีเทาอมดำเหมือนรอยฟกช้ำ ปานสีกาแฟใส่นม (Café-Au-Lait Spots) มีลักษณะเป็นวงรี แบน และมีสีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้มคล้ายกาแฟ บางคนอาจปรากฏเป็นสีดำเข้มและอาจจางลงตามช่วงอายุที่มากขึ้น ปานดำแต่กำเนิด หรือไฝ มีลักษณะนูน สีน้ำตาลหรือดำเข้ม และอาจมีขนงอกออกมาตรงกลางของไฝ ซึ่งมีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ และอาจพัฒนาเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ดังนั้น จึงควรเข้ารับการตรวจเป็นประจำทุกปี ปานดำ อันตรายหรือไม่ โดยปกติแล้วปานดำที่มีลักษณะเป็นแผ่นราบมักไม่ส่งผลอันตรายต่อร่างกาย แต่อาจทำให้รู้สึกขาดความมั่นใจได้ โดยเฉพาะปานดำที่ปรากฏบนผิวหนังนอกร่มผ้า เช่น ใบหน้า คอ แขน ขา แต่สำหรับผู้ที่มีปานดำนูนหรือมีลักษณะคล้ายไฝที่ขยายใหญ่อย่างต่อเนื่อง มีสีคล้ำขึ้น มีอาการคันและมีเลือดออก […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ผิวเป็นขุย สาเหตุ การรักษา และการป้องกัน

ผิวเป็นขุย คือ อาการผิวหนังชั้นนอกสุดลอกออกเป็นขุยสีขาว ปกติแล้วมักเกิดจากภาวะผิวแห้ง อย่างไรก็ตาม หากมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาการคันรุนแรง ผื่นแดงเป็นวงกว้าง ตุ่มหนอง แผลพุพอง อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคผิวหนังต่าง ๆ เช่น โรคกลาก โรคน้ำกัดเท้า โรคงูสวัด ดังนั้น จึงควรเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงหรือเกิดการลุกลามไปทั่วทั้งร่างกาย [embed-health-tool-bmr] สาเหตุที่ทำให้ผิวเป็นขุย สาเหตุที่ทำให้ผิวเป็นขุย อาจมีดังนี้ อายุที่มากขึ้น อาจส่งผลให้ร่างกายเสื่อมสภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวลดลง ส่งผลให้ผิวแห้ง ผิวลอก และผิวเป็นขุย สภาพอากาศ เช่น อากาศหนาวเย็น มีลมแรง อาจทำให้ความชุ่มชื้นในผิวลดลง ส่งผลให้เกิดอาการผิวเป็นขุย โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ที่เกิดจากสารก่อภูมิแพ้หรือสารระคายเคืองต่าง ๆ เช่น แพ้สบู่ แพ้ยาสระผม แพ้น้ำยาปรับผ้านุ่ม แพ้ผงซักฟอก แพ้ฝุ่น แพ้เครื่องสำอาง รวมถึงการแพ้อาหารหรือวัตถุต่าง ๆ เช่น แพ้โลหะ แพ้อาหารทะเล แพ้ผักและผลไม้บางชนิด ที่อาจส่งผลให้เกิดผื่นแดง มีอาการคัน ผิวแห้ง และผิวเป็นขุย โรคผิวหนังติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ครีมทาหน้าผู้ชาย ควรมีส่วนผสมอะไรบ้าง และควรดูแลผิวอย่างไร

ผู้ชายในปัจจุบันเริ่มหันมาสนใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพผิวมากขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง การเลือก ครีมทาหน้าผู้ชาย ที่เหมาะกับสภาพผิว อาจช่วยแก้ไขปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย ผิวมัน สิว นอกจากนี้ การดูแลผิวหน้าอย่างเหมาะสมยังอาจช่วยชะลอริ้วรอยก่อนวัย และอาจช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสได้อีกด้วย [embed-health-tool-bmi] ประเภทของผิว ก่อนที่จะเลือกครีมทาหน้าผู้ชายที่เหมาะสม ควรทราบถึงสภาพผิวแต่ละประเภท ดังนี้ ผิวธรรมดา เป็นสภาพผิวที่สุขภาพดีและสามารถทนต่อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้หลายชนิด โดยอาจไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง ผิวบอบบาง เป็นสภาพผิวแพ้ง่าย อาจเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ครีมทาหน้าได้ง่าย เมื่อลองเปลี่ยนไปใช้ครีมทาหน้าตัวใหม่อาจทำให้เกิดผื่นแดง อาการคัน หรือแสบร้อน ผิวแห้ง เป็นสภาพผิวขาดน้ำและความชุ่มชื้น แห้งกร้าน ลอกเป็นขุย และผิวอาจแดงง่ายเมื่อสัมผัสกับอากาศแห้งและหนาว ผิวมัน เป็นสภาพผิวที่รูขุมขนผลิตน้ำมันบนผิวมากเกินไป ทำให้หน้ามันเป็นเงา อาจมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย ผิวผสม เป็นสภาพผิวที่บริเวณทีโซน เช่น หน้าผาก จมูก คาง มีความมันมาก แต่ส่วนอื่น ๆ บนใบหน้ามีความแห้ง ครีมทาหน้าผู้ชาย ควรมีส่วนผสมอะไรบ้าง ส่วนผสมที่แนะนำในครีมทาหน้าผู้ชาย เพื่อช่วยบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิว อาจมีดังนี้ เซราไมด์ (Ceramide) เป็นส่วนผสมที่ช่วยปรับปรุงสุขภาพเซลล์ผิวหนัง ช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นในชั้นผิว ป้องกันความแห้งกร้านและความระคายเคือง ปกป้องผิวจากการทำร้ายของอนุมูลอิสระ รวมถึงอาจช่วยปกป้องผิวจากการติดเชื้อ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ครีมรักษาฝ้า ควรมีส่วนผสมอะไรบ้างที่ปลอดภัย

ฝ้า เป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะหากผิวสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง กินยาบางชนิด หรือแพ้เครื่องสำอาง ดังนั้น ครีมรักษาฝ้า ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี และช่วยลดหรือชะลอการสร้างเม็ดสีผิว จึงอาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาฝ้า อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาส่วนผสมและปรึกษาคุณหมอก่อนใช้ครีมรักษาฝ้า เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพผิว [embed-health-tool-bmi] ฝ้า เกิดจากอะไร ฝ้า เกิดจากความผิดปกติของเม็ดสีผิวจนทำให้เกิดจุดด่างดำบนผิวหน้า อาจพบได้บ่อยบริเวณแก้ม คาง หน้าผาก ริมฝีปากบน โดยฝ้าอาจเกิดจากปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างผิว เช่น พันธุกรรม รังสียูวีในแสงแดด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การกินยาบางชนิดอย่างยาคุมกำเนิดที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การแพ้เครื่องสำอาง ครีมรักษาฝ้า ควรมีส่วนผสมอะไรบ้าง ครีมรักษาฝ้ามีส่วนผสมหลายชนิดที่อาจช่วยลดปัญหาฝ้าบนใบหน้าได้ แต่อาจต้องใช้ระยะเวลาในการรักษายาวนาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของฝ้า นอกจากนี้ ในระหว่างการรักษาอาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่สามารถก่อให้เกิดฝ้า เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ โดยส่วนผสมที่ควรมองหาในครีมรักษาฝ้า อาจมีดังนี้ ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) เป็นสารที่ช่วยลดและชะลอการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิว ช่วยลดความหมองคล้ำและจุดด่างดำ ครีมรักษาฝ้ามักใช้ไฮโดรควิโนนที่มีความเข้มข้นตั้งแต่ 2-5% โดยควรใช้วันละ 1 ครั้ง ซึ่งอาจเห็นผลได้ชัดหลังจากใช้ประมาณ 5-7 สัปดาห์ และควรใช้ต่อเนื่องประมาณ 3 เดือน ถึง 1 ปี เพื่อให้เห็นผลการรักษาชัดเจน นอกจากนี้ […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

สิว ยีสต์ คืออะไร รักษาได้ด้วยวิธีใดบ้าง

สิว ยีสต์ เป็นตุ่มบวมคล้ายสิว มีหนองอยู่ข้างใน เกิดจากรูขุมขนอักเสบ เนื่องจากการอับชื้นบริเวณผิวหนัง โดยเฉพาะหลังจากออกกำลังกายหรือเมื่อเผชิญกับสภาพอากาศร้อนชื้น ทั้งนี้ สิว ยีสต์อาจบรรเทาให้ดีขึ้นได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ร่วมกับการดูแลตัวเองด้วยการอาบน้ำทำความสะอาดผิวหน้าและร่างกายเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ช่วยระบายความอับชื้นได้ [embed-health-tool-ovulation] สิวยีสต์ คืออะไร สิวยีสต์เป็นตุ่มบวมบนผิวหนัง มีหนองอยู่ข้างใน และอาจมีอาการคันร่วมด้วย มักพบบริเวณหน้าผาก แขน หน้าอก และแผ่นหลัง และบ่อยครั้งเกิดขึ้นเป็นกลุ่มหรือคลัสเตอร์ (Cluster) ทั้งนี้ สิวยีสต์ไม่จัดเป็นสิว เนื่องจากไม่ได้เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนเช่นเดียวกับสิวโดยทั่วไป แต่เกิดจากอักเสบของรูขุมขนเนื่องจากการเพิ่มจำนวนของเชื้อรากลุ่มมาลาสเซเซีย (Malassezia) บนผิวหนัง จากปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ผิวหนังมีความชื้นเพิ่มขึ้นหลังจากการออกกำลังกาย การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่น หรือระบายความชื้นได้ไม่ดี การสวมใส่เสื้อผ้าซ้ำโดยที่ยังไม่ได้ซัก การใช้ยาต้านแบคทีเรีย ซึ่งส่งผลให้สมดุลระหว่างแบคทีเรียและเชื้อราบนผิวหนังถูกทำลาย การบริโภคอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตซึ่งเป็นอาหารของเชื้อราบนผิวหนัง ทำให้เชื้อราเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว การอาศัยอยู่ในบริเวณที่ร้อนและอับชื้นเป็นเวลานาน ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ หรืออาการป่วยอย่างการติดเชื้อเอชไอวี สิว ยีสต์ รักษาอย่างไร คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าสิวยีสต์และสิวโดยทั่วไปนั้นเหมือนกันจึงเลือกรักษาสิวยีสต์ด้วยยาต้านสิว ซึ่งทำให้สิวยีสต์ไม่ดีขึ้น ทั้งนี้ การรักษาสิวยีสต์ที่เหมาะสม ควรปฏิบัติตัว ดังนี้ รับประทานยาต้านเชื้อรา จัดเป็นวิธีรักษาสิวยีสต์ที่อาจให้ผลลัพธ์ชัดเจนมากกว่าวิธีอื่น ๆ โดยยาที่คุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญจ่ายให้มักเป็นไอทราโคนาโซล (Itraconazole) แต่หากไม่ได้ผลคุณหมออาจจ่ายยาไอโซเทรติโนอิน […]


สิว

สิวแพ้แมส เกิดจากอะไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง

สิวแพ้แมส หมายถึง สิวที่เกิดขึ้นบริเวณที่สวมแมสหรือหน้ากากอนามัย โดยมีสาเหตุจากความอับชื้นใต้แมส การเสียดสีระหว่างแมสกับผิวหน้า รวมถึงการแพ้สารเคมีในผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ใช้ทำความสะอาดแมสผ้า ทั้งนี้ สิวแพ้แมสอาจป้องกันได้ด้วยการทำความสะอาดใบหน้าสม่ำเสมอ รองทิชชู่เช็ดหน้าใต้แมสเพื่อป้องกันการเสียดสี หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางเมื่อต้องสวมแมส เปลี่ยนแมสเป็นประจำเมื่อสวมนานเกิน 4 ชั่วโมง และเลือกทำความสะอาดแมสชนิดผ้าด้วยสบู่อ่อน ๆ หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมน้ำหอม [embed-health-tool-bmr] สิวแพ้แมสเกิดจากอะไร สิวแพ้แมสหรือสิวที่เกิดขึ้นบริเวณที่สวมหน้ากากอนามัย อาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้ รูขุมขนอุดตันจากน้ำมันต่อมใต้ผิวหนังที่ผลิตมากเกินไปหรือเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วเกิดการสะสม เมื่อสวมแมสเป็นเวลานาน น้ำมันจากต่อมใต้ผิวหนังและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วจะยิ่งมีปริมาณมากขึ้น ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นสิวมากกว่าเดิม แบคทีเรียบนใบหน้าเพิ่มจำนวนมากขึ้น ความชื้นภายในแมส รวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ บนใบหน้าอย่างละอองน้ำลาย เหงื่อ น้ำมัน และคราบเครื่องสำอางที่หมักหมมอยู่ภายใต้แมสที่สวมใส่เป็นเวลานาน เป็นปัจจัยเสี่ยงให้แบคทีเรียบนผิวหน้าเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและมีปริมาณมากกว่าปกติ จึงนำไปสู่การติดเชื้อและการเป็นสิวอักเสบหรือสิวอุดตันได้ การเสียดสีระหว่างแมสกับผิวหน้า มักทำให้ผิวหน้าระคายเคือง หรือแพ้จนเป็นตุ่มสิวได้ ทั้งนี้ สิวจากการเสียดสีระหว่างแมสกับผิวหน้ามักพบในผู้ที่สวมแมสหลายชั้นหรือสวมหมวกกันน็อคทับแมสเวลาขับขี่รถจักรยานยนต์ สารเคมีในผลิตภัณฑ์ซักผ้า น้ำหอมในผลิตภัณฑ์ซักผ้าหรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม ที่ใช้สำหรับซักแมสผ้า อาจทำให้ใบหน้าระคายเคือง อักเสบ หรือแพ้จนเป็นตุ่มสิวได้ นอกจากนี้ การสวมแมสที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกัน ยังสัมพันธ์กับโอกาสเป็นสิวและความรุนของแรงสิวที่ไม่เท่ากันด้วย โดยการสวมแมสทางการแพทย์ (Surgical mask) สามารถลดโอกาสเกิดสิวได้ดีกว่าการสวมแมสชนิดอื่น ๆ เนื่องจากแมสทางการแพทย์นั้นเป็นสินค้าควบคุมที่ได้รับการรับรองว่ามีคุณสมบัติป้องกันละอองฝอยและเชื้อโรค ที่สำคัญคือผลิตจากเส้นใยพลาสติกที่มีคุณสมบัติอ่อนนุ่มคล้ายผ้าที่ได้จากการทอ ทำให้สวมใส่สบาย มีความสะอาดสูง ผลการศึกษาชิ้นหนึ่ง ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างการสวมแมสและการเกิดสิว ตีพิมพ์ในวารสาร […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ครีมทาฝ้า ประกอบด้วยตัวยาอะไร และควรทาครีมตอนไหน

ฝ้า เป็นปัญหาผิวหนังลำดับต้น ๆ ของสาวไทย มีสาเหตุจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเม็ดสีผิวที่มากเกินไป หรืออาจเกิดจากพันธุกรรม การรับประทานยาคุมกำเนิด หนึ่งในวิธีรักษาฝ้าที่ได้รับความนิยมคือการทา ครีมทาฝ้า เพื่อช่วยให้ฝ้าดูจางลง โดยในครีมดังกล่าวมักมีตัวยาอย่างไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ซึ่งมีคุณสมบัติลดการผลิตเม็ดสีผิว หรือเตรทติโนอิน (Tretinoin) ซึ่งช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวหนังบริเวณที่เป็นฝ้ามีสีอ่อนลงหรือสีใกล้เคียงกับผิวหนังโดยรอบมากขึ้น [embed-health-tool-ovulation] ฝ้าคืออะไร ฝ้าเป็นจุดหรือปื้นบนผิวหนัง มีสีดำหรือน้ำตาล และมักปรากฏบริเวณใบหน้า สันจมูก แก้ม หน้าผาก คาง และเหนือริมฝีปากบน โดยจัดเป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้ทั่วไป โดยเฉพาะในผู้ที่มีบอายุระหว่าง 20-40 ปี และผู้หญิงมักเป็นฝ้ามากกว่าผู้ชายในอัตราสูงถึง 9 ต่อ 1 สาเหตุการเกิด ฝ้า ฝ้าเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้ การเผชิญกับแสงแดดมากเกินไป เนื่องจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดมักไปกระตุ้นการผลิตเม็ดสีผิวหรือเมลานิน (Melanin) ทำให้ผิวหนังที่โดนแสงแดดมีสีเข้มกว่าส่วนอื่นหรือเป็นฝ้าได้ การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเพศและฮอร์โมนกระตุ้นเซลล์ผลิตเมลานิน (Melanocyte-stimulating Hormone) ระหว่างไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ ทำให้หญิงตั้งครรภ์อาจมีฝ้ามากกว่าช่วงเวลาปกติ การใช้ยาคุมกำเนิด เนื่องจากตัวยาซึ่งเป็นฮอร์โมนอาจกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างเม็ดสีผิวมากขึ้นกว่าปกติ ความเครียดอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายทำงานผิดปกติและกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้ วิธีรักษาฝ้าด้วยครีมทา ฝ้า หนึ่งในวิธีรักษาฝ้าที่ได้รับความนิยม คือการใช้ครีมทาฝ้าเพื่อช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิว รวมทั้งเพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ บรรเทาฝ้าให้ดูจางลง ทั้งนี้ ควรทาครีมทาฝ้าบาง ๆ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน