สุขภาพผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะภายนอกที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในร่างกาย ผิวหนังนั้นมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้งเป็นเกราะป้องกันจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ หรือช่วยควบคุมอุณภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ เป็นต้น เรียนรู้เกี่ยวกับการมี สุขภาพผิว ที่ดี และเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย เพื่อการปกป้องดูแลผิวของคุณให้ดียิ่งขึ้น ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพผิว

รักษาสิวอย่างตรงจุด ด้วยนวัตกรรมเรตินอยเจนใหม่

“สิว” ไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่ใครหลายๆ คนคิด ยิ่งคนที่เคยเผชิญปัญหานี้ บอกเลยมีทั้งความกังวลใจ และความไม่มั่นใจ ถึงแม้สิวจะหายไป แต่ก็ยังคงส่งผลกระทบตามมา ทั้งรอยแผลเป็นจากสิว หลุมสิว รอยดำ รอยแดง และสำหรับคนที่เคยมีปัญหาสิว โดยเฉพาะในวัยรุ่น สิ่งที่ตามมาไม่ใช่แค่ปัญหาทางผิวหนังเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจ หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ กังวลทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับคนอื่น รู้สึกเหมือนถูกจับจ้อง หรือบางครั้งถึงกับหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม สิ่งเหล่านี้ค่อยๆ กัดกร่อนความมั่นใจในตัวเอง และทำให้หลายคนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น การปล่อยปละละเลยไม่รีบรักษาสิวตั้งแต่เนิ่นๆ อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิวที่เกิดจากหลุมสิว ยกตัวอย่างเช่น สิวที่หลัง ซึ่งมักถูกมองข้าม ทำให้ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม การรักษารอยแผลเป็นจากสิวเหล่านี้เป็นไปได้ยาก และในปัจจุบันก็สามารถดูแลได้เพียงทำให้หลุมสิวดีขึ้นเท่านั้น ทางที่ดีจึงควรเริ่มรักษาสิวด้วยวิธีที่ถูกต้อง และเร็วที่สุด เพื่อลดความรุนแรงและรอยโรคที่จะเกิดขึ้นตามมา แน่นอนว่าปัญหาสิวไม่สามารถหายไปได้ง่ายๆ ยิ่งกว่านั้นยังเกิดขึ้นในหลายส่วนของร่างกาย 64.6-89.3% ของคนที่เป็นสิวในระดับปานกลางมักจะต้องเจอกับสิวที่ใบหน้าและสิวที่หลัง จากการสำรวจพบว่ามีคนไทยที่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 12-25 ปี มากถึง 85% ที่ต้องเผชิญกับปัญหาสิว ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 50% ที่เป็นสิวทั้งที่หน้าและสิวที่หลัง การรักษาสิวอย่างตรงจุด จึงจำเป็นที่จะต้องครอบคลุมทั้ง 2 บริเวณ และจะต้องช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิวซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความมั่นใจในระยะยาวอีกด้วย วิธีรักษาสิวมีได้หลากหลายรูปแบบ โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ยารักษาสิว ซึ่งสามารถทำได้เองทุกวัน ยาในกลุ่มเรตินอยจัดเป็นยารักษาสิวประสิทธิภาพดี ช่วยลดการอักเสบทั้งสิวเก่า และป้องกันสิวใหม่ไม่ให้เกิดขึ้น ทำให้ยาทาในกลุ่มเรตินอยได้ถูกระบุให้เป็นทางเลือกแรกในการรักษาสิวโดยสถาบันโรคผิวหนังแห่งอเมริกา […]

หมวดหมู่ สุขภาพผิว เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพผิว

การดูแลและทำความสะอาดผิว

รูขุมขนกว้างใช้อะไรดี และเคล็ดลับที่อาจช่วยกระชับรูขุมขน

รูขุมขนกว้างใช้อะไรดี เป็นคำถามที่หลายคนต้องการคำตอบ แม้จะไม่มีวิธีที่สามารถลดขนาดรูขุมขนจนทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนจนมองไม่เห็นรูขุมขน แต่ก็อาจมีวิธีดูแลผิวที่มีส่วนช่วยให้รูขุมขนดูกระชับและดูเล็กลงได้ เช่น การใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยผลัดเซลล์ผิว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล รูขุมขนกว้างเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การทำความสะอาดผิวอย่างผิดวิธี ผิวโดนแสงแดดทำร้าย การดูแลผิวอย่างถูกวิธีอาจเป็นวิธีที่จะช่วยให้รูขุมขนผิวหน้าแลดูกระชับและดูเล็กลงได้ สาเหตุที่ทำให้รูขุมขนกว้าง สาเหตุที่ทำให้รูขุมขนกว้าง อาจมีดังนี้ กรรมพันธุ์ ผิวหนังขับน้ำมันออกมามากเกินไป เมื่อต่อมไขมันใต้ผิวผลิตไขมันออกมาในปริมาณมาก อาจทำให้รูขุมขนขยายได้ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวจะสูญเสียคอลลาเจนที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวและความยืดหยุ่นรอบรูขุมขน เมื่อคอลลาเจนในชั้นผิวน้อยลง จึงทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น การทำความสะอาดผิวที่ไม่ถูกวิธี เช่น การใช้ครีมบำรุงที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว การไม่ล้างหน้าทุกวัน ซึ่งอาจส่งผลให้ระดับไขมันบนใบหน้าไม่สมดุล หรือมีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ในรูขุมขน จนทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นได้ สิวอุดตันและสิวหัวดำที่เกิดขึ้นในบริเวณเดิมซ้ำอยู่บ่อยครั้ง มีส่วนทำให้รูขุมขนขยายออกและเป็นสาเหตุให้รูขุมขนกว้าง แสงแดดมีส่วนทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นได้ เนื่องจากมีรังสียูวีเอ (UVA) ที่เข้าไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและขยายรูขุมขนให้กว้างขึ้น รูขุมขนกว้างใช้อะไรดี วิธีต่อไปนี้ อาจมีส่วนช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลงได้ เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้รูขุมขนอุดตัน อาจเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากระบุว่า Non-Comedogenic ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสิวและรูขุมขนกว้างได้ ใช้ครีมกันแแดดเป็นประจำ อาจมีส่วนช่วยลดโอกาสที่จะทำให้รูขุนขนกว้างได้ เนื่องจากครีมกันแดดจะช่วยป้องกันไม่ให้รังสียูวีเอ (UVA) ทะลุเข้าไปในชั้นผิวและทำลายเส้นใยโปรตีนหรือคอลลาเจนในผิวที่ช่วยเสริมสร้างความกระชับให้กับรูขุมขน โดยอาจเลือกครีมกันแดดสูตรบรอดสเปกตรัม (Broad Spectrum) ที่มาพร้อมค่า PA ซึ่งอาจช่วยป้องกันรังสียูวีเอ (UVA) ที่เป็นรังสีคลื่นความถี่กว้างได้ ทั้งนี้ […]


การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ

ไฮไลท์ผม ความเสี่ยงและผลกระทบต่อสุขภาพ

ไฮไลท์ผม หรือการย้อมผมบางส่วนให้มีสีอ่อนลงกว่าสีผมตามธรรมชาติหรือสีผมบริเวณอื่น เป็นแฟชั่นอย่างหนึ่งซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำยาเพื่อทำไฮไลท์ผมอาจส่งผลให้ผิวหนังเกิดความระคายเคืองหรือแพ้ได้ ก่อนย้อมผม จึงควรอ่านรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ย้อมผม และตรวจดูว่ามี สารเคมีในน้ำยาย้อมที่ตนเองเองอาจแพ้หรือไม่ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์บางชนิดสำหรับการไฮไลท์ผมอาจมีส่วนผสมที่เพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งบางชนิดด้วย ภาวะสุขภาพที่อาจเกิดจากการทำไฮไลท์ผม ไฮไลท์ผม อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงและผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนี้ ไฮไลท์ผม มีโอกาสเสี่ยงเกิดอาการแพ้ การทำไฮไลท์ผม ต้องใช้น้ำยาย้อมผมซึ่งมีส่วนผสมของสารเคมีพาราฟินีลินไดอะมีน (Paraphenylenediamine) อยู่ในระดับความเข้มข้นสูง โดยเฉพาะในน้ำยาย้อมผมสีเข้ม ซึ่งมักก่อให้เกิดอาการระคายเคืองหรือแพ้บริเวณหนังศีรษะ หน้าผาก หรือลำคอ โดยเฉพาะในกรณีของผู้ซึ่งเป็นโรคผื่นแพ้สัมผัส (Contact Dermatitis) กับสารเคมีนี้ ทำให้เกิดผื่นแพ้บริเวณหนังศรีษะ และไรผมได้ อาการแพ้ซึ่งพบได้ในผู้ที่ผิวหนังบอบบางแพ้ง่ายและไวต่อพาราฟินีลินไดอะมีน ประกอบด้วย หนังศีรษะ หรือผิวหนังบริเวณรอบ ๆ ผมเช่น หน้าผาก เปลือกตา หู ลำคอ มีอาการบวม แดง ผื่นขึ้น แห้ง หรือแตก ในบางกรณี ผู้ป่วยจะพบอาการแสบร้อนร่วมด้วย อาการระคายเคืองอาจเกิดขึ้นทันทีหลังสัมผัสสารเคมีดังกล่าว หรือภายใน 48 ชั่วโมง พบอาการคันที่หนังศีรษะหรือใบหน้า บางรายอาจพบอาการแพ้บริเวณลำตัว เช่น คัน ผื่นขึ้น และรู้สึกไม่สบาย ครั่นเนื้อครั่นตัวร่วมด้วย […]


โรคผิวหนังอักเสบ

ผื่นคัน แพ้เหงื่อ อาการเป็นอย่างไร และรักษาได้อย่างไร

ผื่นคัน แพ้เหงื่อ อาจเป็นหนึ่งในอาการของโรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ ที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายผลิตเหงื่อออกมาในปริมาณมากเกินไป ทำให้มีผื่นแดง รู้สึกคัน ส่วนใหญ่พบในบริเวณใบหน้า แขน และหลัง หากสังเกตว่ามีอาการผื่นคันหลังจากมีเหงื่อออก ควรพบคุณหมอทันที เพื่อป้องกันอาการรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น [embed-health-tool-bmr] ผื่นคัน แพ้เหงื่อ คืออะไร ผื่นคัน จากการแพ้เหงื่อ อาจเป็นอาการหนึ่งของโรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบที่แสดงออกมาในรูปแบบของผื่นคัน โดยเกิดจากการที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงจนขับเหงื่อออกมาเพื่อช่วยระบายความร้อน ซึ่งมีปัจจัยบางอย่างเป็นตัวกระตุ้นทำให้ร่างกายขับเหงื่อ ดังนี้ อยู่ในสภาพอากาศร้อนและอากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น ห้องซาวน่า อ่างน้ำร้อน ตากแดดเป็นเวลานาน ออกกำลังกายและเล่นกีฬา รับประทานอาหารร้อน หรืออาหารที่มีรสเผ็ด อาบน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น สวมเสื้อผ้ารัดแน่น ไม่ระบายอากาศ อับชื้น รู้สึกวิตกกังวล เครียด ประหม่า หรือโกรธ นอกจากนี้ ผู้ที่มีประวัติเกี่ยวกับโรคผิวหนังอักเสบ กลาก หอบหืด และไข้ละอองฟาง อาจเพิ่มความเสี่ยงนำไปสู่การเกิดผื่นคันจากการแพ้เหงื่อได้มากขึ้น อาการแพ้เหงื่อตัวเอง สังเกตจากอะไร อาการแพ้เหงื่อตัวเอง อาจสังเกตได้จาก อาการคัน แสบร้อนผิวหนัง ผื่นแดงหรือตุ่มนูนขนาดเล็กขึ้นตามผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า หน้าอก แขน ขา และหลังส่วนบน ผิวแห้ง ผิวบวมนูนขึ้น หรือมีอาการแย่ลงหลังจากเหงื่อออกประมาณ 25 นาที ควรพบคุณหมอทันทีหากมีอาการ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ฉีดผิวขาว ขั้นตอน และความเสี่ยงต่อสุขภาพ

ฉีดผิวขาว คือ การฉีดวิตามินหรือสารกลูตาไธโอน (Glutathione) เข้าสู่ผิวหนัง เพื่อให้ผิวหนังแลดูขาวขึ้นชั่วคราว ผู้ที่อยากมีผิวขาวควรได้รับการฉีดผิวขาวสม่ำเสมอ เพื่อให้ผลคงอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การฉีดผิวขาว อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น อาการแพ้ ผื่นขึ้น ไม่สบาย ก่อนฉีดผิวขาว จึงควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด และควรเลือกใช้บริการจากคลินิกเสริมความงามหรือสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือและได้มาตรฐาน [embed-health-tool-bmr] ฉีดผิวขาว คืออะไร ฉีดผิวขาว คือการทำให้ผิวขาวขึ้น พร้อมลดริ้วรอยต่าง ๆ ด้วยการฉีดสารอาหารต่าง ๆ เข้าสู่หลอดเลือดดำหรือชั้นผิวหนังโดยตรง จุดเด่นของการฉีดผิวขาว คือเห็นผลไวกว่าการทำให้ผิวขาวขึ้นด้วยวิธีการอื่น ๆ อย่าง การทาครีม การขัดผิว การรับประทานอาหารเสริม อย่างไรก็ตาม การฉีดผิวขาวไม่สามารถทำให้ผู้ที่มีผิวคล้ำโดยกำเนิด ขาวขึ้นเทียบเท่ากับผู้ที่มีผิวสีอ่อนโดยกำเนิดได้ นอกจากนี้ การฉีดผิวขาวยังไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคตับหรือไต รวมถึงผู้ป่วยภาวะธาตุเหล็กเกิน (Hemochromatosis) เพราะการฉีดผิวขาวจะทำให้ร่างกายเสียสมดุลแร่ธาตุ เนื่องจากวิตามินที่ถูกฉีดเข้าร่างกาย มักทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กในอาหารได้มากกว่าเดิม สารหรือวิตามินที่ใช้เพื่อฉีดผิวขาว เมื่อไปรับบริการฉีดผิวขาว คลินิกเสริมความงามหรือสถานพยาบาลจะฉีดสารอาหารต่าง ๆ ให้ โดยอาจฉีดให้เพียงชนิดเดียว หรือฉีดแบบผสม ตามสูตรของสถานพยาบาลนั้น ๆ โดยปกติจะมีคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแลสูตรที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย สารอาหารดังกล่าว อาจประกอบด้วย วิตามินซี (Vitamin C) เป็นวิตามินซึ่งพบได้ในผักและผลไม้ต่าง ๆ […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

ฝีไม่มีหัว เป็นอย่างไร หายเองได้หรือไม่ มีวิธีรักษาอย่างไร

ฝีไม่มีหัว คือ ตุ่มบวมแดงบนผิวหนังซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มีหนองอยู่ในภายในฝีแต่ไม่มีตุ่มฝีสีขาวอยู่ด้านบน แต่ทำให้รู้สึกเจ็บปวด ทั้งนี้ ฝีไม่มีหัวอาจค่อย ๆ ยุบและหายเองได้ หากไม่ได้ติดเชื้อรุนแรงมาก อย่างไรก็ตาม หากเป็นฝีขนาดใหญ่กว่า 1 เซนติเมตร ควรไปโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อให้คุณหมอผ่าและดูดหนองออก [embed-health-tool-bmr] ฝีไม่มีหัวเกิดจากอะไร ฝีไม่มีหัวเป็นอาการของฝีโดยทั่วไป เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) ซึ่งพบได้บนผิวหนังและในโพรงจมูก โดยปกติแล้ว แบคทีเรียดังกล่าวไม่เป็นอันตรายแก่ผิวหนัง แต่หากเกิดบาดแผลหรือเป็นรอยถลอกบนผิวหนัง เชื้อสแตปฟิโลคอคคัสอาจเข้าไปในผิวหนัง และทำให้ติดเชื้อเกิดการอักเสบจนกลายเป็นฝีหรือตุ่มหนองได้ ฝีหรือตุ่มบวมแดงบนผิวหนังเป็นการอักเสบเนื่องมาจากระบบภูมิคุ้มกันต่อสู้กับแบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกาย เกิดเป็นน้ำหนอง ซึ่งประกอบด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาวจำนวนมาก อันมีหน้าที่ต่อต้านเชื้อโรคต่าง ๆ ฝีมักเกิดกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือมีภาวะสุขภาพดังต่อไปนี้ ป่วยเป็นโรคซึ่งส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคเอดส์ โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง โรคอ้วน ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือใช้ยาเสพติด ผ่านการรักษาโรคมะเร็งด้วยการใช้ยาเคมีบำบัดหรือคีโม (Chemotherapy) มีอาการบาดเจ็บหรือผิวหนังไหม้ระดับรุนแรง ฝีไม่มีหัว มีอาการอย่างไร ฝีไม่มีหัวเกิดได้ทุกส่วนของร่างกาย อาทิ รักแร้ มือ เท้า ลำตัว อวัยวะเพศ สะโพก โดยอาการที่พบบ่อย ประกอบด้วย ตุ่มบวมแดงบริเวณที่ติดเชื้อ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

Bright หรือเมโสหน้าใส คืออะไร มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร

Bright หรือ เมโสไบรท์ หมายถึง การทำเมโสหน้าใส ซึ่งเป็นวิธีการเสริมความงามแบบหนึ่ง ด้วยการฉีดวิตามินหรือสารสกัดจากธรรมชาติเข้าสู่ผิวหน้า เพื่อลดริ้วรอย หรือทำให้ใบหน้าเต่งตึง ทั้งนี้ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น เกิดผื่นขึ้นหน้า ผิวหน้าช้ำ ดังนั้น ก่อนเลือกเสริมความงามให้ผิวหน้าด้วยวิธีนี้ ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดเกี่ยวกับข้อดี-ข้อเสีย และรายชื่อสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพผิวหรือสุขภาพด้านอื่น ๆ [embed-health-tool-bmi] Meso Bright คืออะไร เมโสไบรท์ หรือ “เมโสหน้าใส” หมายถึง การรักษาสภาพผิวหน้า ด้วยวิธีเมโสเทอราปี (Mesotherapy) เพื่อให้ผิวหน้าเต่งตึง กระจ่างใส ชุ่มชื้น สีผิวสม่ำเสมอ ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำต่าง ๆ ให้จางลง ในการดูแลผิวหน้าด้วยวิธีนี้ คุณหมอจะฉีดวิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน หรือยาปฏิชีวนะ เข้าไปยังผิวหนังชั้นกลางของใบหน้า เพื่อกระตุ้นการทำงานของโปรตีนคอลลาเจน (Collagen) และ อิลาสติน (Elastin) ที่อยู่ในชั้นผิวหนังซึ่งมีคุณสมบัติในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น วิธีการทำเมโสไบรท์ มีขั้นตอนอย่างไร เมื่อไปรับบริการฉีดเมโสหน้าใสที่สถานพยาบาล คุณหมอจะปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ ตรวจสุขภาพใบหน้า เพื่อประเมินว่าควรใช้สารในการฉีดเข้าผิวหน้าแบบใด จึงจะเหมาะสมกับสภาพผิว ทำความสะอาดใบหน้า ทายาชาแบบครีมบนใบหน้า ในตำแหน่งที่จะฉีดวิตามินหรือสารสกัดจากธรรมชาติลงไป ฉีดวิตามินหรือสารสกัดจากธรรมชาติเข้าไปใต้ผิวหนัง โดยปกติจะฉีดไปอยู่ที่ความลึกระหว่าง 0.25-4 […]


สุขภาพผิว

ขาแตกลาย เกิดจากสาเหตุใด รักษาและป้องกันได้อย่างไรบ้าง

ขาแตกลาย เกิดจากการยืดขยายหรือหดตัวอย่างรวดเร็วของผิวหนังบริเวณขา เช่น ช่วงสะโพก น่อง รอยแตกลายมักพบที่บริเวณหน้าท้อง หน้าอก ต้นแขน สะโพก ก้น เป็นต้น ภาวะขาแตกลายไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่อาจส่งผลกระทบให้ขาดความมั่นใจในการแต่งกายได้ อย่างไรก็ตาม ขาแตกลายมักจางหายไปตามระยะเวลาและการดูแลผิวของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ การเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ เช่น การเลเซอร์ การผลัดเซลล์ผิว ก็อาจช่วยให้รอยแตกลายดูจางลงได้เร็วขึ้น [embed-health-tool-bmi] ขาแตกลาย คืออะไร  ขาแตกลาย คือ รอยริ้วบนผิวหนังบริเวณขา โดยเฉพาะต้นขา น่อง ที่เกิดจากผิวหนังยืดขยายหรือหดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้โครงสร้างของคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนังเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน และเมื่อผิวหนังบริเวณนั้นซ่อมแซมตัวเอง อาจทำให้เกิดรอยแตกลายขึ้น โดยขาแตกลายอาจมีลักษณะเป็นริ้วหรือรอยแตกที่มีสีแตกต่างกันไปตามระยะเวลา เช่น ขาแตกลายในช่วงแรกจะมีสีแดง สีชมพูหรือสีม่วง และเมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือนหรือเป็นปี รอยแตกลายจะกลายเป็นสีขาว ลักษณะริ้วรอยของขาแตกลายอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยแตกที่ขา และบางครั้ง อาจมีอาการคันร่วมด้วย ขาแตกลายสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย โดยปกติแล้วอาจดูจางลงตามกาลเวลา แต่การรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์อาจช่วยให้รอยแตกดูจางลงเร็วขึ้นได้ ขาแตกลาย เกิดจากอะไร ปัจจัยที่อาจส่งผลให้เกิดขาแตกลายได้ อาจมีดังนี้  การเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว การเพิ่มน้ำหนักและลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว รวมถึงผู้ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน  การตั้งครรภ์ เนื่องจากกล้ามเนื้อขยายตัว จึงมักทำให้เกิดขาแตกลาย และมักพบรอยแตกลายที่หน้าท้องด้วย การใช้ยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน […]


สิว

เลเซอร์รอยสิว ข้อควรระวัง และวิธีดูแลผิวหลังเลเซอร์

รอยสิว หรือรอยแผลเป็นจากสิว มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น รอยดำ หลุมสิว แผลเป็นนูน ซึ่งสามารถรักษาได้โดยการใช้ยาทา รวมถึงการเลเซอร์รอยสิวเพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และอาจช่วยทำให้รอยสิวลดเลือนลงได้ รอยสิวเกิดจากอะไร รอยสิว ส่วนใหญ่มักเกิดจากสิวอักเสบ รวมถึงพฤติกรรมการบีบแกะสิว ที่ส่งผลให้ผิวเปลี่ยนเป็นสีเข้มและปรากฏเป็นรอยสิวทิ้งไว้หลังจากสิวหาย ประเภทของรอยสิวมีดังต่อไปนี้ รอยดำ คือรอยสิวที่พบได้บ่อยมากที่สุด ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้นในบริเวณที่มีการอักเสบของสิว ทำให้ผิวมีสีเข้ม เป็นจุดด่างดำ รอยแผลเป็นนูน มีลักษณะเป็นก้อนนูนแข็งใต้ผิวหนังบริเวณที่เคยเป็นสิว อาจมีขนาดเท่ากับหรือใหญ่กว่ารอยสิวเดิม ขึ้นอยู่กับความเสียหายของเนื้อเยื่อขณะเป็นสิว รอยสิวกว้าง (Boxcar Scar) เป็นรอยสิวแบบกว้าง มีลักษณะเป็นหลุมสิว มีขอบนูนอย่างชัดเจน รอยสิวตื้น (Rolling Scar) เป็นรอยสิวที่มีความกว้างและตื้น มีขอบรอยสิวที่ลาดเอียง ทำให้ผิวดูเป็นคลื่นไม่สม่ำเสมอกัน รอยสิวชนิดลึก (Icepick Scar) เป็นรอยแผลเป็นที่มีลักษณะเป็นรูเล็ก ๆ ที่มีความลึก คล้ายถูกของมีคมเล็ก ๆ เจาะลงไปในผิวหนัง พบได้มากในบริเวณแก้ม การเลเซอร์รอยสิว การเลเซอร์รอยสิว เป็นการฉายแสงความร้อนสูงไปบนผิวหนังที่ได้รับผลกระทบ เพื่อสลายเนื้อเยื่อแผลเป็น ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า และกระตุ้นการผลิตเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงขึ้นมาแทนที่ ช่วยให้รอยสิวดูจางลง ผิวดูเรียบเนียน การเลเซอร์รอยสิวที่เป็นที่นิยม แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบด้วยกัน ดังนี้ […]


สุขภาพผิว

ตากุ้งยิง อาการ และวิธีการรักษา

ตากุ้งยิง เป็นอาการที่สังเกตได้จากก้อนนูนแข็งบริเวณเปลือกตา และอาจมีหนองภายใน ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ตากุ้งยิงมักไม่ก่อให้เกิดอันตรายและเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แต่อาจรบกวนการมองเห็นและการใช้ชีวิตได้ ดังนั้น หากมีอาการตากุ้งยิง จึงควรพบคุณหมอเพื่อรับการตรวจทันทีที่สังเกตว่าเริ่มมีอาการคันรอบ เปลือกตา เจ็บตา และมีตุ่มนูนเกิดขึ้นบริเวณเปลือกตาและโดยรอบ ตากุ้งยิง คืออะไร ตากุ้งยิง คือ ก้อนนูนที่อยู่บริเวณเปลือกตา สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งภายนอกและภายในเปลือกตา มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) ที่ต่อมน้ำมันบริเวณเปลือกตา หรืออาจเกิดจากเซลล์ผิวเก่า และสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในต่อมน้ำมันจนเกิดการอักเสบ โดยอาจเกิดจากสาเหตุเหล่านี้ การล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา การใช้อุปกรณ์แต่งหน้าร่วมกับผู้อื่น หรือไม่ทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้าเป็นเวลานาน เพราะอาจส่งผลให้มีการปนเปื้อนของแบคทีเรีย การใส่คอนแทคเลนส์และล้างคอนแทคเลนส์ไม่สะอาด การใช้มือที่ไม่สะอาดสัมผัสบริเวณดวงตา ภาวะสุขภาพบางอย่าง เช่น  โรคต่อมไขมันอักเสบ เปลือกตาอักเสบ โรคโรซาเซีย เกล็ดกระดี่ขึ้นตา (โรคขาดวิตามินเอ) และโรคเบาหวาน ประเภทของตากุ้งยิง ตากุ้งยิงมี 2 ประเภท ดังนี้ ตากุ้งยิงชนิดเจ็บ (Hordeolum) เกิดขึ้นจากการอุดตันของต่อมไขมันบริเวณเปลือกตาและโคนขนตา ส่งผลให้เกิดก้อนนูนแดงและมีอาการอักเสบ ทำให้รู้สึกเจ็บปวด ตากุ้งยิงชนิดไม่เจ็บ (Chalazion) เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันไมโบเมียน (Meibomian) ที่อยู่บริเวณเปลือกตา ส่งผลให้เป็นก้อนนูนขนาดเล็ก บวมแดง ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวด แต่อาจทำให้ระคายเคืองดวงตา อาการของตากุ้งยิงเป็นอย่างไร อาการของตากุ้งยิง […]


สุขภาพผิว

ติ่งเนื้อที่คอ สาเหตุ วิธีรักษาและป้องกัน

ติ่งเนื้อที่คอ คือ ก้อนติ่งหรือเนื้องอกขนาดเล็กที่พบบนผิวหนังบริเวณลำคอ ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายและไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ เป็นภาวะผิวหนังอย่างหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งชายและหญิง พบบ่อยในผู้ที่มีอายุ 30-50 ปี ผู้ป่วยเบาหวาน หรือสมาชิกในครอบครัวเคยมีประวัติเป็นติ่งเนื้อมาก่อน โดยทั่วไป ติ่งเนื้อที่คอไม่จำเป็นต้องรักษา เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ แต่อาจทำให้รู้สึกระคายเคืองเมื่อสัมผัสหรือเสียดสีกับเสื้อผ้า หากต้องการกำจัดติ่งเนื้อที่คอเพราะทำให้ขาดความมั่นใจหรือรู้สึกกังวลต่อรูปลักษณ์ ควรปรึกษาคุณหมอผิวหนังเกี่ยวกับวิธีกำจัดติ่งเนื้ออย่างปลอดภัย [embed-health-tool-bmi] ติ่งเนื้อที่คอ มีลักษณะอย่างไร ลักษณะของติ่งเนื้อที่คอ อาจมีดังนี้ เป็นเนื้องอกหรือก้อนนูนขนาดเล็ก เป็นติ่งห้อยออกมาจากผิวหนังบริเวณลำคอและรอบไหปลาร้า มีขนาดเล็ก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-5 มิลลิเมตร แต่อาจขยายใหญ่ได้ มีสีเดียวกับผิวหนัง หรือเข้มกว่า อาจเป็นสีน้ำตาลอ่อน บางครั้งอาจดูเหมือนไฝ สัมผัสแล้วไม่เจ็บ ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ แต่อาจส่งผลให้ขาดความมั่นใจ ไม่แพร่กระจายลุกลามไปยังผิวหนังบริเวณอื่น สามารถพบติ่งเนื้อได้ที่ผิวหนังในบริเวณอื่นด้วย เช่น  เปลือกตา ใต้วงแขน ต้นขาด้านใน ติ่งเนื้อมักเกิดบริเวณที่ผิวหนังพับย่นหรือตามซอกพับที่มีการเสียดสีกันบ่อย ๆ ติ่งเนื้อที่คอ เกิดจากอะไร ติ่งเนื้อที่คออาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้ กรรมพันธุ์ ผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวมีประวัติเป็นติ่งเนื้อมาก่อน มีโอกาสเกิดติ่งเนื้อที่คอได้มากกว่าคนทั่วไป เป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน ติ่งเนื้อมักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีผิวหนังย่นทับกัน มีรอยพับของผิวหนังหลายชั้น เมื่อผิวหนังเสียดสีกันบ่อยเข้า อาจทำให้เกิดติ่งเนื้อที่คอได้ อายุที่มากขึ้น ร่างกายจะผลิตอีลาสตินที่ช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่นได้น้อยลง จนอาจส่งผลให้เกิดติ่งเนื้อที่คอได้ โดยติ่งเนื้อที่คออาจพบได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 20 ปี […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน