สุขภาพหัวใจ

หัวใจ คืออวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่ในการสูบฉีดเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หากหัวใจเกิดปัญหา ก็จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกาย และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ เรียนรู้เกี่ยวกับ สุขภาพหัวใจ ทั้งการดูแลรักษา และปกป้องระบบหัวใจและหลอดเลือดของคุณ ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพหัวใจ

อาการเตือนโรคหัวใจ แบบไหนควรไปพบคุณหมอ

โรคหัวใจแบ่งได้เป็นหลายประเภทตามสาเหตุและตำแหน่งที่เกิด ซึ่งโรคหัวใจแต่ละประเภทมักจะมีอาการที่คล้ายคลึงกัน โดยลักษณะ อาการเตือนโรคหัวใจ ที่พบบ่อยได้แก่ อาการแน่นหน้าอก ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว หายใจไม่เต็มอิ่ม วิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย เหงื่อออกเยอะ เหนื่อยง่าย หากสังเกตอาการเตือนโรคหัวใจได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และไปพบคุณหมอโดยเร็วจะช่วยให้รักษาและหาวิธีดูแลตนเองได้อย่างทันท่วงที [embed-health-tool-bmi] อาการเตือนโรคหัวใจ เป็นแบบไหน อาการเตือนโรคหัวใจ แบ่งออกตามประเภทของโรคได้ ดังนี้ โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease) เกิดจากเส้นเลือดแดงที่หล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจตีบตัน ซึ่งอาจเกิดจากไขมันเกาะตามผนังหลอดเลือดหัวใจมากเกินไปจนทำให้เลือดที่มีสารอาหารและออกซิเจนไม่สามารถไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงยังหัวใจได้ตามปกติ อาการที่พบบ่อยที่สุดของโรคหลอดเลือดหัวใจคืออาการแน่นหน้าอกหรือเจ็บหน้าอกซึ่งอาจสับสนกับอาการอาหารไม่ย่อยหรือกรดไหลย้อนได้ นอกจากนี้ อาจรู้สึกไม่สบายตัวหรือเจ็บบริเวณไหล่ แขน คอ ลำคอ กราม หรือหลัง และอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น หายใจถี่รัว หัวใจสั่น หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ วิงเวียนศีรษะหรืออ่อนแรง คลื่นไส้ เหงื่อออกมาก โรคหัวใจวาย (Heart Attack) โรคหัวใจวายหรือกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันเกิดขึ้นเมื่เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจได้น้อยลง มักเกิดจากไขมัน คอเลสเตอรอล และสารอื่น ๆ เข้าไปสะสมจนเกิดการอุดตันบริเวณผนังหลอดเลือดหัวใจ อาการที่พบบ่อย คือ แน่นหน้าอกเป็นเวลานานประมาณ 30 นาที จากนั้นค่อย ๆ หายไปแล้วกลับมาเป็นซ้ำอีก ซึ่งเป็นอาการหลักที่มักพบในผู้ชาย […]

หมวดหมู่ สุขภาพหัวใจ เพิ่มเติม

คอเลสเตอรอล

สำรวจ สุขภาพหัวใจ

ปัญหาอื่นของโรคหัวใจและหลอดเลือด

รู้หรือไม่...พฤติกรรมทำลายหัวใจ มีอะไรบ้าง

แม้การทานอาหารเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้สุขภาพหัวใจแข็งแรง แต่รู้หรือไม่ว่าบาง พฤติกรรมทำลายหัวใจ ได้เช่นกัน แต่คุณอาจจะยังไม่ทราบว่าพฤติกรรมที่ทำอยู่สามารถทำลายหัวใจได้เช่นกัน ดังนั้น ทาง Hello คุณหมอ จึงได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับพฤติกรรมทำลายหัวใจ มาฝากกัน มาดูกันซิว่าคุณมี พฤติกรรมทำลายหัวใจ เหล่านี้อยู่หรือเปล่า กิจกรรมหลายๆ  อย่างที่คุณทำ อาจจะไม่ได้คิดว่ามีผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพของหัวใจ แต่มีพฤติกรรมหลายอย่างซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันที่คุณจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อไม่ให้ทำลายหัวใจไปมากกว่านี้ พฤติกรรมทำลายหัวใจ มีดังนี้ นั่งทั้งวัน เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ชอบเคลื่อนไหว ผู้ที่เคลื่อนไหวไม่เพียงพอและนั่งนานถึง 5 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น มีความเสี่ยงเป็น 2 เท่าที่จะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ดังนั้น ถ้างานของคุณจะต้องนั่งโต๊ะทุกวัน ควรหาเวลาลุกขึ้นและเดินประมาณ 5 นาทีทุกชั่วโมง การบิดตัวเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถทำให้หลอดเลือดแดงของคุณมีการยืดหยุ่น และทำให้เลือดไหลเวียนได้อย่างถูกต้อง อย่าคิดว่าตัวเองยังเด็กเกินไป ความจริงแล้วไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ก็สามารถมีปัญหาโรคหัวใจเหมือนกันได้หมด ดังนั้น อย่ามัวแต่คิดว่าตัวเองยังเด็กเกินไป เริ่มออกกำลังกาย และกินอาหารเพื่อสุขภาพ รวมทั้งคอยตรวจเช็คความดันโลหิต คอเลสเตอรอล และน้ำตาลในเลือดอยู่สม่ำเสมอ จะเป็นการดีที่สุด หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ควันจากบุหรี่ส่งผลที่ไม่ดีต่อหัวใจ หลอดเลือดแดง และปอด หากคุณสามารถเลิกสูบบุหรี่ได้จะถือเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพมาก นอกจากนั้นควันบุหรี่มือ 2 ก็เป็นพิษต่อหัวใจเช่นกัน ดังนั้นถ้าหลีกเลี่ยงได้ ก็เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง จำกัดปริมาณไขมันเพื่อสุขภาพ โดยส่วนใหญ่ทุกคนจะรู้ว่าไขมันนั้นไม่ดีสำหรับตัวเรา ทุกคนเลยต่างพากันจำกัดไขมัน แต่การจำกัดไขมันอาจทำให้คุณพลาดการได้รับไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นผลที่ดีต่อหัวใจด้วย […]


ปัญหาอื่นของโรคหัวใจและหลอดเลือด

นอกจากความรักก็มี ประโยชน์ของดาร์กช็อกโกแลต นี่แหละที่ดีต่อหัวใจ

เมื่อถึงช่วงวันวาเลนไทน์เมื่อใด สาว ๆ ที่มีหนุ่มให้ดอกไม้ ของขวัญ หัวใจก็คงจะกระชุ่มกระชวยไม่ใช่น้อย ส่วนใครที่ไม่มีหนุ่ม ๆ คอยทำให้หัวใจพองโต ก็ไม่ต้องเสียใจกันไปค่ะ วันนี้ Hello คุณหมอ มีบทความ ประโยชน์ของดาร์กช็อกโกแลต ที่ช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ มาฝากกัน แม้จะไม่มีหนุ่ม ๆ ทำให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ ก็ยังมีดาร์กช็อกโกแลตที่ดีต่อหัวใจเสมอนะคะ ความสัมพันธ์ระหว่างโกโก้และสุขภาพหัวใจ มีงานวิจัยชี้ว่าผลโกโก้ โดยเฉพาะดาร์กช็อกโกแลต นั้นดีต่อสุขภาพหัวใจ จากการศึกษาพบว่าผู้ที่บริโภคดาร์กช็อกโกแลต จะมีระบบไหลเวียนโลหิตที่ดีความดันโลหิตต่ำลง ระดับคอเลสเตอรอลต่ำลง นอกจากนี้การบริโภคดาร์กช็อกโกแลตยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองอีกด้วย  อย่างไรก็ตามจากคำแนะนำของคุณหมอ T. Jared Bunch ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจประจำ Heart Rhythm Services แห่ง University of Utah Health สหรัฐอเมริกา กล่าวไว้ว่า ควรบริโภคดาร์กช็อกโกแลตในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ประโยชน์ของดาร์กช็อกโกแลต ต่อสุขภาพหัวใจ ประโยชน์ของดาร์กช็อกโกแลต มีคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ ดังต่อไปนี้ ประโยชน์ของดาร์กช็อกโกแลต ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด เมล็ดของโกโก้ที่เป็นแหล่งที่มาของ ดาร์กช็อกโกแลต ซึ่งเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านั้นมีส่วนช่วยในการบำรุงเซลล์ของหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นสารต้านต้านอนุมูลอิสระชนิดเดียวกันกับที่พบได้ในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่และเครื่องเทศต่าง ๆ การรับประทานช็อกโกแลตช่วยลดความดันโลหิต จากงานวิจัยในปี 2012 พบว่าช็อกโกแลตมีส่วนช่วยในการลดความดันโลหิตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ […]


โรคความดันโลหิตสูง

ความดันในกะโหลกศีรษะสูง (Increased Intracranial Pressure หรือ ICP)

ความดันในกะโหลกศีรษะสูง (Increased Intracranial Pressure หรือ ICP) เป็นภาวะที่อาจส่งผลให้มีการเพิ่มแรงดันเข้าไปในบริเวณโดยรอบของสมอง ซึ่งถือว่าอาจเป็นภาวะที่ค่อนข้างอันตรายอย่างมาก เพราะเป็นการเสี่ยงทำให้ระบบประสาท และเซลล์ต่าง ๆ ถูกทำลายได้ คำจำกัดความความดันในกะโหลกศีรษะสูง คืออะไร ความดันในกะโหลกศีรษะสูง (Increased intracranial pressure หรือ ICP) เป็นการเพิ่มขึ้นของแรงดันโดยรอบสมอง ที่ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณของเหลว เช่น อาจมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นของน้ำหล่อเลี้ยงสมอง และไขสันหลัง (Cerebrospinal Fluid) นอกจากนี้ ความดันในกะโหลกศีรษะสูง ยังหมายความว่า เนื้อเยื่อสมองอาจมีอาการบวมจากการบาดเจ็บ หรือความเจ็บป่วย เช่น โรคลมชัก (Epilepsy) ได้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งโรคนี้ยังพบได้กับทุกเพศทุกวัย เรียกได้ว่าความดันในกะโหลกศีรษะสูง เป็นภาวะอันตรายถึงอาจถึงแก่ชีวิตได้ หากสังเกตพบความผิดปกติใด ๆ โปรดแจ้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ทราบในทันที อาการอาการของ ความดันในกะโหลกศีรษะสูง อาการทั่วไปของความดันในกะโหลกศีรษะสูง ได้แก่ ปวดศีรษะ (Headache) คลื่นไส้ อาเจียน ความดันโลหิตสูง ความสามารถทางจิตใจต่ำ มึนงงเกี่ยวกับเวลา สถานที่ และผู้คน เมื่อความดันในกะโหลกศีรษะสูงขึ้นอีก มองเห็นภาพซ้อน ลูกตาไม่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของแสง หายใจตื้น ชัก (Seizures) ไม่รู้สึกตัว โคม่า (Coma) อาการในข้างต้นนี้ อาจแสดงให้เห็นถึงภาวะรุนแรงอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) […]


ปัญหาอื่นของโรคหัวใจและหลอดเลือด

โรคหัวใจสลาย (Broken Heart Syndrome)

โรคหัวใจสลาย คืออะไรโรคหัวใจสลาย คืออะไร โรคหัวใจสลาย (Broken Heart Syndrome) เป็นอาการชั่วคราวที่เกิดขึ้นกับจิตใจ มีสาเหตุมาจากสถานการณ์เครียด ๆ เช่น การสูญเสียของคนที่เรารัก อาการเช่นนี้อาจถูกรับแรงกระตุ้นโดยอาการไม่สบายทางกาย หรือการผ่าตัด ในบางคนที่เป็นโรคหัวใจสลายนั้นมักมีอาการเจ็บหน้าอกจนตนเองเข้าใจว่ามีอาการหัวใจวาย ร่วมด้วย ส่งผลให้เกิดความตื่นตระหนกจนส่งผลกับความเครียดนำไปสู่โรคหัวใจสลายได้เช่นเดียวกัน สำหรับโรคหัวใจสลายนั้นหน้าที่การสูบฉีดเลือดที่ด้านหนึ่งของหัวใจจะหยุดการทำงานชั่วคราว ในขณะที่หน้าที่อื่นของหัวใจจะยังคงทำงานตามปกติ หรืออาจจะมีอาการหดตัวมากขึ้น เนื่องจากเป็นปฏิกิริยาความเชื่อมดยงของหัวใจที่มีต่อฮอร์โมนความเครียดซึ่งแพทย์อาจจะเรียกอาการนี้อีกชื่อหนึ่งว่าโรคหัวใจขาดเลือดกระทันหัน ผู้ป่วยกรณีใดที่อยู่ในกลุ่มอาการที่หัวใจห้องล่างส่วนปลายโป่งพอง หรือโรคหัวใจจากความเครียด อาการของโรคหัวใจสลายนี้สามารถรักษาได้ และจะกลับมาดีขึ้นภายในเวลาไม่กี่วัน ไม่กี่สัปดาห์ โรคหัวใจสลาย พบได้บ่อยแค่ไหน โรคหัวใจสลายเป็นอาการที่ไม่ค่อยพบบ่อยนัก และมีผลกับคนแค่ 2% ที่เป็นโรคหัวใจ คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคหัวใจจากความเครียดเป็นผู้หญิงที่อายุ 50 หรืออายุมากกว่า 50 ปี ขึ้นไป อาการอาการของโรคหัวใจสลาย เป็นอย่างไร อาการทั่วไปของโรคหัวใจสลาย ได้แก่ เจ็บหน้าอก หายใจสั้น ๆ หากคุณมีอาการเจ็บหน้าอกต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจจะเป็นสัญญาณของโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้ ดังนั้นจึงควรติดต่อแพทย์ในทันทีหากคุณมีอาการเจ็บหน้าอก นอกจากนี้ยังมีอาจจะมีอาการอื่น ๆ นอกเหนือจากข้างต้นที่กล่าวมา หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ โปรดปรึกษาแพทย์ หรือรับการตรวจสอบอย่างละเอียดจากแพทย์อีกครั้งได้ ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด หากคุณมีอาการอย่างที่กล่าวตามข้างต้น หรือมีคำถามใด ๆ โปรดขอเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ เนื่องจากร่างกายของแต่ละคนจะมีปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นต่างกันตามสภาวะสุขภาพ แต่หากคุณเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรงที่ส่งผลต่อการหายใจร่วม หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หลังจากเผชิญกับเหตุการณ์ที่ตึงเครียด อาจต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินในทันที สาเหตุสาเหตุของ โรคหัวใจสลาย สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหัวใจสลายยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด […]


ปัญหาอื่นของโรคหัวใจและหลอดเลือด

ผู้ที่เป็น โรคหัวใจ มีเซ็กส์ ได้หรือไม่ และมีข้อควรกังวลอย่างไรบ้าง

ผู้ที่เป็น โรคหัวใจ อาจมีคำถามว่า สามารถ มีเซ็กส์ ได้หรือไม่ ซึ่งสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา ให้ข้อมูลว่า ค่อนข้างปลอดภัยหากผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ต้องการมีเพศสัมพันธ์ในกรณีที่อาการของโรคคงที่ แต่อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้คุณยังสามารถศึกษาข้อมูลโรคหัวใจ กับการมีเพศสัมพันธ์ ใน Hello คุณหมอ ดังนี้ ผู้ป่วย โรคหัวใจ มีเซ็กส์ ได้หรือไม่ หากคุณมีอาการของโรคหัวใจและหลอดเลือด ที่ไม่แน่นอน หรืออาการรุนแรง ควรรักษาอาการและรอให้อาการทรงตัวก่อน จึงค่อยมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีอาการหัวใจล้มเหลว (Heart failure) ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการของโรคหัวใจและหลอดเลือดนั้น การทำกิจกรรมเคลื่อนไหวเรื่องกาย อาจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยมากกว่าปกติ หรือหายใจสั้นๆ และแม้แต่การออกกำลังกาย ก็ยังทำให้รู้สึกเหนื่อยมาก จนผู้ที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวอาจมีคำถามว่า  สามารถมีเซ็กส์ได้หรือไม่ การมีเพศสัมพันธ์ ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการออกกำลังกาย ที่มีระดับความหนักคล้ายกับการเดินขึ้นบันได 2-3 เที่ยว ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคหัวใจจึงควรกังวล และควรปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดหัวใจ นอกจากนี้ การกินยาเพื่อรักษาโรค ยังอาจมีผลข้างเคียง คือทำให้ความต้องการทางเพศลดลง เนื่องจากประมาณ 60-87% ของผู้ที่เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ให้ข้อมูลว่าพวกเขามีปัญหาเรื่องทางเพศ ผู้ป่วยโรคหัวใจมีเรื่องอะไรบ้าง ที่ต้องกังวล มีเพศสัมพันธ์อาจไม่ปลอดภัย หากต้องการมีเพศสัมพันธ์ ควรปรึกษาแพทย์ […]


ปัญหาอื่นของโรคหัวใจและหลอดเลือด

เสียงฟู่ของหัวใจ (Heart murmur)

เวลาที่ไปตรวจร่างกาย หลายคนอาจเคยเห็นแพทย์นำอุปกรณ์หูฟังทางการแพทย์มาลองฟังเสียงการเต้นของหัวใจ ซึ่งหนึ่งในความผิดปกติที่แพทย์อาจพบคืออาการ เสียงฟู่ของหัวใจ สภาวะนี้เป็นอย่างไร หาคำตอบได้ในบทความนี้ คำจำกัดความ เสียงฟู่ของหัวใจ คืออะไร เสียงฟู่ของหัวใจ (Heart murmur) เป็นเสียงที่เกิดในระหว่างรอบการเต้นของหัวใจ คล้ายกับเสียงเป่าลม ซึ่งเกิดขึ้นจากความปั่นป่วนของการไหลของเลือดในหัวใจ หรือบริเวณใกล้เคียง เสียงชนิดนี้สามารถใช้หูฟังของแพทย์ โดยจังหวะการเต้นของหัวใจตามปกติจะมีสองเสียง เช่น ตุบๆ (lubb-dupp) (บางครั้งเรียกว่า “lub-DUP”) ซึ่งเป็นเสียงที่เกิดขึ้นขณะลิ้นหัวใจปิด ภาวะเสียงฟู่ของหัวใจอาจเป็นตั้งแต่แรกเกิด หรือเกิดในเวลาต่อมาเมื่อโตขึ้น ภาวะนี้ไม่ใช่โรค แต่เสียงฟู่นี้อาจชี้ให้เห็นปัญหาของหัวใจที่ซ่อนอยู่ เสียงฟู่ของหัวใจพบได้บ่อยเพียงใด เสียงฟู่ของหัวใจที่ไม่บ่งบอกถึงอันตรายแต่อย่างใด เกิดขึ้นได้บ่อย และมักจะเกิดกับเด็กๆ ร้อยละ 40-45 และผู้ใหญ่ประมาณร้อยละ 10 ในบางครั้งของช่วงชีวิต เสียงฟู่ที่ไม่บ่งบอกถึงอันตรายนี้พบได้บ่อยมากกว่าในผู้หญิงในระหว่างการตั้งครรภ์ เสียงฟู่ของหัวใจที่ผิดปกติเกิดขึ้นบ่อยที่สุดในผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ เช่น ลิ้นหัวใจบกพร่อง ลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ (aortic stenosis) และโรคลิ้นหัวใจไมตรัลรั่ว (mitral regurgitation) โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อาการ อาการของเสียงฟู่ของหัวใจ หากคุณมีอาการเสียงฟู่ของหัวใจแบบไม่เป็นอันตราย ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ เสียงฟู่หัวใจชนิดปกติ (innocent heart murmur) มีแนวโน้มว่าคุณจะไม่มีสัญญาณแสดงหรืออาการอื่นใด อาการเสียงฟู่ของหัวใจแบบผิดปกติอาจไม่ก่อให้เกิดสัญญาณแสดงหรืออาการอื่นๆ อย่างชัดเจน นอกเหนือจากเสียงผิดปกติที่แพทย์จะได้ยิน เมื่อฟังเสียงหัวใจผ่านหูฟัง แต่ถ้าคุณมีสัญญาณแสดงหรืออาการเหล่านี้ อาจชี้ได้ว่าคุณกำลังมีปัญหาเกี่่ยวกับหัวใจ ผิวหนังกลายเป็นสีเขียว โดยเฉพาะที่ปลายนิ้วมือหรือริมฝีปาก […]


โรคหัวใจ

เมื่อความหวานทำลายหัวใจ : น้ำตาลกับสุขภาพหัวใจ

น้ำตาล คือ คาร์โบไฮเดรตที่มีอยู่ตามธรรมชาติในอาหารหลากหลายชนิด ซึ่งมีทั้งประโยชน์และโทษ น้ำตาลเป็นแหล่งพลังงานให้แก่ร่างกาย แต่ในขณะเดียวกัน การรับประทานน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไปก็ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคอ้วน เบาหวาน นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาที่ชี้ให้เห็นถึงถึงความเชื่อมโยงของการบริโภค น้ำตาลกับสุขภาพหัวใจ โดยระบุว่าหากได้รับน้ำตาลในปริมาณมาก ก็สามารถทำลายเนื้อเยื่อหัวใจได้ น้ำตาลกับสุขภาพหัวใจ ส่งผลต่อกันอย่างไรบ้าง หนึ่งในงานวิจัยชี้ว่า การกินน้ำตาลปริมาณมากสามารถทำลายเนื้อเยื่อหัวใจ นอกจากนี้ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงแบบเรื้อรัง ซึ่งเป็นผลมาจากโรคเบาหวานที่ไม่มีการควบคุม จะนำไปสู่โรคหัวใจ หรือก่อให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว เมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป อินซูลินที่เพิ่มขึ้นในกระแสเลือดจะส่งผลกระทบต่อหลอดเลือด  มันจะทำให้ผนังหลอดเลือดหนาและแข็งตัว นำไปสู่โรคหลอดเลือดแดงแข็ง ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอย่างต่อเนื่องยังไปลดประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ และทำให้กล้ามเนื้อหัวใจเสียหาย เมื่อเวลาผ่านไป จะนำไปสู่โรคหัวใจ ภาวะหัวใจล้มเหลว และโรคเส้นเลือดในสมอง ได้ในที่สุด นอกจากนี้ การวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า การกินน้ำตาลน้อยลงจะช่วยลดความดันโลหิตซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับโรคหัวใจ ผู้ที่กินน้ำตาลเพิ่มจำนวนมาก ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 25% ของแคลอรี่ที่มาจากน้ำตาล มีโอกาสเสี่ยงเป็นสองเท่าที่จะตายจากโรคหัวใจของผู้ที่มีการเพิ่มน้ำตาลน้อยกว่า 10% ของน้ำตาลทั้งหมด บทความในวารสารการแพทย์ JAMA Internal Medicine ระบุว่าตลอดระยะเวลาการศึกษา 15 ปีพบว่าการบริโภคน้ำตาลสูงมีความสัมพันธ์กับอัตราความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ โดยผู้ที่ได้รับสัดส่วนน้ำตาลร้อยละ 17-21 จากพลังงานทั้งหมดที่ได้รับต่อวัน จะมีโอกาสเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคเกี่ยวกับหัวใจสูงกว่าผู้ที่บริโภคน้ำตาลเพียงร้อยละ 8 จากพลังงานทั้งหมดที่ได้รับต่อวัน โดยรวมแล้ว […]


ปัญหาอื่นของโรคหัวใจและหลอดเลือด

ความรู้พื้นฐานของอาการ ใจสั่น (Heart Palpitations) ที่คุณควรรู้

ใจสั่น (Heart Palpitations) ไม่ใช่เรื่องที่ควรประมาท ถึงแม้ว่าจะมีอาการในระดับเบาก็ตาม เพราะหากปล่อยไว้เป็นเวลานาน ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะทำให้สุขภาพหัวใจของคุณนั้นแย่ลง โดยเฉพาะกับผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเกี่ยวข้องกับหัวใจอยู่แต่เดิม วันนี้ Hello คุณหมอ ได้รวบรวมข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไว้เบื้องต้นถึงอาการ สาเหตุ การรักษา มาฝากใฟ้ทุกคนได้ทราบเอาไว้ เพื่อรับมือเมื่ออาการใจสั่นถามหา คำจำกัดความใจสั่น (Heart Palpitations) คืออะไร ใจสั่น (Heart Palpitations) คือ ความรู้สึกที่หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นแรง หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ มักเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาทีหรือไม่กี่นาที สามารถรับรู้อาการเหล่านี้ได้ที่ลำคอ หรือภายในช่องคอได้เช่นกัน อาการใจสั่นอาจจะดูน่าตกใจ แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่เป็นอันตราย และไม่ใช่สัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาร้ายแรง อาการ ใจสั่น พบได้บ่อยเพียงใด อาการใจสั่นนั้น เป็นอาการที่สามารถพบได้ทั่วไป และยังอาจที่จะเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย อาการอาการของ ใจสั่น อาการใจสั่นประกอบไปด้วย หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจเต้นถี่ หัวใจเต้นเร็วเกินไป หัวใจเต้นแรงผิดปกติ ผู้ที่เกิดอาการใจสั่นสามารถรับรู้ได้ในช่องคอหรือลำคอ เช่นเดียวกับบริเวณหน้าอก อาการใจสั่นสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งตอนที่ทำกิจกรรม และระหว่างพักผ่อน รวมถึงเกิดขึ้นได้ในยามที่ยืน นั่ง และนอน หากคุณมีบางอาการที่ไม่มีอยู่ในอาการข้างต้นเหล่านี้ โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด ควรไปพบหมอเพื่อรับคำแนะนำ หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ หายใจไม่สะดวก วิงเวียนศีรษะ เจ็บหน้าอก เป็นลม สาเหตุสาเหตุของอาการใจสั่น ส่วนใหญ่แล้วอาการใจสั่น มีทั้งชนิดที่เกี่ยวข้องกับภาวะสุขภาพหัวใจ และชนิดที่เกิดขึ้นแบบไม่ทราบสาเหตุ สาเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาวะสุขภาพหัวใจ เกิดอารมณ์ความรู้สึกรุนแรง เช่น […]


คอเลสเตอรอล

คอเลสเตอรอลกับโรคหัวใจ เกี่ยวข้องกันอย่างไร

คอเลสเตอรอลกับโรคหัวใจ มีความเกี่ยวข้องกัน ทั้งนี้ เมื่อระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงมากเกินไป ทำให้เกิดการสะสมไขมันบริเวณผนังหลอดเลือด หลอดเลือดอาจตีบหรืออุดตันได้ จนส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ไม่ดีพอ เมื่อเลือดและออกซิเจนไม่สามารถเดินทางเเข้าไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ตามปกติ ทำให้เสี่ยงส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ และก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจได้ [embed-health-tool-bmi] คอเลสเตอรอลคืออะไร คอเลสเตอรอลเป็นสารคล้ายไขมัน ที่ช่วยให้ร่างกายสร้างเซลล์และฮอร์โมนใหม่ ๆ รวมถึงช่วยสร้างปลอกประสาท  ปกติ ทั้งนี้ คอเลสเตอรอลจะเดินทางผ่านกระแสเลือดในสารลิโพโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL) หรือที่รู้จักกันในชื่อของไขมันเลว ซึ่งมีความสามารถในการเกาะผนังหลอดเลือด หากมีปริมาณสูงอาจก่อให้เกิดอาการหลอดเลือดอุดตัน และยังพบได้ในสารลิโพโปรตีนความหนาแน่นสูง (HDL) ซึ่งถูกยกให้เป็นไขมันดี เพราะมีความสามารถในการกำจัดคอเลสเตอรอลออกจากเลือด ถ้าร่างกายมีระดับคอเลสเตอรอลสูงเกินไป ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ  โดยปกติ คอเลสเตอรอลในร่างกายนั้นสร้างจากตับ ทั้งนี้ หากรับประทานอาหารอย่างเช่น เนื้อสัตว์ นม ไข่ และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์อื่น ๆ อาจทำให้เกิดภาวะคอเลสเตอรอลสูงได้ การรับประทานอาหารจึงมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อระดับคอเลสเตอรอล คอเลสเตอรอลกับโรคหัวใจ เกี่ยวข้องกันอย่างไร หากมีคอเลสเตอรอลอยู่ในเลือดสูงเกินไป ส่งผลให้ปริมาณของคอเลสเตอรอลที่เกาะผนังหลอดเลือดสูงขึ้นตามไปด้วย จึงเสี่ยงเกิดโรคหัวใจชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าโรคหลอดเลือดแดงแข็ง หลอดเลือดตีบแคบลง ทำให้การไหลเวียนเลือดช้าลง และบางครั้งอาจเกิดการอุดกั้นจนเลือดไม่อาจไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ นอกจากนั้น เลือดมีหน้าที่นำออกซิเจนไปเลี้ยงหัวใจ หากหัวใจได้รับเลือดและออกซิเจนไม่เพียงพอ นำไปสู่อาการเจ็บหน้าอก หรืออาจรุนแรงกว่านั้นถึงขั้นหัวใจวายเมื่อหลอดเลือดอุดตันจนหัวใจเกิดภาวะขาดเลือด อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง ไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์สามารถเพิ่มให้จำนวนไขมันเลว LDL สูงมากขึ้น และทำให้ไขมันดี HDL ลดน้อยลง หากบริโภคอาหารที่มีไขมันทรานส์ปริมาณมากจะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคหัวใจได้มากขึ้นอีกด้วย ไขมันทรานส์มักพบได้ในอาหารแปรรูปหลายชนิด เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไขมันทรานส์ จึงควรงดรับประทานอาหารที่ระบุว่ามี PHOs ซึ่งหมายถึงน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน […]


โรคความดันโลหิตสูง

คาเฟอีน ส่งผลต่อโรคความดันโลหิตสูงได้อย่างไรบ้าง

กาแฟ เป็นเครื่องดื่มสุดโปรดของใครหลายคน และความจริงแล้วคนทั่วโลกบริโภคกาแฟเกือบจะ 8.6 พันล้านกิโลกรัมต่อปี อย่างไรก็ตามมีการตั้งคำถามว่า การบริโภคกาแฟเป็นประจำดีต่อสุขภาพหรือไม่ และกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มี คาเฟอีน ส่งผลต่อความดันโลหิต และโรคหัวใจหรือเปล่า [embed-health-tool-bmi] คาเฟอีนส่งผลต่อความดันโลหิต อย่างไรบ้าง อาจเพิ่มความดันโลหิตชั่วคราว งานวิจัยชี้ว่า กาแฟอาจเพิ่มความดันโลหิตในเวลาสั้น ๆ หลังจากดื่มกาแฟ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ชี้ว่า กาแฟอาจเพิ่มความดันโลหิต เป็นเวลามากกว่า 3 ชั่วโมงหลังจากดื่มกาแฟ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณดื่มกาแฟเป็นประจำ ผลกระทบจากกาแฟก็อาจลดลง คาเฟอีนส่งผลต่อความดันโลหิต ในระยะยาว สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง งานวิจัยได้แนะนำว่า การบริโภคกาแฟทุกวัน ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อความดันโลหิต หรือความเสี่ยงโดยรวมของโรคหัวใจ อย่างมีนัยสำคัญ และความจริงกาแฟอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เนื่องจากสำหรับผู้ที่มีสุขภาพดี มีงานวิจัยที่ชี้ว่า การดื่มกาแฟ 3-5 แก้วต่อวัน เชื่อมโยงกับความเสี่ยงของโรคหัวใจที่ลดลง 15% รวมถึงลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วย สำหรับความเชื่อมโยงระหว่าง การดื่มกาแฟและความดันโลหิตสูง ในระยะยาว ปัจจุบันยังมีงานวิจัยที่จำกัด โดยบางข้อมูลชี้ว่าการดื่มกาแฟเป็นประจำ ไม่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูงที่เพิ่มขึ้น หรือการเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ นอกจากนี้กาแฟยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจช่วยให้หัวใจแข็งแรงขึ้นด้วย ดังนั้นสำหรับผู้ที่ความดันโลหิตสูง การดื่มกาแฟในปริมาณที่พอดี ในแต่ละวัน จึงอาจไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เพิ่มเติมไปกว่านั้น การกินอาหารที่มีประโยชน์ และการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี ยังมีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อความดันโลหิตสูง มากกว่าการดื่มกาแฟ สาเหตุที่ทำให้ คาเฟอีนส่งผลต่อความดันโลหิต คาเฟอีน […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน