มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร BMC Medicine ได้พบว่า ผู้ที่รับประทานอาหารวีแกน จะมีความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเกี่ยวกับกระดูก เช่น กระดูกหัก มากกว่าผู้ที่กินเนื้อตามปกติ เนื่องจากได้รับแคลเซียมและโปรตีนน้อยกว่าถึง 43% นั่นเอง
ในงานวิจัยนั้นได้ทำการศึกษาข้อมูลของผู้ที่กินอาหารวีแกน พบว่าในกลุ่มผู้ที่กินวีแกน 1,000 คน จะมีผู้ที่มีปัญหากระดูกหักมากถึง 20 คน ตลอดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยมักจะพบปัญหาในบริเวณสะโพก ขา และกระดูกสำคัญอื่น ๆ เช่น กระดูกซี่โครง กระดูกไหปลาร้า และกระดูกสันหลัง
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยเมื่อปี ค.ศ. 2007 ที่ได้ทำการวิจัยในกลุ่มตัวอย่างกว่า 35,000 คน ก็ได้ผลการวิจัยไปในทำนองเดียวกันว่า ผู้ที่รับประทานอาหารวีแกนจะมีความเสี่ยงสูงกว่า แต่ไม่รวมถึงผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติทั้งหมด
แม้ว่างานวิจัยนั้นจะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริงของความเสี่ยงในการเกิดกระดูกหักที่เพิ่มขึ้น แต่นักวิจัยก็เชื่อว่า เนื่องจากผู้ที่รับประทานอาหารวีแกนนั้นอาจจะได้รับแคลเซียมและโปรตีนน้อยกว่าผู้ที่รับประทานอาหารตามปกติ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อความหนาแน่นของมวลกระดูกได้
นอกจากนี้ ผู้รับประทานอาหารวีแกนก็มักจะมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) โดยเฉลี่ยน้อยกว่า การที่มีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า หมายความว่าจะมีโอกาสรับแรงกระแทกจากการหกล้มได้มากกว่า ผู้ที่รับประทานอาหารวีแกนที่มีค่าดัชนีมวลกายโดยเฉลี่ยน้อย จึงมีความเสี่ยงสูงที่เกิดอาการกระดูกหักเมื่อหกล้มหรือประสบอุบัติเหตุนั่นเอง
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย