โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

Sedentary Lifestyle เลิกได้ เลิก! รู้จัก “พฤติกรรมเนือยนิ่ง” ต้นเหตุของผลเสียต่อสุขภาพ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในทุกวันนี้ ได้เข้ามามีบทบาทต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแต่ละวันเป็นอย่างมาก จะทำอะไรก็ง่ายและสะดวกไปหมด แม้จะแทบไม่ได้ขยับตัวก็ทำอะไรสำเร็จลุล่วงไปได้หลายอย่าง อยากทานอะไร ซื้ออะไร แค่กดสั่งผ่านแอปฯ ก็ได้แล้ว ไหนจะธุรกรรมทางการเงิน ดูหนัง เล่นเกมส์ ดูทีวี ขอแค่มีแอปฯ มีอุปกรณ์ จะนั่งจะนอนอยู่กับที่ก็ทำได้ทั้งนั้น ในขณะเดียวกัน วิถีชีวิตบางแบบก็บีบบังคับให้ใครหลายๆ คนต้องนั่งอยู่นิ่งๆ อยู่กับที่เป็นเวลานาน เช่น คนทำงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานที่โต๊ะวันละ 8 ชั่วโมง ยังไม่รวมถึงการเดินทางที่ต้องขับรถหรือนั่งรถเป็นเวลานานๆ  จุดร่วมที่เหมือนกันของไลฟ์สไตล์เหล่านี้ คือการมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า “Sedentary Lifestyle” “พฤติกรรมเนือยนิ่ง” ไลฟ์สไตล์อันตราย ทำลายสุขภาพในระยะยาว พฤติกรรมเนือยนิ่ง คือพฤติกรรมที่มีการใช้พลังงานหรือการเคลื่อนไหวร่างกาย ต่ำกว่า 1.5 METs* (* METs คือ หน่วยอัตราพลังงานที่ใช้ในการทำกิจกรรม)1  ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา โดยเฉพาะโรคกลุ่ม NCDs กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ รวมถึงโรคอ้วน หลักฐานทางงานวิจัยชิ้นนึงได้ชี้ให้เห็นว่า การมีพฤติกรรมเนือยนิ่งมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ และโรค NCDs อื่นๆ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีค่าดัชนีมวลกาย […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

โภชนาการพิเศษ

อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเกาต์ กินอย่างไรให้สยบเกาต์

การเลือก อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเกาต์  ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ เพราะการวางแผนเลือกอาหารเป็นอย่างดี ก็จะเป็นอีกตัวช่วยที่ทำให้โรคเกาต์ไม่กำเริบขึ้นมาได้ วันนี้ Hello คุณหมอ ขอแนะนำ อาหารสำหรับผู้ที่ป่วยโรคเกาต์ ว่ากินอะไรได้บ้าง อะไรที่ไม่ควรกิน และอะไรรับประทานแล้วดีต่ออาการของโรคเกาต์กันบ้าง โรคเกาต์คืออะไร โรคเกาต์ (Gout) คือ โรคข้ออักเสบชนิดหนึ่ง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายมีกรดยูริกในเลือดสูง ซึ่งกรดยูริกคือของเสียที่ร่างกายผลิตขึ้นมาเพื่อทำลาย พิวรีน (พิวรีนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้ในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีในอาหารหลายๆ ชนิดอีกด้วย) หากมีปริมาณของกรดยูริกในเลือดสูงเป็นระยะเวลานานจะทำให้เกิดการตกผลึกทำให้สะสมบริเวณรอบๆ ข้อต่อ ซึ่งทำให้เกิดอาการปวด และบวม ซึ่งพฤติกรรมการกินจะมีส่วนอย่างมากที่จะทำให้เกิดโรคเกาต์ โรคเกาต์ อาหาร สัมพันธ์กันอย่างไร หากคุณเป็นโรคเกาต์ เรื่องของอาหารการกินถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะอาหารบางอย่างอาจไปเพิ่มระดับกรดยูริกให้กับร่างกายได้ และอาหารที่กระตุ้นโรคเกาต์มักจะเป็นอาหารที่มีพิวรีน (Purines) ในปริมาณสูง ซึ่งสารนี้ก็สามารถพบได้ในอาหารทั่วไป เมื่อร่างกายย่อยอาหารที่มีพิวรีนแล้วจะทำให้ร่างกายเหลือกรดยูริกที่เป็นของเสีย คนที่เป็นโรคเกาต์ ไม่สามารถกำจัดกรดยูริกส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูงอาจทำให้กรดยูริกสะสมตัวและทำให้เกิดโรคเกาต์ได้ แต่งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเลือกกินอาหารที่พิวรีนต่ำและใช้ยาควบคู่กันไปอย่างเหมาะสมช่วยป้องกันการเกิดโรคเกาต์ นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจคือ เครื่องดื่มฟรุกโตสและน้ำตาล ช่วยเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกาต์และกระตุ้นโรคเกาต์ได้ แม้ว่าจะไม่ใช่อาหารประเภทที่เต็มไปด้วยพิวรีน และยังทำให้ระดับกรดยูริกเพิ่มขึ้นด้วยการเร่งกระบวนการผลิตเซลล์ ตัวอย่างการศึกษาที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 125,000 คนพบว่า คนที่กินฟรุกโตสมากที่สุดมีความเสี่ยงสูงกว่า 62% ในการเป็นโรคเกาต์ ในทางกลับกันงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและอาหารเสริมวิตามินซีอาจช่วยป้องกันการโจมตีของโรคเกาต์โดยการลดระดับกรดยูริกในเลือดได้ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หากอยู่ในภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคเกาต์ ได้อย่างฉับพลันให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีผู้ร้ายอย่างพิวรีน ที่มากกว่า 200 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัมนอกจากนี้คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีฟรักโทส […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ทองแดง อีกหนึ่งแร่ธาตุสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ทองแดง (Copper) เป็นแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย พบได้ในเนื้อเยื่อของร่างกาย ทองแดง มีบทบาทในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและรักษาดูแลเซลล์ประสาทและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย นอกจากนี้ ทองแดง ยังช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน ดูดซับธาตุเหล็ก และยังมีบทบาทสำคัญในการผลิตพลังงานให้กับร่างกาย ทองแดง จะพบได้ในตับ สมอง หัวใจ ไต และกล้ามเนื้อลาย การมีทองแดงในร่างกายมากเกินไปหรือน้อยเกินไป อาจจะส่งผลต่อการทำงานของสมอง แม้ว่าร่างกายจะต้องการทองแดงเพียงเล็กน้อยแต่ก็เป็นแร่ธาตุที่จำเป็น โดยปริมาณที่แนะนำให้ผู้ใหญ่รับ ทองแดง อยู่ที่ 900 ไมโครกรัมต่อวัน แต่ถ้าหากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรได้รับในปริมาณมากขึ้นเล็กน้อย 1 มิลลิกรัม หรือ 1.3 มิลลิกรัม ต่อวันตามลำดับ  ทองแดงสามารถทำอะไรได้บ้าง เป็นแหล่งผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต ดูดซึมธาตุเหล็ก ป้องกันการอักเสบของต่อมลูกหมาก เสริมสร้างและบำรุงรักษากระดูก เนื้อเยื่อ และอวัยวะต่างๆ เช่น สมองและหัวใจกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน แร่ธาตุทองแดง ประโยชน์ต่อร่างกาย สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด การมีระดับทองแดงในร่างกายต่ำ ส่งผลให้ร่างกายมีคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตสูง นักวิจัยกลุ่มหนึ่งพบว่า การเพิ่มระดับทองแดงในร่างกายทำให้อาการของผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวบางรายดีขึ้น การส่งสัญญาณของเซลล์ประสาท จากงานวิจัยของศาสตราจารย์ Chris Chang ในปี 2016 ที่สามารถดูการเคลื่อนไหวเข้าออกเซลล์ประสาทของทองแดงได้โดยผ่านการใช้สารเรืองแสง พบว่าหากปริมาณทองแดงในเซลล์มากจะช่วยลดการส่งสัญญาณของเซลล์ประสาท หากระดับทองแดงในเซลล์ลดลง การส่งสัญญาณก็จะดำเนินต่อไป การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การมีระดับทองแดงในร่างกายต่ำอาจทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (Neutropenia) ซึ่งเม็ดเลือดขาว ทำหน้าที่ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา พิษจากสารต่าง ๆ การมีระดับเม็ดเลือดขาวต่ำจะมีแนวโน้มในการเป็นโรคที่ติดเชื้อได้ง่าย โรคกระดูกพรุน การขาดทองแดงอย่างรุนแรงเกี่ยวข้องกับความหนาแน่นของกระดูก แร่ธาตุในกระดูกที่ต่ำลงและมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุน […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

สุดยอดอาหารบำรุงเลือด กินอย่างไรให้ฮีโมโกลบินเพิ่ม

ฮีโมโกลบินต่ำ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นโรคร้าย ความผิดปกติของโครงสร้างฮีโมโกลบิน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจาง การเพิ่มฮีโมโกลบินก็มีตั้งแต่การกินยา เข้าปรึกษาแพทย์ หรือการกินอาหารเสริมธาตุเหล็กสำหรับคนที่มีภาวะฮีโมโกลบินที่ต่ำมาก ๆ นอกจากนี้การเลือกกินอาหารก็ช่วยได้เช่นกัน วันนี้  Hello คุณหมอ จะพาทุกคนไปดูอาหารที่ช่วยเพิ่ม ฮีโมโกลบิน จะมีอะไรบ้าง ติดตามอ่านได้ในบทความนี้เลยค่ะ ฮีโมโกลบิน คืออะไร ฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) เป็นโมเลกุลโปรตีนในเม็ดเลือดแดงที่นำออกซิเจนจากปอดไปยังเนื้อเยื่อของร่างกายและส่งผลให้คาร์บอนไดออกไซด์จากเนื้อเยื่อกลับไปยังปอดเพื่อหายใจเข้า ฮีโมโกลบินประกอบด้วยโมเลกุลโปรตีน 4 ตัวเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ฮีโมโกลบิน ยังมีบทบาทสำคัญในการรักษารูปร่างของเม็ดเลือดแดง ในรูปแบบธรรมชาติของเม็ดเลือดแดงคล้ายกับโดนัทที่ไม่มีรูตรงกลาง โครงสร้างฮีโมโกลบินผิดปกติจึงสามารถทำลายรูปร่างของเม็ดเลือดแดงและขัดขวางการทำงานและการไหลผ่านหลอดเลือดได้ ฮีโมโกลบินต่ำ ระดับฮีโมโกลบินต่ำ (Low Hemoglobin) หมายถึง เป็นโลหิตจางหรือมีเม็ดเลือดแดงต่ำ จำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ต่ำกว่าปกติจะเรียกว่าภาวะโลหิตจางและระดับฮีโมโกลบินสะท้อนถึงจำนวนนี้ ทางศูนย์การแพทย์ไม่หวังผลกำไรอย่าง Mayo Clinic ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดค่าฮีโมโกลบินต่ำ คือระดับที่ต่ำกว่า 13.5 กรัมต่อเดซิลิตรในผู้ชายหรือ 12 กรัมต่อเดซิลิตรในสตรี ซึ่งโรคโลหิตจางก็มาจากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่พบได้โดยทั่วไปของโรคโลหิตจาง ได้แก่ การสูญเสียเลือด (สูญเสียเลือดเป็นจำนวนมาก มะเร็งลำไส้ใหญ่หรือแผลในกระเพาะอาหาร) การขาดสารอาหาร (ธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 โฟเลต) ปัญหาไขกระดูก โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เซลล์เม็ดเลือดแดงถูกยับยั้งจากการสังเคราะห์โดยเคมีบำบัดหรือยา ไตวายและโครงสร้างของฮีโมโกลบินผิดปกติ (โรคโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงรูปเคียวหรือธาลัสซีเมีย) การตั้งครรภ์ ปัญหาเกี่ยวกับตับ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้บางคนยังมีปริมาณฮีโมโกลบินต่ำโดยไม่มีสาเหตุใด ๆ หรือคนที่มี ฮีโมโกลบินต่ำ แต่ไม่เคยแสดงอาการใด […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

น้ำโซดา ดีต่อสุขภาพ มากกว่าที่คิด!!!

น้ำโซดา เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพและความงามเป็นอย่างมาก เพราะเชื่อว่ามีประโยชน์ที่มากมาย แต่หลายๆ คนที่ยังสงสัยว่าคุณสมบัติจริงๆ ของน้ำโซดานั้น ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ทำให้ดีต่อสุขภาพจริงๆ ไหม เราจะพาไปหาคำตอบกันค่ะ [embed-health-tool-bmi] น้ำโซดา (Carbonated Water) คืออะไร? น้ำที่มีการอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในน้ำเปล่า ซึ่งในภาษาอังกฤษมีชื่อเรียกมากมาย ทั้ง Soda Water, Carbonated Water, Fizzy Water และ Sparking Water ซึ่งคาร์บอนไดออกไซด์ และน้ำทำปฏิกิริยาทางเคมี เพื่อผลิตกรดคาร์บอนิก (Carbonic Acid) ซึ่งเป็นกรดอ่อนๆ ที่ได้รับการกระตุ้นให้เกิดตัวรับเส้นประสาท เมื่อเราดื่มเข้าไปจะรู้สึกซ่าในปาก ซึ่งค่า pH อยู่ที่ 3-4 ซึ่งหมายความว่ามันเป็นกรดเล็กน้อย อย่างไรก็ตามการดื่มเครื่องดื่มที่เป็นกรด ไม่ทำให้ร่างกายของคุณมีความเป็นกรดมากขึ้น เพราะไตและปอดของคุณขจัดคราบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนเกิน ช่วยให้ค่า pH ในเลือดด่างเล็กน้อยที่ 7.35-7.45 ส่งผลต่อสุขภาพฟันอย่างไร หนึ่งในความกังวลที่สุดเกี่ยวกับ น้ำโซดา คือส่งผลกระทบต่อฟัน เพราะฟันมีการสัมผัสและเคลือบโดยตรง มีงานวิจัยเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับหัวข้อนี้ แต่การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าน้ำแร่เคลือบฟันน้อยกว่าน้ำเพียงนิดหน่อย นอกจากนี้น้ำแร่ส่งผลน้อยกว่าน้ำหวาน 100 เท่า ในการศึกษาน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลมีประสิทธิภาพในการทำลายการเคลือบฟันอย่างมาก ความจริงแล้วน้ำแร่มีอันตรายมากกว่า น้ำอัดลมไร้น้ำตาล (Diet […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

เครื่องดื่มสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เลือกอย่างไรให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ

โรคเบาหวาน (Diabetes) เป็นโรคที่ต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องของอาหารการกิน รวมไปถึงการเลือกดื่ม ทางสมาคมโรคเบาหวานแห่งสหรัฐอเมริกา (American Diabetes Association, ADA) ได้แนะนำ เครื่องดื่มสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่เป็นเครื่องดื่มศูนย์แคลอรี่หรือแคลอรี่ต่ำ เพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นการเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน จึงช่วยให้ไม่เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ควบคุมอาการและรักษาน้ำหนักที่ดีต่อสุขภาพได้ บทความนี้จาก Hello คุณหมอ จึงได้รวบรวมเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานมาฝากค่ะ เครื่องดื่มสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีอะไรบ้าง น้ำเปล่า เมื่อพูดถึงความชุ่มชื้นน้ำเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วย โรคเบาหวาน เพราะไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงอาจทำให้เกิดการคายน้ำได้ การดื่มน้ำที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายขจัดน้ำตาลส่วนเกินออกจากปัสสาวะได้ ผู้หญิงควรดื่มน้ำประมาณ 8 แก้วต่อวัน ในขณะที่ผู้ชายควรดื่มน้ำประมาณ 10 แก้ว หากอยากเพิ่มรสชาติให้น้ำเปล่าไม่จืดชืดเกินไป สามารถทำได้ด้วยการเพิ่มชิ้นมะนาวหรือส้ม เพิ่มใบสมุนไพร เช่น มินต์ โหระพา หรือจะบดราสเบอร์รี่สดหรือแช่แข็งลงในเครื่องดื่ม ก็ช่วยเพิ่มรสชาติและให้ความรู้สึกสดชื่นขึ้นได้ ชา ผลงานวิจัยจากหลายสถาบันแสดงให้เห็นว่าชาเขียวมีผลดีต่อสุขภาพโดยทั่วไป นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอลที่เป็นอันตรายได้ การวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าการดื่มชาเขียว 6 แก้วต่อวันอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อ โรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ได้ อย่างไรก็ตาม เราก็ยังต้องการงานวิจัยในด้านนี้อีก ไม่ว่าคุณจะเลือกชาเขียว ชาดำหรือชาสมุนไพร คุณควรหลีกเลี่ยงสารให้ความหวาน หากต้องการความสดชื่นควรแช่ชาให้เย็น หรืออาจจะใช้ชาที่มีความหวานอ่อน ๆ ในตัวมันเอง เช่น […]


ข้อมูลโภชนาการ

สาหร่ายพวงองุ่น ของอร่อยแคลอรีต่ำ แต่ประโยชน์สูง

สาหร่ายพวงองุ่น เป็นสาหร่ายทะเลสีเขียว ลักษณะเม็ดกลมเล็ก ยาวเป็นพวง ดูคล้ายพวงองุ่นลูกเล็กๆเรียงกัน แต่ความจริงที่หลายคนยังไม่รู้ว่า  สาหร่ายชนิดนี้อุดมไปด้วยสารอาหารและคุณประโยชน์มหาศาล ทั้งยังแคลอรีต่ำ เหมาะอย่างยิ่งกับผู้รักสุขภาพ เรามาทำความHello คุณหมอ ชวนทุกท่านมารู้จักกับสาหร่ายชนิดนี้กันเลย สาหร่ายพวงองุ่นคืออะไร สาหร่ายพวงองุ่น เป็นสาหร่ายสีเขียว (green algae) มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น คนไทยเรียก สาหร่ายพวงองุ่น (Sea Grape) หรือกรีนคาเวียร์ (Green Caviar) คนญี่ปุ่นเรียก อุมิ บุโด (Umi budou) ลักษณะเป็นเม็ดกลมเล็ก สีเขียวใส รวมกันเป็นพวงคล้ายพวงองุ่น แต่ละพวงยาวประมาณ 2-8 เซนติเมตร เมื่อแก่จัดจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีม่วง สาหร่ายชนิดนี้เจริญเติบโตได้ดีในน้ำที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและแสงแดดส่องถึง พบได้ในธรรมชาติตามซากปะการัง โขดหิน ก้อนกรวด และพื้นทะเล ในพื้นที่เขตร้อนและกึ่งเขตร้อน เช่น เคนยา มาดากัสการ์ ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย จีน ไต้หวัน เกาะโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น รสชาติอย่างนี้…สาหร่ายพวงองุ่น สาหร่ายพวงองุ่นมีเนื้อสัมผัสคล้ายไข่ปลา เมื่อกัดเข้าไปจะแตกในปาก รสชาติออกเค็มและคาวเล็กน้อย คล้ายรสของน้ำทะเล สำหรับคนไทยเรานิยมกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ด […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

อาหารเร่งผมยาว เพื่อผมยาวสวยสุขภาพดี

โดยปกติแล้ว ผมจะยาวขึ้นเดือนละ ประมาณ 1.25 เซนติเมตร หรือปีละ 15 เซนติเมตร ดังนั้น ผู้ที่อยากมีผมยาวสวยมักจะบำรุงรักษาเส้นผมด้วยผลิตภัณฑ์เร่งผมยาว หรืออาหารเสริมเร่งผมยาว แต่ความจริงแล้ว อาหารที่รับประทานเข้าไปก็มีส่วนช่วยในการบำรุงผม ช่วยให้ผมเจริญเติบโต ดังนั้น อาหารเร่งผมยาว ตามธรรมชาติจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็น 9 อาหารเร่งผมยาว ไข่ ไข่เป็นแหล่งโปรตีนและไบโอติน มีสารอาหารสำคัญ 2 ชนิดที่ช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผมและลดผมขาดหลุดร่วง โปรตีนถือเป็นโครงสร้างหลักของเส้นผมและรากผม ส่วนไบโอตินก็ช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์เส้นผม และจำเป็นในการผลิตโปรตีนเส้นผมที่เรียกว่า เคราติน ไข่ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งโปรตีนและไบโอติน แต่ยังอุดมไปด้วย สังกะสี ซีลีเนียม และสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพผมอีกมากมาย ผักใบเขียวเข้ม ผักใบเขียวเข้ม เช่น ผักโขม ผักคะน้า ผักบุ้ง อุดมไปด้วยธาตุเหล็กที่ช่วยให้เลือดลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนไปสู่รากผมและรูขุมขนได้ดีขึ้น อาจทำให้ผมยาวเร็วและไม่เปราะขาดง่าย อีกทั้งผักใบเขียวเข้มยังมีวิตามินซี และวิตามินเอ ซึ่งช่วยในการผลิตซีบัม น้ำมันตามธรรมชาติที่ช่วยให้หนังศีรษะไม่แห้งลอก เส้นผมชุ่มชื้น นุ่มสลวย ปลาที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ปลาที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาบะ ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า อาจช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม และช่วยให้ผมหนาขึ้นได้ และไม่ใช่แค่โอเมก้า 3 แต่ปลาเหล่านี้ยังมีสารอาหารที่ดีต่อผม เช่น […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

เครื่องดื่มชูกำลัง ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง? มาทำความรู้จักกันก่อนที่จะดื่ม!

มีหลากหลายวิธีที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย ในการทำงานหรือการเรียนได้อย่างรวดเร็ว เช่น ของหวาน กาแฟ และ เครื่องดื่มชูกำลังหรือเครื่องดื่มให้พลังงานต่างๆ เป็นต้น จากตัวเลือกเหล่านี้ เครื่องดื่มชูกำลัง ถือเป็นตัวเลือกยอดนิยม เนื่องจากผลลัพธ์ที่ดี และราคาที่สามารถซื้อได้ แต่หากดื่มเครื่องดื่มชูกำลังมากเกินไป จะเกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพของคุณหรือไม่ มีอะไรในเครื่องดื่มชูกำลัง? เครื่องดื่มชูกำลังมักมีการโฆษณาว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ร่างกายตื่นตัว กระตุ้นการทำงานของร่างกายและอารมณ์ นโยบายทางการตลาดของบรรดาบริษัทเครื่องดื่มชูกำลัง มักประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เมื่อเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่น หรือผู้ที่เริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 34 ปี เป็นกลุ่มที่บริโภคเครื่องดื่มประเภทนี้มากที่สุด และประมาณ 1 ใน 3 ของวัยรุ่น อายุระหว่าง 12 ถึง 17 ปี ดื่มเป็นประจำ หน้าที่ของเครื่องดื่มชูกำลังเป็นไปตามชื่อที่เรียก กล่าวคือให้พลังงงานแก่ร่างกาย โดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องดื่มชูกำลังประกอบด้วยส่วนผสมหลัก 2 ส่วน คือ น้ำตาลและคาเฟอีน โดยปกติ เครื่องดื่มชูกำลัง 1 กระป๋องมีปริมาณคาเฟอีนมากกว่า 80 มิลลิกรัม รายการด้านล่างเป็นส่วนผสมอื่นๆ ที่อยู่ในเครื่องดื่มชูกำลัง รวมถึงฤทธิ์ของส่วนผสมเหล่านี้ที่มีต่อร่างกาย เอฟิดรีน (Ephedrine) เป็นส่วนผสมที่พบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ไขมันอิ่มตัว กินแล้วส่งผลเสียต่อสุขภาพจริงหรือ

ไขมันอิ่มตัว เป็นโมเลกุลไขมันที่ไม่ซับซ้อน และแข็งตัวในอุณหภูมิห้อง เช่น ไขมันเนื้อสัตว์ ไขมันหมู การรับประทานไขมันอิ่มตัวอาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ เช่น โรคหัวใจ คอเลสเตอรอลในเลือดสูง ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจ จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง และปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับการเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม [embed-health-tool-bmi] ไขมันอิ่มตัว คืออะไร ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fats) คือ โมเลกุลไขมันที่ไม่ซับซ้อน ไม่มีพันธะคู่ระหว่างโมเลกุลของคาร์บอน เนื่องจากอิ่มตัวด้วยโมเลกุลของไฮโดรเจน โดยปกติ ไขมันอิ่มตัวจะแข็งในอุณหภูมิห้อง และเกิดขึ้นตามธรรมชาติในอาหารหลายชนิด โดยส่วนใหญ่มาจากแหล่งอาหารที่เป็นสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อหมู เนื้อสัตว์ไก่ติดหนัง มันวัว (Tallow) น้ำมันหมู เนย ชีส ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมวัว นอกจากนี้ อาหารทอดและอาหารอบก็อาจมีไขมันอิ่มตัวสูงได้เช่นกัน รวมถึงน้ำมันพืช เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว ก็อาจมีไขมันอิ่มตัวแต่จะไม่มีคอเลสเตอรอล (Choresterol) ไขมันอิ่มตัวส่งผลเสียต่อสุขภาพจริงหรือ การกินไขมันอิ่มตัว ซึ่งเป็นไขมันที่พบในเนื้อสัตว์ ชีส และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมวัว อาจทำให้เกิดโรคหัวใจได้ ดังนั้น จึงควรเลือกกินไขมันที่ดีต่อสุขภาพแทน เช่น ไขมันจากถั่ว เมล็ด […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

คาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ดี สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจได้

คาร์โบไฮเดรต มักจะมีอยู่ในอาหาร 3 ชนิด ได้แก่ น้ำตาล แป้ง และไฟเบอร์ นอกจากนี้คาร์โบไฮเดรตยังสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน โดยคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวหรือ คาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ดี ที่ผ่านการแปรรูปและมักจะมีการเพิ่มน้ำตาลเข้าไปด้วย เช่น ลูกอม น้ำเชื่อม และน้ำอัดลม อาจไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายและสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคอ้วน และโรคเบาหวาน ได้อีกด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลเกี่ยว คาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ดี มาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ คาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ดี คืออะไร คาร์โบไฮเดรตในอาหารบางประเภท ที่ส่วนใหญ่จะมีน้ำตาลเชิงเดี่ยวมาก เช่น น้ำตาลในเครื่องดื่มที่มีรสหวาน หรือน้ำตาลในของหวาน สามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเร็วกว่า คาร์โบไฮเดรตประเภทอื่น ซึ่งถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป อาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายของคุณอาจมีปัญหาในการผลิตอินซูลิน นอกจากนี้อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวมาก หรือคาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ดี (Bad carbohydrates) ได้แก่ น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดง และอาหารแปรรูป จะมีการเพิ่มน้ำตาลในกระบวนการผลิตเพื่อทำให้รสชาติดีขึ้น ซึ่งอาหารที่ผ่านกระบวนการเติมน้ำตาลได้แก่ เครื่องดื่มรสหวาน ของหวาน เครื่องดื่มรสผลไม้ ขนมหวานที่มีส่วนผสมของนมวัว ลูกอม ขนมปังจากยีสต์ ร่างกายของเราจะย่อยคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวเหล่านี้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถเพิ่มการอักเสบในร่างกาย และเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดของคุณ นอกจากนี้การกินคาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ดี สามารถส่งผลต่อสุขภาพหัวใจได้ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน