โรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน คือโรคที่สามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานและสุขภาพโดยรวมของร่างกายได้อย่างมาก อีกทั้งในปัจจุบัน อัตราผู้ป่วยโรคเบาหวานในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้น การเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวานประเภทต่าง ๆ ปัจจัยเสี่ยง และรักษาโรคเบาหวาน จึงมีความสำคัญเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคเบาหวานให้ดียิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

โรคเบาหวาน

เบาหวาน อาการ และวิธีการป้องกัน

เบาหวานเป็นภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ที่เกิดจากร่างกายจัดการอินซูลินและน้ำตาลได้ไม่ดีพอ เกิดจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยอินซูลินมีหน้าที่นำพาน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดที่ได้จากการรับประทานอาหาร เข้าสู่เซลล์เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงาน เมื่ออินซูลินไม่เพียงพอจึงส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป และเมื่อป่วยเป็นโรค เบาหวาน อาการ ที่พบอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของโรค อย่างไรก็ตาม หากไม่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดี อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ไตเสียหาย จอประสาทตาเสื่อมได้ [embed-health-tool-bmi] เบาหวาน คืออะไร เบาหวาน คือ โรคเรื้อรังที่จะวินิจฉัยเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงตั้งแต่ 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตรขึ้นไป ซึ่งเป็นผลจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หากปล่อยให้ร่างกายอยู่ในสภาวะนี้นานอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน เช่น โรคไต โรคหลอดเลือดสมอง ระบบประสาทเสื่อม   เบาหวานแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ เบาหวานชนิดที่ 1 พบได้บ่อยในวัยเด็ก เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง ทำให้ตับอ่อนที่ทำหน้าที่ผลิตอินซูลินไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นำไปสู่ภาวะน้ำตาลสะสมในเลือดสูงขึ้น อาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ปัสสาวะบ่อย เบาหวานชนิดที่ 2 พบได้บ่อยในวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ที่อายุ 40 ปี ขึ้นไป เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือเซลล์ในร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ หากปล่อยไว้นานอาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการหิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย และน้ำหนักลดได้ ข้อมูลจากสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ระบุว่า ผู้หญิงมีแนวโน้มเป็นโรคเบาหวานร้อยละ […]

หมวดหมู่ โรคเบาหวาน เพิ่มเติม

โรคเบาหวานชนิดที่ 1

สำรวจ โรคเบาหวาน

โรคเบาหวานชนิดที่ 2

การรักษาโรคเบาหวาน โดยการใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน

การรักษาโรคเบาหวาน คือการรักษาภาวะที่ระดับน้ำตาลกลูโคสในร่างกายสูงกว่าให้อยู่ในภาวะปกติ โดยอาจมีการใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า แต่ทั้งนี้ จำเป็นต้องให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยและรักษาอาการ ผู้ป่วยเบาหวานไม่ควรซื้อยามารับประทานเองโดยเด็ดขาด ประเภทของโรคเบาหวาน โรคเบาหวาน เป็นโรคที่เกิดจากการที่อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ ทำให้​ระดับน้ำตาลในเลือดสูง โรคเบาหวานมี 2 ประเภท ได้แก่ โรคเบาหวานชนิดที่ 1 และ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยแต่ละประเภทมีรายละเอียดดังนี้ โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำลายเซลล์ที่ทำหน้าที่หลั่งอินซูลิน (Insulin) ทำให้การผลิตอินซูลินในร่างกายลดลง โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ร่างกายไม่สามารถใช้อินซูลินได้ดีเท่าที่ควร ทำให้ร่างกายเกิดภาวะที่เรียกว่า การต่อต้านอินซูลิน ยาที่ใช้สำหรับ การรักษาโรคเบาหวาน ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานทั้งสองชนิด จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยใช้ยา เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ ยาที่ใช้สำหรับผู้ป่วยแต่ละคนนั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของโรคเบาหวานที่เป็น ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่เริ่มจากการใช้ ยาเมดฟอร์มิน (Metformin) ซึ่งเป็นยาที่ใช้รับประทาน เพื่อลดปริมาณกลูโคสที่ตับผลิตออกมามากเกินไป การใช้ยาหลายชนิดร่วมกันในการรักษาโรคเบาหวาน เมื่อการผลิตอินซูลินตามธรรมชาติลดลงเรื่อย ๆ แพทย์มักเพิ่มยารับประทาน หรืออินซูลินสำหรับฉีด หากยาเมดฟอร์มิน ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ แพทย์อาจเพิ่ม ยาซัลโฟนิลยูเรีย (Sulfonylurea) ซึ่งกระตุ้นตับอ่อนให้ผลิตอินซูลินเพิ่มขึ้น หรือแพทย์อาจเพิ่ม ยาไธอะโซลิดินีไดโอน (Thiazolidinedione) ที่ช่วยเพิ่มความสามารถของเซลล์ในการดูดซึมอินซูลิน ปัจจุบัน […]


โรคเบาหวานชนิดที่ 2

ความไวต่ออินซูลิน หรือ insulin sensitivity คือ อะไร

ความไวต่ออินซูลิน หรือ insulin sensitivity คือ การตอบสนองของเซลล์ต่ออินซูลิน ซึ่งหากจะให้เข้าใจกันได้ง่ายขึ้นนั่นก็คือ ถ้าร่างกายมีความไวต่ออินซูลินต่ำ ก็อาจสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้นั่นเอง ดังนั้นการปรับปรุงความไวต่ออินซูลินให้ดีขึ้นด้วยวิธีธรรมชาติ ที่ Hello คุณหมอ นำมาฝากทุกคนวันนี้ จึงอาจช่วยลดภาวะดื้ออินซูลินลงได้ รวมถึงลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน ได้อีกด้วย ความไวต่ออินซูลิน หรือ Insulin sensitivity คือ อะไร อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่ง ความไวต่ออินซูลิน (Insulin sensitivity) หมายถึง การตอบสนองของเซลล์ต่ออินซูลิน ถ้าร่างกายมีความไวต่ออินซูลินต่ำ ก็อาจหมายความได้ว่าคุณกำลังประสบกับภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin resistant) อยู่ก็เป็นได้ เพราะเซลล์ที่เกิดภาวะดื้ออินซูลิน จะทำให้ไม่สามารถใช้อินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และเมื่อตับอ่อนรับรู้ว่าระดับน้ำตาลในเลือดสูง ก็จะผลิตอินซูลินเพิ่มขึ้นเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งนับว่าการเกิดภาวะดื้ออินซูลินที่ปล่อยไว้เป็นเวลานานจึงอาจนำไปสู่การเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ในที่สุด วิธี เพิ่มความไวต่ออินซูลิน ด้วยวิธีธรรมชาติ เป็นที่ทราบกันดีว่าการมีความไวต่ออินซูลินต่ำ สามารถส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง แต่ก็ยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ อีกมากมายไม่แพ้กัน เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ซึ่งเบื้องต้นนั้นคุณควรหมั่นดูแลตนเองเพื่อ เพิ่มความไวต่ออินซูลิน ในร่างกายได้ด้วยวิธีธรรมชาติ ดังต่อไปนี้ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หากคุณนอนน้อย หรือนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ […]


โรคเบาหวานชนิดที่ 2

ดื้ออินซูลิน ควรเลือกรับประทานอาหารอย่างไร

ดื้ออินซูลิน เป็นภาวะที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน เนื่องจากเซลล์ในร่างกายไม่ตอบสนองต่อการทำงานของอินซูลินที่มีส่วนช่วยในการนำกลูโคสจากอาหารมาใช้เป็นพลังงาน หากปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ โรคมะเร็ง และปัญหาทางสายตา ดื้ออินซูลิน คืออะไร ดื้ออินซูลิน คือ ภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อเซลล์ในกล้ามเนื้อไม่ตอบสนองต่อการทำงานของอินซูลินที่เป็นฮอร์โมนสร้างจากตับอ่อน ซึ่งมีส่วนช่วยในการนำน้ำตาลในเลือดจากอาหารมาใช้เป็นพลังงาน เพื่อให้ร่างกายสามารถดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวันโดยไม่รู้สึกอ่อนแรง ฮอร์โมนอินซูลินจะหลั่งออกมาเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เพื่อควบคุมให้น้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ หากปล่อยไว้เป็นเวลานานโดยไม่ได้รับการรักษา อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง พัฒนาเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 หรือโรคหัวใจ ส่วนใหญ่ภาวะดื้ออินซูลินพบได้บ่อยในช่วงอายุ 45 ปีขึ้นไป และมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ รวมถึงการได้รับพันธุกรรมมาจากครอบครัวที่มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน สัญญาณเตือนของภาวะดื้ออินซูลิน สัญญาณเตือนของภาวะดื้ออินซูลิน อาจสังเกตได้ ดังนี้ ระดับความดันโลหิตสูงเกิน 130/80 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ชายมีระดับคอเลสเตอรอลต่ำกว่า 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตร และผู้หญิงมีระดับคอเลสเตอรอลต่ำกว่า 50 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ผู้หญิงมีรอบเอวเกิน 35 นิ้ว ส่วนผู้ชายมีรอบเอวเกิน 40 นิ้ว ระดับไตรกลีเซอรไรด์มากกว่า 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ติ่งเนื้อบนผิวหนัง อาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีภาวะดื้ออินซูลิน อาหารสำหรับผู้ป่วยที่เป็นภาวะดื้ออินซูลิน อาจมีดังนี้ ผัก ควรเลือกรับประทานผักสดที่อุดมไปด้วยสารอาหาร และแคลอรี่ต่ำ เช่น […]


โรคเบาหวาน

วิธี ลดน้ำตาลในเลือด ทำได้ด้วยตนเองเพื่อลดเสี่ยงเบาหวาน

วิธี ลดน้ำตาลในเลือด สามารถทำได้ด้วยตนเองเพื่อช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน หรือช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานควบคุมอาการเบาหวาน และช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากโรคเบาหวานได้ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาคุณหมอก่อนเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะผู้ที่กำลังรับประทานยาลดน้ำตาลในเลือด เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ [embed-health-tool-bmi] ทำไมต้องลดน้ำตาลในเลือด ระดับน้ำตาลในเลือดสูงส่งผลกระทบต่อการผลิตอินซูลินของเซลล์ในตับอ่อน หากปล่อยไว้จนตับได้รับความเสียหายถาวร จะยิ่งทำให้ระดับอินซูลินเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ระดับน้ำตาลในเลือดสูงยังอาจทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis) ส่งผลกระทบต่ออวัยวะแทบทุกส่วน และทำให้หลอดเลือดเสียหายได้ด้วย ปัญหาสุขภาพจากระดับน้ำตาลในเลือดสูง ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคไต หรือภาวะไตวาย โรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวาย สูญเสียการมองเห็น ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้เสี่ยงติดเชื้อมากขึ้น ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เส้นประสาทเสียหาย เลือดในบริเวณขาและเท้าไหลเวียนได้ไม่ดี แผลหายช้า และอาจต้องตัดแขนขาในบางกรณี เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเหล่านี้ ควรรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ โดยสมาคมโรคเบาหวานแห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำว่า ผู้ป่วยเบาหวานหา วิธี ลดระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ที่ 70-130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ก่อนรับประทานอาหาร และน้อยกว่า 180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หลังกิรับประทานอาหาร 10 วิธี ลดน้ำตาลในเลือด วิธี ลดน้ำตาลในเลือด สามารถทำได้ด้วยตนเอง ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังต่อไปนี้ 1. ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายจะเพิ่มความไวต่ออินซูลิน และช่วยให้กล้ามเนื้อนำน้ำตาลจากเลือดมาใช้เป็นพลังงาน จึงส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง 2. ควบคุมคาร์โบไฮเดรต คาร์โบไฮเดรตจะสลายเป็นกลูโคส ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น […]


ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานกับการนอนหลับ เกี่ยวข้องกันอย่างไร

โรคเบาหวานกับการนอนหลับ อาจมีความเกี่ยวของกัน เนื่องจาก โรคเบาหวานอาจส่งผลกระทบต่อการนอน ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือผู้อยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคเบาหวานมีปัญหานอนไม่หลับ นอนไม่เพียงพอ หรือนอนหลับมากเกินไป รวมทั้งยังอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนอนหลับผิดปกติชนิดต่าง ๆ ได้อีกด้วย โรคเบาหวานกับการนอนหลับ เกี่ยวข้องกันอย่างไร หากระดับน้ำตาลกูลโคสมากขึ้น อาจรู้สึกกระหายน้ำและต้องตื่นมาดื่มน้ำกลางดึก นอกจานี้ก เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง อาจส่งผลให้ไตทำงานหนักจนทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้นในตอนกลางคืน ซึ่งการไปเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ อาจทำให้นอนหลับไม่สนิท ปวดศีรษะ และอ่อนเพลีย ในทางตรงกันข้าม การไม่รับประทานอาหารเป็นเวลาหลายชั่วโมงหรือการใช้ยารักษาโรคเบาหวานที่ผิดวิธี อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำในเวลากลางคืน ซึ่งอาจทำให้ฝันร้าย เหงื่อออก รู้สึกหงุดหงิดหรือสับสนเมื่อตื่นนอน จากการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Sleep Research พ.ศ. 2564 ศึกษาเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างการรบกวนการนอนหลับกับโรคเบาหวาน เพื่อตรวจสอบว่าเบาหวานสามารถการรบกวนการนอนหลับ ทำให้นอนหลับยาก นอนไม่หลับ หรือนอนหลับมากเกินไปได้หรือไม่ พบว่า โรคเบาหวานกับการนอนหลับนั้นเกี่ยวข้องกันอย่างชัดเจน และการนอนหลับไม่เพียงพออาจเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน และอาจเป็นปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ ภาวะนอนหลับผิดปกติกับโรคเบาหวาน ภาวะนอนหลับผิดปกติเหล่านี้ อาจส่งผลกระทบกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานได้มากกว่าคนปกติ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เป็นหนึ่งในอาการนอนหลับผิดปกติที่พบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน ร่างกายจะหยุดหายใจและเริ่มหายใจใหม่ซ้ำ ๆ ตลอดคืน ซึ่งภาวะหยุดหายใจขณะหลับพบมากในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เพราะมักมีน้ำหนักเกิน จึงส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ หากพบว่าตัวเองรู้สึกเหนื่อยล้าระหว่างวัน และนอนกรนตอนกลางคืน อาจเป็นสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ดังนั้นจึงควรรักษาสุขภาพ […]


โรคเบาหวานชนิดที่ 2

prediabetes คือ อะไร มีวิธีสังเกต และรับมืออย่างไรบ้าง

prediabetes คือ ภาวะก่อนเบาหวาน หมายถึง ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ แต่ไม่สูงพอที่จะวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวาน แต่มีแนวโน้มและเพิ่มความเสี่ยงที่จะพัฒนาเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 การหมั่นดูแลสุขภาพของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เช่น การวบคุมอาหาร รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และหมั่นตรวจสุขภาพประจำปี อาจลดความเสี่ยงของการเป็นเบาหวานได้ คำจำกัดความprediabetes คือ อะไร ภาวะก่อนเบาหวาน คือ ภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ แต่ไม่สูงพอที่จะวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยปกติค่าน้ำตาลในเลือดอยู่ระหว่าง 70-100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หากระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ระหว่าง 100-125 มิลลิกรัม/เดซิลิตร แสดงว่ามีความเสี่ยงภาวะก่อนเบาหวาน โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นร่วมกับโรคอื่น ๆ เช่น โรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ    อาการอาการของภาวะก่อนเบาหวาน อาการของภาวะก่อนเบาหวาน ที่พบได้บ่อย คือ สีผิวเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณคอ รักแร้ ข้อศอก เข่า ข้อนิ้วมือ รวมถึงอาการอื่น ๆ  มีดังนี้ กระหายน้ำมากขึ้น ปัสสาวะบ่อย เหนื่อยล้า มองเห็นไม่ชัด สาเหตุสาเหตุของ ภาวะก่อนเบาหวาน ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของภาวะก่อนเบาหวาน แต่ได้มีข้อสันนิษฐานว่าพันธุกรรมอาจมีส่วนสำคัญในการเพิ่มปัจจัยเสี่ยง เนื่องจากความผิดปกติในยีนที่ควบคุมกระบวนการผลิตอินซูลิน อาจทำให้ร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้อย่างเหมาะสม และเมื่อระดับอินซูลินลดลง อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง เสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน รวมถึงการขาดออกกำลังหาย ไขมันสะสม ภาวะน้ำหนักเกิน […]


ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

เบาหวานลงไต ความสัมพันธ์ระหว่างไตและโรคเบาหวานที่ควรรู้

เบาหวานลงไต หมายถึง ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ตรวจพบโรคไต ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรระมัดระวังตัวเองในการรับประทานอาหาร ทั้งรสหวาน รสเค็ม เพื่อป้องกันการเกิดโรคไต ปัจจุบันจากการศึกษาพบว่า โรคไตอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เป็นโรคเบาหวานได้เช่นกัน การเรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างโรคไตและโรคเบาหวาน จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานอย่างโรคเบาหวานลงไตได้ [embed-health-tool-bmi] โรคเบาหวาน ส่งผลต่อโรคไตอย่างไร โรคเบาหวานสามารถเป็นสาเหตุของโรคไต โดยวัยผู้ใหญ่ที่เป็นโรคเบาหวานประมาณ 1 ใน 4 คน เป็นโรคไตด้วย นอกจากนี้ทความเสียหายของไตที่เกิดจากโรคเบาหวาน ปกติจะค่อย ๆ เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ เป็นเวลาหลายปี ซึ่งทำให้อาจมีเวลาพอที่จะป้องกันความเสียหายของไตได้ การเป็นโรคเบาหวานเป็นเวลานาน มักเพิ่มโอกาสที่จะเกิดความเสียหายต่อไต ดังนั้น ถ้าเป็นโรคเบาหวาน อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคไตได้ในกรณี ดังต่อไปนี้ ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป ความดันโลหิตสูงเกินไป โรคเบาหวาน อาจทำลายหน่วยกรองเล็ก ๆ ที่เรียกว่า เนฟรอน (Nephron) ได้ ซึ่งทำให้เกิดโรคไตจากเบาหวาน (Diabetic kidney disease) โดยประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน จะเป็นโรคไตจากเบาหวานด้วย และระหว่างร้อยละ 10-20 เสียชีวิตจากภาวะไตวาย นอกจากนี้ ยังอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เกิดความเสียหายที่เส้นประสาทและดวงตา […]


โรคเบาหวานชนิดที่ 2

เบาหวานชนิดที่ 2 อาการ สาเหตุ และการรักษา

เบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes Mellitus) เป็นภาวะเรื้อรังที่ส่งผลต่อการเผาผลาญน้ำตาลในเลือด เกิดจากร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ตามปกติ อีกทั้งภาวะที่ร่างกายสังเคราะห์อินซูลิน (Insulin) ได้ไม่เพียงพอ ก็อาจส่งผลให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้เช่นกัน [embed-health-tool-bmi] คำจำกัดความ เบาหวานชนิดที่ 2 คืออะไร เบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes Mellitus) เป็นภาวะเรื้อรังชนิดหนึ่งที่มีความผิดปกติในการเผาผลาญน้ำตาลในเลือด มักมีสาเหตุเบื้องต้นมากจากร่างกายเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งอินซูลินนี้เป็นฮอร์โมนหลักที่ทำหน้าที่ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จึงส่งผลให้มีระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม เเม้โรคเบาหวานชนิดที่ 2 จะไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่สามารถควบคุมโรคได้ด้วยการปรับพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย และการควบคุมน้ำหนัก แต่หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพแล้ว ระดับน้ำตาลยังสูงเกินกว่าเกณฑ์ที่เหมาะสม ก็อาจจำเป็นต้องใช้ยารักษาเบาหวานร่วมด้วย เบาหวานชนิดที่ 2 พบได้บ่อยได้แค่ไหน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 มักพบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก แต่ในปัจจุบันนี้ พบว่าเด็กมีภาวะโรคอ้วนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนับเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของการเกิดเบาหวานชนิดที่ 2 จึงทำให้พบว่ามีจำนวนเด็กที่เป็นโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ดี การดูแลสุขภาพให้ดี มีการปรับพฤตกรรมสุขภาพที่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ อาการ อาการของเบาหวานชนิดที่ 2 อาการของเบาหวานชนิดที่ 2 มักเกิดขึ้นอย่างช้า […]


โรคเบาหวานชนิดที่ 2

การดูแลผู้ป่วยเบาหวาน กับเทคนิคง่าย ๆ ที่อาจช่วยให้อาการดีขึ้น

การดูแลผู้ป่วยเบาหวาน มีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถรับมือกับโรคได้ดีขึ้น โดยเฉพาะหากผู้ป่วยเป็นคนในครอบครัว การสอบถามถึงอาการ การศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรค รวมทั้งการดูแลเรื่องโภชนาการ และการให้กำลังใจ นับเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้น และมีกำลังใจในการรักษาอาการต่อไป การดูแลผู้ป่วยเบาหวาน การดูแลผู้ป่วยเบาหวาน จำเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับโรคเบาหวาน เพื่อจะได้ปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง นอกจากนั้น ยังมีเทคนิคง่าย ๆ ในการดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่อาจช่วยให้อาการและความรู้สึกของผู้ป่วยดีขึ้น ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1.ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ โรคเบาหวาน มีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โรคเบาหวาน มากมาย เช่น ผู้ที่เป็นเบาหวานไม่ควรออกกำลังกายซึ่งไม่เป็นความจริง ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคเบาหวาน ว่าโรคเบาหวานคืออะไร สามารถป้องกันในกรณีฉุกเฉินได้อย่างไร หรือสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนได้อย่างไร รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพื่อจะได้ดูแลคนในครอบครัวที่ป่วยเป็นเบาหวานให้ดียิ่งขึ้น 2.ช่วยบรรเทาความเครียด ความเครียดอาจเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะทำให้ควบคุมโรคเบาหวานได้ยากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันการจัดการกับโรคเบาหวานอาจทำให้เกิดความเครียด ดังนั้นจึงควรช่วยกันหาวิธีบรรเทาความเครียด เช่น ชวนไปออกกำลังกาย ไปเที่ยวพักผ่อน หรือชมภาพยนต์ตลกที่บ้านร่วมกัน 3.เป็นฝ่ายสนับสนุน ควรจำไว้ว่าผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ต้องรับผิดชอบและจัดการกับ โรคเบาหวาน ด้วยตนเอง ส่วนคนในครอบครัวควรเป็นฝ่ายสนับสนุน ไม่ใช่ผู้คุมที่คอยบงการผู้ป่วยโรคเบาหวาน  นอกจากนี้คนในครอบครัวเองควรให้กำลังใจและสนับสนุนผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วย 4.ทำความเข้าใจอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของคนเป็นเบาหวาน การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดจะช่วยให้อาการอารมณ์แปรปรวนดีขึ้น เนื่องจากการขึ้นลงของระดับน้ำตาลในเลือด สามารถทำให้ผู้ป่วยสับสน กระวนกระวายใจ วิตกกังวล  การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ อาจช่วยให้อารมณ์แปรปรวนของผู้ป่วยเบาหวานลดลงได้ 5.กรณีที่เป็นคู่สมรส ควรพูดคุยกันเรื่องปัญหาทางเพศ โรคเบาหวาน […]


โรคเบาหวานชนิดที่ 2

ภาวะก่อนเบาหวาน ปัจจัยเสี่ยง การป้องกัน

ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ แต่ไม่สูงพอที่จะวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวาน นอกจากนี้ภาวะก่อนเบาหวานยังเพิ่ม ปัจจัยเสี่ยง ที่จะพัฒนาเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งโดยทั่วไปภาวะก่อนเบาหวานจะไม่ปรากฏอาการออกมาให้เห็นแน่ชัด การหมั่นดูแลสุขภาพของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เช่น ควบคุมอาหาร รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และหมั่นตรวจสุขภาพประจำปี อาจลดความเสี่ยงของการเป็นเบาหวานได้ ภาวะก่อนเบาหวาน คืออะไร ภาวะก่อนเบาหวาน คือ ภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ แต่ไม่สูงพอที่จะวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยมีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ระหว่าง 100-125 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ข้อมูลจากสมาคมเบาหวานนานาชาติ ชี้ว่า 1 ใน 3 คนเป็นภาวะก่อนเบาหวาน และ 9 ใน 10 คน มักไม่รู้ว่าตัวเองมีความเสี่ยงประสบกับภาวะก่อนเบาหวาน  โดยทั่วไปภาวะก่อนเบาหวานอาจไม่ปรากฏอาการออกมาให้เห็นแน่ชัด แต่ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการแสดงออกมา ดังนี้ สีผิวเปลี่ยนเข้มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ ข้อศอก เข่า ปัสสาวะบ่อย  อาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย  ปัสสาวะบ่อย มองเห็นไม่ชัด  ปัจจัยเสี่ยง ภาวะก่อนเบาหวาน ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของภาวะก่อนเบาหวาน แต่อาจเกิดจากปัจจัยเสี่ยง ดังต่อไปนี้ น้ำหนักเกินมาตรฐาน น้ำหนักเกินมาตรฐานหรือภาวะอ้วน คือ ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 25 […]

ad iconโฆษณา
คำถามที่พบบ่อย
ad iconโฆษณา

คุณกำลังเป็นเบาหวานอยู่ใช่หรือไม่?

คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เข้าร่วมชุมชนเบาหวานและแลกเปลี่ยนเรื่องราวและประสบการณ์ของคุณ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน