เบื่อหรือยังกับเมนูอาหารเดิมๆ สีสันเดิมๆ ที่พบเจอและรับประทานกันอยู่ทุกวัน ลองเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารด้วยการหันมาลองรับประทานอาหารสีดำที่ดูเรียบง่ายดูสิ สำหรับบทความนี้ Hello คุณหมอ ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ อาหารสีดำ ที่มาพร้อมกับประโยชน์ซึ่งคุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน กินดี ดูดีสามารถเซลฟี่ลงบนอินสตราแกรมเก๋ๆ จนเพื่อนๆ ในโซเชียลคุณถล่มไลค์ให้อย่างแน่นอน
ประโยชน์ของ อาหารสีดำ มีอะไรบ้าง
เป็นที่ทราบกันดีถึงประโยชน์ของผักสีเขียวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน แร่ธาตุ และเส้นใยอาหารที่ดี ลดความเสี่ยงของโรคอ้วน โรคหัวใจ ลดความดันโลหิต แต่อาหารสีดำนี้ก็มีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายไม่แพ้กัน ถึงแม้สีดำจะเป็นสีที่ดูน่ากลัวสำหรับบางคน และไม่ค่อยเหมาะกับการเป็นอาหารสักเท่าไร ในการวิจัยของนักวิจัยท่านหนึ่งกล่าวว่า อาหารสีดำสามารถล้างพิษดีท็อกซ์สิ่งไม่ดีภายในร่างกายให้ออกไปได้ รวมถึงประโยชน์ต่างๆ ที่หลากหลาย ดังต่อไปนี้
- ช่วยในการปรับสมดุลของฮอร์โมน
- ป้องกันโรคเบาหวาน
- ฟอกสีฟัน ขจัดคราบเหลือง
- ลดระดับคอเลสเตอรอล
- ปรับปรุงการทำงานของระบบทางเดินอาหาร และลดก๊าซในลำไส้
- ป้องกันอาการท้องอืด
6 อาหารสีดำ ที่คุณควรรับประทาน เพื่อสุขภาพที่ดี
- กระเทียมดำ
แม้จะพบเห็นตามท้องตลาด หรือซูเปอร์มาร์เก็ตได้ค่อนข้างน้อย แต่กระเทียมดำมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยส่งเสริมด้านการต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเพิ่มระดับของคอเลสเตอรอล และยังมีแคลเซียม 7 เท่า ซึ่งมีคุณประโยชน์มากกว่ากระเทียมสีขาวที่เราคุ้นเคย ซึ่งยังอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคเบาหวาน รวมถึงโรคมะเร็งได้อีกด้วย
- มะกอกดำ
มะกอกคือแหล่งรวมไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เป็นไขมันชนิดไม่อิ่มตัว หรือเรียกว่า กรดโอเลอิก (Oleic acid) ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ ลดความดันโลหิต ได้เช่นเดียวกับกระเทียมดำ
- สาหร่าย
ของว่างยอดนิยมที่ผู้คนทั่วโลกมักรับประทานเป็นขนม หรือนำมาโรยกินกับข้าวสวยร้อนๆ นั้น มีสารอาหารจำพวกไอโอดีน วิตามินเอ วิตามินบี6 และวิตามินซี ที่ช่วยบำรุงปรับปรุงสุขภาพหัวใจ รักษาภาวะไขมันในเลือด และยังมีแคลอรี่ต่ำ ไม่ก่อให้เกิดโรคอ้วน
- เห็ดสีดำ
สังเกตุกันหรือไม่ว่าเห็ดส่วนใหญ่นอกจากเห็ดฟาง เห็ดเข็มทอง ที่ใส่ในต้มยำสุดแซ่บแล้ว เมนูอื่นๆ พ่อครัว แม่ครัวทั้งหลายก็มักนำเห็ดสีดำมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารกันอย่างมาก โดยชนิดของเห็ดที่นิยมนำมาทำก็คือ เห็ดกระดุม หรือเห็ดแชมปิญอง เห็ดพ็อตโตเบลโล (Portobello) และเห็ดพอร์ชินี (Porcini) ราชาแห่งเห็ดป่าที่สามารถรับประทานได้โดยผ่านกระบวนการทำความสะอาด ซึ่งมี วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 และมีซีลีเนียมในประมาณที่พอดี ช่วยในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันจากโรคมะเร็ง เพิ่มประสิทธิภาพของหัวใจ และหลอดเลือด
- แบล็คเบอร์รี่
ผลไม้แสนหวานที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และมีสรรพคุณในการบำรุงผิวพรรณ ส่งเสริมความแข็งแรงให้กับระบบภูมิคุ้มกัน และบำรุงสมอง ที่มักพบในเมนูเครื่องดื่มต่างๆ อย่างสมูทตี้ สลัด รวมถึงขนมหวานอื่นๆ ซึ่งสามารถรับประทานแบบสดๆ ได้เช่นกัน แต่ควรล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยเสียก่อน
- ถั่วดำ
ในเมล็ดถั่วดำมีสารที่ชื่อว่า เควอซิทิน (quercetin) และ ซาโปนิน (saponins) ที่มีคุณสมบัติช่วยในการย่อยอาหาร ต้านอาการอักเสบ และต้านมะเร็งในลำไส้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี
การรับประทานอาหารในสัดส่วนที่พอดี ควรทำอย่างไร
รู้หรือไม่ภาชนะที่เราใส่อาหารนั้นก็มีส่วนสำคัญที่อาจทำให้เรากินได้เยอะขึ้น จากหลักฐานการวิจัยชิ้นหนึ่งที่นำเมนูพาสต้าใส่ลงในชามขนาดใหญ่ ทำให้อาหารภายในดูเล็กลง เพิ่มอรรถรสการกิน จนนำไปสู่การรับประทานเกินความต้องการของร่างกาย ดังนั้นการเลือกใช้ภาชนะที่ถูกต้องคือควรเลือกจาน หรือชาม ที่คุณต้องการจะเทใส่ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เป็นอีกหนทางหนึ่งที่ทำให้คุณได้ปริมาณ และสัดส่วนอาหารที่พอดี
นอกจากนี้คุณสามารถวางแผนการรับประทานอาหาร โดยการชั่งน้ำหนักอัตราส่วนของ ผัก เนื้อสัตว์ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ให้เหมาะสมกัน โดยอาจเน้นผักต่างๆ ที่คุณชอบจัดให้มีอัตราส่วนที่มากกว่า และก่อนเริ่มรับประทานอาหารทุกมื้อควรดื่มน้ำก่อนอย่างน้อย 30 นาที ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่ดีที่ช่วยทำให้คุณรู้สึกหิวน้อยลง ลดการรับประทานอาหารได้
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmr]