โรคไต หมายถึง โรคที่ไตทำหน้าที่กรองของเสียหรือสารอาหารจากเลือดได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายมีสารอาหารสะสมอยู่มากเกินไปจนส่งผลเสียต่อสุขภาพ หากถามว่า โรคไตห้ามกินอะไร คำตอบคือ โดยปกติ คุณหมอจะไม่มีข้อห้ามเกี่ยวกับรับประทานอาหารชนิดใดเป็นพิเศษ แต่มักแนะนำให้จำกัดการบริโภคสารอาหารบางอย่าง เช่น โซเดียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส เนื่องจากผู้ป่วยโรคไตไม่สามารถขับสารอาหารดังกล่าวออกจากร่างกายได้ตามปกติ
[embed-health-tool-bmi]
โรคไต คืออะไร
โรคไตหรือบางครั้งเรียกว่าโรคไตเรื้อรัง เป็นโรคเกี่ยวกับไตแบบหนึ่ง ซึ่งไตจะไม่สามารถกรองของเสียจากเลือดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายสะสมของเหลวหรือสารอาหารไว้มากเกินไป จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพและเพิ่มความเสี่ยงให้เสียชีวิตได้
โดยทั่วไป โรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูงมักเป็นสาเหตุของโรคไต นอกจากนี้ โรคไตยังอาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
- การเป็นโรคบางโรคที่เกี่ยวกับไต เช่น โรคหลอดเลือดแดงที่ไตตีบตัน โรคไตอักเสบลูปัส โรคไตอักเสบ
- การติดเชื้อ
- การบริโภคยาบางชนิดที่ส่งผลต่อสุขภาพไต
- การได้รับพิษจากโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว
โรคไตห้ามกินอะไรบ้าง
เมื่อเป็นโรคไต คุณหมอหรือนักโภชนาการมักไม่มีข้อห้ามในการรับประทานอาหาร แต่มักแนะนำให้บริโภคสารอาหารบางอย่างในปริมาณน้อย เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ จากการที่ไตไม่สามารถขับสารอาหารเหล่านั้นออกจากร่างกายได้ในปริมาณที่เหมาะสม ได้แก่
โซเดียม
โซเดียม เป็นธาตุอาหารที่ช่วยควบคุมระดับของเหลวในร่างกาย โดยทั่วไป ผู้ที่มีสุขภาพดีควรบริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัม/วัน แต่เมื่อเป็นโรคไต คุณหมอจะแนะนำให้บริโภคโซเดียมในปริมาณที่ต่ำกว่า โดยขึ้นอยู่กับสุขภาพของไตหรือระยะของโรคไต
ทั้งนี้ หากบริโภคโซเดียมมากเกินไป จะทำให้ระดับของเหลวในร่างกายมีปริมาณสูงขึ้น และอาจนำไปสู่อาการผิดปกติต่าง ๆ อย่างแข้งบวม ความดันโลหิตสูง หรือหายใจไม่ออกได้
สำหรับอาหารโซเดียมสูงที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่
- เครื่องปรุงรสที่มีความเค็ม เช่น เกลือ น้ำปลา ซีอิ๊ว
- อาหารฟาสฟู้ดต่าง ๆ เช่น แฮมเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์
- อาหารสำเร็จรูป เนื้อสัตว์แปรรูป อาหารกระป๋อง รวมถึงของขบเคี้ยวอย่างแครกเกอร์และมันฝรั่งทอด
ส่วนอาหารโซเดียมต่ำที่ควรบริโภคหากป่วยเป็นโรคไต ได้แก่
- เนื้อสัตว์ เนื้อปลา
- ไข่
- ข้าว ขนมปัง เส้นพาสต้า
- ป๊อปคอร์น แครกเกอร์ แบบโซเดียมต่ำ
- ผลไม้แห้ง
- แกงจืดหรือซุปที่ไม่ใส่เกลือหรือซีอิ๊ว
งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับการบริโภคโซเดียมและโรคไตเรื้อรัง เผยแพร่ในวารสาร International Journal of Molecular Sciences ปี พ.ศ. 2563 ระบุว่า การบริโภคอาหารโซเดียมต่ำ เป็นวิธีการที่ถูกต้องสำหรับควบคุมภาวะบวมน้ำและความดันโลหิตสูงในผู้ป่วยโรคไตทุกระยะ โดยปริมาณอาหารโซเดียมต่ำที่ควรบริโภคนั้น จะแตกต่างกันไปตามสภาพร่างกายแต่ละคน
โพแทสเซียม
เมื่อเป็นโรคไต ไตจะไม่สามารถขับโพแทสเซียมส่วนเกินในเลือดออกทางปัสสาวะได้ตามปกติ แต่จะถูกส่งไปยังไตและย้อนกลับเข้าสู่กระแสเลือดอีกครั้ง และมักก่อให้เกิดอาการป่วยอย่างคลื่นไส้ อ่อนเพลีย ตะคริว หายใจไม่ออก เจ็บหน้าอก รวมถึงโรคเกี่ยวกับหัวใจต่าง ๆ
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง ควรบริโภคโพแทสเซียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน หรือหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารโพแทสเซียมสูง และเลือกรับประทานอาหารโพแทสเซียมต่ำ ดังต่อไปนี้
อาหารโพแทสเซียมสูง
- ผลไม้ เช่น กล้วย ส้ม
- ผัก เช่น มันฝรั่ง มะเขือเทศ
- ข้าวกล้อง
- ผลิตภัณฑ์จากนม
- ขนมปังและเส้นพาสต้าจากธัญพืชเต็มเมล็ด
- ถั่วชนิดต่าง ๆ
อาหารโพแทสเซียมต่ำ
- ผลไม้ เช่น แอปเปิล ลูกพีช องุ่น
- ผัก เช่น แครอท เมล็ดถั่วแขก
- ข้าวขาว
- ขนมปังและพาสต้าที่ทำจากแป้งขัดสี
ฟอสฟอรัส
ไตของผู้ป่วยโรคไตจะไม่สามารถจัดการปริมาณฟอสฟอรัสส่วนเกินได้ ทำให้เสี่ยงต่อการมีฟอสฟอรัสในเลือดสูง ซึ่งอาจส่งผลให้กระดูกเปราะ เป็นโรคหัวใจ ปวดตามข้อ หรือเสียชีวิตได้
โดยทั่วไป คุณหมอมักแนะนำให้บริโภคฟอสฟอรัสไม่เกิน 800-1,000 มิลลิกรัม/วัน
สำหรับอาหารฟอสฟอรัสสูงที่ผู้ป่วยโรคไตควรบริโภคในปริมาณน้อย และอาหารฟอสฟอรัสต่ำที่อาจเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไต มีดังนี้
อาหารฟอสฟอรัสสูง
- เนื้อสัตว์ เนื้อปลา
- ข้าวโอ๊ต
- ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีสประเภทต่าง ๆ
- ถั่วชนิดต่าง ๆ
- น้ำอัดลมสีเข้ม เช่น น้ำโคล่า
- น้ำสกัดเย็น เช่น ชา กาแฟ
อาหารฟอสฟอรัสต่ำ
- ผัก เช่น แตงกวา พริกหวาน หน่อไม้ฝรั่ง มะเขือม่วง แครอท กะหล่ำดอก
- ผลไม้ เช่น แอปเปิล พลัม องุ่น แตงโม สับปะรด
- น้ำนมข้าวต่าง ๆ
- น้ำอัดลมสีอ่อน เช่น น้ำมะนาวโซดา จินเจอร์แอล (Ginger Ale)
โปรตีน
แม้ว่าโปรตีนจะจำเป็นต่อการสร้างกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และต่อสู้กับเชื้อโรค แต่ผู้ป่วยโรคไตควรจำกัดปริมาณการบริโภค หรือประมาณ 600-800 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว/วัน เนื่องจากไตไม่สามารถกำจัดของเสียจากการเผาผลาญโปรตีนได้ทั้งหมด และหากมีของเสียหลงเหลืออยู่ในกระแสเลือดอาจก่อให้เกิดอาการมึนงง อาเจียน และหมดสติได้
งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เรื่องการบริโภคโปรตีนและโรคไตเรื้อรัง เผยแพร่ในวารสาร Current Opinion in Clinical Nutrition & Metabolic Care ปี พ.ศ. 2560 ระบุว่า การบริโภคโปรตีนในปริมาณมาก อาจทำให้ความดันในกระจุกเลือดฝอยของไตเพิ่มสูงขึ้น และไตมีอัตราการกรองของเสียที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้กระจุกเลือดฝอยเสียหาย และอาการของโรคไตเรื้อรังแย่ลงได้
คำแนะนำในการเลือกซื้ออาหารสำหรับผู้ป่วย โรคไต
หากถามว่า โรคไตห้ามกินอะไรบ้าง ควรพิจารณาเลือกซื้ออาหารตามคำแนะนำต่อไปนี้
- เลือกซื้ออาหารที่ปรุงสุกสดใหม่ เพราะอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารกระป๋องเพราะมักมีโซเดียมสูง
- เลือกซื้อเครื่องเทศหรือเครื่องปรุงที่ปราศจากโซเดียม ลดการบริโภคเกลือ ซีอิ๊ว หรือน้ำปลา
- อ่านฉลากทุกครั้งก่อนซื้ออาหาร เพื่อสำรวจปริมาณโซเดียม ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม โดยเลือกซื้อสินค้าที่มีสารอาหารดังกล่าวในปริมาณต่ำ