สุขภาพเด็ก

สุขภาพเด็ก เป็นส่วนสำคัญในการเลี้ยงดูลูก พ่อแม่ควรให้ความสำคัญในการสังเกตความผิดปกติต่าง ๆ ตั้งแต่อาการทั่วไป จนถึงสัญญาณการติดเชื้อต่าง ๆ เรียนรู้เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับ สุขภาพเด็ก เพื่อการดูแลสุขภาพของลูกน้อย ให้เติบโตได้อย่างแข็งแรง ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพเด็ก

โปลิโอ เป็นแล้วรักษาไม่หาย แต่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

โปลิโอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไข้ไขสันหลังอักเสบ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสโปลิโอ (Poliovirus) ซึ่งเคยส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์ในอดีต โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก แม้ว่าในปัจจุบันโรคนี้จะลดลงอย่างมากเนื่องจากการพัฒนาวัคซีน แต่ความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคและการป้องกันยังคงมีความสำคัญ [embed-health-tool-vaccination-tool] โปลิโอ คืออะไร โรคโปลิโอเกิดจากเชื้อไวรัสในตระกูล Picornavirus โดยไวรัสนี้แบ่งเป็น 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ PV1, PV2 และ PV3 ซึ่งไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อน รวมถึงการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยตรง เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย มันจะแพร่กระจายในลำไส้และระบบประสาทส่วนกลาง ทำลายเซลล์ประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออัมพาต การแพร่กระจายของโรค โรคโปลิโอแพร่กระจายได้ง่ายในพื้นที่ที่มีการสุขาภิบาลไม่ดี โดยเชื้อไวรัสจะถูกขับออกจากร่างกายผู้ติดเชื้อผ่านทางอุจจาระ แล้วปนเปื้อนในน้ำหรืออาหาร นอกจากนี้ การสัมผัสใกล้ชิด เช่น การสัมผัสมือหรือของใช้ส่วนตัวที่มีเชื้อไวรัสอยู่ ก็เป็นอีกเส้นทางที่โรคสามารถแพร่กระจายได้ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน อาการของโรคโปลิโอ โรคโปลิโอมีลักษณะอาการหลากหลาย ตั้งแต่ไม่มีอาการไปจนถึงอัมพาตรุนแรง ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ (70-90%) ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อได้ อาการเบื้องต้น รวมถึงไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ และคลื่นไส้ อาการรุนแรง ได้แก่ อัมพาตของแขนขา หรือในบางกรณีเชื้อไวรัสอาจทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ ส่งผลให้เสียชีวิต สำหรับบางคนที่เคยติดเชื้อ อาจเกิดภาวะ กลุ่มอาการหลังโปลิโอ (Post-Polio Syndrome) ในระยะเวลาหลายปีหลังจากการติดเชื้อ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและปวดกล้ามเนื้อ การป้องกันด้วยวัคซีน ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคโปลิโอเฉพาะเจาะจง การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรับวัคซีน […]

หมวดหมู่ สุขภาพเด็ก เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพเด็ก

ปัญหาสุขภาพเด็กแบบอื่น

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ ท่อน้ำตาอุดตัน ทารก

ท่อน้ำตาอุดตัน ทารก อาจเกิดขึ้นจากปัญหาด้านพัฒนาการของท่อน้ำตา ความผิดปกติของกระดูกจมูก หรือการติดเชื้อในบริเวณใกล้เคียง เช่น จมูกติดเชื้อ เยื่อบุตาอักเสบ ทำให้มีน้ำตาไหลมาก แสบระคายเคืองตา และอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็น ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตพบอาการดังกล่าว ควรพาลูกเข้ารับการรักษาในทันที [embed-health-tool-vaccination-tool] การสร้างน้ำตา ดวงตาเคลือบด้วยน้ำตา (tear film) ที่มีอยู่ 3 ชั้น เพื่อเป็นการชะล้างฝุ่นละอองและเศษผงต่าง ๆ โดยแต่ละชั้น มีดังนี้ ชั้นนอกสุด เป็นชั้นไขมัน (lipid) ที่สร้างมาจากต่อมไขมันมัยโบเมียน (meibomian glands) ซึ่งอยู่บริเวณหนังตา ชั้นกลาง เป็นน้ำที่สร้างมาจากต่อมน้ำตา (lacrimal gland) ซึ่งอยู่ในบริเวณด้านบนของดวงตาทั้งสองข้าง ชั้นสุดท้าย หรือชั้นในสุด เป็นเมือกซึ่งบำรุงกระจกตาและหล่อเลี้ยงพื้นผิวดวงตาด้วยน้ำตา เมื่อกะพริบตา หนังตาจะกระจายน้ำตาไปทั่วผิวตา ในภาวะปกติ น้ำตามีการระบายลงผ่านทางรูเปิดของท่อน้ำตา (puncta และ canaliculi) ซึ่งอยู่บริเวณเปลือกตาด้านหัวตาทั้งบนและล่าง จากนั้นจะต่อไปยังถุงน้ำตา (tear sac) แล้วค่อยไหลผ่านช่องที่เรียกว่า ท่อน้ำตา (tear duct หรือ nasolacrimal duct) […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

อาการไอในเด็กเล็ก คุณพ่อคุณแม่บรรเทาได้ด้วยวิธีธรรมชาติ

อาการไอในเด็กเล็ก เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นจากหวัดและหายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่หากอาการไอเป็น ๆ หาย ๆ หรือเป็นเรื้อรังจนรบกวนชีวิตประจำวัน คุณพ่อคุณแม่อาจใช้วิธีธรรมชาติในการช่วยบรรเทาอาการไอที่เกิดขึ้น จากนั้น ควรพาเด็กไปพบคุณหมอเพื่อรักษา ที่สำคัญไม่ควรซื้อยามาให้เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปีรับประทานเอง เพราะอาจเกิดอาการข้างเคียงขึ้นได้ [embed-health-tool-vaccination-tool] วิธีบรรเทาอาการไอในเด็กเล็กด้วยวิธีธรรมชาติ สำหรับ อาการไอในเด็กเล็ก คุณพ่อคุณแม่อาจบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นได้ด้วยวิธีธรรมชาติก่อนพาเด็กไปพบคุณหมอได้ดังนี้ อาจป้อนน้ำผึ้ง น้ำผึ้ง เป็นส่วนผสมที่เกิดจากธรรมชาติ ซึ่งอาจใช้ในการเยียวยาอาการเจ็บป่วย ทั้งยังมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการหวัด หากลูกมีอาการไอรุนแรง ลองให้รับประทานน้ำผึ้งครึ่งช้อนก่อนนอน จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ และลดอาการไอได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้น้ำผึ้งกับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี เพราะน้ำผึ้งไม่เหมาะกับระบบย่อยอาหารที่ยังไม่สมบูรณ์ของเด็ก จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Canadian Family Physician เมื่อ พ.ศ. 2014 ศึกษาเกี่ยวกับน้ำผึ้งใช้รักษาอาการไอในเด็ก พบว่า การให้เด็กรับประทานน้ำผึ้ง 1 ครั้งก่อนนอน อาจช่วยลดอาการไอของเด็กได้ ทั้งนี้ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัย อาจให้ดื่มน้ำอุ่น การดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ อาจช่วยลดน้ำมูก ที่ทำให้เกิดอาการคัดจมูก และช่วยทำให้โล่งคอ ส่งผลทำให้อาการไออาจดีขึ้นด้วยเมื่อคอโล่งขึ้น สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน คุณแม่อาจให้เด็กดื่มนมอุ่น ๆ หรือนมผง […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

ไอเรื้อรังในเด็ก สาเหตุและวิธีรับมือที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้

การไอ เป็นอาการที่พบได้ทั่วไปในเด็ก เกิดจากร่างกายตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอม เช่น ไวรัส ที่อาจเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ แต่หาก ไอเรื้อรังในเด็ก หรือไอนานเกิน 4 สัปดาห์ รักษาแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือยิ่งแย่ลง คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรละเลย และควรพาเด็กไปเข้ารับการรักษาที่เหมาะสมโดยเร็ว เพราะอาการไอเรื้อรังในเด็ก อาจเป็นสัญญาณของภาวะสุขภาพที่รุนแรงกว่า ไอนานแค่ไหนถึงเรียกว่าเรื้อรัง การไอเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อการระคายเคืองหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เส้นประสาทจะส่งสัญญาณไปยังสมอง ให้สมองขจัดสิ่งแปลกปลอม เช่น เสมหะ น้ำหอม ฝุ่นละออง หรือเชื้อโรค เช่น ไวรัส ออกจากทางเดินหายใจ สำหรับเด็ก หากมีอาการไอไม่ถึง 2 สัปดาห์ เรียกว่า อาการไอเฉียบพลัน แต่หากไอต่อเนื่องยาวนานกว่า 4 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน ถือว่าไอเรื้อรัง ซึ่งอาการไอเรื้อรังในเด็กนี้ถือเป็นอาการที่พบได้บ่อย คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมที่สุด สาเหตุของอาการ ไอเรื้อรังในเด็ก สาเหตุที่พบได้บ่อยของอาการไอเรื้อรังในเด็ก เช่น อาการหลังติดเชื้อไวรัส โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่ กลุ่มอาการครูป (Croup/Laryngotracheobronchitis) โรคโควิด-19 สามารถทำให้เด็กมีอาการไอติดต่อกันได้ยาวนานหลายสัปดาห์ เด็กที่เป็นไข้หวัดธรรมดาอาจมีอาการไอแค่ก ๆ หากเป็นไข้หวัดใหญ่มักมีอาการไอแห้ง ส่วนกลุ่มอาการครูปจะทำให้เด็กมีอาการไอเสียงก้องพร้อมหายใจเสียงดัง ส่วนใหญ่มักเกิดในตอนกลางคืน อาการไอเรื้อรังในเด็กที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสนี้ไม่มียารักษาจำเพาะ […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

เด็กเป็นไข้ อาการ และวิธีการรับมือ

เด็กเป็นไข้ อาจสังเกตได้จากอาการอุณภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับมีอาการร้องไห้ งอแง ไม่ยอมนอน ไม่ยอมกิน หรือมีอาการเซื่องซึมกว่าปกติ โดยปกติอาการไข้มักไม่เป็นอันตรายใด ๆ และสามารถบรรเทาได้ด้วยการเช็ดตัว ให้ลูกดื่มน้ำให้เพียงพอ นอนพักผ่อน หรืออาจให้ยาลดไข้สำหรับเด็ก อย่างไรก็ตาม หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไข้สูง เป็นไข้ไม่ยอมหาย ชัก ควรรีบพาไปพบคุณหมอเพื่อรักษาในทันที อาการที่บอกว่าเด็กเป็นไข้ อุณหภูมิที่ถือว่าเด็กเป็นไข้ คือประมาณ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ดังนี้ ไม่ยอมนอน ไม่ยอมกิน ไม่อยากเล่น หงุดหงิด อารมณ์เสีย เซื่องซึม เฉื่อยชา ชัก เด็กเป็นไข้ อันตรายหรือไม่ ที่จริงแล้ว ไข้ไม่ได้ถือว่าเป็นโรค แต่มันเป็นแค่ “อาการ” อย่างหนึ่ง ที่ร่างกายของคนเราต่อสู้กับอาการติดเชื้อ และระบบภูมิคุ้มกันกำลังทำงาน เด็กมักจะเป็นไข้ได้มากกว่าผู้ใหญ่ และเป็นไข้ได้บ่อยจากอาการเล็กน้อยเพียง อย่าง หวัดธรรมดา โดยปกติแล้ว อาการไข้ในเด็กมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส หรืออาจมีสาเหตุบางอย่างที่อาจพบไม่บ่อยนัก เช่น ปอดบวม ทางเดินปัสสาวะอักเสบ การติดเชื้อในหู […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

ไข้สูง ปัญหาสุขภาพวัยเด็กที่พบบ่อยกับวิธีดูแลในเบื้องต้น

ไข้สูง ที่เกิดขึ้นกับเด็กทารกเป็นปัญหาสุขภาพที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจ โดยเฉพาะหากเด็กทารกในช่วงวัยอายุไม่เกิน 3 เดือน หากมีไข้สูง จำเป็นต้องพาลูกไปโรงพยาบาลทันที ส่วนเด็กในช่วงวัยสามเดือนเป็นต้นมา คุณพ่อคุณแม่อาจดูแลรักษาในเบื้องต้นได้ เช่น การวัดไข้ และหมั่นเช็ดตัว เป็นต้น แต่ทั้งนี้ อาจต้องคอยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากไข้ไม่ลด อาจต้องรีบพาไปโรงพยาบาลเช่นกัน ไข้สูง เกิดจากสาเหตุใด อาการตัวร้อนและมีไข้ถือเป็นอาการที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ผู้ปกครองมากกว่า 60% ที่มีลูกอยู่ในวัย 6 เดือนและ 5 ปีพบว่าลูกของพวกเขาเคยมีอาการดังกล่าว เวลาที่เด็กตัวร้อน หมายถึง การที่ร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อ โดยอาการเป็นไข้ ตัวร้อน มักจะเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเล็กน้อย เช่น ไอหรือไข้หวัด และสามารถรักษาที่บ้านได้ นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าอาการตัวร้อนจะสร้างความกังวลให้กับผู้ปกครอง แต่เด็กๆ มักจะมีอาการดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ไข้สูง คุณพ่อคุณแม่รับมืออย่างไร ถ้าทารกอายุไม่เกิน 4 เดือน แล้วมีไข้สูง โดยมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส (100.4 องศาฟาเรนไฮต์) ควรพาเด็กไปโรงพยาบาล ส่วนเด็กที่อายุมากกว่า 4 เดือน ผู้ปกครองอาจปฏิบัติดังนี้ วัดอุณหภูมิร่างกาย วัดอุณหภูมิทางปาก สำหรับเด็กที่อายุ 4-5 […]


สุขภาพเด็ก

มลพิษทางอากาศ ส่งผลต่อสุขภาพเด็ก ได้อย่างไรบ้าง

มลพิษทางอากาศ อาจ ส่งผลต่อสุขภาพของเด็ก และพัฒนาการต่าง ๆ เช่น ปอด สมอง การเรียนรู้ เนื่องจาก เด็กเป็นวัยที่เสี่ยงต่อมลพิษทางอากาศมากกว่าวัยอื่น ๆ และปอดของเด็กกำลังเติบโตและหายใจรับอากาศเข้าไปได้มาก ดังนั้น การป้องกันเด็กจากมลพิษทางอากาศ จึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและพัฒนาการที่ดีของเด็ก มลพิษทางอากาศ ส่งผลต่อสุขภาพเด็ก อย่างไร มลพิษทางอากาศอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพเด็ก ในด้านต่าง ๆ ดังนี้ อาจส่งผลต่อการทำงานของปอด เด็กอาศัยอยู่ภายในบริเวณ 100 เมตรจากถนนสายสำคัญที่มีมลพิษทางอากาศต่าง ๆ เช่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ควันจากท่อไอเสีย อาจทำให้การทำงานของปอดแย่กว่าเด็กที่อาศัยอยู่ห่างจากถนนสายสำคัญออกไป 400 เมตรหรือมากกว่า อาจทำให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด มลพิษทางอากาศ ฝุ่นละออง อาจส่งผลต่อทารกที่อยู่ในครรภ์ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด นอกจากนี้ การคลอดก่อนกำหนดยังอาจเกิดขึ้นได้บ่อยในเวลาที่เกิดมลพิษ อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของปอด เด็กที่เติบโตในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศมากอาจมีความเสี่ยงที่ปอดจะเจริญเติบโตได้ลดลง ทั้งยังอาจทำให้ปอไม่สามารถกลับคืนสภาพเดิมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งผลกระทบของมลพิษทางอากาศอาจเทียบได้กับผลกระทบที่เกิดขึ้นในเด็กที่เติบโตในบ้านที่มีผู้ปกครองที่สูบบุหรี่ ผลกระทบอื่น ๆ ต่อสุขภาพเด็ก ปอดของเด็กยังคงพัฒนา ดังนั้น การสูดดมมลพิษทางอากาศเข้าไปมาก ๆ อาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของปอดได้ สมองของเด็ก ๆ […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

โรคไอกรน (Whooping cough) อาการ สาเหตุ และการรักษา

โรคไอกรน เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่รุนแรงในจมูกและลำคอ ในกรณีส่วนใหญ่ โรคนี้สังเกตได้จากอาการไอแค็ก ๆ ตามด้วยการเกิดเสียงแหลมดังขึ้นขณะหายใจเข้า [embed-health-tool-bmi] คำจำกัดความ โรคไอกรนคืออะไร โรคไอกรน (Whooping cough) หรือ Pertussis จัดเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่รุนแรงในจมูกและลำคอ ในกรณีส่วนใหญ่ โรคนี้สังเกตได้จากอาการไอแค็ก ๆ ตามด้วยการเกิดเสียงแหลมดังขึ้นขณะหายใจเข้า โรคไอกรนสามารถแพร่กระจายได้ง่าย แต่สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน DTaP และวัคซีน Tdap ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โรคไอกรนพบบ่อยเพียงใด โรคไอกรนพบในทารกและเด็กมากกว่าวัยผู้ใหญ่ แต่สามารถส่งผลต่อผู้ป่วยได้ทุกวัย สามารถจัดการได้โดยลดความเสี่ยง โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อาการ อาการของโรคไอกรน ระยะเวลาแสดงอาการของโรคมักอยู่ที่ประมาณ 10 วันหลังจากได้รับเชื้อ โดยสิ่งบ่งชี้และอาการทั่วไปของไอกรนในระยะเริ่มแรกมักไม่รุนแรงและคล้ายคลึงกับอาการหวัดโดยทั่วไป เช่น น้ำมูกไหล คัดจมูก ตาแดงและน้ำตาไหล มีไข้ ไอ หลังจาก 1-2 สัปดาห์ผ่านไป สิ่งบ่งชี้และอาการจะเริ่มแย่ลง โดยจะมีอาการไอรุนแรงและเป็นเวลานาน ซึ่งก่อให้เกิดอาการร่วมต่างๆ ดังนี้ อาเจียน ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือเขียวคล้ำ อ่อนเพลียมาก หายใจแล้วมีเสียงแหลมเกิดขึ้น อาจไม่พบอาการไอในทารกที่เป็นโรคไอกรน แต่อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจหรืออาจหยุดหายใจชั่วคราว อาจมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการบางประการที่ไม่ได้กล่าวถึงข้างต้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการ โปรดปรึกษาแพทย์ ควรไปพบหมอเมื่อใด ควรไปพบหมอหากมีอาการใดๆ ดังต่อไปนี้ อาเจียน ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือเขียว หายใจลำบากหรือหยุดหายใจอย่างสังเกตได้ หายใจเข้าแล้วมีเสียงดัง สาเหตุ สาเหตุของโรคไอกรน แบคทีเรียเป็นสาเหตุของโรคไอกรน โดยเมื่อสัมผัสกับผู้ติดเชื้อหรืออยู่ใกล้ผู้ติดเชื้อที่ไอหรือจาม แล้วอาจหายใจเอาละอองขนาดเล็กที่มีเชื้อที่แพร่กระจายในอากาศเข้าสู่ปอด ปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยเสี่ยงของโรคไอกรน มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่ทำให้เกิดโรคไอกรน เช่น วัคซีนไอกรนที่ได้รับในวัยเด็กหมดฤทธิ์ไป […]


ปัญหาระบบย่อยอาหารในเด็ก

ลูกท้องผูก สาเหตุ อาการ วิธีรับมือ

ลูกท้องผูก เป็นปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่รู้สึกกังวลใจ เพราะบางครั้งไม่สามารถช่วยเหลือลูกน้อยได้ โดยส่วนใหญ่เด็กที่มีอาการท้องผูกมักขับถ่ายได้น้อยหรือมีอุจจาระแข็งและแห้ง โดยขับถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์  และมีอาการปวดขณะขับถ่าย แต่อาจมีอาการอื่นที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกตด้วยเช่นกัน คำจำกัดความลูกท้องผูก คืออะไร ลูกท้องผูก (Constipation in children) เป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไป เด็กที่มีอาการท้องผูกมักขับถ่ายได้น้อยหรือมีอุจจาระแข็งและแห้ง ลูกท้องผูก พบบ่อยเพียงใด ท้องผูกพบได้ทั่วไปในเด็ก โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อาการ อาการลูกท้องผูก เป็นอย่างไร อาการทั่วไป ได้แก่ ขับถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ อุจจาระแข็ง แห้ง และถ่ายยาก อุจจาระมีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่มาก มีอาการปวดขณะขับถ่าย ปวดท้อง มีร่องรอยอุจจาระเหลวหรือคล้ายดินเหนียว ในกางเกงชั้นในของเด็ก ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ว่า อุจจาระไหลย้อนกลับเข้าไปในทวารหนัก อุจจาระแข็งและมีรอยเลือดปน อาจมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการบางประการที่ไม่ได้กล่าวถึงข้างต้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการ โปรดปรึกษาแพทย์ ควรไปพบหมอเมื่อใด ควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการท้องผูกมากกว่า 2 สัปดาห์ หรือเกิดขึ้นร่วมกับอาการดังต่อไปนี้ อาการไข้ อาเจียน เลือดปนในอุจจาระ ท้องบวม น้ำหนักลด มีบาดแผลบริเวณผิวหนังโดยรอบทวารหนัก ลำไส้ยื่นออกมาจากทวารหนัก สาเหตุสาเหตุลูกท้องผูก สาเหตุที่ลูกท้องผูกที่พบได้มากที่สุด คือ การที่อุจจาระเคลื่อนที่ผ่านทางทางเดินอาหารช้ากว่าปกติ ทำให้อุจจาระแข็งและแห้ง และยังมีปัจจัยอีกหลายประการที่ทำให้ลูกท้องผูก ซึ่งได้แก่ การกลั้นอุจจาระ เด็กอาจไม่ยอมถ่ายอุจจาระเนื่องจากกลัวโถส้วมหรืออยากเล่นต่อ เด็กบางคนมักกลั้นอุจจาระเมื่ออยู่นอกบ้านเนื่องจากไม่สะดวกที่จะเข้าห้องน้ำสาธารณะ การขับถ่ายอุจจาระขนาดใหญ่และแข็งทำให้เด็กรู้สึกเจ็บ และยังอาจมักกลั้นอุจจาระไว้ เมื่อรู้สึกเจ็บเวลาขับถ่าย เด็กก็จะพยายามกลั้นอุจจาระไว้ เพราะไม่อยากเจ็บซ้ำอีก การฝึกการเข้าห้องน้ำ หากเด็กเพิ่งเริ่มฝึกการเข้าห้องน้ำ อาจจะยังขัดขืนและกลั้นอุจจาระไว้ หากเด็กรู้สึกว่าถูกบังคับให้เข้าห้องน้ำจะสร้างนิสัยการขับถ่ายที่ไม่ดีและจะเปลี่ยนแปลงได้ยาก การเปลี่ยนแปลงอาหารที่รับประทาน หากเด็กไม่รับประทานผักและผลไม้ที่มีกากใยและดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ก็ทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ นอกจากนี้ การที่เด็กในวัยหนึ่งเปลี่ยนจากการกินอาหารเหลวทั้งหมดมาเป็นอาหารแข็ง ก็มีส่วนทำให้เกิดอาการท้องผูกได้เช่นกัน การเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวัน การเปลี่ยนแปลงใดๆ เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของเด็ก เช่น การเดินทาง […]


ความผิดปกติทางพัฒนาการและพฤติกรรม

โรคดื้อต่อต้าน ในเด็กและวัยรุ่น มีวิธีสังเกตและรับมืออย่างไร

โรคดื้อต่อต้าน เป็นภาวะผิดปกติทางพฤติกรรมที่มักพบในเด็กที่เริ่มโต หรือวัยรุ่น เด็กมักแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว  เอาแต่ใจ พูดไม่ฟัง ชอบสร้างความขัดแย้ง หาเรื่องผู้อื่น จนสร้างปัญหาให้ตัวเองและผู้คนรอบข้าง โรคนี้เป็นโรคทางพฤติกรรมที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่เหมาะสมโดยเร็ว เพราะหากปล่อยไว้ อาจนำไปสู่พฤติกรรมที่อาจเป็นอันตรายถึงถึงชีวิต และส่งผลต่อการใช้ชีวิตในสังคมได้ [embed-health-tool-vaccination-tool] โรคดื้อต่อต้าน คืออะไร โรคดื้อต่อต้าน (Oppositional Defiant Disorder หรือ ODD) คือ ความผิดปกติทางพฤติกรรมที่เริ่มต้นในช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่น เด็กที่เป็นโรคนี้จะแสดงพฤติกรรมต่อต้าน เมินเฉย ไม่เชื่อฟัง ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำร้องขอจากผู้อื่น เพราะคิดว่าคำสั่งหรือคำขอเหล่านั้นไร้เหตุผล จึงรู้สึกโมโห และแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกมา โดยเด็กที่เป็นโรคดื้อต่อต้านมักจะมีอาการของโรคสมาธิสั้น โรควิตกกังวล และโรคซึมเศร้าร่วมด้วย การที่เด็กดื้อรั้น หรือไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่บ้างบางครั้งนับเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะเมื่อเด็กรู้สึกเหนื่อย อารมณ์เสีย หรือไม่ได้ดั่งใจ แต่เด็กที่เป็นโรคดื้อต่อต้าน จะแสดงพฤติกรรมเหล่านี้เป็นประจำ และพฤติกรรมจะรุนแรงขึ้น จนเป็นปัญหารบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของเด็กและผู้คนรอบข้าง ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคดื้อต่อต้านมีทั้งปัจจัยทางชีวภาพ จิตใจ และสังคม เช่น กรรมพันธุ์ ความขัดแย้งภายในครอบครัว พ่อแม่หย่าร้าง การใช้ความรุนแรงในครอบครัว คนในครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นโรคทางจิตเวช ครอบครัวมีผู้ติดยาเสพติดหรือแอลกอฮอล์ การเลี้ยงลูกผิดวิธี การถูกรังแกหรือถูกละเลย ครอบครัวมีฐานะยากจน หรือมีปัญหาทางการเงิน พฤติกรรมแบบใดเข้าข่ายเป็นโรคดื้อต่อต้าน หากเด็กมีอาการเหล่านี้เป็นเวลานานกว่า 6 เดือน อาจเข้าข่ายเป็นโรคดื้อต่อต้าน สัญญาณทางความคิด […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

ธาลัสซีเมียในเด็ก อาการ สาเหตุ วิธีรักษาและป้องกัน

ธาลัสซีเมียในเด็ก เป็นโรคเลือดที่เกิดจากการสร้างฮีโมโกลบินของร่างกายผิดปกติ ธาลัสซีเมียมีหลายประเภท บางชนิดไม่แสดงอาการใดๆ ในขณะที่ชนิดอื่นอาจทำให้เสียชีวิต หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที [embed-health-tool-vaccination-tool] ธาลัสซีเมียในเด็ก คืออะไร ธาลัสซีเมีย (Thalassemia) เป็นโรคเกี่ยวกับเลือด ที่เกิดจากการสร้างฮีโมโกลบินของร่างกายผิดปกติ หากลูกน้อยเป็นธาลัสซีเมีย จะมีระดับฮีโมโกลบิน และเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกายน้อยกว่าปกติ โรคนี้พบได้มากที่สุดในเด็กที่สืบเชื้อสายมาจากประเทศในแถบเมดิเตอร์เรเนียน แอฟริกา และเอเชีย ธาลัสซีเมียมีหลายประเภท บางชนิดไม่แสดงอาการใด ๆ ในขณะที่ชนิดอื่นอาจทำให้เสียชีวิต หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาการของธาลัสซีเมียในเด็ก หากลูกน้อยเป็นธาลัสซีเมีย อาจมีอาการดังนี้ อ่อนเพลีย หมดแรง ผิวซีด กระดูกใบหน้าผิดรูป การเจริญเติบโตช้า ปัสสาวะมีสีเข้ม ท้องบวม สาเหตุของธาลัสซีเมียในเด็ก ธาลัสซีเมียเกิดจากยีนที่ทำหน้าที่สร้างฮีโมโกลบินมีความบกพร่อง เด็กอาจได้รับการถ่ายทอดยีนดังกล่าวจากพ่อหรือแม่ หรือทั้งสองคน หากทั้งพ่อและแม่มียีนบกพร่อง ทารกจะมีอาการอยู่ในระดับธาลัสซีเมียใหญ่ หรือ ธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง (Thalassemia Major) เมื่อมียีนผิดปกติถ่ายทอดมาจากพ่อหรือแม่ หรือจากทั้งสองคน หากทารกมีอาการอยู่ในระดับธาลัสซีเมียน้อย หรือ ธาลัสซีเมียไมเนอร์ (Thalassemia minor) แล้ว ทารกจะเป็นเพียงพาหะของยีนบกพร่อง การรักษาธาลัสซีเมียในเด็ก คุณหมอจะพิจารณาสัญญาณบ่งชี้และอาการ และทดสอบเลือด เพื่อยืนยันอาการผ่านการทดสอบต่างๆ ได้แก่ การตรวจตัวอย่างรกเด็ก การเจาะตรวจน้ำคร่ำ และการตรวจตัวอย่างเลือดทารกในครรภ์ ผู้ป่วยในระดับธาลัสซีเมียน้อย ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษา ในขณะที่ผู้ป่วยในระดับธาลัสซีเมียใหญ่ ต้องเข้ารับการถ่ายเลือดเป็นประจำทุกเดือน […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน