สุขภาพเด็ก

สุขภาพเด็ก เป็นส่วนสำคัญในการเลี้ยงดูลูก พ่อแม่ควรให้ความสำคัญในการสังเกตความผิดปกติต่าง ๆ ตั้งแต่อาการทั่วไป จนถึงสัญญาณการติดเชื้อต่าง ๆ เรียนรู้เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับ สุขภาพเด็ก เพื่อการดูแลสุขภาพของลูกน้อย ให้เติบโตได้อย่างแข็งแรง ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพเด็ก

โปลิโอ เป็นแล้วรักษาไม่หาย แต่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

โปลิโอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไข้ไขสันหลังอักเสบ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสโปลิโอ (Poliovirus) ซึ่งเคยส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์ในอดีต โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก แม้ว่าในปัจจุบันโรคนี้จะลดลงอย่างมากเนื่องจากการพัฒนาวัคซีน แต่ความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคและการป้องกันยังคงมีความสำคัญ [embed-health-tool-vaccination-tool] โปลิโอ คืออะไร โรคโปลิโอเกิดจากเชื้อไวรัสในตระกูล Picornavirus โดยไวรัสนี้แบ่งเป็น 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ PV1, PV2 และ PV3 ซึ่งไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อน รวมถึงการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยตรง เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย มันจะแพร่กระจายในลำไส้และระบบประสาทส่วนกลาง ทำลายเซลล์ประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออัมพาต การแพร่กระจายของโรค โรคโปลิโอแพร่กระจายได้ง่ายในพื้นที่ที่มีการสุขาภิบาลไม่ดี โดยเชื้อไวรัสจะถูกขับออกจากร่างกายผู้ติดเชื้อผ่านทางอุจจาระ แล้วปนเปื้อนในน้ำหรืออาหาร นอกจากนี้ การสัมผัสใกล้ชิด เช่น การสัมผัสมือหรือของใช้ส่วนตัวที่มีเชื้อไวรัสอยู่ ก็เป็นอีกเส้นทางที่โรคสามารถแพร่กระจายได้ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน อาการของโรคโปลิโอ โรคโปลิโอมีลักษณะอาการหลากหลาย ตั้งแต่ไม่มีอาการไปจนถึงอัมพาตรุนแรง ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ (70-90%) ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อได้ อาการเบื้องต้น รวมถึงไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ และคลื่นไส้ อาการรุนแรง ได้แก่ อัมพาตของแขนขา หรือในบางกรณีเชื้อไวรัสอาจทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ ส่งผลให้เสียชีวิต สำหรับบางคนที่เคยติดเชื้อ อาจเกิดภาวะ กลุ่มอาการหลังโปลิโอ (Post-Polio Syndrome) ในระยะเวลาหลายปีหลังจากการติดเชื้อ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและปวดกล้ามเนื้อ การป้องกันด้วยวัคซีน ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคโปลิโอเฉพาะเจาะจง การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรับวัคซีน […]

หมวดหมู่ สุขภาพเด็ก เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพเด็ก

วัคซีน

วัคซีน เด็ก ที่ควรได้รับ และเคล็ดลับไม่ให้ลูกงอแงตอนรับวัคซีน

เมื่อต้องไปฉีด วัคซีน เด็ก เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้สามารถป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ เช่น ไวรัสตับอักเสบบี โปลิโอ บาดทะยัก หัด คางทูม  สุกใส ไข้หวัดใหญ่ เด็ก ๆ อาจยังไม่เข้าใจถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการฉีดวัคซีนมากพอ และสนใจเพียงความรู้สึกเจ็บที่เคยได้รับจากการฉีดวัคซีนเท่านั้น ทำให้มีอาการงอแงเมื่อรู้ว่าต้องไปฉีดวัคซีนในครั้งต่อไป คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นต้องศึกษาวิธีที่ช่วยให้ลูกสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ราบรื่น รวมถึงวิธีดูแลลูกหลังฉีดวัคซีน เพื่อให้การฉีดวัคซีนของลูกในแต่ละครั้งเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพน้อยที่สุด [embed-health-tool-vaccination-tool] วัคซีน เด็ก ที่ควรฉีดในแต่ละช่วงวัย วัคซีนพื้นฐานที่ควรฉีดให้กับเด็ก มีดังนี้ วัคซีนป้องกันบีซีจี หรือวัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG) เป็นวัคซีนป้องกันวัณโรคปอดและวัณโรคเยื่อหุ้มสมองในเด็กเล็ก เด็กจะได้รับวัคซีนชนิดนี้เพียงครั้งเดียวภายในเวลา 24 ชั่วโมงหลังคลอด และไม่ต้องฉีดซ้ำอีกตลอดชีวิต วัคซีนป้องกันตับอักเสบบี (HB1 และ HB2) เป็นวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ควรฉีดภายในเวลา 24 ชั่วโมงหลังคลอด และอาจฉีดซ้ำเข็มที่ 2 เมื่อเด็กมีอายุ 1 เดือน ในกรณีที่ตรวจพบว่าคุณแม่เป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบบี กรณีคุณแม่ไม่เป็นพาหะตับอักเสบบี จะฉีดวัคซีนที่อายุ 2 เดือน วัคซีนป้องกันคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี (DTP-HB1) เป็นวัคซีนรวมโรคชนิดทั้งเซลล์ (DTWP) […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

วิธีรับมือเมื่อลูกลิ้นเป็นร้อนใน

ลิ้นเป็นร้อนใน คือ ภาวะที่มีแผลเปื่อยขนาดเล็กเกิดขึ้นบริเวณลิ้น ลิ้นบวมแดง หรือเป็นสีขาว รวมทั้งบนเนื้อเยื่ออ่อนบริเวณอื่นภายในช่องปากได้ด้วย ทั้งริมฝีปากด้านใน กระพุ้งแก้ม เพดานปาก เหงือก หรือลิ้น เมื่อลิ้นเป็นร้อนในมักทำให้รู้สึกเจ็บหรือแสบ ภาวะนี้พบได้ทั่วไปในคนทุกเพศทุกวัย แต่อาจพบบ่อยในเด็ก เมื่อลูกเป็นร้อนใน คุณพ่อคุณแม่ควรบรรเทาอาการด้วยการให้ลูกดื่มน้ำมาก ๆ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เป็นต้น โดยทั่วไป ภาวะร้อนในไม่เป็นอันตราย ไม่ติดต่อไปยังบุคคลอื่น และสามารถหายเองได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากมีอาการรุนแรงขึ้น หรืออาการไม่หายไปภายใน 3 สัปดาห์ ควรพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อเข้ารับการรักษาและวินิจฉัยอาการเพิ่มเติม [embed-health-tool-vaccination-tool] ลิ้นเป็นร้อนใน เกิดจากอะไร สาเหตุที่ทำให้ลิ้นเป็นร้อนในยังไม่แน่ชัดนัก แต่สันนิษฐานว่าอาจเกิดได้จากสาเหตุดังต่อไปนี้ เกิดจากการทำทันตกรรม การแปรงฟันรุนแรงเกินไป การเผลอกัดลิ้น เป็นต้น ติดเชื้อโรคเอชไพโลไร (Helicobacter pylori หรือ H. pylori) ที่เป็นเชื้อเดียวกับแบคทีเรียที่อยู่ในกระเพาะอาหาร ทำให้ลิ้นอักเสบ ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อเซลล์ปกติภายในช่องปากแทนการโจมตีเชื้อโรคแปลกปลอมอย่างไวรัสและแบคทีเรีย ใช้ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของสารโซเดียมลอริลซัลเฟต (Sodium Lauryl Sulfate) ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดฟอง แต่มีฤทธิ์ค่อนข้างแรง อาจทำให้เนื้อเยื่อในปากระคายเคืองและทำให้เป็นแผลที่ลิ้นได้ ขาดสารอาหารบางชนิด เช่น วิตามินบี […]


สุขภาพเด็ก

Cystic fibrosis คืออะไร ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของลูกอย่างไร

Cystic fibrosis (ซิสติก ไฟโบรซิส) คือ โรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อปอดและทางเดินหายใจ ระบบย่อยอาหาร และระบบสืบพันธุ์ โรคนี้ไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่อาจบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ด้วยการใช้ยาหรือการบำบัด ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับลูก เช่น อาการไอแบบมีเสมหะ หายใจลำบาก ท้องผูกเรื้อรัง และควรพาลูกพบคุณหมอทันทีเพื่อทำการรักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต Cystic fibrosis คืออะไร Cystic fibrosis คือ โรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากความผิดปกติของยีน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบที่ควบคุมการดูดซึมของโซเดียมและน้ำ จนส่งผลให้สารคัดหลั่งมีความเหนียวข้นกว่าปกติ และอาจอุดตันหรือสร้างความเสียหายต่ออวัยวะภายในร่างกาย เช่น ระบบทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ระบบสืบพันธุ์ มักเกิดในคนต่างชาติมากกว่าคนชาวเอเชีย อาการของ Cystic fibrosis คุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตอาการของลูกที่เป็น Cystic fibrosis ได้ดังนี้ ไอแบบมีเสมหะ คัดจมูก หายใจเสียงดัง หายใจถี่ อุจจาระมีกลิ่นเหม็นและมันเยิ้ม น้ำหนักขึ้น ท้องบวม มีปัญหาด้านการเจริญเติบโต ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ท้องผูกเรื้อรังเนื่องจากลำไส้อุดตัน จนอาจส่งผลให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของลำไส้ยื่นออกมาทางทวารหนัก นอกจากนี้ หากสังเกตว่าลูกมีอาการหายใจลำบาก มีเสมหะปริมาณมาก อ่อนเพลีย น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว ท้องอืด ไอ อาเจียนและอุจจาระเป็นเลือด ควรพาเข้าพบคุณหมอทันที โรค Cystic […]


ความผิดปกติทางพัฒนาการและพฤติกรรม

โรคดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome) สาเหตุ อาการ การรักษา

โรคดาวน์ซินโดรม เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่มีหน้าตาลักษณะเฉพาะ ส่งผลทำให้เกิดความบกพร่องทางพฤติกรรม สติปัญญา พัฒนาการตั้งแต่เด็ก ซึ่งอาจมีระดับความรุนแรงแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล โดยอาจสังเกตได้จากอาการสมาธิสั้น ปัญหาด้านการเรียนรู้ และปัญหาด้านการสื่อสาร บางคนอาจมีภาวะแทรกซ้อนทางด้านโรคหัวใจ โรคมะเร็งเม็ดเลือด โรคพร่องฮอร์โมน โรคดาวน์ซินโดรมไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถฝึกฝนเพื่อกระตุ้นพัฒนาการด้านการสื่อสารและการเรียนรู้ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ แต่ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง และต้องรักษาภาวะโดรคที่เกิดร่วม คำจำกัดความโรคดาวน์ซินโดรม คืออะไร โรคดาวน์ซินโดรม คือ กลุ่มอาการที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นตั้งแต่กำเนิด เกิดจากการที่โครโมโซมในร่างกายคู่ที่ 21 เกินมา จึงส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ และพัฒนาการของร่างกาย อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็น การได้ยิน และการทำงานของหัวใจ โรคดาวน์ซินโดรมไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาด แต่อาจรักษาตามอาการ และให้ลูกเรียนรู้ในการอยู่กับโรคเพื่อให้ใช้ชีวิตได้สะดวกมากขึ้น อาการอาการของโรคดาวน์ซินโดรม อาการของโรคดาวน์ซินโดรม อาจสังเกตได้จาก หน้าตาที่มีลักษณะเฉพาะ ศีรษะ หู มือ และเท้า มีขนาดเล็ก คอสั้น ผิวหนังด้านหลังคอย่น จมูกแบนราบ รอยพับบนฝ่ามือและนิ้วที่มีความย่นของผิวหนัง จุดสีขาวเล็ก ๆ ในม่านตา รูปทรงดวงตาคล้ายถั่วอัลมอนด์และมีลักษณะเอียงขึ้น ปากขนาดเล็ก จนลิ้นอาจยื่นออกจากปาก ลิ้นจุกปาก มีปัญหาด้านการมองเห็นและการได้ยิน กล้ามเนื้ออ่อนแรง ข้อต่อหลวม การเจริญเติบโตล่าช้า ความจำสั้น สมาธิสั้น ปัญญาอ่อน พูดไม่ชัด ไม่เป็นคำ เนื่องจากมีพัฒนาการด้านภาษาล่าช้า การทำงานของหัวใจบกพร่อง ปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ สาเหตุสาเหตุของโรคดาวน์ซินโดรม สาเหตุของโรคดาวน์ซินโดรมเกิดจากการที่โครโมโซมคู่ที่ 21 (Trisomy 21) เกินมา โดยปกติแล้วร่างกายจะมีโครโมโซม 23 คู่ หรือ 46 แท่ง […]


ความผิดปกติทางพัฒนาการและพฤติกรรม

อาการดาวน์ซินโดรม สาเหตุ ภาวะแทรกซ้อน และวิธีดูแลที่ควรรู้

อาการดาวน์ซินโดรม คือภาวะทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของโครโมโซมในร่างกาย ส่งผลให้เกิดความบกพร่องทางพฤติกรรม สติปัญญา และพัฒนาการ ซึ่งอาจสังเกตได้จากการเรียนรู้ล่าช้า ชอบทำกิจกรรมเดิม ๆ ซ้ำกันเป็นกิจวัตร คุณพ่อคุณแม่ควรใช้ความเข้าใจในการดูแลลูกที่เป็นดาวน์ซินโดรม อีกทั้งควรพาเข้ารับการบำบัดตามโปรแกรมที่คุณหมอแนะนำ เพื่อให้ลูกสามารถใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเองเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต อาการดาวน์ซินโดรม มีสาเหตุมาจากอะไร โดยปกติแล้วร่างกายจะมีโครโมโซม 23 คู่ หรือ 46 แท่ง ที่ได้รับจากคุณพ่อคุณแม่อย่างละครึ่ง แต่หากโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง รวมเป็น 47 แท่ง ดังนั้นจึงอาจส่งผลให้ลูกเสี่ยงเป็นดาวน์ซินโดรม ดาวน์ซินโดรมแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่  ไตรโซมี 21 (Trisomy 21) คือภาวะที่ โครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 ชุด เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด Translocation Down syndrome คือภาวะที่โครโมโซมคู่ที่ 21 แบ่งตัวออก แล้วเคลื่อนย้ายไปติดกับโครโมโซมคู่อื่น ๆ Mosaic Down syndrome เป็นภาวะที่เกิดจากการแบ่งตัวของโครโมโซมผิดปกติหลังจากที่มีการแบ่งตัวไปบางส่วนแล้ว ทำให้ร่างกายอาจมีโครโมโซม […]


โรคระบบประสาทในเด็ก

กลุ่มอาการดาวน์ เกิดจากอะไร และควรดูแลลูกอย่างไร

กลุ่มอาการดาวน์ หรือดาวน์ซินโดรม (Down syndrome) เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่อาจแสดงอาการตั้งแต่เด็ก โดยอาจสังเกตได้จากพฤติกรรม การแสดงออก การสื่อสาร และการเรียนรู้ที่ล่าช้า สมาธิสั้น ซึ่งเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถฝึกทักษะต่าง ๆ เพิ่มช่วยส่งเสริมให้ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต กลุ่มอาการดาวน์ เกิดจากอะไร กลุ่มอาการดาวน์ เป็นโรคทางพันธุกรรมอย่างหนึ่ง ที่เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมในคู่ที่ 21 โดยปกติแล้วร่างกายจะมีโครโมโซม 23 คู่ หรือ 46 แท่ง ที่ได้รับจากคุณพ่อคุณแม่อย่างละครึ่ง แต่หากโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง รวมเป็น 47 แท่ง ก็อาจเสี่ยงเป็นกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม ส่งผลให้ลูกอาจมีสติปัญญาบกพร่อง มีพัฒนาการการเคลื่อนไหวและการเรียนรู้ล่าช้า อีกทั้งยังอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของหัวใจ การมองเห็นและการได้ยินผิดปกติ ประเภทของกลุ่มอาการดาวน์ ประเภทของกลุ่มอาการดาวน์ มี 3 ประเภท ดังนี้  Trisomy 21 เป็นประเภทที่พบได้บ่อย เกิดจากโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง Translocation Down syndrome คือภาวะที่โครโมโซมคู่ที่ […]


วัคซีน

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ การฉีดวัคซีน โควิด-19 สำหรับเด็ก

การฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็ก อาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอาการรุนแรงเมื่อติดเชื้อได้ โดยสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 5 ขวบขึ้นไป หรือตามคำแนะนำของคุณหมอ อีกทั้งยังควรปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เช่น ให้ลูกสวมหน้ากากอนามัย ฝึกให้ลูกล้างมือบ่อย ๆ และไม่ควรพาลูกไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง มีผู้คนมาก เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ทำไมเด็กจึงควรรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 โรคโควิด-19 สามารถเป็นได้ทุกช่วงวัย ไม่เว้นแม้แต่วัยเด็ก จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทยระบุว่า เด็กอายุแรกเกิด-18 ปี ที่ติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ เดือนเมษายน-เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 มีทั้งหมด 310,648 ราย เสียชีวิตสะสม 59 ราย อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อในเด็กลดลงต่อเนื่อง และมีจำนวนเด็กเสียชีวิตน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงอายุอื่น ๆ การพาเด็กเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยสร้างแอนติบอดี ลดความเสี่ยงการเกิดอาการรุนแรง และลดการแพร่กระจายเชื้อไปยังคนอื่น ๆโดยเฉพาะเมื่อได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสตามกำหนด อายุที่เหมาะสมสำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อาจเริ่มตั้งแต่อายุ 5 ขวบ สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่าควรปรึกษาคุณหมอ เพราะอาจจำเป็นต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาชัดเจนมากเพียงพอ ชนิดของวัคซีนโควิด-19 ที่เหมาะสำหรับเด็ก สำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 5-17 ปี อาจเหมาะสำหรับวัคซีน Pfizer-BioNTech […]


สุขภาพเด็ก

ลูกไม่ยอมนอน เกิดจากอะไร ควรแก้ไขอย่างไร

ลูกไม่ยอมนอน ตื่นกลางคืนบ่อย หรือหลับยาก อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น นอนกลางวันมากเกินไป อยู่ในช่วงวัยที่ห่วงเล่น ความเจ็บป่วย และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่รบกวนการนอนหลับของลูก หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกพักผ่อนเพียงพอ ควรศึกษาวิธีแก้ไขปัญหาที่ช่วยให้ลูกนอนหลับได้สนิท เพื่อป้องกันอาการเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียระหว่างวัน สาเหตุที่ทำให้ลูกไม่ยอมนอน ลูกไม่ยอมนอน อาจมีสาเหตุดังต่อไปนี้ นอนกลางวันมากเกินไป ลูกอาจรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรมระหว่างวัน เช่น วิ่งเล่น เล่นกีฬา จนอาจเผลองีบหลับในตอนกลางวันนานเกินไป ทำให้ไม่รู้สึกง่วงเมื่อถึงเวลาที่ควรนอน และอาจตื่นในตอนกลางคืน อยู่ในช่วงวัยห่วงเล่น เมื่อลูกเริ่มมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว การเรียนรู้ และการเข้าสังคมมากขึ้น อาจทำให้มีความกระตือรือร้นตลอดเวลา ห่วงเล่นกับคุณพ่อคุณแม่ เพื่อน หรือของเล่นต่าง ๆ จนทำให้ลูกไม่ยอมนอน การเจ็บป่วย ความรู้สึกไม่สบายตัวจากการเจ็บป่วย อาจทำให้ลูกไม่ยอมนอนหรือหลับไม่สนิท ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตได้จากอาการต่าง ๆ เช่น มีไข้ ท้องเสีย กินอาหารได้น้อย ร้องไห้ สภาพแวดล้อม เช่น อากาศภายในห้องร้อนเกินไป เสียงรบกวน แสงไฟ การเคลื่อนไหวของคุณพ่อคุณแม่ อาจรบกวนการนอนของลูกทำให้ลูกสะดุ้งตื่นและไม่ยอมนอนอีก ความหิว เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยในทารก เนื่องจากลูกน้อยมีกระเพาะอาหารขนาดเล็ก ทำให้จุอาหารได้น้อย และย่อยอาหารได้เร็ว […]


สุขภาพเด็ก

ลูกตื่นกลางดึก และคำแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่

ลูกตื่นกลางดึก เป็นเรื่องปกติที่คุณพ่อคุณแม่อาจพบเจอ โดยเฉพาะในเด็กทารกแรกเกิด ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น สภาพแวดล้อมที่รบกวนการนอนหลับ รู้สึกหิว ไม่สบายตัวจากการเจ็บป่วย อีกทั้งการที่ลูกตื่นกลางดึกบ่อยครั้งอาจส่งผลให้คุณพ่อคุณแม่นอนพักผ่อนไม่เต็มที่ จนเกิดความเครียด รู้สึกเหนื่อยล้า ดังนั้น จึงควรดูแลตัวเอง เพิ่มความผ่อนคลาย และนอนหลับให้เพียงพอ ลูกตื่นกลางดึก เกิดจากอะไร ลูกตื่นกลางดึกอาจเกิดจากหลายปัจจัย ดังต่อไปนี้ อยู่ในช่วงปรับตัว เพราะทารกแรกเกิดจำเป็นต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับโลกภายนอกหลังคลอด จึงอาจยังไม่รู้เวลาการนอนที่เหมาะสม ส่งผลให้อาจตื่นกลางดึกบ่อยครั้ง รู้สึกหิว พบได้บ่อยในเด็กทารก เนื่องจากลูกน้อยมีกระเพาะอาหารขนาดเล็ก ทำให้จุอาหารได้น้อย ย่อยอาหารได้เร็ว ลูกจึงอาจรู้สึกหิวบ่อยจนทำให้ตื่นกลางดึก ทารกที่รู้สึกหิวมักจะตื่นและส่งสัญญาณด้วยการร้องไห้ให้คุณพ่อคุณแม่ทราบ ฟันเริ่มงอก เมื่อลูกอายุได้ 4-6 เดือน ฟันจะเริ่มงอก ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเจ็บและปวดเหงือก จึงทำให้ลูกมักสะดุ้งตื่นกลางดึก นอนกลางวันมากเกินไป ถึงแม้ทารกจะต้องการเวลานอนมากถึง 16 ชั่วโมง/วัน แต่การนอนในแต่ละครั้งใช้เวลาสั้น ๆ เท่านั้น ดังนั้น จึงไม่ควรปล่อยให้นอนช่วงกลางวันนานเกินไป นอกจากนี้ สำหรับลูกอยู่ในช่วงวัยที่มีความคล่องตัว มีการเคลื่อนไหว อาจรู้สึกเหนื่อยล้าจากการเล่นระหว่างวัน ทำให้อาจเผลองีบหลับในตอนกลางวันเป็นเวลานาน จนทำให้ไม่รู้สึกง่วงเมื่อถึงเวลาที่ควรนอน หรือตื่นขึ้นกลางดึก มีแก๊สในกระเพาะอาหารมาก ทารกอาจมีระบบย่อยอาหารที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้การย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดี หรืออาจเป็นเพราะกลืนอากาศมากเกินไปขณะกินนมจึงทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร […]


สุขภาพเด็ก

6 โรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ที่พบบ่อย

โรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติหรือการกลายพันธุ์ของยีนในร่างกาย และสามารถสืบทอดกันภายในครอบครัว โดยโรคทางพันธุกรรมที่พบบ่อย ได้แก่ ฮีโมฟีเลีย โรคกล้ามเนื้อเสื่อม โรคโลหิตจางเซลล์เคียว (Sickle Cell Disease) โรคซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis) โรคเตย์-แซคส์  (Tay-Sachs Disease) โรคฮันติงตัน (Huntington's Disease) ซึ่งอาจทำให้เกิดความผิดปกติทางร่างกายและสติปัญญาตั้งแต่ยังเป็นทารก โรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม คืออะไร โรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม คือ โรคที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวโดยอาจถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกคนใดคนหนึ่งหรือทั้งหมด และสามารถถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อ ๆ ไปได้ด้วย โดยโรคทางพันธุกรรมเป็นผลมาจากการกลายพันธุ์ของยีนที่ควบคุมการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เช่น สีผิว ความสูง ไอคิว ซึ่งหากยีนของพ่อหรือแม่มีความผิดปกติก็อาจทำให้หน่วยพันธุกรรมเปลี่ยนแปลงไปและทำให้เกิดโรคทางพันธุกรรม 6 โรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม โรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่พบบ่อย มีดังนี้ โรคฮีโมฟีเลีย (Hemophilia) โรคฮีโมฟีเลียเป็นโรคที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัว ซึ่งนำไปสู่การตกเลือดหรือเลือดไหลไม่หยุดเมื่อบาดเจ็บหรือทำการผ่าตัด มีสาเหตุมาจากการกลายพันธุ์ของยีนไปขัดขวางการทำงานของโปรตีนในร่างกายทำให้เลือดไม่สามารถแข็งตัวได้ อาจทำให้เกิดปัญหาแทรกซ้อน ดังนี้ เลือดออกภายในข้อต่อ อาจนำไปสู่โรคข้อเรื้อรังและทำให้เกิดอาการปวด เลือดออกในศีรษะและสมอง อาจทำให้เกิดปัญหาระยะยาว เช่น อาการชัก อัมพาต เสียชีวิต หากไม่สามารถหยุดเลือดในอวัยวะสำคัญ เช่น สมอง อาการที่บ่งบอกว่ากำลังเป็นโรคฮีโมฟีเลีย ได้แก่ เลือดออกในข้อต่อ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน