พ่อแม่เลี้ยงลูก

ในทุกช่วงชีวิตของลูกน้อย เหล่าคุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องรู้วิธีดูแลและสนับสนุนสุขภาพโดยรวมของลูกน้อย เพื่อให้ความเป็นอยู่ของลูกน้อยดีขึ้น เพราะฉะนั้นใน พ่อแม่เลี้ยงลูก คุณจะได้พบกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงเคล็ดลับในการดูแลลูกให้แข็งแรง มีความสุข และสามารถปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์

เรื่องเด่นประจำหมวด

พ่อแม่เลี้ยงลูก

โปลิโอ เป็นแล้วรักษาไม่หาย แต่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

โปลิโอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไข้ไขสันหลังอักเสบ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสโปลิโอ (Poliovirus) ซึ่งเคยส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์ในอดีต โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก แม้ว่าในปัจจุบันโรคนี้จะลดลงอย่างมากเนื่องจากการพัฒนาวัคซีน แต่ความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคและการป้องกันยังคงมีความสำคัญ [embed-health-tool-vaccination-tool] โปลิโอ คืออะไร โรคโปลิโอเกิดจากเชื้อไวรัสในตระกูล Picornavirus โดยไวรัสนี้แบ่งเป็น 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ PV1, PV2 และ PV3 ซึ่งไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อน รวมถึงการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยตรง เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย มันจะแพร่กระจายในลำไส้และระบบประสาทส่วนกลาง ทำลายเซลล์ประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออัมพาต การแพร่กระจายของโรค โรคโปลิโอแพร่กระจายได้ง่ายในพื้นที่ที่มีการสุขาภิบาลไม่ดี โดยเชื้อไวรัสจะถูกขับออกจากร่างกายผู้ติดเชื้อผ่านทางอุจจาระ แล้วปนเปื้อนในน้ำหรืออาหาร นอกจากนี้ การสัมผัสใกล้ชิด เช่น การสัมผัสมือหรือของใช้ส่วนตัวที่มีเชื้อไวรัสอยู่ ก็เป็นอีกเส้นทางที่โรคสามารถแพร่กระจายได้ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน อาการของโรคโปลิโอ โรคโปลิโอมีลักษณะอาการหลากหลาย ตั้งแต่ไม่มีอาการไปจนถึงอัมพาตรุนแรง ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ (70-90%) ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อได้ อาการเบื้องต้น รวมถึงไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ และคลื่นไส้ อาการรุนแรง ได้แก่ อัมพาตของแขนขา หรือในบางกรณีเชื้อไวรัสอาจทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ ส่งผลให้เสียชีวิต สำหรับบางคนที่เคยติดเชื้อ อาจเกิดภาวะ กลุ่มอาการหลังโปลิโอ (Post-Polio Syndrome) ในระยะเวลาหลายปีหลังจากการติดเชื้อ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและปวดกล้ามเนื้อ การป้องกันด้วยวัคซีน ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคโปลิโอเฉพาะเจาะจง การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรับวัคซีน […]

หมวดหมู่ พ่อแม่เลี้ยงลูก เพิ่มเติม

สำรวจ พ่อแม่เลี้ยงลูก

เด็กทารก

เคล็ดลับในการเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อ ดูแลผิวทารก มีอะไรบ้าง

การ ดูแลผิวทารก ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะค่อนข้างบอบบางและแพ้ง่าย ต้องใช้ทั้งเวลาและความใส่ใจ โดยเฉพาะการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์ทาบำรุงผิว ควรเลือกชนิดอ่อนโยนและสำหรับใช้กับทารกเท่านั้น นอกจากนั้น ยังมีวิธีการอื่น ๆ ที่จะช่วยให้ผิวทารกนั้นเนียนนุ่มและไร้ผดผื่น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับทารกปลอดภัยจริงหรือเปล่า ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวและเส้นผม ที่ระบุบนฉลากว่า สำหรับทารก อาจมีสารกระตุ้นอาการระคายเคืองหลายอย่าง ทารกบางคน อาจจะสามารถใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้ตามปกติ แต่บางคนอาจจะเกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนังได้  ยิ่งไปกว่านั้น สารเติมแต่งอย่างพาราเบน (paraben) และพาทาเลต (phthalate)  ไดบิวทิล พาทาเลต (dibutyl phthalate) ไดเมทิลพาทาเลต (dimethylphthalate) และไดเอทิลพาทาเลต (diethyl phthalate)  คือ สาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้ผิวทารกเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ ดังนั้น ก่อนเลือใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ในการดูแลผิวทารก ควรอ่านฉลากให้ละเอียด หรือไม่หากไม่แน่ใจควรปรึกษาคุณหมอเพื่อขอคำแนะนำ วิธีการเลือกผลิตภัณฑ์ ดูแลผิวทารก วิธีเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทารก สามารถทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ ได้แก่ ใช้เฉพาะสิ่งที่พื้นฐาน  โดยปกติแล้ว ทารกไม่ต้องการสบู่และแชมพูจำนวนมาก การใช้เพียงแค่สบู่ธรรมดาและน้ำสะอาดก็เพียงพอแล้ว นอกจากนี้ ยังไม่ควรอาบน้ำให้ทารกบ่อยเกินไป แค่วันละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว หากอาบน้ำให้ทารกบ่อยเกินไป อาจเสี่ยทำให้ทารกผิวแห้งเกินไปได้ หรือเกิดผื่นคันได้ มองหาส่วนประกอบที่เป็นธรรมชาติ  ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทารก […]


โภชนาการเด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

เลือกกิน กินยาก เด็กเป็นแบบนี้เพราะสื่อโฆษณาหรือเปล่า

คนเรามักมีนิสัยชอบหรือไม่ชอบกินอาหารบางอย่าง ส่วนใหญ่เนื่องมาจากเรื่องของรสชาติ แต่หากเด็กมีนิสัย เลือกกิน กินยาก อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เช่น ทำให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ และปัญหาด้านพัฒนาการของเด็กได้ ซึ่งนิสัยเลือกกินของเด็ก ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากสื่อโฆษณาที่เด็กดู จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องคัดกรองสื่อที่จะให้เด็กดู และคอยดูแลด้านโภชนาการของเด็กให้ดีและเหมาะสมตามวัย ความชอบหรือไม่ชอบอาหารเกิดเร็วกว่าที่คิด เป็นความจริงที่ว่า เราจะมีรสชาติที่ชอบและไม่ชอบได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดด้วยซ้ำ ความชอบเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงไป เมื่อเราเติบโตขึ้น รสชาติของอาหาร เช่น รสหวานและเค็มนั้น เป็นรสชาติที่คนมักชอบกันมาตั้งแต่เกิด โดยนักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า สัตว์ที่กินพืช จะชอบอาหารและเครื่องดื่มรสหวาน เนื่องจากมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า น้ำตาลมีความเข้มข้นของพลังงานที่สูง และมักจะไม่มีพิษ รสขม เป็นรสชาติที่คนมักจะไม่ชอบมาแต่กำเนิด เนื่องจากอาหารที่มีรสขมส่วนใหญ่มักจะมีพิษ แต่เนื่องจากสัญชาตญาณเพื่อการเอาชีวิตรอดในธรรมชาติ พืชจึงพัฒนากลไกเพื่อรับมือกับสัตว์กินพืช ในขณะที่สัตว์เหล่านั้น ก็พัฒนาระบบประสาทสัมผัสที่เข้มข้นขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการกินพิษเช่นกัน และโชคดีที่ความชอบนั้น สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ด้วยการเปิดรับรสชาตินั้นเป็นประจำ แม้ว่ามนุษย์จะเกิดมาพร้อมกับความชื่นชอบในรสหวาน เราก็ยังสามารถที่จะเรียนรู้ที่จะชอบรสขมได้ ด้วยประสบการณ์การลิ้มรสที่ผ่านๆ มา เราอาจจะไม่รู้ว่า อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มได้มีการใช้ข้อมูลนี้เพื่อผลประโยชน์ เพื่อพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดและการโฆษณา พวกเขาได้สร้างลักษณะนิสัยการกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพในเด็ก ด้วยการส่งเสริมการสร้างความชื่นชอบต่ออาหารที่ทำลายสุขภาพ ซึ่งความชอบนี้อาจจะยังคงติดตัวอยู่ต่อไปจนถึงวัยผู้ใหญ่เลยก็ได้ เลือกกิน กินยาก นิสัยที่อาจมาจากสื่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม  ผักและผลไม้ ที่มีสารอาหารและวิตามินที่ดีต่อสุขภาพ เช่น  บร็อคโคลี่และแครอท ไม่มีพื้นที่ในการโฆษณามากนัก เด็กๆ ได้เห็นโฆษณาเกี่ยวกับอาหารขยะตลอดเวลา […]


การเติบโตและพัฒนาการ

ลูกดื้อ ไม่เชื่อฟัง คุณพ่อคุณแม่ควรทำอย่างไร

ลูกดื้อ ไม่เชื่อฟัง มักเป็นปัญหาที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกกังวล ทั้งที่จริงแล้ว ช่วงวัยเด็ก โดยเฉพาะวัย 3-5 ขวบเป็นช่วงที่ลูกกำลังเรียนรู้ที่จะเริ่มสร้างความท้าทาย คุณพ่อคุณแม่ควรใช้ช่วงเวลานี้ทำความเข้าใจและสร้างความไว้ใจให้ลูก หาวิธีรับมือลูกดื้อโดยที่ไม่จำเป็นต้องดุหรือลงโทษ [embed-health-tool-vaccination-tool] สาเหตุที่ทำให้ ลูกดื้อ ไม่เชื่อฟัง การที่เด็กดื้อถือว่าเป็นเรื่องปกติ ถือเป็นหนึ่งในพัฒนาการด้านอารมณ์ ความคิด นอกจากนั้น ในบางสถานการณ์อาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้ เด็กกำลังจดจ่ออยู่กับบางสิ่ง หากเด็กทำกิจกรรมบางอย่างอยู่ เช่น อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ หรือทำการบ้าน เด็กๆ อาจไม่ได้ยินสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่พูด และไม่ทำตามที่คุณพ่อคุณแม่บอก ให้มองในแง่ดีว่าเด็กกำลังมีสมาธิกับสิ่งที่ทำอยู่ อย่างไรก็ตาม ถ้าเริ่มรู้สึกว่าลูกไม่เชื่อฟัง อาจแก้ปัญหาได้ด้วยการสนทนากันอย่างตรงไปตรงมา แสดงความต้องการ พูดสบตากับลูก ก็จะทำให้ลูกละจากกิจกรรมที่ทำอยู่ได้ ระวังน้ำเสียงและคำพูด การคิดก่อนพูดยังคงเป็นสิ่งสำคัญเสมอ โดยคุณพ่อคุณแม่ควรระวังน้ำเสียง และประโยคที่ใช้พูดกับลูก เนื่องจากการตะโกน หรือใช้อารมณ์อาจไม่เป็นผลดี และอาจทำให้ลูกมีพฤติกรรมไม่เชื่อฟังมากกว่าเดิม พูดหลายประเด็นเกินไป เด็ก ๆ อาจไม่สามารถจำรายละเอียดได้ทั้งหมด ดังนั้น เวลาที่ผู้ปกครองต้องการให้เด็กทำอะไรบางอย่าง ควรพูดในประเด็นที่สำคัญประมาณ 1-2 ประเด็น หากเด็ก ๆ ไม่ทำตามเนื่องจากอาจเก็บข้อมูลไม่ได้ทั้งหมด จึงดูเหมือนเป็นการไม่เชื่อฟัง และอาจทำโทษลูกโดยที่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจึงถูกทำโทษ เด็ก ๆ […]


ปัญหาระบบย่อยอาหารในเด็ก

เด็กแพ้แลคโตส สาเหตุ และวิธีการรับมือ

เด็กแพ้แลคโตส (Lactose Intolerance) คือภาวะที่ร่างกายของเด็กไม่สามารถย่อยแลคโตส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่อยู่ในนมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัว เช่น ชีส โยเกิร์ต เนย ทำให้มีอาการท้องอืด ท้องเสีย ปวดท้อง และอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารอื่น ๆ เมื่อรับประทานนมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมเข้าไป หากเด็กมีอาการแพ้แลคโตส ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อหาวิธีการรับมือที่เหมาะสม [embed-health-tool-bmi] เด็กแพ้แลคโตส คืออะไร แพ้แลคโตส เกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่สามารถย่อยแลคโตสได้ เนื่องจากร่างกายขาดเอนไซม์แลคเตส (Lactase) ที่จะย่อยแลคโตสในลำไส้เล็ก โดยแลคโตส คือ น้ำตาลที่พบในนมหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมวัว ถ้าเด็กแพ้แลคโตส พวกเขาอาจมีอาการบางอย่างหลังจากดื่มนม หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมวัว โดยอาการเหล่านี้ ได้แก่ ท้องอืด ท้องเสีย มีแก๊สในกระเพาะ ปวดท้อง วิงเวียนศีรษะ ร่วมด้วยอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับทางเดินอาหารที่สามารถปรากฏขึ้นได้ นอกจากนี้การแพ้แลคโตสจะแตกต่างกับการแพ้นม และต่างจากการแพ้โปรตีนในนมวัวด้วย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตลูกๆและติดตามพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเด็กอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันอาการแพ้แลคโทสที่สามารถเกิดขึ้นได้ เด็กแพ้แลคโตส เกิดจากสาเหตุใด การแพ้แลคโตสสามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยสามารถเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้ การเป็นโรคหรือการติดเชื้อระบบย่อยอาหาร บาดเจ็บที่ลำไส้เล็ก คนในครอบครัวมีประวัติการแพ้แลคโตส กรณีนี้เมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้ร่างกายสร้างเอนไซม์ย่อยแลคโตสน้อยลง โดยอาการจะเกิดขึ้น ในช่วงที่เป็นวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ เด็กที่คลอดก่อนกำหนด ซึ่งการแพ้แลคโตสจะเกิดขึ้นในเวลาสั้น ๆ และจะหายไปในที่สุด ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะแพ้แลคโตส การแพ้แลคโตสเป็นอาการที่พบบ่อยในชาวเอเชีย ชาวพื้นเมืองอเมริกัน ชาวแอฟริกัน-อเมริกัน และชาวลาตินอเมริกา โดยคนส่วนใหญ่ที่แพ้แลคโตสจะเป็นไปตลอดชีวิต แต่สำหรับเด็กบางคนการแพ้แลคโตสเป็นอาการชั่วคราว […]


วัคซีน

แพ้วัคซีน ในเด็ก คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตได้อย่างไร

วัคซีน มีความสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อสู้กับเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย ลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรวมถึงโรคร้ายแรง ถึงแม้วัคซีนจะเป็นสิ่งจำเป็น แต่สำหรับบางคนอาจก่อให้เกิดอาการ แพ้วัคซีน หลังฉีดได้ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่มีอาการแพ้ต่อสิ่งต่าง ๆ ดังนั้น หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่พาลูกเข้ารับการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว ควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น และเข้าพบคุณหมอเพื่อทำการรักษาทันที [embed-health-tool-vaccination-tool] อาการแพ้วัคซีน อาการแพ้วัคซีนในระดับไม่รุนแรงอาจส่งผลให้มีอาการบวมแดงบริเวณที่ได้รับการฉีด มีผื่นขึ้นตามตัว และอาจมีไข้ระดับต่ำ แต่หากมีอาการแพ้อย่างรุนแรง อาจก่อให้เกิดอาการหลังฉีดภายในไม่กี่นาที และควรรับการรักษาจากคุณหมอทันที ดังนี้ หายใจหอบ หายใจถี่ วิงเวียนศีรษะ ไอ อาเจียน ระดับความดันโลหิตต่ำ ท้องเสีย หัวใจเต้นแรง เกิดลมพิษ ผิวซีด คอบวม ผู้ที่มีความเสี่ยง แพ้วัคซีน ผู้ป่วยที่มีประวัติการแพ้อาหารอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะแพ้วัคซีน เนื่องจากวัคซีนบางชนิดอาจมีส่วนประกอบจากอาหารที่ทำให้แพ้ เช่น โปรตีนชนิดเดียวกับที่อยู่ในไข่ ดังนั้นหากมีประวัติการแพ้อาหาร ต่อไปนี้ ควรแจ้งให้คุณหมอทราบก่อนการฉีด กลุ่มคนที่แพ้ไข่ วัคซีนบางชนิดมีโปรตีนไข่ เช่น วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันโรคหัด โรคคางทูม และโรคหัดเยอรมัน รวมถึงวัคซีนที่ไม่ใช่วัคซีนพื้นฐาน อย่างวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลือง และวัคซีนป้องกันโรคไข้ไทฟอยด์ กลุ่มคนที่แพ้เจลาติน หากแพ้เจลาติน ควรแจ้งให้คุณหมอทราบก่อนฉีดวัคซีน เพราะมีวัคซีนหลายชนิดที่มีส่วนผสมของเจลาติน เช่น วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส วัคซีนป้องกันโรคหัด […]


การดูแลทารก

วิธีการสอนให้ลูกกินแบบ BLW

BLW (Baby Led Weaning) หมายถึง การให้ลูกหยิบอาหารกินด้วยตัวเอง อาหารที่นำมาให้ลูกฝึกกินควรเป็นอาหารที่ ค่อนข้างแข็งเล็กน้อย และควรผ่านการปรุงสุกเพื่อช่วยให้กินได้ง่าย เหมาะสำหรับเด็กเล็ก โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นอาหารประเภทผักและผลไม้ เช่น เช่น มะละกอ แอปเปิ้ล มะเขือเทศ แครอท การฝึกให้ลูกกินแบบ BLW ควรเริ่มตั้งแต่ช่วงอายุ 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่สามารถเริ่มรับประทานอาหารอื่นนอกจากนมได้ สามารถเริ่มหยิบจับสิ่งของได้ และเริ่มนั่งตัวตรงได้แล้ว การฝึกให้ลูกกินแบบ BLW เป็นการเสริมทักษะเพื่อให้ลูกสามารถเริ่มหัดช่วยเหลือตัวเองได้ และอาจช่วยประหยัดเวลาในการป้อนอาหารได้มากขึ้น [embed-health-tool-baby-poop-tool] เมื่อไหร่ลูกจะพร้อมฝึก BLW  ลูกควรมีอายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยที่สามารถนั่งบนเก้าอี้แบบทรงตัวตรง ๆ ได้ด้วยตัวเอง เพราะต้องกินอาหารได้เองแบบที่ไม่ต้องมีคนคอยช่วย เพียงแค่คอยสังเกตพฤติกรรมเท่านั้น การนั่งเองได้เป็นสิ่งที่สำคัญมากกับการกินแบบBLW เมื่อเด็กสามารถนั่งเองได้ก็จะง่ายต่อการกิน หยิบจับของได้ การกินแบบนี้ส่วนใหญ่เน้นให้เด็ก ๆ กินด้วยตัวเอง คุณพ่อหรือคุณแม่ควรสังเกตจากขั้นพื้นฐานของลูกในเรื่องการเริ่มหยิบจับสิ่งของ เริ่มเคี้ยวอาหารได้ แม้ว่าฟันของเด็ก ๆ จะยังไม่ขึ้นเต็มที่ แต่เขาก็มีเหงือกที่แข็งแรงพอที่จะเคี้ยวบดอาหารได้แล้ว วิธีการฝึกให้ลูกหยิบอาหารกินด้วยตัวเอง ให้ลูกนั่งร่วมโต๊ะอาหารในทุก ๆ มื้ออาหาร แม้เขาอาจจะไม่ได้กินอาหารในทุก ๆ […]


เลี้ยงลูกด้วยนมแม่

น้ำมะนาวกับคุณแม่ให้นมลูก เครื่องดื่มดี ๆ สำหรับคุณแม่

น้ำมะนาว อาจเป็นเครื่องดื่มโปรดของคุณแม่หลายคน แต่สำหรับ คุณแม่ให้นมลูกอาจมีความกังวลใจว่า การดื่มน้ำมะนาวจะส่งผลเสียต่อลูกหรือไม่ ความจริงแล้ว น้ำมะนาวนอกจากจะไม่เป็นอันตรายแล้ว ยังอาจเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับคุณแม่ที่กำลังให้นมลูก เนื่องจาก น้ำมะนาวมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจช่วยป้องกันการเสริมของเซลล์ในร่างกาย และช่วยเพิ่มระดับพลังงานให้คุณแม่ได้ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้การไหลเวียนโลหิตในร่างกายดีขึ้น ซึ่งอาจทำให้คุณภาพของน้ำนมดีขึ้น น้ำมะนาวกับคุณแม่ให้นมลูก เกี่ยวข้องกันอย่างไร น้ำมะนาวเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดื่มน้ำมะนาวในช่วงให้นมลูกอาจช่วยกระตุ้นและสร้างความสดชื่นให้ร่างกาย สำหรับคุณแม่ที่อาจรู้สึกเหนื่อยในระหว่างการเลี้ยงลูกเล็ก และน้ำมะนาวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจช่วยป้องกันการเสริมของเซลล์ในร่างกาย และช่วยเพิ่มระดับพลังงานให้คุณแม่ได้ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้การไหลเวียนโลหิตในร่างกายดีขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้คุณภาพของน้ำนมดีขึ้น คุณแม่อาจดื่มน้ำมะนาวคั้นสดหรืออาจผสมกับน้ำ เพื่อให้รสชาติเบาบางลงก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มดื่มน้ำมะนาว คุณแม่ควรสังเกตอาการของลูกว่า มีอาการแพ้อะไรเกิดขึ้นเนื่องจากการดื่มน้ำมะนาวหรือไม่ หากลูกมีอาการแพ้ควรหยุดดื่มน้ำมะนาว และพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยอาการที่เกิดขึ้นทันที ประโยชน์ของการดื่มน้ำมะนาว น้ำมะนาวมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยอาจช่วยส่งเสริมสุขภาพดังนี้ อาจช่วยสุขภาพโดยรวมดีขึ้น น้ำมะนาวอาจดีต่อสุขภาพของคุณแม่และลูก โดยวิตามินและแร่ธาตุในน้ำมะนาว เช่น วิตามินซี อาจช่วยให้คุณแม่แข็งแรงขึ้น ทั้งยังอาจช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูก ซึ่งเป็นช่วงวัยที่สุขภาพยังไม่แข็งแรงและสมบูรณ์เต็มที่ อาจช่วยเพิ่มน้ำนม การดื่มน้ำมะนาวอาจช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมออกมาได้ดีขึ้น รวมทั้งยังช่วยให้น้ำนมที่ถูกผลิตออกมามีคุณภาพ เหมาะสมแก่การดูแลสุขภาพของลูก อาจดีต่อระบบย่อยอาหาร โดยทั่วไป การดื่มน้ำมะนาวอาจดีต่อระบบย่อยอาหาร ทั้งยังอาจช่วยจัดการกับปัญหาต่าง ๆ เช่น อาการท้องอืด ปวดท้อง อาหารไม่ย่อย ซึ่งลูกก็อาจพบปัญหาพวกนี้ได้บ่อยเช่นกัน ดังนั้น ในช่วงที่คุณแม่ยังให้นมลูก อาจการดื่มน้ำมะนาวหรือดื่มน้ำมะนาวผสมในน้ำเปล่า เพื่อช่วยป้องกันปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารเหล่านี้ให้กับตัวเองและลูก อาจช่วยให้น้ำนมสะอาด การดื่มน้ำมะนาวอาจช่วยในเรื่องของการทำความสะอาดน้ำนม และอาจทำให้น้ำนมของคุณแม่สะอาดขึ้น เนื่องจาก […]


เลี้ยงลูกด้วยนมแม่

ปวดหัวขณะให้นมลูก เกิดจากสาเหตุใด

ปวดหัว เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้กับคุณแม่มือใหม่ที่กำลังให้นมลูก อย่างไรก็ตาม หลังคลอดนั้นคุณแม่มือใหม่อาจจะพบเจอปัญหาที่หลากหลายอย่าง เช่น ปวดเมื่อยร่างกาย เจ็บหัวนมบ้างเป็นบางครั้ง จนอาจกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับคุณแม่มือใหม่ แต่สำหรับอาการ ปวดหัวขณะให้นมลูก อาจเป็นปัญหาแอบแฝงมากกว่าที่คุณแม่หลายคนคิด อาการ ปวดหัวขณะให้นมลูก คืออะไร ปวดหัวขณะให้นมลูก มักจะเกิดตลอดระยะเวลาที่ให้นมลูก แต่อาการนี้มักจะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอาการปวดหัวขณะให้นมลูกเกิดจากสาเหตุใด อาการที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะการเพิ่มขึ้นของระดับของฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จำเป็นสำหรับการคลอดลูกและให้นมลูก แต่ก็อาจจะมีสาเหตุมาจากเรื่องอื่นได้เช่นกัน สาเหตุของอาการปวดหัวขณะให้นมลูก กลไกการหลั่งน้ำนม คุณแม่บางคนอาจจะมีอาการปวดหัวขณะให้นมลูก เนื่องจากกลไกการหลั่งน้ำนมและการปล่อยฮอร์โมนออกซิโทซิน ในบางครั้งอาการปวดหัวนี้อาจหายไปภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ แต่ก็อาจจะมีอาการเรื้อรังต่อไปจนกว่าลูกจะหย่านม เต้านมคัด อาการเต้านมคัดเป็นผลมาจากการที่ร่างกายผลิตน้ำนมเพิ่มมากขึ้น อาการปวดหัวขณะให้นมลูกอาจมีสาเหตุมาจากการที่เต้านมของคุณแม่มีอาการตึง บวม ปวด และมีอุณหภูมิสูงขึ้น นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากปริมาณฮอร์โมนออกซิโทซินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งฮอร์โมนชนิดเดียวกันกับที่คาดว่าจะเป็นสาเหตุของอาการปวดหัวขณะตั้งครรภ์ ขาดสารอาหารหรือขาดน้ำ หากคุณแม่รับประทานอาหารไม่เพียงพอหรืองดอาหาร ระดับน้ำตาลในร่างกายจะลดลง ทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า อ่อนแรง และปวดหัวได้ นอกจากนี้ ในน้ำนมยังประกอบไปด้วยน้ำกว่า 88% คุณแม่ที่ให้นมลูกส่วนใหญ่มักจะรู้สึกกระหายน้ำขณะให้นมลูก ดังนั้น การดื่มน้ำไม่เพียงพออาจทำให้คุณแม่เกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งนำมาสู่อาการปวดหัว เหนื่อยล้า คุณแม่มือใหม่อาจเหนื่อยล้าและนอนไม่พอเนื่องจากต้องดูแลลูก การนอนไม่พอและการหมดแรงอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ ดังนั้น ควรพยายามพักผ่อน หรืองีบหลับในระหว่างวัน เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้ดีขึ้น ปวดหัวไมเกรน หากคุณแม่เคยมีอาการปวดหัวไมเกรนก่อนที่จะตั้งครรภ์อยู่แล้ว อาจทำให้อาการไมเกรนนั้นแย่ลงได้ในช่วงหลังคลอดบุตร เนื่องจาก การเปลี่ยนยาที่ใช้หรือมาจากความเครียดที่เพิ่มขึ้นขณะที่ต้องดูแลลูก วิธีแก้อาการปวดหัวขณะให้นมลูก สำหรับวิธีแก้ปัญหาอาการปวดหัวขณะให้นมลูกอาจทำได้ดังนี้ นวด การนวดอาจบรรเทาอาการปวดหัวได้ดี เพราะเป็นการคลายเส้นประสาทและช่วยผ่อนคลาย โดยอาจนวดเป็นวงกลมไปรอบ ๆ ศรีษะ ดื่มน้ำ เป็นหนึ่งในการรักษาการขาดน้ำจากร่างกาย […]


ปัญหาระบบย่อยอาหารในเด็ก

ลูกท้องผูก อาการ สาเหตุ วิธีบรรเทาอาการ

ลูกท้องผูก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ไม่ว่าจะเป็น เด็กอาจถ่ายอุจจาระไม่ออก อุจจาระมีลักษณะแข็งหรือแห้ง ทำให้เวลาถ่ายอุจจาระแต่ละทีต้องใช้เวลานาน หรือต้องพยายามเบ่งจนเหนื่อย โดยส่วนใหญ่ลูกท้องผูกเป็นอาการที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เและเป็นปัญหาสุขภาพที่คุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือได้  แต่ไม่ควรปล่อยไว้นานเกินไป หากเป็นบ่อยครั้งควรรีปปรึกษาแพทย์ อาการแบบไหนที่ถือว่า ลูกท้องผูก การขับถ่ายของเด็กแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน แต่หากการขับถ่ายอุจจาระของลูกคุณ มีลักษณะเหล่านี้ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่า “ลูกท้องผูก” เข้าแล้ว ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ อุจจาระแข็ง แห้ง และถ่ายอุจจาระยาก อุจจาระก้อนใหญ่ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคในการขับถ่าย มีอาการเจ็บปวดขณะขับถ่าย มีอาการปวดท้อง อุจจาระเหลวหรือมีลักษณะคล้ายดินเหนียว อุจจาระแข็งและมีเลือดปน ทำไมเด็กถึงท้องผูก อาการท้องผูกในเด็กอาจเกิดจากปัจจัยเหล่านี้ อั้นอุจจาระ เด็กๆ อาจไม่สนใจการขับถ่าย เนื่องจากพวกเขาอาจกลัวการเข้าห้องน้ำ หรือติดเล่นจนไม่อยากไปเข้าห้องน้ำ ทำให้เด็กบางคนอาจอั้นอุจจาระ จนเป็นเหตุให้เกิดอาการท้องผูก อาหาร เมื่อเด็กกินอาหารที่มีไฟเบอร์อย่างผักและผลไม้ไม่เพียงพอ รวมถึงดื่มน้ำน้อย ก็สามารถทำให้เกิดอาการท้องผูกในเด็กได้ การเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวัน การเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวัน เช่น การไปท่องเที่ยว อาจส่งผลกระทบต่อเวลาในการขับถ่ายของลูก จนทำให้ลูกท้องผูกได้ ยาบางชนิด ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด สามารถทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ การแพ้นมวัว การแพ้นมวัวหรือการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมวัวมากเกินไปอาจเป็นเหตุให้เกิดอาการท้องผูก ปัญหาสุขภาพ อาการท้องผูกสามารถบ่งบอกได้ว่า เด็กๆอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร หรือมีโรคอื่น […]


การเติบโตและพัฒนาการ

ความเครียดในเด็ก สัญญาณที่พ่อแม่ควรสังเกต

ความเครียดในเด็ก อาจมีสาเหตุมาจากหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ภาระงานที่โรงเรียน เพื่อน การย้ายโรงเรียน ปัญหาครอบครัว ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจส่งผลทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเด็กไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับ คำพูด อารมณ์ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าเด็กกำลังอยู่ในภาวะเครียดได้ [embed-health-tool-vaccination-tool] สาเหตุของ ความเครียดในเด็ก ความเครียดในเด็ก อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้ ความเจ็บป่วยทางร่างกาย กังวลเรื่องผลการเรียน หรือภาระงาน หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เช่น การเป็นนักกีฬาของโรงเรียน มีปัญหากับเพื่อน ลูกอาจโดนเพื่อนรังแกที่โรงเรียน การต้องย้ายโรงเรียน หรือย้ายบ้าน มีความคิดลบ ๆ เกี่ยวกับตัวเอง การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายทั้งในเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง เช่น การมีหน้าอก เสียงแตกหนุ่ม ปัญหาครอบครัว เช่น คุณพ่อคุณแม่หย่าร้าง เกิดการทำร้ายร่างกาย ปัญหาการเงินในครอบครัว สภาพสังคม หรือกลุ่มเพื่อนที่อันตราย สัญญาณเตือนอาการเครียดในเด็ก สำหรับสัญญาณเตือนที่คุณพ่อคุณแม่อาจใช้เพื่อสังเกตอาการเครียดในเด็ก อาจมีดังนี้ 1. อาจไม่สบายบ่อย ความเครียดอาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย ถ้าเด็กเข้าห้องพยาบาลบ่อย หรือมักจะบ่นว่าปวดหัว ปวดท้อง ยิ่งถ้าป่วยบ่อย ๆ ในช่วงสอบ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าเด็กกำลังมีภาวะเครียด และอาจส่งผลให้มีปัญหาสุขภาพหรือตกอยู่ในภาวต่าง […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน