สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Hello คุณหมอ จึงอยากนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ผู้อ่านได้มีสุขภาพทางเพศที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพทางเพศ

HPV ในผู้หญิงตั้งครรภ์ ส่งผลกระทบต่อคุณแม่และลูกน้อยอย่างไร

HPV หรือ Human Papillomavirus เป็นไวรัสที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดยบางสายพันธุ์สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกและภาวะผิดปกติอื่น ๆ ในระบบสืบพันธุ์ สตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ HPV มักกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของตัวเองและทารกในครรภ์ โดยเฉพาะการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การคลอดก่อนกำหนด และการถ่ายทอดไวรัสสู่ทารกในระหว่างคลอด ผลกระทบของ HPV ต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ ผลกระทบต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ การเกิดหูดบริเวณอวัยวะเพศ (Genital Warts) การติดเชื้อ HPV อาจกระตุ้นการเกิดหูดในบริเวณอวัยวะเพศ หูดเหล่านี้อาจโตขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและระบบไหลเวียนเลือด หากหูดมีขนาดใหญ่ อาจก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือขัดขวางการคลอดทางช่องคลอด การเปลี่ยนแปลงในปากมดลูก การติดเชื้อ HPV โดยเฉพาะสายพันธุ์ความเสี่ยงสูง อาจทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก ซึ่งอาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูกได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ ความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร ในบางกรณี การติดเชื้อ HPV อาจเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะหากมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด การติดเชื้อ HPV อาจกระตุ้นการอักเสบในระบบสืบพันธุ์ ซึ่งส่งผลต่อการคลอดก่อนกำหนด การคลอดก่อนกำหนดอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาวสำหรับทารก เช่น การเจริญเติบโตที่ช้ากว่าปกติ ผลกระทบต่อทารกในครรภ์และหลังคลอด การติดเชื้อในทารก แม้โอกาสที่ HPV จะส่งต่อถึงทารกในครรภ์มีน้อย แต่มีรายงานว่าการคลอดทางช่องคลอดในกรณีที่แม่มีหูดหรือการติดเชื้อ HPV […]

หมวดหมู่ สุขภาพทางเพศ เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ

10 สัญญาณ วัยทอง ผู้ชาย มีอะไรบ้าง

วัยทองในผู้ชาย เป็นภาวะสุขภาพที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ชายอยู่ในช่วงอายุ 40 ปีตอนปลายหรือ 50 ปีตอนต้น มีสาเหตุจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ในร่างกายที่ลดลง ทั้งนี้ 10 สัญญาณ วัยทอง ผู้ชาย ได้แก่ การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ อารมณ์แปรปรวน ความต้องการทางเพศลดลง หน้าอกใหญ่ขึ้น เป็นต้น [embed-health-tool-bmr] วัยทองในผู้ชายคืออะไร วัยทองในผู้ชาย (Male Menopause หรือ Andropause) อาจพบได้ในผู้ชายอายุ 40 ปีตอนปลายถึง 50 ปีตอนต้น โดยเป็นผลมาจากฮอร์โมนเพศเทสโทสเตอโรนหรือฮอร์โมนเพศชายลดลง อย่างไรก็ตาม การลดลงเทสโทสเตอโรนแตกต่างจากการลดลงของฮอร์โมนเพศหญิงเมื่อเข้าสู่วัยทอง โดยในผู้ชาย เทสโทสเตอโรนจะลดลงเรื่อย ๆ ในอัตราประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์/ปี จนเหลือเพียง 10-25 เปอร์เซ็นต์จากระดับปกติ ส่วนในผู้หญิง ฮอร์โมนเพศจะลดลงทีละน้อยจนหมดไป 10 สัญญาณ วัยทอง ผู้ชาย มีอะไรบ้าง 10 สัญญาณที่บอกว่าผู้ชายเข้าสู่วัยทองแล้ว ได้แก่ ความต้องการทางเพศลดลง หย่อนสมรรถภาพทางเพศ อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า ขาดสมาธิ ความทรงจำแย่ลง […]


สุขภาพทางเพศ

ช่วยตัวเองยังไง ให้ถึงจุดสุดยอด และข้อควรระวังในการช่วยตัวเอง

การช่วยตัวเองมีประโยชน์ทั้งต่อผู้หญิงและผู้ชาย เช่น ลดความเสี่ยงในการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คลายเครียด ลดอาการเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ นอนหลับได้ดีขึ้น จึงอาจทำให้หลายคนเกิดคำถามว่า ช่วยตัวเองยังไง ให้ถึงจุดสุดยอดและปลอดภัย โดยทั่วไปการช่วยตัวเองสามารถทำได้หลายวิธีและทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและความชอบส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม การช่วยตัวเองต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเอง ผู้อื่น และไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ด้วย [embed-health-tool-vaccination-tool] ช่วยตัวเองยังไง ให้ถึงจุดสุดยอด การช่วยตัวเองไม่มีวิธีที่ถูกหรือผิด ตราบใดที่วิธีการช่วยตัวเองทำให้รู้สึกสบายกาย สบายใจ และไม่เดือดร้อนผู้อื่น โดยการช่วยตัวเองสำหรับผู้ชายและผู้หญิงอาจมีวิธี ดังนี้ การช่วยตัวเองของผู้ชาย ผู้ชายอาจช่วยตัวเองได้ด้วยวิธีต่อไปนี้ การสร้างอารมณ์ อาจทำได้ด้วยการปิดไฟหรือเปิดไฟสลัวไปพร้อมกับการเปิดคลิปวิดีโอกระตุ้นอารมณ์ จากนั้นอาจใช้มือสัมผัสบริเวณอวัยวะเพศช้า ๆ อย่างผ่อนคลาย การเปลี่ยนท่าทาง เช่น เปลี่ยนจากท่านอนเป็นท่านั่ง ยืน และเปลี่ยนสถานที่ เช่น เปลี่ยนจากบนเตียงไปเป็นบนเก้าอี้ หรือในห้องน้ำ เพื่อช่วยเพิ่มความตื่นเต้น การเปลี่ยนตำแหน่ง ด้วยการเปลี่ยนมือมาลองช่วยตัวเองในข้างที่ไม่ถนัดแทน เพราะอาจทำให้เกิดความรู้สึกที่ต่างออกไป ซึ่งอาจทำให้ถึงจุดสุดยอดง่ายขึ้น การใช้จังหวะที่แตกต่างกัน โดยปกติจะใช้จังหวะขยับมือขึ้นลงในการช่วยตัวเอง แต่การลองเปลี่ยนไปใช้จังหวะแบบอื่น เช่น การขยับมือเป็นจังหวะยาว ๆ ตั้งแต่ฐานถึงปลาย การดึงเปิดหัวอวัยวะเพศและเล่นบริเวณหัวด้วยปลายนิ้ว อาจช่วยเพิ่มความสุขทางเพศให้มากขึ้น การกระตุ้นอวัยวะส่วนอื่น เช่น ลูกอัณฑะ ฝีเย็บบริเวณระหว่างอวัยวะเพศกับทวารหนัก ขาอ่อน หัวนม คอ […]


การคุมกำเนิด

กินยาคุมผิดวัน ทำให้ตั้งท้องได้หรือไม่

กินยาคุมผิดวัน สามารถทำให้ท้องได้หรือไม่ อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย โดยทั่วไปยาคุมกำเนิดส่วนใหญ่มีปริมาณฮอร์โมนเท่ากันทุกเม็ด การกินยาคุมผิดวันจึงไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด แต่ในกรณีที่ลืมกินยาคุมควรใส่ถุงยางอนามัยร่วมด้วย เพื่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดที่ดี [embed-health-tool-ovulation] ยาคุมทำงานอย่างไร ยาคุม เป็นยาเม็ดที่ประกอบไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โปรเจสติน (Progestin) ที่มีคุณสมบัติยับยั้งฮอร์โมนปกติตามธรรมชาติของร่างกายเพื่อช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ โดยช่วยหยุดการตกไข่ ปรับให้มูกในปากมดลูกหนาขึ้น เพื่อให้อสุจิเข้าปากมดลูกไปผสมกับไข่ได้ยากขึ้น และยังเปลี่ยนแปลงลักษณะเยื่อบุโพรงมดลูกทำให้ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วไม่สามารถฝังตัวได้ กินยาคุมผิดวัน ทำให้ตั้งท้องได้หรือไม่ ยาเม็ดคุมกำเนิดในปัจจุบันมีทั้งแบบฮอร์โมนรวมและแบบฮอร์โมนเดี่ยว ซึ่งอยู่ในรูปแบบ 28 หรือ 21 เม็ด โดยส่วนใหญ่ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด จะประกอบด้วยตัวยาที่ออกฤทธิ์ทั้งหมดในปริมาณที่เท่ากัน แต่ยาคุมแบบ 28 เม็ด จะประกอบด้วยตัวยาที่ออกฤทธิ์ 21 เม็ด และเม็ดแป้งอีก 7 เม็ด ซึ่งมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้เท่ากันหากกินยาอย่างถูกต้อง ส่วนบางคนอาจมีข้อสงสัยว่า กินยาคุมผิดวัน จะทำให้ท้องได้ไหม โดยปกติยาคุมทุกเม็ดจะมีปริมาณของฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสตินที่เท่ากัน ดังนั้น หากกินยาคุมผิดวันอาจไม่มีผลต่อการคุมกำเนิด แต่ยาคุมบางชนิดแต่ละเม็ดอาจมีปริมาณฮอร์โมนที่ไม่เท่ากัน ซึ่งจะมีสีกำกับที่แตกต่างกันอยู่ในแต่ละเม็ด หากกินยาคุมผิดวันส่วนใหญ่จะไม่มีผลต่อการคุมกำเนิด แต่อาจทำให้ประจำเดือนมากผิดปกติได้หรืออาจเสี่ยงตั้งครรภ์ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่กินยาคุมแบบ 28 เม็ด และกินยาคุมผิด โดยกินยา 7 เม็ดสุดท้ายในแผงที่เป็นเม็ดแป้งสลับกับการกินตัวยาที่ออกฤทธิ์ อาจเสี่ยงทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ กินยาคุมผิดวันควรทำอย่างไร สำหรับผู้ที่กินยาคุมผิดวันหรือลืมกินยาคุม อาจปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ สังเกตสีของเม็ดยาคุม […]


สุขภาพทางเพศ

ปล่อย นอก ท้อง ไหม สามารถใช้คุมกำเนิดได้หรือไม่

ปล่อย นอก ท้อง ไหม น่าจะเป็นหนึ่งในประเด็นเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ที่คนสงสัยมากที่สุด การปล่อยน้ำอสุจินอกช่องคลอดขณะถึงจุดสุดยอดเป็นวิธีที่คู่รักหลายคู่นิยมใช้เพื่อคุมกำเนิด เนื่องจากไม่ต้องการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น เช่น การสวมถุงยางอนามัย เพราะอาจทำให้รู้สึกว่าทำกิจกรรมทางเพศได้ไม่เต็มที่ อย่างไรก็ตาม การปล่อยนอกไม่สามารถป้องกันการตั้งท้องได้ 100 % ทั้งยังอาจทำให้เสี่ยงติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย จึงควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเพื่อลดความเสี่ยงในการตั้งท้องและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้ หากปล่อยนอกแล้วกังวลว่าอาจตั้งท้อง ควรไปพบเภสัชกรหรือคุณหมอและรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้ยาคุมฉุกเฉิน [embed-health-tool-bmi] ปล่อย นอก ท้อง ไหม การปล่อยนอก บางครั้งเรียกว่าการหลั่งนอกหรือการแตกนอก (Withdrawal/Pull out method) เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ฝ่ายชายจะถอนองคชาตออกจากช่องคลอดของฝ่ายหญิงในจังหวะก่อนถึงจุดสุดยอด และหลั่งอสุจิภายนอกช่องคลอด แม้การทำเช่นนี้จะลดโอกาสที่อสุจิจะเดินทางเข้าไปในช่องคลอดได้มากกว่าการสอดใส่ขณะถึงจุดสุดยอด แต่ก็ยังอาจทำให้ตั้งท้องได้ไม่ต่างจากการหลั่งอสุจิในช่องคลอด หรือที่มักเรียกว่าการปล่อยใน การหลั่งใน หรือการแตกใน เนื่องจากฝ่ายชายอาจไม่สามารถถอนองคชาตออกจากช่องคลอดได้ทันเวลา หรือมีอสุจิจำนวนเล็กน้อยในน้ำหล่อลื่นที่ออกมาจากองคชาตก่อนถึงจุดสุดยอด (Pre-ejaculate) จนทำให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้สำเร็จ และเกิดการตั้งท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ความเสี่ยงของการปล่อยนอก การปล่อยนอก ไม่ใช้วิธีป้องกันการตั้งท้องที่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually transmitted infections หรือ STIs) เช่น โรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียม โรคซิฟิลิส โรคหูดหงอนไก่ โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) โรคติดเชื้อไวรัสเอสไอวี […]


สุขภาพทางเพศ

Balanitis (ปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ) คืออะไร สาเหตุ อาการและวิธีรักษา

Balanitis (ปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ) เป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ชายทุกเพศทุกวัย โดยอาจสังเกตได้จากอาการเจ็บปวดบริเวณหัวขององคชาต ซึ่งควรเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็ว เพราะหากปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ท่อปัสสาวะตีบตัน ขาดเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะเพศ ภาวะปัสสาวะไหลย้อนกลับไปสู่ท่อไต [embed-health-tool-heart-rate] Balanitis คืออะไร Balanitis คือ ภาวะปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ ที่ส่งผลให้เกิดอาการปวดบวมและระคายเคืององคชาต โดยเฉพาะผู้ชายที่มีสุขอนามัยไม่ดีและไม่ได้ขลิบอวัยวะเพศ โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ซูน บาลาไนติส (Zoon Balanitis) เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด ที่เกิดขึ้นบริเวณหัวองคชาต  เซอร์ซิเนส บาลานิติส (Circinate Balanitis) อาจเกิดขึ้นในผู้ชายที่เป็นโรคข้ออักเสบที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อติดเชื้อและส่งผลให้เกิดแผลเล็ก ๆ บริเวณองคชาต เมเคทรัส บาลานิติส ( Micaceous Balanitis) เป็นประเภทที่พบได้น้อยที่สุดและอาจพบได้ในผู้สูงอายุ ที่ส่งผลให้เกิดหูดบริเวณหัวองคชาต สาเหตุของ Balanitis สาเหตุของภาวะปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ อาจมีดังต่อไปนี้ การรักษาสุขอนามัยไม่ดี  การแพ้สารระคายเคือง เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ ถุงยางอนามัย น้ำยาปรับผ้านุ่ม ผงซักฟอก โรคผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคเรื้อนกวาง ที่อาจก่อให้เกิดอาการคันผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น […]


สุขภาพทางเพศ

อุปกรณ์ช่วยตัวเอง มีอะไรบ้าง ใช้อย่างไร

อุปกรณ์ช่วยตัวเอง หรือ เซ็กส์ทอย (Sex toy) เป็นของที่ทำขึ้นเพื่อเพิ่มความสุขหรือกระตุ้นอารมณ์ระหว่างช่วยตัวเอง ในปัจจุบัน อุปกรณ์ช่วยตัวเองมีหลายรูปแบบ  เช่น ดิลโด้ (Dildo) ไวเบรเตอร์ (Vibrator) สโตรกเกอร์ (Stroker) ซึ่งมีวิธีใช้งานแตกต่างกันไป [embed-health-tool-ovulation] ช่วยตัวเอง มีประโยชน์อย่างไร ช่วยตัวเอง เป็นการสัมผัสอวัยวะเพศ และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ไวต่อความรู้สึกทางเพศ อย่างปานนม หน้าอก บั้นท้าย เพื่อสร้างความสุขทางเพศ หรือทำให้ถึงจุดสุดยอดโดยไม่ต้องพึ่งพาคู่นอน นอกจากทำให้รู้สึกดีแล้ว การช่วยตัวเองยังทำให้รู้สึกผ่อนคลาย หลับสบาย และปวดประจำเดือนน้อยลง ยิ่งกว่านั้น การช่วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ยังอาจช่วยลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ด้วย อุปกรณ์ช่วยตัวเอง มีอะไรบ้าง อุปกรณ์ช่วยตัวเอง หรือเซ็กส์ทอยแบบต่าง ๆ ที่นิยมใช้กัน มีดังต่อไปนี้ อุปกรณ์ช่วยตัวเองสำหรับผู้หญิง ดิลโด้ เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นแท่งคล้ายกับองคชาต ทำจากวัสดุที่แข็ง เช่น ซิลิโคน แก้ว ใช้สอดเข้าไปในช่องคลอดเพื่อกระตุ้นให้เกิดความสุขทางเพศ เช่นเดียวกับการช่วยตัวเองหรือมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทั้งนี้ ดิลโด้บางชนิดอาจมีลักษณะโค้งเพื่อให้สามารถกระตุ้นจี-สปอต (G-spot) หรือจุดกระสันภายในช่องคลอดได้อย่างตรงจุด ไวเบรเตอร์ เป็นอุปกรณ์ช่วยตัวเองที่สั่นได้ด้วยแบตเตอรี่ มักใช้เหน็บช่องคลอดหรือวางบริเวณคลิตอริสเพื่อกระตุ้นความรู้สึกทางเพศหรือทำให้ถึงจุดสุดยอด ในปัจจุบัน ไวเบรเตอร์มีรูปร่างหลากหลาย ทั้งแบบแท่งคล้ายไมโครโฟนสำหรับใช้สัมผัสร่างกายภายนอก […]


สุขภาพทางเพศ

มีน้ำไหลออกจากช่องคลอด เหมือนฉี่ เกิดจากอะไร อันตรายหรือเปล่า?

มีน้ำไหลออกจากช่องคลอด เหมือนฉี่ หมายถึง การมีน้ำหรือของเหลวลักษณะใส หรือ ตกขาวไหลเหมือนฉี่ ไหลจากช่องคลอด ซึ่งนับเป็นเป็นเรื่องปกติที่พบได้เมื่อผู้หญิงใกล้ตกไข่ ตั้งครรภ์ หรือตื่นตัวทางเพศ นอกจากนี้ ผู้หญิงบางรายอาจกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ และทำให้มีปัสสาวะไหลออกมาระหว่างมีเพศสัมพันธ์ได้ [embed-health-tool-ovulation] น้ำจากช่องคลอด คืออะไร นอกจากปัสสาวะ น้ำจากช่องคลอดอาจหมายถึงตกขาว หรือของเหลวที่ช่องคลอดหรือปากมดลูกผลิตขึ้น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับช่องคลอด ทำให้ช่องคลอดสะอาด และปกป้องช่องคลอดจากการติดเชื้อ โดยทั่วไป น้ำจากช่องคลอดมักมีลักษณะเป็นของเหลวหรือเป็นเมือกสีขาวหรือใส เนื้อสัมผัสลื่นคล้ายไข่ขาว และมีกลิ่นเปรี้ยวอ่อน ๆ ปกติแล้ว ผู้หญิงส่วนมากจะหลั่งน้ำจากช่องคลอดประมาณ 1-4 มิลลิลิตรในทุก ๆ วัน และหากน้ำจากช่องคลอดมีลักษณะ กลิ่น หรือปริมาณที่ต่างไปจากเดิม อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังป่วยด้วยโรคบางอย่าง หรือร่างกายกำลังมีการเปลี่ยนแปลง หากรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันควรไปพบคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัย มีน้ำไหลออกจากช่องคลอด เหมือนฉี่ เกิดจากอะไร การมีน้ำไหลออกจากช่องคลอด มักทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่าตัวเองปัสสาวะเล็ดออกมาระหว่างวัน แต่จริง ๆ แล้วอาจหมายถึง ตกขาวไหลเหมือนฉี่ ที่ร่างกายผลิตออกมาดังสาเหตุต่อไปนี้ ตกไข่ เมื่อใกล้ตกไข่ น้ำที่ไหลจากช่องคลอดจะใสและลื่นขึ้น รวมถึงมีปริมาณมากกว่าปกติราว ๆ 30 เท่า อย่างไรก็ตาม หลังจากตกไข่แล้ว น้ำจากช่องคลอดจะกลับไปข้นและมีปริมาณน้อยลงเหมือนในช่วงก่อนหน้า ตั้งครรภ์ เมื่อตั้งครรภ์ ช่องคลอดจะมีน้ำไหลออกมามากกว่าเดิม […]


สุขภาพทางเพศ

เป็นประจำเดือน ท้องเสีย เพราะอะไร

เป็นประจำเดือน ท้องเสีย เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการทำงานของสารเคมีในร่างกายคล้ายฮอร์โมน ที่เดินทางผ่านกระแสเลือดสู่ระบบทางเดินอาหารจนทำให้ท้องเสียได้ ทั้งนี้ หากท้องเสียระหว่างเป็นประจำเดือน ควรบริโภคน้ำและโซเดียมให้เพียงพอ เพื่อทดแทนของเหลวส่วนที่เสียไป นอกจากนี้ ควรงดรับประทานอาหารมัน หวาน หรือเผ็ด เพื่อช่วยบรรเทาอาการท้องเสียด้วย [embed-health-tool-ovulation] เป็นประจำเดือน ท้องเสีย เพราะอะไร ปัจจุบัน ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าทำไมผู้หญิงบางคนถึงท้องเสียระหว่างมีประจำเดือน แต่สันนิษฐานว่าเป็นผลของสารคล้ายฮอร์โมนที่เรียกว่า โพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ซึ่งเป็นสารที่หลั่งออกมาเพื่อทำให้มดลูกหดตัว และเยื่อบุโพรงมดลูกหลุดออกทางช่องคลอดกลายเป็นประจำเดือน หากมีในปริมาณสูง สารนี้จะแพร่สู่กระแสเลือดไปยังระบบทางเดินอาหาร แล้วส่งผลให้ท้องเสียได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติดังนี้ ทำให้ลำไส้หดตัว ทำให้การดูดซึมอาหารของร่างกายลดลง อาหารจึงเคลื่อนผ่านลำไส้ใหญ่เร็วกว่าปกติ งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เรื่องอาการในระบบทางเดินอาหารตอนก่อนและระหว่างเป็นประจำเดือน เผยแพร่ในวารสาร BMC Women's Health ปี พ.ศ. 2557 นักวิจัยให้ผู้หญิงสุขภาพดีจำนวน 156 ราย ทำแบบสำรวจเกี่ยวกับอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นในระบบทางเดินอาหารและสภาพอารมณ์ที่แปรปรวนซึ่งเกิดขึ้นในช่วง 5 วันก่อนเป็นประจำเดือนและระหว่างเป็นประจำเดือน โดยพบว่า 73 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่เข้าร่วมทำแบบทดสอบ เคยมีอาการผิดปกติในระบบทางเดินอาหารตอนก่อนหรือระหว่างเป็นประจำเดือน โดยพบอาการปวดท้องและท้องเสียพบบ่อยที่สุด นอกจากนั้น นักวิจัยยังพบว่า อาการผิดปกติของระบบทางเดินอาหารและสภาพอารมณ์ที่แปรปรวนอย่างซึมเศร้าหรือวิตกกังวล จัดเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงระหว่างเป็นประจำเดือน ประจำเดือน ท้องเสีย และเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ อาการท้องเสียระหว่างเป็นประจำเดือนของผู้หญิงบางรายอาจสัมพันธ์กับโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือการที่เนื้อเยื่อแบบเดียวกับเยื่อบุโพรงมดลูก ไปเติบโตที่อวัยวะอื่นในร่างกายเพศหญิง เช่น […]


การคุมกำเนิด

แตก นอก คุมกำเนิดได้จริงหรือไม่ เพราะอะไร

แตก นอก เป็นวิธีคุมกำเนิดตามธรรมชาติด้วยการดึงองคชาตออกจากช่องคลอดก่อนถึงจุดสุดยอด เพื่อป้องกันการหลั่งอสุจิเข้าไปในช่องคลอด โดยมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดราว 78-80 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ควรคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ร่วมกับการคุมกำเนิดวิธีอื่น เช่น รับประทานยาคุม นอกจากนี้ ควรใส่ถุงยางอนามัยเพื่อลดความเสี่ยงการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย [embed-health-tool-ovulation] แตกนอก คืออะไร แตกนอก (Pull-out Method) เป็นวิธีคุมกำเนิดแบบธรรมชาติ ด้วยการดึงองคชาตออกจากช่องคลอดก่อนถึงจุดสุดยอด เพื่อป้องกันอสุจิถูกส่งเข้าไปในช่องคลอด แล้วทำให้ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ การแตกนอก เป็นการคุมกำเนิดที่สะดวก ไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ และไม่ต้องไปพบคุณหมอตามนัดเหมือนการใช้ห่วงคุมกำเนิด แต่ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดไม่สูงนัก แตกนอก คุมกำเนิดได้กี่เปอร์เซ็นต์ การแตกนอกป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 78-80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแม้จะเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูง แต่นับว่าต่ำกว่าการคุมกำเนิดด้วยการทำหมัน การสวมถุงยางอนามัย ใส่ห่วงคุมกำเนิด ฝังยาคุมกำเนิด หรือรับประทานยาคุมกำเนิด ที่ส่วนใหญ่แล้วมักป้องกันการคุมกำเนิดได้ประมาณ 98-99 เปอร์เซ็นต์ ปัจจัยที่ทำให้แตกนอกเสี่ยงตั้งครรภ์ การแตกนอกทำให้เสี่ยงตั้งครรภ์ได้เนื่องจากสาเหตุดังต่อไปนี้ นำองคชาตออกจากช่องคลอดช้าเกินไป ปกติแล้ว องคชาตจะปล่อยน้ำอสุจิออกมาก่อนที่จะถึงจุดสุดยอด ดังนั้น ผู้ชายบางรายซึ่งอาจไม่รู้จังหวะดีพออาจตัดสินใจนำองคชาตออกจากช่องคลอดช้าเกินไป และเป็นเหตุให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ นอกจากนั้น ก่อนถึงจุดสุดยอดยังเป็นช่วงที่ผู้ชายมีความสุขทางเพศมาก จึงทำให้หลายคนไม่รีบที่จะนำองคชาตออกมา ทำให้เสี่ยงแตกในแทนการแตกนอก อสุจิเข้าไปในร่างกายฝ่ายหญิงก่อนนำองคชาตออก ก่อนถึงจุดสุดยอด องคชาตจะหลั่งของเหลวและน้ำอสุจิบางส่วนออกมาหรือเรียกว่าน้ำหล่อลื่น โดยน้ำหล่อลื่นมีตัวอสุจิอยู่เช่นเดียวกันและสามารถทำให้ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ได้ แม้ฝ่ายชายจะดึงองคชาตออกจากช่องคลอดก่อนถึงจุดสุดยอดก็ตาม อสุจิเข้าไปในช่องคลอดจากนอกช่องคลอด การแตก นอก […]


สุขภาพทางเพศ

ถ้า เครียด ประจำเดือนเลื่อน กี่วัน ควรหาหมอเมื่อใด

ผู้หญิงบางคนอาจสงสัยว่า ถ้า เครียด ประจำเดือนเลื่อน กี่วัน? และคำตอบคือ 2-3 วัน หรืออาจมากกว่านั้น ตามระดับความเครียดและปัจจัยแวดล้อมของแต่ละคน ทั้งนี้ หากประจำเดือนเลื่อนประมาณ 2-3 วัน ถือว่าปกติ แต่หากประจำเดือนไม่มาเกิน 3 เดือน ควรไปพบคุณหมอ [embed-health-tool-ovulation] ความเครียดทำให้ประจำเดือนเลื่อนได้อย่างไร ความเครียด เป็นสาเหตุหนึ่งให้ประจำเดือนเลื่อน หรือมาช้ากว่าปกติ เช่นเดียวกับการตั้งครรภ์ การออกกำลังกายอย่างหนัก การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ เมื่อมีความเครียด ต่อมหมวกไตจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมา ซึ่งไปรบกวนการทำงานของระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ทำให้การตกไข่หยุดลงชั่วคราว ส่งผลให้ประจำเดือนเลื่อน ไม่มา หรือมาน้อยกว่าปกติ ถ้า เครียด ประจำเดือนเลื่อน กี่วัน เมื่อมีความเครียด ประจำเดือนจะมาช้ากว่าปกติประมาณ 2-3 วัน อย่างไรก็ตาม หากมีภาวะเครียดเรื้อรัง ประจำเดือนอาจเลื่อนนานกว่านั้น หรืออาจนานเกินกว่า 1 เดือน ประจำเดือนเลื่อน เมื่อไรควรไปพบคุณหมอ โดยเฉลี่ย ผู้หญิงจะเป็นประจำเดือนทุก ๆ 28 วัน และประจำเดือนอาจเลื่อนได้ราว 1-7 วัน ทั้งนี้ ลักษณะประจำเดือนเลื่อนหรือมาผิดปกติที่ควรไปพบคุณหมอ ได้แก่ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน