สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Hello คุณหมอ จึงอยากนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ผู้อ่านได้มีสุขภาพทางเพศที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพทางเพศ

ไขข้อสงสัย เชื้อเอชพีวีกับมะเร็งปากมดลูก เกี่ยวข้องกันอย่างไร

เชื้อเอชพีวีกับมะเร็งปากมดลูก ทั้ง 2 โรคนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร? คุณเคยสงสัยหรือไม่? วันนี้เราจะมาหาคำตอบถึงความเกี่ยวข้องกันของ เชื้อเอชพีวีกับมะเร็งปากมดลูก เพื่อให้คุณผู้หญิงทุกคนได้ระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น ถ้าพร้อมแล้วหาคำตอบความเกี่ยวข้องของเชื้อเอชพีวีกับมะเร็งปากมดลูกได้ในบทความนี้ HPV คือกลุ่มของเชื้อไวรัสที่เกี่ยวข้องมากกว่า 200 ชนิด บางชนิดแพร่กระจายผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางช่องปาก โดยจะแบ่งออกเป็นกล่มที่มีความเสี่ยงต่ำกับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง HPV กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำส่วนใหญ่ไม่ก่อให้เกิดโรค แต่บางชนิดอาจทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก หรือลำคอได้ HPV กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสามารถทำให้เกิดมะเร็งได้หลายประเภทหนึ่งในนั้น คือ มะเร็งปากมดลูก เชื้อเอชพีวีกับมะเร็งปากมดลูก เกี่ยวข้องกันอย่างไร มะเร็งปากมดลูกในสตรีส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อ ฮิวแมนแพพพิลโลมาไวรัส (Human papillomavirus : HPV) ซึ่งเป็นกลุ่มของเชื้อไวรัสที่มีมากกว่า 200 ชนิด เชื้อไวรัสจะแพร่กระจายในระหว่างมีเพศสัมพันธ์และการทำกิจกรรมทางเพศอื่น ๆ  เช่น การสัมผัสทางผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เชื้อ HPV อย่างน้อย 15 ชนิด มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูก ส่วนใหญ่ HPV16 และ HPV18 จะเป็นตัวที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด โดยเชื้อ HPV ที่มีความเสี่ยงสูงเหล่านี้จะเข้าไปหยุดการทำงานของเซลล์ ซึ่งส่งผลให้เซลล์สืบพันธ์มีความผิดปกติแบบควบคุมไม่ได้ นำไปสู่การเจริญเติบโตของเนื้องอกมะเร็ง ปัจจัยเสี่ยงเชื้อเอชพีวีพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูก ชนิดของเชื้อ […]

หมวดหมู่ สุขภาพทางเพศ เพิ่มเติม

การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย

สำรวจ สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ

เจ็บเต้านม เกิดจากอะไร เป็นสัญญาณเตือนโรคร้ายหรือไม่

เจ็บเต้านม หมายถึง อาการเจ็บปวด คัดตึง เสียวแปลบ แสบร้อน หรือเป็นก้อนแข็งบริเวณเต้านมทั้ง 2 ข้าง พบมากในเพศหญิง สาเหตุมักเกิดจากระดับฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงก่อนเป็นประจำเดือน แต่อาจเกิดเพราะสาเหตุอื่น ๆ ได้เช่นกัน อย่างการตั้งครรภ์ การอุดตันของท่อน้ำนม รวมถึงการใช้ยาบางชนิด โดยทั่วไป อาการเจ็บเต้านมในช่วงก่อนมีประจำเดือนไม่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ และมักหายไปได้เอง แต่สำหรับอาการเจ็บเต้านมที่เกิดจากสาเหตุอื่น อาจรักษาได้ด้วยการรับประทานยาปฏิชีวนะ และการปรับพฤติกรรม เช่น ในหญิงตั้งครรภ์หากเจ็บเต้านม ควรระบายน้ำนมออกให้หมดเต้า เพื่อป้องกันน้ำนมหลงเหลือและอาจยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้ท่อน้ำนมอุดตันและติดเชื้อจนอาการรุนแรงขึ้นได้ [embed-health-tool-bmr] เจ็บเต้านมเกิดจากอะไร เจ็บเต้านม หมายถึง อาการเจ็บ แสบร้อน เสียวแปลบ หรือคัดตึงบริเวณเต้านมหรือช่วงหน้าอก ซึ่งมักเกิดในช่วงก่อนผู้หญิงมีประจำเดือน โดยมีสาเหตุมาจากระดับฮอร์โมนเพศเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่ลดลง ซึ่งถือเป็นภาวะสุขภาพที่ปกติก่อนมีประจำเดือน อย่างไรก็ตาม อาการเจ็บเต้านมอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับประจำเดือน เช่น การสวมเสื้อชั้นในที่ไม่เหมาะสมกับขนาดหน้าอก ส่งผลให้เส้นเอ็นที่เชื่อมต่อระหว่างเต้านมกับผนังทรวงอกตึงเกินไป และเป็นสาเหตุให้เจ็บเต้านมได้ การตั้งครรภ์ อาการเจ็บหรือคัดตึงเต้านม เป็นสัญญาณแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ โดยเกิดจากระดับฮอร์โมนเพศที่เปลี่ยนไปทั้งนี้ อาการเจ็บเต้านมมักเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 3 หรือ 4 ของการตั้งครรภ์ น้ำนมที่มากเกินไป หญิงที่ให้นมบุตร หากลูกไม่ดูดนมหรือไม่ระบายน้ำนมออกจากเต้าจนหมด อาจทำให้เจ็บเต้านม บวม […]


สุขภาพทางเพศ

ช่วยตัวเองบ่อย มีผลเสียหรือไม่ อย่างไร

การช่วยตัวเอง คือการสัมผัสหรือลูบไล้ตัวเอง เพื่อกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ แม้การช่วยตัวเองนับเป็นกิจกรรมที่ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงไม่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ แต่หาก ช่วยตัวเองบ่อย อาจส่งผลให้อวัยวะเพศบาดเจ็บได้ นอกจากนั้น ผู้ที่หมกมุ่นจนเสพติดการช่วยตัวเอง อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักและรักษาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้ยากขึ้น [embed-health-tool-bmi] การช่วยตัวเอง คืออะไร การช่วยตัวเอง หรือการสำเร็จความใคร่ หมายถึง การสัมผัสอวัยวะเพศ และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ไวต่อความรู้สึกทางเพศ อย่างปานนม องคชาต หรือทวารหนัก เพื่อสร้างความสุขทางเพศ หรือทำให้ถึงจุดสุดยอดโดยไม่ต้องพึ่งพาคู่นอน การช่วยตัวเองนับเป็นกิจกรรมที่ปลอดภัย เนื่องจากไม่เสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ใด ๆ และไม่ก่อให้เกิดการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ การช่วยตัวเองยังมีประโยชน์อีกหลายประการ เช่น ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด ช่วยให้หลับสบาย ส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศ และสุขภาพของระบบสืบพันธุ์ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ช่วยระบายความต้องการทางเพศ โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่สะดวกในการมีเพศสัมพันธ์ เช่น ระหว่างตั้งครรภ์ ความเข้าใจผิดต่าง ๆ เกี่ยวกับการช่วยตัวเอง ความเข้าใจผิดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยตัวเอง มีดังต่อไปนี้ การช่วยตัวเองทำให้อสุจิลดลง และส่งผลกระทบให้โอกาสมีบุตรน้อยลง ความจริงแล้ว ร่างกายของเพศชายผลิตอสุจิใหม่อยู่เสมอ ดังนั้น การช่วยตัวเองจึงไม่ส่งผลกระทบต่อโอกาสการมีบุตรที่น้อยลงแต่อย่างใด การช่วยตัวเองทำให้ความต้องการทางเพศน้อยลง บางคนเข้าในว่า การช่วยตัวเองจะทำให้ความต้องการทางเพศน้อยลงและลดปริมาณของฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งทำหน้าที่รักษาความเป็นชายต่าง ๆ เช่น หนวดเครา […]


สุขภาพทางเพศ

เยื่อพรหมจรรย์อยู่ตรงไหน และเรื่องควรรู้เกี่ยวกับเยื่อพรหมจรรย์

เยื่อพรหมจรรย์อยู่ตรงไหน เป็นคำถามที่หลายคนอาจสงสัย เยื่อพรหมจรรย์ (Hymen) เป็นเนื้อเยื่อที่ปกคลุมบริเวณปากช่องคลอดด้านล่างของผู้หญิง มีลักษณะเป็นเยื่อรูปวงแหวนที่สามารถยืดและขยายได้ตามการเคลื่อนไหว ทั้งนี้ การขาดของเยื่อพรหมจรรย์ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดกิจกรรมทางเพศอย่างที่เข้าใจกัน แท้จริงแล้ว เยื่อพรหมจรรย์สามารถขาดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเล่นกีฬา กิจวัตรประจำวันทั่วไป การใช้ผ้าอนามัยแบบสอด การมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ การช่วยตัวเอง โดยในผู้หญิงบางคนอาจมีภาวะเยื่อพรหมจรรย์ผิดปกติ เช่น ภาวะเยื่อพรหมจรรย์ไม่เปิด ภาวะเยื่อพรหมจรรย์เปิดเล็กน้อย ภาวะเยื่อพรหมจรรย์ที่มีแถบกั้น ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ หากสงสัยว่ามีภาวะดังกล่าวควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาให้หายด้วยวิธีที่เหมาะสม [embed-health-tool-ovulation] เยื่อพรหมจรรย์อยู่ตรงไหน เยื่อพรหมจรรย์เป็นเยื่อบาง ๆ ที่คลุมบริเวณปากช่องคลอด มีขนาด รูปร่าง และความหนาแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเวลาผ่านไป เยื่อพรหมจรรย์โดยทั่วไปจะมีลักษณะคล้ายพระจันทร์เสี้ยว และมีช่องเปิดเป็นวงกลมขนาดเล็กที่กว้างพอให้ประจำเดือนไหลออกจากช่องคลอดตามปกติในแต่ละเดือน ทั้งยังมีความยืดหยุ่นสูงและยืดเข้าออกอยู่แทบจะตลอดเวลาที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ผู้หญิงบางคนอาจรู้สึกเจ็บหรือมีเลือดออกเมื่อเยื่อพรหมจรรย์ขาด ในขณะที่หลายคนก็ไม่ได้สังเกต ปัจจัยที่ทำให้เยื่อพรหมจรรย์ขาด เยื่อพรหมจรรย์ขาดอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ และไม่จำเป็นต้องเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์เสมอไป เนื่องจากเยื่อส่วนนี้ของร่างกายสามารถยืดออกและขยายตัวได้ ทำให้ฉีกขาดได้ค่อนข้างง่าย และอาจเป็นไปได้ที่จะขาดก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก โดยปัจจัยที่อาจทำให้เยื่อพรหมจรรย์ขาด อาจมีดังนี้ การทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ขี่ม้า ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิก ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดแรงกระแทกหรือการเคลื่อนไหวรุนแรงที่อาจกระทบต่อเยื่อพรหมจรรย์ การเล่นกีฬา เช่น กีฬาว่ายน้ำซึ่งสร้างแรงกดที่กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน การเล่นยิมนาสติกที่จำเป็นต้องขยับร่างกายและแยกขากว้าง อาจทำให้เยื่อพรหมจรรย์ขาดได้ การช่วยตัวเอง การช่วยตัวเองด้วยการสอดใส่นิ้วหรืออุปกรณ์เข้าไปในช่องคลอด อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เยื่อพรหมจรรย์ขาดได้ […]


สุขภาพทางเพศ

ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง มีบทบาทสำคัญอย่างไร

ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ประกอบด้วยรังไข่ ท่อนำไข่ มดลูก ปากมดลูก และช่องคลอด ซึ่งมีหน้าที่เฉพาะแตกต่างกันออกไป การดูแลสุขภาพของระบบสืบพันธุ์เพศหญิงอาจทำได้โดยการเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และภาวะแทรกซ้อนรุนแรงอย่างโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งมดลูก มะเร็งท่อนำไข่ เป็นต้น [embed-health-tool-ovulation] ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง คืออะไร ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง คือ ส่วนสำคัญของกระบวนการสืบพันธุ์ ที่มีส่วนประกอบหลายอย่าง เช่น รังไข่ ท่อนำไข่ มดลูก โดยมีต่อมใต้สมองที่คอยสร้างฮอร์โมนเพศที่ช่วยกระตุ้นให้รังไข่เกิดการตกไข่ในแต่ละรอบเดือน และนำส่งไปยังท่อนำไข่ เพื่อรอการปฏิสนธิกับอสุจิจากฝ่ายชาย จนกลายเป็นตัวอ่อนฝังตัวที่เยื่องบุโพรงมดลูก และเกิดเป็นการตั้งครรภ์ แต่หากไม่มีการปฏิสนธิ เยื่อบุโพรงมดลูกจะหลุดลอกและไหลออกมาเป็นประจำเดือน ส่วนประกอบของระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ส่วนประกอบของระบบสืบพันธุ์เพศหญิง มีดังนี้ ระบบสืบพันธุ์เพศหญิงภายนอก แคมนอก หรือ แคมใหญ่ (Labia Majora) คือ เนื้อเยื่อผิวหนังที่มีลักษณะเป็นกลีบ 2 กลีบ อยู่บริเวณหัวหน่าวจนถึงปากช่องคลอด มีขนอวัยวะเพศปกคลุม แคมใน หรือ แคมเล็ก (Labia Minora) คือ เนื้อเยื่อผิวหนังที่มีลักษณะเหมือนแคมใหญ่แต่มีขนาดที่เล็กกว่า อยู่ด้านในแคมใหญ่ ล้อมรอบบริเวณปากช่องคลอด ทำหน้าที่ช่วยป้องกันสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคเข้าสู่อวัยวะสืบพันธุ์ด้านใน คลิตอริส หรือ ปุ่มกระสัน (Clitoris) คือ อวัยวะที่ถูกแคมเล็กปกคลุม […]


สุขภาพทางเพศ

มดลูกหย่อน สาเหตุ อาการ วิธีรักษา

มดลูกหย่อน เป็นภาวะผิดปกติที่เกิดจากเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานที่ยึดโยงมดลูกให้อยู่ในตำแหน่งปกติอ่อนแรง ทำให้มดลูกเคลื่อนตัวลงไปบริเวณช่องคลอด ความผิดปกติของเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานนี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น เป็นโรคหอบหืดที่ทำให้ไอเรื้อรัง ท้องผูกเรื้อรัง ยกของหนักเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ภาวะมดลูกหย่อนสามารถรักษาและป้องกันได้ด้วยการปรับพฤติกรรมและดูแลตัวเองเบื้องต้น แต่หากมดลูกหย่อนจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม [embed-health-tool-ovulation] มดลูกหย่อน เกิดจากสาเหตุใด อาการมดลูกหย่อน อาจเกิดได้จากสาเหตุดังต่อไปนี้ อายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรง มีภาวะคลอดบุตรยาก หรือบาดเจ็บขณะคลอดบุตร ตั้งครรภ์มาแล้วหลายครั้ง หรือคลอดบุตรที่ขนาดตัวใหญ่กว่าปกติ ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงและเนื้อเยื่อเสื่อมสภาพหลังวัยหมดประจำเดือน เคยเข้ารับการผ่าตัดบริเวณอุ้งเชิงกราน อาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอ ไอเรื้อรัง ท้องผูกเรื้อรัง มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ยกของหนักเป็นประจำ คนในครอบครัวมีประวัติเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอ่อนแอ สัญญาณของมดลูกหย่อน สัญญาณของมดลูกหย่อน อาจสังเกตได้จากอาการดังต่อไปนี้ รู้สึกถึงแรงกดภายในช่องคลอด ใช้นิ้วมือสัมผัสได้ถึงก้อนหรือเนื้อเยื่อของมดลูกซึ่งเลื่อนมาอยู่บริเวณช่องคลอด เข้าห้องน้ำบ่อยเนื่องจากรู้สึกว่าปัสสาวะไม่สุด มีปัสสาวะเล็ดออกมาเล็กน้อยเมื่อไอ จาม หรือออกกำลังกาย ปวดหลังส่วนล่าง ติดเชื้อบริเวณทางเดินปัสสาวะเป็นประจำ รักษาไม่หายขาด จำเป็นต้องเกร็งมากกว่าปกติเพื่อปัสสาวะหรืออุจจาระ การรักษา มดลูกหย่อน การรักษามดลูกหย่อนยาน ขึ้นอยู่กับสุขภาพโดยทั่วไป และความรุนแรงของอาการ โดยคุณหมอจะวินิจฉัยและแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยมากที่สุด ดังนี้ การออกกำลังกายอุ้งเชิงกราน (Pelvic floor exercises) เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงหรือมดลูกยังไม่เคลื่อนตัวออกมานอกปากมดลูก การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องอาจช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานได้ โดยสามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการออกกำลังกายอย่างถูกต้องจากคุณหมอสูตินรีเวชหรือนักกายภาพบำบัดอุ้งเชิงกราน การใช้ยาปรับระดับฮอร์โมน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน เหมาะสำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีระดับฮอร์โมนเอนโตรเจนลดลง […]


สุขภาพทางเพศ

วิธีใส่ผ้าอนามัยแบบสอด ใส่อย่างไรให้ถูกวิธี

ผ้าอนามัยแบบสอดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงที่มีประจำเดือน อย่างไรก็ตาม ควรศึกษา วิธีใส่ผ้าอนามัยแบบสอด ที่ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน เพราะหากใส่ผ้าอนามัยแบบสอดอย่างไม่ถูกวิธีหรือใช้อย่างไม่เหมาะสม เช่น ใส่ไว้ช่องคลอดนานเกินไป ใช้ชนิดดูดซับพิเศษ อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรือติดเชื้อแบคทีเรียจนทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตอย่างกลุ่มอาการท็อกซิกช็อก (Toxic Shock Syndrome) ได้ [embed-health-tool-ovulation] ผ้าอนามัยแบบสอดคืออะไร ผ้าอนามัยแบบสอด (Tampon) มีลักษณะเป็นสำลีหลอดเล็ก ๆ ใช้สอดเข้าไปในช่องคลอดเพื่อซึมซับและรองรับเลือดประจำเดือนก่อนที่เลือดจะไหลออกจากช่องคลอด ผ้าอนามัยชนิดนี้อาจเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในการประกอบกิจวัตรประจำวัน หรือต้องทำกิจกรรมบางอย่างที่อาจทำได้ไม่สะดวกหากใช้ผ้าอนามัยแบบแผ่น เช่น การว่ายน้ำ ทั้งนี้ ควรเลือกขนาดของผ้าอนามัยที่เหมาะสมและพอดีกับปริมาณประจำเดือนที่มาเป็นประจำในแต่ละเดือน โดยในช่วงวันแรก ๆ ของการมีประจำเดือนอาจเลือกใช้ผ้าอนามัยแบบสอดขนาดใหญ่ที่ซึมซับเลือดได้มากขึ้น ในขณะที่ประจำเดือนยังมาไม่เต็มที่หรือวันที่ใกล้จะหมดอาจเลือกใช้ผ้าแผ่นอนามัยแบบแผ่นแทนที่จะใช้ผ้าอนามัยแบบสอดเพื่อลดการระคายเคืองในขณะใส่ ผ้าอนามัยแบบสอดมีทั้งแบบที่มาพร้อมเครื่องช่วยสอดที่เป็นแท่งพลาสติก และแบบที่ใช้นิ้วสอดเข้าไปเอง โดยจะมีเชือกอยู่ที่ปลายของผ้าอนามัยสำหรับดึงออกมานอกร่างกาย หากใส่ผ้าอนามัยแบบสอดอย่างถูกวิธีในตำแหน่งที่เหมาะสมจะไม่รู้สึกว่ามีอะไรอยู่ในช่องคลอดหรือรู้สึกระคายเคือง หากใส่แล้วรู้สึกถึงวัตถุภายในช่องคลอดหรือรู้สึกเจ็บ อาจแสดงว่าใส่ผ้าอนามัยไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจจะเกิดจากการใส่ตื้นเกินไป และควรดึงออกมาแล้วใส่ใหม่อีกครั้ง และควรใส่ผ้าอนามัยแบบสอดในขณะที่รู้สึกผ่อนคลาย ไม่ควรเกร็งหรือทำให้ช่องคลอดบีบรัด เพราะอาจทำให้ใส่ผ้าอนามัยได้ยากขึ้น ในขณะใส่อาจแบ่งเล็กน้อยเพื่อทำให้ก่อนการเปิดของปากช่องคลอดมากขึ้นซึ่งจะทำให้ใส่ได้ง่ายขึ้น วิธีใส่ผ้าอนามัยแบบสอด อย่างถูกวิธี วิธีใส่ผ้าอนามัยแบบสอด อย่างถูกวิธี อาจทำได้ดังนี้ วิธีการใส่และถอดผ้าอนามัยแบบใช้นิ้วมือ ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำเปล่า จากนั้นเช็ดมือให้แห้งสนิทด้วยผ้าหรือทิชชู่สะอาด ใช้นิ้วมือข้างหนึ่งเปิดปากช่องคลอดให้ขยายออกเล็กน้อย เพื่อให้สามารถสอดผ้าอนามัยเข้าไปได้สะดวก จากนั้นค่อย ๆ ใช้นิ้วมืออีกข้างจับผ้าอนามัยสอดเข้าไปในช่องคลอด ใช้นิ้วมือดันผ้าอนามัยเข้าไปในช่องคลอดให้ลึกประมาณ 2 ข้อนิ้วมือ […]


สุขภาพทางเพศ

มีเมือกใส ๆ ออกมาจากช่องคลอด คืออะไร เกิดจากสาเหตุใด

โดยทั่วไป เมื่อ มีเมือกใสๆออกมาจากช่องคลอด ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอาการของตกขาว ซึ่งเป็นสารคัดหลั่งที่ร่างกายผลิตออกมาเพื่อทำความสะอาดช่องคลอด และช่วยในการป้องกันการติดเชื้อ โดยระดับฮอร์โมนในร่างกายจะทำให้ปริมาณและความเข้มข้นของตกขาวแตกต่างกันไปในแต่ละรอบเดือน จึงเป็นเรื่องปกติที่ตกขาวอาจมีปริมาณและความเหนียวข้นเพิ่มขึ้นในบางช่วง อย่างไรก็ตาม หากมีความผิดปกติร่วมด้วย เช่น มีตกขาวปริมาณมากร่วมกับอาการคัน แสบ บริเวณช่องคลอด อาจเป็นสัญญาณของภาวะผิดปกติ เช่น การติดเชื้อในช่องคลอด ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาโดยเร็วที่สุด [embed-health-tool-ovulation] ตกขาว คืออะไร ตกขาว คือ สารคัดหลั่งบริเวณช่องคลอด มีสีใส เป็นเมือกเหลวคล้ายไข่ขาว ผลิตออกมาจากต่อมในช่องคลอดและปากมดลูก ทำหน้าที่ขับเซลล์ที่ตายแล้วและแบคทีเรียภายในช่องคลอดออกไปจากร่างกาย ช่วยหล่อลื่นช่องคลอด รักษาสมดุลของความเป็นกรดด่างภายในช่องคลอด และป้องกันการติดเชื้อ ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในร่างกายจะส่งผลต่อปริมาณและความเข้มข้นของตกขาว ตกขาวจะมีลักษณะเหลวใสในช่วงกลางของรอบเดือนซึ่งจะเป็นช่วงก่อนไข่ตก และจะกลายเป็นตกขาวเหนียวข้นในช่วงเวลาอื่น ๆ โดยปริมาณและความเข้มข้นล้วนแตกต่างไปในแต่ละคน บางคนอาจไม่สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของตกขาวในแต่ละรอบ ในขณะที่บางคนอาจรู้สึกว่ามีเมือกใสๆออกมาจากช่องคลอด ในช่วงกลางของรอบเดือน ซึ่งจะหายไปเองได้โดยไม่ต้องรักษา มีเมือกใส ๆ ออกมาจากช่องคลอด ผิดปกติไหม ตกขาวเป็นน้ำใส ๆ อันตรายไหม ตกขาวผิดปกติอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ จึงควรหมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอ โดยอาจสังเกตจากสี กลิ่น ปริมาณ และอาการร่วมเมื่อมีตกขาว หากพบว่ามีอาการผิดปกติ มีเมือกใสๆออกมาจากช่องคลอด เยอะ ควรไปพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้อาการลุกลามและเกิดภาวะที่รุนแรง เช่น ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ การติดเชื้อในช่องคลอด มะเร็งปากมดลูก […]


โรคพยาธิในช่องคลอด

โรคพยาธิในช่องคลอดจากการติดเชื้อโปรโตซัว อาการ ปัจจัยเสี่ยง และวิธีรักษา

โรคพยาธิในช่องคลอด (Trichomoniasis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อ โปรโตซัว (Protozoa) ชื่อว่า ทริโคโมแนส วาจินาลิส (Trichomonas vaginalis) ทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ส่วนล่าง รวมไปถึงส่วนนอกของอวัยวะเพศ ผู้หญิงที่ติดเชื้ออาจเกิดการระคายเคือง คัน ตกขาวมีกลิ่น และเจ็บเมื่อปัสสาวะ ส่วนในผู้ชายมักไม่แสดงอาการ อย่างไรก็ตาม การสวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์อาจช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคพยาธิในช่องคลอดได้ ทั้งนี้ หากพบว่ามีความเสี่ยงหรือมีอาการที่เข้าข่ายว่าจะเป็นโรคพยาธิในช่องคลอด ควรไปพบคุณหมอเพื่อรักษาให้หายขาดเพื่อสุขภาพของตัวเองและลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรคไปยังบุคคลอื่น [embed-health-tool-ovulation] โรคพยาธิในช่องคลอดที่เกิดจากเชื้อโปรโตซัว คืออะไร โปรโตซัวเป็นปรสิตเซลล์เดียวขนาดเล็ก อาศัยอยู่ตามธรรมชาติทั่วไป เช่น แหล่งน้ำ ดิน บริเวณที่ชื้นแฉะ และบนร่างกายของสัตว์บก เช่น แมว สุนัข เมื่อเข้าสู่ร่างกายผ่านการสัมผัสเชื้อหรือการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ อาจก่อให้เกิดโรคต่างๆ ในคนได้ เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคมาลาเรีย รวมไปถึงโรคพยาธิในช่องคลอด โรคพยาธิในช่องคลอด เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัวที่ชื่อว่าทริโคโมแนส วาจินาลิส มีระยะฟักตัวของโรคก่อนแสดงอาการประมาณ 10-14 วัน โดยแหล่งของเชื้ออยู่ในอสุจิ ตกขาวหรือสารคัดหลั่งจากช่องคลอด เชื้อนี้ติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้งการร่วมเพศระหว่างชายและหญิง หญิงและหญิง รวมไปถึงชายและชาย ปรสิตชนิดนี้จะทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณระบบสืบพันธุ์ส่วนล่าง สำหรับผู้หญิงจะเป็นการติดเชื้อบริเวณช่องคลอด ปากมดลูก และท่อปัสสาวะ สำหรับผู้ชายจะเป็นการติดเชื้อบริเวณท่อปัสสาวะด้านในขององคชาต […]


สุขภาพทางเพศ

ปวดท้องเมนส์ ทําไง วิธีดูแลตัวเองเมื่อปวดท้องเมนส์

อาการปวดท้องเมนส์เป็นอาการที่ไม่พึงประสงค์ที่พบได้บ่อยในช่วงเป็นประจำเดือนหรือเป็นเมนส์ของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ อาการนี้เกิดจากสารเคมีที่เรียกว่าพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandins) ซึ่งผลิตขึ้นที่เยื่อบุมดลูกทำให้กล้ามเนื้อหดรัดตัว ส่งผลให้ปวดท้อง เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว โดยบางคนอาจเริ่มมีอาการตั้งแต่ช่วงที่เริ่มมีเมนส์ครั้งแรก จนทำให้เกิดคำถามว่า ปวดท้องเมนส์ ทําไง โดยการดูแลตัวเองเมื่อปวดท้องเมนส์โดยเบื้องต้น เช่น ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ อาจช่วยบรรเทาอาการปวดท้องได้ อย่างไรก็ตามหากปวดท้องรุนแรงจนกระทบการใช้ชีวิตประจำวัน ควรไปพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม [embed-health-tool-ovulation] สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงปวดท้องเมนส์ สาเหตุของอาการปวดท้องเมนส์ อาจแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ สาเหตุของอาการปวดท้องเมนส์ปฐมภูมิ (Primary dysmenorrhoea) เกิดจากการบีบรัดของมดลูกเพื่อขับประจำเดือนออกจากร่างกาย ถือเป็นภาวะปกติของระบบสืบพันธุ์ เมื่อมดลูกบีบรัดตัวเนื่องจากได้รับการกระตุ้นจากสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนที่เรียกว่าพรอสตาแกลนดินในเยื่อบุโพรงมดลูก เมื่อผนังมดลูกหดตัวจะทำให้หลอดเลือดภายในมดลูกถูกบีบรัด จนไม่สามารถส่งเลือดและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงมดลูกได้ชั่วคราว กล้ามเนื้อมดลูกจึงบีบตัวมากขึ้นและทำให้ปวดท้องเมนส์ได้ สาเหตุของอาการปวดท้องเมนส์ทุติยภูมิ (Secondary dysmenorrhoea) เกิดจากภาวะสุขภาพที่อาจทำให้มีอาการปวดท้องเมนส์รุนแรงกว่าปกติ โดยอาการปวดท้องเมนส์ทุติยภูมิมักจะปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละรอบเดือน ในบางรายอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ที่มีอาการปวดลักษณะนี้อาจพบว่ามีโรคหรือภาวะผิดปกติบางอย่างที่เป็นต้นเหตุการปวดท้องนอกเหนือไปจากกลไกการปวดท้องเมนส์ปกติ ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อหาสาเหตุและรับการรักษา โดยภาวะผิดปกติที่ทำให้ปวดท้องเมนส์อย่างรุนแรง อาจเกิดได้จากสาเหตุต่อไปนี้ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอกมดลูก มดลูกโต การใช้ห่วงอนามัย อาการปวดท้องเมนส์ อาการปวดท้องเมนส์ อาจมีลักษณะดังนี้ ปวดท้องส่วนล่างหรือท้องน้อย ปวดตั้งแต่ก่อนมีเมนส์ 1-3 วัน และมีอาการปวดรุนแรงในช่วงวันแรกที่เมนส์มา โดยอาการจะบรรเทาลงใน 2-3 วัน ปวดร้าวบริเวณหลังไปจนถึงต้นขา ปวดบีบหรือปวดเกร็งเป็นพัก ๆ บริเวณหน้าท้อง […]


สุขภาพทางเพศ

นมโต ผิดปกติไหม เสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมหรือไม่

นมโต หมายถึง การมีขนาดหน้าอกใหญ่กว่าขนาดโดยเฉลี่ย โดยในกรณีของหญิงไทย อาจหมายถึงการมีขนาดหน้าอกเกิน 32 นิ้วหรือเต้านมใหญ่กว่าคัพ A ทั้งนี้ ผู้หญิงส่วนใหญ่อาจรู้สึกต้องการให้ตนเองมีหน้าอกใหญ่ แต่อาจส่งผลเสียคือทำให้ปวดหลัง หัวไหล่ และอาจเป็นสาเหตุของผื่นบริเวณใต้ราวนมได้ง่ายกว่าปกติ นอกจากนั้น อาจสร้างความกังวลใจว่าหากมีนมโตจะเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมหรือไม่ ซึ่งแท้จริงแล้วปัจจัยเสี่ยงมะเร็งเต้านมนั้นมีหลายปัจจัยที่อาจไม่เกี่ยวกับขนาดของเต้านม [embed-health-tool-ovulation] สาเหตุของการมีนมโต ขนาดหน้าอกเป็นลักษณะของร่างกาย ซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล เช่นเดียวกับลักษณะอื่น ๆ เช่น ความสูง สีผม สีตา ทั้งนี้ การมีนมโตกว่าผู้อื่น อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้ พันธุกรรม ระดับฮอร์โมนเพศเอสโทรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเพศหญิงเข้าสู่วัยรุ่น หรือขณะตั้งครรภ์ น้ำหนักตัว โดยการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัว อาจมีผลให้นมโตขึ้นตามไปด้วยได้ ขนาดของหน้าอกที่เรียกว่า นมโต โดยทั่วไปการมีนมโต หมายถึง การมีหน้าอกขนาดใหญ่กว่าค่าเฉลี่ย สำหรับหญิงไทยและหญิงเอเชียในประเทศอื่น ๆ นมโตอาจหมายถึงการมีรอบอกเกิน 32 นิ้วหรือขนาดเต้าใหญ่กว่าคัพ A ส่วนค่าเฉลี่ยของรอบอกในเพศหญิงทั่วโลกคือ 34 นิ้วหรือขนาดเต้าคัพ B ดังนั้น การมีนมโตของเพศหญิงทั่วโลกอาจหมายถึงการมีขนาดเต้าคัพ C หรือใหญ่กว่านั้น ผลกระทบต่อสุขภาพหากมี นมโต   การมีหน้าอกใหญ่อาจส่งผลต่อสุขภาพ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน