สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Hello คุณหมอ จึงอยากนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ผู้อ่านได้มีสุขภาพทางเพศที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพทางเพศ

ไขข้อสงสัย เชื้อเอชพีวีกับมะเร็งปากมดลูก เกี่ยวข้องกันอย่างไร

เชื้อเอชพีวีกับมะเร็งปากมดลูก ทั้ง 2 โรคนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร? คุณเคยสงสัยหรือไม่? วันนี้เราจะมาหาคำตอบถึงความเกี่ยวข้องกันของ เชื้อเอชพีวีกับมะเร็งปากมดลูก เพื่อให้คุณผู้หญิงทุกคนได้ระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น ถ้าพร้อมแล้วหาคำตอบความเกี่ยวข้องของเชื้อเอชพีวีกับมะเร็งปากมดลูกได้ในบทความนี้ HPV คือกลุ่มของเชื้อไวรัสที่เกี่ยวข้องมากกว่า 200 ชนิด บางชนิดแพร่กระจายผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางช่องปาก โดยจะแบ่งออกเป็นกล่มที่มีความเสี่ยงต่ำกับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง HPV กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำส่วนใหญ่ไม่ก่อให้เกิดโรค แต่บางชนิดอาจทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก หรือลำคอได้ HPV กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสามารถทำให้เกิดมะเร็งได้หลายประเภทหนึ่งในนั้น คือ มะเร็งปากมดลูก เชื้อเอชพีวีกับมะเร็งปากมดลูก เกี่ยวข้องกันอย่างไร มะเร็งปากมดลูกในสตรีส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อ ฮิวแมนแพพพิลโลมาไวรัส (Human papillomavirus : HPV) ซึ่งเป็นกลุ่มของเชื้อไวรัสที่มีมากกว่า 200 ชนิด เชื้อไวรัสจะแพร่กระจายในระหว่างมีเพศสัมพันธ์และการทำกิจกรรมทางเพศอื่น ๆ  เช่น การสัมผัสทางผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เชื้อ HPV อย่างน้อย 15 ชนิด มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูก ส่วนใหญ่ HPV16 และ HPV18 จะเป็นตัวที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด โดยเชื้อ HPV ที่มีความเสี่ยงสูงเหล่านี้จะเข้าไปหยุดการทำงานของเซลล์ ซึ่งส่งผลให้เซลล์สืบพันธ์มีความผิดปกติแบบควบคุมไม่ได้ นำไปสู่การเจริญเติบโตของเนื้องอกมะเร็ง ปัจจัยเสี่ยงเชื้อเอชพีวีพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูก ชนิดของเชื้อ […]

หมวดหมู่ สุขภาพทางเพศ เพิ่มเติม

การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย

สำรวจ สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ

กินน้ำอสุจิ ท้องไหม

กินน้ำอสุจิ ท้องไหม อาจเป็นคำถามที่หลายคนกังวลเมื่อมีออรัลเซ็กส์ (Oral Sex) หรือมีเพศสัมพันธ์ทางปาก อย่างไรก็ตาม การกินน้ำอสุจิไม่ทำให้ท้องได้ เนื่องจากอสุจิที่เข้าไปทางปากจะเดินทางไปตามระบบย่อยอาหารซึ่งไม่เชื่อมต่อกับระบบสืบพันธุ์ และกรดต่าง ๆ ในลำไส้และกระเพาะอาหารจะทำลายตัวอสุจิ จึงไม่สามารถทำให้การตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าออรัลเซ็กซ์แล้วปากของคู่นอนปนเปื้อนน้ำอสุจิและสัมผัสกับช่องคลอด ก็อาจเป็นไปได้ที่อสุจิจะเข้าไปในช่องคลอดทำให้ตั้งท้อง แต่มีโอกาสน้อยมาก [embed-health-tool-ovulation] กินน้ำอสุจิ ท้องไหม การตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดโดยไม่ป้องกัน อสุจิจะเข้าไปในช่องคลอดผ่านปากมดลูก มดลูก ท่อนำไข่ และผสมกับไข่จนเกิดการปฏิสนธิ จากนั้นไข่กับอสุจิที่ปฏิสนธิแล้วจะเข้าไปฝังตัวในผนังมดลูกและเจริญเติบโตเป็นตัวอ่อน แต่หากไม่มีอสุจิเข้าไปผสมกับไข่ก็ไม่สามารถทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น การกินน้ำอสุจิเข้าไปทางปาก อสุจิจะไหลไปยังระบบย่อยอาหารซึ่งไม่เชื่อมต่อกับระบบสืบพันธุ์และตัวอสุจิจะถูกทำลายด้วยกรดในกระเพาะอาหาร จึงไม่มีโอกาสที่จะตั้งท้องเมื่อกินน้ำอสุจิเข้าไป น้ำอสุจิสามารถกินได้เนื่องจากอสุจิประกอบด้วยแคลเซียม ซิเตรต (Citrate) ฟรุกโตส กลูโคส กรดแลคติก แมกนีเซียม โพแทสเซียม โปรตีน และสังกะสี ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีไว้เพื่อหล่อเลี้ยงตัวอสุจิในขณะเดินทางไปผสมกับไข่ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้น้ำอสุจิจะมีสารอาหารที่สามารถรับประทานได้ แต่ก็ไม่ใช่แหล่งโภชนาการที่ดี ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองใน หนองในเทียม ซิฟิลิส หูด เริม เอชไอวี กิจกรรมทางเพศที่อาจทำให้ท้อง กิจกรรมทางเพศหลายรูปแบบที่อาจทำให้ตั้งท้องได้ อาจมีดังนี้ การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดโดยไม่ป้องกัน ไม่สวมถุงยางอนามัย การแตกนอก กรณีนี้ถึงแม้ว่าผู้ชายจะดึงอวัยวะเพศออกมาเพื่อหลั่งน้ำอสุจินอกอวัยวะเพศหญิง แต่ในน้ำหล่อลื่นที่ออกมาระหว่างมีเพศสัมพันธ์อาจมีตัวอสุจิผสมอยู่จนทำให้ตั้งท้องได้เช่นกัน การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักโดยไม่ป้องกัน […]


สุขภาพทางเพศ

การมีเซ็กส์ทุกวัน ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร

การมีเซ็กส์ทุกวัน อาจช่วยเผาผลาญแคลอรี่ ส่งเสริมสุขภาพจิต ผ่อนคลายความเครียด และทำให้ความสัมพันธ์เป็นไปในทางที่ดีขึ้น แม้ว่าการมีเซ็กส์ทุกวันจะมีประโยชน์มากมาย แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ หากไม่ป้องกันให้ถูกวิธี [embed-health-tool-bmr] ประโยชน์ของการมีเซ็กส์ทุกวัน  การมีเซ็กส์ทุกวัน อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้ บำรุงสุขภาพหัวใจ ลดความดันโลหิต ความเครียดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นสูง ส่งผลต่อสุขภาพหัวใจ การมีเซ็กส์ทุกวันอาจช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจทำให้เลือดสูบฉีดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะทั่วทั้งร่างกายได้ดี ทั้งยังช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย และทำให้คลายเครียด เผาผลาญแคลอรี การมีเซ็กส์อาจทำให้ออกแรงเยอะเสมือนกับการออกกำลังกาย ทำให้ช่วยเผาผลาญไขมัน โดยการมีเซ็กส์ 30 นาที อาจเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า 80 กิโลแคลอรี ซึ่งอาจส่งผลดีต่อการควบคุมน้ำหนัก ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น การมีเซ็กส์ทุกวันอาจทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน (Endorphin) และฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ช่วยผ่อนคลายความเครียด ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคซึมเศร้า และทำให้นอนหลับสนิทขึ้น เมื่อร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ก็จะตื่นตัวพร้อมดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ทั้งยังช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยและการติดเชื้อ บรรเทาอาการปวดประจำเดือน การมีเซ็กส์ขณะมีประจำเดือนอาจช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ อย่างไรก็ตาม การมีเซ็กส์ตอนเป็นประจำเดือนอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัว เนื่องจากประเดือนอาจเปรอะเปื้อน และทำให้ความสุขทางเพศลดลง หรืออาจทำให้เสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย ช่วยให้อายุยืน การมีเซ็กส์ทุกวันโดยไปให้ถึงจุดสุดยอดอาจทำให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมนดีไฮโดรอีพิแอนโดรสเตอโรน (Dehydroepiandrosterone) ที่ช่วยชะลอความชรา ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนที่สึกหรอ ทั้งยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง […]


สุขภาพทางเพศ

วิธีการจูบ กระตุ้นอารมณ์รัก กระชับความสัมพันธ์

การจูบ คือ พฤติกรรมแสดงความรัก ความห่วงใย และความต้องการทางเพศ ทั้งยังเป็นการเล้าโลมที่อาจช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศก่อนมีเซ็กส์ หรือระหว่างมีเซ็กส์ วิธีการจูบ ที่ดีอาจเริ่มจากการจูบอย่างช้า ๆ และค่อย ๆ ไต่ระดับไปถึงการจูบแบบดูดดื่ม อย่างไรก็ตาม การจูบก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิด เกิดการเจ็บป่วยจากการสัมผัสน้ำลาย เช่น ไข้หวัด หูด เริม [embed-health-tool-ovulation] การจูบมีประโยชน์อย่างไร การจูบอาจมีประโยชน์ต่อสุขกายและจิตใจ ดังนี้ เผาผลาญแคลอรี่ การจูบอาจช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ 8-16 กิโลแคลอรี่ เนื่องจากขณะที่จูบเพื่อเล้าโลมและกระตุ้นอารมณ์ทางเพศก่อนมีเพศสัมพันธ์ อาจทำให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหว หากยิ่งจูบอย่างร้อนแรง ดูดดื่มเท่าไหร่ก็ยิ่งส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่มากเท่านั้น ลดความดันโลหิต การจูบอย่างดูดดื่มอาจทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ส่งผลให้ร่างกายสูบฉีดเลือดจนนำไปสู่การขยายของหลอดเลือด ลดความดันโลหิต บรรเทาอาการปวดหัว และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ บรรเทาอาการแพ้ การจูบกับคู่รักอาจทำให้ได้รับแบคทีเรียที่ดีในช่องปากของอีกฝ่าย ทำให้เพิ่มภูมิคุ้มกันที่อาจช่วยบรรเทาอาการแพ้จากสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ เช่น เกสรดอกไม้ ไรฝุ่น อีกทั้งยังอาจช่วยลดความเครียดที่เป็นสาเหตุหนึ่งในการกระตุ้นทำให้อาการแพ้แย่ลง ป้องกันฟันผุ อาการฟันผุเกิดจากเศษอาหารที่ติดตามซอกฟันและการสะสมของแบคทีเรีย การจูบจึงอาจช่วยกระตุ้นให้ต่อมน้ำลายผลิตน้ำลายมากขึ้น ช่วยให้เศษอาหารไม่ติดฟัน กำจัดคราบพลัค จึงอาจช่วยป้องกันฟันผุได้ ใบหน้ากระชับและผิวหน้าดูอ่อนกว่าวัย ใบหน้ามีกล้ามเนื้อประมาณ 2-34 มัด การจูบจึงทำให้มีการขยับใบหน้าและใช้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน […]


สุขภาพทางเพศ

6 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยในผู้ชาย

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คือ โรคที่ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ ไม่ว่าทางปาก อวัยวะเพศ หรือทวารหนัก โรคที่พบได้บ่อยใน ผู้ชาย ได้แก่ หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส แผลริมอ่อน เริม และหูดที่อวัยวะเพศ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อาจรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้ เพราะบางโรคอาจใช้เวลานานกว่าจะแสดงอาการจึงทำให้ผู้ที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อาจแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยป้องกัน ในประเทศไทย โดยกระทรวงสาธารณสุขชี้ว่า อัตราป่วยด้วยโรคทั้ง 6 เพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจนในทุกกลุ่มอายุ โดยในกลุ่มอายุ 15-19 ปีเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในรอบ 10 ปี จากอัตราป่วย 79 คน ต่อประชากรหนึ่งแสนคน เป็น 191 คน ต่อประชากรหนึ่งแสนคน โดยในเพศชาย ผู้ป่วยซิฟิลลิสเพิ่มจาก 3.1 คน ต่อประชากรหนึ่งแสนคน ในปี 2553 เป็น 17.1 คน ในปี 2562 หรือมากกว่า 5 เท่า ในรอบ 10 ปี [embed-health-tool-bmr] 6 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่พบได้ใน […]


สุขภาพทางเพศ

ไข่ดัน สาเหตุ อาการ การรักษาและการดูแลตัวเอง

ไข่ดัน คือ อาการต่อมน้ำเหลืองบวมบริเวณขาหนีบ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือมะเร็ง ไข่ดันไม่ได้เกิดเฉพาะกับผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน หากรู้สึกถึงความผิดปกติบริเวณขาหนีบ ต่อมน้ำเหลืองบวม เจ็บปวด หรือมีก้อนที่โตเร็ว ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยทันที และรับการรักษาที่เหมาะสม [embed-health-tool-ovulation] คำจำกัดความ ไข่ดัน คืออะไร ไข่ดัน คือ อาการต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบบวม โดยทั่วไปเป็นผลมาจากการติดเชื้อจากไวรัสหรือแบคทีเรีย ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ร่างกายคนเราประกอบด้วยต่อมน้ำเหลืองประมาณ 500-600 ต่อม กระจายอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น บริเวณคอ รักแร้ ขาหนีบ ต่อมน้ำเหลืองมีรูปร่างคล้ายถั่ว มีหน้าที่ดักจับไวรัส แบคทีเรีย หรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาสู่ร่างกาย โดยเม็ดเลือดขาวที่อยู่ในต่อมน้ำเหลืองจะเป็นตัวทำลายเชื้อโรคเหล่านั้น โดยปกติแล้ว ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบมีขนาดเล็กจนสัมผัสไม่ได้ แต่หากมีอาการไข่ดัน ต่อมน้ำเหลืองจะโตขึ้น อาจเจ็บเวลาเดิน นั่ง หรือสัมผัส อาการ อาการของไข่ดัน ผู้ที่มีอาการไข่ดัน อาจมีอาการดังนี้ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบบวมกว่าปกติ รู้สึกเจ็บบริเวณขาหนีบ ระคายเคืองหรือมีผื่นคันบริเวณอวัยวะเพศ อวัยวะเพศอักเสบหรือบวมแดง มีไข้ ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด โดยทั่วไป ต่อมน้ำเหลืองจะหายบวมได้เอง อย่างไรก็ตาม หากผู้เป็นไข่ดันพบว่าตัวเองมีอาการดังนี้ ควรไปพบคุณหมอ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบบวมเป็นเวลานาน ซึ่งอาจเกิน 5 วันในเด็ก หรือเกิน 2 […]


สุขภาพทางเพศ

อวัยวะเพศชายเป็นแผล เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง

อวัยวะเพศชายเป็นแผล อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น เริมที่อวัยวะเพศ การบาดเจ็บที่อวัยวะเพศ หูดที่อวัยวะเพศ ซึ่งอาการและวิธีการรักษาอาจแตกต่างกันออกไปตามสาเหตุที่ทำให้เกิดแผล ดังนั้น หากสังเกตพบความผิดปกติบริเวณอวัยวะเพศ เช่น มีแผล อาการปวด แสบ เลือดออก อาการบวม ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดและทำการรักษาอย่างรวดเร็ว [embed-health-tool-ovulation] อวัยวะเพศชายเป็นแผล เกิดจากอะไร การบาดเจ็บที่อวัยวะเพศ การบาดเจ็บที่อวัยวะเพศอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การหกล้ม อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมผาดโผน การบาดเจ็บจากการมีเพศสัมพันธ์ อุบัติเหตุจากการทำงาน ทำให้อาจเกิดบาดแผลในบริเวณอวัยวะเพศชาย รวมถึงอาการอื่น ๆ เช่น อาการอักเสบ บวม รอยช้ำ มีเลือดออก นอกจากนี้ ยังอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้  การรักษาอาการบาดเจ็บที่อวัยวะเพศที่ไม่รุนแรง อาจเพียงแค่ทำความสะอาดบาดแผลด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ แล้วปิดแผลด้วยผ้าก็อซหรือผ้าพันแผลเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าทางบาดแผล แต่หากเป็นบาดแผลที่รุนแรง ควรเข้ารับการรักษาจากคุณหมออย่างเร่งด่วน   เริมที่อวัยวะเพศ เริม เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Virus) ที่อาจแพร่กระจายสู่ผู้อื่นผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน อาการทั่วไปของเริมที่อวัยวะเพศคือ ตุ่มเล็ก ๆ เป็นกลุ่มของตุ่มน้ำใส  สีขาวหรือสีแดง แผลเปิด มีหนองหรือเลือดไหล อาการปวดหรือคันในบริเวณที่มีอาการ ผิวหนังตกสะเก็ด  เริมไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่คุณหมออาจให้รับประทานยาต้านไวรัส เช่น […]


สุขภาพทางเพศ

อสุจิอยู่ได้กี่วัน และเคล็ดลับการเพิ่มคุณภาพของอสุจิ

อสุจิ หรือ สเปิร์ม เป็นเซลล์สืบพันธุ์ของเพศชาย โดยเมื่ออสุจิเข้าไปผสมกับไข่ที่อยู่ในท่อนำไข่ จะเกิดจากการปฏิสนธิกลายเป็นตัวอ่อนฝังตัวในมดลูก แล้วพัฒนาเป็นทารกในครรภ์ การหลั่งน้ำอสุจิจะเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ชายถึงจุดสุดยอด โดยในแต่ละครั้งอาจมีน้ำอสุจิและตัวอสุจิในปริมาณที่แตกต่างกันไป การทราบว่า อสุจิอยู่ได้กี่วัน อาจมีส่วนช่วยให้สามารถวางแผนครอบครัว หรือวางแผนในการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งกับผู้ที่ต้องการตั้งครรภ์และยังไม่พร้อมตั้งครรภ์  [embed-health-tool-heart-rate] อสุจิ คืออะไร  อสุจิ คือ เซลล์สืบพันธุ์ของเพศชาย โดยปกติ เมื่อผู้ชายถูกกระตุ้นอารมณ์ทางเพศจนถึงจุดสูงสุด หรือที่มักเรียกว่า ถึงจุดสุดยอด จะหลั่งน้ำอสุจิหรือน้ำเชื้อ มีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวขุ่น ประกอบด้วยตัวอสุจิ เซลล์เยื่อบุ เม็ดเลือดขาว และสารอาหารที่ช่วยหล่อเลี้ยงตัวอสุจิ เช่น สังกะสี ซึ่งการหลั่งน้ำอสุจิ 1 ครั้ง จะมีปริมาณของน้ำอสุจิไม่ต่ำกว่า 1.5 มิลลิลิตร และมีตัวอสุจิไม่น้อยกว่า 15 ล้านตัว/มิลลิลิตร หากน้อยกว่านี้ อาจเป็นสัญญาณว่ามีปัญหาระบบสืบพันธุ์ และอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะมีบุตรยาก สำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบคุณภาพของอสุจิอาจต้องงดมีเพศสัมพันธ์หรือช่วยตัวเองเป็นเวลา 2-5 วันก่อนเข้ารับการทดสอบ เนื่องจากคุณหมอจะต้องเก็บตัวอย่างอสุจิไปวัดปริมาณของอสุจิ การเคลื่อนไหวของอสุจิและรูปร่างของอุสจิ และการงดมีเพศสัมพันธ์หรืองดช่วยตัวเองตามระยะเวลาที่ระบุอาจช่วยได้ผลลัพธ์แน่ชัดขึ้น สีของอสุจิ  น้ำอสุจิมักมีสีขาวขุ่น สีครีม หรือสีขาวอมเทา หากสีของอสุจิเปลี่ยนแปลงอาจเป็นสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพได้ เช่น  อสุจิสีเหลืองหรือสีเขียว อาจเกิดจากต่อมลูกหมากติดเชื้อ ผลข้างเคียงของการรับประทานยาหรือวิตามิน โรคดีซ่าน อสุจิสีแดง […]


การคุมกำเนิด

ยาคุมฮอร์โมนต่ำ คืออะไร

ยาคุมฮอร์โมนต่ำ คือ ยาคุมกำเนิดชนิดหนึ่งที่มีปริมาณของฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยกว่ายาคุมกำเนิดปกติ โดยปกติแล้ว ยาคุมกำเนิดมักจะมีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจนประมาณ 30-50 ไมโครกรัม แต่ยาคุมฮอร์โมนต่ำอาจมีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจนประมาณ 20 ไมโครกรัม หรือน้อยกว่านั้น ทั้งนี้ ยาคุมฮอร์โมนต่ำอาจมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่ต่างจากยาคุมกำเนิดแบบปกติหากใช้อย่างถูกวิธี อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรก่อนตัดสินใจรับประทาน [embed-health-tool-ovulation] ยาคุมกำเนิดมีกี่ประเภท  ยาคุมกำเนิดอาจแบ่งแยกประเภทได้ ดังนี้  ยาคุมกำเนิดฮอร์โมนเดี่ยว เป็นยาคุมที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หนึ่งแผงจะมียาทั้งหมด 28 เม็ด หากรับประทานถูกวิธี เช่น เจ็บหน้าอก ผิวเป็นจุดคล้ายกระ ซึ่งส่วนใหญ่อาการจะหายได้เองภายใน 2-3 เดือน ยาคุมกำเนิดฮอร์โมนรวม เป็นยาคุมที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสติน ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนตามธรรมชาติ มีทั้งชนิดแผงละ 21 เม็ด และแผงละ 28 เม็ด ถือเป็นยาคุมกำเนิดที่นิยมใช้กันมากที่สุด หากรับประทานถูกวิธี  การรับประทานยาคุมกำเนิดฮอร์โมนรวมอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อารมณ์แปรปรวน เจ็บเต้านม ปวดศีรษะ หน้าเป็นฝ้า เลือดออกกะปริบกะปรอย ซึ่งอาการมักดีขึ้นหลังจากเริ่มใช้ยาประมาณ 2-3 เดือน ยาคุมฉุกเฉิน เป็นตัวยาที่มีส่วนประกอบฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนขนาดสูง คือ ลีโวนอร์เจสเตรล (levonorgestrel) […]


การคุมกำเนิด

ยาคุมกินตอนไหน เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีที่สุด

ยาคุมกำเนิด เป็นวิธีที่นิยมใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ ยาคุมกำเนิดมีฮอร์โมนเพศหญิงเป็นส่วนประกอบหลัก การรับประทานยาคุมกำเนิดอย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ทั้งนี้ การทราบข้อมูลที่แน่ชัดว่า ยาคุมมีกี่ประเภท ยาคุมกินตอนไหน และควรกินอย่างไร อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยยาคุมกำเนิดได้ อย่างไรก็ตาม ยาคุมกำเนิดไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์   [embed-health-tool-ovulation] ยาคุม คืออะไร  ยาคุมกำเนิด หรือที่นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า ยาคุม คือ ยาที่ช่วยลดโอกาสในการตั้งครรภ์ มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเพศหญิง ได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนสังเคราะห์เลียนแบบฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ได้แก่ โปรเจสโตรเจน ยาคุมแต่ละประเภทอาจมีฮอร์โมนเพศในชนิดและปริมาณที่แตกต่างกันไป  ประเภทของยาคุมกำเนิดที่อาจพบได้บ่อย เช่น  ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว มีโปรเจสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์เลียนแบบฮอร์โมนโปรเจนเตอโรนเพียงอย่างเดียว ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม มีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตรเจนเป็นส่วนประกอบ ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน มีฮอร์โมนลีโวนอร์เจสเตรล ซึ่งเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์เลียนแบบฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเป็นส่วนประกอบ ยาคุมกำเนิดจะเข้าไปปรับเปลี่ยนการทำงานของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศหญิง เช่น รังไข่ ปากมดลูก ผนังมดลูก โดยการสร้างเมือกบริเวณปากมดลูกเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้ยากขึ้น และยังทำให้ผนังมดลูกบางลง ตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวที่ผนังมดลูกได้ จึงไม่ตั้งครรภ์ ยาคุมกินตอนไหน   การรับประทานยาคุมกำเนิดแบบปกติ เช่น แบบฮอร์โมนเดี่ยว แบบฮอร์โมนรวม อาจทำได้ดังนี้  เริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดในวันแรกที่มีประจำเดือน หรืออาจช้ากว่านั้นได้ แต่ไม่ควรเกินวันที่ 5 ของการมีประจำเดือน  รับประทานยาต่อเนื่องทุกวัน วันละ […]


สุขภาพทางเพศ

ประจําเดือนเลื่อน เกิดจาก อะไร อันตรายต่อร่างกายหรือไม่

ประจําเดือนเลื่อน เกิดจาก ปัจจัยต่าง ๆ เช่น วัยหมดประจำเดือน ความเครียด การออกกำลังกายหนัก ที่ส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่มีความสำคัญต่อกระบวนการตกไข่และการมีประจำเดือน ดังนั้น หากสังเกตว่ามีอาการประจำเดือนมาช้ากว่าปกติ หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาอย่างรวดเร็ว [embed-health-tool-ovulation] เมนส์มาช้าสุดกี่วัน โดยปกติประจำเดือนจะมาทุก ๆ 21-35 วัน แต่บางครั้งอาจมาเร็วหรือมาช้ากว่ารอบเดือนปกติประมาณ 3-7 วัน ซึ่งประจำเดือนเลื่อนอาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ประจำเดือนมาเร็วหรือมาช้ากว่าปกติ อย่างไรก็ตาม ในแต่ละรอบประจำเดือนไม่ควรมามากกว่า 7 วัน  ประจําเดือนเลื่อน เกิดจาก อะไร ประจําเดือนเลื่อน เกิดจากหลายปัจจัย ดังนี้ วัยหมดประจำเดือน อายุประมาณ 40-55 ปี เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนเริ่มลดลงแล้วอาจทำให้การตกไข่น้อยลงตาม และส่งผลให้ประจำเดือนเลื่อนและหยุดลงในเวลาต่อมา ซึ่งอาจทำให้มีอาการนอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน ช่องคลอดแห้ง เป็นต้น  ความเครียด เนื่องจากความเครียดอาจส่งผลกระทบต่อการตกไข่และมีประจำเดือนเลื่อน ดังนั้น หากความเครียดลดลงประจำเดือนอาจกลับมาตามรอบปกติ ออกกำลังกายหนัก การออกกำลังกายอย่างหักโหมเป็นประจำอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ รวมถึงอาจส่งผลกระทบทำให้ระบบการทำงานของฮอร์โมนเพศเสียสมดุล อาจทำให้ประจำเดือนเลื่อนไม่มาตามรอบปกติ น้ำหนักมากหรือน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน เนื่องจากผู้ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์หรือโรคอ้วนอาจส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไป ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุลกัน และผู้ที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ อาจไม่มีสารอาหารไปกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนที่ทำให้ไข่ตก จนอาจทำให้ประจำเดือนเลื่อนหรือมาผิดปกติได้  ปัญหาด้านสุขภาพ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน