สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Hello คุณหมอ จึงอยากนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ผู้อ่านได้มีสุขภาพทางเพศที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพทางเพศ

วัคซีน HPV ผู้ชายฉีดได้ไหม? ช่วยอะไร?

HPV (Human Papillomavirus) คือไวรัสที่ติดต่อทางการมีเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย อีกทั้งยังอาจนำไปสู่การเกิดโรคร้ายอย่างมะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งลำคอ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจคิดว่า HPV ส่งผลกระทบแค่กับผู้หญิงเท่านั้น จึงมองข้ามความสำคัญของการฉีดวัคซีน hpv สำหรับผู้ชายไปได้ บทความนี้จึงอยากจะมาแก้ไขความเข้าใจผิด และนำเสนอให้ผู้อ่านได้เห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีน HPV ในผู้ชาย [embed-health-tool-vaccination-tool] HPV ส่งผลอะไรต่อผู้ชาย เชื้อไวรัส HPV เป็นเชื้อไวรัสที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดย แบ่งเป็นสายพันธุ์เสี่ยงต่ำ และสายพันธุ์เสี่ยงสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเพศชาย ดังนี้ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งทวารหนักเกิดจากการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูง เช่น HPV 16 และ 18 ซึ่งทำให้เซลล์บริเวณทวารหนักเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเป็นมะเร็งได้  ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ติดเชื้อ HIV  ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย  การมีคู่นอนหลายคน  อาการที่พบบ่อยคือ เลือดออกจากทวารหนัก ปวดหรือกดเจ็บในบริเวณนั้น และรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อ  การป้องกันทำได้โดยการฉีดวัคซีน HPV การตรวจคัดกรองในกลุ่มเสี่ยง และการใช้ถุงยางอนามัย มะเร็งองคชาต มะเร็งองคชาตเกิดจากการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูง เช่น HPV 16 และ […]

หมวดหมู่ สุขภาพทางเพศ เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ

รอบเดือนเกิน 35 วัน ผิดปกติหรือไม่ และเกิดจากสาเหตุใด

ปกติ ผู้หญิงจะมีรอบเดือน 21-35 วัน หรือเฉลี่ยประมาณ 28 วัน หาก รอบเดือนเกิน 35 วัน อาจเป็นภาวะผิดปกติที่มีสาเหตุมาจากกลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ กลุ่มอาการคุชชิงโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบ ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น การรักษาภาวะรอบเดือนเกิน 35 วันสามารถทำได้ด้วยการรักษาภาวะสุขภาพที่เป็นสาเหตุ เพื่อทำให้การทำงานของระบบสืบพันธุ์กลับมาทำงานเป็นปกติ [embed-health-tool-ovulation] รอบเดือนเกิน 35 วัน ผิดปกติหรือไม่ ตามปกติแล้ว ผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์จะมีประจำเดือนนานประมาณ 4-7 วัน และจะมีรอบเดือนประมาณ 21-35 วัน และมีรอบเดือนเฉลี่ยประมาณ 28 วัน ขึ้นอยู่กับอายุและภาวะสุขภาพด้วย ทั้งนี้ หากมีจำนวนวันในแต่ละรอบเดือนเท่า ๆ กัน แสดงว่ารอบเดือนเป็นปกติ สำหรับการมีรอบเดือนเกิน 35 วัน เรียกว่ารอบเดือนห่าง หรือรอบระดูห่าง (Oligomenorrhea) ทำให้ใน 1 ปีมีรอบเดือนน้อยลงและอาจมีประจำเดือนเพียง 4-9 ครั้งเท่านั้น ภาวะนี้พบได้ไม่บ่อยนักในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ แต่ก็ควรเข้าพบคุณหมอ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด รอบเดือนเกิน 35 วัน เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง การมีรอบเดือนเกิน 35 วัน […]


สุขภาพทางเพศ

มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด เกิดจากสาเหตุใด

ตามปกติแล้ว ผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์จะมีประจำเดือนหรือเมนส์มาเป็นประจำทุกเดือน เนื่องจากเยื่อบุผนังมดลูกหลุดลอกออกตามธรรมชาติ ประจำเดือนของแต่ละคนจะมีลักษณะและปริมาณแตกต่างกันไป ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของร่างกาย แต่หากพบว่า มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด ในช่วงที่ไม่ได้เป็นประจำเดือน ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น ปวดท้องน้อย ตกขาวเปลี่ยนสี แสบช่องคลอด [embed-health-tool-bmi] มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด เกิดจากสาเหตุใด อาการมีมูกเลือดออกทางช่องคลอด ที่เกิดขึ้นขณะไม่ได้เป็นประจำเดือน อาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้ ระดับฮอร์โมนผิดปกติ หากระดับฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ อาจทำให้การรับส่งสัญญาณผิดพลาดและทำให้มีมูกเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน อาจพบได้ในผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวมาก โดยทั่วไปสามารถรักษาได้ด้วยการลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม นอกจากนี้ระดับฮอร์โมนที่แปรปรวนยังอาจทำให้วัยรุ่นที่เพิ่งเข้าสู่ช่วงเป็นประจำเดือนและผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทองมีมูกเลือดออกทางช่องคลอดโดยไม่คาดคิดได้ การตั้งครรภ์ การตั้งครรภ์ในระยะแรกอาจทำให้มีมูกเลือดไหลจากช่องคลอด อาจเกิดจากตัวอ่อนฝังตัวเข้ากับโพรงมดลูก หรือที่เรียกว่า เลือดล้างหน้าเด็ก และขณะตั้งครรภ์ปากมดลูกอาจมีเลือดออกได้ง่ายเพราะมีหลอดเลือดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือทางการแพทย์ถ่างช่องคลอดเพื่อตรวจภายในก็อาจทำให้มีมูกเลือดออกทางช่องคลอดได้เช่นกัน ทั้งนี้ หากมีมูกเลือดออกในปริมาณมากขณะตั้งครรภ์ อาจเป็นสัญญาณของภาวะสุขภาพอื่น ๆ เช่น การแท้ง การตั้งครรภ์นอกมดลูก การคลอดก่อนกำหนด ปัญหาเกี่ยวกับมดลูก ปัญหาเกี่ยวกับรก ควรไปพบคุณหมอเพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างเหมาะสม การคุมกำเนิด การคุมกำเนิดด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ห่วงคุมกำเนิด (intrauterine device หรือ IUD) อาจกระทบต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย ส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ จนทำให้ มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด ในช่วงเวลาที่แตกต่างไปจากปกติได้ ปัญหาเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ แม้อาการมีมูกเลือดออกทางช่องคลอดในกรณีนี้จะพบได้ไม่บ่อย แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของภาวะสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์อย่างรังไข่ ปากมดลูก มดลูก […]


สุขภาพทางเพศ

วิธีรักษาตกขาวปนเลือด ทำได้อย่างไรบ้าง

ตกขาวปนเลือด (Bloody Vaginal Discharge) เป็นอาการตกขาวผิดปกติ ที่อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะสุขภาพบางประการ วิธีรักษาตกขาวปนเลือด และอาการตกขาวผิดปกติอื่น ๆ เช่น มีกลิ่นเหม็น เปลี่ยนเป็นสีเหลือง เขียว น้ำตาล จะแตกต่างไปตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ผู้ที่มีปัญหาควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาให้หายโดยเร็ว [embed-health-tool-bmi] สาเหตุ และ วิธีรักษาตกขาวปนเลือด โดยทั่วไป ตกขาวจะมีลักษณะเป็นของเหลว ใส ทำหน้าที่หล่อลื่นช่องคลอด ช่วยรักษาความสะอาดและป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอด หากตกขาวปนเลือดควรไปพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ เพราะสาเหตุของตกขาวปนเลือดนั้นมีด้วยกันหลายประการ วิธีรักษาตกขาวปนเลือด จึงแตกต่างกันไปตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ เช่น ความผิดปกติของฮอร์โมน ระดับฮอร์โมนที่แปรปรวนอาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือนในช่วงวันอื่น ๆ ที่ไม่ใช่วันมีประจำเดือนตามรอบเดือน จึงส่งผลให้มีตกขาวปนเลือดได้ ซึ่งอาจพบได้บ่อยในวัยรุ่นที่เพิ่งมีประจำเดือนและผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน วิธีรักษา อาการที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจบรรเทาลงได้ด้วยการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมโดยการควบคุมอาหาร ลดการกินจุกจิบ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้น้ำหนักลดลงและทำให้ฮอร์โมนกลับมาสมดุล เพราะน้ำหนักที่มากเกินไปมักทำให้ระดับฮอร์โมนแปรปรวนได้ การตั้งครรภ์ เมื่อตั้งครรภ์ กระบวนการตกไข่จะหยุดทำงาน ทำให้ไม่มีประจำเดือนตลอดการตั้งครรภ์ และร่างกายจะผลิตมูกปากมดลูก (Mucus plug) อุดบริเวณปากมดลูกไว้เพื่อป้องกันเชื้อโรค เช่น เชื้อแบคทีเรีย เข้าสู่มดลูกจนทำให้ทารกในครรภ์ติดเชื้อ เมื่อถึงช่วงใกล้คลอด ปากมดลูกจะหดและขยายตัว ส่งผลให้เส้นเลือดบริเวณปากมดลูกแตก ทำให้มีเลือดไหลปนออกมากับมูกปากมดลูก เรียกว่า มูกเลือด (Bloody show) […]


สุขภาพทางเพศ

ผู้ชายเสื่อมสมรรถภาพ อายุเท่าไหร่ มีสาเหตุมาจากอะไร

ผู้ชายเสื่อมสมรรภาพ อายุเท่าไหร่ ? โดยปกติแล้ว ผู้ชายจะยังมีความต้องการทางเพศอยู่จนกระทั่งถึงอายุ 60-70 ปี อย่างไรก็ตาม ระดับความต้องการทางเพศนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละคนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น อายุ ความเครียด ไลฟ์สไตล์ โรคประจำตัว ทำให้ผู้ชายบางรายอาจเสื่อมสมรรถภาพเร็วหรือช้ากว่านั้น [embed-health-tool-bmi] เสื่อมสมรรถภาพ หมายถึง อะไร ผู้ชายเสื่อมสมรรถภาพ หมายถึง การหมดความสนใจเกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศทุกชนิด หมดอารมณ์หรือไม่มีความต้องการทางเพศเป็นระยะเวลานาน รวมทั้งการที่องคชาตไม่แข็งตัว หรือใช้เวลานาน รวมทั้งการถึงจุดสุดยอดช้า หรือไม่สามารถถึงจุดสุดยอดได้ ทั้งนี้ อาการเสื่อมสมรรถภาพเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่โดยปกติแล้ว มักเกิดขึ้นได้ในผู้ชายวัยทอง หรือในช่วงอายุระหว่าง 40 – 65 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่ร่างกายเริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงของระบบสืบพันธุ์ เนื่องจากอัณฑะเสื่อมสภาพไปตามธรรมชาติส่งผลให้ระดับฮอร์โมนแอนโดรเจน และเทสโทสเทอโรนค่อย ๆ ลดลง ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ เริ่มเปลี่ยนแปลงไปรวมทั้งความต้องการทางเพศและความสามารถในการทำกิจกรรมทางเพศที่ลดลงด้วยเช่นกัน สัญญาณเตือนอาการเสื่อมสมรรถภาพ การเสื่อมสมรรภาพทางเพศ ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้น เนื่องจากร่างกายเริ่มเสื่อมถอย อย่างไรก็ตาม หากต้องการทราบว่าตอนเองเสื่อมสมรรภาพทางเพศหรือไม่ อาจลองสังเกตสัญญาณต่อไปนี้ หมดความสนใจในกิจกรรทางเพศ รวมทั้งการช่วยตัวเอง ไม่มีจินตนาการเกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศ หรือแทบจะไม่คิดถึงการมีเพศสัมพันธ์ ไม่มีความสุขที่ตัวเองหมดอารมณ์ทางเพศหรือไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องเพศ สาเหตุที่ทำให้ ผู้ชายเสื่อมสมรรถภาพ สาเหตุที่ทำให้ความต้องการทางเพศลดน้อยลงนั้นมีด้วยกันหลายปัจจัย […]


สุขภาพทางเพศ

การฝันเปียก และการมีประจําเดือน มีความสัมพันธ์กันอย่างไร

ผู้หญิงและผู้ชายที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นอาจมีข้อสงสัยว่า การฝันเปียก และการมีประจําเดือน มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ซึ่งตามปกติทั้ง 2 อาการนี้เป็นสัญญาณของวัยเจริญพันธุ์ที่พร้อมในการสืบพันธุ์ หากทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีเพศสัมพันธ์ด้วยการสอดใส่และหลั่งใน ก็สามารถเกิดการตั้งครรภ์ได้ทันที [embed-health-tool-ovulation] ฝันเปียก คืออะไร ฝันเปียก คือ การหลั่งน้ำอสุจิออกมาจากอวัยวะเพศชายขณะหลับ โดยปกติแล้วฝันเปียกจะเกิดขึ้นขณะนอนหลับและอาจกำลังฝันถึงเรื่องเพศ ในความฝันสามารถปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศจนสามารถทำให้บุคคลถึงจุดสุดยอดขณะหลับได้ โดยที่ไม่ต้องสัมผัสกับอวัยวะเพศ ฝันเปียกเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ฝันเปียกมักเกิดขึ้นครั้งแรกในวัยแรกรุ่นอายุประมาณ 13 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวัยเจริญพันธุ์ โดยร่างกายจะเริ่มผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และอัณฑะเริ่มผลิตตัวอสุจิกับน้ำอสุจิ จากนั้นร่างกายจะปล่อยน้ำอสุจิออกมาเมื่อเกิดการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ โดยเฉพาะในขณะหลับ จึงถูกเรียกว่า ฝันเปียก ประจำเดือนคืออะไร ประจำเดือน คือ เลือดที่ไหลออกมาจากช่องคลอด ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างเป็นวัฏจักรในทุก ๆ เดือน เมื่อถึงช่วงตกไข่ รังไข่จะปล่อยไข่ไปยังท่อนำไข่เพื่อรอการผสมและปฏิสนธิ แต่หากไม่มีตัวอสุจิมาผสม ไข่และเยื่อบุโพรงมดลูกจะสลายตัวกลายเป็นเลือดประจำเดือน และไหลออกมาจากช่องคลอดในทุก ๆ เดือน ประจำเดือนเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ประจำเดือนมักเกิดขึ้นครั้งแรกในผู้หญิงวันแรกรุ่นที่อายุประมาณ 12-13 ปี ซึ่งเป็นวันเจริญพันธุ์ โดยปกติรอบเดือนจะเกิดขึ้นในทุก 28-30 วัน และจะตกไข่ในวันที่ 14 หากไม่มีการผสมกับอสุจิในช่วงเวลานี้ ไข่และเยื่อบุโพรงมดลูกก็จะสลายกลายเป็นประจำเดือน ในขณะเดียวกันผู้หญิงบางคนที่เป็นประจำเดือนอาจมีอาการปวดท้อง ปวดหลังส่วนล่าง ปวดเมื่อยร่างกาย อารมณ์แปรปรวน หรืออาจไม่มีอาการอะไรเลย การฝันเปียก และการมีประจําเดือน มีความสัมพันธ์กันอย่างไร การฝันเปียกและการมีประจำเดือนมีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นอน เนื่องจากทั้ง 2 อาการเป็นสัญญาณของวัยเจริญพันธุ์ […]


โรคเริมที่อวัยวะเพศและเริมที่ปาก

โรคเริมเกิดจากอะไร รักษาได้อย่างไร

โรคเริม เป็นโรคติดต่อทางผิวหนังชนิดหนึ่ง พบได้บริเวณมุมปากหรือรอบปาก และบริเวณอวัยวะเพศหรือทวารหนัก เนื่องจากเป็นโรคที่พบได้บ่อยและไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ การทราบว่า โรคเริมเกิดจากอะไร และจะรักษาให้หายได้อย่างไร จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้ [embed-health-tool-bmi] โรคเริม คืออะไร โรคเริม เป็นโรคติดต่อทางผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes simplex หรือ HSV) ติดต่อได้ผ่านการสัมผัสกับเชื้อจากปากสู่ปาก ทางปากกับอวัยวะเพศ หรือระหว่างอวัยวะเพศกับอวัยวะเพศขณะมีเพศสัมพันธ์ โรคนี้รักษาไม่หายขาด เมื่อได้รับเชื้อไวรัสเริมแล้วจะมีเชื้ออยู่ในร่างกายตลอดชีวิต โดยทั่วไปมักไม่แสดงอาการ แต่ก็อาจทำให้เกิดอาการทางผิวหนัง เช่น เริมที่ริมฝีปาก (Cold sore) ลักษณะเป็นแผลพุพองขนาดเล็กเมื่อแผลแตกออกอาจทำให้ปวดแสบปวดร้อน รู้สึกเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง หลังจากการติดเชื้อครั้งแรก อาการอาจกำเริบได้เรื่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ นอกจากนี้ เด็กทารกและผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าปกติ เช่น ผู้ที่เคยปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยโรคมะเร็ง อาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากโรคเริมได้ โรคเริมเกิดจากอะไร โรคเริมเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes simplex virus) ที่แพร่เชื้อได้ผ่านการสัมผัสกับเชื้อโดยตรงหรือการสัมผัสผิวหนังบริเวณที่ติดเชื้อ และติดต่อได้ง่ายที่สุดเมื่อแผลเปิดและเปียกน้ำ เนื่องจากของเหลวจากแผลเริมจะแพร่กระจายเชื้อไวรัสได้ไวกว่าเดิม และถึงแม้จะเป็นโรคเริมแบบไม่แสดงอาการ ก็สามารถแพร่เชื้อเริมไปสู่บุคคลอื่นได้เช่นกัน เชื้อเริมแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ เชื้อเริมชนิดที่ 1 (Herpes […]


สุขภาพทางเพศ

อายุ 45 หมดประจำเดือน ผิดปกติหรือไม่ และควรดูแลตัวเองอย่างไร

โดยปกติแล้ว ผู้หญิงจะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนตอนอายุ 50 ปี ซึ่งสามารถสังเกตได้จากภาวะประจำเดือนไม่มาติดต่อกันอย่างน้อย 12 เดือน แต่หากผู้หญิง อายุ 45 หมดประจำเดือน ร่วมกับมีอาการร้อนวูบวาบ หนาวสั่น เหงื่อออกเยอะในตอนกลางคืน เป็นต้น ก็อาจหมายถึงว่าเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนหรือวัยทองแล้ว ภาวะนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายลดลง ทำให้รังไข่หยุดทำงานและหยุดปล่อยไข่ ประจำเดือนจึงไม่มาและไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม หากอาการของวัยหมดประจำเดือนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อหาวิธีรับมืออย่างเหมาะสม [embed-health-tool-ovulation] อายุ 45 หมดประจำเดือน ผิดปกติหรือไม่ ภาวะหมดประจำเดือน หรือที่เรียกว่า วัยทอง เป็นภาวะที่พบได้ทั่วไป ผู้หญิงส่วนใหญ่จะหมดประจำเดือนในช่วงอายุ 45-55 ปี หากผู้หญิง อายุ 45 หมดประจำเดือน จึงไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใด ทั้งนี้ ช่วงอายุที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนของผู้หญิงแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ไม่สามารถระบุหรือคำนวณล่วงหน้าได้อย่างแน่ชัดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อาจต้องอาศัยการสังเกตอาการหรือความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองที่เป็นสัญญาณของวัยใกล้หมดประจำเดือนหรือระยะเริ่มต้นของวัยหมดประจำเดือน (Perimenopause) เช่น อารมณ์แปรปรวนกว่าปกติ รู้สึกร้อนวูบวาบ ประจำเดือนมากะปริบกะปรอย ที่เกิดขึ้นเป็นเวลาหลายเดือนก่อนประจำเดือนจะหมด ทั้งนี้ บางคนอาจแทบไม่แสดงอาการที่สังเกตได้ หรือบางคนก็อาจมีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงบางคนอาจมีภาวะหมดประจำเดือนเร็วกว่าคนทั่วไปหลายปี ซึ่งอาจแบ่งเป็นประเภทได้ดังนี้ ภาวะหมดประจำเดือนก่อนกำหนด (Early menopause) […]


การคุมกำเนิด

กินยาคุมฉุกเฉินแล้วท้อง เกิดจากอะไร กินยาคุมฉุกเฉินยังไงให้ได้ผล

ผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดอย่างเร่งด่วนเนื่องจากมีเหตุจำเป็น เช่น ถุงยางหลุดหรือแตกขณะหลั่งน้ำอสุจิ ลืมกินยาคุมกำเนิด หลั่งในโดยไม่ตั้งใจ อาจสนใจกินยาคุมฉุกเฉิน และสงสัยว่า กินยาคุมฉุกเฉินแล้วท้อง เป็นไปได้หรือไม่ และมีสาเหตุมาจากอะไร โดยปกติแล้ว ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ 75-85% เมื่อรับประทานภายใน 72-150 ชั่วโมง (3-5 วัน) หลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หากกินยาคุมฉุกเฉินแล้วท้อง อาจเกิดจากกินยาช้าเกินไป ยาคุมฉุกเฉินมีปฏิกิริยากับยารักษาโรคอื่น ๆ มีการตกไข่เกิดขึ้นก่อนกินยา เป็นต้น ทางที่ดี ผู้ที่ไม่ประสงค์จะมีลูกควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิด ทั้งยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย [embed-health-tool-bmi] กินยาคุมฉุกเฉินแล้วท้อง เกิดขึ้นได้หรือไม่ ยาคุมฉุกเฉิน เป็นยาเม็ดที่รับประทานเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน หรือคิดว่าการคุมกำเนิดที่ใช้ไม่ได้ผล โดยทั่วไป หากใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายในเวลาไม่ 72-150 ชั่วโมงหลังหลั่งในช่องคลอด ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้เช่นเดียวกับการกินยาคุมกำเนิดตามปกติ ทั้งนี้ ยิ่งกินยาคุมฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์เร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งช่วยให้ยามีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์มากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีก็อาจ กินยาคุมฉุกเฉินแล้วท้อง ได้เช่นกัน เนื่องจากอาจกินยาคุมฉุกเฉินไม่ถูกวิธีหรือกินยาช้าเกินไปจนตัวยาไม่สามารถออกฤทธิ์ยับยั้งผสมกันของไข่และอสุจิได้ทันเวลา แต่การกินยาคุมฉุกเฉินแล้วท้องก็เป็นภาวะที่พบได้ไม่บ่อยนัก กินยาคุมฉุกเฉินแล้วท้อง เกิดจากอะไร การ กินยาคุมฉุกเฉินแล้วท้อง อาจเกิดได้จากสาเหตุต่อไปนี้ กินยาคุมฉุกเฉินช้าเกินไป (เกิน 72-150 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์) ทำให้ยาไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เกิดการตกไข่ก่อนกินยาคุมฉุกเฉิน ทำให้ยาไม่สามารถยับยั้งการตกไข่ได้ทัน […]


สุขภาพทางเพศ

ยาเลื่อนประจําเดือน ผลข้างเคียง ที่ควรรู้

ยาเลื่อนประจำเดือนเป็นยาที่ช่วยให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่หลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือนตามกำหนด จึงอาจช่วยให้ประจำเดือนมาช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลื่อนประจำเดือนออกไปสักระยะหนึ่งเพราะมีเหตุจำเป็นบางอย่าง ทั้งนี้ การใช้ ยาเลื่อนประจําเดือน ผลข้างเคียง ที่พบได้บ่อย เช่น ไม่สบายท้อง อารมณ์แปรปรวน เป็นสิว มีจุดเลือดออกกะปริบกะปรอย อารมณ์ทางเพศลดลง ปวดเต้านม คลื่นไส้ จึงควรใช้ยาเลื่อนประจำเดือนตามคำแนะนำของคุณหมอและเภสัชกรอย่างเคร่งครัด หากหยุดยาแล้วประจำเดือนไม่มาตามปกติ ไม่กลับมามีประจำเดือนภายใน 1 สัปดาห์ หรือเกิดผลข้างเคียงรุนแรงจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม [embed-health-tool-ovulation] ยาเลื่อนประจำเดือน ทำงานอย่างไร ยาเลื่อนประจำเดือนที่นิยมใช้ คือ ยานอร์เอทิสเทอโรน (Norethisterone) เป็นยาในกลุ่มฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่ทำงานโดยการหยุดการเจริญเติบโตของเยื่อบุโพรงมดลูกในระหว่างรอบเดือน และส่งสัญญาณให้ฮอร์โมนภายในมดลูกเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่หลุดลอกจากช่องคลอดออกมาเป็นประจำเดือน นอกจากใช้ในการเลื่อนประจำเดือนแล้ว ยังนิยมใช้เพื่อรักษาโรคอื่น ๆ เช่น ภาวะขาดประจำเดือน (Amenorrhea) ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) อีกด้วย โดยทั่วไป ควรรับประทานยาเลื่อนประจำเดือนนอร์เอทิสเทอโรน (ขนาด 5 มิลลิกรัม) ก่อนวันที่คาดว่าจะมีประจำเดือนประมาณ 3 วัน โดยรับประทานยาวันละ 2 เม็ด (เช้า เย็น) หรือวันละ 3 […]


สุขภาพทางเพศ

ผู้ชายอยากมีอะไรด้วย อาการ เป็นอย่างไร และควรปฏิบัติตัวอย่างไร

หลายอาจสงสัยว่า เมื่อเวลา ผู้ชายอยากมีอะไรด้วย จะมี อาการ อย่างไร โดยปกติแล้ว เมื่อผู้ชายอยากมีอะไรด้วยอาจสังเกตได้จากการแสดงออกทางคำพูดและการกระทำ เช่น พูดชื่นชม บอกรัก ลูบไล้บริเวณต่าง ๆ กอด นอกจากนี้ ยังอาจแสดงออกทางร่างกายได้ด้วย ซึ่งอาการที่พบได้บ่อย เช่น องคชาตแข็งตัว หายใจถี่ อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ชายแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ทำให้การแสดงออกในเรื่องเซ็กส์ก็ย่อมไม่เหมือนกัน [embed-health-tool-ovulation] ผู้ชายอยากมีอะไรด้วย จะมี อาการ เป็นอย่างไร เมื่อผู้ชายมีอารมณ์ทางเพศอาจสังเกตเห็นได้ชัดเจนจากการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะเพศ โดยองคชาตของผู้ชายจะค่อย ๆ แข็งตัวและตั้งขึ้นตามลักษณะขององคชาตแต่ละคน ซึ่งเป็นความตื่นตัวทางเพศตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วทั้งร่างกาย จิตใจและอารมณ์เมื่อผู้ชายรู้สึกต้องการมีอะไรด้วย นอกจากนี้ ยังอาจสังเกตสัญญาณอื่น ๆ ได้ด้วย ซึ่งเมื่อผู้ชายอยากมีอะไรด้วยอาจมีอาการ ดังนี้ อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น การหายใจเร็ว แรงและถี่ขึ้น อาจเริ่มพูดจาหวาน หว่านล้อมให้รู้สึกดีมากขึ้น เช่น พูดชื่นชม บอกรัก อาจจ้องตาและจ้องใบหน้ามากขึ้นในขณะที่พูดคุยกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่ากำลังสนใจในตัวของอีกฝ่าย อาจเริ่มสัมผัสร่างกายบางส่วน ซึ่งเป็นการแสดงความต้องการอย่างหนึ่ง และเพื่อให้อีกฝ่ายคล้อยตาม เช่น ลูบไล้ขา แขนหรือใบหน้า กอด เล่นผม […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน