สูงวัยอย่างมีคุณภาพ

ความชรา เป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่อาจหลีกหนีได้ ทั้งร่างกายและจิตใจของเราจะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น และการเรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรง อาจสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจ และ สูงวัยอย่างมีคุณภาพ

เรื่องเด่นประจำหมวด

สูงวัยอย่างมีคุณภาพ

สูงวัยอย่างมีคุณภาพ เคล็ดลับในการเตรียมความพร้อม

ในปัจจุบันเริ่มมีผู้สูงวัยเพิ่มขึ้น โดยในปี 2564 นี้ ได้มีการประมาณสัดส่วนผู้สูงวัยในช่วง 60 ปีขึ้นไป มีถึง 20 % ของจำนวนประชากรทั้งหมดในไทย และในอนาคตอาจจะเพิ่มขึ้น เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและ สูงวัยอย่างมีคุณภาพ ให้มีความสุขไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกาย หรือสุขภาพจิต  [embed-health-tool-bmi] เคล็ดลับ สูงวัยอย่างมีคุณภาพ มีอะไรบ้าง  การเป็นผู้สูงวัยอย่างมีคุณภาพ คือการมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดี ซึ่งอาจทำได้ดังนี้  การดูแลผิว เมื่ออายุเพิ่มขึ้นผิวพรรณอาจจะเริ่มหย่อนคล้อย และสูญเสียความชุ่มชื่น จึงควรหมั่นใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยนในการดูแลผิว รวมถึงการดื่มน้ำ 8 แก้วอย่างสม่ำเสมอทุกวัน เพื่อช่วยรักษาสุขภาพผิวและลดสัญญาณริ้วรอยแห่งวัย และทาครีมกันแดดเป็นประจำหากออกไปข้างนอก เนื่องจากรังสียูวีเป็นปัจจัยที่อาจทำให้เกิดริ้วรอย และมะเร็งผิวหนัง  การดูแลสุขภาพปาก ผู้ที่ใช้ฟันปลอมควรดูแล และทำความสะอาดอย่างถูกวิธี เพื่อลดแบคทีเรีย และเชื้อโรคที่อาจอยู่ที่ฟันปลอม และหมั่นหาทันตแพทย์เป็นประจำ คือทุก ๆ 6 เดือน หรือ 1 ปี  การตรวจสุขภาพ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ควรไปหาคุณหมอ เพื่อเช็คสุขภาพร่างกายอย่างน้อยปีละครั้ง การออกกำลังกาย หากออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ จะช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรงและกระฉับกระเฉง เช่น การเดินอย่างน้อย 30 นาทีทุกวัน […]

หมวดหมู่ สูงวัยอย่างมีคุณภาพ เพิ่มเติม

สูงวัยอย่างมีพลัง

สำรวจ สูงวัยอย่างมีคุณภาพ

ปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุ

โรคปลายประสาทอักเสบในผู้สูงอายุที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ

อาการชาที่ปลายมือ ปลายเท้าเป็นอาการที่เดี๋ยวมาเดี๋ยวหาย จนหลายๆ คนนิ่งนอนใจ เพราะไม่คาดคิดว่าจะเป็นสัญญาณเตือนไปสู่โรคร้ายแรงอย่างอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคปลายประสาทอักเสบ คืออะไร ปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathy) เป็นสภาวะหนึ่งของเส้นประสาท ที่ทำหน้าที่ในการส่งคำสั่งจากระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งก็คือสมอง และไขสันหลังไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เกิดความผิดปกติ หรือเกิดโรคบางชนิดได้ หากมันเกิดความเสียหายอาจทำให้เกิดอาการ ชาตามร่างกาย กล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคปลายประสาทอักเสบสามารถส่งผลต่อเส้นประสาทต่างๆ ในร่างกายได้  ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบประสาทที่ในหลายๆ แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน สำหรับบางคนมันอาจส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทเพียงแห่งเดียว แต่สำหรับบางคนมันอาจส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทหลายๆ เส้นในเวลาเดียวกัน ประเภทของ โรคปลายประสาทอักเสบ โรคปลายประสาทอักเสบเป็นโรคที่สามารถแบ่งออกได้ตามสาเหตุของการเกิดโรค โรคปลายประสาทอักเสบเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีอายุเกิน 55 ปี โรคปลายประสาทอักเสบแบบเดี่ยว (Mononeuropathy) โรคปลายประสาทอักเสบแบบเดี่ยว เป็นโรคที่จะเกิดความเสียหายต่อระบบประสาทส่วนปลายเพียงเส้นเดียว จึงเรียกว่า โรคปลายประสาทอักเสบแบบเดี่ยว (Mononeuropathy) ซึ่งสาเหตุที่พบได้บ่อยในการเกิดโรคปลายประสาทอักเสบแบบนี้คือ การบาดเจ็บทางร่างกายหรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ นอกจากนี้การที่เส้นประสาทถูกกดทับเป็นเวลานาน ก็สามารถทำให้เกิดได้เช่นกัน เช่น นั่งรถเข็นนานๆ นอนติดเตียง ซึ่งการเคลื่อนไหวร่างกายมีส่วนช่วยกระตุ้นได้ กลุ่มอาการประสาทมือชา (Carpal tunnel syndrome) เป็นหนึ่งในชนิดของโรคปลายประสาทอักเสบแบบเดี่ยว เป็นการที่เส้นประสาทบริเวณข้อมือถูกกดทับทำให้เกิดอาการชาที่มือ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดกับผู้ที่ทำงานโดยการเคลื่อนไหวมือซ้ำๆ ผู้ที่ต้องพิมพ์งานทั้งวัน ใช้คอมพิวเตอร์ทั้งวัน โรคปลายประสาทอักเสบแบบหลายเส้น (Polyneuropathy) โรคปลายประสาทอักเสบแบบหลายเส้น เป็นรูปแบบของโรคเส้นประสาทอักเสบรูปแบบหนึ่งซึ่งจะเกิดความผิดปกติกับเส้นประสาทส่วนปลายหลายเส้น โรคปลายประสาทอักเสบแบบหลายเส้นเป็นโรคที่มีสาเหตุมาจากหลายอย่างตั้งแต่การสัมผัสการสารพิษบางชนิด […]


โภชนาการผู้สูงวัย

วิธีเพิ่มความอยากอาหาร เมื่อผู้สูงอายุเบื่ออาหาร

เมื่อคนเราอายุมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัยชรา ระบบต่าง ๆ ในร่างกายเราก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย สุขภาพที่เคยแข็งแรงก็เริ่มถดถอยลง ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ตามองเห็นไม่ชัด ปวดเมื่อย ข้ออักเสบ หูไม่ได้ยิน และอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ลูกหลานไม่ควรละเลยก็คือ ความอยากอาหารของผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักเบื่ออาหาร รับประทานอาหารได้น้อยลง ซึ่งนั่นอาจทำให้ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงอื่น ๆ ได้ด้วย หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ประสบปัญหา ผู้สูงอายุเบื่ออาหาร การเรียนรู้สาเหตุที่ทำให้เบื่ออาหาร และวิธีเพิ่มความอยากอาหารแบบที่ดีต่อสุขภาพ อาจช่วยให้ผู้สูงอายุที่คุณรักรับประทานอาหารได้มากขึ้น ผู้สูงอายุเบื่ออาหาร เป็นเพราะอะไร ผู้สูงอายุมักรับประทานอาหารน้อยลงอยู่แล้วเป็นปกติ แต่หากคุณสังเกตเห็นว่า อยู่ ๆ ผู้สูงอายุที่บ้านก็รับประทานอาหารน้อยลงมากจนผิดปกติ คุณควรรีบปรึกษาคุณหมอ เพราะอาการเบื่ออาหารที่เกิดขึ้น อาจเป็นผลจากปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคเกี่ยวกับไทรอยด์ผิดปกติ โรคมะเร็ง การติดเชื้อในปากและลำคอ โรคเหงือก ต่อมน้ำลายมีปัญหา นอกจากนี้ การใช้ยาบางชนิดก็อาจทำให้ผู้สูงอายุปากแห้ง มีรสเหล็กในปาก หรือการรับรสเปลี่ยนไป จนส่งผลให้ไม่อยากรับประทานอาหารได้เช่นกัน แต่หากอาการเบื่ออาหารไม่ได้เกิดจากปัญหาสุขภาพ หรือการใช้ยา ก็อาจเป็นเพราะสาเหตุเหล่านี้ได้ด้วย ไม่ออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร ผู้สูงอายุที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ก็อาจทำให้ไม่อยากอาหารได้ ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) […]


สูงวัยอย่างมีพลัง

7 ไลฟ์สไตล์ ดีๆ ที่จะช่วยให้เรา มีอายุยืน

ไม่ว่าใครต่างก็อยากที่จะมีอายุยืนกันทั้งนั้น การมีชีวิตที่ยืนยาว ก็หมายถึงการที่คุณได้มีโอกาสใช้เวลาอยู่ร่วมกับคนที่รักได้นานยิ่งขึ้น แต่การจะมีอายุยืนนั้น ไม่เพียงแค่อยู่นาน แต่จะต้องมีสุขภาพร่างกายที่ดีอีกด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ จะมาแนะนำไลฟ์สไตล์ดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณ มีอายุยืน ขึ้นมากกว่าเดิมได้ ไลฟ์สไตล์ที่ดี ช่วยให้ มีอายุยืน ได้จริงเหรอ การมีไลฟ์สไตล์ที่ดีถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เรามีอายุที่ยืนยาว เนื่องจากไลฟ์สไตล์ที่ดีนั้น จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรค และลดโอกาสการเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยได้ จากผลการสำรวจ คนที่มีไลฟ์สไตล์ที่ดี อย่างน้อย 5 ประการ จะมีอายุที่ยืนยาวกว่าผู้ที่ไม่มีไลฟ์สไตล์ที่ดี อย่างเห็นได้ชัด ไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพนี้อาจช่วยยืดอายุของคุณได้มากถึง 14 ปีในผู้หญิง และ 12 ในผู้ชาย หากพวกเขาเริ่มมีลักษณะนิสัยการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพตั้งแต่อายุ 50 ปี ผู้วิจัยได้ทำการคำนวณจำนวนอายุที่ยืดยาวขึ้น โดยดูจากจำนวนของไลฟ์สไตล์ที่ดีที่คนเหล่านี้ปฏิบัติ พบว่า ลักษณะนิสัยที่ดีต่อสุขภาพ แม้เพียงนิสัยเดียว ก็สามารถช่วยยืดอายุให้ยืนยาวขึ้นถึง 2 ปี ทั้งกับผู้หญิงและผู้ชาย และยิ่งมีไลฟ์สไตล์ที่ดีมากขึ้นเท่าไหร่ ก็มีโอกาสที่จะช่วยยืดอายุให้ยืนยาวด้วยมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยในปี 2017 ที่สำรวจข้อมูลจากการศึกษาด้านสุขภาพและผู้เกษียณอายุ (the Health and Retirement Study) พบว่า […]


สุขภาพกายผู้สูงวัย

วิธีออกกำลังกายในน้ำ เสริมสร้างความฟิตให้ผู้สูงอายุ

คนทุกเพศทุกวัยควรทำกิจกรรมทางกาย หรือออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง สามารถเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อและข้อต่อทุกส่วนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่สำหรับผู้สูงอายุที่มักมีปัญหาข้ออักเสบ หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ก็อาจมีตัวเลือกในการออกกำลังกายจำกัดกว่าคนกลุ่มอื่น วิธีออกกำลังกายในน้ำ จึงเป็นสิ่งที่เหมาะกับผู้สูงอายุ แต่จะมีท่าว่ายน้ำไหนบ้างที่เหมาะกับผู้สูงอายุ ทาง Hello คุณหมอ มีเรื่องนี้มาฝาก วิธีออกกำลังกายในน้ำ สำหรับผู้สูงอายุ จ๊อกกิ้งในน้ำ การจ๊อกกิ้งในน้ำ เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิคที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุมาก เนื่องจากมีแรงกระแทกต่ำ แต่สามารถช่วยให้เลือดสูบฉีดและไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี โดย การออกกำลังกายในน้ำ ผู้สูงอายุสามารถจ๊อกกิ้งได้หลากหลายรูปแบบ จะเดินไปกลับให้สุดขอบสระ หรือจ๊อกกิ้งอยู่กับที่ก็ได้ การจ๊อกกิ้งในน้ำเป็น การออกกำลังกายในน้ำ ที่ช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ฉะนั้น จึงต้องเลือกระดับความเข้มข้นและระยะเวลาให้เหมาะสม อย่าจ๊อกกิ้งเร็วหรือนานเกินไปจนร่างกายรับไม่ไหว แต่ก็ต้องไม่ช้าเกินจนรู้สึกเหมือนไม่ได้ออกกำลังกาย เตะสลับขา การเตะสลับขาเป็น การออกกำลังกายในน้ำ อีกอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นเช่นกัน โดยผู้สูงอายุสามารถออกกำลังกายวิธีนี้ได้ ด้วยการใช้อุปกรณ์เสริมอย่างบอร์ดโฟมหรือไม่ใช้ก็ได้ หากใช้บอร์ดโฟม ให้ผู้สูงอายุเหยียดแขนตรงวางบนบอร์ด แล้วเตะสลับขาเพื่อให้เคลื่อนตัวไปข้างหน้า หากไม่ใช้บอร์ดโฟมช่วย ให้ลอยตัวในท่านอนคว่ำ เงยหน้าให้เหนือน้ำ เหยียดแขนตรงแตะขอบสระ แล้วเตะสลับขาอยู่กับที่ และไม่ว่าผู้สูงอายุจะเลือกใช้วิธีไหน สิ่งสำคัญในการเตะสลับขาเพิ่มความฟิตก็คือ ต้องเตะสลับขาด้วยความเร็วและความแรงคงที่ อย่าพยายามเร่งสปีดจนเหนื่อยเกินไป ยกขาใต้น้ำ การยกขาใต้น้ำ เป็นการออกกำลังกายโดยอาศัยแรงต้านของน้ำเป็นตัวช่วย ทำแล้วเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาผู้สูงอายุได้ทุกส่วน โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขาส่วนบน ทั้งยังช่วยให้สะโพกยืดหยุ่นได้ดีขึ้นด้วย โดยผู้สูงอายุสามารถออกกำลังกายด้วยท่ายกขาใต้น้ำได้ ตามขั้นตอนต่อไปนี้ ยืนในน้ำบริเวณขอบสระ ให้ขอบสระอยู่บริเวณข้างลำตัว ข้างในข้างหนึ่ง ยืนหลังตรง […]


โภชนาการผู้สูงวัย

ฟลาโวนอยด์ สุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ ช่วยต้านแก่ ต้านโรค

อนุมูลอิสระ เป็นอีกหนึ่งตัวการทำลายเซลล์ ทำให้เราแก่ลงทุกวัน ยิ่งร่างกายเรามีอนุมูลอิสระมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งแก่เร็วขึ้น และเสี่ยงเกิดโรคต่างๆ มากขึ้นเท่านั้น แต่วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราสามารถป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกายได้ ก็คือ การบริโภคสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “ฟลาโวนอยด์” ที่พบได้ในพืชผักผลไม้หลากหลายชนิด และได้ชื่อว่าเป็น สารต้านอนุมูลอิสระ หรือ แอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant) ชั้นเลิศ ฟลาโวนอยด์ สารจากพืชชั้นเลิศ ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) เป็นสารพฤกษเคมีในกลุ่มสารประกอบโพลีฟีนอล (Polyphenols) ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ มีอยู่ด้วยกันมากกว่า 6,000 ชนิด และสามารถแบ่งเป็นกลุ่มย่อยได้ 6 กลุ่ม ได้แก่ ฟลาโวนอล (Flavonols) ฟลาวานอล (Flavanols) หรือ ฟลาวาน-3-ออล (Flavan-3-ols) ฟลาวาโนน (Flavanones) ฟลาโวน (Flavones) ไอโซฟลาโวน (Isoflavones) แอนโทไซยานิดิน (Anthocyanidin) ฟลาโวนอยด์สามารถพบได้ในผักและผลไม้หลายชนิด ทั้งยังพบในไวน์ ชา ผงโกโก้ และช็อกโกแลตด้วย โดยอาหารแต่ละอย่างก็จะมีฟลาโวนอยด์แต่ละชนิดในความเข้มข้นแตกต่างกันออกไป แหล่งฟลาโวนอยด์ที่คุณหาได้ง่ายๆ คุณสามารถเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระอย่างฟลาโวนอยด์ให้กับร่างกายได้ ด้วยการกินอาหารต่อไปนี้ แอปเปิ้ล ในแอปเปิ้ลอุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ที่ชื่อว่า เควอซิทิน (Quercetin) ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ภาวะหัวใจวาย โรคต้อกระจก ช่วยป้องกันการเกิดโรคเกาต์ซ้ำ ช่วยควบคุมอาการหอบหืด ทั้งยังบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้ด้วย ชาเขียว ชาเขียวมีสารฟลาโวนอยด์สำคัญที่ชื่อว่า เอพิกัลโลคาเทชิน […]


โภชนาการผู้สูงวัย

สารต้านอนุมูลอิสระ สารอาหารจำเป็นที่ร่างกายขาดไม่ได้

บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินคำว่า “สารต้านอนุมูลอิสระ” แต่เคยสงสัยหรือไม่ว่า แท้จริงแล้วสารต้านอนุมูลอิสระที่พูดถึงนั้น คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร ถ้าอยากรู้ล่ะก็ ต้องไม่พลาดบทความนี้ของ Hello คุณหมอ  สารต้านอนุมูลอิสระ คืออะไร ร่างกายของคนเรานั้นต้องพบเจอกับแบคทีเรีย เชื้อไวรัส ควันพิษ ฝุ่นละออง หรือสารเคมีต่าง ๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าในชีวิตประจำวันมากมาย รวมถึงอนุมูลอิสระ (Free Radicle) ซึ่งเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ ที่สามารถพบได้จากหลากหลายที่มา ไม่ว่าจะเป็นควันจากท่อไอเสียรถ ก๊าซต่าง ๆ แสงแดด หรือแม้แต่อาหารการกินที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวัน ก็มีส่วนเพิ่มอนุมูลอิสระด้วยเช่นกัน ซึ่งเมื่อโมเลกุลนี้เข้าสู่ร่างกาย ก็จะไปคุกคามระบบภูมิคุ้มกัน หรือทำร้ายเซลล์ในร่างกาย และเมื่อเซลล์ในร่างกายถูกทำร้ายจากอนุมูลอิสระ ก็จะมีความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด หรือโรคมะเร็ง ดังนั้นแล้ว เราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับสารเคมีที่จะไปต้านทานกับสารอนุมูลอิสระเพื่อไม่ให้สุขภาพย่ำแย่ สารเคมีดังกล่าวรู้จักกันในชื่อ สารต้านอนุมูลอิสระ หรือ สารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidants) ที่จะเข้าไปปกป้องเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายให้รอดพ้นจากการถูกทำร้ายโดยอนุมูลอิสระ เพื่อที่จะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง ประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระ หน้าที่สำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระ นั่นก็คือ การช่วยปกป้องเซลล์ของร่างกายไม่ให้ถูกทำลายโดย อนุมูลอิสระ ซึ่งจะมีประโยชน์ในการช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง […]


สูงวัยอย่างมีพลัง

ไทเก๊ก ประโยชน์ และข้อควรระวังที่ควรรู้

ไทเก๊ก หรือ ไท่เก๊กคุ้ง (Taijiquan หรือ Tai’chi Chua) เป็นการออกกำลังกายที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดลมหายใจ โดยกระบวนท่าของ การรำไทเก๊ก ได้มาจากการเลียนแบบท่าทางการเคลื่อนไหวของสัตว์ต่าง ๆ ปัจจุบัน การรำไทเก๊ก ได้รับความนิยมมากในกลุ่มผู้สูงอายุ เพราะเป็นไม่ต้องใช้กล้ามเนื้อและออกแรงเคลื่อนไหวมาก แต่ก็ยังมีข้อควรระวังบางประการ หากผู้สูงอายุอยากออกกำลังกายแบบไทเก๊ก ทำความรู้จักกับไทเก๊ก ไทเก๊ก หรือ ไท่เก๊กคุ้ง (Taijiquan หรือ Tai’chi Chua) เป็นศิลปะการต่อสู้รูปแบบหนึ่งของประเทศจีนที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และได้รับการเผยแพร่มาจนถึงปัจจุบัน มีต้นกำเนิดจากประเทศจีนสมัยใกล้สิ้นสุดราชวงศ์ซุง โดยผู้ให้กำเนิดชื่อ ชาง ซาน-เฟ็ง เป็นการออกกำลังกายที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดลมหายใจ โดยกระบวนท่าของไทเก๊ก ได้มาจากการเลียนแบบท่าทางการเคลื่อนไหวของสัตว์ต่าง ๆ ปัจจุบัน ไทเก๊กได้รับความนิยมมากในกลุ่มผู้สูงอายุ เพราะไม่ต้องใช้กล้ามเนื้อและออกแรงเคลื่อนไหวมาก ช่วยปรับสมดุลระบบหมุนเวียนเลือดให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการฝึกสมาธิ กำหนดลมหายใจ ช่วยผ่อนคลายความเครียดอีกด้วย ไทเก๊ก เหมาะกับใครบ้าง กลุ่มผู้สูงอายุนิยมออกกำลังกายด้วยการรำไทเก๊กที่สวนสาธารณะ แม้ไทเก๊กอาจดูเป็นการร่ายรำอย่างเชื่องช้า แต่จริง ๆ แล้ว ถือเป็นกิจกรรมออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ด้วยรูปแบบการเคลื่อนไหวที่ไม่ต้องใช้แรงเยอะ เน้นการฝึกลมหายใจ สามารถฝึกได้ทุกสถานที่ เช่น บ้าน สวนสาธารณะ ประโยชน์ขอไทเก๊ก ปรับสมดุลระบบหมุนเวียนเลือด ไทเก๊กช่วยปรับสมดุลระบบหมุนเวียนเลือด และระบบประสาทให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรงด้วย […]


สุขภาพกายผู้สูงวัย

พัฒนาสมอง เพิ่มพูนความจำ ป้องกันสมองเสื่อม ได้ง่ายๆ ด้วยการ บริหารสมอง

เราทุกคนอาจจะรับรู้กันดีอยู่แล้วถึงความสำคัญของการออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อเพื่อช่วยรักษาสุขภาพของร่างกายให้แข็งแรง แต่หลายคนอาจจะมองข้ามถึงความสำคัญของการ บริหารสมอง เพื่อช่วยรักษาคงสภาพของสมอง ให้ยังคงแข็งแรง ปราดเปรื่อง และไม่เสื่อมถอยไปตามกาลเวลา ทำไมเราจึงควร บริหารสมอง สมองของเรานั้นก็เหมือนกับกล้ามเนื้อ ที่จะเสื่อมถอย และสูญสลายไปตามกาลเวลา หากเราไม่คอยใช้งานมันอยู่เสมอ เปรียบเหมือนกับผู้ป่วยติดเตียงที่สูญเสียกล้ามเนื้อไปเพราะไม่ได้ใช้งาน ดังนั้น หากเราไม่ต้องการให้สมองฝ่อ สูญเสียความสามารถในการงานอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันความเสียหายต่อระบบประสาทเนื่องจากอายุ และชะลอการสูญเสียความทรงจำ คุณก็ควรที่จะออกกำลังกายสมอง ด้วยการบริหารสมองอย่างถูกวิธี การบริหารสมอง จะช่วยพัฒนาความจำ การโฟกัส หรือการทำงานของสมองตามปกติในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเมื่อคุณมีอายุเพิ่มมากขึ้น สมองก็จะเริ่มเสื่อมสภาพลง อะไรที่เคยจำได้ก็เริ่มลืมเลือน จากที่เคยคิดอย่างว่องไวก็จะเชื่องช้าลง การบริหารสมองจะช่วยลับสมองให้กลับมามีความคมชัด สามารถคิดได้ฉับไว และชะลอการเสื่อมสภาพของสมองที่เกิดขึ้นตามอายุ ทำให้เราไม่หลงๆ ลืมๆ แม้ว่าจะมีอายุมากขึ้นแค่ไหนก็ตาม การบริหารสมองทำได้แค่เฉพาะวัยเด็กจริงเหรอ หลายคนมักจะมีความเชื่อที่ว่า การบริหารสมองนั้นทำได้แค่เฉพาะขณะที่คุณยังเป็นเด็ก และสมองกำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาเท่านั้น แต่ความเชื่อนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นักวิทยาศาสต์ได้ทำศึกษาค้นพบว่า สมองของมนุษย์นั้น มีความสามารถอันน่าอัศจรรย์ ในการปรับตัว และเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แม้แต่ในช่วงวัยสูงอายุ เราเรียกความสามารถของสมองนี้ว่า “ความยืดหยุ่นของสมอง” (Neuroplasticity) หมายถึงความสามารถในการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวของสมองได้อย่างต่อเนื่องไปจนตลอดชีวิต หากคุณทำการกระตุ้นสมองอย่างถูกวิธี สมองของคุณก็จะสามารถสร้างทางเดินประสาทใหม่ ปรับเปลี่ยนเส้นทางเชื่อมต่อที่มีอยู่เดิม ปรับเปลี่ยน และตอบสนองในรูปแบบใหม่ๆ ทำให้สมองยังคงมีความคมชัด ลดการเสื่อมของสมอง แม้ว่าจะมีอายุที่มากขึ้น เทคนิคในการบริหารสมอง เกมลับสมอง เกมลับสมองต่างๆ เช่น จิ๊กซอว์ เกมไขปริศนา […]


ปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุ

โรคเพมฟิกอยด์ รู้ไว้ก่อนสายเกินแก้

โรคเพมฟิกอยด์ เป็นโรคภูมิต้านตนเองที่หาได้ยาก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย รวมทั้งในเด็ก แต่ส่วนใหญ่มักส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุ แม้โรค เพมฟิกอยด์ จะยังไม่มีวิธีรักษา แต่ก็มีวิธีรักษามากมายให้ได้เลือกใช้บรรเทาอาการที่เกิดขึ้น ดังนั้น หากคุณทำความรู้จักกับโรค เพมฟิกอยด์ เอาไว้ ก็จะทำให้สามารถสังเกตวามผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และเข้ารับการรักษาจากแพทย์ได้อย่างทันท่วงที เพมฟิกอยด์ คือ โรค เพมฟิกอยด์ (Bullous Pemphigoid) ส่วนใหญ่พบในวัยผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย จากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ ซึ่งมีการสร้างแอนติบอดี้มาทำลายการยึดของเซลล์ผิวหนังหลุดลอกของชั้นหนังกำพร้า ออกจากผิวหนังชั้นหนังแท้ แอนตี้บอดี้เหล่านี้ก่อให้เกิดการอักเสบ อาการตุ่มน้ำพองที่ผิวหนัง พองที่ขา แขน หน้าท้อง และเยื่อบุต่าง ๆ สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของ โรคเพมฟิกอยด์  สาเหตุของการเกิดโรค เพมฟิกอยด์ เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเรา ร่วมกับมีปัจจัยทางพันธุกรรมหรือสิ่งแวดล้อมอื่น เช่น เชื้อโรคหรือสารเคมีเป็นปัจจัยกระตุ้น เป็นต้น นอกจากนั้นยังพบว่า เพมฟิกอยด์ มีความเสี่ยงสูงในวัยผู้สูงอายุมากกว่ากลุ่มอายุอื่น ๆ หรือบางกรณีอาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้ เช่น ยา ยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ที่อาจทำให้เกิดการเสี่ยงเป็นโรค เพมฟิกอยด์ ได้แก่ ยารักษาโรคสะเก็ดเงิน ยาในกลุ่มยาซัลฟาที่มีกลไกการออกฤทธิ์ช่วยรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง เป็นต้น แสงและรังสี การรักษาด้วยแสงและรังสี เพื่อรักษาสภาพผิวบางอย่างอาจกระตุ้นอาการทำให้เกิดเป็นโรค […]


ปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุ

อายุที่มากขึ้น ทำไมถึงทำให้คันตามผิวหนัง

อาการคัน นั้นเป็นความรู้สึกไม่พึงประสงค์ที่ทำให้คุณรู้สึกอยากที่จะเกา อาการคันนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับผิวที่มีโรคและไม่มีโรค อาการคันสามารถเกิดขึ้นได้จากปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง โรคที่เกิดกับร่างกายทุกส่วน โรคทางระบบประสาท และโรคอื่นๆ อาการนี้เป็นปัญหาที่พบได้มากที่สุดสำหรับผู้ป่วยที่รับคำปรึกษาด้านผิวหนัง อาการคันในผู้สูงอายุนั้นสามารถนิยามได้ว่าเป็น อาการคันเรื้อรัง ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป อายุและอาการคัน จะมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ลองมาดูกันค่ะ เช่นเดียวกันกับอวัยวะอื่นๆ ผิวหนัง นั้นจะเสื่อมสภาพตามเวลาที่ผ่านไป ชีวะวิทยาของผิวหนังเกือบทุกแง่มุมนั้นจะได้รับผลกระทบจากช่วงอายุ ความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองของหนังกำพร้าที่เป็นเกราะป้องกันของร่างกายนั้นจะลดลงตามอายุ คอลลาเจนภายนอกเยื่อหุ้มเซลล์จะอยู่ระดับของผิว กลุ่มของผิวหนังที่ให้ความแข็งแรงและความยืดหยุ่นนั้นจะค่อยๆ หลุดลอกออก ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างอันตรายต่อคุณสมบัติทางกลุ่มของผิวหนังและการทำงานของเซลล์ผิวหนัง การเปลี่ยนแปลงของอายุและอาการคัน อายุและอาการคัน การมีอายุเพิ่มมากขึ้นนั้นจะส่งผลกระทบต่อองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการที่ทำให้เกิดอาการคันผิว ซึ่งมีทั้งการทำงานเป็นเกราะป้องกันของผิวหนังชั้นนอก ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบประสาท เมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ทำให้การผลิตไขมันบนชั้นผิวหนังที่ช่วยรักษาระดับของเกราะที่หนังกำพร้านั้นลดลง เริ่มตั้งแต่ช่วงประมาณอายุ 55 ปี ค่า pH ของผิวชั้นหนังกำพร้าจะมีความเป็นกรดลดลง ที่จำเป็นสำหรับการสร้างไขมันที่เป็นส่วนประกอบของเกราะป้องกันการสูญเสียน้ำที่ผิวชั้นนอกนั้นต้องการค่า pH ที่เป็นกรด เมื่อมีอายุ 70 ปี อัตราในการผลิตสารตั้งต้นของชั้นไขมันนั้นจะลดลง ส่งผลให้ไขมันที่จะรักษาระดับของเกราะผิวนั้นไม่เพียงพอ การที่เกราะป้องกันของผิวชั้นนอกไม่เพียงพอนั้นอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเกิดโรคผื่นแพ้สัมผัส ซึ่งจะอธิบายว่าทำไมผู้สูงอายุจึงมักจะบ่นถึงอาการระคายเคืองและอาการคันจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผ้าที่เคยใช้ได้ในสมัยก่อน การสูญเสียต่อมเหงื่อและต่อมน้ำมันบนผิวก็สามารถนำไปสู่อาการคันเนื่องจากผิวแห้ง ซึ่งเป็นโรคผิวหนังที่พบได้มากที่สุดในผู้สูงอายุ   ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับระบบภูมิคุ้มกันเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้นจะเรียกว่า “เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมถอยลง” (immunosenescence) ระบบภูมิคุ้มกันที่มีอายุเพิ่มขึ้นนั้นมีแนวโน้มที่จะเกิดการอักเสบเนื่องจากเซลล์ภูมิคุ้นกันที่ผิดปกติ ในผู้ป่วยบางรายนั้น อาการนี้อาจส่งผลให้เกิดอาการแพ้และทำให้ร่างกายไม่สามารถตอบสนองต่อสิ่งที่ทำให้เกิดโรคติดต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ สภาวะทางประสาท เช่น โรคกระดูกสันหลังเสื่อมนั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุ ในบางกรณี เซลล์ประสาทรับความรู้สึกอาจจะได้รับผลกระทบและทำให้เกิดอาการคัน โรคเส้นประสาทจากโรคเบาหวาน (Diabetes […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน