ข้อมูลโภชนาการ

สิ่งที่เรารับประทานเข้าไป มีผลโดยตรงต่อความรู้สึกและประสิทธิภาพในการทำงานแต่ละวัน การเรียนรู้เกี่ยวกับ ข้อมูลโภชนาการ จะช่วยให้เรารู้จักระมัดระวังมากขึ้นก่อนการรับประทานอาหาร และช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายทางสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

ข้อมูลโภชนาการ

หัวปลี สารอาหารสำคัญ สรรพคุณทางยา และประโยชน์ของหัวปลี

หัวปลี เป็นส่วนดอกของต้นกล้วย เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ปลีกล้วย คนไทยมักจะนำหัวปลีมาประกอบเป็นเมนูอาหารต่าง ๆ ช่วยเสริมรสชาติให้กับเมนูอาหาร ทั้งยังอุดมด้วยคุณประโยชน์มากมาก และมีสรรพคุณทางยาที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย [embed-health-tool-bmi] สารอาหารสำคัญใน หัวปลี ปลีกล้วยหรือหัวปลี มีสารอาหารสำคัญ ดังนี้ แคลเซียม  ธาตุเหล็ก  ฟอสฟอรัส  แมกนีเซียม  โปรตีน  วิตามินซี  เบตาแคโรทีน ประโยชน์จากหัวปลี หัวปลีเป็นส่วนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทุกเพศทุกวัย เช่น  ปลีกล้วยมีสารซาโปนิน (Saponins) และแทนนิน(Tannins) ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรแลคติน ในทางการแพทย์แผนไทย  อุดมด้วยแคลเซียม ที่มากกว่ากล้วยสุกถึง 4 เท่า ดีต่อกระดูกและฟัน อาจช่วยบรรเทาอาการของโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ หัวปลีเป็นผักฤทธิ์เย็น ดีต่อสุขภาพในช่วงหน้าร้อน ปรับสมดุลร่างกายให้เย็นขึ้น ช่วยแก้อาการร้อนในได้ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ดีต่อผิวพรรณ ชะลอการเกิดริ้วรอย มีสารแมกนิเซียมที่ช่วยปรับสมดุลของสภาวะทางอารมณ์ ช่วยบรรเทาอาการเศร้า  มีสารเอทานอล ลดการอักเสบ มีฤทธิ์ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อโรคได้ ประโยชน์ที่สำคัญของหัวปลียังดีต่อแม่ตั้งครรภ์และแม่หลังคลอด ดังนี้  ช่วยในการบำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์หรือคุณแม่หลังคลอด มีสรรพคุณทางยา กระตุ้นต่อมน้ำนม ให้ร่างกายแม่ตั้งครรภ์สร้างน้ำนมหลังคลอด จึงควรรับประทานเมนูหัวปลีหลังคลอดเพื่อช่วยขับน้ำนม ตัวอย่างเมนูจากหัวปลี หัวปลีมีรสฝาด สามารถกินสด ๆ ได้ […]

สำรวจ ข้อมูลโภชนาการ

ข้อมูลโภชนาการ

มะม่วงสุก หวานอร่อย กินให้พอดีก็มีประโยชน์มากหลาย

มะม่วง เป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยและมีสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะ มะม่วงสุก ที่มีรสชาติหวานอร่อย แต่อย่างไรก็ตาม มะม่วงสุกก็มีน้ำตาลค่อนข้างสูง จึงควรกินในปริมาณที่พอดี เพื่อที่จะได้รับประโยชน์สุขภาพของมะม่วง โดยไม่สร้างปัญหาต่อร่างกาย มะม่วงสุก อุดมคุณค่าอาหาร มะม่วงสุก 1 ถ้วย (165 กรัม) ให้พลังงาน 107 แคลอรี่ และมีสารอาหารดังนี้ ไฟเบอร์ 3 กรัม น้ำตาล 24 กรัม โปรตีน 1 กรัม วิตามินเอ 25% ของปริมาณวิตามินเอที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน วิตามันซี 76% ของปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน โพแทสเซียม 257 มิลลิกรัม วิตามินบี 6 0.2 มิลลิกรัม นอกจากนี้มะม่วงยังมีแร่ธาตุทองแดง (คอปเปอร์) แคลเซียม และธาตุเหล็ก รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระซีแซนทิน (zeaxanthin) และเบต้า-แคโรทีน (beta-carotene) อีกด้วย ประโยชน์สุขภาพของมะม่วงสุก อาจช่วยป้องกันมะเร็ง งานวิจัยโดย Texas AgriLife Research ให้ข้อมูลว่า นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหารได้ทดสอบปฏิกิริยาของสารสกัดโพลีฟีนอล (Polyphenol) ในมะม่วงกับเนื้อเยื่อมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งต่อมลูกหมาก ผลการศึกษาพบว่า สารสกัดจากมะม่วงส่งผลต่อเซลล์มะเร็งทุกเซลล์ […]


ข้อมูลโภชนาการ

โทงเทงฝรั่ง คุณค่าทางโภชนาการ และประโยชน์ต่อสุขภาพ

โทงเทงฝรั่ง (Cape Gooseberry) เป็นผลไม้ที่มีลักษณะเป็นผลเล็ก ๆ สีส้ม คล้ายกับมะเขือเทศ ที่มีกลีบหุ้มอยู่ มีรสชาติเปรี้ยวอมหวานคล้ายสัปปะรด สามารถรับประทานเป็นผลสดหรืออาจนำไปประกอบอาหาร เช่น แยม ซอส การรับประทานโทงเทงฝรั่งอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ทั้งอาจช่วยต้านอักเสบ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา อย่างไรก็ตาม การรับประทานผลโทงเทงฝรั่งดิบอาจทำให้ได้รับสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ [embed-health-tool-”bmr”] คุณค่าทางโภชนาการของโทงเทงฝรั่ง โทงเทงฝรั่ง เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากนี้ ยังให้ปริมาณแคลลอรี่ในระดับปานกลาง เคพกูสเบอร์จำนวน 140 กรัมเต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรต 15.7 กรัม ไฟเบอร์ 6 กรัม นอกจานนี้ โทงเทงฝรั่ง ยังมีเบตาแคโรทีนและวิตามินเคในปริมาณสูงพร้อมกับแคลเซียมอีกเล็กน้อย ประโยชน์ต่อสุขภาพของโทงเทงฝรั่ง มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โทงเทงฝรั่ง มีสารประกอบของพืชที่เรียกว่า “สารต้านอนุมูลอิสระ” ในระดับที่สูง ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้จะช่วยป้องกันและซ่อมแซมความเสียหายของร่างกายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นโมเลกุลที่ทำให้ร่างกายแก่ลงและทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคมะเร็ง จากการศึกษาพบว่า เคพกูสเบอร์รี่มีสารประกอบถึง 34 ชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น สารประกอบฟีนอลิกที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ใหญ่ ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระที่บริเวณผิวของ โทงเทงฝรั่ง มีมากกว่าบริเวณเนื้อถึง 3 เท่า นอกจากนี้ ปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระจะสูงที่สุดเมื่อผลเคพกูสเบอร์รี่สุกดี มีประโยชน์ในการต้านการอักเสบ สารประกอบสำคัญที่พบใน […]


ข้อมูลโภชนาการ

เมล็ดฟักทอง เคี้ยวเพลิน ประโยชน์แน่น กินต่อไม่รอละนะ!

นอกจากเนื้อฟักทองจะเป็นของอร่อยที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายแล้ว เมล็ดฟักทอง ก็ยังไม่ใช่ของเหลือทิ้ง เพราะเป็นอาหารที่อร่อยและมีประโยชน์สุขภาพไม่แพ้กันเลยใครชอบเคี้ยวเมล็ดฟักทอง อ่านเรื่องต่อไปนี้แล้วก็เคี้ยวกันต่อไปนะ คุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดฟักทอง เมล็ดฟักทองจะมีเปลือกสีขาว ส่วนด้านในจะเป็นเมล็ดแบนๆ รูปไข่ และมีสีเขียว โดยเมล็ดฟักทอง 28 กรัมแบบไม่มีเปลือก จะให้พลังงานประมาณ 151 แคลอรี่ ซึ่งเป็นพลังงานที่มาจากไขมันและโปรตีนเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะฟอสฟอรัส แมงกานีส และแมกนีเซียม ประโยชน์สุขภาพของเมล็ดฟักทอง 1.เมล็ดฟักทองมีสารต้านอนุมูลอิสระ เมล็ดฟักทองมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง เคโรทีนอยด์ และวิตามินอี ซึ่งสามารถลดการอักเสบ และปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมการกินอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถช่วยป้องกันโรคหลายโรคได้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ชี้ว่า น้ำมันเมล็ดฟักทองสามารถลดการอักเสบในหนูที่เป็นโรคข้ออักเสบ โดยไม่มีผลข้างเคียง 2.เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด งานวิจัยให้ข้อมูลว่าอาหารที่อุดมไปด้วยเมล็ดฟักทอง เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งลำไส้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่พบว่า การกินเมล็ดฟักท้องเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยง ของโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนด้วย 3.ลดความเสี่ยงของโรคต่อมลูกหมากโต เมล็ดฟักทองอาจช่วยบรรเทาอาการของโรคต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia: BPH) ซึ่งเป็นภาวะที่ต่อมลูกหมากขยายใหญ่ขึ้น ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการถ่ายปัสสาวะ งานวิจัยหลายงานวิจัยพบว่าการกินเมล็ดฟักทองสามารถบรรเทาอาการของโรคต่อมลูกหมากโตได้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ศึกษาในผู้ชายและผู้หญิง 45 คน ที่มีภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (Overactive bladder) โดยให้กินสารสกัดเมล็ดฟักทอง 10 กรัมต่อวัน ผลการวิจัยพบว่าช่วยทำให้การทำงานของระบบปัสสาวะดีขึ้น 4.เมล็ดฟักทองมีแมกนีเซียมสูง เมล็ดฟักทอง อุดมไปด้วยแมกนีเซียม ซึ่งการได้รับแมกนีเซียมอย่างเพียงพอต่อวันสำคัญต่อสุขภาพ เนื่องจากแมกนีเซียมดีต่อสุขภาพ […]


ข้อมูลโภชนาการ

กระเจี๊ยบเขียว ช่วยผู้ป่วยเบาหวานรับมือกับโรคได้อย่างไร

กระเจี๊ยบเขียว เป็นผักชนิดหนึ่ง จัดเป็นพืชล้มลุกวงศ์เดียวกับโกโก้ ชบา ฝ้าย มีต้นกำเนิดในแถบแอฟริกาตะวันตก เจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนและเขตอบอุ่น เช่น ซูดาน อิยิปต์ ไนจีเรีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย ขึ้นชื่อว่าเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ทั้งนี้ ควรระมัดระวังในการบริโภคเพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำจนเกินไปเพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ [embed-health-tool-bmi] ลักษณะของกระเจี๊ยบเขียว กระเจี๊ยบเขียว หรือ Okra หรือ Lady’s finger ดอกมีสีเหลืองอ่อนลักษณะคล้ายดอกชบา ผลมีลักษณะเป็นฝักคล้ายนิ้วมือของผู้หญิง สีเขียวทรงยาวเรียว ตามฝักมีขนอ่อน ๆ กระจายอยู่ทั่ว ภายในฝักมีเมล็ดมากมาย ที่นิยมนำมารับประทานได้แก่ ฝักอ่อน เพราะมีรสหวานกรอบอร่อย คุณค่าทางโภชนาการ กระเจี๊ยบเขียวปริมาณ 100 กรัมให้พลังงาน 30 กิโลแคลอรี อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ โฟเลต แคลเซียม แมกนีเซียม (Magnesium) วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินเค ไม่มีกรดไขมันอิ่มตัวและช่วยลดคอเลสเตอรอล (Cholesterol) ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย กระเจี๊ยบเขียว กับโรคเบาหวาน กระเจี๊ยบเขียวให้พลังงานน้อยหรือแทบจะไม่มีไขมันเป็นส่วนประกอบเลย แต่อุดมไปด้วยวิตามินซี […]


ข้อมูลโภชนาการ

อาหารสำหรับโรคข้ออักเสบ คุณควรกินอะไรที่จะช่วยบรรเทาอาการ?

เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า โดยแท้จริงแล้วโรคข้ออักเสบ (Arthritis) ทุกประเภท ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ การใช้ยาสำหรับโรคนี้ ได้ผลสำหรับผู้ป่วยบางรายเท่านั้น อย่างไรก็ดี เมื่อไม่นานมานี้ มีงานวิจัยเผยว่าการรับประทานอาหารบางอย่าง สามารถรักษาอาการปวดข้อต่อที่เกิดจากข้ออักเสบได้ ต่อไปนี้เป็น อาหารสำหรับโรคข้ออักเสบ ชนิดต่างๆ ที่คุณควรเพิ่มในแผนการรับประทานอาหารของคุณ อาหารสำหรับโรคข้ออักเสบ คุณควรกินอะไรที่จะช่วยบรรเทาอาการ? ปลา กรดไขมันโอเมก้า 3 (omega 3-fatty) เป็นที่รู้จักมาเป็นเวลานานแล้วว่า เป็นศัตรูสำคัญของข้ออักเสบ กรดไขมันโอเมก้า 3 สามารถหยุดยั้งอาการปวด และอาการอักเสบที่เกิดจากข้ออักเสบได้ เมื่อร่างกายเราดูดซึมกรดไขมันโอเมก้า 3 ร่างกายของเราเปลี่ยนกรดไขมันโอเมก้า 3 เป็น resolvins ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง ที่สามารถลดอาการอักเสบได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น ผู้ป่วยข้ออักเสบจะรู้สึกว่า ข้อต่อมีอาการค่อนข้างดีขึ้น หลังจากรับประทานกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณหนึ่ง กรดไขมันโอเมก้า 3 ส่วนใหญ่พบในปลา โดยเฉพาะปลาจากน้ำเย็น เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ให้เพิ่มอาหารเหล่านี้ในแผนการรับประทานอาหารของคุณ ในปริมาณประมาณ 3-4 ออนซ์ต่อสัปดาห์ เชอร์รี่ เป็นเรื่องไม่มากเกินไปที่จะกล่าวว่า เชอร์รี่เป็นผลไม้ที่สวยทั้งภายนอกและภายใน รูปลักษณ์ที่ดึงดูด ดูชุ่มฉ่ำ และเปล่งปลั่งของเชอร์รี่ เกิดจากสารแอนโทไซยานิน […]


ข้อมูลโภชนาการ

สาหร่ายพวงองุ่น ของอร่อยแคลอรีต่ำ แต่ประโยชน์สูง

สาหร่ายพวงองุ่น เป็นสาหร่ายทะเลสีเขียว ลักษณะเม็ดกลมเล็ก ยาวเป็นพวง ดูคล้ายพวงองุ่นลูกเล็กๆเรียงกัน แต่ความจริงที่หลายคนยังไม่รู้ว่า  สาหร่ายชนิดนี้อุดมไปด้วยสารอาหารและคุณประโยชน์มหาศาล ทั้งยังแคลอรีต่ำ เหมาะอย่างยิ่งกับผู้รักสุขภาพ เรามาทำความHello คุณหมอ ชวนทุกท่านมารู้จักกับสาหร่ายชนิดนี้กันเลย สาหร่ายพวงองุ่นคืออะไร สาหร่ายพวงองุ่น เป็นสาหร่ายสีเขียว (green algae) มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น คนไทยเรียก สาหร่ายพวงองุ่น (Sea Grape) หรือกรีนคาเวียร์ (Green Caviar) คนญี่ปุ่นเรียก อุมิ บุโด (Umi budou) ลักษณะเป็นเม็ดกลมเล็ก สีเขียวใส รวมกันเป็นพวงคล้ายพวงองุ่น แต่ละพวงยาวประมาณ 2-8 เซนติเมตร เมื่อแก่จัดจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีม่วง สาหร่ายชนิดนี้เจริญเติบโตได้ดีในน้ำที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและแสงแดดส่องถึง พบได้ในธรรมชาติตามซากปะการัง โขดหิน ก้อนกรวด และพื้นทะเล ในพื้นที่เขตร้อนและกึ่งเขตร้อน เช่น เคนยา มาดากัสการ์ ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย จีน ไต้หวัน เกาะโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น รสชาติอย่างนี้…สาหร่ายพวงองุ่น สาหร่ายพวงองุ่นมีเนื้อสัมผัสคล้ายไข่ปลา เมื่อกัดเข้าไปจะแตกในปาก รสชาติออกเค็มและคาวเล็กน้อย คล้ายรสของน้ำทะเล สำหรับคนไทยเรานิยมกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ด […]


ข้อมูลโภชนาการ

ผลไม้แห้ง แท้จริงแล้วมีประโยชน์ต่อสุขภาพหรือไม่

ผลไม้แห้ง มีทั้งประโยชน์และข้อควรระวัง โดยบางคนกล่าวว่าผลไม้แห้งอุดมไปด้วยสารอาหาร หรือถือเป็นของหวานที่ดีต่อสุขภาพ ในขณะที่บางคนกลับมองว่า ผลไม้แห้งไม่ได้ต่างไปจากลูกอม แท้จริงแล้วผลไม้แห้งมีประโยชน์หรือไม่ Hello คุณหมอ มีข้อมูลดังต่อไปนี้ค่ะ ผลไม้แห้ง คืออะไร ผลไม้แห้ง คือผลไม้ที่ผ่านวิธีการทำให้แห้ง โดยการนำน้ำในผลไม้ออกเกือบทั้งหมด ซึ่งผลไม้แห้งจะมีขนาดหดเล็กลง โดยลูกเกดคือผลไม้แห้งที่พบบ่อย รวมถึงอินทผลัม ลูกพรุน ลูกฟิก และแอปริคอต นอกจากนี้ยังมีผลไม้แห้งชนิดอื่น เช่น มะม่วง สับปะรด แครนเบอร์รี่ กล้วย และแอปเปิ้ล ผลไม้แห้งมีประโยชน์หรือไม่ อาหารมีแคลอรี่ และถึงแม้ว่าแคลอรี่จะมาจากแหล่งอาหารที่มีประโยชน์อย่างผลไม้ ก็สามารถทำให้น้ำหนักตัวขึ้นได้ หากได้รับแคลอรี่มากเกินไป และเนื่องจากผลไม้แห้งมีขนาดเล็กกว่าผลไม้สด จึงทำให้ง่ายต่อการบริโภคในปริมาณมาก เช่น คุณจะกินลูกเกดได้มากกว่าการกินองุ่นเป็นลูกๆ นอกจากนี้ ผลไม้แห้งที่ขายตามท้องตลาดอาจผ่านการเติมน้ำตาล ซึ่งในผลไม้ก็มีน้ำตาลธรรมชาติอยู่แล้ว จึงอาจทำให้คุณได้รับแคลอรี่มากเกินไป หากกินผลไม้แห้งในปริมาณมาก ส่วนประโยชน์ของผลไม้แห้งนั้น ผลไม้แห้งอุดมไปด้วยไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่เรียกว่าฟีนอล (Phenols) โดยไฟเบอร์จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ โรคอ้วน และโรคมะเร็งบางชนิด นอกจากนี้ ผู้ที่กินอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระฟีนอล จะสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็งหลายชนิด รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับความเสื่อมของสมอง ดังนั้นจึงอาจสรุปได้ว่า ผลไม้แห้งอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการกินผลไม้แห้งที่เพิ่มน้ำตาล และระวังปริมาณแคลอรี่ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ของผลไม้แห้งเพิ่มเติม […]


ข้อมูลโภชนาการ

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิตามินดี ต่อผิวของคุณและสุขภาพโดยรวม

วิตามินดี (Vitamin D) ได้ถูกเชื่อมโยงกับกระดูก และความเจริญเติบโตของร่างกายมาเป็นเวลานานแล้ว ทุกคนจะรู้ว่าหากร่างกายได้รับมันไม่เพียงพอ ในขณะที่เราเติบโตนั้น อาจจะทำให้เราตัวเตี้ยได้ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยหลายท่านได้ประสบความสำเร็จในการพิสูจน์ว่า วิตามินดีนั้นมีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวง ต่อผิวและสุขภาพโดยรวมของเราด้วย หากเกิดภาวะขาดนั้น ไม่เพียงแต่จะไปยับยั้งการเจริญเติบโตของกระดูก แต่ยังทำอันตรายต่อผิว และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้อีกด้วย และนี่คือ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิตามินดี ที่ Hello คุณหมอ ได้รวบรวมมาให้อ่านกัน ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิตามินดี ต่อผิวหนัง การบริโภควิตามินดีให้เพียงพอ จะช่วยในการลดสิว และช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น และเปล่งประกายมากขึ้น สาวๆ หลายคนมักจะกลัวแสงแดด นอกความร้อนแล้วยังทำให้ผิวสวยๆ ของเราหมองคล้ำ และแสงแดดยังเป็นตัวการที่อาจทำให้เกิดริ้วรอยแห่งวัยทั้งหลาย และโรคมะเร็งที่มาพร้อมกับรังสียูวี อย่างไรก็ตาม การสัมผัสกับแสงแดดน้อยเกินไป ก็อาจสามารถทำให้เกิดผลร้าย ที่รุนแรงต่อผิวของเราได้ เช่น ทำให้ผิวหมองคล้ำ ยิ่งไปกว่านั้นวิตามินดียังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ลดโอกาสในการเกิดสิวอักเสบได้อีกด้วย ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิตามินดี ต่อสุขภาพ หากปราศจากวิตามินดีร่างกายของเราก็จะไม่สามารถดูดซึม แคลเซียม ได้อย่างเพียงพอ อย่างไรก็ตาม คุณควรที่จะทำให้ระดับของแคลเซียมในเลือดนั้นให้มีความสมดุล เพื่อให้หัวใจและระบบประสาท สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม ร่างกายของเราจะปล่อยฮอร์โมนที่เรียกว่า พาราไทรอยด์ (parathyroid) ซึ่งช่วยดึงดูดแคลเซียมออกจากกระดูก ตามที่ร่างกายต้องการ เมื่อเวลาผ่านไป ความหนาแน่นของแคลเซียมในกระดูกจะลดลง  ทำให้กระดูกมีแนวโน้มที่จะหักได้ ยิ่งไปกว่านั้น นักวิทยาศาสตร์ยังได้ค้นพบหลักฐาน […]


ข้อมูลโภชนาการ

กล้วยหอม ผลไม้รับประทานง่าย ประโยชน์สุขภาพเพียบ

กล้วยหอม เป็นผลไม้จากตระกูลกล้วย รับประทานง่าย รสชาติอร่อย ราคาไม่แพง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น โพแทสเซียม วิตามินบี แมกนีเซียม ซึ่งวิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่าง ๆ อาทิ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดน้ำหนัก ช่วยฟื้นฟูร่างกสยหลังออกกำลังกาย เป็นต้น ข้อมูลโภชนาการของกล้วยหอม กล้วยหอมขนาดกลาง (118 กรัม) ให้พลังงาน 105 กิโลแคลอรี่ และมีสารอาหารมากมาย เช่น โพแทสเซียม (Potassium) วิตามินบี วิตามินซี แมกนีเซียม (Magnesium) องค์ประกอบหลักของกล้วยแต่ละลูก คือ น้ำและคาร์โบไฮเดรต โดยคาร์โบไฮเดรตในกล้วยห่าม (กล้วยสีเขียว) ส่วนใหญ่เป็นแป้งที่ทนต่อการย่อย (Resistant starch) แต่ในกล้วยสุก แป้งจะกลายเป็นน้ำตาล ได้แก่ น้ำตาลกลูโคส ฟรุกโตส (Fructose) และซูโครส (Sucrose) ประโยชน์สุขภาพของกล้วยหอม 1. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด กล้วยห่ามมีแป้งที่ทนต่อการย่อย (Resistant starch) ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนไฟเบอร์ที่ละลายน้ำ และกล้วยยังมีไฟเบอร์ที่มีชื่อว่า เพกติน (Pectin) โดยสารอาหารทั้ง 2 […]


ข้อมูลโภชนาการ

ประโยชน์ของฟักทอง ที่รู้แล้วจะทำให้คุณอยากกินฟักทองให้เยอะขึ้น!

ฟักทอง เป็นพืชที่นำมาปรุงได้หลายเมนูทั้งของคาวและของหวาน แถมยังเป็นอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย แคลอรี่ก็ต่ำ เรียกว่าเป็นผลไม้ที่ไม่ควรมองข้าม ถ้าอยากรู้ว่ากินฟักทองแล้วดีอย่างไร ทำไมต้องรีบไปหาฟักทองมากิน Hello คุณหมอ มี ประโยชน์ของฟักทอง มาฝากแล้ว ประโยชน์ของฟักทอง 1. ฟักทองทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น ฟักทองมีวิตามินเอสูง ซึ่งดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน โดยงานวิจัยชี้ว่า วิตามินเอสามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น และช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อ ในทางกลับกัน ผู้ที่ขาดวิตามินเออาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงได้ นอกจากวิตามินเอแล้ว ฟักทองยังมีวิตามินซีที่ดีต่อระบบภูมิคุ้มกันเช่นกัน โดยฟักทอง 1 ถ้วย (245 กรัม) มีวิตามินซี 19% ของปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ซึ่งงานวิจัยชี้ว่า วิตามินซีสามารถช่วยเพิ่มการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว และช่วยให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงทำให้แผลหายไวขึ้นอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ฟักทองยังมีวิตามินอี ธาตุเหล็ก และโฟเลต ที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานระบบภูมิคุ้มกันด้วยเช่นกัน 2. ฟักทองทำให้สายตาดีขึ้น งานวิจัยชี้ว่า การขาดวิตามินเอเป็นสาเหตุที่พบบ่อยของภาวะสูญเสียการมองเห็น รวมถึงวิตามินซีและวิตามินอี ก็มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยป้องกันเซลล์ดวงตาไม่ให้เกิดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ซึ่งวิตามินทั้งหมดนี้ล้วนพบได้ในฟักทอง นอกจากนี้ ฟักทองยังอุดมไปด้วยลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคต้อและโรคจอประสาทตาเสื่อมเนื่องจากอายุ (Age-related macular degeneration) 3. ฟักทองดีต่อการลดน้ำหนัก ฟักทอง 1 ถ้วย (245 กรัม) […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน