ข้อมูลโภชนาการ

สิ่งที่เรารับประทานเข้าไป มีผลโดยตรงต่อความรู้สึกและประสิทธิภาพในการทำงานแต่ละวัน การเรียนรู้เกี่ยวกับ ข้อมูลโภชนาการ จะช่วยให้เรารู้จักระมัดระวังมากขึ้นก่อนการรับประทานอาหาร และช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายทางสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

ข้อมูลโภชนาการ

หัวปลี สารอาหารสำคัญ สรรพคุณทางยา และประโยชน์ของหัวปลี

หัวปลี เป็นส่วนดอกของต้นกล้วย เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ปลีกล้วย คนไทยมักจะนำหัวปลีมาประกอบเป็นเมนูอาหารต่าง ๆ ช่วยเสริมรสชาติให้กับเมนูอาหาร ทั้งยังอุดมด้วยคุณประโยชน์มากมาก และมีสรรพคุณทางยาที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย [embed-health-tool-bmi] สารอาหารสำคัญใน หัวปลี ปลีกล้วยหรือหัวปลี มีสารอาหารสำคัญ ดังนี้ แคลเซียม  ธาตุเหล็ก  ฟอสฟอรัส  แมกนีเซียม  โปรตีน  วิตามินซี  เบตาแคโรทีน ประโยชน์จากหัวปลี หัวปลีเป็นส่วนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทุกเพศทุกวัย เช่น  ปลีกล้วยมีสารซาโปนิน (Saponins) และแทนนิน(Tannins) ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรแลคติน ในทางการแพทย์แผนไทย  อุดมด้วยแคลเซียม ที่มากกว่ากล้วยสุกถึง 4 เท่า ดีต่อกระดูกและฟัน อาจช่วยบรรเทาอาการของโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ หัวปลีเป็นผักฤทธิ์เย็น ดีต่อสุขภาพในช่วงหน้าร้อน ปรับสมดุลร่างกายให้เย็นขึ้น ช่วยแก้อาการร้อนในได้ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ดีต่อผิวพรรณ ชะลอการเกิดริ้วรอย มีสารแมกนิเซียมที่ช่วยปรับสมดุลของสภาวะทางอารมณ์ ช่วยบรรเทาอาการเศร้า  มีสารเอทานอล ลดการอักเสบ มีฤทธิ์ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อโรคได้ ประโยชน์ที่สำคัญของหัวปลียังดีต่อแม่ตั้งครรภ์และแม่หลังคลอด ดังนี้  ช่วยในการบำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์หรือคุณแม่หลังคลอด มีสรรพคุณทางยา กระตุ้นต่อมน้ำนม ให้ร่างกายแม่ตั้งครรภ์สร้างน้ำนมหลังคลอด จึงควรรับประทานเมนูหัวปลีหลังคลอดเพื่อช่วยขับน้ำนม ตัวอย่างเมนูจากหัวปลี หัวปลีมีรสฝาด สามารถกินสด ๆ ได้ […]

สำรวจ ข้อมูลโภชนาการ

ข้อมูลโภชนาการ

ถั่วพิสตาชิโอ กับความลับเพื่อสุขภาพ

ถั่ว ธัญพืชเม็ดเล็กๆ ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารสูง โดยเฉพาะโปรตีน ที่ปัจจุบันมีการค้นพบว่าถั่วหลายชนิดให้โปรตีนสูง บางชนิดให้โปรตีนเทียบเท่ากับการรับประทานเนื้อสัตว์เลยทีเดียว วันนี้ Hello คุณหมอ มีอีกหนึ่งถั่วที่อุดมไปด้วยสารอาหารจำเป็นต่อร่างกายมาฝากทุกท่าน นั่นคือ ถั่วพิสตาชิโอ รู้จักกับถั่วพิสตาชิโอ พิสตาชิโอ หรือ ถั่วพิสตาชิโอ (Pistachio) เป็นพืชตระกูลถั่ว มีลักษณะเป็นพืชล้มลุก แต่สำหรับต้นพิสตาชิโอนั้นจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก พบได้ในบริเวณตะวันออกกลาง เช่น ซีเรีย อัฟกานิสถาน ปากีสถาน อินเดีย ตุรกี เลบานอน รวมถึงในอียิปต์ด้วย ปัจจุบันถั่วพิสตาชิโอได้ถูกนำมาแปรรูปเป็นอาหารชนิดต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบของธัญพืช ถั่วพิสตาชิโออบแห้งหรืออบเกลือ หรือนมถั่วพิสตาชิโอ ซึ่งล้วนแล้วแต่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น ถั่วพิสตาชิโอ ดีอย่างไร จากการที่องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาได้มีการแนะนำให้ทานถั่ววันละ 1 กำมือเพื่อลดไขมันและคอเลสเตอรอล จึงเป็นการปลุกกระแสให้ใครต่อใครหันมาบริโภคอาหารประเภทธัญพืชอย่างถั่วมากขึ้น เป็นเหตุผลว่าทำไมปัจจุบันเราจึงเห็นผลิตภัณฑ์จากถั่วถูกนำมาแปรรูปมากมาย เพื่อให้ได้ทั้งความอร่อยและคุณค่าทางอาหาร รวมถึงถั่วพิสตาชิโอด้วย เป็นแหล่งรวมสารอาหาร ถั่วพิสตาชิโอนั้น ประกอบด้วยสารอาหารต่างๆ ดังนี้ คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ โปรตีน ไขมันดี โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี6 ไทแอมีน ทองแดง และแมงกานีส ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ให้คุณค่าต่อร่างกายเป็นอย่างดีทีเดียว ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เมื่อเทียบกับถั่วชนิดอื่นๆ พบว่าถั่วพิสตาชิโอนั้นมีปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูง จะเป็นรองก็แต่วอลนัทและถั่วพีแคนเท่านั้น […]


ข้อมูลโภชนาการ

ปลานิล จะเผาหรือทอดก็อร่อย ความจริงแล้วมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง

ปลานิล เป็นอาหารเมนูโปรดของใครหลายคน เพราะไม่ว่าจะเอามาทำเป็นปลาเผา ปลาทอด หรือปลาย่าง กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บ ๆ หรือกินเป็นเมี่ยงปลาเผาก็อร่อย Hello คุณหมอ บทความนี้จึงมีข้อมูลโภชนาการของปลานิล รวมถึงความเสี่ยงที่ควรระวังเวลากินปลานิล ข้อมูลโภชนาการของปลานิล ปลานิล เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี โดยโปรตีนประมาณ 100 กรัม มีโปรตีน 26 กรัม และมีพลังงานเพียง 128 แคลอรี่ จึงถือว่าเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงและแคลอรี่ต่ำ นอกจากนี้ปลานิลยังมีสารอาหารมากมาย โดยปลานิลจะอุดมไปด้วยไนอะซิน (Niacin) วิตามินบี 12 ฟอสฟอรัส ซีลีเนียม และโพแทสเซียม ซึ่งปลานิล 100 กรัมมีสารอาหารดังต่อไปนี้ โปรตีน 26 กรัม ไขมัน 3 กรัม ไนอะซิน 24% ของปริมาณไนอะซินที่ควรได้รับต่อวัน วิตามินบี 12 31% ของปริมาณวิตามินบี 12 ที่ควรได้รับต่อวัน ฟอสฟอรัส 20% ของปริมาณฟอสฟอรัสที่ควรได้รับต่อวัน ซีลีเนียม 78% ของปริมาณซีลีเนียมที่ควรได้รับต่อวัน โพแทสเซียม 20% ของปริมาณโพแทสเซียมที่ควรได้รับต่อวัน ปลานิลมีโอเมก้า 3 น้อยกว่าปลาแซลมอน 10 เท่า แม้ว่า […]


ข้อมูลโภชนาการ

น้ำตาล เป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคมะเร็งจริงหรือ

น้ำตาล อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง เนื่องจาก น้ำตาลถือเป็นพลังงานที่ส่งผลให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว การจำกัดน้ำตาลออกจากอาหารอาจช่วยหยุดการเจริญเติบโตของมะเร็ง หรืออาจหยุดการพัฒนาเซลล์มะเร็งตั้งแต่แรกเริ่ม แต่น้ำตาลไม่ได้เป็นเพียงอาหารของเซลล์มะเร็งเท่านั้น แต่ยังมีความจำเป็นต่อเซลล์ที่แข็งแรงของร่างกายอีกด้วย ดังนั้น การจำกัดน้ำตาลก็อาจส่งผลเสียต่อเซลล์ของร่างกายได้เช่นกัน นอกจากนั้น ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า การรับประทานอาหารที่ปราศจากน้ำตาลอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง หรือเพิ่มโอกาสในการมีชีวิตรอดได้ อาหารที่มีน้ำตาลไม่ได้มีแต่ของหวาน เซลล์ในร่างกายต้องการน้ำตาลจากอาหาร แต่ไม่ใช่แค่อาหารประเภทของหวานเพียงอย่างเดียว เพราะร่างกายอาจได้รับน้ำตาลจากแหล่งอาหารเหล่านี้ ผลไม้ (น้ำตาลฟรุกโตส) ผัก (กลูโคส) ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมวัว (แลคโตส) อาหารในหมู่คาร์โบไฮเดรต เช่น ขนมปัง พาสต้า และข้าว บางคนอาจสงสัยว่า ถ้าเลิกรับประทานน้ำตาลหรือลดการบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้หรือไม่ ความจริงแล้วในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า การรับประทานอาหารที่ปราศจากน้ำตาลและอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง หรือเพิ่มโอกาสในการมีชีวิตรอดได้ น้ำตาล เป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคมะเร็งหรือเปล่า ในปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ว่า น้ำตาลอาจทำให้เกิดโรคมะเร็ง ทั้งยังไม่มีหลักฐานที่พอจะพิสูจน์ได้ว่า น้ำตาลเชื่อมโยงกับโรคมะเร็งโดยตรง แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รับประทานเข้าไปในแต่ละมื้ออาจส่งผลอย่างมากต่อความเสี่ยงในการพัฒนาโรคมะเร็ง เพราะหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง คือ ความอ้วน หรือน้ำหนักเกิน การรับประทานฟาสต์ฟู้ด หรืออาหารแปรรูปประเภทอื่น ๆ ที่มีไขมันและน้ำตาลสูง เช่น ช็อกโกแลต ของหวาน สามารถทำให้น้ำหนักเพิ่ม และมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่พบว่า ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน อาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง นอกจากนี้ การดื่มเครื่องดื่มรสหวานเป็นประจำ หรือดื่มในปริมาณมากอาจเชื่อมโยงกับการมีน้ำหนักขึ้น ส่วนสารให้ความหวานแทนน้ำตาล (Artificial […]


ข้อมูลโภชนาการ

สุดยอดอาหาร 12 ชนิดบำรุงตับ

คุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ น้ำหนักเพิ่ม หรือปวดศีรษะเป็นประจำอยู่หรือเปล่า ถ้าใช่ บอกได้เลยว่านี่คือสัญญาณแสดงว่าร่างกายของคุณกำลังต้องเผชิญกับสารพิษจำนวนมากซึ่ง อาจมาจากอาหาร ลักษณะการใช้ชีวิต หรือมลพิษในสิ่งแวดล้อม นั่นหมายความว่าตับของคุณต้องทำงานหนักยิ่งขึ้นกว่าเดิมเพื่อขจัดสารพิษเหล่านี้ออกจากเลือดให้หมด วิธีหนึ่งที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระของตับไม่ให้ทำงานหนักเกินไป ก็คือการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และช่วยให้ตับทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และต่อไปนี้ คือ สุดยอดอาหาร 12 ชนิดบำรุงตับ ที่คุณควรเพิ่มในมื้ออาหาร ทำไมสุขภาพตับจึงสำคัญต่อร่างกาย เมื่อคุณล้างพิษจากตับของคุณ คุณจะเริ่มมองเห็นประโยชน์ต่อสุขภาพทันที ประโยชน์เหล่านี้ได้แก่ ระดับพลังงานเพิ่มขึ้น ระบบภูมิต้านทานแข็งแกร่งขึ้น อารมณ์ดีขึ้น จิตใจดีขึ้น ไม่รู้สึกปวดในโพรงจมูกอีก อาการปวดท้องหรืออาหารไม่ย่อยหายไป ลมหายใจไม่มีกลิ่น ผิวใสขึ้น รอบประจำเดือนสม่ำเสมอและอาการก่อนประจำเดือนลดลง อาหารบำรุงตับ มีอะไรบ้าง น้ำ 60% ของร่างกายของคุณคือน้ำ แต่เราไม่สามารถเก็บน้ำในถุงบนหลังของเราได้เหมือนอูฐ น้ำในร่างกายมนุษย์เป็นปริมาณน้ำที่หมุนเวียนตลอดเวลา และจะถูกกักเก็บไว้ในเซลล์ร่างกาย ถ้าคุณมีน้ำในร่างกายไม่เพียงพอ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพตับของคุณด้วย โดยปกติ ร่างกายของเราจะขับสารพิษออกจากร่างกายผ่านน้ำ เช่น ปัสสาวะ และ เหงื่อ ดังนั้น เพื่อให้ระบบขับสารพิษเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุณควรดื่มน้ำสะอาดประมาณ 3 ลิตรต่อวัน แต่ก็ควรระวังอย่าดื่มน้ำมากเกินไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้เช่นกัน ผักตระกูลกะหล่ำ ผักตระกูลกะหล่ำ มีหลายชนิด ได้แก่ บร็อคโคลี กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บ็อคชอย และหัวไชเท้า ผักตระกูลนี้มักมีลักษณะหนึ่งที่คล้ายกันคือ รูปทรงของใบซึ่งมองดูเหมือนไม้กางเขน ผักเหล่านี้อุดมไปด้วยสารพฤกษเคมี หรือ ไฟโตนิวเทรียนท์ ได้แก่ ฟลาโวนอยด์ แคโรทีนอยด์ […]


ข้อมูลโภชนาการ

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ: เลือกมื้อเช้าดี ชีวีมีสุข

มื้อเช้า ถือเป็นอาหารมื้อหลักที่มีความสำคัญต่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นมื้อแรกที่เราได้รับหลังจากการนอนหลับตลอดคืน อาหารมื้อเช้าช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลและสารอาหารที่จำเป็นแก่ร่างกาย ให้เรามีพลังงานเพียงพอที่จะใช้ทำกิจกรรมตลอดทั้งวัน แม้ว่าไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันจะเต็มไปด้วยความรีบเร่ง แต่ผู้คนก็ให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารเช้า เพราะจากผลสำรวจการรับประทานอาหารมื้อเช้าของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น เอเชียแปซิฟิก ในเดือนมีนาคม 2561 จากกลุ่มคนจำนวน 5,504 คน ใน 11 ประเทศในเอเชียแปซิฟิกซึ่งรวมประเทศไทยด้วย พบว่าคนไทยที่ตอบแบบสำรวจถึงร้อยละ 64 รับประทานอาหารเช้าทุกวัน อย่างไรก็ตาม อาหารเช้าไม่ได้เป็นเพียงมื้ออาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกายเท่านั้น แต่ยังต้องประกอบด้วยสารอาหารในปริมาณที่เพียงพอและเหมาะสมเพื่อให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ดังนั้น เรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการได้รับประทานอาหารเช้าหรือไม่นั้น คือเราควรพิจารณาด้วยว่ามื้อเช้าที่รับประทานนั้นเป็น “อาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพ” หรือไม่ ประโยชน์ของ มื้อเช้า ที่มีต่อร่างกาย ในตอนกลางคืน ระหว่างที่เรานอนหลับพักผ่อน กระบวนการทางเคมีของร่างกายของเราก็ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การไม่ได้รับประทานอาหารระหว่างการนอนหลับเป็นเวลาหลายชั่วโมง ทำให้ร่างกายต้องการพลังงานที่เพียงพอหลังจากตื่นนอน เพื่อให้ระบบต่างๆ ของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน หากเราไม่ได้รับพลังงานไปหล่อเลี้ยงร่างกาย ก็อาจทำให้ระบบการทำงานของร่างกาย ไม่สามารถดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ข้อมูลสำคัญที่พบในการรับประทานอาหารเช้าของคนไทย เนื่องด้วยพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนไทยในปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก โดยส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากวิถีการบริโภคจากโลกตะวันตก ซึ่งมักประกอบด้วยอาหารให้พลังงานสูง จึงทำให้คนไทยส่วนใหญ่มีแนวโน้มในการรับประทานอาหารที่ไม่สมดุล ความไม่สมดุลในที่นี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 กรณีใหญ่ๆ คือ ความไม่สมดุลของพลังงานที่ได้รับ และ ความไม่สมดุลของสารอาหารที่ได้รับ โดยการได้รับพลังงานและสารอาหารในกลุ่มแมคโครนิวเทรียนส์ในปริมาณมากเกินไปนี้เอง เป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable diseases: […]


ข้อมูลโภชนาการ

ลูกยอ สมุนไพรพื้นบ้าน มีประโยชน์อย่างไร

ลูกยอ เป็นสมุนไพรพื้นบ้านของไทย ได้มาจากต้นยอ ซึ่งเป็นต้นไม้ยืนต้น มีใบสีเขียว ผลของลูกยอมีลักษณะอ้วน ป้อม ทรงรี เมื่อลูกยอสุกแล้วจะมีสีขาวนวล เนื้อข้างในนุ่ม และมีเมล็ดเป็นจำนวนมากอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ ไม่ว่าจะเป็นเส้นใยอาหาร วิตามิเอ วิตามินซี แคลเซียม ทั้งนี้ ลูกยอนับว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ อาจช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจ รวมถึงอาจช่วยให้ร่างกายออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของ ลูกยอ ต่อสุขภาพ ลูกยอ อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ ต่าง ๆ ซึ่งอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพดังต่อไปนี้ อาจช่วยลดความเสียหายของเซลล์จากควันบุหรี่ หากร่างกายได้รับควันบุหรี่ส่งผลให้สารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายถูกทำลาย เซลล์เกิดความเสียหายและอักเสบ จนนำไปสู่โรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็ง ทั้งนี้ หากดื่มน้ำลูกยอวันละ 1 แก้ว อาจช่วยให้เซลล์แข็งแรงขึ้น ลดโอกาสเสี่ยงเกิดโรคต่าง ๆ อาจช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ ลูกยอ จะลดปริมาณระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายและลดอาการอักเสบ การดื่มน้ำลูกยอทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน อาจช่วยให้ปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ลดลง อย่างไรก็ตาม ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันถึงประโยชน์ของลูกยอต่อการช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ อาจช่วยให้ร่างกายออกกำลังกายได้นานขึ้น น้ำลูกยอมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ซึ่งมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นระหว่างออกกำลังกาย จึงทำให้ร่างกายสามารถอดทนต่อการออกกำลังกายได้นานขึ้น เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลูกยอเป็นสมุนไพรที่มีวิตามินซีสูง […]


ข้อมูลโภชนาการ

กะทิ ประโยชน์ต่อร่างกาย และผลข้างเคียง

กะทิ เป็นส่วนประกอบหลักของอาหารไทย และในอีกหลายประเทศแถบเอเชีย รวมถึงบางประเทศในแถบอเมริกาใต้ด้วย โดยได้มาจากการน้ำเนื้อมะพร้าวมาคั้นกับน้ำ ส่วนที่เข้มข้นที่สุดจะเรียกว่า หัวกะทิ ส่วนที่คั้นหลังจากนั้นน้ำกะทิจะมีความเข้มข้นน้อยจะเรียกว่า หางกะทิ แม้กะทิจะมีแคลอรี่สูง แต่หากรับประทนในปริมาณที่พอเหมาะ ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพในเรื่องของผลดีต่อการลดน้ำหนัก การเผาผลาญ ส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น [embed-health-tool-bmi] คุณค่าโภชนาการของกะทิ กะทิ ได้มาจากการนำเนื้อมะพร้าวมาคั้นกับน้ำ ซึ่งอาจมีความเข้มข้นแตกต่างกัน โดยในการคั้นครั้งแรกจะได้น้ำกะทิที่เข้มข้นซึ่งเรียกกันว่า หัวกะทิ และการคั้นกะทิต่อมาหลังจากนั้นก็จะเป็น หางกะทิ ที่มีความเข้มข้นน้อยกว่า และอาจมีปริมาณไขมันน้อยกว่าด้วย โดยทั่วไปแล้ว กะทิมีแคลอรี่สูง โดย 93 เปอร์เซ็นต์ ของแคลอรี่มาจากไขมันอิ่มตัว รวมถึงไขมันอิ่มตัวชนิดที่เรียกว่า กรดไขมันอิ่มตัวสายกลาง (Medium Chain Triglyceride หรือ MCT) ซึ่งถือเป็นกรดไขมันที่ดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ เนื้อมะพร้าวยังมีสารอาหารหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี 1 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 รวมทั้งแร่ธาตุ เช่น ธาตุเหล็ก ซีลีเนียม โซเดียม แคลเซียม […]


ข้อมูลโภชนาการ

หิวบ่อย เกิดจากอะไร แก้ไขได้อย่างไรบ้าง

หิวบ่อย เป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายต้องการพลังงานเพื่อนำไปใช้ในกิจกรรม หากร่างกายได้รับพลังงานเพียงพออาจช่วยลดอาการหิวบ่อยได้ นอกจากนี้ อาจมีสาเหตุมาจากความเครียด หรือภาวะสุขภาพอื่น ๆ เช่น ตั้งครรภ์ นอนน้อย รวมทั้งผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น เบาหวาน โรคอ้วน อย่างไรก็ตาม หิวบ่อยอาจป้องกันได้ด้วยการเลือกรับประทานอาหารบางชนิดที่ช่วยให้อิ่มนานขึ้น หิวบ่อยเกิดจากอะไร หิวบ่อยเกิดจากร่างกายมีฮอร์โมนเลปติน (Leptin) หรือฮอร์โมนความอิ่มไม่สมดุล รวมทั้งขาดโปรตีนหรือไฟเบอร์ที่ทำให้อิ่มท้อง ทั้งนี้ อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้ ความเครียด ภาวะซึมเศร้า การตั้งครรภ์ นอนน้อยหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นโรคบางชนิด เช่น เบาหวาน โรคอ้วน ภาวะน้ำหนักเกิน อาการ PMS (Premenstrual syndrome) หรือภาวะก่อนมีประจำเดือน รับประทานอาหารที่ทำให้หิวมากขึ้น หรือหิวเร็วขึ้น อาหารที่ช่วยควบคุมอาการ หิวบ่อย อาการหิวบ่อยอาจแก้ไขได้ด้วยการเลือกรับประทานอาหารต่าง ๆ ดังนี้ 1. อาหารแคลอรี่ต่ำ อาหารแคลอรี่ต่ำ เช่น ผัก ผลไม้อาจช่วยให้อิ่มเร็วขึ้นและอิ่มนานขึ้น รวมทั้งยังทำให้กระเพาะขยายอย่างช้า ๆ เช่น สลัดผักจานใหญ่ อาจช่วยให้รู้สึกอิ่มมากกว่าเดิม  นอกจากนั้น อาจมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร 2. ผลไม้ที่มีน้ำตาลจากธรรมชาติ โดยปกติเมื่อคนส่วนใหญ่รู้สึหิว มักเลือกรับประทานอาหารประเภทไขมันและน้ำตาลสูง […]


ข้อมูลโภชนาการ

ประโยชน์ของวิตามินซี

วิตามินซีเป็นกรดผลไม้ชนิดหนึ่งพบได้ตามธรรมชาติในอาหารประเภทต่าง ๆ ทั้งผัก ผลไม้ ประโยชน์ของวิตามินซีเองนั้นมีมากมาย โดยร่างกายต้องการวิตามินซีเพื่อนำมาใช้ต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงเซลล์ให้แข็งแรง ดังนั้น ในแต่ละวันร่างกายจึงควรได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอ [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์วิตามินซี มีอะไรบ้าง วิตามินซีเป็นองค์ประกอบในกระบวนการสร้างคอลลาเจนที่จะนำไปสร้างกระดูก กล้ามเนื้อ เป็นองค์ประกอบหนึ่งในกระบวนการสร้างสารสื่อประสาทที่ชื่อ ไทโรซีน คาร์นิทีน และที่สำคัญ วิตามินซียังช่วยดูดซึมธาตุเหล็กได้อีกด้วย วิตามินซีช่วยป้องกันโรค เช่น ไข้หวัด  โรคเกี่ยวกับเซลล์อักเสบ รวมถึงเซลล์แบ่งตัวผิดปกติที่เรียกกันว่าเซลล์มะเร็งด้วย โดยสามารถสรุปได้เป็นหลัก 3 กลุ่มด้วยกัน คือ ไข้หวัดจากไวรัสระดับไม่รุนแรงเท่านั้น เพราะวิตามินไม่สามารถช่วยรักษาโรคปอดอักเสบ (Pneumonia) หรือภาวะหายใจล้มเหลว (ARDS) ใด ๆ ได้เลย โรคหลอดเลือดหัวใจรวมถึงความดันโลหิตสูง โรคมะเร็งระบบทางเดินอาหาร (หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ตับอ่อน ทั้งนี้ วิตามินซีเป็นเพียงองค์ประกอบในการป้องกันโรคเท่านั้น ไม่มีผลชัดเจนเรื่องรักษาหรือเป็นยาหลักในการรักษาแต่อย่างใด มีงานวิจัยบางชิ้นที่ระบุว่าวิตามินซีช่วยรักษาหรือป้องกันการลุกลามมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจรวมถึงความดันโลหิตสูงได้ แต่ต้องใช้โดส (Dose) สูงมาก ๆ รวมถึงผลการรักษาก็ไม่ได้เป็นที่ประจักษ์จึงไม่นิยมใช้ วิตามินซีแบบฉีดจะลดประสิทธิภาพยาฆ่าเชื้อ ได้แก่ อิริโทรมัยซิน คานามัยซิน สเตร็ปโตมัยซิน ด็อกซีซัยคลิน และลินโคมัยซิน รวมถึงยาต้านการแข็งตัวของเลือดชื่อวาร์ฟาริน รูปแบบวิตามินซีที่สามารถกินได้ ผักผลไม้ พริกหวานแดงบรอคโคลี่  รวมทั้งผักและผลไม้แทบทุกชนิด ไม่ได้มีแต่ผักผลไม้รสเปรี้ยว […]


ข้อมูลโภชนาการ

เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยอาหารที่หาได้ง่ายใกล้ ๆ ตัว

ระบบภูมิคุ้มกัน ทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อที่ทำให้เกิดโรค แต่ถ้าระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ร่างกายก็ไม่สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อต่าง ๆ ได้ ทำให้ป่วยได้ง่าย ซึ่งการ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ให้แข็งแรงขึ้นอาจทำได้ด้วยหลากหลายวิธี แต่วิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด คือ การเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและทำให้ร่างกายแข็งแรง [embed-health-tool-bmr] ระบบภูมิคุ้มกันสำคัญต่อร่างกายอย่างไร ระบบภูมิคุ้มกันประกอบด้วยเซลล์พิเศษ โปรตีน เนื้อเยื่อ และอวัยวะ มีหน้าที่ปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคและจุลินทรีย์ และมีบทบาทสำคัญในการทำให้ร่างมีสุขภาพดีและป้องกันการติดเชื้อ แต่บางครั้งปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน อาจนำไปสู่ความเจ็บป่วยและการติดเชื้อได้ อาหารบางประเภทสามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น ดังนั้น หากต้องการหากวิธีป้องกันไข้หวัด หรือป้องกันการไม่สบายในเวลาที่อากาศเปลี่ยน อาจเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร ด้วยการรับประทานอาหารบางอย่าง เพื่อให้ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้ อาหารที่ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน 1. ผลไม้รสเปรี้ยว คนส่วนใหญ่กินวิตามินซีหลังจากที่เป็นไข้หวัด เนื่องจากวิตามินซีมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้วิตามินซียังอาจเพิ่มการผลิต เม็ดเลือดขาว ที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการต่อสู้กับการติดเชื้อ และผลไม้รสเปรี้ยวที่เป็นที่นิยม ได้แก่ ส้ม เลมอน มะนาว เนื่องจากร่างกายไม่สามารถผลิตหรือเก็บวิตามินซีได้ จึงจำเป็นต้องได้รับวิตามินซีจากมื้ออาหารเพื่อรักษาสุขภาพ และผลไม้รสเปรี้ยวส่วนใหญ่อุดมไปด้วยวิตามินซี ดังนั้น จึงอาจเพิ่มผลไม้รสเปรี้ยวในมื้ออาหาร 2. บร็อคโคลี่ บร็อคโคลี่ อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและไฟเบอร์ จึงถือว่าเป็นหนึ่งในผักที่มีประโยชน์ และดีต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย คำแนะนำคือเวลาปรุงอาหาร เช่น ผัดบร็อคโคลี่กุ้งสด ควรลดปริมาณน้ำมันและน้ำตาลเพื่อสุขภาพ 3. […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน