เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ไม่ว่าคุณจะตั้งเป้าหมายเพื่อลดน้ำหนัก เพิ่มน้ำหนัก หรือรักษาค่าดัชนีมวลกาย (ฺBMI) ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ก็ล้วนแล้วแต่ต้องใช้ความมุ่งมั่นทั้งสิ้น รับคำแนะนำเกี่ยวกับ เคล็ดลับโภชนาการที่ดี เพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้อย่างปลอดภัยและมั่นคงยิ่งขึ้น ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ข้าว 10 ปี กินได้อยู่ไหม? อันตรายรึเปล่า?

ข้าว เป็นหนึ่งในอาหารหลักของคนไทย ซึ่งมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้อง ข้าวเสาไห้ และอื่น ๆ หลายบ้านมักจะมีข้าวสารเก็บติดบ้านไว้เสมอ แต่ข้าวสารนั้นเก็บไว้ได้กี่ปี ข้าว 10 ปี ยังกินได้อยู่หรือไม่ หาคำตอบได้ในบทความนี้ [embed-health-tool-bmi] ข้าวสาร เก็บได้กี่ปี  ข้าวสารสามารถเก็บไว้ได้นานกี่ปีถึงจะยังนำมารับประทานได้โดยไม่เกิดอันตราย จากข้อมูลของเว็บไซต์ Think Rice เว็บไซต์เกี่ยวกับข้าวแหล่งสหรัฐอเมริกา ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ข้าวเต็มเมล็ดที่ไม่ผ่านการขัดสีอย่าง ‘ข้าวกล้อง’ สามารถเก็บไว้ได้นานสูงสุดประมาณ 6 เดือน ส่วนข้าวที่ผ่านการขัดสีแล้วอย่าง ‘ข้าวขาว’ อาจสามารถเก็บไว้ได้นาน ไม่มีวันหมดอายุ หากเก็บรักษาไว้อย่างถูกต้อง โดยเก็บไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด และเก็บไว้ในที่แห้ง ปราศจากความชื้น  อย่างไรก็ตาม การเก็บรักษาข้าวอย่างไม่เหมาะสมอาจส่งผลให้คุณภาพของเมล็ดข้าวลดลง หรือเกิดความผิดปกติ เช่น มีกลิ่นเหม็นหืน สีเปลี่ยนไป หรือมีเชื้อราขึ้น ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้หากรับประทาน ข้าว 10 ปี กินได้ไหม จากข้างต้น ข้าวขาวที่เก็บไว้อย่างถูกต้องยังคงสามารถนำมาหุงรับประทานได้ เพียงแค่กลิ่นอาจจะไม่หอมเท่าและรสสัมผัสอาจจะแตกต่างจากข้าวใหม่  อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังหากข้าวมีความผิดปกติ หรือมีการปนเปื้อนของสารพิษ โดยเฉพาะ อะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเป็นสารพิษจากเชื้อราที่พบได้ในอาหารต่าง ๆ เช่น ถั่วลิสง […]

สำรวจ เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

อาหารดีๆ ที่ช่วยเพิ่มเซโรโทนิน เพื่อลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้า

ร่างกายของเรามีสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ ช่วยให้เราอารมณ์ดี ช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น แต่เมื่อใดที่สารสื่อประสาทที่ชื่อ เซโรโทนิน (Serotonin) มีปริมาณลดลง เมื่อนั้นก็จะรู้สึกเครียด หงุดหงิด อารมณ์ไม่ดี แต่…เราสามารถเพิ่มสารเซโรโทนินได้ง่ายๆ ด้วยการรับประทานอาหาร แต่จะมี อาหารที่ช่วยเพิ่มเซโรโทนิน แบบใดบ้าง ลองมาติดตามกันได้จากบทความนี้จาก Hello คุณหมอ เลยค่ะ เซโรโทนิน มีความสำคัญอย่างไร เซโรโทนิน (Serotonin) เป็นสารสื่อประสาทที่ร่างกายสร้างขึ้น และทำหน้าที่สำคัญที่ส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึก ทั้งช่วยควบคุมความรู้สึกหิว หรือความรู้สึกง่วง ช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น แต่เมื่อใดก็ตามที่สารเซโรโทนินอยู่ในระดับที่ลดต่ำลงก็จะส่งผลต่ออารมณและความรู้สึกในแง่ที่เป็นด้านลบ มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า ความเครียด หรือความรู้สึกหงุดหงิดต่างๆ อาหารที่ช่วยเพิ่มเซโรโทนิน มีอะไรบ้าง สารเซโรโทนิน ไม่สามารถพบได้ในอาหารเมนูตามปรกติทั่วไป แต่อาหารที่เรารับประทานกันในชีวิตประจำวันนั้นมีส่วนช่วยเพิ่มสารเซโรโทนินได้ หากอาหารชนิดนั้นอุดมไปด้วย สารทริปโตเฟน (Tryptophan) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนจำเป็นในการผลิตสารเซโรโทนินของร่างกาย ดังนี้ ไข่ ในไข่อุดมไปด้วยโปรตีนในปริมาณที่สูง มีส่วนช่วยให้ร่างกายแข็งแรง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใครก็ตามที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ และยังมีส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มระดับพลาสมาในเลือด และมีสารทริปโตเฟน ที่ทำหน้าที่ช่วยเพิ่มระดับของเซโรโทนินอีกด้วย แซลมอน ปลาแซลมอนเป็นอีกหนึ่งอาหารที่เป็นแหล่งของทริปโตเฟน ที่มีส่วนช่วยเพิ่มระดับของ สารเซโรโทนิน และยังเป็นแหล่งของโอเมก้า 3 (Omega-3) ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและสุขภาพผิวหนังด้วย ยิ่งไปกว่านั้นในเนื้อปลาแซลมอนยังมีวิตามินดีที่เป็นอีกหนึ่งสารอาหารสำคัญที่ช่วยเพิ่มระดับของเซโรโทนินในร่างกาย ถั่วและธัญพืชต่างๆ ถั่วและธัญพืชต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มอาหารที่อุดมไปด้วยทริปโตเฟน ช่วยเพิ่มสารเซโรโทนิน และอุดมไปด้วยไฟเบอร์กับสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจและปัญหาของระบบทางเดินหายใจ ไก่งวงและสัตว์ปีกต่างๆ อาหารจำพวกสัต์ปีกโดยเฉพาะไก่งวง เป็นแหล่งของโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และแน่นอนว่ามีสารทริปโตเฟน […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

สมุนไพร คลายเครียด ลดความวิตกกังวล มีอะไรบ้างนะ

ความเครียดและความวิตกกังวล เป็นสภาวะของอารมณ์ เวลาต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ จนเกิดความไม่สบายใจ กังวลใจ ซึ่งสาเหตุของการเกิดความเครียดนั้นก็จะแตกต่างกันออกไป เมื่อเกิดความเครียด คนเราก็ต้องจัดการกับความเครียด และแน่นอนว่าวิธีการจัดการกับความเครียดก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน บางคนออกกำลังกายเพื่อลดความเครียด บางคนดูหนัง ฟังเพลง หรือทำสปา วันนี้ Hello คุณหมอ มี สมุนไพร คลายเครียด มาฝากกันค่ะ ไปดูกันเลยว่ามีสมุนไพรอะไรบ้าง มาดูกันว่า สมุนไพร คลายเครียด ลดความวิตกกังวล มีอะไรบ้าง ดอกคาโมมายล์ ดอกคาโมมายล์ เป็นสมุนไพรที่มีดอกคล้ายกับดอกเดซี่ จากการทดลองทางคลินิกในปี พ.ศ. 2559 พบว่าดอกคาโมมายด์มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับการใช้เพื่อรักษาอาการวิตกกังวลทั่วไปในระยะยาว ซึ่งวิธีการใช้ดอกคาโมมายด์ในแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งวิธีการส่วนใหญ่ที่หลายคนมักเลือกใช้คือสารสกัด อาหารเสริมรูปแบบเม็ด ครีมบำรุงผิว หรือดื่มเป็นชา จากงานวิจัยที่ให้ผู้เข้าร่วมทั้งหมด 93 คน รับสารสกัดดอกคาโมมายด์ 1,500 มิลลิกรัม ทุกวันเป็นเวลานาน 12 สัปดาห์ หลังจากนั้นได้แบ่งผู้เข้าร่วมการทดลองเป็น 2 กลุ่มโดยให้รับดอกคาโมมายด์ต่อเนื่องอีก 26 สัปดาห์ อีกกลุ่มรับเป็นยาหลอก พบว่ากลุ่มที่ได้รับดอกคาโมมายด์ต่อนั้นมีโอกาสในการเกิดอาการวิตกกังวลน้อยกว่าการเปลี่ยนไปใช้ยาหลอก ถึงแม้อาการวิตกกังวลกำเริบอาการของโรคก็จะรุนแรงน้อยลง แต่สำหรับคนบางกลุ่มที่มีอาการแพ้ดอกเบญจมาศ ดอกดาวเรือง ดอกเดซี่ […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

อาหารสุขภาพสำหรับคุณแม่หลังคลอด ที่ช่วยบำรุงร่างกายจากภายใน

โดยปกติหลายคนจะบอกว่าการบำรุงในช่วงตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่การบำรุงหลังคลอดก็เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจไม่แพ้กัน เพราะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่คุณแม่จะต้องหาทางบำรุงและฟื้นฟูตัวเอง เพื่อให้พร้อมสำหรับการดูแลลูกได้อย่างเต็มที่ และการรับประทานอาหารก็เป็นวิธีการบำรุงร่างกายที่ประสิทธิภาพมากที่สุด วันนี้ Hello คุณหมอ จะมาแนะนำ อาหารสุขภาพสำหรับคุณแม่หลังคลอด ที่ควรเลือกรับประทาน เพื่อช่วยบำรุงร่างกายจากภายใน ให้คุณแม่พร้อมสำหรับการดูแลลูกน้อยในแต่ละวัน รวมสุดยอด อาหารสุขภาพสำหรับคุณแม่หลังคลอด แซลมอน แซลมอนนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ ที่เหมาะสำหรับคุณแม่หลังคลอด เนื่องจากในปลาแซลมอนนั้นจะเป็นแหล่งชั้นยอดของกรดไขมันดีเอชเอ (DHA) ที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาและเจริญเติบโตของระบบประสาทในเด็กทารก หากคุณแม่หลังคลอดรับประทานปลาแซลมอน ก็จะทำให้ในน้ำนมแม่นั้นมีสาร DHA (Docosahexaenoic Acid) อยู่มากด้วยเช่นกัน นอกจากนี้กรดไขมัน DHA นั้นยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการปรับสมดุลของอารมณ์ ทำให้อาจสามารถช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้าหลังคลอดสำหรับคุณแม่ได้ อย่างไรก็ตาม องค์การอาหารและยา (FDA) แนะนำว่า ผู้หญิงตั้งครรภ์และผู้หญิงที่ให้นมลูก ควรรับประทานปลาแซลมอนไม่เกิน 12 ออนซ์ หรือประมาณ 3 กิโลต่อหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากในปลาแซลมอนนั้นอาจจะมีการปนเปื้อนของสารตะกั่ว ที่อาจเป็นอันตรายต่อทารกได้ ซุปไก่ บ้านที่เป็นคนจีนหลายๆ คนอาจจะนิยมต้มซุปมาให้คุณแม่ที่เพิ่งคลอดใหม่ๆ รับประทาน โดยเฉพาะซุปไก่ เนื่องจากในช่วงสัปดาห์แรกๆ หลังจากคลอด ฮอร์โมนภายในร่างกายของคุณแม่จะเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง และมีเหงื่อออกมาก ทำให้เสี่ยงต่อการขาดน้ำได้ ซุปไก่นั้นนอกจากจะให้น้ำเยอะแล้ว ยังมีรสเค็ม ช่วยเติมเต็มแร่ธาตุที่ร่างกายสูญเสียไปพร้อมกับเหงื่อได้ อีกทั้งยังมีโปรตีนสูง และกินง่าย เหมาะสำหรับคุณแม่ที่อาจจะรู้สึกเบื่ออาหาร และเหนื่อยล้าจากการดูแลลูก เป็นอาหารที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูกำลังของคุณแม่หลังคลอดได้อย่างดี ไข่ อาหารเมนูไข่นั้นนอกจากจะหาง่าย ทำอาหารอร่อย […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

สมุนไพรคลายเครียด ลดความกังวล ป้องกันซึมเศร้า ด้วยวิธีทางธรรมชาติ

ความเครียดนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร ไม่ว่าใครต่างก็สามารถมีความเครียดได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นความเครียดในเรื่องเรียน เรื่องงาน หรือเรื่องความสัมพันธ์ แต่รู้หรือไม่คะ ว่ามีตัวช่วยดี ๆ ในการช่วยลดความเครียดจากธรรมชาติ อย่าง สมุนไพรคลายเครียด ที่จะมาช่วยบรรเทาความกังวล และยังอาจช่วยป้องกันโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย สมุนไพรเหล่านี้มีอะไรบ้าง ไปดูกัน สมุนไพรคลายเครียด ตัวช่วยดี ๆ จากธรรมชาติ ขิง (Ginger) ขิงเป็นพืชสมุนไพรที่เรานิยมนำมาประกอบอาหาร เนื่องจากมีรสเผ็ดร้อน และมีกลิ่นที่หอม แต่ขิงก็มีการนำมาใช้ในยาแผนโบราณ เพื่อใช้สำหรับการบรรเทาความเครียด และช่วยลดความวิตกกังวลได้ด้วยเช่นกัน ในขิงนั้นจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า จินเจอรอล (Gingerol) ที่ช่วยในการต่อต้านสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ที่ร่างกายของเหล่าหลั่งออกมาเมื่อรู้สึกเครียด อีกทั้งยังมีฤทธิ์ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ นอกจากนี้ กลิ่นหอมของขิงยังทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และช่วยบรรเทาความเครียดได้อีกด้วย โสมอินเดีย (Ashwagandha) โสมอินเดียนั้นมีสรรพคุณช่วยลดความเครียดได้ เนื่องจากมีสารปรับสมดุล (Adaptogen) ที่ส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของร่างกายและฮอร์โมนภายในร่างกาย ช่วยปรับสมดุลการตอบสนองต่อความเครียดของร่างกายให้กลับมาเป็นปกติ งานวิจัยที่ทำการทดลองประสิทธิภาพของการใช้โสมอินเดีย เพื่อลดความเครียดและความวิตกกังวล พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ได้รับสารสกัดจากโสมอินเดีย ในปริมาณ 600 มก. ต่อวัน เป็นเวลา 8 สัปดาห์ มีระดับฮอร์โมนความเครียดคอร์ติซอล (Cortisol) น้อยกว่ากลุ่มตัวอย่างที่ใช้ยาหลอก หรือกลุ่มที่ใช้สารสกัดจากโสมอินเดียวันละ 250 มก. […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

สุดยอด วิตามินและอาหารเสริม สำหรับไมเกรน

อาการปวดหัวไมเกรน เป็นอาการที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต บางครั้งการใช้ยาเพื่อรักษาอาการไมเกรน อาจมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ดังนั้นการใช้วิธีทางธรรมชาติเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีความน่าสนใจทีเดียว วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลของ วิตามินและอาหารเสริม สำหรับไมเกรน มาให้อ่านกันค่ะ ไมเกรน คืออะไร ไมเกรน (Migraine) เป็นภาวะทางระบบประสาทที่ทำให้เกิดอาการหลาย ๆ อย่างรวมกัน ทั้งอาการปวดหัวรุนแรง มีอาการอ่อนเพลีย สำหรับบางคนอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน รู้สึกมีอาการชา มีความไวต่อแสงและเสียง ไมเกรนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงอายุตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ แต่ผู้หญิงนั้นมีแนวโน้มที่จะมีอาการปวดหัวไมเกรนมากกว่าผู้ชาย วิตามินและอาหารเสริม สำหรับไมเกรน อาการปวดหัวไมเกรนในแต่ละคนจะมีสาเหตุและอาการปวดที่แตกต่างกันออกไป ยา วิตามิน หรืออาหารเสริมแต่ละชนิดก็จะส่งผลที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน ดังนั้นไม่มีวิตามินและอาหารเสริมชนิดไหนที่สามารถบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้เหมือนกันในทุกคน แต่วิตามินและอาหารเสริมเหล่านี้ก็ยังเป็นวิตามินและอาหารเสริมที่ดีต่ออาการไมเกรน วิตามินบี 2 งานวิจัยยังไม่สามารถระบุได้ว่าทำไมวิตามินบี 2 นั้นมีส่วนช่วยในการป้องกันไมเกรนได้อย่างไร แต่อาจเกี่ยวข้องกับวิธีการเผาผลาญพลังงานของเซลล์ เนื่องจากผู้ที่มีปัญหาไมเกรนอาจมีปัญหาในกระบวนการเผาผลาญนั้น ซึ่งเป็นปัญหาที่อาจเป็นสาเหตุของอาการปวดหัวได้ อ้างอิงจากงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารวิตามินและสารอาหาร สรุปว่าวิตามินบีมีผลทำให้ความถี่และระยะเวลาการเกิดของไมเกรนนั้นลดลง ซึ่งแหล่งอาหารตามธรรมชาติที่สามารถพบวิตามินบีได้ เช่น เนื้อ นม ไข่ ผักสีเขียว ถั่ว เพื่อป้องกันไมเกรนควรรับประทานวิตามินบี 2 ประมาณ 400 มิลิกรัมต่อวัน แมกนีเซียม ผู้ที่มีปัญหาไมเกรนนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะมีระดับแมกนีเซียมที่ต่ำ ซึ่งการได้รับแมกนีซียมที่เพียงพอต่อร่างกายนั้นมีส่วนช่วยในการป้องกันไมเกรนได้ในบางคน จากการวิจัยพบว่าการฉีดแมกนีเซียมทางหลอดเลือดดำสามารถช่วยลดการกำเริบของอาการปวดหัวไมเกรนได้ นอกเหนือจากนี้ การบริโภคแมกนีเซียมยังสามารถช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการไมเกรนได้ด้วย ซึ่งอาหารที่สามารถพบแมกนีเซียมได้ […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

อาหารเสี่ยงความดันสูง แบบไหนบ้างที่ควรเลี่ยง

หนึ่งในปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความเสี่ยงของ ภาวะความดันโลหิตสูง ก็คือ โซเดียม แต่อาหารในชีวิตประจำวันของเรา ก็มักจะหนีไม่พ้นส่วนประกอบของเกลือและโซเดียม วันนี้ Hello คุณหมอ ได้รวบรวมเอา อาหารเสี่ยงความดันสูง มาฝากค่ะ มาดูกันว่าเรากำลังรับประทานอาหารบางประเภทบ่อยไปหรือเปล่า และกินมากไปจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพไหม อาหารเสี่ยงความดันสูง มีอะไรบ้าง อาหารที่มีโซเดียม การรับประทานอาหารที่มีปริมาณของโซเดียมสูงและสะสมมากจนเกินไป จะนำไปสู่ความเสี่ยงของ ภาวะความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ดังนั้น หากเป็นไปได้ ควรรับประทานอาหารที่มีเกลือและโซเดียมในปริมาณที่พอเหมาะต่อวัน เพื่อไม่ให้สะสมจนเกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ เนื้อสัตว์แปรรูป เนื้อสัตว์แปรรูปนั้น เป็นอีกหนึ่งอาหารที่อุดมไปด้วยโซเดียม เพราะต้องใช้เกลือในการเก็บรักษา ดังนั้น การรับประทานเนื้อจำพวก เบคอน แฮม หรือเนื้อวัวรมควัน ก็เสี่ยงที่จะได้รับปริมาณโซเดียมที่เกินพิกัดด้วย เครื่องดื่มแอลกอฮฮล์ การดื่มแอลกอฮอล์ มีส่วนช่วยเพิ่มความดันโลหิตในร่างกายให้สูงขึ้นได้ รวมถึงแอลกอฮอล์ยังส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง และมีส่วนในการเพิ่มระดับคอร์ติซอล (Cortisol) ทำลายความสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันและหลอดเลือดอีกด้วย อาหารที่มีน้ำตาล เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า น้ำตาล แฝงภัยร้ายต่อสุขภาพมาในรูปแบบของความหวาน ทั้งยังเสี่ยงที่จะเพิ่มน้ำหนักตัว เสี่ยงเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และแน่นอนว่าหนึ่งในผลเสียของการรับประทานความหวานเป็นประจำก็คือ เสี่ยงที่จะทำให้เกิด ภาวะความดันโลหิตสูง มีผลการศึกษาจากหลายสถาบัน พบว่า การลดปริมาณความหวานในอาหารให้น้อยลง ทำให้ระดับความดันโลหิตลดลงมาด้วย  อาหารกระป๋อง อาหารกระป๋องอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยถนอมอาหารให้สามารถเก็บไว้รับประทานได้ยาวนานขึ้นกว่าปกติ แต่…ไม่ควรที่จะรับประทานอาหารกระป๋องเป็นประจำ เนื่องจากในอาหารกระป๋องทั้งหลาย มีปริมาณของโซเดียมที่ค่อนข้างสูง หากรับประทานบ่อยๆ ก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิด ภาวะความดันโลหิตสูง ได้ อาหารแช่แข็ง อีกหนึ่งความสะดวกที่มาพร้อมความอร่อยนั่นก็คืออาหารแช่แข็ง […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

เคล็ดลับ ทำป๊อปคอร์นกินเอง ให้เฮลตี้กว่าที่เคย

หากพูดถึงขนมหรือของว่างยามดูหนัง หลายคนก็น่าจะนึกถึงป๊อปคอร์น บางคนชอบป๊อปคอร์นมากจนกินคนเดียวหมดเป็นถัง แถมบางคนยอมบึ่งไปหน้าโรงหนังเพื่อซื้อแต่ป๊อปคอร์นอย่างเดียวก็มี แต่ป๊อปคอร์นที่ทำขายกันส่วนใหญ่ ก็อาจจะใส่สารปรุงแต่งต่าง ๆ ที่สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพได้หากกินมากเกินไป หรือบางครั้งอาจมีราคาแพงจนกระทบกับเงินในกระเป๋าได้ วันนี้ Hello คุณหมอ เลยอยากชวนคุณมา ทำป๊อปคอร์นกินเอง ให้เฮลตี้กว่าที่เคย ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ เหล่านี้ รับรองว่าไม่ใช่แค่ดีต่อสุขภาพมากกว่า แต่ยังประหยัดเงินอีกด้วย เคล็ดลับในการ ทำป๊อปคอร์นกินเอง แบบเฮลตี้ อย่าใส่เนย หรือใส่เนยให้น้อยที่สุด สำหรับใครที่เคยทำป๊อปคอร์นกินเองแล้วชอบใส่เนยเยอะ ๆ เพราะรู้สึกว่ายิ่งใส่เนย ป๊อปคอร์นก็ยิ่งหอมหวนชวนกิน เราแนะนำให้เปลี่ยนพฤติกรรมโดยด่วน หากยังไม่คุ้นเคยกับป๊อปคอร์นไม่ใส่เนย ก็ลองเริ่มจากการลดปริมาณเนยที่ใช้ลงให้เหลือแค่ 2-3 ช้อนชาก็พอ จากนั้นจึงค่อย ๆ ใส่เนยในป๊อปคอร์นให้น้อยลงเรื่อย ๆ จนสามารถกินป๊อปคอร์นไม่ใส่เนยได้อร่อยขึ้น ทำป๊อปคอร์นกินเอง ในปริมาณที่เหมาะสม โดยปกติแล้ว ป๊อปคอร์นที่ไม่มีการปรุงแต่ง หรือป๊อปคอร์นรสธรรมชาติ 1 ถ้วย จะให้พลังงานประมาณ 30 กิโลแคลอรี่ แต่คนส่วนใหญ่เวลาทำป๊อปคอร์นกินเองก็มักจะทำในปริมาณเยอะ ๆ หรือบางคนก็เติมท็อปปิ้งต่าง ๆ เข้าไปอีก แล้วลองคิดดูสิว่า การกินป๊อปคอร์นแต่ละครั้งของคุณ จะได้รับพลังงานมากแค่ไหน ฉะนั้น หากอยากทำป๊อปคอร์นกินเองแบบสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียสุขภาพ […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

อาหารที่ไม่เป็นมิตรต่อระบบภูมิคุ้มกัน ที่รู้แล้วก็ไม่ควรกินบ่อยๆ

ระบบภูมิคุ้มกัน เป็นระบบในร่างกายซึ่งทำหน้าที่ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายให้มีความแข็งแรง ไม่ให้ถูกทำลายเมื่อมีเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามา และถ้าระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงก็สามารถสังเกตได้ว่าจะไม่ค่อยมีอาการเจ็บป่วยบ่อยๆ แต่…ไม่ใช่ว่า ทุกคนที่จะมีระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงไปตลอด เพราะบางครั้งเราอาจจะกำลังทำร้ายระบบภูมิคุ้มกันแบบไม่รู้ตัว โดยเฉพาะปัจจัยเสี่ยงที่มาจากการรับประทานอาหาร วันนี้ Hello คุณหมอ มีรายการ อาหารที่ไม่เป็นมิตรต่อระบบภูมิคุ้มกัน มาฝากค่ะ มาดูกันว่าถ้าอยากมีสุขภาพดีควรจะต้อง งด ลด และเลี่ยงอาหารแบบไหนบ้าง อาหารที่ไม่เป็นมิตรต่อระบบภูมิคุ้มกัน มีอะไรบ้าง 1. อาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาล ใครเลยจะอดใจจากความหวานฉ่ำได้ ถูกไหมคะ? แน่นอนว่าค่อนข้างที่จะยากมากๆ สำหรับหลายๆ คน หากจะต้องเลิกรับประทานหวาน แต่อาหารที่มีรสหวานย่อมมีส่วนผสมของน้ำตาล ซึ่งการรับประทานน้ำตาลในปริมาณมากๆ หรือติดต่อกันเป็นประจำ เสี่ยงที่จะทำให้ ระบบภูมิคุ้มกัน เริ่มอ่อนแอลง จนกระทั่งเกิดโรคร้ายตามมา ไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคตับ โรคมะเร็ง เป็นต้น 2. อาหารที่มีไขมันอิ่มตัว ไขมันอิ่มตัว (Saturated fats) คือ ไขมันที่ส่วนใหญ่จะได้จากเนื้อสัตว์ มักอยู่ในอาหารจำพวก พิซซ่า ชีส พาสต้า เป็นต้น การรับประทานอาหารที่มีปริมาณของไขมันอิ่มตัวในระดับที่มากเกินความต้องการของร่างกาย เสี่ยงที่จะมีผลข้างเคียงกับ ระบบภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจด้วย 3. อาหารที่มีไขมันทรานส์ ไขมันทรานส์ (Trans fat) […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

แดดร้อนเบอร์นี้อย่าพลาด! 6 อาหารที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด กินแล้วดีต่อผิว

เมืองไทยเป็นเมืองร้อน มีแดดแรง อากาศร้อนตลอดทั้งปี ยิ่งถ้าอยู่ในช่วงหน้าร้อนก็ยิ่งร้อนจัด อยู่กลางแจ้งทีก็โดนแสงแดดแผดเผาจนผิวไหม้ไปหมด ครีมกันแดด หมวก เสื้อคลุมแขนยาว จึงกลายเป็นไอเท็มกันแดดประจำตัวที่คนไทยส่วนใหญ่ขาดไม่ได้ แต่นอกไอเท็มดังกล่าวแล้ว คุณรู้ไหมว่า อาหารก็ช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดดได้เหมือนกันนะ วันนี้ Hello คุณหมอ มี 6 อาหารที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ได้มานำเสนอ กินแล้วไม่ใช่แค่ดีต่อผิว แต่ยังช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวมด้วย 6 อาหารที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด 1. แตงโม เมื่อนึกถึงผลไม้หน้าร้อน หลายคนจะต้องนึกถึงผลไม้เนื้อแดงฉ่ำอย่างแตงโมแน่นอน แตงโมนั้น นอกจากจะดับกระหาย คลายร้อนได้แล้ว ยังเป็นอาหารที่ช่วยป้องกันแดดได้อย่างดีเยี่ยม เพราะแตงโม มีไลโคปีน (Lycopene) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในผักผลไม้สีแดงในปริมาณสูงมาก ไลโคปีนสามารถช่วยดูดซึมรังสียูวีเอและยูวีบี ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวถูกทำลายได้ งานศึกษาวิจัยในปี 2012 ชิ้นหนึ่งพบว่า เมื่อกลุ่มตัวอย่างกินแตงโมเป็นประจำทุกวันติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์ ร่างกายจะได้รับไลโคปีนซึ่งทำหน้าที่เสมือนเกราะป้องกันแสงแดดตามธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อย ๆ 2. อัลมอนด์ อัลมอนด์เป็นแหล่งวิตามินอีชั้นยอด ซึ่งวิตามินอีจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด และช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกแสงแดดทำลาย นอกจากนี้ อัลมอนด์ยังมีไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrient) หรือสารพฤกษเคมีที่ชื่อว่า เควอซิทิน (Quercetin) ซึ่งช่วยปกป้องผิวไม่ให้ถูกแสงแดดทำลายและช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยเนื่องจากการสูญเสียคอลลาเจนในผิว โดยงานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่มีกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ที่ผิวสัมผัสกับแสงแดดพบว่า กลุ่มตัวอย่างกลุ่มที่กินวิตามินอีในปริมาณเทียบเท่ากับวิตามินอีที่พบในอัลมอนด์ 20 เม็ด มีปัญหาผิวไหม้แดดน้อยกว่ากลุ่มตัวอย่างที่ไม่ได้กินวิตามินอี […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ประโยชน์ของทุเรียนเทศ ต่อสุขภาพที่เห็นแล้วต้องร้อง ว้าว!

ทุเรียนเทศ เป็นผลไม้ที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่คุ้นชื่อ แต่ทุเรียนเทศเป็นพืชที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยใยอาหารและวิตามินซีอีกด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ มี ประโยชน์ของทุเรียนเทศ ต่อสุขภาพมาฝากกันค่ะ รู้จักกับ “ทุเรียนเทศ” พืชที่นิยมปลูกในภาคใต้ ทุเรียนเทศ (Soursop) มีชื่อท้องถิ่นในทุก ๆ ภาคของประเทศ ในภาคเหนือเรียกทุเรียนเทศว่า มะทุเรียน ภาคอีสานเรียกว่า ทุเรียนแขก ภาคกลางเรียกว่า ทุเรียนน้ำ แต่ปลูกมากในภาคใต้ รวมถึงมาเลเซียและสิงค์โปร์ มีเนื้อสีขาว มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ทุเรียนเทศเป็นพืชที่จัดอยู่ในตระกูลเดียวกันกับน้อยหน่า กระดังงา หรือจำปา ทุเรียนเทศเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนชื้นของทวีปอเมริกา ให้แคลอรี่ต่ำ แต่มีสารอาหารอื่น ๆ มากมาย เช่น ไฟเบอร์ วิตามินซี และคาร์โบไฮเดรตสูง โดยเฉพาะน้ำตาลฟรุกโตส (Fructose) นอกจากนี้ส่วนอื่น ๆ ของทุเรียนเทศ เช่น ใบ ผล และเมล็ดสามารถนำมาใช้เป็นเป็นยาได้ ประโยชน์ของทุเรียนเทศ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ทุเรียนเทศเป็นพืชที่มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูง ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระนั้นเป็นสารประกอบที่ช่วยในการต่อต้านสารที่ทำลายเซลล์ จากงานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าสารต้านอนุมูลอิสระมีบทบาทในการลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ รวมถึงโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังมีการศึกษาหนึ่งที่ได้ศึกษาคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระในทุเรียนเทศ แสดงให้เห็นว่าทุเรียนเทศมีส่วนช่วยในการป้องกันความเสียหายต่อเซลล์ มีส่วนในการฆ่าเซลล์มะเร็ง จากการศึกษาบางชิ้นพบว่า ทุเรียนเทศมีส่วนช่วยในการกำจัดเซลล์มะเร็ง […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน