โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

โรคอ้วน และโรคเบาหวาน สัมพันธ์กันอย่างไร?

ของอร่อย ใครๆ ก็ชอบ สำหรับบางคน แค่ได้กินของอร่อยๆ ก็ทำให้มีความสุขไปได้ทั้งวัน ยิ่งเป็นเมืองไทย ของอร่อยมีอยู่ได้ทุกที อยากเลือกทานอาหารสัญชาติไหน จะคาว หวาน หรือเครื่องดื่ม มีให้เลือกเต็มไปหมด อย่างไรก็ตาม แม้ของกินเหล่านั้นจะรสชาติดีถูกปากมากแค่ไหน การกินในปริมาณที่เกินพอดี ก็ไม่ส่งผลดีต่อร่างกายในระยะยาวแต่อย่างใด พฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสมบวกกับพฤติกรรมเนือยนิ่ง อาจนำไปสู่การเกิดภาวะน้ำหนักเกิน และอาจกลายมาเป็นโรคอ้วนในที่สุด โดยโรคอ้วนอาจนำไปสู่โรค NCDs หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอื่นๆ หนึ่งในนั้นคือโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต รู้จัก “โรคเบาหวาน” โรคเบาหวาน คือภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าที่ควรจะเป็น โดยแบ่งเป็น 2 ชนิด ดังนี้ เบาหวานชนิดที่1 เกิดจากการขาดอินซูลิน เบาหวานชนิดที่2 เกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลิน จะเห็นได้ว่า ตัวแปรสำคัญของกระบวนการนี้ คือ “อินซูลิน” ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เปรียบเสมือนกุญแจในการนำน้ำตาลในกระแสเลือดเข้าสู่เซลล์ต่างๆ ของร่างกาย หากร่างกายขาดอินซูลินก็จะส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงตามไปด้วย  โดยสำหรับประเทศไทย หากตรวจพบเกิน 2 ครั้งว่าเกณฑ์ตัวเลขระดับน้ำตาลอยู่ที่ 126 มก./ดล.1 ระดับ HbA1c (ค่าระดับน้ำตาลสะสมในเลือดโดยเฉลี่ย) มากกว่าหรือเท่ากับ 6.5% และผลตรวจความทนทานต่อน้ำตาลกลูโคส (Oral Glucose […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ข้อมูลโภชนาการ

เมล่อน ผลไม้หวานฉ่ำ อร่อยล้ำ คุณประโยชน์มากมาย

เมล่อน นับว่าเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยกลิ่นที่หอมหวาน และรสชาติที่หวานฉ่ำน้ำ ไม่แปลกใจเลยใช่ไหมล่ะว่า ทำไม เมลอน จึงเป็นผลไม้ที่หลายคนนิยมบริโภคกันมากจนถึงปัจจุบันนี้ นอกจากรสชาติที่อร่อยถูกปากแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนไปรู้จักกับผลไม้ชนิดนี้ให้มากขึ้นกัน ทำความรู้จัก เมล่อน (Muskmelon) ผลไม้รสหวานฉ่ำประจำฤดูร้อน เมล่อน หรือ เมลอน (Muskmelon) เป็นพืชในตระกูล Cucurbitaceae มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปแอฟริกา มีหลักฐานบันทึกว่าชาวอียิปต์เคยปลูกแตง (คือ เมลอน/แคนตาลูปในปัจจุบัน) เมื่อ 500 ปีที่แล้ว โดยพระเจ้าชาร์ลส ที่ 8 พระมหากษัตริย์ประเทศฝรั่งเศส (Charles VIII l’Affable) นำแตงมายังฝรั่งเศสและประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป  และตั้งชื่อผลไม้ชนิดนี้ว่า “แคนตาลูป (Cantaloupe)” โดยชื่อนี้นั้นมีที่มาจากเมืองหนึ่งในประเทศอิตาลี ที่มีชื่อว่า “แคนตาลูโป้ (Cantalupo)” ข้อมูลโภชนาการ เมล่อน เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยเบตาแคโรทีน วิตามินเอ โดยข้อมูลโภชนาการของเมล่อน 1 ถ้วย ปริมาณ 177 กรัม มีดังนี้ พลังงาน […]


ข้อมูลโภชนาการ

มันสำปะหลัง พืชไร่เศรษฐกิจ โภชนาการสูงดีต่อร่างกาย

รู้หรือไม่คะว่า มันสำปะหลัง นอกจากจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนไปรู้จักกับมันสำปะหลัง ให้มากขึ้นกันค่ะ  ทำความรู้จักมันสำปะหลัง (Cassava) มันสำปะหลัง (Cassava) เป็นพืชไร่ที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและให้พลังงานสูง  อีกทั้งยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อเกษตรกรในประเทศไทย มีถิ่นกำเนิดอยู่แถบลุ่มเขตร้อนของทวีปอเมริกาใต้ คนส่วนใหญ่นิยมกินส่วนของรากมันสำปะหลัง (หัวมันสำปะหลัง) ซึ่งสามารถนำมาแปรรูปได้หลายรูปแบบ  เช่น ขนมปังที่ปราศจากสารกลูเตน (Gluten) โดยทำจากแป้งมันสำปะหลัง  ที่สำคัญคือ หากใครนำมันสำปะหลังมารับประทานต้องนำมาปรุงให้สุกก่อนรับประทาน หากรับประทานแบบดิบอาจทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ ข้อมูลโภชนาการของมันสำปะหลัง ข้อมูลโภชนาการมันสำปะหลังดิบ 1 ถ้วย มีดังต่อไปนี้ พลังงาน 330 แคลอรี่ โปรตีน 2.8 กรัม คาร์โบไฮเดรต 78.4 กรัม ใย 3.7 กรัม แคลเซียม 33.0 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 558.0 มิลลิกรัม วิตามินซี 42.4 มิลลิกรัม ข้อมูลโภชนาการมันสำปะหลังต้ม 100 กรัม มีดังต่อไปนี้ พลังงาน 112 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 27 กรัม ไฟเบอร์ 1 กรัม ไทอามีน 20% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน ฟอสฟอรัส 5 % ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน แคลเซียม […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

อาหารที่มีวิตามินเอ เลือกกินอย่างไรเพื่อให้ร่างกายได้ประโยชน์

อาหารที่มีวิตามินเอ จำเป็นต่อร่างกาย เพราะวิตามินเอช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงผิวพรรณ ดีต่อเยื่อบุในลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ มีส่วนช่วยในการมองเห็น และสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์  และเนื่องจากร่างกายไม่สามารถที่จะสร้างวิตามินเอขึ้นมาเองได้ จึงจำเป็นจะต้องได้รับวิตามินเอผ่านการรับประทานอาหารในทุก ๆ วัน  [embed-health-tool-bmi] อาหารที่มีวิตามินเอ ได้แก่อะไรบ้าง วิตามินเอมีอยู่ในอาหารหลากหลายประเภท ทั้งในพืช ผัก ผลไม้ รวมทั้งเนื้อสัตว์ ในแต่ละวันร่างกายควรได้รับวิตามินเอในปริมาณที่เหมาะสม โดยอาหารที่มีวิตามินเอสูงนั้นได้แก่อาหารต่อไปนี้ มันเทศ มันเทศ มีรสหวาน อร่อย และอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ทั้งไฟเบอร์ ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม วิตามินซี และอัดแน่นไปด้วยวิตามินเอซึ่งจำเป็นต่อร่างกาย โดยมันเทศขนาดกลางหนึ่งหัว จะให้ วิตามินเอ ต่อร่างกาย 900 ไมโครกรัม  ผักโขมลวกหรือต้ม การรับประทานผักใบเขียว นับว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะในผักนั้นเต็มไปด้วยทั้งแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย ในผักโขมก็เช่นเดียวกัน มีทั้งแคลเซียม แมกนีเซียม อุดมไปด้วยวิตามินเค และวิตามินเอ แต่ให้พลังงานแคลอรี่ต่ำ โดยการรับประทาน ผักโขมต้มสุก 1 ถ้วย จะได้รับปริมาณของ วิตามินเอ ประมาณ 943 ไมโครกรัม ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการตลอดทั้งวัน ฟักทองบัตเตอร์นัท (Butternut Squash) หรือ ฟักทองน้ำเต้า ผักในตระกูล Squash […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ดินเบนโทไนท์ กับประโยชน์ที่มีค่ามากกว่าเป็นแค่ดิน

โดยปกติแล้ว ในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวและเครื่องสำอางมักจะมี ดินเบนโทไนท์ เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าดินเบนโทไนท์นั้นมีประโยชน์อย่างไรบ้าง และมันสามารถช่วยอะไรในด้านของร่างกายและด้านความสวยความงามได้บ้าง ดังนั้น ทาง Hello คุณหมอ จึงได้นำเรื่องนี้มานำเสนอให้ได้ติดตามกัน ทำความรู้จักกับ ดินเบนโทไนท์ (Bentonite Clay) ดินเบนโทไนท์ (Bentonite Clay) เป็นดินธรรมชาติ ที่มีเนื้อละเอียด ดินนี้บางครั้งถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์หรือเครื่องสำอาง โดยใช้ผสมกับน้ำ แล้วนำมาทา เพื่อรักษาผื่นและสิว เป็นต้น บางคนมักจะใช้ดินเบนโทไนท์ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกบนผิวหนัง เช่น ล้างสารพิษตางๆ ออกจากร่างกาย ดินเบนโทไนท์มีอยู่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายชนิด นอกจากนั้นยังมักพบใน แชมพูสระผม โลชั่น มาสก์หน้า ยาสีฟัน และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีบางคนที่นำมันมาเติมลงในอาหารหรือเครื่องดื่ม จุดประสงค์ก็เพื่อบรรเทาปัญหาทางเดินอาหาร รักษาแก๊สในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการท้องเสีย หรือกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย จากการศึกษาจำนวนมาก พบว่า แม้ดินเบนโทไนท์จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิว แต่การวิจัยส่วนใหญ่มักจะใช้เพียงเซลล์หรือสัตว์ในการวิจัยเท่านั้น ดังนั้น ยังจำเป็นที่จะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อหาประโยชน์ที่แท้จริง รวมถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในมนุษย์อีกด้วย ประโยชน์ของ ดินเบนโทไนท์ (Bentonite Clay) ที่คุณอาจไม่เคยรู้ ดินเบนโทไนท์มีความสามารถในการดูดซับ มันจะสามารถดึงดูดอนุภาพ เช่น […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

จบทุกปัญหา อาการนอนไม่หลับ ได้ง่ายๆ ด้วย ชาคาโมมายล์

หลายๆ คนเวลาที่นอนไม่หลับ อาจจะได้ยินคำแนะนำให้รับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของดอกคาโมมายล์ เพื่อช่วยในการนอนหลับ แต่หากคุณรู้ไม่ชอบ และไม่สบายใจในการรับประทานอาหารเสริม อาจลองมองหาทางเลือกอื่นที่ช่วยในการนอนหลับอย่าง ชาคาโมมายล์ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มจากธรรมชาติ ที่นอกจากจะช่วยในเรื่องของการนอนหลับแล้ว ยังให้ประโยชน์ดีๆ ต่อสุขภาพอีกมากมาย ชาคาโมมายล์ คืออะไร ชาคาโมมายล์ (Chamomile tea) เป็นเครื่องดื่มที่ทำขึ้นมาจากการชงดอกคาโมมายล์ตากแห้งในน้ำร้อน ดอกคาโมมายล์ (Chamomile) นั้นอยู่ในตระกูลเดียวกันกับดอกเดซี่ มีลักษณะกลีบดอกเป็นกลีบเล็กๆ สีขาว รอบเกสรสีเหลืองสดตรงกลาง ชาคาโมมายล์นี้ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในการดื่มเพื่อใช้เป็นสมุนไพรช่วยบำรุงสุขภาพ โดยเฉพาะการดื่มก่อนนอนเพื่อช่วยในการนอนหลับ หลายคนเลือกที่จะดื่มชาคาโมมายล์แทนการดื่มชาเขียวหรือชาดำที่มีคาเฟอีน ฤทธิ์ของชาคาโมมายล์นั้นอาจจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของคาโมมายล์ ชาที่มีความเข้มข้นมากกว่า แม้ว่าจะออกฤทธิ์ได้ดีกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงมากกว่าเช่นกัน ดังนั้นสำหรับผู้ที่ไม่เคยดื่มชาคาโมมายล์มาก่อน ควรลองเริ่มดื่มจากชาที่มีความเข้มข้นน้อยๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มความเข้นข้นขึ้นไปเรื่อยๆ ประโยชน์ต่อสุขภาพที่ได้จากชาคาโมมายล์ ชาคาโมมายล์นั้นได้มีการนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรพื้นบ้าน เพื่อใช้รักษาโรคต่างๆ และช่วยในเรื่องของการนอนหลับมาตั้งแต่สมัยก่อน ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าขึ้น ทำให้มีการวิจัยและรับรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการใช้ชาคาโมมายล์มากยิ่งขึ้น ช่วยในการนอนหลับ คาโมมายล์นั้นเป็นสมุนไพรที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องของการนอนหลับ เรื่องจากคาโมมายนั้นจะมีสารอะพิจีนีน (Apigenin) สารต้านอนุมูลอิสระที่เมื่อผูกกับหน่วยรับความรู้สึกบางตัวในสมอง อาจทำให้รู้สึกง่วง และสามารถช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับ หรือปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับอื่นๆ ได้ ในงานวิจัยหนึ่ง ผู้หญิงหลังคลอดบุตรที่ดื่มชาคาโมมายล์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ พบว่าสามารถนอนหลับได้ดีกว่ากลุ่มผู้ที่ไม่ได้ดื่มชาคาโมมายล์ ทั้งยังมีอาการซึมเศร้าน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่อีกงานวิจัยหนึ่งก็พบว่า ผู้ที่รับประทานสารสกัดคาโมมายล์วันละ 270 มก. เป็นเวลา 28 […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

แอสปาแตม น้ำตาลเทียม ที่มาพร้อมความเสี่ยงสุขภาพ

แอสปาแตม เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารและเครื่องดื่ม โดยทำมาจากกรดแอสปาร์ติก (Aspartic Acid) และฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนตามธรรมชาติผสมกับเมทิลเอสเทอร์ (Methyl Ester) โดยกรดแอสปาร์ติกนั้นเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสามารถผลิตเองได้ ส่วนฟีนิลอะลานีนเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น เมื่อแอสปาแตมเข้าสู่ร่างกายอาจย่อยสลายเป็นเมทานอล (Methanol) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเผยว่า หากร่างกายได้รับเมทานอลในปริมาณมากเกินไปก็อาจเป็นพิษได้ แอสปาแตม คืออะไร แอสปาแตม (Aspartame) เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารและเครื่องดื่ม อาจพบได้บ่อยที่สุดในท้องตลาด โดยแอสปาแตมทำมาจากกรดแอสปาร์ติก (Aspartic Acid) และฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนตามธรรมชาติผสมกับเมทิลเอสเทอร์ (Methyl Ester) โดยกรดแอสปาร์ติกนั้นเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสามารถผลิตเองได้ ส่วนฟีนิลอะลานีนเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น แอสปาแตมเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะย่อยสลายเป็นเมทานอล (Methanol) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเผยว่า หากร่างกายได้รับเมทานอลในปริมาณมากเกินไปก็อาจเป็นพิษได้ เนื่องจากเมทานอลอาจเปลี่ยนเป็นสารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ การบริโภคแอสปาแตม มีผลข้างเคียงอะไรไหม จากข้อมูลของสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา (American Cancer Society) เผยว่า แอสปาแตมนั้นหวานกว่าน้ำตาลทรายประมาณ 200 เท่า ฉะนั้น ร่างกายจึงควรได้รับในปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยปริมาณที่แนะนำต่อวัน ได้แก่ องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (United States Food and Drug […]


ข้อมูลโภชนาการ

ลูกพลัม หวานอร่อย คอเลอสเตอรอลน้อย ดีต่อสุขภาพ

ลูกพลัม เป็นผลไม้ตระกูลเดียวกับ ลูกพรุน ลูกพีช หรืออัลมอนด์ เป็นผลไม้ที่มีขนาดเล็ก พบได้ทั่วไปในประเทศจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และประเทศในแถบยุโรป เมื่อผลสุกจะมีรสชาติหวาน อร่อย และยังอุดมไปด้วยประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกท่านมารู้จักกับ พลัม ให้มากขึ้นค่ะ สารอาหารใน ลูกพลัม พลัม หรือลูกพลัม เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตและวิตามินสำคัญๆ มากมาย ดังนี้ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค วิตามินอี โฟเลต แร่ธาตุสำคัญใน พลัม ได้แก่ ฟลูออไรด์ โพแทสเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก สังกะสี แคลเซียม นอกจากนี้ พลัม ยังให้ทั้งคาร์โบไฮเดรตมากถึง 7.5 กรัม ให้ไขมันน้อย และยังมีโปรตีนอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่ให้สารอาหารค่อนข้างจะครบถ้วนเลยทีเดียว  ประโยชน์ของลูกพลัม ช่วยซ่อมแซมเซลล์ของร่างกาย พลัม มีวิตามินซีซึ่งมีสรรพคุณในการเสริมสร้างและกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และซ่อมแซมเซลล์ของร่างกายที่เสียหาย นอกจากนี้ในลูกพลัมยังมี สารไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrient) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ปัญหาของหลอดเลือดและระบบประสาท  ดีต่อสุขภาพหัวใจ สารพฤกษเคมี (Phytochemical) และสารอาหารในลูกพลัม มีสรรพคุณช่วยลดอาการอักเสบที่หัวใจ ซึ่งอาการอักเสบที่ว่านี้อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจได้ ดังนั้นการรับประทานลูกพลัมจึงถือว่ามีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ดีต่อระบบย่อยอาหาร ลูกพลัมเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง การรับประทานลูกพลัมเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มประสิบธิภาพการทำงานของกระบวนการย่อยอาหารและการขับถ่าย […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

น้ำมันข้าวโพด อีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพ

เรารู้จักกับน้ำมันที่มีการสกัดจากพืชกันมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันรำข้าว แต่ถ้าจะพูดถึงน้ำมันข้าวโพด หลายคนอาจจะงง และคิดไม่ถึงว่า ข้าวโพดจะนำมาสกัดทำเป็นน้ำมันได้ด้วยหรือ วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกท่านไปรู้จักกับคุณประโยชน์ดี ๆ ที่เราจะได้รับจาก น้ำมันข้าวโพด กัน น้ำมันข้าวโพด คืออะไร น้ำมันที่เรารู้จักกันในชื่อ "น้ำมันข้าวโพด (Corn Oil)" คือ น้ำมันที่ได้รับการสกัดจากเมล็ดของ ข้าวโพด มักใช้ในแวดวงอุตสาหกรรมและการผลิตเครื่องสำอาง และมีกระบวนการที่ค่อนข้างซับซ้อนกว่าที่จะสามารถกลั่นมาเป็นน้ำมันข้าวโพดได้ น้ำมันข้าวโพดก็เป็นน้ำมันจากพืชอีกชนิดหนึ่งที่อุดมไปทั้งกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ  สารอาหารในน้ำมันข้าวโพด ในน้ำมันข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ หรือประมาณ 15 มิลลิลิตร มีไขมันเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีโปรตีน และไม่มีคาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานต่อร่างกายมากถึง 122 แคลอรี กรดไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ประมาณ 14 กรัม และยังให้วิตามินอีที่มีประโยชน์อีกด้วย นอกจากสารอาหารข้างต้นแล้ว สารต้านอนุมูลอิสระก็เป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่มีอยู่ในน้ำมันข้าวโพด ซึ่งสารต้านอนมูลอิสระนี้มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจ รวมถึงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ข้อดีของ ผลไม้รสเปรี้ยว รสชาติจี๊ดจ๊าด สารอาหารเยอะจับใจ

แต่ละคนนั้นล้วนมีรสชาติที่ชอบแตกต่างกันไป บางคนก็ชอบรับประทานอาหารรสเผ็ด บางคนต้องการทานอาหารหวานชื่นใจ รวมทั้งอาหารที่มีรสชาติเปรี้ยวนี้ด้วย ที่จะช่วยให้คุณตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาเมื่อคุณรู้สึกง่วงนอนกระทันหัน แต่จะให้กินแต่ข้าว หรือเครื่องดื่มก็คงจะน่าเบื่อเกินไป วันนี้ Hello คุณหมอ ได้มีของว่างทานเล่นมาแนะนำอย่าง ผลไม้รสเปรี้ยว ที่มาควบคู่กับประโยชน์ และสารอาหาร แถมยังช่วยปรับปรุงสุขภาพภายในของเราได้ไม่แพ้อาหารชนิดอื่น มาฝากทุกคนกัน สารอาหารอะไรบ้าง ที่มักอยู่ใน ผลไม้รสเปรี้ยว แน่นอนว่าผลไม้ทุกชนิดย่อมมีสารอาหารที่หลากหลายปะปนรวมกัน แค่รับประทานไปเพียงชิ้นเดียว ร่างกายคุณก็สามารถรับสารที่มีประโยชน์เหล่านี้ได้ทันที วิตามินซี  วิตามินบี โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม วิตามินเอ ไฟเบอร์ แต่ผลไม้รสเปรี้ยวบางชนิดมีสารประกอบอย่างฟลาโวนอยด์ (flavonoids) เพกติน (pectin) โฟเลต (folate) และไรโบฟลาวิน (riboflavin) เข้ามาเพิ่มเติม หรือมีจำนวนมากกว่าผลไม้ชนิดอื่น พร้อมยังช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุที่นำไปสู่อาการเจ็บป่วยได้ 5 ผลไม้รสเปรี้ยว ที่ให้คุณประโยชน์ต่อสุขภาพ ผลไม้รสเปรี้ยว มักหารับประทานได้ในทุกช่วงฤดู และตลอดทั้งปี โดยผลไม้ที่นิยมกันมากที่สุด และพบเห็นกันบ่อยที่สุดมี ดังนี้ สตรอว์เบอร์รี่ ผลไม้สีแดง ขนาดเล็กกำลังพอดีคำนี้ มีปริมาณน้ำในตัวสูง รวมทั้งวิตามินA ,B6 ,C ,K และสารแอนโทไซยานิน (anthocyanin) ที่สามารถปรับปรุงสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง ซึ่งคุณรับประทานในรูปแบบสดได้โดยผ่านการชำระล้างให้สะอาด หรือนำไปทานคู่กับแพนเค้ก ไอศครีม และเครื่องดื่มได้ตามความต้องการ ส้ม ส้ม เป็นผลไม้ที่มีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ล้วนมีประโยชน์และรสชาติที่อมเปรี้ยวอมหวานคล้ายกัน และยังเป็นที่กล่าวขานกันว่าส้มคือแหล่งรวมวิตามินซีที่เยอะที่สุดเมื่อรับประทานเข้าไปร่างกายของคุณจะได้รับวิตามินซีถึง 117 % […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

โยโย่ เอฟเฟค ผลของการลดน้ำหนักผิดวิธี ที่ ส่งผลต่อสุขภาพหัวใจ

การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วเป็นรูปแบบการลดน้ำหนักที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีความรีบร้อนในการลดน้ำหนัก แต่การลดน้ำหนักด้วยวิธี การลดอย่างรวดเร็วนั้น ส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี ผลของงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าการที่น้ำหนักมีการเปลี่ยนแปลงผันผวนอย่างรวดเร็วยังส่งผลต่อความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และระดับคอเลสเตอรอลในเลือด วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ โยโย่ เอฟเฟค ส่งผลต่อสุขภาพหัวใจ มาฝากกันค่ะ โยโย่ เอฟเฟค ส่งผลต่อสุขภาพหัวใจ อย่างไรบ้าง โยโย่ เอฟเฟค (Yoyo effect) คือ ผลที่เกิดจากการลดน้ำหนัก เช่น การลดน้ำหนักแล้วก็กลับมาอ้วนอีก ลดอีกแล้วก็กลับมาอ้วนอีก ทำให้น้ำหนักเกิดการผันผวน ซึ่งการจะกลับมาลดน้ำหนักอีกครั้งนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะไขมันสะสมที่มีจำนวนมาก และมวลกล้ามเนื้อที่ลดลง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายเกิดความผิดปกติ ผลของโยโย่ เอฟเฟคนั้นไม่เพียงแต่ทำให้ลดน้ำหนักยาก แต่โยโย่ เอฟเฟคส่งผลต่อสุขภาพหัวใจ ได้อีกด้วย โยโย่ เอฟเฟค ส่งผลต่อการเกิด โรคหัวใจ จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Catholic ของประเทศเกาหลีใต้ ที่ใช้ข้อมูลจากคนจำนวน 6,748,773 ที่มาจากข้อมูลระบบประกันสุขภาพของชาติ โดยศึกษากลุ่มคนที่มีสุขภาพดี ไม่มีโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไม่มีคอเลสเตอรอลสูง และไม่เคยเป็นเป็น โรคหัวใจ มาก่อน จากปี 2005 ถึง […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน