โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* ทางเลือกเสริมความจำ มีงานวิจัยรองรับ

ยิ่งอายุมากก็ยิ่งหลงๆ ลืมๆ อาการแบบนี้มีสาเหตุ เพราะอายุที่เพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่ภาวะความจำถดถอย ซึ่งอาจเริ่มปรากฏในช่วงวัยผู้ใหญ่ และรุนแรงขึ้นตามอายุ1-4 ดังนั้น การใส่ใจดูแลสมองตั้งแต่วันนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ จากงานวิจัย “Hydrolyzed Chicken Extract (ProBeptigen®) on Cognitive Function in Healthy Middle-Aged People: A Randomized Double-Blind Trial”  เกี่ยวกับไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* ที่พัฒนาต่อยอดจากซุปไก่สกัดด้วยเทคโนโลยีการสกัดเฉพาะ พบว่ามีส่วนช่วยเสริมความจำ ไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* คืออะไร? โปรตีนและเปปไทด์เป็นสารอาหารสำคัญที่มีบทบาทในการฟื้นฟูปฏิกิริยาตอบสนองในผู้สูงอายุและความจำในผู้ที่เสี่ยงต่อภาวะเครียด8 ซุปไก่สกัดซึ่งเป็นแหล่งของโปรตีนและเปปไทด์มีการศึกษารายงานว่า มีประโยชน์ต่อความจำ (เช่น ความจำใช้งานและสมาธิ)7-10  ในการศึกษาก่อนหน้านี้ คณะผู้วิจัยพบว่าอาสาสมัครซึ่งมีความเครียดจากการทำงาน มีความจำระยะสั้นดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มที่มีภาวะเครียดสูงหลังรับประทานซุปไก่สกัดต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์11           ไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* เป็นผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ที่ผ่านกระบวนการไฮโดรไลซิสด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ ซึ่งประกอบด้วยเปปไทด์และกรดอะมิโน ที่ช่วยส่งเสริมความจำ ไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* มีหลักฐานว่าปลอดภัยและมีประโยชน์ ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยชี้ว่าไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* ปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นพิษ23-25 โดยมีการศึกษาในอาสาสมัครที่มีสุขภาพแข็งแรงรายงานว่า ไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* ช่วยเสริมให้ความจำดีขึ้น และไม่ก่อผลข้างเคียงที่เป็นพิษทั้งในระหว่างการศึกษาและภายหลังสิ้นสุดการศึกษา26   ไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* มีส่วนช่วยเสริมความจำในผู้ใหญ่ ผลลัพธ์จากการศึกษานำร่องข้างต้นนำมาสู่การศึกษาผลลัพธ์การเสริมความจำของไฮโดรไลซ์เปปไทด์จากเนื้อไก่ (โปรเบปทิเจน®)* […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ดูแลและป้องกันการเสื่อมของสมองด้วยสุดยอด อาหารสมอง เหล่านี้

คุณเคยรู้สึกไม่มีสมาธิระหว่างเรียนหรือทำงานไหม หากคำตอบคือใช่ บทความนี้อาจเป็นบทความที่คุณต้องรีบอ่านโดยด่วน เพราะสิ่งที่คุณกินส่งผลต่อร่างกายและสมองของคุณ ดังนั้น การขาดสมาธิอาจเป็นผลมาจากอาหารที่มีสารอาหารไม่ครบถ้วน และ อาหารสมอง ที่นำเสนอในบทความนี้ ล้วนแต่ช่วยเพิ่มสมาธิให้คุณได้ ทั้งยังช่วยส่งเสริมการทำงานของสมองโดยรวมให้ดีขึ้นอีกด้วย อาหารสมอง ที่คุณไม่ควรพลาด อะโวคาโด หลายคนไม่ชอบกินอะโวคาโด เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีไขมันสูง แต่ความจริงแล้ว ไขมันในอะโวคาโดนั้นจัดเป็นไขมันดี หรืออาจพูดได้ว่า เป็นไขมันอิ่มตัวเชิงเดี่ยวซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายสูง อะโวคาโดช่วยในการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ ทั้งยังช่วยกระตุ้นการเติบโตของเส้นผมและเล็บ นอกจากนี้ อะโวคาโดยังช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่อีกด้วย นอกจากนี้ วิตามินเคและโฟเลตที่อยู่ในอะโวคาโด ยังช่วยป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดในสมอง จึงส่งผลให้โอกาสเสี่ยงการเกิดเส้นเลือดในสมองแตกลดลง อีกทั้งสารต่างๆในอะโวคาโดยังช่วยพัฒนาความสามารถทางการเรียนรู้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญทั้งในด้านความจำและสมาธิ ผักใบเขียว เป็นที่ทราบกันดีว่า ผักใบเขียวต่างๆ อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ สารพฤกษเคมี คลอโรฟิลล์ และไฟเบอร์ ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบเลือดและระบบขับถ่าย ผักใบเขียวยังเป็นอาหารสมอง ที่สามารถช่วยป้องกันสมองเสื่อมได้ด้วย ผลการศึกษาวิจัยหลายชิ้นพบว่า ผักใบเขียวและผักประเภทใบต่างๆ ช่วยเพิ่มสมาธิได้ นอกจากนี้ ผักใบเขียวยังอุดมไปด้วยวิตามินเอและเค เราจึงควรรับประทานผักใบเขียวหนึ่งถ้วยทุกวัน เพื่อป้องกันโรค ลดโอกาสการเกิดโรค และทุเลาอาการของโรคต่างๆ น้ำซุปกระดูก สุดยอดอาหารที่ช่วยบำรุงท้อง และในขณะเดียวกันก็บำรุงสมองด้วย เนื่องจากอุดมไปด้วยคอลลาเจน ช่วยลดอาการอักเสบของลำไส้ และเสริมการทำงานของกรดอะมิโน เช่น โพรไลน์ (Proline) ไกลซีน (Glycine) […]


ข้อมูลโภชนาการ

เบียร์ ดื่มแบบพอดี มีประโยชน์สุขภาพมากมาย

เบียร์ หนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็นนักดื่มตัวยงหรือคนที่นานๆ สังสรรค์ ส่วนใหญ่ต่างก็ชอบดื่มเบียร์กันทั้งนั้น ปัจจุบันมีเบียร์ให้เลือกดื่มมากมายหลายรสชาติ หากเราดื่มเบียร์ในปริมาณที่พอดี นอกจากจะช่วยเพิ่มรสชาติให้การสังสรรค์สนุกขึ้นแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่คุณอาจคาดไม่ถึงอีกมากมายเลยทีเดียว ประโยชน์ของ เบียร์ ช่วยต้านมะเร็ง เบียร์อุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถต่อสู้กับอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย และส่งผลเสียต่อเซลล์ในร่างกายได้ สารฟลาโวนอยด์หลักที่พบในเบียร์ก็คือ Xanthohumol ซึ่งเป็นสารประกอบชนิดหนึ่งที่พบในฮอปส์ ส่วนผสมหลักของเบียร์ Xanthohumol ช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่ทำให้เกิดมะเร็งได้ นอกจากนี้ ธัญพืชที่ใช้ในการหมักเบียร์ ยังมีโพลีฟีนอล (polyphenols) หรือสารเคมีจากพืช ซึ่งมีสรรพคุณในการต้านมะเร็งเช่นกัน ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด วิตามินบี 6 ที่อยู่ในเบียร์ ช่วยให้เบียร์สามารถป้องกันการสร้างสารโฮโมซีสทีน (Homocysteine) ซึ่งก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ทั้งยังมีผลในการเจือจางเลือด และสรรพคุณในการต้านการเกิดลิ่มเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้หลอดเลือดหัวใจตีบตัน การบริโภคเบียร์อย่างพอเหมาะสามารถลดความเสี่ยงของอาการอักเสบ ที่เป็นสาเหตุภาวะหลอดเลือดแข็ง (atherosclerosis) ได้อีกด้วย นอกจากนี้ เบียร์ยังอาจช่วยกระตุ้นการสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดีได้ร้อยละ 10-20 ซึ่งช่วยให้ผู้ดื่มปลอดภัยจากภาวะสมองเสื่อม และโรคหัวใจและหลอดเลือด เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง การศึกษาเผยว่า การบริโภคเบียร์อย่างพอเหมาะ ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก จึงช่วยป้องกันคุณจากภาวะกระดูกหัก และกระดูกพรุน (osteoporosis) ได้ นอกจากนี้เบียร์ยังมีสารซิลิคอน (silicon) ลดความเสี่ยงกระดูกพรุน ลดอาการบวมอักเสบของข้อได้ด้วย ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง การขาดโฟลิคส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจาง (anemia) ได้ ซึ่งเบียร์อุดมไปด้วยกรดโฟลิคและวิตามินบี […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

โยเกิร์ตช่วยลดคอเลสเตอรอล ได้จริงหรือ

มีคนจำนวนไม่น้อยรับประทานโยเกิร์ตเพื่อช่วยในการขับถ่ายหรือระบายท้อง แต่การรับประทาน โยเกิร์ต ในรูปแบบและปริมาณที่เหมาะสมอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในร่างกายได้ด้วย โยเกิร์ตช่วยลดคอเลสเตอรอล ได้จริงหรือไม่ งานศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโยเกิร์ตและคอเลสเตอรอลเผยว่า ส่วนประกอบสำคัญในโยเกิร์ตที่อาจช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ คือ โพรไบโอติกส์ (Probiotics) โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งของมหาวิทยาลัย University of McGill เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ที่เผยแพร่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 ชี้ว่า การรับประทานโพรไบโอติกส์จำนวนสองโดสต่อวัน สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในร่างกายได้ ในการศึกษาดังกล่าว ได้แบ่งกลุ่มตัวอย่างที่มีระดับคอเลสเตอรอลสูงจำนวน 127 รายออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก ได้รับอาหารเสริมโพรไบโอติกส์ ที่มีค่าเทียบเท่ากับโยเกิร์ต 2 ถ้วย เป็นเวลา 2 ครั้งต่อวัน ภายใน 9 สัปดาห์ ในขณะที่กลุ่มที่สองไม่ได้รับประทานโพรไบโอติกส์ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มแรกมีระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมลดลงร้อยละ 9 และคอเลสเตอรอล LDL หรือไขมันชนิดเลว ลดลงร้อยละ 12 ดังนั้น การเพิ่มโยเกิร์ตที่มีโพรไบโอติกส์เป็นส่วนผสมสำคัญเข้าไปในมื้ออาหารจึงเป็นวิธีหนึ่งที่อาจช่วยลดคอเลสตอรอลในร่างกายได้ นอกจากนี้ ยังมีผลจากการวิจัยชิ้นอื่นที่พบว่า การรับประทานโยเกิร์ตส่งผลต่อความดันโลหิต และทำให้ผู้ที่รับประทานโยเกิร์ตมีการเผาผลาญพลังงานที่ดีกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับประทานโยเกิร์ต ผู้ที่รับประทานโยเกิร์ตเป็นประจำ ยังมีแนวโน้มที่จะมีค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

ทับทิม ผลไม้สีสวยสดใสที่งานวิจัยยืนยันแล้วว่า..ประโยชน์เพียบ

ทับทิม ผลไม้สีแดงสดที่เรารู้จักกันดี แม้จะมีถิ่นกำเนิดมาจากดินแดนที่หนาวเย็น แต่ทุกวันนี้ทับทิมก็หากินได้ไม่ยากในบ้านเรา แต่ทับทิมที่มาจากพื้นที่หนาวเย็นจะมีสีแดงสดใสที่ดูน่ากินกว่า นอกจากสีสันอันสวยงามและรูปลักษณ์แปลกตา ทับทิมยังเป็นผลไม้มากประโยชน์ อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุหลากหลายชนิด แถมยังแคลอรี่ต่ำอีกต่างหาก มากินทับทิมแล้วรับประโยชน์หลากหลายพวกนี้กันได้เลยค่ะ ข้อมูลโภชนาการของ ทับทิม เมล็ดทับทิมปริมาณ 1 ถ้วย (174 กรัม) ให้พลังงาน 144 แคลอรี่ และมีสารอาหารต่างๆ ดังนี้ วิตามินซี 30% ของปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน วิตามินเค 36% ของปริมาณวิตามินเคที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน โฟเลต 16% ของปริมาณโฟเลตที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน โพแทสเซียม 12% ของปริมาณโพแทสเซียมที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ไฟเบอร์ 7 กรัม โปรตีน 3 กรัม น้ำตาล 24 กรัม สารพัดประโยชน์ของทับทิม 1. ทัมทิมมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ การอักเสบเรื้อรังเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคร้ายแรง ได้แก่ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคอัลไซเมอร์ และโรคอ้วน คุณสมบัติต้านอาการอักเสบของทับทิม มาจากสารต้านอนุมูลอิสระในทับทิมที่มีชื่อว่า พูนิคาลาจิน (punicalagins) ซึ่งจากการศึกษาในหลอดทดลองแสดงให้เห็นว่า สารพูนิคาลาจินสามารถลดการอักเสบในทางเดินอาหารได้ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาวิจัยที่ใช้เวลา 12 […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

อาหารเช้า ทำไมจึงเป็นมื้อสำคัญที่สุด และอาหารเช้าแบบไหนดีที่สุด?

อาหารเช้า อาจเป็นอาหารมื้อที่หลายคนละเลย ด้วยความเร่งรีบของชีวิตประจำวัน ทำให้หลายคนไม่มีเวลามากพอที่จะกินอาหารเช้า แต่รู้หรือเปล่าว่า อาหารเช้าอาจมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด และการไม่กินอาหารเช้าส่งผลต่อสุขภาพของเราหลายประการ บทความนี้จะชี้ให้คุณๆทราบถึงความสำคัญของการรับประทานอาหารเช้า และคำแนะนำสำหรับการเลือกทานอาหารเช้าอย่างครบคุณค่า ทำไมอาหารเช้าจึงสำคัญนัก การศึกษาจำนวนมากเชื่อมโยงการกินอาหารเช้ากับการมีสุขภาพดี ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดไขมัน LDL ที่จัดเป็นไขมันเลว ลดโอกาสในการเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และน้ำหนักเกิน แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดสำหรับประโยชน์ของอาหารเช้าก็คือ การงดอาหารเช้าทำให้จังหวะของการอดอาหารและการกินอาหารเสียสมดุล เนื่องจากเวลาที่คุณเพิ่งตื่นนั้น ระดับน้ำตาลในเลือดที่ร่างกายต้องการเพื่อทำให้กล้ามเนื้อและสมองทำงานนั้น จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ดังนั้นการกินอาหารเช้า จะช่วยเติมพลังงานให้คุณในส่วนนี้ เพราะฉะนั้นถ้าร่างกายคุณไม่ได้รับพลังงานจากอาหารที่เพียงพอในตอนเช้า คุณอาจรู้สึกไร้พลังวังชา และมีแนวโน้มที่จะกินมากขึ้นในช่วงหลังของวัน โดยเฉพาะอาหารที่ไขมันสูงและมีน้ำตาลสูง เพื่อชดเชยพลังงานที่ขาดหายไป อาหารเช้าดีต่อรอบเอวของคุณ สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก นี่เป็นข้อมูลดีๆ ที่จะเป็นแรงจูงใจในการกินอาหารเช้าของคุณ งานวิจัยที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสาร Journal of Nutrition ให้ข้อมูลว่า ผู้เข้าร่วมงานวิจัยที่กินอาหารเช้ามื้อใหญ่ มีแนวโน้มที่จะน้ำหนักเกินหรืออ้วนน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่กินอาหารมื้อใหญ่ในตอนกลางวันและตอนเย็น และผู้ที่กินอาหารเช้ามีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักที่อยู่ในเกณฑ์สุขภาพดี มากกว่ากลุ่มผู้ที่ไม่ได้กินอาหารเช้า นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร Obesity ซึ่งทำการวิจัยกับกลุ่มตัวอย่างเพศหญิง ที่มีน้ำหนักเกิน 93 คน โดยให้กลุ่มตัวอย่างกินอาหาร 1,400 กิโลแคลอรี่ต่อวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ และได้แบ่งผู้ทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่กินอาหารเช้ามื้อใหญ่ และกลุ่มที่กินอาหารเย็นมื้อใหญ่ ผลการวิจัยพบว่า ผู้หญิงที่กินอาหารมื้อใหญ่ในตอนเช้า ลดน้ำหนักได้มากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ โดยลดน้ำหนักได้มากกว่า […]


ข้อมูลโภชนาการ

5 อาหารไม่ได้เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดแต่ มีวิตามินซี มากกว่าส้มซะอีก

สมัยเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่มักบอกเราเสมอ ถึงความสำคัญของการดื่มน้ำผักและผลไม้ที่ มีวิตามินซี หลายคนชอบดื่มน้ำมะนาวหรือน้ำส้ม เพราะส้มมีวิตามินซีสูง แต่ยังมีผักและผลไม้อีก 5 ชนิด ที่มีวิตามินซีสูงกว่าผลส้มขนาดกลางหนึ่งผล มาลองดูกันดีกว่าค่ะว่า มีอะไรกันบ้าง ดังต่อไปนี้ พริกหวาน พริกหวาน ไม่เพียงเพิ่มรสชาติของอาหารด้วยสีสัน (สีแดง สีเหลือง สีเขียว) ที่น่ารับประทานแล้ว พริกหวานยังเป็นผักที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ พร้อมด้วยรสชาติที่อร่อย กรอบ และกลิ่นที่หอมเฉพาะตัว เพราะสีที่สวยงาม เราจึงมักจะเห็นพริกหวานสีต่างๆ เป็นตัวช่วยสร้างสีสันในเมนูสลัดผัก พริกหวานแดงหนึ่งถ้วยมีวิตามินซีประมาณ 190 มิลลิกรัม ซึ่งสูงกว่าส้มหนึ่งผลถึง 3 เท่า พริกหวานสีเหลืองหนึ่งถ้วยให้วิตามินซี 155 มิลลิกรัม ในขณะที่พริกหวานเขียวหนึ่งถ้วยให้วิตามินซีน้อยกว่าเล็กน้อย คือ ประมาณ 120 มิลลิกรัม แต่ก็สูงกว่าน้ำส้มคั้นหนึ่งแก้วถึง 30% พริกหวานยังเป็นแหล่งวิตามินเอและใยอาหารซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย และช่วยป้องกันการเกิดโรคอื่นๆได้อีกหลายโรค มะละกอ ผลไม้รสชาติหวานอร่อยชนิดนี้ในปริมาณ 100 กรัม ให้วิตามินซีสูงถึง 70 มิลลิกรัม ไม่ว่าจะรับประทานเป็นชิ้น หรือปั่นเป็นเครื่องดื่ม มะละกอยังมีเส้นใยอาหารและวิตามินเอ หากรับประทานทุกวัน จะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ลดอาการไซนัส และช่วยให้เส้นผมและกระดูกแข็งแรง รวมถึงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย ผักใบเขียว ผักเคล […]


โภชนาการเพื่อสุขภาพ

อาหารเสริมธาตุเหล็ก ที่ช่วยได้หากคุณมีภาวะโลหิตจาง

อาหารเสริมธาตุเหล็ก มีส่วนช่วยในการเพิ่มปริมาณธาตุเหล็กให้กับร่างกาย หากร่างกายขาดธาตุเหล็ก ก็อาจทำให้ร่างกายไม่สามารถผลิตฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นสารในเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ทำให้สามารถนำออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อของร่างกายได้ไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง ทั้งยังอาจทำให้รู้สึกอ่อนแรง เหนื่อย และหงุดหงิด ภาวะโลหิตจางหมายถึง ภาวะโลหิตจาง อาจเกิดจากปริมาณของเซลล์เม็ดเลือดแดงต่ำกว่าปกติ หรือร่่างกายมีปริมาณของฮีโมโกลบินในเซลล์เม็ดเลือดแดงแต่ละเซลล์ต่ำกว่าปกติ จากข้อมูลของสำนักงานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของสหรัฐอเมริกา พบว่า ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กเป็นความผิดปกติของภาวะโภชนาการที่อาจพบได้มากที่สุดทั่วโลก ภาวะนี้อาจทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า ลดความสามารถในการตั้งสมาธิ และลดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน อาหารสำหรับภาวะโลหิตจาง คือ อาหารเสริมธาตุเหล็ก ในร่างกาย เพื่อรักษาภาวะการขาดสารอาหาร หน้าที่ของธาตุเหล็กต่อร่างกาย หน้าที่หลักของธาตุเหล็ก ก็คือ การลำเลียงออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย เป็นส่วนประกอบสำคัญของสารเคมีในร่างกายที่เรียกว่า ฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนจากปอดไปยังส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกาย ธาตุเหล็กนั้นมักจะถูกเก็บไว้ที่ตับและกล้ามเนื้อ ธาตุเหล็กพบได้ในอาหารหลายชนิดมี 2 รูปแบบ ได้แก่ สารฮีม (Haem) และไม่ใช่สารฮีม (Non-Haem) ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กประกอบฮีมได้มากกว่า ซึ่งธาตุเหล็กชนิดนี้อาจพบได้ในผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก และปลา ส่วนธาตุเหล็กประกอบที่ไม่ใช่ฮีมนั้น อาจพบได้ในพืช เช่น ถั่วฝัก ถั่วพัลส์ อย่างเช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ และผักใบเขียว […]


ข้อมูลโภชนาการ

ควินัว โปรตีนจากพืช อุดมด้วยประโยชน์สุขภาพชั้นเยี่ยม

ควินัว อีกหนึ่ง โปรตีนจากพืช (Quinoa) นอกจากจะให้โปรตีนสูงแล้ว ยังไม่มีกลูเตน (Gluten-free) คุณอาจเคยเห็นควินัวในเมนูอาหารสุขภาพมาก่อน โดยประโยชน์ของควินัวมีมากมาย ใครที่กำลังลดความอ้วนหรือต้องการดูแลสุขภาพไม่ควรพลาด บทความจาก Hello คุณหมอ บทความนี้ ควินัว โปรตีนจากพืช อุดมไปด้วยสารอาหารอะไรบ้าง ควินัวเป็นพืชให้เมล็ด (Grain crop) ที่กินได้ โดยทางเทคนิคแล้วควินัวไม่ใช่ธัญพืช แต่เป็นธัญพืชเทียม เนื่องจากโดยพื้นฐานแล้วควินัวเป็นเมล็ดแต่สามารถกินได้เหมือนกับธัญพืช ควินัวมี 3 ชนิดหลักๆ คือสีขาว สีแดง และสีดำ ควินัว 1 ถ้วย (185 กรัม) ให้พลังงาน 222 แคลอรี่ มีสารอาหารดังต่อไปนี้ โปรตีน 8 กรัม ไฟเบอร์ 5 กรัม คาร์โบไฮเดรต 39 กรัม ไขมัน 4 กรัม แมงกานีส 58% ของปริมาณแมงกานีสที่ควรได้รับต่อวัน แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โฟเลต คอปเปอร์ ธาตุเหล็ก ซิงก์โพแทสเซียม วิตามินบี 1 บี 2 และบี 6 มากกว่า 10% มีปริมาณแคลเซียม วิตามินบี 3 […]


ข้อมูลโภชนาการ

กินสับปะรด มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร

กินสับปะรด มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ เพราะสับปะรดนับเป็นผลไม้แคลอรี่ต่ำและอุดมไปด้วยสารอาหาร แร่ธาตุ และวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินซี โฟเลต ไฟเบอร์ โดยมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รับรองว่าการกินสับประรดนั้นดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง อาจช่วยย่อยอาหาร และสามารถเลือกบริโภคได้ในหลายรูปแบบ ทั้งแบบสด แบบกระป๋อง หรือน้ำสับปะรด [embed-health-tool-bmi] คุณค่าทางโภชนาการของสับปะรด สับปะรดสดที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 1 ถ้วย หรือประมาณ 165 กรัม ให้พลังงาน 82.5 แคลอรี่ โดยมีสารอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้ วิตามินซี 131% ของปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน แมงกานีส 76% ของปริมาณแมงกานีสที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน วิตามินบี 6 9% ของปริมาณวิตามินบี 6 ที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน คอปเปอร์ 9% ของปริมาณคอปเปอร์ที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ไทแอมิน (Thiamine) หรือวิตามินบี1 9% ของปริมาณไทแอมีนที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน โฟเลต 7% ของปริมาณโฟเลตที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน โพแทสเซียม 5% ของปริมาณโพแทสเซียมที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน แมกนีเซียม 5% ของปริมาณแมกนีเซียมที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ฟื้นฟูและสร้างความแข็งแรงให้ กล้ามเนื้อ ด้วยวิตามินและแร่ธาตุพวกนี้

กล้ามเนื้อที่แข็งแรง นอกจากจะช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีแล้วแล้ว ยังทำให้รูปร่างของเราดีขึ้นอีกด้วย ใครที่กำลังต้องการสร้าง กล้ามเนื้อ อย่าลืมเพิ่ม วิตามินกับแร่ธาตุ เหล่านี้เข้าไปในการรับประทานของคุณ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมด้วย Hello คุณหมอ มีบทความดีๆ เกี่ยวกับการฟื้นฟูและสร้างกล้ามเนื้อมาฝากกันค่ะ วิตามินและแร่ธาตุที่มีส่วนช่วยฟื้นฟู กล้ามเนื้อ วิตามินบี วิตามินบีโดยเฉพาะวิตามินบี 6 โฟเลต และวิตามินบี 12 เป็นวิตามินที่เชื่อกันว่ามีความสำคัญที่สุดในการสร้างและฟื้นฟู กล้ามเนื้อ โดยวิตามินบี 6 และบี 12 มีบทบาทโดยตรงในการเผาผลาญโปรตีน การศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่า ยิ่งมีการบริโภคโปรตีนมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งต้องการวิตามินบี 6 มากขึ้น เพื่อช่วยในการเผาผลาญโปรตีนที่เพิ่มขึ้น วิตามินบี ยังจำเป็นในการสร้างเม็ดเลือดแดงและเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้จำเป็นอย่างมากในการสร้างและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ การกินกรดโฟลิค (วิตามินบี 9) ร่วมกับวิตามินบี 6 และ 12 สามารถช่วยลดระดับของโฮโมซิสตีน สารที่เกิดจากการย่อยสลายโปรตีน ซึ่งหากมีในระดับที่มากเกินไป จะเป็นอันตรายต่อร่างกายและทำให้การสร้างไนตริกออกไซด์ โมเลกุลที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบเลือดในร่างกายดีขึ้น ผลก็คือทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น และการส่งสารอาหารไปยังกล้ามเนื้อได้ดี วิตามินซี ด้วยคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ทำให้วิตามินซีทำหน้าที่ในการปกป้องกล้ามเนื้อจากความเสียจากอนุมูลอิสระ และยังทำหน้าช่วยในการสร้างฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และอนาบอลิกฮอร์โมน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ วิตามินซียังช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นสารเริ่มต้นในการสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ทำให้วิตามินซีมีความสำคัญมากในการป้องกันกล้ามเนื้อและกระดูกจากการบาดเจ็บ เมื่อคอลลาเจนแข็งแรง […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน