โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

สมุนไพรลดน้ำหนัก ตัวช่วยดี ๆ สำหรับคนอยากผอม

สมุนไพรลดน้ำหนัก เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก เพราะสารสกัดในสมุนไพรบางชนิดอาจช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญภายในร่างกาย ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันที่สะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เพื่อความปลอดภัยควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคทุกครั้ง  [embed-health-tool-bmi] สมุนไพรลดน้ำหนัก ตัวช่วยดี ๆ สำหรับคนอยากผอม ขมิ้นชัน สรรพคุณ สารเคอร์คูมิน (Curcumin) ในขมิ้นชันมีสรรพคุณช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญภายในร่างกาย ทำให้ระบบการเผาผลาญภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สมุนไพรขมิ้นชันจึงเป็นอีกกนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก ผลข้างเคียง หากรับประทานขมิ้นชันในปริมาณสูงติดต่อกัน อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย คลื่นไส้และอาเจียน  ขิง สรรพคุณ สารซิงเจอโรน ((Zingerone) ในขิงเป็นสารประกอบที่มีรสชาติเผ็ดร้อน อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญภายในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้สามารถควบคุมปริมาณในแต่ละวันได้อย่างเหมาะสม ผลข้างเคียง ขิงเป็นสมุนไพรฤทธิ์ร้อน หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารได้  แนะนำรับประทานไม่เกินวันละ 4 กรัม และในสตรีมีครรภ์ไม่เกินวันละ 1 กรัม  ส้มแขก สรรพคุณ หลายคนมักรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีสารสกัดจากส้มแขก เนื่องจากส้มแขกมีกรดมีกรดไฮดรอกซีซิตริก (Hydroxycitric Acid: HCA) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการเผาผลาญไขมันภายในร่างกาย และยังมีสารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ทำให้รู้สึกหิวน้อยลง  ผลข้างเคียง เวียนศีรษะ ปากแห้ง ปวดศีรษะ ปวดท้อง ท้องเสีย  เม็ดแมงลัก สรรพคุณ เม็ดแมงลักเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สูตรอาหารเพื่อสุขภาพ

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ท้องเสีย อาหารที่ควรกิน อาหารที่ควรเลี่ยง เพื่อให้อาการดีขึ้น

ท้องเสีย มักมีความเกี่ยวข้องกับอาหารที่เรารับประทานเข้าไป โดยอาจเกิดขึ้นจากอาการแพ้ อาหารเป็นพิษ หรือเกิดจากภาวะเรื้อรังอื่น ๆ เช่น ลำไส้แปรปรวน โรคโครห์น โรคหวัดลงกระเพาะ เป็นต้น หากอาการท้องเสียเกิดขึ้นในระยะเวลานาน ก็สามารถเกิดผลกระทบต่อระบบย่อยอาหารได้ ดังนั้นคุณควรจะรับรู้และมีความเข้าใจเกี่ยวกับ อาหารที่ควรกินและควรเลี่ยง เมื่อคุณมีอาการ ท้องเสีย เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้อาการทรุดหนักขึ้น และทำให้ระบบทางเดินอาหารกลับมาเป็นปกติได้ไวขึ้นกว่าเดิมฃ สิ่งที่ควรทำ เมื่อมีอาการท้องเสีย อาการท้องเสียที่เกิดขึ้นในระยะสั้น สามารถรักษาด้วยตนเองได้ เช่น การปรับเปลี่ยนเรื่องอาหาร เครื่องดื่ม เป็นต้น และสามารถรับประทานยาที่ไม่ต้องสั่งจากแพทย์ โดยยาจะช่วยลดหรือบรรเทาอาการท้องเสีย ส่วนในบางคนอาการที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย อาจต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ นอกจากนี้หลังมีอาการท้องเสียควรใช้โปรไบโอติกส์ให้เร็วที่สุด เพื่อช่วยป้องกันผลข้างเคียงจากยาปฏิชีวนะ และป้องกันไม่ให้เกิดอาการนี้อีกในอนาคต อาหารที่ควรกินและควรเลี่ยง เมื่อมีอาการ ท้องเสีย อาหารที่ควรรับประทาน หากคุณมีอาการนี้ ควรระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหาร และเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยทำให้หายเร็วขึ้น โดยคุณควรเลือกอาหารแบบอ่อน เพื่อป้องกันไม่ให้อาการแย่ลง ซึ่งควรรับประทาน อาหารอ่อน เช่น กล้วย ข้าว แอปเปิ้ล ขนมปัง ธัญพืชที่ผ่านการปรุงสุก แคร็กเกอร์ มันฝรั่งต้ม ไก่อบที่ไม่มีหนังหรือไขมัน เป็นต้น นอกจากนี้ คุณยังต้องดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อป้องกันอาการขาดน้ำ และทดแทนน้ำที่ร่างกายเสียไป หรือรับประทานอาหารเหลวหรือเครื่องดื่ม เช่น ซุปใสไก่หรือวัว โซดา […]


โภชนาการพิเศษ

เป็นเบาหวาน..ก็กินน้ำตาลได้ ความจริงเกี่ยวกับน้ำตาล สำหรับคนเป็นเบาหวาน

เมื่อคุณเป็น เบาหวาน คุณอาจจะเข้าใจว่าตัวเองต้องงดของหวานและ น้ำตาล อย่างสิ้นเชิง แต่จริง ๆ แล้ว คุณยังสามารถรับประทานของหวาน ๆ ได้ หากคุณสามารถจัดการและควบคุมอาการของโรคเบาหวานได้ มาลองดูข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเบาหวานและน้ำตาล พร้อมกับ Hello คุณหมอ กันเลย ความจริงเกี่ยวกับ น้ำตาล และ เบาหวาน หลายคนคิดว่าการกินน้ำตาลทำให้เป็นโรคเบาหวาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว น้ำตาลไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 แต่อย่างใด สำหรับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 น้ำหนักเกิน เป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่ง ซึ่งเมื่อคุณกินน้ำตาลมากเกินไป น้ำหนักตัวก็จะเพิ่มขึ้น จากการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาก สัมพันธ์กับการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ดังนั้น คุณควรควบคุมปริมาณการบริโภคน้ำตาล เพื่อช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน แต่หากคุณเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว การบริโภคน้ำตาลจะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งหากไม่มีการควบคุม ปัญหาร้ายแรงอาจะเกิดขึ้นได้ การวางแผนในเรื่องการกินอย่างเหมาะสม คือการควบคุมปริมาณน้ำตาล และรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ให้ได้ คุณควรกินของหวานในโอกาสพิเศษเท่านั้น เช่น วันเกิดหรืองานแต่งงาน แต่พึงระลึกไว้ว่า ของหวานเหล่านั้นมีปริมาณน้ำตาลสูง ดังนั้น ควรรับประทานในปริมาณเล็กน้อย มื้ออาหารในแต่ละวันของคุณควรมีสารอาหารครบถ้วน เช่น ผัก ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ที่ไม่มีไขมัน ถั่ว และโปรตีนไร้ไขมัน หากของหวานมีปริมาณน้ำตาลมากเกินไป […]


โภชนาการพิเศษ

แตงโม คนเป็นเบาหวานกินได้ กินให้พอดีน้ำตาลไม่ขึ้น

แตงโม (Watermelon) ผลไม้ยอดนิยมประจำหน้าร้อน รสชาติหวานฉ่ำ และมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบเหมือนผลไม้ชนิดอื่น สำหรับคนบางกลุ่ม เช่น ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ซึ่งต้องมีวินัยในการบริโภคที่เคร่งครัด เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควบคุมน้ำตาล และต้องตรวจเช็คระดับของน้ำตาลในเลือดอยู่เสมอ แล้วแบบนี้ ผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่ามีน้ำตาลมากอย่าง แตงโม จะเหมาะกับคนเป็นเบาหวานหรือเปล่านะ ทาง Hello คุณหมอ มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากกัน แตงโม ดีอย่างไร จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา ระบุไว้ว่า แตงโมมีวิตามินซีอยู่ถึงร้อยละ 20 และวิตามินเอร้อยละ 17 ของปริมาณที่คนเราต้องการในแต่ละวัน นอกจากนี้ แตงโมยังมีไลโคปีน (lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอกระบวนการแก่ชรา ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง แตงโมจึงถือเป็นผลไม้ที่ป้องกันมะเร็งได้ ยิ่งไปกว่านั้น ผลไม้มหัศจรรย์ชนิดนี้ ยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ และลดอัตราการเต้นของหัวใจให้กลับสู่สภาวะปกติได้อีกด้วย ผู้ป่วยเบาหวานกิน แตงโม ปลอดภัยไหม สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน คุณควรทราบถึงดัชนี 2 ประเภท นั่นก็คือ ดัชนีไกลซีมิก (glycemic index หรือ GI) และไกลซีมิกโหลด (glycemic load หรือ GL) หรือปริมาณของไกลซีมิก ค่าดัชนีไกลซีมิกแสดงถึงความเร็วในการดูดซึมอาหารเข้าสู่กระแสเลือด โดยมีค่าคะแนนอยู่ระหว่าง 1 […]


ข้อมูลโภชนาการ

ประโยชน์ของ วิตามินเคกับสุขภาพผิว คุณรู้จักมันดีแล้วหรือยัง?

หลายคนอาจทราบดีอยู่แล้วว่า วิตามินอี วิตามินเอ วิตามินซี ช่วยบำรุงผิวพรรณให้แข็งแรง แต่อาจจะยังไม่รู้ว่า วิตามินเคก็มีประโยชน์ต่อผิวเช่นกัน วิตามินเคพบได้ในพืชผักหลายชนิด เช่น ปวยเล้ง ผักโขม คะน้า กะเพรา เซเลอรี นอกจากช่วยบำรุงกระดูก รักษาแผล มีส่วนช่วยในการสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการแข็งตัวของเลือดแล้ว ประโยชน์ของ วิตามินเคกับสุขภาพผิว นั้นมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลย ประโยชน์ของ วิตามินเคกับสุขภาพผิว วิตามินเคช่วยจัดการรอยคล้ำใต้ตา ในสังคมสมัยใหม่ การทำงาน และการใช้ชีวิต เป็นสาเหตุให้ผู้หญิงทรมานจากความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นประจำ จึงทำให้รอยคล้ำใต้ตาหรือตาแพนด้ามาเยือน รวมถึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจจนหลายคนต้องแต่งหน้าเพื่อกลบรอยคล้ำที่เกิดขึ้น ถ้าหากคุณรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเค หรือใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่มีส่วนผสมของวิตามินเค ก็จะช่วยให้รอยคล้ำใต้ตาดูจางลง และฟื้นฟูผิวให้กลับมาสดใสขึ้น แต่ต้องอย่าลืมว่า บำรุงด้วยวิตามินอย่างเดียวยังไม่พอ คุณต้องพักผ่อนให้มากขึ้น และพยายามอย่าเครียดด้วย วิตามินเคช่วยคงความยืดหยุ่นของผิวพรรณ ผิวพรรณที่เหี่ยวย่นไปตามวัย เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงและผู้ชายหลายคนที่อายุเริ่มมากขึ้นเกิดความกังวล ผิวหนังที่ยืดหยุ่นน้อยลง เป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะผิวเสื่อมไปตามวัย และริ้วรอยต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็เป็นสิ่งบ่งชี้ว่า ผิวพรรณของคุณกำลังสูญเสียความยืดหยุ่นทีละน้อย เนื่องจากการขาดโปรตีน การกินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเคให้เพียงพอ จะช่วยเสริมสร้างและรักษาระดับโปรตีนในผิวหนัง จึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ วิตามินเคช่วยบรรเทาอาการเลือดคั่ง เมื่อผิวหนังได้รับแรงกระแทก อาจทำให้เส้นเลือดฝอยฉีกขาดจนเกิดเลือดคั่ง และกลายเป็นรอยฟกช้ำได้ วิตามินเคจัดเป็นยารักษาอาการเลือดคั่งชั้นดี คุณสามารถทาวิตามินเคที่บริเวณรอยช้ำ เพื่อให้สีของผิวหนังดีขึ้น หรือรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเค เพื่อให้รอยฟกช้ำหรือรอยคล้ำใต้ผิวหนังที่เกิดจากเลือดคั่งหายไปอย่างรวดเร็ว วิตามินเคช่วยแก้ปัญหาผิวพรรณอื่นๆ นอกจากประโยชน์ของวิตามินเคกับสุขภาพผิวที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว วิตามินเคยังช่วยบำรุงผิวพรรณ […]


ข้อมูลโภชนาการ

ประโยชน์ของวิตามินดี ที่มีต่อสุขภาพ มีอะไรบ้าง

ประโยชน์ของวิตามินดี นอกจากจะช่วยเรื่องการดูดซึมแคลเซียม และฟอสฟอรัสแล้ว ยังอาจมีส่วนช่วยในการป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง ภาวะหัวใจล้มเหลว โรคอัลไซเมอร์ ดังนั้น การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินดี จึงอาจช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรงได้ [embed-health-tool-bmi] วิตามินดี มีส่วนช่วยบำรุงร่างกายอย่างไร วิตามินดีอาจมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างแคลเซียมภายในร่างกาย ทำให้กระดูกแข็งแรง และป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ นอกจากนี้ วิตามินยังอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจวาย โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โรคแพ้ภูมิต้านทานตัวเอง และอาการผมร่วง ซึ่งในยุคปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักมีอาการขาดวิตามินดีกันมากขึ้น เนื่องจากต้องนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศเป็นระยะเวลานาน หรือแม้แต่ทาครีมกันแดด เลยทำให้ผิวไม่ได้รับการกระตุ้นจากแสงแดดในการสร้างวิตามินดีขึ้นมา อาการขาดวิตามินดีของแต่ละคนอาจะแตกต่างกันไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วก็มักจะมีอาการปวดบริเวณข้อต่อ กล้ามเนื้อ รู้สึกอ่อนเพลีย มีปัญหาด้านการหายใจ และมีภาวะซึมเศร้าปะปน ประโยชน์ของวิตามินดี มีอะไรบ้าง สำหรับประโยชน์ของวิตามินดีต่อสุขภาพ อาจมีดังนี้ 1. อาจช่วยป้องกันต้านทานโรคมะเร็ง โรคมะเร็งเต้านมและโรคมะเร็งลำไส้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการขาดวิตามินดีในร่างกาย นอกจากนี้ ยังพบว่าการมีวิตามินดีในระดับสูง ยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงได้ด้วย ดงันั้น หากร่างกายมีวิตามินดีมากก็อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมได้ มีนักวิจัยได้คำนวณเอาไว้ว่า ผู้ที่มีระดับวิตามินดีต่ำกว่าที่ระบุเอาไว้แนวทางปัจจุบันนั้น มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งลำไส้เพิ่มขึ้น 31 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคนที่มีระดับวิตามินดีสูงกว่าที่ระบุเอาไว้ จะมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งชนิดนี้ลดลง 22 เปอร์เซ็นต์ 2. อาจช่วยป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลว วิตามินดีอาจช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจได้ แต่ยังต้องหามีการศึกษาเพิ่มเติมว่า วิตามินส่งผลเช่นนี้ได้อย่างไร โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการรายงานว่า นักวิจัยได้ทำการทดสอบกับหนูทดลอง […]


โรคอ้วน

ไขมันกับคาร์โบไฮเดรต อะไรคือตัวการความอ้วนกันแน่

เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า หากเราบริโภค ไขมันกับคาร์โบไฮเดรต มากเกินไป ก็สามารถทำให้น้ำหนักขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่จากผลการศึกษาวิจัยล่าสุดพบว่า ตัวการที่ทำให้เราเป็นโรคอ้วนคือ “ไขมัน” ส่วนคาร์โบไฮเดรตอาจเป็นแค่แพะรับบาปเท่านั้น เรื่องนี้มีรายละเอียดยังไง เราไปดูกันเลย ผลการศึกษาเรื่องไขมันกับคาร์โบไฮเดรต นักวิทยาศาสตร์ที่ได้ศึกษาวิจัยกับหนูทดลองพบว่า การกินไขมันมากเกินไปจะทำให้เรามีปัญหาเรื่องความอ้วนได้ ในขณะที่คาร์โบไฮเดรต (รวมทั้งแคลอรี่ 30 เปอร์เซ็นต์ที่ได้จากน้ำตาลซูโครส) ไม่ได้ส่งผลกระทบในเรื่องนี้เลย นอกจากนี้อาหารที่มีทั้งไขมันและน้ำตาลนั้น ยังไม่ส่งผลให้เกิดไขมันในร่างกายมากกว่าการกินที่มีแต่ไขมันเพียงอย่างเดียวด้วย สำหรับโปรตีน ทีมนักวิจัยเผยว่า มีหลักฐานที่บ่งบอกว่าการบริโภคโปรตีนสามารถส่งผลกระทบต่อการบริโภคสารอาหารประเภทอื่น หรือมีผลต่อปริมาณไขมันในร่างกายได้ ส่วนสาเหตุที่ไขมันนำไปสู่โรคอ้วนได้นั้น นักวิจัยเชื่อว่า เป็นเพราะไขมันคือตัวการทำให้สมองรู้สึกพึงพอใจ จึงกระตุ้นให้ร่างกายอยากกินอาหารที่มีแคลอรีสูงๆ ซึ่งนั่นคือต้นเหตุที่ทำให้น้ำหนักขึ้น แต่ข้อจำกัดของการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ก็คือ นี่เป็นการวิจัยในหนูทดลอง ยังไม่ใช่การวิจัยกับมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหนูและมนุษย์มีโครงสร้างทางพันธุกรรมที่คล้ายคลึงกัน ผลการทดลองที่ได้จึงอาจใกล้เคียงกับผลทดลองในมนุษย์ อาหารที่มีไขมันสูง ไขมันมีทั้งชนิดที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และชนิดที่ไม่ดีมีมากไปก็เป็นโทษ ซึ่งสามารถแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้ ไขมันทรานส์ มักพบในขนมเค้ก โดนัท บิสกิต ขนมขบเคี้ยว เป็นไขมันที่ช่วยให้อาหารไม่เน่าเสียง่าย ซึ่งคณะแพทย์ศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดระบุว่า การกินไขมันทรานส์ไม่ว่าในระดับไหนก็ไม่มีความปลอดภัยทั้งนั้น ไขมันอิ่มตัว พบมากในเนื้อแดงและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ซึ่งว่ากันว่าอาหารจำพวกนี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้ เนื่องจากผลการศึกษาวิจัยพบว่าอาหารพวกนี้จะทำให้มีคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนก็ระบุว่าสาเหตุไม่ได้มาจากไขมันอิ่มตัวอย่างเดียว ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว จัดเป็นไขมันชนิดดี พบมากในน้ำมันมะกอก น้ำมันดอกคำฝอย อะโวคาโด เป็นต้น ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน จัดเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จึงต้องได้รับจากการบริโภคเข้าไป โดยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนสามารถพบได้ในน้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ลดไขมันทุกชนิด หรือใช้ไขมันไม่อิ่มตัวแทนไขมันอิ่มตัว โดยผู้ชายไม่ควรบริโภคไขมันอิ่มตัวเกินวันละ 30 กรัม ผู้หญิงไม่ควรบริโภคไขมันอิ่มตัวเกินวันละ […]


การควบคุมอาหารและการลดน้ำหนัก

ลดน้ำหนัก ด้วยเมนูเดิมทุกวัน ช่วยได้จริงหรือ

หนึ่งในวิธีการ ลดน้ำหนัก ที่หลายคนเคยได้ยิน คือ การรับประทานอาหารเมนูเดิมทุกวัน แต่รู้หรือไม่ว่าวิธีนี้ส่งผลดีต่อสุขภาพหรือทำให้การลดน้ำหนักได้ผลจริงมากน้อยแค่ไหน ควรศึกษาข้อดีและข้อเสียให้แน่ชัดเพื่อที่จะได้ปฏิบัติตัวให้ถูกต้องและลดน้ำหนักให้ถูกวิธีโดยไม่ส่งผลร้ายต่อร่างกาย [embed-health-tool-bmi] ข้อดีของการลดน้ำหนักด้วยเมนูเดิม การลดน้ำหนักด้วยการรับประทานเมนูเดิม อาจมีข้อดีดังนี้ แคลอรี่คงที่ช่วยลดน้ำหนัก การนับแคลอรี่ค่อนข้างเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับคนที่พยายามลดน้ำหนัก หากรับประทานอาหารเหมือนเดิมทุกวัน อาจช่วยให้ควบคุมแคลอรี่ได้ง่ายขึ้น เพราะการคำนวนแคลอรี่ครั้งเดียวสามารถใช้ไปได้หลายวัน เพราะเป็นอาหารเมนูเดียวกันนั่นเอง สร้างนิสัยการรับประทานอาหาร หากอยากรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี การรับประทานอาหารเหมือนเดิมทุกวันอาจช่วยได้ เพราะไม่เกิดความเครียดว่าควรจะเลือกเมนูอะไรดี นอกจากนี้ หากรับประทานอาหารอะไรบ่อย ๆ ก็ยิ่งทำให้ติดเป็นนิสัยได้ง่ายขึ้นด้วย เช่น การรับประทานแอปเปิ้ลวันละหนึ่งถึงสองลูก อาจกลายเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้น หลังจากรับประทานต่อเนื่องกันทุกวันประมาณสองสามสัปดาห์ จัดเตรียมอาหารง่ายจึงเครียดน้อยลง การรับประทานอาหารเหมือนเดิมทุกวันจะช่วยให้ประหยัดเวลา ทั้งในเรื่องการคิดเมนูอาหาร การซื้อวัตถุดิบ และการเตรียมอาหาร ซึ่งถ้าต้องเตรียมอาหารกลางวันเหมือนเดิมทุกวัน ก็ทำให้ใช้เวลาในการจัดเตรียมอาหารแค่วันอาทิตย์วันเดียวเท่านั้นเอง นอกจากนี้ มีแนวโน้มว่าคนที่รับประทานอาหารเมนูเดิม ๆ จะเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าด้วย  งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับ ผลกระทบของระยะเวลาในการเตรียมอาหารต่อความเครียด ความกดดัน และสุขภาพ เผยแพร่ในวารสาร SSM - Population Health พ.ศ. 2564 พบว่า การใช้เวลาน้อยลงในการจัดเตรียมอาหารช่วยลดความกดดัน ความเครียด และส่งผลให้สุขภาพจิตดีขึ้น ตัดสินใจง่าย สุขภาพดีขึ้น ความเหนื่อยอ่อนในการตัดสินใจไม่ใช่มีแต่เฉพาะในเรื่องงานเท่านั้น แต่รวมไปถึงเรื่องของการเลือกเมนูอาหารด้วย ยิ่งมีตัวเลือกเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้การตัดสินใจยากขึ้นเท่านั้น การรับประทานเมนูอาหารเหมือนเดิมทุกวัน จึงช่วยลดความเครียดได้ จึงอาจช่วยให้เลือกแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพได้ดีกว่า ข้อเสียของการลดน้ำหนัก ด้วยเมนูเดิมทุกวัน เกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย การรับประทานอาหารเหมือนเดิมทุกวันอาจทำให้เกิดความเบื่อหน่าย เพราะโดยปกติแล้ว คนเราควรมีความรู้สึกตั้งตารอที่จะได้รับประทานอาหารใหม่ ๆ […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

อาหารเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยง หากไม่อยากให้ หอบหืด กำเริบ

อาการ หอบหืด กำเริบ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้น คือ อาหารที่คุณรับประทาน แล้วจริงหรือไม่! ที่อาหารสามารถกระตุ้นการเกิดหอบหืดได้ …โชคไม่ดีที่นี่เป็นความจริง ฉะนั้นแล้วอาหารประเภทใด? ที่ควรหลีกเลี่ยงล่ะ… ลองอ่านบทความที่ Hello คุณหมอ ได้รวบรวมข้อมูลมาให้และลองสอบถามคุณหมอของคุณดูว่า คุณควรปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อการเลือกรับประทานอาหารอย่างปลอดภัย เกี่ยวกับการดูแลตัวเองของผู้ป่วยโรค หอบ หืดอย่างถูกต้อง อาหารที่เสี่ยงทำให้ หอบหืด กำเริบ อาหารที่มีสารกันบูด หรือ ซัลไฟต์เป็นส่วนประกอบ สารในกลุ่มซัลไฟต์ (Sulfites) เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันไม่ให้สีของผลไม้อบแห้งเปลี่ยนสี ลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และทำให้ผลไม้สุก บางคนอาจได้รับผลข้างเคียงจากสารนี้เพียงเล็กน้อย เช่น เกิดลมพิษ สำหรับบางคนอาจเกิดอาการที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นหายใจติดขัด อาการช็อค ความดันโลหิตต่ำ ปวดท้องหรือท้องร่วง ในกรณีของผู้ป่วยหอบหืด ปฎิกิริยาที่รุนแรงหลังจากทานผลไม้อบแห้ง ที่มีส่วนผสมของสารซัลไฟต์นั้น มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูง สารซัลไฟต์สามารถพบได้ ในผลไม้อบแห้ง อย่าง แครนเบอร์รี่ ลูกเกด สับปะรด มันฝรั่งสำเร็จรูป ไวน์ เบียร์ ชา น้ำผลไม้ ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ แยม ซุปกึ่งสำเร็จรูป […]


การควบคุมอาหารและการลดน้ำหนัก

อาหารลดน้ำหนัก ที่ควรเลือกรับประทาน

อาหารลดน้ำหนัก ที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน อาจมีอยู่มากมาย เช่น ไข่ โยเกิร์ต เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ผลไม้บางชนิด ผักใบเขียว ซึ่งล้วนแต่เป็นอาหารที่อาจสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงาน ลดไขมันไม่ดีในเลือด มีไฟเบอร์สูง ช่วยให้อิ่มนาน และมีแคลอรี่ต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดหรือควบคุมน้ำหนัก โดยที่ยังคงได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อร่างกาย และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ [embed-health-tool-bmi] อาหารลดน้ำหนัก ที่ควรเลือกรับประทาน ไข่ ไข่เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เนื่องจากไข่มีโปรตีนและไขมันดีสูง และมีแคลอรีน้อย ช่วยทำให้อิ่มได้นาน ในขณะเดียวกันก็ยังอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย จึงทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ดีต่อสุขภาพ ในงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกิน จำนวน 30 คน กินไข่เป็นอาหารเช้า แทนการกินขนมปังเบเกิล ผลการวิจัยพบว่า การกินไข่มื้อเช้าช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่ม และทำให้กินน้อยลงในช่วงเวลา 36 ชั่วโมงต่อมา อีกทั้งงานวิจัยอีกหนึ่งชิ้นซึ่งให้กลุ่มตัวอย่างที่เป็นหญิงสาวที่เป็นโรคอ้วน กินอาหารเช้าประเภทเป็นโปรตีน 35 กรัม ซึ่งเป็นไข่และไส้กรอกเนื้อ ทำให้รู้สึกอิ่มมากกว่า และส่งผลต่อเนื่องมาถึงตอนเย็น ทำให้สามารถเลือกกินอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลน้อยลง เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่กินขนมปังหรือซีเรียลเป็นอาหารเช้า บางคนอาจกังวลว่า ไข่ อาจมีคอเลสเตอรอลสูง และส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่มีงานวิจัยที่ชี้ว่า การรับประทานไข่ไม่มีผลต่อระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย หรือทำให้หัวใจวายแต่อย่างใด แอปเปิ้ล แอปเปิ้ลเป็นอีกหนึ่งอาหารลดน้ำหนักที่ดี การรับประทานแอปเปิ้ลสด โดยเฉพาะแอปเปิ้ลที่ไม่ปอกเปลือกจะทำให้ร่างกายได้รับไฟเบอร์สูง ทำให้อิ่มท้องได้นาน ลดการกินจุบกินจิบระหว่างวัน นอกจากนี้ เส้นใยอาหารยังดีต่อสุขภาพ โดยมีงานวิจัยที่ให้ข้อมูลว่าการกินอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์จะช่วยลดระดับแอลดีแอล […]


ข้อมูลโภชนาการ

กาแฟ ประโยชน์ และข้อควรระวังในการบริโภคที่ควรรู้

กาแฟ เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ในกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง และมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์กับร่างกายอีกมากมาย แต่ในขณะเดียวกัน การบริโภคกาแฟมากเกินไปก็อาจส่งผลให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ [embed-health-tool-”bmr”] กาแฟ คืออะไร กาแฟ คือเครื่องดื่มที่ได้จากการชงเมล็ดกาแฟคั่วกับน้ำ ซึ่งมีอยู่มากมายหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวิธีการชงและส่วนผสม กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยทั่วไป คนมักนิยมดื่มกาแฟเพื่อหวังผลการกระตุ้นประสาทให้ตื่นตัวจากคาเฟอีน อย่างไรก็ตาม บางคนก็อาจดื่มกาแฟเพื่อจุดประสงค์อื่น ๆ เช่น ชื่นชอบในรสชาติ หรือหวังผลเพื่อสุขภาพอื่น ๆ คุณค่าทางโภชนาการของกาแฟ กาแฟดำ 1 แก้ว (30 กรัม) อาจมีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้ พลังงาน 2.7 กิโลแคลอรี่ คาเฟอีน 64 มก. โพแทสเซียม 35 มก. แมกนีเซียม 24 มก. โซเดียม 4.2 มก. ฟอสฟอรัส 2 มก. ไนอาซิน 1.5 มก. อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์ วิธีการเตรียมเมล็ดกาแฟ ตลอดจนถึงการชงกาแฟ อาจส่งผลกระทบต่อคุณค่าทางโภชนาการของกาแฟได้ ประโยชน์ของกาแฟ ช่วยเผาผลาญไขมัน คาเฟอีน เป็นหนึ่งในสารธรรมชาติไม่กี่ชนิด ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า อาจสามารถช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน