โภชนาการเพื่อสุขภาพ

"You are what you eat" อาหารที่คุณรับประทาน มีความสำคัญอย่างมาก ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่น่าเสียดายที่ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ โภชนาการเพื่อสุขภาพ อยู่มากมาย ดังนั้น การแยกแยะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เรื่องเด่นประจำหมวด

โภชนาการเพื่อสุขภาพ

Sedentary Lifestyle เลิกได้ เลิก! รู้จัก “พฤติกรรมเนือยนิ่ง” ต้นเหตุของผลเสียต่อสุขภาพ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในทุกวันนี้ ได้เข้ามามีบทบาทต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแต่ละวันเป็นอย่างมาก จะทำอะไรก็ง่ายและสะดวกไปหมด แม้จะแทบไม่ได้ขยับตัวก็ทำอะไรสำเร็จลุล่วงไปได้หลายอย่าง อยากทานอะไร ซื้ออะไร แค่กดสั่งผ่านแอปฯ ก็ได้แล้ว ไหนจะธุรกรรมทางการเงิน ดูหนัง เล่นเกมส์ ดูทีวี ขอแค่มีแอปฯ มีอุปกรณ์ จะนั่งจะนอนอยู่กับที่ก็ทำได้ทั้งนั้น ในขณะเดียวกัน วิถีชีวิตบางแบบก็บีบบังคับให้ใครหลายๆ คนต้องนั่งอยู่นิ่งๆ อยู่กับที่เป็นเวลานาน เช่น คนทำงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานที่โต๊ะวันละ 8 ชั่วโมง ยังไม่รวมถึงการเดินทางที่ต้องขับรถหรือนั่งรถเป็นเวลานานๆ  จุดร่วมที่เหมือนกันของไลฟ์สไตล์เหล่านี้ คือการมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า “Sedentary Lifestyle” “พฤติกรรมเนือยนิ่ง” ไลฟ์สไตล์อันตราย ทำลายสุขภาพในระยะยาว พฤติกรรมเนือยนิ่ง คือพฤติกรรมที่มีการใช้พลังงานหรือการเคลื่อนไหวร่างกาย ต่ำกว่า 1.5 METs* (* METs คือ หน่วยอัตราพลังงานที่ใช้ในการทำกิจกรรม)1  ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา โดยเฉพาะโรคกลุ่ม NCDs กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ รวมถึงโรคอ้วน หลักฐานทางงานวิจัยชิ้นนึงได้ชี้ให้เห็นว่า การมีพฤติกรรมเนือยนิ่งมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ และโรค NCDs อื่นๆ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีค่าดัชนีมวลกาย […]

หมวดหมู่ โภชนาการเพื่อสุขภาพ เพิ่มเติม

สำรวจ โภชนาการเพื่อสุขภาพ

โภชนาการพิเศษ

รับประทานคีโต ป้องกันไมเกรน ได้จริงหรือไม่

ภาวะไมเกรนกำเริบนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความเครียด ความวิตกกังวล และสภาพแวดล้อม แต่สาเหตุที่แน่ชัดของโรคไมเกรนนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากอะไร ส่วนใหญ่แล้วแพทย์มักจะให้ยาเพื่อบรรเทาอาการไมเกรน แต่ก็ยังมีวิธีดูแลตัวเองมากมายเพื่อป้องกันอาการไมเกรน วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการ รับประทานคีโต ป้องกันไมเกรน ได้จริงหรือแค่ความเชื่อผิด ๆ กันแน่ ลองมาหาคำตอบกันในบทความนี้ค่ะ ความสัมพันธ์ระหว่างการรับประทานอาหารแบบคีโตกับไมเกรน การรับประทานอาหารคีโต หรือ คีโตเจนิค (Ketogenic diets) เป็นรูปแบบการรับประทานอาหารที่เน้นการรับประทานไขมันดี ลดการรับประทานคาร์ไฮเดรต โดยจะรับประทานคาร์โบไฮเดรตเพียง 5% โปรตีน 20% และไขมัน 70% ทำให้ร่างกายเกิดภาวะคีโตซิส (Ketosis) ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายจะเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ และใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงาน เมื่อเกิดการเผาผลาญไขมันเป็นเชื้อเพลิง ก็จะทำให้เกิด คีโตนบอดีส์ (Ketone bodies) ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่ถูกส่งไปยังสมองและหัวใจ นอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยป้องกันการสะสมของกลูตาเมต ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับการทำงานของสมอง หากร่างกายมีสารกลูตาเมตมากเกินไป อาจเกิดการทำลายเซลล์ประสาทและสมองได้ ซึ่งผู้ที่เซลล์ประสาทและสมองเกิดความเสียหายมักจะมีปัญหาไมเกรน รับประทานคีโต ป้องกันไมเกรน ได้อย่างไร จากการศึกษาและวิจัยเบื้องต้นพบว่าการรับประทานอาหารคีโต มีส่วนช่วยป้องกันและบรรเทาอาการไมเกรนได้ จากการศึกษาในปีพ.ศ. 2471 วรรณกรรมทางการแพทย์มีรายงานว่าผู้ที่มีอาการไมเกรน 39% ที่รับประทานอาหารแบบคีโต มีความรุนแรงของอาการไมเกรนลดลงและอาการไมเกรนกำเริบน้อยลง นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาอื่น ๆ ที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับการโจมตีของไมเกรนในผู้ที่รับประทานอาหารแบบคีโต […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ไขข้อสงสัย อาหารกระป๋อง ไม่ดีต่อสุขภาพจริง ๆ หรือ?

ในปัจจุบัน การรับประทานอาหารที่บรรจุกระป๋องนั้น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่สามารถเก็บไว้ได้นาน แต่ยังราคาถูก และสะดวกต่อการรับประทาน แต่อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ คนอาจยังคงมีความกังวลว่า อาหารกระป๋องอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งความจริงแล้วเป็นอย่างไรกันแน่ อาหารกระป๋อง ไม่ดีต่อสุขภาพจริงหรือ ลองมาหาคำตอบพร้อมกันกับ Hello คุณหมอ กันเลยค่ะ อาหารกระป๋อง คืออะไร อาหารกระป๋อง หมายถึงอาหารที่บรรจุภัณฑ์ลงในกระป๋อง เพื่อช่วยถนอมอาหาร และยืดอายุของอาหารนั้น ๆ ให้อยู่ได้นานขึ้น ในอดีตอาหารกระป๋องนั้นถูกพัฒนาขึ้น เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องเสบียงอาหารของทหาร ในช่วงที่มีสงคราม เมื่อสมัยศตวรรษที่ 18 เนื่องจากอาหารกระป๋องนั้นจะอยู่ได้นานกว่าอาหารปกติอย่างน้อย 1-5 ปี กระบวนการในการผลิตอาหารกระป๋องนั้นอาจจะแตกต่างกันออกไป แต่มักจะมีขั้นตอนหลักร่วมกันอยู่ 3 ประการ คือ กระบวนการแปรรูป โดยนำอาหารมาผ่านการแปรรูป เช่น ปรุงอาหาร ปอกเปลือก แกะเมล็ด หรือผ่าเป็นชิ้น กระบวนการปิดผนึก เพื่อซีลอาหารให้อยู่ในกระป๋องอย่างแน่นหนา ไม่ให้รั่วไหล กระบวนการให้ความร้อน เป็นการใช้ความร้อนสูงเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตรายหรือทำให้อาหารเน่าเสียออกไป ทำให้ช่วยยืดอายุของอาหารได้นานขึ้น อาหารกระป๋องนั้นรูปแบบต่าง ๆ มากมาย ทั้งปลากระป๋อง เนื้อกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป ตลอดไปจนถึงผักและผลไม้ต่าง ๆ ที่ผ่านการผ่าและปอกเปลือกมาเรียบร้อย พร้อมให้เรารับประทานได้ทันทีที่เปิดกระป๋อง อาหารกระป๋อง […]


ข้อมูลโภชนาการ

พุทรา ผลไม้พื้นบ้าน กับประโยชน์ต่อสุขภาพที่คุณควรรู้

คงจะพลาดกันไม่ได้กับ พุทรา อีกหนึ่งผลไม้ขนาดเล็ก เนื้อสัมผัสกรอบแบบพอดี ๆ มาพร้อมรสชาติหวานชื่นใจยามคุณรับประทาน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า.. พุทราที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ขนาดเล็กนี้ ก็อาจสามารถให้คุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพได้ไม่น้อยเช่นกัน แต่จะมีข้อดีอย่างไรบ้างนั้น ลองมาติดตามได้ในบทความของ Hello คุณหมอ วันนี้ ที่นำมาฝากทุกคนกันได้เลยค่ะ ทำความรู้จักกับ พุทรา ให้มากขึ้นกันเถอะ พุทราเป็นผลไม้ที่เติบโตมาจากต้นไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งมีชื่อเชิงทางวิทยาศาสตร์ว่า Ziziphus jujuba โดยมีถิ่นกำเนิดส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน หรือแถบทางเอเชียตอนใต้ เมื่อผลสุกคุณจะสังเกตได้ว่าพุทราจะมีการเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล แดงเข้ม หรือม่วง พร้อมมีรสชาติหวานกรอบ และรอยย่นบนพื้นผิวเล็กน้อย บางครั้งก็พบในท้องตลาดได้บ่อยในรูปแบบผลไม้แปรรูป เช่น อบแห้ง น้ำเชื่อม ผงชา เพื่อนำมาใช้ปรุงเป็นยาสมุนไพร หรือเครื่องดื่มไว้รับประทาน คุณประโยชน์ต่อสุขภาพจากพุทรา สารอาหารในพุทราประกอบไปด้วย โปรตีน ไฟเบอร์ วิตามินซี โพแทสเซียม ที่ค่อนข้างมีส่วนช่วยปรับปรุงสุขภาพของคุณเป็นอย่างมาก และให้ประโยชน์แก่ร่างกายของคุณได้เป็นอย่างดี โดยคุณประโยชน์ของพุทราต่อสุขภาพอาจมีได้ ดังต่อไปนี้ เพิ่มภูมิคุ้มกัน เพื่อต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง เนื่องจากพุทรามีกรดไขมันไม่อิ่มตัวอยู่ภายใน เช่น กรดโอเลอิก (Oleic acid) กรดลิโนเลอิก (Linoleic acid) และกรดปาล์มิติก (Palmitic acid) ที่จำเป็นต่อร่างกายของเราในการช่วยป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง อีกทั้งยังมีการศึกษาอีกชิ้นหนึ่งพบว่า ผลไม้ชนิดนี้ยังมีกรดอีกหลายชนิด ที่เป็นสารประกอบคอยช่วยปรับปรุงกระบวนการ อะพอพโทซิส […]


ข้อมูลโภชนาการ

กระชาย สมุนไพรไทยที่ให้สรรพคุณแก่ร่างกาย

กระชาย เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาค่อนข้างสูง ให้รสชาติเผ็ดร้อน ส่วนต่าง ๆ ของกระชายสามารถนำมาประกอบอาหารได้เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะส่วนที่เป็นรากหรือเหง้า ซึ่งมีสารอาหารสำคัญเป็นกลุ่มของแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น โซเดียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินซี โดยประโยชน์ของกระชายต่อสุขภาพมีหลายประการ เช่น อาจมีส่วนช่วยให้เซลล์และระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรง ช่วยต้านการอักเสบจากอนุมูลอิสระ ป้องกันไม่ให้เจ็บป่วยบ่อย ช่วยให้สามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้นเมื่อมีอาการเจ็บป่วย [embed-health-tool-bmi] สารอาหารในกระชายมีอะไรบ้าง กระชาย (Fingerroot) จัดเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยา ให้สารอาหารสำคัญเป็นกลุ่มของแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ โซเดียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินซี  สารอาหารที่โดดเด่นอีกชนิดหนึ่ง คือ กลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด เช่น ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) สารพิโนสโตรบิน (Pinostrobin) คุณประโยชน์ต่อสุขภาพจาก กระชาย กระชายเป็นพืชสมุนไพรที่อยู่คู่ครัวไทยมาช้านาน มีสรรพคุณทางยาและคุณประโยชน์หลายประการ ดังรายละเอียดต่อไปนี้ ป้องกันเชื้อแบคทีเรีย แบคทีเรียมีส่วนสำคัญในการก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ โดยเฉพาะแบคทีเรียในกลุ่มของ บาซิลลัส ซีเรียส (Bacillus Cereus) ลิสทิเรีย โมโนไซโตจิเนส (Listeria Monocytogenes) และสแตปฟิโลคอคคัส […]


สูตรอาหารเพื่อสุขภาพ

สูตรยำตะไคร้

บทความนี้ Hello คุณหมอ นำ สูตรยำตะไคร้ มาให้ทุกคนได้ลองทำกันดูค่ะ ขั้นตอนการทำนั้นไม่ยุ่งยากและสามารถหาซื้อวัตถุดิบได้ตามท้องตลาดทั่วไป นอกจากนี้เมนูนี้ถือได้ว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย จะมีส่วนผสมและวิธีการทำอย่างไร ติดตามอ่านได้ในบทความนี้เลยค่ะ ตะไคร้ ..สมุนไพรพื้นบ้านที่คนไทยควรรู้จัก ตะไคร้ (Lemon Grass /Lapine) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cymbopogon โดย ตะไคร้ นั้นถือเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาสูง ซึ่งมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายมากมาย เช่น ขับปัสสาวะ ปรับสมดุลระบบลำไส้ ระบบภายใน และยังสามารถนำมาสกัดทำน้ำมันหอมระเหย ช่วยบรรเทาและส่งเสริมสุขภาพจิต นอกจากนี้คุณยังสามารถนำพืชสมุนไพรชนิดนี้มาประกอบอาหารเพื่อสุขภาพได้อีกหลากหลายเมนู เช่น ยำตะไคร้ ปลากะพงย่างตะไคร้ ไก่ผัดตะไคร้ ชาตะไคร้ เป็นต้น ทีนี้เราลองมาดู สูตรยำตะไคร้ ไปพร้อม ๆ กันค่ะ สูตรยำตะไคร้ สำหรับ สูตรยำตะไคร้ ที่เรานำมาฝากกัน มีส่วนผสมและวิธีทำดังต่อไปนี้ ส่วนผสม ตะไคร้สด 15 ก้าน ขิง (สับละเอียด) ¼ ถ้วย เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ 2 ช้อนโต๊ะ กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาวสด 1 ½ ช้อนโต๊ะ น้ำตาล […]


การควบคุมอาหารและการลดน้ำหนัก

โปรไบโอติก ช่วยลดน้ำหนัก และไขมันได้จริงหรือไม่

โปรไบโอติก เป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มักจะพบได้ในอาหารหมักดอง โยเกิร์ต กิมจิ บางครั้งก็อยู่ในรูปแบบของอาหารเสริม การรับประทานโปรไบโอติกช่วยให้ลำไส้เกิดความสมดุล ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารและภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า การรับประทาน โปรไบโอติก ช่วยลดน้ำหนัก และไขมันหน้าท้องได้ โปรไบโอติก คืออะไร โปรไบโอติก (Probiotics) เป็นแบคทีเรียและยีสต์ที่มีชีวิต ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยอาหารที่สามารถพบโปรไบโอติกได้มากที่สุดคืออาหารประเภทหมักดอง อย่างเช่น ผักดอง กิมจิ โยเกิร์ต เป็นต้น การรับประทานโปรไบโอติกหรืออาหารเสริมโปรไบโอติกนั้นดีต่อระบบย่อยอาหาร ช่วยให้ลำไส้แข็งแรง และยังมีส่วนช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้การรับประทานโปรไบโอติกยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่นด้วย เช่น อาการลำไส้แปรปรวน โรคลำไส้อักเสบอาการท้องร่วงที่เกิดจากยาปฏิชีวนะ สุขภาพช่องปาก ป้องกันโรคภูมิแพ้และไข้หวัด โปรไบโอติก ช่วยลดน้ำหนัก ได้อย่างไร งานวิจัยมีคำตอบ! ร่างกายของมนุษย์มีจุลินทรีย์ แบคทีเรียอยู่มากมาย ทั้งชนิดที่ไม่ดีและชนิดที่ดี แบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้มีส่วนช่วยย่อยสลายและย่อยอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยสร้างสารอาหารและวิตามิน เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ แบคทีเรียอย่างโปรไบโอติกจะกินเส้นใยและเปลี่ยนเป็นสารประกอบที่มีประโยชน์ ที่สำคัญนักวิจัยเชื่อว่า แบคทีเรียอย่างโปรไบโอติกที่เป็ยแบคทีเรียชนิดดี นั้นมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก และการเพิ่มน้ำหนักอีกด้วย ทีนี้ลองมาดูตัวอย่างงานวิจัยดี ๆ ที่มีการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับ โปรไบโอติก และการลดน้ำหนัก ที่ทางเรารวบรวมมาฝากกันในบทความนี้ค่ะ งานวิจัยชิ้นที่ 1 ด้วยระบบการย่อยอาหารที่ไม่แข็งแรง อาจนำไปสู่การเกิดความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ (Dysbiosis) จนทำให้เกิดโรคทางระบบทางเดินอาหาร เช่น […]


ข้อมูลโภชนาการ

มันเทศ ประโยชน์ต่อสุขภาพ และข้อควรระวัง

มันเทศ เป็นพืชตระกูลหัวที่มีหลากสี ทั้งสีขาว สีเหลือง สีส้ม และสีม่วง มีรสสัมผัสที่หวาน นุ่ม นำมาปรุงได้ทั้งเมนูคาวและหวาน มันเทศเป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะสารเบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพดวงตา นอกจากนี้ มันเทศยังมีไขมันต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีอาการแพ้มันเทศ หรือผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นนิ่วในไต ควรระมัดระวังการรับประทานมันเทศ เนื่องจากอาจทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ [embed-health-tool-”bmr”] คุณค่าทางโภชนาการของมันเทศ มันเทศอุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญหลายชนิด โดยเฉพาะสารอาหารจำพวกไฟเบอร์และวิตามิน ในมันเทศมีวิตามินมากมาย ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินอี มากไปกว่านั้น มันเทศยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังต่อไปนี้ โพแทสเซียม แมงกานีส ทองแดง ไนอาซิน (Niacin) สารต้านอนุมูลอิสระ มากไปกว่านั้น มันเทศยังเป็นพืชที่มีไขมันน้อยถึงน้อยมาก โดย มันเทศดิบ 100 กรัม จะมีปริมาณไขมันอยู่แค่เพียง 0.1 กรัมเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก ๆ เหมาะเป็นอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการลดหรืองดไขมันเป็นอย่างยิ่ง ประโยชน์ของมันเทศ บำรุงสายตา มันเทศมีสารเบตาแคโรทีน ซึ่งเป็นกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้ในผักและผลไม้ที่มีสีเหลือง เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว สารเบตาแคโรทีนจะแปรเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงสายตา กระตุ้นการทำงานของตัวรับแสงในดวงตา และยังมีแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ที่ดวงตาอีกด้วย ต้านมะเร็ง มันเทศอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ซึ่งจากผลการวิจัยพบว่า การรับประทานอาหารที่มีสารแคโรทีนอยด์ มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้ หรือถ้าหากเป็นมันเทศสีม่วงจะมีแอนโทไซยานิน […]


ข้อมูลโภชนาการ

กระเทียม เสริมภูมิคุ้มกัน ในผู้ติดเชื้อเอชไอวี ได้จริงหรือไม่

เป็นที่ทราบกันว่า กระเทียม ถือเป็นพืชที่มีความสำคัญในการลดความดันโลหิต และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้ มากไปกว่านั้นยังมีงานวิจัยบางชิ้นได้ทำการศึกษากระเทียมกับระบบภูมิคุ้มกันในผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ว่าส่งผลต่อกันอย่างไร วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ กระเทียม เสริมภูมิคุ้มกัน ในผู้ติดเชื้อเอชไอวี ได้หรือไม่ มาฝากคุณผู้อ่านกันค่ะ กระเทียม เสริมภูมิคุ้มกัน ในผู้ติดเชื้อเอชไอวี ได้หรือไม่ การติดเชื้อเอชไอวีทำให้เซลล์ T ซึ่งเป็นเซลล์ชนิดหนึ่งในระบบภูมิคุ้มกันถูกโจมตี เซลล์ T จะทำหน้าที่ต่อสู้กับไวรัสและเซลล์เนื้องอกในร่างกาย เมื่อติดเชื้อเอชไอวีก็จะทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้ามาได้ยากขึ้น หรือเรียกง่าย ๆ ว่าระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงนั่นเอง ทำให้ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อและไวรัสบางประเภทได้ง่ายขึ้น บางครั้งการติดเชื้ออาจมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งกระเทียมมีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้นได้ กระเทียมจึงอาจมีประโยชน์ต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี การวิเคราะห์ที่ได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Journal of Immunology Research ชี้ให้เห็นว่ากระเทียมสามารถปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโดย และมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์บางประเภท เช่น เซลล์นักฆ่าตามธรรมชาติ (Natural Killer cells หรือ NK Cell) ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ที่มีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน มีหน้าที่การทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสและตอบสนองต่อการก่อตัวของก้อนมะเร็งและมาโครฟาจ (macrophages) โดยมีหน้าที่ช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ได้ศึกษาในกลุ่มผู้ที่มีอายุในช่วง 21-50 ปี โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

เคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณ หยุดกินมากเกินไป

การรับประทานอาหาร ถือเป็นอีกเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการดูแลตนเองอย่างดี ไม่เพียงแต่เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ยังจำเป็นต้องเลือกรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป หากรับประทานอาหารมากเกินไป นอกจากจากจะทำให้อ้วนขึ้นแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ วันนี้ Hello คุณหมอ มีเคล็ดลับสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารมากเกินไปมาฝากค่ะ ว่าทำอย่างไรจึงจะ หยุดกินมากเกินไป ให้ได้ผล เคล็ดลับวิธี หยุดกินมากเกินไป ด้วยวิธีเหล่านี้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาในการควบคุมอาหารหรือรับประทานอาหารมากเกินไป ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ยังคงรับประทานอาหารในปริมาณมากไม่เปลี่ยน เคล็ดลับเหล่านี้อาจช่วยควบคุมความอยากอาหาร และช่วยลดความเสี่ยงในการกินอาหารมากเกินไปได้ มีสมาธิกับการรับประทานอาหาร โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะทำกิจกรรมระหว่างรับประทานอาหาร ไม่ว่าจะเป็นดูทีวี เล่นมือถือ หรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งจากการทบทวนการศึกษาจำนวน 24 ชิ้น ในปีพ.ศ. 2556 พบว่าผู้ที่ไม่มีสมาธิระหว่างการบริโภคจะทำให้บริโภคอาหารเพิ่มขึ้น ดังนั้นการจำกัดสิ่งที่รบกวนในระหว่างการรับประทานอาหาร จะช่วยให้ร่างกายจดจ่อ มีสมาธิกับการรับประทานมากขึ้น และช่วยลดการรับประทานอาหารมากเกินไปได้ รับประทานอาหารอย่างช้า ๆ การรับประทานอาหารอย่างช้า ๆ ช่วยให้สมองมีเวลาในการคิดและตัดสินใจมากขึ้น ทำให้มีเวลารับรู้ได้ว่าท้องอิ่มแล้วหรือยัง หากอิ่มจะส่งสัญญาณไปยังสมองและช่วยให้หยุดกินได้ จากการศึกษาในปีพ.ศ. 2558 พบว่าผู้ใหญ่ที่กินซุปมะเขือเทศอย่างช้า ๆ 400 มิลลิลิตร รู้สึกอิ่มหลัง กว่าคนที่กินอย่างรวดเร็ว หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้รับประทานเยอะ มีอาหารบางชนิดที่สามารถกระตุ้น การกินมากเกินไป ได้ […]


ข้อมูลโภชนาการ

ส่งต่อความสุข ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส ด้วย ไก่งวง ดีต่อสุขภาพ

ไก่งวงถือได้ว่าเป็นเมนูอาหารสุดพิเศษในค่ำคืนการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาส นอกจากไก่งวงจะส่งต่อความสุขให้ทุกคนแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย บทความนี้ Hello คุณหมอ พาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “ไก่งวง” ให้มากขึ้นกันค่ะ จะมีคุณค่าทางสารอาหารและประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง ติดตามอ่านได้ในบทความนี้เลยค่ะ ทำความรู้จัก ไก่งวง ไก่งวงถือได้ว่าเป็นเมนูสุดพิเศษที่ใช้ในการจัดงานเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลสำคัญหลาย ๆ เทศกาล เช่น วันคริสต์มาส วันขอบคุณพระเจ้า นอกจากจะเป็นเมนูที่ทำให้หลาย ๆ คนมีความสุขกับการลิ้มรสไก่งวง กับคนรักในช่วงเทศกาลสุดพิเศษนี้แล้ว ไก่งวงยังอุดมด้วยคุณค่าทางสารอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เช่น บำรุงสุขภาพหัวใจ ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด เป็นต้น ข้อมูลโภชนาการ ไก่งวง ปริมาณ 84 กรัม ประกอบด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ดังต่อไปนี้ พลังงาน 117 แคลอรี่ โปรตีน 24 กรัม ไขมัน 2 กรัม คาร์โบไฮเดรต 0 กรัม วิตามินบี 3 61% ของปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับต่อวัน วิตามินบี  6 49% ของปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับต่อวัน วิตามินบี 12 29% ของปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับต่อวัน ซีลีเนียม (Selenium) 46% ของปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับต่อวัน สังกะสี 12% ของปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับต่อวัน โซเดียม 26% ของปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับต่อวัน ฟอสฟอรัส 28% ของปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับต่อวัน โคลีน (Choline) 12% ของปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับต่อวัน แมกนีเซียม 6% ของปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับต่อวัน โพแทสเซียม 4% ของปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับต่อวัน 5 คุณประโยชน์จาก ไก่งวง อร่อย แถมดีต่อสุขภาพ เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุมากมาย […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน