โรคทางเดินหายใจ

ระบบทางเดินหายใจ มีส่วนสำคัญในการทำงานตามปกติของร่างกาย ดังนั้น คุณจึงควรเรียนรู้วิธีการรักษาสุขภาพของระบบทางเดินหายใจของคุณให้แข็งแรง ห่างไกลจากความเจ็บป่วย เรียนรู้เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ รวมถึง โรคทางเดินหายใจ ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

โรคทางเดินหายใจ

น้ำมูกไหลเป็นน้ำใสๆ ไม่หยุด ทำอย่างไรจึงจะหาย

น้ำมูกไหลเป็นน้ำใส ๆ ไม่หยุด เป็นอาการที่ร่างกายมีของเหลวเป็นน้ำใส ๆ ไหลออกมาทางจมูกตลอดเวลา เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคภูมิแพ้อากาศ ไข้หวัด รักษาให้หายได้โดยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้หรือบางรายอาจต้องรับประทานยาเพื่อรักษาอาการ หาก น้ำมูกไหลเป็นน้ำใสๆ ไม่หยุด เป็นระยะเวลานาน อาจเป็นสัญญาณเตือนภาวะสุขภาพที่ต้องระวัง เช่น โรคริดสีดวงจมูก โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษา [embed-health-tool-bmi] น้ำมูกไหลเป็นน้ำใสๆ ไม่หยุด เกิดจากอะไร อาการน้ำมูกไหลเป็นน้ำใสๆ ไม่หยุดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้ สาเหตุจากโรคภูมิแพ้ (Allergy) เป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้มากกว่าปกติ เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้เกิดอาการน้ำมูกไหลเป็นน้ำใส ๆ ไม่หยุด นอกจากนี้ ยังอาจก่อให้เกิดอาการร่วมอื่น ๆ เช่น จาม ไอเรื้อรัง คันและระคายเคืองบริเวณตาหรือคอ สาเหตุจากโรคอื่น ๆ ยกตัวอย่าง เช่น โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง เกิดจากการติดเชื้อต่าง ๆ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส หรือมีอาการแพ้อย่างรุนแรง จนทำให้มีอาการปวด คัดจมูก น้ำมูกไหล หายใจติดขัด มีเสมหะข้นเหนียว ปวดใบหน้าบริเวณหน้าผาก หัวตา หู […]

หมวดหมู่ โรคทางเดินหายใจ เพิ่มเติม

ไข้หวัด

สำรวจ โรคทางเดินหายใจ

ปัญหาระบบทางเดินหายใจแบบอื่น

คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ (Carbon Monoxide Poisoning)

คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ (Carbon monoxide poisoning) หมายถึงภาวะที่เกิดขึ้น เมื่อเราสูดดมเอาก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปมากเกินไป จนทำให้ระดับของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในเลือดสูง คำจำกัดความคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ คืออะไร คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ (Carbon monoxide poisoning) หมายถึงภาวะที่เกิดขึ้น เมื่อเราสูดดมเอาก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปมากเกินไป จนทำให้ระดับของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในเลือดสูง ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์นี้จะเข้าไปแทนที่ออกซิเจนภายในเซลล์เม็ดเลือดแดง และทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อ อวัยวะ และอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้ เราสามารถพบก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น ท่อไอเสียของรถยนต์ ฮีตเตอร์ เตาถ่านปิ้งย่าง เครื่องยนต์ของรถยนต์ เครื่องปั่นไฟฟ้า เตาแก๊สทำอาหาร การสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในปริมาณเล็กน้อยนั้นอาจจะไม่ทำให้เกิดอันตรายอะไร แต่หากคุณได้รับก๊าซนี้ในปริมาณมาก เช่น จากการเผาถ่านในห้องอับ หรือเปิดเครื่องรถยนต์ไว้แล้วจอดนอนอยู่กับที่ ก็อาจทำให้ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์สะสมอยู่มากเกินไป จนกลายเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษพบบ่อยแค่ไหน ภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะกับผู้ที่ต้องทำงานเกี่ยวกับเครื่องยนต์ หรือเตาถ่านในบริเวณที่เป็นห้องอับ ไม่มีอากาศถ่ายเท หรือผู้ที่ต้องเดินทางไกลด้วยรถยนต์ และจอดนอนพักในรถยนตร์โดยติดเครื่องยนต์ไว้ อาการอาการของคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ อาการที่พบได้บ่อยมีดังต่อไปนี้ ปวดหัวตื้อ ๆ วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน หายใจไม่ออก สับสน มองเห็นไม่ชัด ตาพร่า หมดสติ ภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษนั้นจะมีอันตรายมากกับผู้ที่หมดสติ หรือผู้ที่มึนเมา เพราะอาจเกิดความเสียหายต่อสมอง หรือเสียชีวิตได้ ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวกันเสียอีก ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด สัญญาณเตือนของภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษนั้นอาจจะมองออกค่อนข้างยาก หากคุณสังเกตพบว่าคุณหรือคนรู้จักอาจจะมีอาการของภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ ควรรีบระบายอากาศโดยรอบ และนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลในทันที หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับอาการของโรคโปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดควรปรึกษาแพทย์ เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ สาเหตุสาเหตุของคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ ภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษนั้นเกิดจากการที่ที่เราสูดดมเอาก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปมากจนเกินไป จนส่งผลกระทบต่อร่างกาย ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์นั้นเกิดขึ้นจากการที่เชื้อเพลงต่าง ๆ เช่น แก๊ส น้ำมัน ถ่าน หรือไม้ เผาไหม้อย่างไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ยังอาจเกิดขึ้นจากการทำงานของเครื่องยนต์ การทำอาหาร หรือเผาฟืน แม้ว่าตามปกติแล้วกระบวนการเหล่านี้จะไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในปริมาณที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่หากในบริเวณนั้นเป็นห้องอับ อากาศไม่ถ่ายเท […]


โรคถุงลมโป่งพอง

ถุงลมโป่งพอง โรคอันตรายในระบบทางเดินหายใจ ที่แม้ไม่สูบบุหรี่ก็มีโอกาสเป็นได้

ถุงลมโป่งพอง เป็นอาการทางสุขภาพที่เกิดจากสาเหตุหลักอย่างการสูบบุหรี่ ดังที่เรามักจะเห็นจากการรณรงค์ผ่านสื่อสาธารณะ วิดิโอ ภาพ หนังสือ หรือคู่มือสุขภาพต่าง ๆ ว่าให้เลิกสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่เสี่ยงเป็นถุงลมโป่งพอง แต่รู้หรือไม่ว่า โรคถุงลมโป่งพอง ไม่ต้องสูบบุหรี่ก็มีโอกาสเสี่ยงได้เหมือนกัน แต่อะไรบ้างที่ทำให้เราเสี่ยงเป็นถุงลมโป่งพอง Hello คุณหมอ มีคำตอบมาฝากทุกท่านในบทความนี้ค่ะ ถุงลมโป่งพอง คืออะไร ถุงลมโป่งพอง หรือ โรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema) เป็นหนึ่งในภาวะสุขภาพของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ผู้ที่มีอาการของโรคถุงลมโป่งพองจะหายใจถี่และสั้น เนื่องมาจากถุงลมและผนังถุงลมถูกทำลายจนเสื่อมสภาพ จึงเกิดการอุดกั้นอากาศ อากาศเก่าก็จะถูกกักเก็บเอาไว้ในถุงลมจนไม่เหลือพื้นที่ให้กับออกซิเจนใหม่ที่เข้ามา เวลาที่หายใจออกจึงมีอากาศตกค้างอยู่ภายในถุงลม เมื่อจะหายใจเข้าก็จะหายใจได้ไม่เต็มที่เนื่องจากอากาศที่ตกค้างอยู่ภายในถุงลมมีมากเกินไป จนไม่สามารถกักเก็บเอาอากาศใหม่เข้าไปได้ ทำให้เวลาหายใจจะรู้สึกเหนื่อยหอบ หายใจถี่สั้น และมีอาการไอร่วมด้วย สาเหตุของ ถุงลมโป่งพอง โรคถุงลมโป่งพอง เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้ การสูบบุหรี่ แม้ว่าโดยทั่วไป โรคถุงลมโป่งพอง มักจะมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ หรือสูบบุหรี่ติดต่อกันเป็นเวลานาน แต่แพทย์ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเหตุใดการสูบบุหรี่จึงทำให้เป็นโรคถุงลมโป่งพอง แต่เป็นไปได้ว่าสารเคมีและสารพิษในบุหรี่มีส่วนในการทำลายปอด ผนังปอด ถุงลม รวมถึงผนังของถุงลมด้วย อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่เป็นที่ชัดเจนในแง่ที่ว่าบุหรี่ทำให้เป็นถุงลมโป่งพองได้อย่างไร แต่ผลการวิจัยและผลการศึกษาจากหลายสถาบันพบว่า ผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสเป็นถุงลมโป่งพองมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ สูงถึง 6 เท่าเลยทีเดียว ภาวะขาดแคลนAAT เอเอที (AAT) หรือ Alpha-1 antitrypsin เป็นโปรตีนธรรมชาติที่อยู่ในเลือดของเรา […]


ปัญหาระบบทางเดินหายใจแบบอื่น

ภาวะพร่องออกซิเจน (Hypoxia)

ภาวะพร่องออกซิเจน (Hypoxia) เกิดขึ้นเมื่อระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าปกติ เลือดไม่สามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของเนื้อเยื่อในร่างกายได้  ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการไอ ผิวหนังเปลี่ยนสี ระบบหายใจผิดปกติ เป็นต้น คำจำกัดความภาวะพร่องออกซิเจน (Hypoxia) คืออะไร ภาวะพร่องออกซิเจน (Hypoxia) เกิดขึ้นเมื่อระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าปกติ เลือดไม่สามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของเนื้อเยื่อในร่างกายได้  ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการไอ ผิวหนังเปลี่ยนสี ระบบหายใจผิดปกติ เป็นต้น ภาวะพร่องออกซิเจน พบได้บ่อยแค่ไหน ภาวะพร่องออกซิเจนสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน  โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจและปอด โรคหอบหืด ถุงลมโป่งพอง และโรคหลอดลมอักเสบ เป็นต้น อาการอาการของภาวะพร่องออกซิเจน ผู้ป่วยที่อยู่ภาวะพร่องออกซิเจน จะมีอาการดังต่อไปนี้ ปวดศีรษะ หายใจถี่ หัวใจเต้นเร็ว ไอ หายใจไม่ออก รู้สึกสับสน เหงื่อออก ควรไปพบหมอเมื่อใด หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ สาเหตุสาเหตุของของภาวะพร่องออกซิเจน โดยปกติปอดจะต้องสูดลมอากาศแลกเปลี่ยนออกซิเจนกับคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้เพียงพอต่อการหายใจ มีการไหลเวียนเลือดไปยังปอดและนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยภาวะพร่องออกซิเจนนั้นเกิดจากหลายสาเหตุและหลายปัจจัย ดังนี้ โรคโลหิตจาง กลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (Acute Respiratory Distress Syndrome หรือ ARDS) โรคหอบหืด ความบกพร่องของหัวใจแต่กำเนิด โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง โรคถุงลมโป่งพอง โรคปอดอักเสบ อาการบวมน้ำในปอด เส้นเลือดอุดตันในปอด หยุดหายใจขณะหลับ การวินิจฉัยและการรักษาข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การวินิจฉัยภาวะพร่องออกซิเจน  ในการวินิจฉัย แพทย์จะทำการตรวจร่างกายฟังเสียงหัวใจและปอดของผู้ป่วย เพื่อดูสัญญาณความผิดปกติ รวมถึงการวินิจฉัยอื่น ๆ เพื่อตรวจสอบระดับออกซิเจนในร่างกาย ดังนี้ ตรวจวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (Pulse oximetry) แพทย์จะใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์หนีบที่ปลายนิ้วเพื่อดูปริมาณออกซิเจนในเลือด ทดสอบหลอดเลือดแดง […]


โรคหอบหืด

ชาบรรเทาอาการหอบหืด ดื่มแล้วช่วยให้หายใจโล่งขึ้น

“ชา” ถือเป็นเครื่องดื่มในดวงใจของใครหลายๆ คน เนื่องจากมีให้เลือกหลายชนิด ชาบางชนิดนอกจากจะมีกลิ่นหอม เมื่อดื่มแล้วยังช่วยทำให้ผ่อนคลายได้อีกด้วย มากไปกว่านั้นแล้ว ชาบางชนิดยังสามารถช่วยบรรเทาอาการหอบหืด และทำให้หายใจได้โล่งขึ้นอีกด้วย แต่ ชาบรรเทาอาการหอบหืด จะมีอะไรบ้าง  Hello คุณหมอ มีข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากกันในบทความนี้ โรคหอบหืด เป็นอย่างไร โรคหอบหืด (Asthma) ถือเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลต่อเยื่อบุทางเดินหายใจ ซึ่งการป่วยเป็นโรคหอบหืดนั้นอาจจะส่งผลทำให้คุณมีอาการต่างๆ เช่น หายใจถี่ หายใจเสียงดังฮืดๆ ไอ และแน่นหน้าอก สำหรับการรักษาโรคหอบหืดนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี แต่ ชาบรรเทาอาการหอบหืด ก็เป็นหนึ่งในวิธีทางเลือกที่จะช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นได้ด้วยการใช้สมุนไพรเข้ามาช่วยนั่นเอง ซึ่งชาที่ช่วยบรรเทาอาหารหอบหืดนั้น มีดังนี้ ชาบรรเทาอาการหอบหืด ที่คุณควรรู้จัก ชาขิง ขิง (Ginger) ถือเป็นเครื่องเทศที่เต็มไปด้วยสารอาหารและสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประโยชน์ต่างๆ ที่มีต่อร่างกาย เช่น ลดการอักเสบ บรรเทาอาการคลื่นไส้ และลดระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้จากการวิจัยบางชิ้นยังบ่งชี้ให้เห็นว่า ขิงอาจช่วยบรรเทาอาการหอบหืดได้อีกด้วย จากการศึกษาในหลอดทดลองโดยใช้เซลล์ของมนุษย์ บ่งชี้ว่า สารประกอบในขิง เช่น จินเจอรอล (Gingerol) และสารประกอบโชกาออล (Shogaols) อาจช่วยบรรเทาอาหารหอบหืด โดยลดการอักเสบของทางเดินหายใจได้ ชาขิง นั้นทำได้โดยการนำรากของต้นขิงมาต้ม โดยคุณสามารถซื้อ ชาขิง ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือจะชงกินเองที่บ้านก็ได้ เพียงนำขิงที่ปลอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ […]


โรคหอบหืด

เป็นโรคหอบหืด ควรออกกำลังกายอย่างไรดี

อาการเจ็บป่วย หรือปัญหาสุขภาพ ย่อมส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราไม่มากก็น้อย ยิ่งหากเป็นโรคประจำตัว หรือโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายขาดเสียที ก็จะยิ่งส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ และกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะกังวลว่าตัวเองจะทำได้ไหม หรือต้องทำอย่างไรถึงจะเหมาะสมและปลอดภัย ก็คือ การออกกำลังกาย นั่นเอง แล้วหากคุณเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจยอดฮิต อย่างโรคหืด หรือที่มักเรียกว่าหอบหืดล่ะ จะสามารถออกกำลังกายได้หรือเปล่า วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลเรื่องนี้มาฝากแล้ว คุณจะได้รู้ว่า เป็นโรคหอบหืด ควรออกกำลังกายอย่างไรถึงจะเหมาะสมและปลอดภัย เป็นโรคหอบหืด ออกกำลังกายได้หรือไม่ ปัญหาเกี่ยวกับการออกกำลังกายที่คนเป็นโรคหอบหืดส่วนใหญ่น่าจะสงสัย ก็คือ คนเป็นโรคหอบหืดออกกำลังกายได้ไหม คำตอบก็คือ คนเป็นโรคหอบหืดสามารถออกกำลังกายได้ ความจริงแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า เป้าหมายอย่างหนึ่งในการรักษาโรคหอบหืดก็คือ การช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และมีสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ซึ่งการออกกำลังกายก็ถือเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ป่วยบรรลุเป้าหมายนั้นได้ สิ่งสำคัญคือ คุณต้องออกกำลังกาย ควบคู่กับการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ รับประทานยาตามแพทย์สั่ง และหมั่นตรวจสอบการทำงานของปอดอยู่เสมอ จะได้ทราบว่าปอดของคุณทำงานได้ดีแค่ไหน และอีกอย่างที่ลืมไม่ได้ก็คือ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกายด้วย เป็นโรคหอบหืด ออกกำลังกายแล้วดีอย่างไร การที่คนเป็นโรคหอบหืด ขยับร่างกายบ่อย ๆ หรือออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยส่งเสริมสุขภาพดังต่อไปนี้ ช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้คุณป่วยเป็นไข้หวัดน้อยลง ช่วยควบคุมน้ำหนัก หรือลดน้ำหนัก เมื่อคุณมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์สุขภาพดี ก็จะช่วยลดการเกิดภาวะจับหืด (Asthma Attack) ซึ่งเป็นภาวะที่ผู้ป่วยหลอดลมตีบ นำไปสู่อาการไอ หอบ หายใจมีเสียงหวีด […]


โรคทางเดินหายใจ

กาฬโรคปอด (Pneumonic Plague)

กาฬโรคปอด (Pneumonic plague) เป็นกาฬโรคชนิดหนึ่งที่ถือว่ามีความรุนแรงที่สุด เกิดจากการติดเชื้อ เยอร์ซีเนีย เพสติส (Yersinia Pestis) จนเชื้อชนิดนี้ลามไปที่ปอด จนทำให้เกิดปัญหาในการหายใจ [embed-health-tool-heart-rate] คำจำกัดความ กาฬโรคปอด คืออะไร กาฬโรคปอด (Pneumonic plague) เป็นโรคกาฬโรคชนิดหนึ่งที่มีการติดเชื้อ เยอร์ซีเนีย เพสติส (Yersinia Pestis) ที่ปอด ซึ่งเป็นกาฬโรคชนิดเดียวที่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ และสามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนผ่านอากาศได้ โดยการหายใจเอาเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นละอองที่แพร่กระจายอยู่ในอากาศเข้าไป ก็จะสามารถติดเชื้อได้ นอกจากนี้กาฬโรคปอดยังสามารถแพร่กระจายได้จากลมหายใจของผู้ป่วยหรือสัตว์ที่มีเชื้อได้อีกด้วย การติดเชื้อกาฬโรคปอดนั้นมักจะต้องมีการสัมผัสเชื้อโดยตรงหรือมีความใกล้ชิดกับผู้ป่วย สัตว์ที่ป่วย ผู้ที่เป็นกาฬโรคปอดนั้นมักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่เป็นกาฬโรคต่อมน้ำเหลือง (Bubonic plague) หรือกาฬโรคแบบโลหิตเป็นพิษ (Septicemic plague) และไม่ได้รับการรักษาจนเชื้อนั้นลามลงไปติดที่ปอดด้วย กาฬโรคปอดพบได้บ่อยเพียงใด กาฬโรค เป็นโรคที่พบได้ในประเทศต่าง ๆ ของทวีปแอฟริกา และยังเป็นโรคประจำถิ่นในสาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศอินเดีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มองโกเลีย เมียนมาร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยมีการระบาด ใหญ่เป็นครั้งคราว เช่น การระบาดของกาฬโรคปอด ในเอกวาดอร์ เมื่อปี พ.ศ. 2541 หรือการเกิดกาฬโรค ทางตะวันตกของประเทศสหรัฐอเมริกา […]


ปัญหาระบบทางเดินหายใจแบบอื่น

ควันบุหรี่มือสอง อันตรายต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด

ควันบุหรี่มือสอง เป็นผลกระทบจากการได้รับควันบุหรี่ที่ผู้อื่นสูบแล้วพ่นควันออกมา ถือเป็นการรับควันบุหรี่ทางอ้อม จึงนิยมเรียกว่าควันบุหรี่มือสอง ซึ่งควันบุหรี่มือสองส่งผลกระทบต่อสุขภาพไม่แพ้ควันบุหรี่จากการสูบบุหรี่เองโดยตรง ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ [embed-health-tool-bmi] ควันบุหรี่มือสอง คืออะไร ควันบุหรี่มือสอง หมายถึง ควันที่ออกมาจากบุหรี่ ซิการ์ หรือยาสูบ ที่ผู้สูบพ่นออกมาในอากาศ ทำให้ผู้อื่นได้รับควันบุหรี่หรือหายใจเอาควันบุหรี่ที่ลอยมาเข้าไปในร่างกาย และได้รับผลกระทบต่อสุขภาพจากสารเคมีที่อยู่ในควันบุหรี่ไม่ต่างจากผู้ที่สูบบุหรี่โดยตรงเลยทีเดียว ในควันบุหรี่มีสารเคมีมากกว่า 7,000 ชนิด โดยสารเคมีอย่างน้อย 69 ชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง และมีสารเคมีมากกว่า 250 ชนิดที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ ผลกระทบต่อสุขภาพจากควันบุหรี่มือสอง ผลกระทบของควันบุหรี่มือสองต่อผู้ใหญ่ วัยผู้ใหญ่กลุ่มคนวัยทำงาน ผู้ที่เข้าร่วมวงสังสรรค์ที่มีผู้ร่วมงานคนอื่นสูบบุหรี่ เช่น ตามผับบาร์ หรือมีคนในครอบครัวสูบบุหรี่ เป็นกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่ประเภทนี้มากที่สุด ระบบหายใจ ผู้ใหญ่ที่ได้รับควันบุหรี่มือสองส่วนใหญ่มักมีอาการหอบหืด และมีปัญหาเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ หากเป็นผู้ที่มีอาการหอบหืดอยู่แล้ว ก็จะยิ่งทำให้อาการนั้นแย่ลงเมื่อได้รับควันบุหรี่มือสอง โรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้ที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง จะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองสูงขึ้น 25-30% นอกจากนี้ ควันบุหรี่มือสองยังทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการความดันโลหิตสูงอาการแย่ลงด้วย โรคมะเร็งปอด ควันบุหรี่มือสองทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้ คนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ แต่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่สูบบุหรี่ จะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นถึง 30% นอกจากนี้ การได้รับควันบุหรี่มือสองยังอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งโพรงไซนัส ผลกระทบของ ควันบุหรี่มือสอง […]


โรคทางเดินหายใจ

7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ระบบทางเดินหายใจ

ระบบทางเดินหายใจ เป็นระบบหนึ่งที่สำคัญมากในร่างกาย โดยระบบนี้ประกอบด้วยอวัยวะและส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ช่วยในการสูดอากาศเข้าไปในร่างกายและเอาออกมลภาวะออกจากร่างกาย ระบบหายใจแบ่งออกเป็นส่วนบนและส่วนล่าง โดยอวัยวะในระบบทางเดินหายใจส่วนบนประกอบด้วยจมูก คอหอย เป็นต้น ส่วนอวัยวะในระบบทางเดินหายใจส่วนล่างประกอบด้วยกล่องเสียง หลอดคอ หลอดลมต่าง ๆ ปอด และกะบังลม ระบบทางเดินหายใจไม่ได้มีหน้าที่แค่หายใจเข้า-ออกเท่านั้น  แต่ยังทำหน้าที่ในการการควบคุมการหายใจและความชื้นของอากาศที่เข้าไปในปอดอีกเ้วย [embed-health-tool-heart-rate] 7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ระบบทางเดินหายใจ 1. แค่หายใจก็อาจทำให้ร่างกายเสียน้ำได้ การหายใจก็เข้าเพื่อรับเอาออกซิเจนเข้าสู่ส่วนต่า งๆ ของร่างกาย และการหายใจออกเพื่อกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกาย แต่สิ่งที่ออกจากร่างกายขณะที่หายใจออกนั้นไม่ได้มีแค่คาร์บอนไดออกไซด์เท่านั้น ยังมีน้ำจำนวนมากด้วย โดยข้อมูลจากบทความที่เผยแพร่ในวารสาร Polish Pneumonology and Allergology เมื่อ พ.ศ. 2555 พบว่า ในขณะที่อยู่นิ่ง ๆ ร่างกายจะสูญเสียน้ำไปกับการหายใจออกมากถึง 17.5 มิลลิลิตร และปริมาณน้ำที่เสียไปเมื่อหายใจออกจะสูงกว่านี้ถึง 4 เท่าเมื่อออกกำลังกาย 2. บางคนกลั้นหายใจได้นานกว่า 20 นาที ผู้ใหญ่อาจกลั้นหายใจได้เฉลี่ย 30-60 วินาที ซึ่งหากกลั้นหายใจนานกว่านี้อาจทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ และมีคาร์บอนไดออกไซด์สะสมอยู่ในกระแสเลือดมากขึ้นจนส่งผลให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรดได้ แม้ค่าเฉลี่ยจะออกมาเช่นนี้ แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่ม เช่น นักดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ ที่เชี่ยวชาญการดำน้ำแบบตัวเปล่า โดยไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจใด ๆ […]


โรคทางเดินหายใจ

เสมหะปนเลือด สาเหตุ อาการ วิธีป้องกัน

หากมีอาการไอเรื้อรัง บางครั้งอาจทำให้เกิด เสมหะปนเลือด ได้ด้วย การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุที่อาจทำให้เสมหะปนเลือด และวิธีป้องกันที่เหมาะสม อาจช่วยให้รับมือกับอาการที่เกิดขึ้นได้ดีขึ้น และรักษาได้อย่างทันท่วงที [embed-health-tool-bmr] เสมหะปนเลือด เกิดจากอะไรได้บ้าง อาการมีเสมหะปนเลือดเมื่อไอ หรือที่เรียกว่า ไอเป็นเลือด สามารถพบได้บ่อย มักเกิดจากปัญหาในระบบทางเดินหายใจที่ไม่รุนแรง เช่น การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน หลอดลมอักเสบ โรคหอบหืด แต่หากเสมหะมีเลือดปนเป็นจำนวนมาก หรือเห็นเลือดในเสมหะบ่อยครั้ง ในกรณีที่ไม่รุนแรงอาจเกิดจากปัญหาที่ปอดหรือกระเพาะอาหาร แต่หากเสมหะปนเลือดสีเข้ม และมีเศษอาหาร หรือสิ่งที่ดูเหมือนกากกาแฟปนออกมาด้วย อาจเป็นสัญญาณของปัญหาในระบบการย่อยอาหารที่รุนแรง ซึ่งควรเข้าพบคุณหมอทันที สาเหตุที่พบบ่อยของเสมหะปนเลือด สาเหตุที่พบได้บ่อย เมื่อมีเสมหะปนเลือด เช่น อาการไอรุนแรงและเรื้อรัง ส่งผลทำให้ระบบทางเดินหายใจส่วนบนระคายเคืองและเส้นเลือดฉีกขาด โรคหลอดลมอักเสบ อาจเกี่ยวข้องกับการอักเสบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องของทางเดินหายใจ เลือดกำเดาไหล การบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะที่บริเวณทรวงอก อาจทำให้มีเสมหะปนเลือดได้ โรคมะเร็งปอด สามารถทำให้เกิดอาการไอเรื้อรัง หายใจถี่ เจ็บหน้าอก และบางครั้งอาจจะปวดกระดูกหรือปวดศีรษะด้วย โรคมะเร็งลำคอ มักเริ่มจากในลำคอ กล่องเสียง หรือหลอดลม และอาจทำให้เกิดอาการบวม หรือมีอาการเจ็บคอที่ไม่สามารถรักษาให้หายถาวรได้ นอกจากนั้น ยังอาจทำให้เกิดรอยสีแดงหรือสีขาวในปากด้วย โรคปอดบวม มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ส่งผลให้เนื้อเยื่อปอดอักเสบ และอาจทำให้ไอเป็นเลือด หรือมีเสมหะปนเลือดได้ นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นโรคปอดบวม มักมีอาการเจ็บหน้าอกเมื่อหายใจหรือไอ […]


โรคปอดบวม

รู้ก่อน หายก่อนกับ โรคฮิสโตพลาสโมซิส โรคปอดอีกชนิด จากค้างคาว

ถึงแม้ค้างคาวจะเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างไกลจากตัวเรา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสัตว์ปีกชนิดนี้จะไม่สามารถนำโรคร้ายมาสู่ร่างกายเราได้ เพราะมันสามารถติดต่อได้จาก สัตว์สู่สัตว์ จนมาถึง สัตว์สู่คน และแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยการติดทางคนสู่คน เหมือนกับไวรัสโควิด-19 เลยทีเดียว ที่ ณ ปัจจุบันก็ยังคมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบอย่างรุนแรง โรคฮิสโตพลาสโมซิส นี้ก็เช่นเดียวกัน วันนี้ Hello คุณหมอ จึงนำความรู้ และวิธีป้องกัน มาฝากทุกคนก่อนเกิดวิกฤตทางสุขภาพอีกครั้ง โรคฮิสโตพลาสโมซิส คืออะไร โรคฮิสโตพลาสโมซิส (Histoplasmosis) คือ โรคปอดชนิดหนึ่ง คล้ายกับโรคปอดบวม เป็นเชื้อราที่ถูกพบในมูลของสัตว์ปีกโดยเฉพาะนก และค้างคาว เมื่อเชื้อนี้ลอยอยู่บนอากาศจนเราเผลอสูดดมอาจเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ค่อยพบมากเท่าไหร่ในตัวเมืองมากนัก แต่ก็มีการค้นพบการรายงานว่าเชื้อนี้พบบ่อยในแถบอเมริกากลาง อเมริกาใต้ แอฟริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย บุคคลที่ป่วยเป็นโรคฮิสพลาสโมซิสนี้มากที่สุด มักเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือโรคประจำตัวอยู่แต่เดิม เช่น ผู้ป่วยที่มีเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยไขข้ออักเสบ เป็นต้น รวมทั้งผู้ที่ประกอบอาชีพใกล้กับแม่น้ำ อุโมงค์ ถ้ำ หรือเกษตรกร เสียส่วนใหญ่ เพราะต้องคลุกคลี หรือใช้ชีวิตในบริเวณป่าเขา ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนก และค้างคาว อาการของโรคฮิสโตพลาสโมซิส ที่คุณต้องรู้จักสังเกต สังเกต และเช็กอาการเบื้องต้น เหล่านี้ได้ หลังจากที่ตัวคุณ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน