เคล็ดลับในการนอนหลับ

แค่ออกกำลังกายกับกินอาหารดีต่อสุขภาพอาจยังไม่พอ! เพราะเราใช้เวลา 1 ใน 3 ของชีวิตไปกับการนอน ฉะนั้น หากอยากสุขภาพดี คุณก็นอนหลับอย่างมีคุณภาพด้วย และ เคล็ดลับในการนอนหลับ เหล่านี้ ช่วยคุณได้

เรื่องเด่นประจำหมวด

เคล็ดลับในการนอนหลับ

นอนบนพื้น ดีต่อสุขภาพหรือส่งผลเสียต่อสุขภาพกันแน่

ที่หลาย ๆ คนมีความเชื่อว่า นอนบนพื้น เป็นรูปแบบการนอนที่ช่วยลดอาการปวดหลัง แถมยังดีต่อสุขภาพ ช่วยให้นอนหลับได้สบายขึ้น วันนี้ Hello คุณหมอ จึงมีข้อมูลที่น่าสนใจเรื่อง การนอนที่พื้น มาให้อ่านกันว่า ส่งผลดีหรือส่งผลเสียต่อสุขภาพกันแน่ ใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงการนอนที่พื้น ไปติดตามกัน นอนบนพื้น ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร แม้จะมีงานวิจัยชี้ว่า การนอนที่พื้น มีส่วนช่วยแก้อาการปวดหลังและช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น แต่ การนอนที่พื้น นั้นมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้ ปวดหลังเพิ่มขึ้น งานวิจัยบางชิ้นบ่งบอกว่า การนอนที่พื้น ช่วยลดอาการปวดหลังได้ แต่ก็ยังมีงานวิจัยบางชิ้นที่บ่งบอกว่า การนอนที่พื้น ช่วยเพิ่มอาการปวดหลัง ทำให้ข้อมูลในส่วนนี้ยังมีความขัดแย้งกัน แต่อย่างไรก็ตาม การนอนที่พื้นผิวแข็ง ๆ มีส่วนทำให้กระดูกสันหลังรักษาความโค้งตามธรรมชาติได้ยาก จากการศึกษาในผู้ใหญ่ที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างเรื้อรังจำนวน 313 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มแบบไม่เฉพาะเจาะจง สุ่มให้ 2 กลุ่มนอนบนที่นอนขนาดกลางและที่นอนเนื้อแน่น เป็นเวลา 90 วัน พบว่ากลุ่มที่นอนบนที่นอนที่มีเนื้อแน่นปานกลางมีอาการปวดหลังน้อยกว่า เมื่อเทียบกับกลุ่มที่นอนบนที่นอนเนื้อแน่น จากการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า การนอนบนพื้นผิวที่กระชับ อาจไม่ได้ส่งผลในการบรรเทาอาการปวดหลังได้ แต่อย่างไรก็ตามยังจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อทำความเข้าใจว่า การนอนที่พื้น มีผลต่ออาการปวดหลังอย่างไร ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ การนอนที่พื้น โดยเฉพาะพื้นที่ไม่มีความสะอาด เต็มไปด้วยฝุ่นและสิ่งสกปรก […]

สำรวจ เคล็ดลับในการนอนหลับ

เคล็ดลับในการนอนหลับ

10 เคล็ดลับ หลับสนิท ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง

การนอนหลับ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณไม่ควรละเลย เพราะสามารถส่งผลต่อสุขภาพกายใจของคุณได้โดยตรง มีงานวิจัยยืนยันว่า การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลเสียต่อฮอร์โมนในร่างกาย ประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย และการทำงานของสมอง เป็นสาเหตุให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ได้อีกด้วย หากอยากนอน หลับสนิท ตลอดคืน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนและฟื้นฟูเต็มที่ ลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาสุขภาพที่กล่าวมาข้างต้น วันนี้เรามี 10 เคล็ดลับการนอนที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงมาฝากกันค่ะ 10 เคล็ดลับ หลับสนิท 1. รับแสงสว่างให้เพียงพอในตอนกลางวัน แสงแดด และแสงสว่าง ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้รูปแบบการนอนและนาฬิกาชีวภาพหรือนาฬิกาชีวิต ซึ่งส่งผลต่อสมอง ร่างกาย ฮอร์โมนต่างๆและคอยส่งสัญญาณบอกว่าร่างกายต้องตื่นและนอน เมื่อใดทำงานได้เป็นปกติก็จะทำให้คุณมีพลังในตอนกลางวัน และช่วยให้คุณนอนหลับในตอนกลางคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนานขึ้น คุณควรออกไปรับแสงแดดให้ได้อย่างน้อยวันละ 30 นาที ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับแนะนำว่า หากคุณมีปัญหาในการนอน ควรรับแสงแดดยามเช้าวันละ 1 ชั่วโมงและควรปิดไฟนอนด้วย เนื่องจากแสงสว่างส่งผลต่อนาฬิกาชีวภาพ เมื่อมีแสงสว่างสมองจะคิดว่ายังเป็นตอนกลางวัน จึงไม่หลั่งสารเมลาโทนินที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายและหลับลึก 2. หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและนิโคตินก่อนนอน กาแฟ น้ำอัดลม ชาบางชนิด และช็อคโกแลต มีสารกระตุ้นประสาทอย่าง “คาเฟอีน (caffeine)” เป็นส่วนประกอบ คาเฟอีนสามารถออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทได้นานถึง 6-8 ชั่วโมง ผลการวิจัยพบว่า การบริโภคคาเฟอีนในช่วง 6 ชั่วโมงก่อนนอน เป็นตัวการสำคัญที่ให้คุณภาพการนอนของคุณแย่ลง คุณจึงไม่ควรดื่มกาแฟหลังจาก […]


เคล็ดลับในการนอนหลับ

วิธีฝึกตื่นเช้า เคล็ดลับเปลี่ยนคนตื่นสายให้กลายเป็นคนตื่นเช้า

หากใครตื่นสายเป็นประจำ เราขอแนะนำให้คุณตื่นเช้าขึ้น เพราะการตื่นเช้านั้นส่งผลดีต่อร่างกายหลายอย่าง รวมทั้งการช่วยให้มีรูปแบบการนอนที่ดีขึ้น ช่วยให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน และช่วยให้เรากินอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้นด้วย แต่หากไม่รู้ว่าทำยังไงถึงจะตื่นเช้าขึ้นได้ เรามี วิธีฝึกตื่นเช้า มาฝากกัน ลองฝึกการตื่นแต่เช้าดูนะคะ  วิธีฝึกตื่นเช้า กินอาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพ อาหารมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด ฉะนั้น ถ้าใครต้องการเป็นคนตื่นเช้า ก็ควรเตรียมอาหารเช้าแบบดีต่อสุขภาพไว้ให้ครบถ้วน ในช่วงที่เรานอนหลับพักผ่อนอยู่นั้น ระดับน้ำตาลและการเผาผลาญของเราจะลดต่ำลง เราจึงต้องการอาหารเช้าดีๆ มาช่วยเติมพลังให้กับร่างกาย อาหารเช้าควรประกอบไปด้วยโปรตีน ผลไม้หลากสีสัน และธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี เช่น โยเกิร์ตใส่กราโนล่า ข้าวโอ๊ตกับนมสมและผลไม้ และหากใครเป็นคอกาแฟ ผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำให้ชงกาแฟดำ งดน้ำตาลและครีมเทียม และผสมนมสดหรือนมถั่วเหลืองลงไปด้วย เพื่อช่วยเพิ่มแคลเซียมและโปรตีนให้กับกาแฟของคุณด้วย ให้รางวัลตัวเอง นักจิตวิทยาแนะนำว่า ถ้าใครตื่นเช้าได้สำเร็จ ก็ควรใช้เวลาสักสองสามนาทีในการ “ตบรางวัล” ให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ฟังเพลงสักเพลงสองเพลง หรือแม้แต่การนั่งสมาธิ การตื่นเช้าจะช่วยให้คุณมีเวลาทำกิจกรรมยามเช้าเพิ่มขึ้น และการที่คุณมีเวลาได้นั่งจิบกาแฟ หรือไม่จำเป็นต้องรีบร้อนออกจากบ้าน ก็ถือเป็นการให้รางวัลตนเองอย่างหนึ่งแล้ว ออกกำลังกาย การออกกำลังกายในช่วงเช้าตรู่ จะช่วยกระตุ้นให้คุณกระปรี้กระเปร่า และมีพลังงานในการประกอบกิจกรรมช่วงเช้าได้ ระดับอุณหภูมิและสารอะดรีนาลีนในร่างกายของเราจะเพิ่มขึ้นไปได้อีกหลายชั่วโมงหลังออกกำลังกาย ผลการศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่า  การออกกำลังกายก่อนกินอาหารเช้านั้น จะช่วยเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น และส่งผลให้น้ำหนักลดลงได้ดีกว่าการออกกำลังกายหลังอาหารเช้าด้วย สร้างกิจวัตรก่อนนอน ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว คุณควรใช้เวลาอ่านหนังสือและจิบชา เช่น ชาคาโมไมล์ ชาลาเวนเดอร์ เป็นเวลา 30-45 นาที […]


เคล็ดลับในการนอนหลับ

นอนน้อย ส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตอย่างที่คุณอาจนึกไม่ถึง

นอนไม่พอ นอนน้อย หรือนอนหลับไม่ถึง 6 ชั่วโมงนั้น นอกจากจะทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรแล้ว ผลการศึกษาวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ยังระบุว่า การนอนน้อยอาจส่งผลต่อการดำเนินชีวิตทางด้านสังคม ดังต่อไปนี้ นอนน้อย ส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง ลดการมีปฎิสัมพันธ์กับผู้คน การนอนไม่พออาจทำให้ผู้คนเข้าสังคมน้อยลง และรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดาย โดยเหตุผลก็คือ สมองอ่านการแสดงอารมณ์บนใบหน้าได้ยาก และอาจทำให้การถอดความหมายจากสีหน้า ให้ดูเป็นการคุกคาม จึงทำให้เกิดการสนทนาระหว่างกันน้อยลง ฉะนั้น การนอนไม่พอในระดับรุนแรง จึงอาจทำให้เกิดการหลีกเลี่ยงการมีปฎิสัมพันธ์ทางสังคมได้ ซึ่งมักจะเกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เนื่องจากผู้หญิงมักจะรู้จักพูดคุย และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนได้ดีกว่าผู้ชายนั่นเอง เกิดปฎิกิริยาทางด้านอารมณ์มากขึ้น การนอนไม่พอยังทำให้เกิดปฎิกิริยาทางด้านอารมณ์มากขึ้นด้วย ทำให้ผู้คนด่วนตัดสินใจ หงุดหงิด และมีอารมณ์แปรปรวน คนที่นอนไม่พอจึงมีแนวโน้มจะเกิดปฎิกิริยาทางด้านลบ เมื่อมีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้น เนื่องจากอาการอดนอนจะกระตุ้นให้สมองส่วนอะมิกเดลา (Amygdala) ที่ทำให้เกิดความรู้สึกทางด้านลบ อย่างเช่น อารมณ์โกรธขึ้นมา นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนทำงานถึงควบคุมอารมณ์อารมณ์กันไม่ค่อยอยู่ การศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่าการนอนไม่พอจะทำให้ความรู้สึกดีๆ ลดลง และจะรู้สึกโกรธ เกรี้ยวกราด หรือซึมเศร้าอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถประมวลผลข้อมูลทางด้านอารมณ์ การนอนไม่พอยังส่งผลต่อการประมวลผลข้อมูลทางด้านอารมณ์ด้วย ซึ่งมักจะทำให้เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นได้น้อยลง นอกจากนี้ยังลดความสามารถในการเห็นอกเห็นใจในสถานการณ์ต่างๆ ของคนอื่นด้วย จริงๆ แล้ว คนที่นอนไม่พอมักจะไม่ค่อยแสดงอารมณ์บนใบหน้าออกมาด้วย ซึ่งส่งผลให้เกิดความเข้าผิดระหว่างเพื่อนร่วมงานได้ ส่งผลต่อการทำงาน นอนไม่พออาจมีปัญหาต่อการตัดสินใจและการแก้ปัญหา และในบางกรณีก็อาจก่อให้เกิดพฤติกรรมที่ดูไม่มีศีลธรรมด้วย เนื่องจากควบคุมตัวเองไม่ได้ นอกจากนี้ งานวิจัยที่ทำการศึกษาปัญหาการนอนที่ส่งผลกระต่อการทำงาน แสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่างคนที่คดโกงและคนที่ไม่ได้คดโกง โดยพบว่าการนอนไม่หลับมีส่วนเชื่อมโยงกับพฤติกรรมเบี่ยงเบน ซึ่งคนที่นอนไม่พอนั้น มีแนวโน้มที่จะทำอะไรป่าเถื่อนและมีความรุนแรง ขาดการรับรู้เกี่ยวกับตัวเอง นอกเหนือจากการขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นแล้ว คนที่นอนไม่พอก็มักจะขาดความรับรู้เกี่ยวกับตัวเอง […]


เคล็ดลับในการนอนหลับ

นอนดึก เป็นประจำขอให้รู้ไว้ว่า อ้วนแน่ๆ

นอนดึก ตื่นสาย หักห้ามใจไม่ได้เมื่อเจอของหวาน อาการแบบนี้เกิดขึ้นกับคุณบ่อยๆ หรือเปล่า มีงานวิจัยที่ชี้ว่า การนอนดึก ทำให้น้ำหนักขึ้นได้ ใครที่ไม่อยากอ้วนขึ้น ลองอ่านบทความที่ Hello คุณหมอ ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าเชื่อถือมาให้อ่านกันค่ะ อ่านจบแล้วปรับเวลานอนเพื่อสุขภาพที่ดีกันดีกว่านะคะ นอนดึก ทำให้น้ำหนักขึ้น งานวิจัยชี้ว่า วัยรุ่นหรือวัยทำงานที่นอนดึก มีแนวโน้มที่จะน้ำหนักขึ้น โดยงานวิจัย ของสถาบัน National Longitudinal Study of Adolescent Health ที่ได้ติดตามกลุ่มผู้ใหญ่จำนวน 3,500 คน ที่เกิดในปี 1994 ถึงปี 2009  ในระยะยาว พบว่าการนอนดึกและการนอนอย่างไม่มีคุณภาพ ส่งผลทำให้ค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index, BMI) เพิ่มขึ้นในระยะยาว การนอนดึกของวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ ทำให้ค่า BMI เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การกินฟาสต์ฟู้ดเป็นอีกตัวการสำคัญที่ทำให้ ค่า BMI เพิ่มเนื่องจากการนอนดึกแต่ไม่ใช่แค่วัยรุ่นกับวัยผู้ใหญ่ ยังมีงานวิจัยที่พบว่า เด็กๆ วัย 4 ขวบ และ […]


เคล็ดลับในการนอนหลับ

วัยรุ่น ควรนอนมากน้อยแค่ไหนถึงจะส่งผลดีต่อสุขภาพ

วัยรุ่น เป็นวัยที่กำลังเติบโตและต้องการพลังงานในการทำโน่นทำนี่มากมาย แต่มีวัยรุ่นซักประมาณร้อยละ 15 ที่ผลการศึกษาวิจัยระบุว่า ต้องการ การนอนหลับพักผ่อนมากกว่าผู้คนโดยทั่วไป การนอนน้อยจะทำให้เด็กวัยรุ่นต้องเผชิญกับปัญหาทางด้านสุขภาพ ความปลอดภัย สมรรถภาพ และความสามารถในการเรียนรู้ ฉะนั้น มาดูกันว่าพวกเขาควรใช้เวลานอนขนาดไหนดี ไปดูพร้อมๆ กับ Hello คุณหมอ เลย ข้อเท็จจริงที่คุณควรรู้เอาไว้ การนอนมีความสำคัญต่อสุขภาพของเรา เปรียบได้กับอากาศที่เราหายใจเข้าไปนั่นแหละ เนื่องจากการนอนจะช่วยให้เราสามารถกินอาหารได้ดีขึ้น และช่วยจัดการกับความเครียดได้เป็นอย่างดี รูปแบบการนอนหลับทางชีวภาพจะเปลี่ยนแปลงไปตามระยะเวลาการตื่นและการนอนตามธรรมชาติ ซึ่งก็หมายความว่าวัยรุ่นโดยส่วนใหญ่จะไม่สามารถรู้สึกง่วงในช่วงก่อนห้าทุ่ม เด็กวัยรุ่นต้องการเวลาในการนอนหลับพักผ่อนวันละ 8-10 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งเด็กวัยรุ่นโดยส่วนใหญ่มักจะนอนกันไม่พอ ซึ่งมีงานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า มีเด็กวัยรุ่นประมาณร้อยละ 15 ที่นอนน้อยกว่า 8 ½ ชั่วโมงในวันที่ต้องเรียนหนังสือ เด็กวัยรุ่นมักมีรูปแบบการนอนที่ผิดปกติ คือ มักจะนอนดึกในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งอาจส่งผลต่อนาฬิกาชีวะภาพในร่างกาย และทำร้ายสุขภาพในการนอนได้ เด็กวัยรุ่นจำนวนมากมักจะเจอกับสภาวะการนอนหลับที่ผิดปกติ อย่างเช่น โรคลมหลับ (ที่มีภาวะง่วงมาก) โรคนอนไม่หลับ โรคขาไม่อยู่สุข หรือโรคหยุดหายใจในขณะหลับ เด็กวัยรุ่นควรนอนมากน้อยขนาดไหน เด็กวัยรุ่นควรมีเวลานอนโดยเฉลี่ยวันละ 8 ถึง 10 ชั่วโมง เพื่อช่วยคงความสมดุลของระดับฮอร์โมนที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางเพศ ซึ่งมักจะหลั่งออกมาในช่วงที่นอนหลับ นอกจากนี้ผลการศึกษาวิจัยยังแสดงให้เห็นด้วยว่า โดยทั่วไปแล้วเด็กวัยรุ่นมักจะได้นอนโดยเฉลี่ยแค่คืนละ 7.4 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าที่ควรจะเป็นเยอะ การนอนน้อยจะส่งผลต่อการเรียนและสุขภาพของเด็กวัยรุ่นได้ เด็กวัยรุ่นต้องใช้เวลานอนมากกว่าเด็กและผู้ใหญ่ ผลการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดพบว่า เด็กวัยรุ่นต้องการเวลานอนมากกว่าเด็กวัย 9-10 ขวบประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมง […]


เคล็ดลับในการนอนหลับ

งีบ ระหว่างวัน เป็นเรื่องดีหรือไม่ดีต่อสุขภาพกันแน่...หาคำตอบได้ที่นี่

งีบ ระหว่างวัน ถือเป็นทางเลือกที่ดี ถ้าคุณรู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม หรือกำลังมองหาวิธีดีๆ ในการผ่อนคลายความตึงเครียด แต่การงีบในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม หรืองีบนานเกินไป ก็อาจส่งผลในทางตรงกันข้ามได้ วันนี้ Hello คุณหมอ จะมานำเสนอเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการงีบดังต่อไปนี้ ประโยชน์ของการ งีบ การงีบนั้นส่งผลที่ดีต่อสุขภาพของผู้ใหญ่หลากหลายอย่าง ซึ่งก็ได้แก่… การผ่อนคลายความตึงเครียด ลดความอ่อนเพลีย เพิ่มความรู้สึกตื่นตัว อารมณ์ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการตอบโต้ที่รวดเร็วขึ้น และมีความจำที่ดีขึ้นด้วย ผลเสียของการงีบ การงีบ…ไม่ใช่ใครๆ ก็สามารถทำได้นะ คนบางคนก็ไม่สามารถงีบหลับในช่วงกลางวันได้ หรือมีปัญหาการนอนเวลาที่ต้องไปนอนในสถานที่อื่นๆ ที่ไม่ใช่เตียงนอนของตัวเอง บางครั้งก็เลยต้องชดเชยด้วยการงีบหลับเหมือนกัน ซึ่งการงีบอาจส่งผลทางด้านลบได้ อย่างเช่น… อาการตื่นไม่เต็มที่ คุณอาจรู้สึกงัวเงียหรือเบลอหลังตื่นจากการงีบหลับ มีปัญหาการนอนในตอนกลางคืน การงีบหลับในช่วงเวลาสั้นๆ จะไม่ส่งผลต่อคุณภาพการนอนในช่วงกลางคืนของคนโดยส่วนใหญ่ แต่ถ้าคุณเกิดอาการนอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่เต็มอิ่มในช่วงกลางคืนล่ะก็ สาเหตุอาจมาจากการงีบในช่วงกลางวันก็ได้ การงีบเป็นเวลานานๆ หรืองีบบ่อยๆ อาจรบกวนการนอนในตอนกลางคืนก็ได้ เราควรจะงีบตอนไหนดี คุณอาจหาเวลางีบหลับในช่วงกลางวันได้ ถ้าคุณมีอาการดังต่อไปนี้ มีอาการอ่อนเพลียแบบไม่เคยเป็นมาก่อน หรือจู่ๆ ก็รู้สึกง่วงขึ้นมา มีแนวโน้มจะอดนอนในระยะเวลาอันใกล้ เช่น จะต้องเข้าเวรทำงานที่มีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน จู่ๆ ก็รู้สึกอยากจะงีบ…บอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพหรือเปล่า? ถ้าคุณรู้สึกอยากงีบหลับในช่วงกลางวันมากขึ้น และหาสาเหตุของอาการอ่อนเพลียนี้ไม่เจอ ก็ควรปรึกษากับคุณหมอในเรื่องนี้ดู คุณอาจจะใช้ยาบางอย่าง มีความผิดปกติเกี่ยวกับการนอนหลับ หรือมีอาการป่วยอย่างอื่นที่รบกวนการนอนหลับในตอนกลางคืนก็ได้ วิธีการงีบที่ดีที่สุด ในการงีบหลับให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั้น คุณก็ควรปฎิบัติตามเคล็ดลับต่อไปนี้ งีบเป็นช่วงเวลาสั้นๆ โดยตั้งเป้าในการงีบอย่าให้เกิน 10 ถึง 30 นาที ยิ่งคุณงีบนานเท่าไหร่ คุณก็มีแนวโน้มจะรู้สึกงัวเงียหลังตื่นได้มากขึ้นเท่านั้น งีบในช่วงบ่าย ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการงีบก็คือช่วงราวๆ บ่ายสองหรือบ่ายสาม ซึ่งมักเป็นช่วงที่เรารู้สึกง่วงหลังกินอาหารกลางวัน […]


เคล็ดลับในการนอนหลับ

แอพช่วยการนอนหลับ รับประกันว่าเวิร์คแน่นอน

เมื่อคืนเข้านอนเร็วแต่ทำไมรู้สึกง่วงจัง ? ใครที่กำลังประสบปัญหาตื่นมาแล้วไม่สดชื่น ง่วงนอน อ่อนเพลีย หรือรู้สึกว่าเมื่อคืนหลับไม่ค่อยสนิท ลองหา แอพช่วยการนอนหลับ มาใช้กันดูบ้าง แอพที่แนะนำนี้มีทั้งที่ช่วยบันทึกการนอนหลับ และแอพที่ทำให้หลับสบายขึ้น แต่ก่อนที่เราจะไปรู้จักกับแอพพลิเคชั่น เราต้องมาทำความรู้จักกับสิ่งที่เกิดขึ้นขณะหลับกันก่อน ตาม Hello คุณหมอ ไปดูกันเลยค่ะ เกิดอะไรขึ้นขณะเราหลับ การนอนหลับของทุกคน จะมีรอบการนอนหลับ หรือ Cycles of sleep เกิดขึ้นวนไปทั้งคืนจนตื่นนอน โดยในหนึ่งรอบการนอนหลับจะเกิดภาวะ non-REM sleep ประมาณ 5-15 นาที และต่อด้วย REM sleep อีก 90 นาที ซึ่งทั้ง 2 ภาวะมีสิ่งที่เกิดขึ้นดังนี้ Non-REM sleep ช่วงที่ 1 คือ ช่วงเข้านอน เราจะหลับตาเพื่อเตรียมตัวนอน ซึ่งช่วงนี้จะถูกปลุกได้ง่ายเพราะเรายังไม่หลับ ช่วงที่ 2 คือ ช่วง light sleep เป็นช่วงที่กำลังเคลิ้มหลับ หัวใจจะเต้นช้าลง อุณหภูมิในร่างกายลดลง ช่วงที่ 3 คือ ช่วงหลับลึก จากนั้นจะเข้าสู่ช่วง […]


เคล็ดลับในการนอนหลับ

ตื่นนอนแล้วเพลีย อาจเกิดมาจากปัจจัยที่คุณคาดไม่ถึงพวกนี้

ตื่นนอนแล้วเพลีย อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ถ้าใครตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกอ่อนเพลีย…ชนิดที่นอนต่อได้อีกสามชั่วโมงสบายๆ รู้สึกปวดหัวตึ้บๆ หรือนั่งสัปหงกในขณะที่เช็คเมล์เป็นประจำ อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติ ดังนั้น จึงควรศึกษาสาเหตุของอาการ ตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น เพื่อหา วิธีแก้ อย่างเหมาะสม [embed-health-tool-bmi] สาเหตุสำคัญของ ตื่นนอนแล้วเพลีย ห้องนอนมืดเกินไป การบล็อคแสงให้ห้องนอนมืดสนิทชนิดที่มองอะไรไม่เห็นเลยนั้น จะช่วยให้เรารู้สึกง่วงนอนและนอนหลับได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน แต่ถ้าแสงอาทิตย์ยามเช้าไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาในห้องนอนของคุณได้ซักนิดเดียว นาฬิกาชีวภาพในร่างกายก็จะไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่า…ถึงเวลาต้องตื่นนอนแล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงตื่นขึ้นมาแล้วอ่อนเพลีย เนื่องจากร่างกายยังไม่รู้ว่าถึงเวลาตื่นแล้วน่ะสิ วิธีแก้ปัญหาคือหาม่านหรือที่กั้นแสง ที่สามารถบล็อคแสงในตอนกลางคืน และสามารถปล่อยให้แสงยามเช้าเล็ดลอดเข้ามาได้ คุณเข้านอนดึกเกินไป ไม่ว่าเราต้องนั่งทำงานอยู่จนดึกดื่นหรือติดละครงอมแงม การนอนดึกจะทำให้เรามีเวลานอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ก็ต้องการเวลานอนวันละ 7 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ฉะนั้นถ้าเรามีเวลานอนในแต่ละวันไม่ถึง 7 ชั่วโมง ก็จะทำให้เราตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกเพลียหรือเบลอได้ นอกจากนี้การนอนไม่พอยังทำให้คุณกินอาหารมากขึ้น แถมยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลงด้วย ฉะนั้นก็ตั้งเวลานอนขึ้นมาซะ แล้วเข้านอนในเวลานั้นเป็นประจำ (ไม่เว้นแม้แต่ในช่วงวีคเอนด์) และถ้าจำเป็นต้องนอนดึกจริงๆ ก็ควรมีเวลานอนชดเชยในตอนเช้าด้วย งานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่ได้ทำการทดสอบกับผู้คนจำนวน 40,000 คนพบกว่า คนที่มีอายุน้อยกว่า 65 ปี ที่มีเวลานอนในแต่ละคืนร่วมทั้งในช่วงวีคเอนด์โดยเฉลี่ยน้อยกว่า 5 ชั่วโมง มีความเสี่ยงที่จะอายุสั้นถึง 52% เมื่อเทียบกับคนที่มีเวลานอนโดยเฉลี่ยคืนละ 7 ชั่วโมง แต่คนที่นอนน้อยในช่วงวันธรรมดาและนอนมากในช่วงสุดสัปดาห์ จะมีผลลัพท์ที่ไม่ต่างจากพวกที่นอนวันละ 7 ชั่วโมงเลย ฉะนั้นถ้าในช่วงวีคเอนด์มีเวลานอนชดเชย ก็นอนให้เต็มที่ไปเลย! คุณเข้านอนพร้อมกับความเครียดและเรื่องกลุ้มใจ ด้วยความที่ผู้คนในสมัยนี้มักเจอแต่เรื่องเครียดๆ ที่ทำให้ต้องคิดหนักอยู่ตลอดเวลา […]


เคล็ดลับในการนอนหลับ

8 นิสัยแย่ๆ ที่คุณไม่ควรทำในช่วงเวลา ก่อนนอน เด็ดขาด

เชื่อว่าหลายๆ คนนั้นอาจจะมีนิสัยแย่ๆ ที่ชอบทำกัน ก่อนนอน แต่รู้หรือไม่ว่า นิสัยแย่ๆ เหล่านี้ อาจจะเป็นตัวการสำคัญที่บั่นทอนสุขภาพของเราได้ เพราะการนอนหลับพักผ่อนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ช่วยให้ร่างกายของเรา สามารถซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย ช่วยให้สมองได้รวบรวมสิ่งที่เราเรียนรู้ แล้วเก็บเป็นความจำเอาไว้ และช่วยให้ฮอร์โมน การเต้นของหัวใจ ระบบต่างๆในร่างกายได้ทำงานช้าลง แต่หากเรานอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือนอนหลับอย่างไม่มีคุณภาพ ก็อาจส่งผลให้ระบบต่างๆในร่างกายเกิดความรวนเร อย่างเช่น ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง หรือระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ ฉะนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการซ่อมแซมตัวเองให้กับร่างกาย คุณก็ควรหยุดทำนิสัยแย่ๆ เหล่านี้ในช่วงเวลาก่อนเข้านอน 1. ดูทีวี ก่อนนอน ช่วงเวลาก่อนนอนมักเป็นช่วงเวลาที่เรามักจะได้ดูทีวีหลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน และคนส่วนใหญ่ก็มักจะดูทีวีจนผลอยหลับไปเองนั่นแหละ แต่พอถึงเวลาที่จะขึ้นเตียงนอนจริงๆ ก็กลับตาสว่างจนข่มตาให้หลับได้ยาก ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะการดูทีวีในช่วงเวลาก่อนเข้านอน (หรือที่ร้ายกว่านั้นคือการดูทีวีทั้งคืน) ทำให้แสงสีฟ้าจากจอทีวีรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเมลาโทนิน ส่งผลให้เราไม่รู้สึกอยากนอน นอกจากนี้เราควรให้เวลาสมองและจิตใจได้เตรียมตัวพักผ่อนด้วย การดูทีวีในช่วงเวลาก่อนเข้านอน อาจทำให้เราต้องขบคิดอะไรจนนอนไม่หลับก็ได้ 2. ใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์ การใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์ก่อนนอนนั้นคล้ายกับการดูทีวีก่อนนอน เพราะทั้งจอมือถือและจอคอมพิวเตอร์ก็ปล่อยแสงสีฟ้าออกมารบกวนการทำงานของฮอร์โมนเมลาโทนินเช่นกัน ซึ่งตอนนี้มีหลายบริษัทได้คิดค้นตัวกั้นแสงสีฟ้าให้กับอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์พวกนี้ได้แล้ว ทำให้เราสามารถนอนหลักพักผ่อนกันอย่างมีคุณภาพมากขึ้น แต่ถ้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณยังไม่มีตัวกั้นแสงสีฟ้าที่ว่านี้ ก็อาจจะต้องใช้วิธีปรับแสงให้มืดลง ก็อาจจะพอจะช่วยได้บ้าง 3. อ่านนิยายสยองขวัญ ถึงแม้การอ่านหนังสือก่อนนอนนั้น จะช่วยทดแทนการดูทีวีหรือเล่นมือถือให้คุณได้เป็นอย่างดี แต่ต้องพิจารณาดูด้วยนะว่าหนังสือที่อ่านอยู่นั้นเป็นเรื่องอะไร ถ้าเป็นนิยายรักโรแมนติก หรือหนังสือการพัฒนาตนเอง ก็อาจช่วยกล่อมร่างกายและสมองให้พร้อมสำหรับการเข้านอนได้ แต่ถ้าคุณอ่านอะไรที่ชวนให้ตื่นเต้น หรือมีความสยองขวัญสั่นประสาทล่ะก็ ก็อาจทำให้ร่างกายและสมองของเราเกิดความตึงเครียด จนอาจทำให้ต้องนอนตาค้างไปทั้งคืนก็ได้ 4. กินอาหารรอบดึก ผู้คนในยุคนี้มักต้องเจอกับเรื่องวุ่นวายในแต่ละวัน โดยเฉพาะเมื่อมีลูกหรือต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ (หรือทั้งสองอย่าง) […]


เคล็ดลับในการนอนหลับ

อยากตื่นนอนอย่างสดใส ต้องไม่กด เลื่อนนาฬิกาปลุก ซ้ำแล้วซ้ำอีก

ติ๊ดติ๊ด ติ๊ดติ๊ด เสียงนาฬิกาปลุกดังทำให้ตื่น แต่ยังไม่ทันได้ลืมตา ก็ต้องกวาดมือไปมาควานหานาฬิกาปลุก พอคว้าได้ก็กดปุ่ม เลื่อนนาฬิกาปลุก ทันที 5 นาที 10 นาทีก็เอา ขอแค่ได้นอนต่อซักนิด!!! แต่การนอนต่อแค่ไม่กี่นาทีนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ตื่นนอนอย่างสดใสแล้ว ยังไม่ดีต่อสุขภาพของเราเลยซักนิด เลื่อนนาฬิกาปลุก กับรอบการนอนหลับ นายแพทย์โรเบิร์ต เอส. โรเซนเบิร์ก ผู้อำนวยการสถาบัน Sleep Disorders Centers ในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การเลื่อนนาฬิกาปลุกส่งผลเสียต่อร่างกาย อย่างแรกเลยคือช่วงเวลาอันน้อยนิด 5 นาที 10 นาทีที่เราคิดว่าได้นอนต่อนั้น เป็นการนอนที่ไม่มีคุณภาพ แล้วอีกอย่างก็คือ การเลื่อนนาฬิกาปลุกทำให้เราเริ่มต้นรอบการนอนหลับ (Cycles of sleep) รอบใหม่ แต่ยังไม่ทันได้ครบรอบเราก็ต้องตื่นเสียแล้ว การตื่นขึ้นมากลางคันนั่นแหละที่ทำให้เรารู้สึกไม่โอเคทั้งวัน รอบการนอนหลับคืออะไร รอบการนอนหลับจะประกอบด้วยภาวะ Non-REM sleep ประมาณ 5-15 นาที และต่อด้วย REM sleep ประมาณ 90 นาที โดย Non-REM sleep […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม