เคล็ดลับในการนอนหลับ

การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ เป็นหนึ่งในสุขลักษณะนิสัยที่ช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดี ซึ่งไม่เพียงเท่านั้น เพราะการได้นอนเต็มอิ่ม นอกจากจะมีส่วนให้สุขภาพดีแล้ว ยังเสริมให้สุขภาพจิตดีขึ้นตามไปด้วย เมื่อร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ก็พร้อมที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มกำลัง แต่ถ้าคุณนอนน้อย นอนไม่พอล่ะ? จะส่งผลเสียอย่างไรบ้าง แน่นอนว่าไม่ได้ส่งผลแค่การทำให้รู้สึกง่วง อ่อนเพลียในระหว่างวันเท่านั้น แต่ การนอนน้อย หรือนอนไม่พอ อาจเป็นที่มาที่ทำให้ น้ำหนักพุ่งขึ้น ก็เป็นได้ การนอนมีผลกับน้ำหนักอย่างไร จากผลการวิจัยค้นพบความแตกต่างระหว่าง ขณะที่คนเรากำลังนอนหลับในยามค่ำคืน และหลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาในตอนเช้า พบว่าร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของระดับกระบวนการดีเอ็นเอเมทิลเลชั่น (DNA Methylation)ของยีน ที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน และโรคเบาหวานชนิดที่2 รวมถึงพบระดับความแตกต่างของยีนที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเนื้อเยื่อไขมัน เช่น เซลล์ไขมัน ที่ทำหน้าที่ดูดซับกรดไขมันหมุนเวียนภายในร่างกาย ซึ่งเมื่อร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของระดับกระบวนการดีเอ็นเอเมทิลเลชั่น (DNA methylation) จึงแสดงให้เห็นว่า หากเรานอนน้อยหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลให้เกิดสภาวะการเปลี่ยนแปลงในระดับพันธุกรรม เนื้อเยื่อ ระดับฮอร์โมน และเมตาบอลิซึม หรือระบบเผาผลาญเช่นกัน ซึ่งหากฮอร์โมนและระบบเผาผลาญมีการทำงานที่ผิดปกติ หรือแปลกไป ก็มีส่วนที่ส่งผลต่อการขึ้นลงของน้ำหนักได้ การนอนน้อย ทำให้ น้ำหนักพุ่ง จริงหรือ แคทเธอรีน ซารัทสกี้ (Katherine Zeratsky) นักโภชนาการและที่ปรึกษาความเสี่ยงด้านสุขภาพ แห่งสถาบัน ThedaCare of […]

การนอนหลับ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยทีเดียว เมื่อร่างกายได้รับการนอนหลับ พักผ่อนที่เพียงพอ ก็จะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายให้ดีขึ้นได้ แต่เมื่อไรก็ตาม ที่ร่างกายนอนหลับไม่เพียงพอ ก็จะมีโรคอื่นๆ ตามมามากมาย แถมยังส่งผลต่อสุขภาพอีกด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ มีบทความเกี่ยวกับ การนอนหลับ ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ ให้ดีขึ้นได้ แต่ว่า การนอนหลับจะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์อย่างไร ลองอ่านบทความนี้กันค่ะ ทำไม การนอนหลับ ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ ให้ดีขึ้นได้ การนอนหลับ เป็นเรื่องที่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของเราโดยตรง การได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ จะช่วยให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนอนหลับที่เพียงพอ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายของเราสดชื่น และพร้อมที่จะทำงานในวันต่อไป ที่สำคัญการนอนหลับยังส่งผลต่อความสัมพันธ์ต่อคนเราอีกด้วย ผลจากงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า การนอนหลับที่เพียงพอนั้น มีผลต่อทัศนคติเชิงบวก การนอนหลับ ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ อย่างไรบ้าง การนอนหลับส่งผลต่อความสัมพันธ์ และความสัมพันธ์ก็สามารถส่งผลต่อการนอนหลับได้เช่นกัน หากในชีวิตประจำวันเราเจอกับความสัมพันธ์ที่แย่ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในครอบครัว ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ความสัมพันธ์เหล่านี้ก็จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการนอนหลับที่แย่ลง เมื่อร่างกายนอนหลับ พักผ่อนไม่เพียงพอก็จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ ซึ่งก็จะวนอยู่อย่างนี้หากไม่ได้รับการแก้ไข หากเราสามารถแก้ไขได้ โดยการนอนหลับอย่างเพียงพอได้ ก็จะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์มากมาย ดังนี้ การนอนหลับช่วยให้ใกล้ชิดกับผู้อื่นได้ง่ายขึ้น และช่วยลดความเหงา จากงานวิจัย ที่ศึกษาจากการสแกนสมอง หลังจากที่พวกเขาหลับหรืออดนอนในเวลากลางคืน เพื่อดูปฏิกิริยาเมื่อได้ดูวิดีโอคนแปลกหน้า โดยผู้เขารับการวิจัยจะกดหยุดวิดีโอเมื่อรู้สึกว่าคนแปลกหน้าเข้าใกล้เขามากเกินไป ในขณะเดียวกันนักวิจัยก็จะตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นกับสมองของผู้ที่ถูกวิจัยว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อผู้เข้าร่วมการวิจัยนอนหลับไม่เพียงพอ อดหลับอดนอน […]

ช่วงเวลานอนเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายควรได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ หลังจากกิจกรรมที่เหนื่อยมาตลอดทั้งวัน บางคนเหนื่อยมากจนบางทีลืมปิดไฟก่อนนอนหรือในบางคนก็กลัวความมืดจนไม่สามารถนอนคนเดียวแล้วปิดไฟมืดๆ รู้หรือไม่คะว่า พฤติกรรมเหล่านี้จะให้คุณอ้วนได้ ด้วยที่คุณไม่รู้ตัวนะ แถมยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย จะจริงหรือไม่นั้น วันนี้ Hello คุณหมอมีคำตอบค่ะ จะพามาไขข้อสงสัย รวมถึงผลเสียของการ เปิดไฟนอน และเคล็ดลับการนอนยังไงให้หุ่นดีมาฝากกันด้วยค่ะ เปิดไฟนอน ทำให้อ้วนได้จริงหรือ? การเปิดไฟนอน เพราะความเคยชินหรือบางคนกลัวความมืด การเปิดไฟนอนนั้นจะทำให้รู้สึกอยากทานอาหารมากขึ้น โดยฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ที่ทำหน้าที่ควบคุมความอยากอาหาร และฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) ที่ช่วยให้เจริญอาหาร ทำงานไม่สมดุลกันจึงทำให้รู้สึกหิว ยิ่งถ้าหากนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะผลิตเลปตินน้อยลง และผลิตเกรลินมากขึ้น ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะอ้วนได้มากขึ้นนั่นเอง กลายเป็นโรคอ้วนและอาจลุกลามไปถึงโรคเบาหวานได้อีกด้วย ผลเสียจากการเปิดไฟนอน การเปิดไฟนอนนั้นส่งผลเสียต่อร่างกายของเราอย่างมาก นอกจากจะทำให้ความจำสั้นแล้ว ยังเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าอีกด้วย หรืออาจถึงขั้นเป็นโรคมะเร็งเลยทีเดียว วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันว่ามันจริงหรือไม่ น้ำหนักขึ้น รู้หรือไม่ว่าการเปิดไฟนอนนั้น ส่งผลเสียต่อระบบการเผาผลาญของร่างกาย เพราะ การเปิดไฟนอน ทำให้ร่างกายของเราพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ และเมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ สารเกรลิน ที่เป็นตัวกระตุ้นความอยากอาหารจะทำให้เรารู้สึกอยากอาหารและกินบ่อยมากขึ้น และเป็นที่แน่นอนว่า..เมื่อเราทานเยอะ น้ำหนักเราก็จะขึ้นแบบที่เราไม่รู้ตัวเลยล่ะ เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง เมลาโทนิน (Melatonin) เป็นสารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยยับยั้งมะเร็งบางชนิด นอกจากนี้ยังเป็นส่วนช่วยในการสร้างสมองให้ทำงานได้อย่างมีปนะสิทธิภาพ แต่เมื่อเราเปิดไฟนอนต่อมใต้สมองที่ทำหน้าที่ผลิตเมลาโทนินจะทำงานน้อยลงทำให้ภูมิคุ้มกันต่างๆในร่างกายอ่อนแอลง และเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งได้ ขี้หลง ขี้ลืม การเปิดไฟนอน เป็นตัวขัดขวางต่อมใต้สมองไม่ให้ผลิตเมลาโทนิน หากคุณมีพฤติกรรมเปิดไฟนอนบ่อยๆ จะส่งผลให้การจดจำสิ่งต่างๆของคุณลดประสิทธิภาพลงไปด้วย ผิวพรรณไม่กระจ่างใส เมื่อเราหลับร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth hormone) จะทำหน้าที่ซ่อมแซมผิวหนังฟื้นฟูผิวส่วนที่สึกหรอ แต่หากคุณนอนเปิดไฟ […]

หมอนยางพารา เป็นหมอนที่รู้จักกันดีว่าช่วยรองรับสรีระของศีรษะและลำคอ ช่วยให้นอนหลับได้สบายขึ้น โดยที่ตื่นมาแล้วไม่มีปัญหาเรื่องปวดต้นคออันเนื่องมาจากการนอนหมอนที่สูงไปหรือต่ำไป เรามาดูกันดีกว่าว่าหมอนยางพาราสัมพันธ์กับการนอนของเราอย่างไรบ้าง หมอนยางพารา คืออะไร หมอนยางพาราทำมาจากยางพารา เป็นพอลิเมอร์ที่ได้มาจากต้นยางพารา ถึงแม้ว่าจะชื่อหมอนยางพารา แต่หมอนยางพาราแต่ละชนิดหรือแต่ละยี่ห้อนั้นกลับมีปริมาณของยางพาราที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งบางยี่ห้ออาจจะทำมาจากน้ำยางพาราธรรมชาติ หรือน้ำยางพาราสังเคราะห์ โดยข้อแตกต่างของหมอนยางพาราทั้งสองประเภทมีดังนี้ หมอนยางพาราที่ทำมาจากน้ำยางพาราธรรมชาติ มีขั้นตอนการผลิตที่ซับซ้อน จะมีกลิ่นน้อยหรือแทบไม่มีกลิ่นเลย ทั้งยังสามารถจัดการกับความชื้นและความร้อนได้เป็นอย่างดี หมอนยางพาราที่ทำมาจากน้ำยางพาราสังเคราะห์  ผลิตในห้องปฏิบัติการด้วยกระบวนการทางปิโตรเคมี ผลิตได้ง่ายกว่า มีราคาถูกกว่า แต่จะมีกลิ่นที่แรงกว่าและมีอายุการใช้งานที่น้อยกว่าหมอนยางพาราจากน้ำยางธรรมชาติ หมอนยางพาราดีอย่างไร หมอนยางพารานั้นเป็นที่รู้จักกันว่ามีประโยชน์สำหรับผู้ที่มีอาการปวดเมื่อย โดยเฉพาะบริเวณลำคอหรือต้นคอ การนอนด้วยหมอนยางพาราสามารถช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้ แต่นอกจากเหตุผลนี้แล้ว หมอนยางพารายังมีประโยชน์อื่น ๆ ดังนี้ 1.ให้ความรู้สึกนุ่ม สบาย หนึ่งในเหตุผลสำคัญของการเลือกหมอนสำหรับหนุนนอนนั้น ก็คือเหตุผลในเรื่องของความนุ่ม เบาสบาย ผ่อนคลายต่อผู้ใช้งาน เราจึงมักเลือกหมอนที่นิ่ม นอนแล้วไม่ทำให้ปวดคอ รู้สึกเมื่อย หรือไม่สบายตัวขณะที่กำลังนอน หมอนยางพารานั้นมีน้ำยางพาราเข้มข้น และมีรูปร่างที่ตอบรับกับสรีระของคอและศีรษะ ให้ความนุ่มนวลที่มากกว่าหมอนที่ทำมาจากฝ้าย และด้วยคุณสมบัติที่เป็นยางจึงมีความยืดหยุ่นตลอดการนอน ช่วยให้นอนหลับได้อย่างสบายมากขึ้น 2.รองรับการเคลื่อนไหวขณะที่กำลังนอน หมอนยางพารานั้นเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความหนาแน่นและการรองรับการเคลื่อนไหว หมอนยางพารานั้นมีความหนาแน่นแต่ไม่ได้แน่นมากจนเกินไป จึงทำให้สามารถที่จะรองรับกระดูกศีรษะและคอได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังตอบรับกับทุกการเคลื่อนไหวหรือการขยับตัวในระหว่างการนอนโดยที่หมอนยางพารานั้นจะไม่มีลักษณะของการฟีบ แบน ไม่ว่าจะใช้งานผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม 3.ลดสารก่อภูมิแพ้ หมอนทั่วไปนั้น เมื่อใช้งานไปนาน ๆ มีโอกาสที่จะเกิดฝุ่นสะสมอยู่ในหมอนสูง ซึ่งสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้นั้น นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้อาการภูมิแพ้แย่ลงได้ หากหมอนไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่หมอนยางพารานั้นไม่มีส่วนที่จะช่วยสร้างไรฝุ่นขึ้นมา จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องของกลิ่น ควรเลือกหมอนยางพาราที่ทำมาจากน้ำยางธรรมชาติเพราะมีกลิ่นรบกวนน้อย 4.ทนทาน แม้ว่าหมอนยางพาราจะมีราคาที่สูงกว่าหมอนทั่วไปที่วางขายกันอยู่ แต่เพราะน้ำยางนั้นมีความหนาแน่นมาก ดังนั้น ในเรื่องของความทนทานในการใช้งานที่ไม่ว่าจะผ่านไปหลายปีแล้ว แต่หมอนยางพาราก็ยังสามารถคงรูปร่างเดิมไว้เหมือนวันแรกที่ซื้อมาใช้ 5.ลดอาการปวดคอ อาการปวดคอนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน […]

หลาย ๆ คนเมื่อต้องเผชิญกับปัญหารอบตัว ที่ส่งผลให้เกิดความเครียดหรือมีเรื่องวิตกกังวล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในชีวิตประจำวันที่ต้องเจอ หรือสภาพแวดล้อมรอบตัวต่าง ๆ จนทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับตามมา และมักจะใช้ตัวช่วย ที่สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่า…ยานอนหลับ เหล่านั้นจะเหมาะกับอาการของเราหรือไม่ แบ่งเป็นประเภทใดบ้าง และจะเลือกใช้อย่างไรให้ปลอดภัย วันนี้ Hello คุณหมอ…จะช่วยคลายไขข้อสงสัย ให้ทุกคนทราบกัน ยานอนหลับ (Sleeping Pill) ยานอนหลับ มักจะเป็นตัวช่วยให้กับผู้มีปัญหาในการนอน ซึ่งสามารถใช้ได้ตามคำสั่งของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือพบได้ตามร้านขายยาทั่วไป แต่ต้องผ่านการจ่ายยาโดยเภสัชกรให้ช่วยประเมินวิธีการรับประทาน และปริมาณการใช้อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้ การใช้ยานอนหลับ เป็นไปอย่างปลอดภัย ยานอนหลับ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ยากล่อมประสาท” ผู้ที่รับประทานยานอนหลับ จะมีอาการง่วงนอนและหลับไปในที่สุด แต่ถ้าหากรับประทานเข้าไปจำนวนมากอาจส่งผลข้างเคียงรุนแรง และส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเราได้ ดังนั้น หากใครต้องการพึ่งยานอนหลับ ควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์หรือเภสัชกร ดังนั้น จึงไม่ควรซื้อยานอนหลับมารับประทานเอง เพื่อป้องกันอันตรายจาก การใช้ยานอนหลับ และผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ประเภทของยานอนหลับ ที่ทางการแพทย์นิยมใช้ ทางการแพทย์มักนิยมใช้ตัวยากลุ่ม “Benzodiazepines” เป็นหนึ่งในตัวยาที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ในประเทศสหรัฐอเมริกา Benzodiazepines เป็น กลุ่มยาที่มีประสิทธิภาพ ในการคลายความวิตกกังวลของคนไข้ และใช้ในขั้นตอนก่อนการรักษา ทางการแพทย์เลือกใช้ยากลุ่มนี้ เพราะมีความรุนแรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากมีการใช้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายได้ […]

การนอนหลับถือเป็นเรื่องที่สำคัญต่อสุขภาพ โดยผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำเอาไว้ว่า การนอนที่มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดก็คือ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน ซึ่งการนอนหลับน้อยเกินไปหรือมากเกินไป อาจเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ซึ่งรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่การนอนหลับอย่างนอน 7 ชั่วโมงเต็มในแต่ละคืนก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆ เลย ดังนั้นทาง Hello คุณหมอ จึงได้มีเครื่องดื่มที่ช่วยแก้ อาการนอนไม่หลับ มาฝากกัน เครื่องดื่มที่ช่วยแก้ อาการนอนไม่หลับ มีดังนี้ น้ำเชอร์รี่ เชอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีรสชาติหลากหลาย มักนิยมนำมาใช้ทำไส้พาย แต่ความจริงแล้วเชอร์รี่ยังมีประโยชน์ในเรื่องของการนอนหลับที่ดีขึ้น ในเชอร์รี่มี ทริพโตเฟน (Tryptophan) เป็นกรดอะมิโน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนเมลาโทนิน ช่วยควบคุมเรื่องการนอนหลับและตื่น จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่บริโภคเชอร์รี่วันละ 2 ครั้ง จะไม่ค่อยตื่นกลางดึกและส่งผลให้ระดับเมลาโทนินในปัสสาวะสูงขึ้นในตอนเช้า นอกจากนั้นแล้วอีกหนึ่งการวิจัยยังระบุว่า ผู้ที่ดื่มน้ำเชอร์รี่ 2 ถ้วย ในแต่ละวันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จะเพิ่มเวลานอนหลับขึ้นเป็น 84 นาที และช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับในผู้ใหญ่อายุ 50 ปีขึ้นไป ชาดอกคาโมมายล์ ชาจากดอกคาโมมายล์ (Chamomile) นั้นถูกบริโภคมานานแล้ว มันมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ช่วยบรรเทาอาการหวัด ลดการอักเสบ ลดความวิตกกังวล […]

อายุที่มากขึ้นมีส่วนทำให้ผิวพรรณของเราเสื่อมสภาพลงไปด้วยเช่นกัน ยิ่งผิวที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก ทั้งโดนแดด ฝุ่นควัน หรือต้องเผชิญกับมลพิษในอากาศรอบตัว โดยที่เราไม่เคยได้ดูแลบำรุงรักษาผิวอย่างเพียงพอ จะทำให้ผิวเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นริ้วรอยที่เกิดจากอายุที่มากขึ้น ฝ้า กระ ที่ตามมา รวมถึงความเครียดสะสมจากการพักผ่อนน้อย หลายคนคงเคยได้ยินมาว่า การนอนหลับเป็นอีกทางที่ช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อน แถมช่วยให้ผิวพรรณเราดีขึ้นได้ วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาไปไขข้อสงสัยเหล่านี้ว่า จริงๆแล้วการนอนส่งผลต่อผิวของเราอย่างไร เคล็ดลับความสวยด้วย การนอนหลับ แน่นอนว่า หน้าโต๊ะเครื่องแป้งของผู้หญิงหลายๆ คนคงเต็มไปด้วยครีมบำรุงต่างๆ มากมาย ยิ่งอายุมากขึ้น ครีมหน้าโต๊ะเครื่องแป้งก็คงจะมากตามไปด้วย ทั้งครีมลดเลือนริ้วรอย ครีมบำรุงใต้ตา ครีมกันแดด แต่เคล็ดลับความงามที่ยิ่งใหญ่สำหรับผิว คือ การนอนหลับ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้นได้ เพราะเมื่อเรานอนเปรียบเสมือนร่างกายได้หยุดพักผ่อนหยุดการทำงาน ผิวหนังไม่ได้สัมผัสกับแสงแดดและฝุ่นละออง งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์บางชิ้นเชื่อว่า การนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ที่ผิวหนังจะได้รับการฟื้นฟู แต่ในขณะเดียวกัน ช่วงเวลากลางวันคุณก็ไม่ควรที่จะละเลยที่จะดูแลผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็น การล้างหน้าให้สะอาด ป้องกันผิวหนังจากแสงแดดและฝุ่น การนอนหลับที่เพียงพอในตอนกลางคืนและการได้รับการดูแลที่ดีในตอนกลางวัน ก็จะช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ การนอนหลับ ส่งผลต่อผิวหนังอย่างไร การนอนหลับไม่สนิท ได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะทำให้เรารู้สึกไม่สดชื้นในตอนเช้า อ่อนเพลียในตอนกลางวันแล่ว ยังส่งผลต่อผิวหนังออกเราอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เปลือกตาห้อย ตาบวม ใต้ตาคล้ำ ผิวซีด ไม่มีเลือดฝาด ริ้วรอยมากขึ้น รอยย่นที่มุมปากมากขึ้น เมื่อทราบดังนี้แล้ว การนอนหลับจึงส่งผลต่อผิวหนังของเราอย่างมากมาย ช่วงเวลานอนหลับเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของเราจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่างๆ ในระหว่างที่นอนหลับ อีกทั้งการไหลเวียนของเลือดในผิวหนังของคุณก็จะเพิ่มขึ้น มีการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมความเสียหายจากที่ผิวหนังของเราที่ได้รับรังสียูวีในช่วงเวลากลางวัน นอกจากนั้นยังซ่อมแซมริ้วรอยต่างๆ […]

คนเราต่างก็มีท่านอนโปรด บางคนชอบนอนหงาย บางคนชอบนอนคว่ำ หากไม่ได้นอนท่าโปรด ก็เล่นเอาบางคนถึงกับนอนไม่หลับเลยทีเดียว ท่านอนแต่ละท่าก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพ เช่น นอนกรน ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ท่านอนที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพมากที่สุดก็คือ นอนหงาย เพราะช่วยให้ศีรษะ คอ และกระดูกสันหลังอยู่ในระนาบตามธรรมชาติ ลดแรงกดทับ และอาการปวดเมื่อย แถมช่วยไม่ให้ใบหน้าเหี่ยวย่น หรือมีริ้วรอยก่อนวัยได้ด้วย แม้จะเป็นท่านอนสารพัดประโยชน์ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเคยชินกับการนอนหงาย วันนี้ Helloคุณหมอ เลยมีเคล็ดลับที่ช่วยให้คุณนอนหงายได้ง่ายขึ้น แถมหลับสบายมาฝาก หากทำได้ รับรองเลยว่า ดีต่อสุขภาพแน่นอน นอนหงาย แล้วดีอย่างไร ช่วยไม่ให้กระดูกสันหลังคด ลดอาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อเกร็ง ลดแรงกดทับ จึงช่วยบรรเทาอาการปวดหลังเรื้อรัง ช่วยป้องกันกรดไหลย้อน ป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยและรอยย่นบนใบหน้า เคล็ดลับที่ช่วยให้นอนหงายได้ตลอดคืน ที่นอนต้องรองรับแผ่นหลังได้ดี บางคนอาจชอบนอนบนพื้นแข็งๆ หรือปูฟูกบางๆ ในขณะที่บางคนก็ชอบทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนนุ่มๆ หรือที่เรียกกันเล่นๆ ว่าที่นอนดูดวิญญาณ แต่ความจริงที่นอนแข็งหรือนุ่มเกินไปอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก หากคุณอยากนอนหงายได้สบาย ตื่นมาแล้วไม่ปวดหลัง ควรเลือกที่นอนที่รองรับน้ำหนักได้ทั่วตัว แผ่นหลังและกระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรงตามระนาบธรรมชาติ ไม่สร้างแรงกดทับที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย หากคุณต้องนอนร่วมเตียงกับผู้อื่น ควรเลือกขนาดที่นอนให้พอดี เหลือพื้นที่ให้ขยับตัวได้ ไม่ต้องนอนเบียดกัน และควรเปลี่ยนที่นอนใหม่ทุกๆ 8 ปี เลือกหมอนที่ใช่ นอนหงายสบายกว่าเดิม หมอนที่ดีต่อสุขภาพต้องรองรับศีรษะ และความโค้งของคอจนถึงช่วงหัวไหล่ได้อย่างพอดี ไม่มีช่องว่างระหว่างหมอนและคอ ความสูงของหมอนต้องพอเหมาะ ไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป จนทำให้ปวดคอ เมื่อหนุนแล้วต้องทำให้หลอดลมอยู่สูงกว่าช่วงท้อง เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารหรือกรดไหลย้อนขึ้นมาจากทางเดินอาหาร ใช้หมอนรองใต้เข่าหรือแผ่นหลังช่วงล่าง หากคุณยังไม่สามารถเปลี่ยนที่นอนใหม่ที่รองรับกระดูกสันหลังและแผ่นหลังได้ […]

หลายคนมักจะใต้ตาคล้ำเหมือนหมีแพนด้า ถ้าเมื่อคืนนอนดึก แถมยังอาจมีใบหน้าโทรมเหมือนคนป่วย ที่เป็นแบบนี้เพราะการนอนมีผลต่อความสวยความงามของเรา เนื่องจากร่างกายจะซ่อมแซมและฟื้นฟูขณะที่คุณหลับ และถ้า นอนหลับ ไม่เพียงพอหรือนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงล่ะก็ นอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพแล้ว ยังส่งผลต่อเรื่องความสวยความงามของคุณอีกด้วย นอนหลับ มีประโยชน์ต่อความสวยความงามอย่างไร งานวิจัยให้ข้อมูลว่า การนอนหลับไม่เพียงพอและไม่ได้คุณภาพเพียงคืนเดียว สามารถทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้ เปลือกตาหย่อน ตาบวม ใต้ตาคล้ำ ผิวหมองคล้ำ ดูซีดลง มีริ้วรอยมากขึ้น มุมปากตกลงมากขึ้น ดังนั้น การนอนหลับ อย่างเพียงพอ นอกจากจะช่วยป้องกันอาการเหล่านี้ ที่จะส่งผลต่อความสวยความงามของเราแล้ว การนอนหลับยังช่วยให้คุณดูดีขึ้น ดังต่อไปนี้ นอนหลับ อย่างเพียงพอ คนอื่นอาจมองว่าคุณน่าดึงดูด งานวิจัยในปีค.ศ. 2017 ที่พบว่า การนอนหลับไม่เพียงพอส่งผลลบต่อการรับรู้ของสิ่งที่น่าดึงดูดใจ และส่งผลต่อสุขภาพและความง่วงนอน รวมถึงความน่าเชื่อถือด้วย มากไปกว่านั้น การนอนหลับยังเป็นเวลาที่ร่างกายฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเอง และในช่วงขณะหลับ การไหลเวียนเลือดของผิวหนังจะเพิ่มขึ้น อวัยวะสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ และซ่อมแซมส่วนที่เกิดความเสียหายเนื่องจากแสงยูวี นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอยและจุดด่างดำเนื่องจากอายุ ดังนั้นการนอนหลับจึงส่งผลต่อสุขภาพผิว เพิ่มเติมไปกว่านั้น ยังมีงานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารวิชาการ Royal Society Open Science ที่ให้ข้อมูลว่า การนอนหลับ กับความสวยความงามเกี่ยวข้องกัน เนื่องจากนักวิจัยแสดงให้เห็นว่า คนที่นอนหลับไม่เพียงพอจะมีความน่าดึงดูดน้อยลง นอกจากนี้การนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพประมาณ 2 คืนติดต่อกัน ก็เพียงพอที่จะทำให้ดูไม่น่าดึงดูดอย่างมีนัยสำคัญ โดยนักวิจัยได้ให้กลุ่มบุคคลทั่วไปดูภาพของกลุ่มตัวอย่าง ที่เป็นนักศึกษาเพศชายและเพศหญิงจำนวน 25 คน ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มบุคคลทั่วไปให้ข้อมูลว่า พวกเขาจะไม่เต็มใจที่จะเข้าสังคมกับนักเรียนที่ดูเหนื่อยล้า […]

การเล่นโทรศัพท์ก่อนนอน หรือการดูโทรทัศน์ก่อนนอนจนหลับไป รวมถึงแสงไฟในห้องนอนหรือจากนอกหน้าต่าง ต่างก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เจอแสงมากเกินไปในเวลากลางคืน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า มีงานวิจัยชี้ว่าการได้รับ แสงไฟตอนกลางคืน มากเกินไป อาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณได้ ทาง Hello คุณหมอ ได้รวบรวมข้อมูลที่สำคัญมาฝากกันในบทความนี้ แสงไฟตอนกลางคืน ส่งผลต่อสุขภาพของคุณอย่างไร หากร่างกายได้รับแสงไฟในตอนกลางคืน สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้มากมาย ดังนี้ 1. แสงไฟตอนกลางคืน อาจเพิ่มความเสี่ยงสุขภาพ ผลการศึกษาเบื้องต้นจากงานวิจัยพบว่า หากร่างกายได้รับแสงไฟในช่วงระหว่างนอนหลับ อาจส่งผลต่อเมตาบอลิกฟังก์ชั่น (Metabolic function) โดยงานวิจัยได้ศึกษาอิทธิพลจากแสงไฟตอนกลางคืน ต่อเมตาบอลิกฟังก์ชั่นและการตอบสนองของฮอร์โมน ในกลุ่มตัวอย่างวัยหนุ่มสาวที่มีสุขภาพแข็งแรง ผลการวิจัยพบว่า ระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินจะเพิ่มสูงขึ้นขณะนอนหลับ ในช่วงเวลาที่มีแสงสว่างในตอนกลางคืน ซึ่งอาจบ่งบอกถึงภาวะทนต่อน้ำตาล (Glucose Intolerance) และภาวะทนต่ออินซูลิน (Insulin Insensitivity) ผลการวิจัยสนับสนุนแนวคิดที่ว่าการมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง เช่น การทำงานกะกลางคืน มีแนวโน้มเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพในสังคมยุคใหม่ เช่น การเป็นโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังคงต้องศึกษาต่อว่า เมลาโทนินเป็นสาเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อเมตาบอลิกฟังก์ชั่นหรือไม่ หรือมีกระบวนการอื่นเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง 2. แสงในตอนกลางคืนกับโรคซึมเศร้า นักวิจัยให้ข้อมูลว่า การนอนหลับผิดปกติ สัมพันธ์กับความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้า โดยงานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร Molecular Psychiatry เผยว่า แค่แสงสลัวๆ ในตอนกลางคืน ก็สามารถเพิ่มการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่จะนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ มีงานวิจัยที่ทดลองในสัตว์พบว่า แสงสลัวในตอนกลางคืนกระตุ้นให้เกิดภาวะซึมเศร้า เช่น พฤติกรรมและการเปลี่ยนแปลงของสมอง […]