คุณแม่ตั้งครรภ์ทำงานบ้าน ได้หรือไม่ อาจเป็นคำถามที่คุณแม่ตั้งครรภ๋หลายคนสงสัย โดยปกติแล้ว การทำงานบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้อันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ แต่ก็มีงานบ้านบางอย่างอาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องทำงานบ้าน อาจต้องทำด้วยความระมัดระวังและหลีกกเลี่ยงการทำงานบ้านบางประเภท เช่น การซักรีดเสื้อผ้า การถูพื้นและการกำจัดฝุ่น เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเองและทารกในครรภ์
คุณแม่ตั้งครรภ์ทำงานบ้าน ได้หรือไม่
โดยปกติแล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถทำงานบ้านได้ แต่งานบ้านบางประเภทอาจควรหลีกเลี่ยง และมีข้อควรระวังบางอย่าง ดังนี้
การทำความสะอาดเสื้อผ้า
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรทำความสะอาดเสื้อผ้า เช่น ชุดคลุมท้องก่อนนำมาสวมใส่ เนื่องจาก การใส่เสื้อผ้าใหม่โดยที่ไม่ผ่านการซักอาจทำให้ได้รับสารเคมีบางชนิดที่ปนเปื้อนมากับเสื้อผ้า แต่การซักผ้า ตากผ้า หรือรีดผ้าจำนวนมาก ๆ เป็นสิ่งที่คุณแม่ครรภ์ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากตะกร้าผ้าอาจมีน้ำหนักถึง 9 กิโลกรัม ซึ่งสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง มีอาการของการคลอดก่อนกำหนด รวมถึงมีรกเกาะต่ำ (Placenta Previa) หรือมีอาการอื่น ๆ คุณหมออาจไม่แนะนำให้ทำงานบ้านที่เป็นการซักรีด
การถูพื้นและการกำจัดฝุ่น
การถูพื้นและการกำจัดฝุ่นอาจทำให้อาการปวดสะโพกร้าวลงขา (Sciatica) รุนแรงขึ้น เนื่องจากเป็นการอักเสบที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดของเส้นประสาทไซอาติก (Sciatic) ที่อยู่บริเวณตั้งแต่หลังส่วนล่างลงไปจนทั่วทั้งขา ซึ่งการปวดสะโพกร้าวลงขาเป็นอาการที่อาจพบบ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์ เนื่องจาก การตั้งครรภ์อาจทำให้น้ำหนักตัวของคุณแม่เพิ่มขึ้น หรือมีภาวะมดลูกกดทับเส้นประสาท นอกจากนี้ การทำงานบ้านที่ต้องก้มตัวไปข้างหน้าอาจทำให้อาการแย่ลงได้
ข้อควรระวังในการทำงานบ้าน
สำหรับข้อควรระวังเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องทำงานบ้าน อาจมีดังนี้
การทำความสะอาดทั่วไป
คุณแม่ตั้งครรภ์อาจต้องหลีกเลี่ยงการทำงานบ้าน หรือหากจำเป็นจะต้องทำงานบ้าน อาจจะต้องหลีกเลี่ยงการทำงานงานที่ต้องยกของหนัก หรือต้องก้มเป็นเวลานาน นอกจากนี้ ยังอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาด เพราะอาจเป็นทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องสัมผัสกับสารเคมีจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ดังนั้น หากไม่แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ใดที่มีสารเคมีที่เป็นอันตราย อาจต้องตรวจสอบที่ฉลากว่ามีคำเตือนว่าผลิตภัณฑ์เป็นพิษหรือไม่ ในกรณีที่ต้องการลดการเผชิญกับสารเคมี คุณแม่ตั้งครรภ์อาจลดการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่าง ๆ ดังนี้
- สเปรย์กำจัดแมลง
- สเปรย์ทำความสะอาดเตาอบ
- สเปรย์ปรับอากาศที่อาจทำให้มีอาการคลื่นไส้
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านที่มีสารเคมีหลายชนิด
โดยอาจใช้บางอย่างแทนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น ใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำเพื่อทำความสะอาดเตาอบ
การทำความสะอาดกระบะอุจจาระของแมว
ในกรณีที่บ้านเลี้ยงแมว แมวอาจเป็นพาหะของเชื้อทอกโซพลาสมา กอนดิไอ (Toxoplasma Gondii) ที่ทำให้เกิดโรคติดเชื้อปรสิตทอกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น การคลอดก่อนกำหนด ดังนั้น คุณหมอจึงแนะนำให้อยู่ห่างจากกระบะอุจจาระของแมวในช่วงตั้งครรภ์และอาจต้องปฏิบัติตัว ดังนี้
- ขอให้คนในครอบครัวช่วยเปลี่ยนกระบะอุจจาระของแมวทุกวัน เพื่อลดความเสี่ยงในการมีเชื้อปรสิต
- หากไม่มีใครสามารถทำงานบ้านประเภทนี้ได้ ให้ทำอย่างระมัดระวังโดยการสวมถุงมือและล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ทุกครั้ง เมื่อทำความสะอาดกระบะทรายของแมว
- ให้แมวอยู่ภายในบ้าน
นอกจากนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นพาหะนำเชื้อโรค ควรให้อาหารแมวเป็นอาหารเม็ดหรืออาหารกระป๋องเท่านั้น ไม่ควรให้แมวกินเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้ปรุงสุก และในขณะตั้งครรภ์ไม่ควรนำแมวจรจัดมาเลี้ยง เนื่องจากอาจมีแนวโน้มว่าจะมีเชื้อโรคมาก
[embed-health-tool-due-date]