เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

พัฒนาการของ เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน (2-6 ปี) เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เด็กวัยนี้ต้องการการดูแลเอาใจใส่ในหลาย ๆ ด้าน ทั้งด้านโภชนาการ การฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ทั้งทักษะการขับถ่าย ทักษะการสื่อสาร เป็นต้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

จักรยานเด็ก เสริมสร้างพัฒนาการ และวิธีเลือกให้เหมาะกับวัย

การปั่นจักรยานสามารถปั่นได้ทุกวัย เพียงแต่ควรเลือกให้เหมาะสมกับช่วงวัยและสรีระร่างกาย สำหรับประโยชน์ของการปั่นจักรยานนอกจากช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีแล้ว ยังช่วยฝึกทักษะทางร่างกาย ซึ่งเด็กเล็ก ๆ ก็สามารถ ปั่นจักรยานเด็ก เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีได้ด้วย [embed-health-tool-vaccination-tool] จักรยานเด็ก เริ่มปั่นได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ จักรยานเด็กในช่วงวัย 2-4 ปี :   ช่วงวัย 2-4 ปี หรือวัยก่อนอนุบาล เด็กเล็กสามารถฝึกกล้ามเนื้อได้ด้วยจักรยาน 3 ล้อ ให้เด็กค่อย ๆ ฝึกทักษะการเคลื่อนไหวของร่างกาย ให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องการฝึกทรงตัว โดยจักรยาน 3 ล้อ จะมีล้อใหญ่ข้างหน้า 1 ล้อ ส่วน 2 ล้อหลังเป็นล้อขนาดเล็ก คอยพยุงตัวเด็กให้สามารถปั่นจักรยานได้ง่าย  จักรยานขาไถหรือจักรยานทรงตัว ช่วงวัย 2-5 ปี :  จักรยานขาไถ เป็นชื่อเรียกตามรูปทรงของจักรยาน เป็นจักรยานสำหรับเด็กที่เคลื่อนตัวไปข้างหน้าด้วยการใช้ขาไถ จักรยานเด็กแบบนี้จะช่วยฝึกเรื่องการทรงตัว จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า จักรยานทรงตัว (Balance Bike) หน้าล้อของจักรยานจะกว้าง ช่วยลดแรงกระแทก  วิธีเลือกจักรยานเด็ก จักรยานเด็กควรเลือกให้เหมาะสมกับรูปร่างของเด็ก จึงควรให้เด็กมาทดลองนั่ง ลองปั่นดูว่ารู้สึกพอดีกับรูปร่างหรือไม่ ความยาวของขาเด็กควรพอดีกับขาถีบ ให้เด็กลุกขึ้นยืนบนพื้นคร่อมจักรยานไว้ จะสังเกตเห็นว่าอานอยู่พอดีกับเป้ากางเกงของเด็กหรือไม่ เมื่อใช้เท้าถีบจักรยานแล้วต้องงอเข่าพอดี […]

สำรวจ เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

โภชนาการเด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

อาหารที่เหมาะสมกับวัยทารก 1-3 ปี ที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก มีอะไรบ้าง?

อาหารที่เหมาะสมกับวัยทารก 1-3 ปี หมายถึง อาหารสำหรับลูกน้อยวัยหัดเดิน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับสารอาหาร แร่ธาตุ และวิตามินที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาทั้งร่างกาย สมอง และพัฒนาการด้านต่าง ๆ อาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กเป็นหนึ่งในอาหารที่สำคัญสำหรับลูกน้อยวัยหัดเดิน เพราะเหล็กจะช่วยเสริมสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงซึ่งจำเป็นต่อร่างกายอย่างมาก หากเด็กวัยหัดเดินได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ จะทำให้พัฒนาการช้า มีปัญหาด้านการเรียนรู้และบกพร่องด้านพฤติกรรม นอกจากนั้น อาจทำให้ร่างกายอ่อนแอ เหนื่อยล้า และไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ [embed-health-tool-vaccination-tool] ธาตุเหล็กกับลูกน้อยวัยหัดเดิน ธาตุเหล็ก ถือเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย โดยเฉพาะการผลิตฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นโปรตีนในเซลล์เม็ดเลือดแดง ที่ช่วยให้เลือดสามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์อื่น ๆ ในร่างกายได้อย่างเป็นปกติ โดยธาตุเหล็กมีประโยชน์ต่อสุขภาพของลูกน้อยวัยหัดเดิน ดังนี้ ให้ออกซิเจนแก่ร่างกายได้รับอย่างเพียงพอ ช่วยในการเผาผลาญพลังงานของกล้ามเนื้อ บำรุงรักษาเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางกายภาพ ช่วยในการพัฒนาเส้นประสาท เสริมสร้างการทำงานของเซลล์ให้แข็งแรง มีส่วนช่วยในการผลิตฮอร์โมนบางชนิด อาหารที่เหมาะสมกับวัยทารก 1-3 ปี มีอะไรบ้าง   อาหารที่เหมาะสมกับวัยทารก 1-3 ปี ประกอบไปด้วยอาหารต่าง ๆ ดังนี้ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เนื้อสัตว์และสัตว์ปีกมีธาตุเหล็กในรูปแบบฮีม (Heme Iron) จำนวนมาก ซึ่งง่ายต่อการย่อยของร่างกาย โดยเฉพาะเนื้อวัว อวัยวะของสัตว์ (Organ Meats) และตับ จะมีธาตุเหล็กมาก นอกจากนี้ […]


การเติบโตและพัฒนาการ

ลูกโดนเพื่อนนินทา คุณพ่อคุณแม่จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างไร

ลูกโดนเพื่อนนินทา เป็นปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรละเลยหรือมองข้ามเด็ดขาด เพราะแม้ว่าลูกน้อยอาจจะหลีกเลี่ยงการจับกลุ่ม หรือเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน มากแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจพ้นจากการถูกนินทาได้ ดังนั้น เมื่อลูกน้อยเข้ามาปรึกษาว่าโดนเพื่อนนินทา คุณพ่อคุณแม่ควรรับฟังอย่างตั้งใจและพยายามทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ควรตำหนิหรือซ้ำเติมเพราะอาจยิ่งทำให้ลูกรู้สึกเจ็บปวดและควรทางออกร่วมกันกับลูก อย่าปล่อยให้ลูกรู้สึกโดดเดี่ยว นอกจากนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรหาวิธีช่วยเหลืออย่างถูกต้องและเหมาะสมในการรับมือเมื่อลูกโดนเพื่อนนินทา วิธีรับมือ เมื่อ ลูกโดนเพื่อนนินทา การนินทานั้นมักจะเกิดขึ้นเมื่อเด็ก ๆ เริ่มโตขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ไม่ว่าจะตั้งใจเรียน เป็นเด็กดี หรือมีนิสัยอย่างไรก็ตาม ยากที่จะหลีกเลี่ยงการโดนนินทา  เมื่อ ลูกโดนเพื่อนนินทา คุณพ่อคุณแม่ควรจะต้องทำให้ลูกรู้สึกว่ามีคนคอยช่วยเหลือและอยู่ข้าง ๆ เสมอ รวมทั้งควรอธิบายให้ลูกเข้าใจถึงความจริงข้อที่ว่า ไม่มีใครสามารถหลีกพ้นการโดนนินทาไปได้ ทั้งนี้ วิธีที่คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูกน้อยรับมือเมื่อโดนเพื่อนนินทานั้น อาจปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้ หลีกเลี่ยงการอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ชอบนินทา เมื่อโดนเพื่อนนินทา เด็ก ๆ ย่อมรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจ คุณพ่อคุณแม่ควรพยายามช่วยให้ลูกน้อยหันไปสนใจเรื่องอื่นแทน โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมภายนอกหรือวางแผนการเดินทางของครอบครัว เพื่อลดความกังวลเกี่ยวกับเรื่องการถูกนินทา นอกจากนี้ วิธีการที่ดีคือ ให้ลูกน้อยหลีกเลี่ยงจากการใช้โซเชียลมีเดียสักระยะหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากโซเชียลมีเดียนั้นเป็นแหล่งกระจายข่าวลือของเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน แม้จะเป็นเรื่องยากเพราะเด็ก ๆ มักต้องการรู้ว่าคนอื่นกำลังพูดอะไรเกี่ยวกับตนเองบ้าง แต่ควรอธิบายให้ลูกเข้าใจว่า บางครั้งอาจจะเป็นการดีกว่าที่จะไม่สนใจคำนินทาและควรใช้เวลาอยู่กับกิจกรรมที่ทำให้มีความสุขมากกว่า สังเกตพฤติกรรมลูกอย่างใกล้ชิด เด็กส่วนใหญ่ไม่สามารถรอให้การนินทาเงียบสงบไปเองได้ แม้แต่ข่าวลือเล็ก ๆ น้อย ๆ […]


การเติบโตและพัฒนาการ

การบูลลี่ กับทักษะทางสังคมที่อาจช่วยป้องกันการถูกบูลลี่ได้

การบูลลี่ ไม่ว่าจะเป็นทางคำพูดหรือการกระทำ เป็นเรื่องที่พบได้ตั้งแต่ในวัยเด็ก หากเด็กถูกบูลลี่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ อย่างไรก็ตาม การฝึกทักษะในการเข้าสังคม เช่น มารยาท การสื่อสารที่ถูกต้องชัดเจน การรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน อาจช่วยป้องกันไม่ให้เด็กถูกบูลลี่และช่วยลดการบูลลี่ได้ [embed-health-tool-child-growth-chart] ทักษะทางสังคมที่อาจช่วยป้องกัน การบูลลี่ สำหรับเด็กเล็กแล้ว เพื่อป้องกันการถูกกลั่นแกล้งและพัฒนาความสัมพันธ์ เขาจำเป็นจะต้องเรียนรู้และใช้ทักษะทางสังคมที่หลากหลายอย่างมีประสิทธิผล สภาพแวดล้อมของเด็กปฐมวัยมีสภาพแวดล้อมเหมาะสมกับการเรียนรู้โดยธรรมชาติ และเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กด้วย ซึ่งเด็กๆ สามารถเรียนรู้และฝึกฝนทักษะทางสังคมได้ สำหรับวิธีที่คุณพ่อคุณแม่จะช่วยเสริมสร้าง ทักษะทางสังคมและป้องกันการกลั่นแกล้ง ที่จะเกิดขึ้นกับลูกน้อย สามารถทำได้ดังนี้ สร้างความนับถือตัวเอง การเห็นคุณค่าในตัวเอง ถือเป็นรากฐานของความมั่นคงที่เด็กๆ จะสามารถอยู่ในสังคมได้ หากเด็กขาดความมั่นใจก็ถือเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะต้องรับความเสี่ยงในการพัฒนา ทักษะทางสังคมและการป้องกันการกลั่นแกล้ง ที่เข้มแข็ง การพัฒนาความนับถือตัวเองของลูก ต้องเริ่มต้นจากการทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกเข้าใจและรับทราบถึงจุดอ่อนของพวกเขา ยอมรับ และรู้สึกดีกับตัวเองได้ การนับถือตัวเองเป็นปัจจัยที่ช่วยป้องกันการกลั่นแกล้งได้ เด็ก ๆ มักจะไม่ค่อยเลือกแกล้งคนที่มีความมั่นใจในตัวเองและสามารถควบคุมตัวเองได้ ส่งเสริมมิตรภาพ มิตรภาพที่ดีเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยป้องกันการถูกกลั่นแกล้ง ในความเป็นจริงแล้วการมีเพื่อนแม้เพียงคนเดียวก็สามารถสร้างเกราะป้องกันการกลั่นแกล้งได้ สำหรับเด็กที่มีเพื่อนมาก ๆ มักจะไม่ค่อยเป็นเป้าหมายสำหรับการโดนแกล้งสักเท่าไหร่ ดังนั้น จึงเป็นการดีที่จะช่วยให้ลูกได้พัฒนามิตรภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยเด็ก โดยกำหนดเวลากับเพื่อน ๆ ให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมภายนอก และพูดคุยกันถึงสิ่งที่จะทำให้เกิดมิตรภาพที่ดี สอนให้กล้าแสดงออก เชื่อหรือไม่ว่า การกล้าแสดงออกนั้นเป็นส่วนสำคัญของการมีสังคมที่เข็มแข็ง เมื่อเด็กทำตัวเฉยชาพวกเขามักจะถูกเอาเปรียบหรือถูกรังแก โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กผู้หญิงที่มักจะมองหากลุ่มเป้าหมายที่ไม่กล้าในการแสดงออก เพื่อกลั่นแกล้งและเอาเปรียบ ดังนั้น คุณควรสอนให้พวกเขากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นหรือความรู้สึกของตัวเอง นอกจากนั้นยังต้องเสนอให้พวกเขาตระหนักด้วยว่า การยืนหยัดเพื่อสิทธิของตัวเองเป็นสิ่งที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการถูกกลั่นแกล้ง […]


การเติบโตและพัฒนาการ

สอนลูกทำงานบ้าน อีกหนึ่งเคล็ดลับฝึกความรับผิดชอบให้ลูก

ความรับผิดชอบ ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญในการใช้ชีวิตที่คนทุกเพศทุกวัยควรมี ยิ่งหากได้ฝึกความรับผิดชอบตั้งแต่เด็ก ก็ยิ่งส่งผลให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบสูง ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งกับตัวเองและสังคมด้วย เมื่อพูดถึงการฝึกความรับผิดชอบให้ลูก คุณพ่อคุณแม่หลายคนก็อาจคิดไม่ตกว่าควรเริ่มต้นอย่างไรดี แต่ Hello คุณหมอ อยากบอกว่า คุณไม่จำเป็นต้องเครียด หรือวิตกกังวลแต่อย่างใด เพราะคุณสามารถเริ่มต้นฝึกความรับผิดชอบให้ลูกได้ง่าย ๆ ด้วยการ สอนลูกทำงานบ้าน ข้อดีของการ สอนลูกทำงานบ้าน งานวิจัยชิ้นหนึ่งของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่ศึกษาเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องกันระหว่างปัจจัยทางจิตสังคมและกระบวนการทางชีววิทยา (Biological Process) ในวัยเด็กกับลักษณะสุขภาพและความเป็นอยู่เมื่อโตขึ้น พบว่า เด็กที่เคยทำงานบ้านได้รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนในการทำงานสูงกว่า โดยงานบ้านถือเป็นตัวแปรสำคัญที่บ่งชี้ได้ว่า เด็กน่าจะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข สุขภาพแข็งแรง และพึ่งพาตนเองได้ ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า การทำงานบ้าน ช่วยพัฒนาภาวะจิตสังคมให้กับเด็ก ๆ ได้ (ภาวะจิตสังคม หมายถึง ภาวะทางด้านจิตใจอารมณ์ที่เราแสดงออกให้ผู้อื่นเห็น ผ่านทางสีหน้า แววตา คำพูด น้ำเสียง อากัปกิริยา ท่าทาง และพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ ทัศนคติ การตัดสินใจ การตอบสนองต่อพฤติกรรมอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน) นอกจากนี้ การทำงานบ้านยังฝึกให้เด็กรู้จักแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ ได้มีส่วนร่วม ได้ฝึกความรับผิดชอบ ทั้งยังทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นที่ต้องการของครอบครัว ไม่รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าอีกด้วย โดยผลสำรวจชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่จำนวน 1,001 […]


การเติบโตและพัฒนาการ

ถ้วยหัดดื่ม (Sippy Cups) คืออะไร มีประโยชน์หรือโทษอย่างไรบ้าง

ถ้วยหัดดื่ม คือถ้วยที่ช่วยในการปรับพฤติกรรมของลูกน้อยวัยเตาะแตะเพื่อให้เลิกดื่มนมจากขวด ถ้วยหัดดื่มมีประโยชน์อย่างไรบ้าง รวมทั้งอาจสร้างปัญหาเกี่ยวกับช่องปากของลูกน้อยได้หรือไม่อย่างไร จำเป็นต้องทำความรู้จักเกี่ยวกับถ้วยหัดดื่ม เพื่อจะได้นำไปใช้อย่างถูกวิธีและเกิดประโยชน์มากที่สุด ประโยชน์ของถ้วยหัดดื่ม  ถ้วยหัดดื่ม (Sippy Cups) ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนผ่าน เพื่อช่วยให้เด็กวัยหัดเดินได้ปรับจากขวดมาเป็นถ้วยดื่มแบบไม่มีฝา เนื่องจากการใช้ขวดเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงในช่องปาก ทั้งยังอาจจะทำให้เด็กวัยหัดเดินสูญเสียการควบคุมและความชำนาญในการใช้ปากได้ ถ้วยหัดดื่มจึงถูกประดิษฐ์ขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยให้คุณแม่ไม่ต้องมาคอยเช็ดนมที่หกอีกด้วย นอกจากนั้นถ้วยหัดดื่มยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีก ดังนี้ ช่วยให้เด็กมีร่างกายแข็งแรง ทำให้ง่ายต่อการห่ออาหารกลางวันและของว่างออกจากบ้าน สอนทักษะที่จำเป็นในการดื่มจากถ้วยให้กับเด็ก ป้องกันความล่าช้าในการพูดที่เกี่ยวข้องกับการใช้ขวดแบบขยาย (Extended bottle) ช่วยป้องกันฟันผุเนื่องจากการใช้ขวดนานเกินไป ลดปัญหาการติดเชื้อทางหูที่เกี่ยวข้องกับการใช้ขวดเป็นเวลานาน เหตุผลที่ควรให้ลูกใช้ ถ้วยหัดดื่ม เหล่าคุณพ่อคุณแม่ยังอาจกำลังพิจารณาอยู่ว่าควรจะให้ลูกใช้ถ้วยหัดดื่มหรือไม่ แล้วเมื่อใช้แล้วจะมีความปลอดภัยหรือเปล่า ถ้าเช่นนั้นลองมาดูเหตุผลที่เด็ก ๆ ควรใช้ถ้วยหัดดื่ม เพื่อประกอบการตัดสินใจ ป้องกันการหก ถ้วยหัดดื่มช่วยให้เครื่องดื่มไม่หกออกจากถ้วย ซึ่งดีต่อสุขภาพอนามัยของเด็ก เพราะหากน้ำนมหกและไม่ได้ทำความสะอาด อาจจะติดอยู่กับผิวหนังของเด็ก จนทำให้เด็กรู้สึกอึดอัดหรือเกิดปัญหาผิวหนังได้ ส่งเสริมความชุ่มชื้น  เหตุผลที่ถ้วยหัดดื่มสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น (Hydration) ได้ก็เพราะว่าง่ายต่อการดื่มสำหรับเด็ก ช่วยให้ร่างกายเด็ก ๆ ได้รับน้ำอย่างเพียงพอและช่วยรักษาความชุ่มชื้นของร่างกาย เพราะเด็ก ๆ รู้สึกสนุกกับการถือวัตถุที่มีรูปทรง สีสัน และมีเอกลักษณ์เอาไว้ในมือ นอกจากนั้น ยังช่วยให้เด็ก ๆ สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นกระบวนการทางจิตวิทยาที่ว่า พวกเขาสามารถทำอะไรบางอย่างได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องให้คุณพ่อคุณแม่มาคอยช่วยเหลือ เตรียมความพร้อมสำหรับการใช้ถ้วยแบบผู้ใหญ่ เหตุผลหลักที่ทำให้ถ้วยหัดดื่มถูกนำมาใช้ก็คือเป็นเครื่องมือฝึกให้เด็ก ๆ เตรียมตัวให้พร้อมในการดื่มจากถ้วย เพราะการถื่มจากด้วยนับเป็นทักษะที่ต้องเรียนรู้ […]


การเติบโตและพัฒนาการ

วิธีบริหารสมอง เสริมสร้างพัฒนาการ สำหรับเด็ก

คุณพ่อคุณแม่ เป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีเติบโตสมวัย โดยฝึกให้ลูกเรียนรู้ วิธีบริหารสมอง แบบง่าย ๆ ที่สามารถฝึกลได้เป็นประจำในแต่ละวัน เช่น การฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การฝึกสมาธิ โดยวิธีเหล่านี้อาจช่วยให้ลูกมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย วิธีบริหารสมอง สำหรับเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ วิธีบริหารสมอง ที่อาจช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกน้อย มีดังนี้ การฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก การฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก อาจเริ่มจากให้ลูกนั่งหรือนอนราบลงบนที่นอนในท่าที่สบาย จากนั้นสูดลมหายใจเข้า-ออกอย่างช้า ๆ อย่างน้อยวันละ 5-10 นาที เมื่อเด็กมีสมาธิสมองจะปล่อยคลื่นอัลฟ่า (Alpha brainwave) เพื่อเสริมสร้างด้านการเรียนรู้ และจดจำ อาจช่วยให้เด็กเรียนรู้ และจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ  การพาลูกออกไปท่องโลกกว้าง ไม่ว่าจะเป็นนอกสถานที่ เช่น สวนสัตว์ สวนสนุก พิพิธภัณฑ์ หรือแม้แต่กระทั่งการเรียนรู้จากสื่อออนไลน์ อาจช่วยเสริมการทำงานของระบบความจำและช่วยเพิ่มทักษะการเรียนรู้ใหม่ ๆ ทำให้เด็กรู้จักตัวตนของตนเองมากยิ่งว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร  เล่นเกมส์ฝึกสมอง รูปแบบของเกมส์ลับสมองในปัจจุบันที่มักพบเห็นกันอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น กระดานหมากรุก ไพ่อูโน่ (UNO) ซูโดกุ ไพ่จับคู่ อาจช่วยเพิ่มสมาธิให้กับลูกพร้อมทั้งยังเป็นการฝึกการคิดวิเคราะห์แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ที่สำคัญยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับครอบครัวอีกด้วย ฝึกระบบความจำด้วยสี หรือตัวย่อ หนังสือ […]


เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

การเล่นบทบาทสมมติ สำคัญต่อพัฒนาการของเด็กอย่างไร

การเล่นบทบาทสมมติ คือการเล่นของเด็ก ๆ ที่อาศัยจินตนาการ เพื่อจำลองสถานการณ์หรือสวมบทบาทสมมติ เช่น จินตนาการว่ากล่องกระดาษเป็นปราสาทเจ้าหญิง กิ่งไม้เป็นดาบอัศวิน หรือจะเป็นการสร้างตัวละครของตัวเองขึ้นมา การเล่นที่ใช้จินตนาการ เป็นการเล่นที่มีความซับซ้อน และดีสำหรับพัฒนาการทางความคิดของเด็ก ๆ [embed-health-tool-vaccination-tool] การเล่นบทบาทสมมติ คืออะไร การเล่นที่ใช้จินตนาการเป็นรูปแบบการเล่นที่เด็ก ๆ จะสมมุติตัวละคร เหตุการณ์ และสถานที่ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการสมมุติว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง อัศวิน หรือแม้กระทั่งหุ่นยนต์ โดยการเล่นก็จะแตกต่างกันออกไป แล้วแต่จินตนาการของเด็ก ๆ บางครั้งอาจจะเป็นเรื่องราว เช่น สมมุติว่าตนเองเป็นหุ่นยนต์กู้โลก เข้ามาเพื่อกำจัดเหล่าร้าย ที่ทำให้โลกเกิดความปั่นป่วน สมาคมกุมารแพทย์อเมริกัน (American Academy of Pediatrics หรือ AAP) ได้ให้คำจำกัดความของคำว่า “imaginative play” หรือการเล่นที่ใช้จินตนาการว่า เป็นกิจกรรมที่มีความสนุกสนาน เป็นการเล่นที่เล่นโดยสมัครใจ มักจะไม่มีเป้าหมายในการเล่น นอกจากความสนุก ส่วนใหญ่แล้วการเล่นที่ใช้จินตนาการนั้น เป็นการเล่นที่จะเกิดขึ้นได้เองตามความสนใจของเด็ก ๆ การเล่นเชิงจินตนาการ เป็นการเล่นที่แตกต่างจากการเล่น รูปแบบการเคลื่อนไหวทั่ว ๆ ไป การเล่นแบบการเคลื่อนไหวทั่ว ๆ ไปเช่น การวิ่งไล่จับ การปีนผาของเล่น  […]


เด็กวัยหัดเดินและเด็กก่อนวัยเรียน

การล่วงละเมิดทางเพศในเด็ก กับ สิ่งที่พ่อแม่ควรสอนลูก

การล่วงละเมิดทางเพศในเด็ก ถือเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรต้องใส่ใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเหตุการณ์ของการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้น อาจสามารถส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางสติปัญญา สังคม และอารมณ์ของเด็กได้ แต่จะมีวิธีและเทคนิคอย่างไรบ้าง ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถเตือนลูก หรือสอนลูกเพื่อให้ลูกปลอดภัยจากสิ่งเหล่านี้ได้ บทความนี้ Hello คุณหมอ ได้นำเรื่องราวที่น่าสนใจมาฝากคุณพ่อคุณแม่กัน สิ่งที่พ่อแม่ควรสอนลูก เพื่อให้ลูกรู้จักวิธีป้องกันตัวจาก การล่วงละเมิดทางเพศในเด็ก การล่วงละเมิดทางเพศในเด็ก บ่อยครั้งผู้กระทำความผิดมักจะเป็นคนรู้จักหรือคนในครอบครัว ที่เด็กมักจะให้ความไว้วางใจ แต่บ่อยครั้งนักที่เด็ก ๆ มักจะไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขานั้นเป็นการล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งอาจมีความรู้สึกอับอายและกลัวเกิดขึ้น จึงทำให้พวกเขาไม่กล้าพูดออกมา ดังนั้น สิ่งที่ผู้ปกครองสามารถทำได้ ก็คือ การสอนลูก ๆ ให้รู้จักป้องกันตัวจากสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ สอนให้เด็ก ๆ รู้จักกับส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตนเอง บางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจจะอึดอัดใจที่จะพูดถึงองคชาติหรือช่องคลอด ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่จะพูดคุยในการสนทนาปกติ แต่การสอนให้พวกเขารู้จักส่วนต่างๆ ของร่างกายของตัวเอง ของคุณพ่อคุณแม่ รวมถึงอวัยวะเพศ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก โดยคุณพ่อคุณแม่ควรหาคำที่เหมาะสมในการสอนพวกเขา นอกจากนั้นควรสอนให้พวกเขาเรียกอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายให้ได้อย่างถูกต้องด้วย สอนพวกเขาว่าบางส่วนของร่างกายถือเป็นของส่วนตัวหรือของสงวน คุณพ่อคุณแม่ควรพยายามอธิบายให้เด็ก ๆ รู้ว่า อวัยวะบางส่วน อย่างเช่น อวัยวะเพศ ถือเป็นของส่วนตัว ที่พวกเขาไม่สามารถให้คนอื่น ๆ เห็นได้ พยายามอธิบายว่า ผู้ที่อยู่นอกบ้านควรเห็นพวกเขาขณะสวมใส่เสื้อผ้าเท่านั้น […]


การเติบโตและพัฒนาการ

พัฒนาสมองของลูกน้อยให้ฉับไวด้วย เกมซูโดกุ

เกมซูโดกุ (Sudoku) เป็นเกมเติมตัวเลขลงในช่องตาราง โดยใช้ตัวเลขที่กำหนดให้ซึ่งเป็นตัวเลขตั้งแต่เลข 1 ถึงเลข 9 ใส่ลงในแต่ละแถวของตาราง โดยที่ตัวเลขจะต้องไม่ซ้ำกันทั้งแนวนอนและแนวตั้ง เกมซูโดกุจัดว่าเป็นหนึ่งในเกมลับสมองที่อาจมีส่วนช่วยในการพัฒนาสมอง และอาจช่วยกระตุ้นทักษะการคำนวณได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็ก ๆ ซึ่งเป็นวัยที่กำลังเติบโต การใช้เกมหรือกิจกรรมสำหรับพัฒนาทักษะจะช่วยให้เด็กมีการพัฒนาเติบโตได้อย่างสมบูรณ์และรวดเร็ว [embed-health-tool-vaccination-tool] ซูโดกุ กับ คณิตศาสตร์ หลายคนอาจยังเข้าใจผิดว่า ซูโดกุ เป็นเกมคณิตศาสตร์ แต่โธมัส ซินเดอร์ (Thomas Snyder) แชมป์ซูโดกุระดับโลกกล่าวว่า ซูโดกุ เป็นเกมที่เหมือนกับเกมตัวต่อ ไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะความรู้ขั้นสูงในการเล่น มีเพียงตัวเลข 9 ตัว ที่แตกต่างกันและต้องนำไปวางลงในตารางเพื่อเชื่อมต่อกับจุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีการที่คล้ายกับการต่อตัวต่อทั่วไป ดังนั้น ต่อให้ไม่เก่งคณิตศาสตร์ ก็สามารถเล่นเกมนี้ได้อย่างแน่นอน  ประโยชน์ของเกมซูโดกุ ซูโดกุ ได้ชื่อว่าเป็นเกมลับสมองที่มีส่วนในการเสริมพัฒนาการของระบบสมอง โรงเรียนหลายแห่งได้มีการนำเกมนี้มาเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนการสอน โดยมุ่งหวังให้เด็ก ๆ ได้มีการกระตุ้นระบบความคิดของตนเอง รวมถึงประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ดังนี้ ช่วยเพิ่มความจำ ในระหว่างเล่น ซูโดกุ ระบบความจำกับระบบความคิดแบบตรรกะจะทำงานไปพร้อม ๆ กัน โดยสมองจะใช้ทั้งความจำในการจดจำตัวเลข และใช้ความคิดแบบตรรกะในการจำแนกตัวเลขที่แตกต่างกันสำหรับเติมลงในช่องว่างช่องต่อไป ช่วยกระตุ้นระบบความคิด การเล่น ซูโดกุ เป็นประจำมีประโยชน์ในการกระตุ้นการทำงานของสมอง […]


การเติบโตและพัฒนาการ

เล่านิทาน ให้ลูกฟังก่อนนอน มีประโยชน์อย่างไร

เล่านิทาน ให้ลูกฟัง เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่อาจช่วยส่วนในการเพิ่มทักษะและพัฒนาการของเด็ก เสริมสร้างจินตนาการ ฝึกให้ลูกรู้จักเรียนรู้ ช่างสังเกต อีกทั้งยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อคุณแม่และลูกได้ อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกหนังสือให้เหมาะสมกับพัฒนาการของลูก และควรหลีกเลี่ยงหนังสือที่อาจมีเนื้อหารุนแรงหรือสยองขวัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กกลัวจนฝังใจอีกด้วย [embed-health-tool-vaccination-tool] ประโยชน์ของการ เล่านิทาน ให้ลูกฟังก่อนนอน คุณพ่อคุณแม่หลายคน อาจมีปัญหากับการบอกให้ลูก ๆ เข้านอน แต่จนแล้วจนรอดเด็ก ๆ ก็ยังคงนั่งทำตาแป๋ว ทำอย่างไรก็ไม่ยอมง่วงสักที หลายครอบครัวจึงหันมาใช้วิธีทำกิจกรรมร่วมกันก่อนเข้านอน โดยเฉพาะ การเล่านิทาน อ่านหนังสือ ให้ลูกฟังก่อนนอน ซึ่งกิจกรรมเช่นนี้ นอกจากจะมีส่วนช่วยให้เด็ก ๆ พร้อมที่จะเข้านอนแล้ว ก็ยังให้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ด้วย ดังนี้ พัฒนาทักษะทางภาษา การเล่านิทานหรือการ อ่านหนังสือ ก่อนนอน มีส่วนช่วยพัฒนาทักษะทั้งการฟังและการอ่าน เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้กลไก ทักษะทางภาษาผ่านถ้อยคำ รูปประโยค และบริบทต่าง ๆ แรกเริ่มผู้ปกครองอาจจะอ่านให้ลูกฟัง จากนั้นจึงค่อย ๆ ผลัดเปลี่ยนมาให้เด็กอ่านให้ฟังบ้าง หรือต่างคนต่างอ่านแล้วมาสรุปพูดคุย แลกเปลี่ยนสิ่งที่ได้อ่านจบลงไป เพื่อให้มีกระบวนการแลกเปลี่ยนทางภาษาเกิดขึ้นหลังการอ่าน หรืออาจเลือกอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ เพื่อให้เกิดทักษะการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศที่แท้จริง เสริมสร้างจินตนาการ จินตนาการก็สำคัญไม่แพ้ความรอบรู้ มีผลการศึกษาเกี่ยวกับเด็กวัยก่อนเข้าเรียนว่า หากเด็กในวัยนี้มีการ อ่านหนังสือ […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!


advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม