ไวรัสโคโรนา

โรค Covid-19 ที่แพร่ระบาดและส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 ร้อยล้านรายทั่วโลก เป็น ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ชนิดหนึ่ง แต่ไวรัสโคโรนานั้นไม่ได้มีเพียงแค่ Covid-19 เท่านั้น ยังมีไวรัสก่อโรคอีกมากมาย ที่ Hello คุณหมอ ได้รวบรวมข้อมูลมาให้อ่านกัน ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

ไวรัสโคโรนา

สัญญาณเตือน อาการลองโควิด มีอะไรบ้าง รักษาอย่างไร

อาการลองโควิด แตกต่างไปในแต่ละราย โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ เหนื่อยล้าอย่างมาก เหนื่อยง่าย รู้สึกหายใจไม่ออก สูญเสียการได้กลิ่นหรือรับรู้รสชาติ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เป็นผื่น หากรู้สึกว่าตัวเองมีอาการเหล่านี้ ควรดูแลตนเองในเบื้องต้นด้วยการนอนหลับให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อบำรุงร่างกาย และไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาตามอาการ หรือประเมินสภาพร่างกายเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม อาจช่วยให้อาการลองโควิดหายไปได้ในที่สุด [embed-health-tool-bmi] อาการลองโควิด คืออะไร อาการลองโควิด (Long-term effects of COVID-19 หรือ Long COVID) เป็นอาการที่เกิดขึ้นหลังจากหายจากการติดเชื้อโควิดแล้ว โดยร่างกายจะมีอาการผิดปกติหลังจากได้รับเชื้อนานกว่า 4-12 สัปดาห์ขึ้นไป โดยทั่วไป ผู้ป่วยโควิด-19 ไม่ว่าจะมีอาการเล็กน้อยหรือรุนแรง ก็ล้วนมีความเสี่ยงที่จะเป็นลองโควิดหรืออาการป่วยบางอย่างในระยะยาวได้ แม้ว่าจะตรวจไม่พบเชื้อในร่างกายแล้วก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงอาการลองโควิด ผู้ที่มีความเสี่ยงต่ออาการลองโควิด ได้แก่ ผู้ที่มีอาการป่วยรุนแรงจากโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือต้องการการดูแลจากบุคลากรทางการแพทย์อย่างใกล้ชิดในฐานะผู้ป่วยหนัก ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือเป็นโรคเรื้อรังอยู่แล้วก่อนที่จะได้รับเชื้อโควิด-19 เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มีอาการของกลุ่มอาการอักเสบหลายระบบในเด็กหรือภาวะมิสซี (MIS- C) และกลุ่มอาการอักเสบหลายระบบในผู้ใหญ่ หรือภาวะมิสเอ (MIS-A) ในช่วงที่เป็นโควิดหรือหลังหายจากโควิด ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้ยาก เกิดจากระบบต่าง ๆ ในร่างกายเกิดการอักเสบ และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้เสียชีวิตได้ อาการลองโควิดเป็นอย่างไร โควิด-19 […]

สำรวจ ไวรัสโคโรนา

ไวรัสโคโรนา

Swab คืออะไร มีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร

สวอป (Swab) เป็นคำซึ่งได้ยินบ่อย ๆ หลังจากการระบาดของโควิด-19 หมายถึง การใช้ไม้ป้ายเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากร่างกายเพื่อนำไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีรูปแบบการสวอปและรูปแบบการตรวจโรคที่แตกต่างกันไป Swab มีกี่แบบ การสวอปเพื่อตรวจการติดเชื้อโควิด-19 โดยทำผ่านจมูก มี 2 แบบ ดังต่อไปนี้ การสวอปโพรงจมูกด้านหน้า (Nasal Swab) การสวอปโพรงจมูกด้านหน้า คือ การสวอปเพื่อเก็บตัวอย่างจากเยื่อบุโพรงจมูก โดยสอดแท่งสวอปเข้าไปในรูจมูกข้างใดข้างหนึ่ง (บางกรณีอาจทำทั้ง 2 ข้าง) ลึกประมาณ 2 เซนติเมตร จากนั้นหมุนแท่งสวอปเป็นเวลา 10-15 วินาที ก่อนดึงแท่งสวอปออกมาเพื่อนำตัวอย่างสารคัดหลั่งจากร่างกายไปเข้าขั้นตอนตรวจ ทั้งนี้ ก่อนสวอปควรล้างมือให้สะอาดและห้ามสัมผัสปลายแท่งสวอปโดยเด็ดขาด หากผู้ตรวจต้องการตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเอง อาจใช้การสวอปโพรงจมูกด้านหน้า เพราะทำได้ไม่ยาก สะดวก และได้ผลที่ค่อนข้างชัดเจน การสวอปด้านหลังโพรงจมูก (Nasopharyngeal Swab) การสวอปด้านหลังโพรงจมูก คือ การป้ายเอาตัวอย่างจากเนื้อเยื่อหลังโพรงจมูกไปตรวจ โดยเริ่มจากการสอดแท่งสวอปเข้าไปในจมูกจนชนกับส่วนหลังของโพรงจมูก หรือความลึกราวปลายจมูกถึงใบหู ซึ่งลึกกว่าการสวอปแบบแรก จากนั้น เก็บตัวอย่างด้วยการหมุนแท่งสวอป 2-3 ครั้ง แล้วค่อย ๆ ดึงออกมา การสวอปด้านหลังโพรงจมูก อาจสร้างความอึดอัดแก่ผู้โดนตรวจได้มากกว่ากการสวอปโพรงจมูกด้านหน้า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อาจเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกเพียงข้างเดียว หากพิจารณาว่าเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งได้เพียงพอแล้ว การสวอปด้านหลังโพรงจมูกด้วยตัวเองอาจไม่เหมาะกับผู้ที่เคยผ่าตัดไซนัสหรือฐานกะโหลก […]


ไวรัสโคโรนา

การฉีดไฟเซอร์ในเด็ก ข้อมูลต่าง ๆ ที่ควรรู้

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในประเทศไทย ได้อนุญาตให้มีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุ 5-11 ปี ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เพื่อป้องกันเด็ก ๆ จากการติดเชื้อโควิด-19 และความเสี่ยงต่าง ๆ โดยการฉีดไฟเซอร์ในเด็กอายุ 5-11 ปีจะเริ่มตั้งแต่ 31 มกราคม พ.ศ. 2565 ทั้งนี้ ผู้ปกครองควรทำความเข้าใจในข้อมูลของวัคซีนไฟเซอร์ การเตรียมความพร้อมก่อนพาลูกหลานไปฉีดวัคซีน รวมถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของลูกหลาน วัคซีนไฟเซอร์ คืออะไร มีความปลอดภัยแค่ไหน วัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) หรือมีชื่อทางการว่า BNT162b2 เป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA (Messenger Ribonucleic Acid) เช่นเดียวกับวัคซีนโมเดอร์นา BNT162b2 คิดค้นโดยบริษัทเวชภัณฑ์อเมริกัน ไฟเซอร์ ร่วมกับบริษัทสัญชาติเยอรมันไบออนเทค (BioNTech) เมื่อฉีดไฟเซอร์เข้าสู่ร่างกาย สารพันธุกรรม mRNA ในวัคซีนจะสอนให้ร่างกายสร้างโปรตีนเฉพาะของไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 ขึ้นมา วิธีนี้จะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้สร้างแอนติบอดีเพื่อต่อสู้กับโปรตีนดังกล่าวในฐานะสิ่งแปลกปลอม และเมื่อ SARS-CoV-2 เข้ามาในร่างกายจริง […]


ไวรัสโคโรนา

Rapid Test โควิด-19 ต้องตรวจบ่อยแค่ไหน ตรวจเจอโอมิครอนหรือไม่

Rapid Test คือการตรวจหาการติดเชื้อโควิด-19 แบบเร่งด่วน สามารถตรวจเองได้โดยใช้ชุดตรวจเฉพาะ แม้ผลตรวจอาจไม่แม่นยำเท่ากับการตรวจแบบ PCR แต่ถือว่าเป็นการคัดกรองโควิด-19 เบื้องต้น หากตรวจด้วยชุดตรวจแล้วพบว่าตัวเองติดเชื้อ หรือได้ผลเป็นบวก ควรรีบไปตรวจด้วยวิธี PCR อีกครั้งที่สถานพยาบาล หากผลออกมาว่าติดโควิด-19 จริงจะได้เข้ารับการรักษาที่เหมาะสม ปัจจุบัน Rapid Test สามารถตรวจพบโรคโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์ อย่างไรก็ตาม สำหรับสายพันธุ์โอมิครอน นักวิจัยยังคงตั้งคำถามถึงความแม่นยำในการตรวจด้วย Rapid Test เพื่อเป็นการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัส ควรสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มหรืออยู่ในชุมชนแออัด และตรวจการติดเชื้อหากพบว่าตนเองมีความเสี่ยง ชนิดของ Rapid Test Rapid Test มี 2 แบบ ดังนี้ 1. Rapid Antigen Test คือการสวอบ (Swab) หรือเก็บสารคัดหลั่งจากในโพรงจมูกหรือลำคอไปตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) หรือเอทีเค การตรวจด้วยวิธีนี้มีความแม่นยำในกรณีที่ตรวจผู้ติดเชื้อมาแล้ว 5-14 วัน หรือมีเชื้อในร่างกายมากพอ การตรวจโควิด-19 […]


ไวรัสโคโรนา

อาการโอมิครอน มีอะไรบ้าง เช็กตัวเองด่วน

ปัจจุบันโควิดสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ได้เริ่มแพร่ระบาดทุกประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่ขณะนี้ได้รับการยืนยันจากทางกระทรวงสาธารณสุขแล้วว่า มีผู้ติดเชื้อโอมิครอนมากกว่า 100 ราย และอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ จึงอาจทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงข้อมูลการป้องกัน อาการ ที่แน่ชัด เพื่อความปลอดภัย ควรสำรวจอาการของตนเอง เพื่อทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที โควิดสายพันธุ์โอมิครอน คืออะไร โอมิครอน (Omicron) คือเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ถูกพบครั้งแรกในประเทศแอฟริกา ซึ่งทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศยกระดับให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล เนื่องจากโอมิครอน มีการกลายพันธุ์ของยีนมากถึง 50 ตำแหน่ง โปรตีนส่วนหนามของไวรัส 32 ตำแหน่ง และการกลายพันธุ์ส่วนที่เป็นตัวจับเซลล์ในร่างกาย 10 ตำแหน่ง โดยการกลายพันธุ์นี้อาจส่งผลให้ไวรัสหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ดี แพร่กระจายได้ไว มีความเสี่ยงที่ส่งผลให้ติดเชื้อซ้ำได้ อาการโควิดสายพันธุ์โอมิครอน มีอะไรบ้าง อาการโควิดสายพันธุ์โอมิครอนอาจส่งผลความรุนแรงแตกต่างกันไปในแต่บุคคล ขึ้นอยู่กับสภาวะทางสุขภาพ อายุ จากข้อมูลของผู้ติดเชื้อโอมิครอนส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการใด ๆ บางคนอาจมีอาการน้อยเหมือนไข้หวัดธรรมดา ตามการรายงานจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติประเทศอังกฤษ และคณะนักวิจัยประเทศแอฟริกาใต้ เผยว่า อาการโควิดสายพันธุ์โอมิครอนแตกต่างจากอาการป่วยของโควิด-19 สายพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งสามารถสังเกตได้ ดังนี้  ปวดกล้ามเนื้อแบบไม่รุนแรง เหงื่อออกช่วงเวลากลางคืน ไอแห้ง เจ็บคอ อ่อนเพลีย […]


ไวรัสโคโรนา

บูสเตอร์โดส วัคซีนป้องกันโควิด จำเป็นหรือไม่ เหมาะกับใคร

ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีวัคซีนที่อาจเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการรุนแรงเมื่อติดโรคโควิด-19 โดยประชากรในประเทศไทยเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม มากกว่า 42 ล้านคน และมีผู้ได้รับวัคซีน บูสเตอร์ (booster) หรือบูสเตอร์โดส เข็มที่ 3 มากกว่า 3 ล้านคน ซึ่งวัคซีนบูสเตอร์ อาจมีความจำเป็นในการป้องกันโควิดสายพันธ์ุใหม่ที่ก่อตัวขึ้นและระบาดในวงกว้าง เช่น เดลต้า (Delta) โอไมครอน (Omicron) อย่างไรก็ตาม ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ ควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นว่าตนเองนั้นเหมาะที่จะเข้ารับการฉีดหรือไม่ และควรเลือกวัคซีนชนิดใดเป็นเข็มบูสเตอร์ การฉีดวัคซีน บูสเตอร์ (booster) การฉีดวัคซีนบูสเตอร์ (booster) หรือบูสเตอร์โดส คือ การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็มแรกตามกำหนด เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ประสิทธิภาพของวัคซีนในการเสริมภูมิคุ้มกันอาจค่อย ๆ ลดลง การฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์จึงอาจช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ป้องกันโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว การฉีดวัคซีนบูสเตอร์ อาจเป็นวัคซีนชนิดเดียวกับวัคซีน 2 เข็มแรก หรือวัคซีนต่างชนิด ทั้งนี้คุณหมออาจพิจารณาจากอายุ และภาวะสุขภาพของผู้ที่ได้รับวัคซีน วัคซีนบูสเตอร์ที่ใช้ในประเทศไทย วัคซีนบูสเตอร์ที่ใช้ในประเทศไทย มีดังนี้ 1. แอสตร้าเซนเนก้า […]


ไวรัสโคโรนา

ชุดทดสอบแอนติเจน (Antigen) สำหรับโควิด 19

ชุดทดสอบแอนติเจน (Antigen) เป็นวิธีตรวจโควิดด้วยตนเอง โดยตรวจหาโปรตีนแอนติเจนของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 หรือโรคโควิด-19 เบื้องต้นแบบเร่งด่วน รู้ผลไวภายใน 15 นาที สามารถใช้ทดสอบเองได้ที่บ้าน โดยเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากจมูก หรือคอ ผลตรวจอาจแม่นยำมากขึ้นในผู้ที่ติดเชื้อระยะแรกและมีอาการของการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ควรซื้อชุดตรวจที่ได้รับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาและหากผลตรวจเป็นลบ ควรทำการทดสอบซ้ำอีกครั้ง หรือหากผู้ทดสอบมีความเสี่ยงสูง ก็ควรเข้ารับการตรวจโควิดแบบ RT-PCR ที่โรงพยาบาลเพิ่มเติมเพื่อความแม่นยำยิ่งขึ้น ชุดทดสอบแอนติเจน (Antigen) สำหรับโควิด 19 คืออะไร Antigen หรือ Rapid Antigen Test Kit (ATK) เป็นชุดที่ใช้ทดสอบการติดเชื้อโควิด 19 ได้ด้วยตนเอง โดยเป็นชุดตรวจหาโปรตีนแอนติเจนชนิดนิวคลีโอแคปซิด (Nucleocapsid หรือ N-protein) ของเชื้อไวรัสโคโรนา ชุดทดสอบ Antigen เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะติดเชื้อโควิด 19 และมีอาการบ่งชี้ชัดเจน หรือสำหรับผู้ที่ยังไม่มีอาการแต่จัดอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง อาจได้รับการทดสอบ Antigen เบื้องต้น ก่อนทำการทดสอบด้วยวิธีอื่น ๆ อีกครั้งเพื่อยืนยันผล วิธีใช้ชุดทดสอบแอนติเจน (Antigen) ชุดตรวจ Antigen สามารถใช้ตรวจได้หลายวิธี ทั้งเก็บตัวอย่างเยื่อบุจมูก […]


ไวรัสโคโรนา

วิธีป้องกันตนเองจาก เชื้อไวรัส โควิดระบาดในช่วงเทศกาล

ในช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธ์ุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเดลต้า (Delta) และโอไมคริน (Omicron) อาจทำให้การท่องเที่ยวและสังสรรค์ช่วงเทศกาลต่าง ๆ เช่น วันคริสมาสต์ วันปีใหม่ มีความน่ากังวลและลำบากมากกว่าปกติ ผู้ที่กำลังวางแผนจะเดินทางท่องเที่ยว หรือปาร์ตี้กับคนกลุ่มใหญ่ ควรศึกษาเกี่ยวกับวิธีการป้องกันตัวเองจาก เชื้อไวรัส รวมถึงวิธีการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัส เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ และช่วยลดการแพร่กระจายของโควิด-19 ที่อาจจะเกิดขึ้น เชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร เชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถแพร่กระจายและติดต่อกันได้จากการไอ จาม สูดลมหายใจรับเชื้อที่ลอยอยู่ในอากาศ หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อบนสิ่งของรอบตัวก่อนนำมือไปจับตา ปาก จมูก ทำให้ร่างกายได้รับเชื้อนำไปสู่อาการเจ็บป่วย ผู้ที่ติด เชื้อไวรัส อาจมีอาการ ดังนี้ อาการทั่วไปเมื่อติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีไข้สูงเกิน 37.5 องศา หนาวสั่น อาการไอ เจ็บคอ คัดจมูก หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นแรง วิงเวียนศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง สูญเสียการรับรู้รสชาติและการได้กลิ่น อาการเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระยะยาว (long-haul Covid) โรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ เมื่อเชื้อโควิด-19 อยู่ในร่างกายเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดโรคปอดบวม ซึ่งปอดทั้ง 2 ข้างอาจเต็มไปด้วยของเหลว ทำให้หายใจลำบาก และนำออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อไปหล่อเลี้ยงร่างกายได้ยากขึ้น ลิ่มเลือด เชื้อไวรัสโควิด-19 อาจทำให้เลือดจับตัวเป็นก้อนก่อให้เกิดลิ่มเลือด ซึ่งอาจไปอุดตันหลอดเลือด จนทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะส่วนต่าง ๆ […]


ไวรัสโคโรนา

ตรวจโควิด มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร

ตรวจโควิด เป็นวิธีการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิดในร่างกาย หากทราบผลของการตรวจได้เร็วและรีบทำการรักษา ก็อาจช่วยหยุดการแพร่กระจายเชื้อ ลดความรุนแรงของโรค และลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ ซึ่งในปัจจุบัน การตรวจโควิดนั้นง่ายและทราบผลได้รวดเร็วขึ้น มีชุดทดสอบที่สามารถตรวจเองได้ที่บ้าน นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบด้วยวิธีการ RT-PCR เพื่อยืนยันผลได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ดังนั้น ผู้ที่มีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อควรเข้ารับการตรวจโควิด เพื่อให้ผู้ป่วยรู้ตัวได้ทัน สามารถกักตัวเองก่อนแพร่เชื้อสู่คนรอบข้าง และทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที การตรวจโควิด 19 คืออะไร ตรวจโควิด คือ การตรวจหาเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงไปจนถึงมีความเสี่ยงต่ำ ทั้งในผู้ที่แสดงอาการ เช่น มีไข้ เจ็บคอ หายใจลำบาก สูญเสียการรับรู้กลิ่นและรส และในผู้ที่ไม่แสดงอาการ เพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด 19 และทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งการตรวจโควิดในปัจจุบันมีชุดทดสอบที่สามารถใช้ตรวจเองเบื้องต้นได้ที่บ้าน เห็นผลรวดเร็วหรือการตรวจแบบ RT-PCR ที่สามารถเข้ารับตรวจตามคลินิกและโรงพยาบาล​ ซึ่งให้ผลที่แม่นยำขึ้น การตรวจโควิด ทำให้ผู้ป่วยสามารถรู้ตัวว่าตนเองติดโควิดหรือไม่ สามารถแยกตัวออกจากผู้คนเพื่อหยุดการแพร่เชื้อ และช่วยให้ได้รับการรักษาได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มลดความรุนแรงของโรคโควิด 19 และลดความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาว หรือแม้กระทั่งเสียชีวิต ประเภทของการตรวจโควิด 19 การตรวจโควิด 19 แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ การทดสอบแบบรวดเร็ว (Rapid […]


ไวรัสโคโรนา

Omicron (โอไมครอน) ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ที่ควรระวัง

ปัจจุบันโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลก ได้กลายพันธุ์ออกเป็นสายพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย เช่น อัลฟา (Alpha) เบตา (Beta) แกมมา (Gamma) เดลตา (Delta) แต่ล่าสุดเมื่อ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์ของแอฟริกาใต้พบ Omicron (โอไมครอน หรือ โอมิครอน) ซึ่งเป็นไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ถูกค้นพบครั้งแรกที่ประเทศแอฟริกา และเริ่มแพร่ระบาดไปยังประเทศอื่น ๆ ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถระบุถึงความรุนแรงของอาการ และประสิทธิภาพของวัคซีนต่อโควิด-19 สายพันธุ์นี้ได้ จึงแนะนำให้ทุกประเทศเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ให้ดี ทำความรู้จักโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron Omicron (โอไมครอน หรือ โอมิครอน) คือ เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองและเฝ้าระวังเป็นอย่างมากถูกค้นพบครั้งแรกในประเทศแอฟริกา จากนั้นไม่นานก็ถูกพบอีกที่ประเทศฮ่องกง เบลเยี่ยม และอิสราเอล ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ร่วมประชุมเพื่อประเมินตัวแปรของไวรัส และได้ ยืนยันว่า Omicron เป็นเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่มีตัวแปร B.1.1.529 ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ใหม่ที่น่ากังวล ชนิดที่ […]


ไวรัสโคโรนา

วัคซีน Moderna เหมาะกับใคร เกิดผลข้างเคียงหรือไม่

Moderna (โมเดอร์นา) เป็นวัคซีนทางเลือกประเภท mRNA ที่ผลิตโดยบริษัทโมเดอร์นาทีเอ็กซ์ (ModernaTX, Inc.) ประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับประเทศไทย ได้มีการอนุมัติการใช้วัคซีนชนิดนี้เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 วัคซีนโมเดอร์นามีคุณสมบัติช่วยป้องกันการเกิดอาการรุนแรงจากโรคโควิด-19 (COVID-19) เพื่อให้วัคซีนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรได้รับวัคซีนจำนวน 2 โดส ห่างกัน 28 วัน หากพบอาการผิดปกติหลังฉีดวัคซีน เช่น หายใจลำบาก วิงเวียนศีรษะ หัวใจเต้นเร็ว ควรแจ้งให้คุณหมอทราบทันที เพื่อความปลอดภัย วัคซีน Moderna คืออะไร Moderna (โมเดอร์นา) คือ วัคซีนชนิด mRNA ที่ผลิตจากสารพันธุกรรมของไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 เพื่อช่วยกระตุ้นเซลล์ให้ผลิตสารโปรตีนสไปค์ (Spike Protein) เป็นการจำลองลักษณะของไวรัสเมื่อเข้าสู่ร่างกายโดยที่ไม่มีการติดเชื้อ ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต้านเชื้อไวรัส เมื่อฉีดเข้าบริเวณกล้ามเนื้อแขน วัคซีนจะช่วยกระตุ้นให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันผลิตแอนติบอดีที่ช่วยจัดการเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 (COVID-19) จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือการเกิดอาการรุนแรงเมื่อติดเชื้อได้ ผู้ที่รับวัคซีน Moderna อาจจำเป็นต้องรับวัคซีน 2 โดส ห่างกัน 28 วัน […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม