โรคเบาหวานชนิดที่ 2

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ติดนิสัยชอบกินหวาน ทั้งชานมไข่มุก น้ำอัดลม ขนมเค้ก หรือแม้แต่สายรักคาร์บทั้งหลาย คุณก็อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิด โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ หากไม่รู้จักการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดี เรียนรู้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ทั้งข้อมูลพื้นฐาน การดูแลรักษา การป้องกัน และการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

โรคเบาหวานชนิดที่ 2

โรคเบาหวานชนิดที่ 2 หรือ DM type 2 คือ อะไร

DM type 2 คือ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นโรคเบาหวานชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากเซลล์ในร่างกายไม่สามารถตอบสนองต่ออินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือเรียกว่าภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin resistance) ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การมีไขมันสะสมในร่างกายมากเกินไป เมื่ออินซูลินไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จึงส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และอาจทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น กระหายน้ำมาก ปัสสาวะบ่อย เหนื่อยง่าย หากปล่อยไว้ไม่รีบรักษา หรือควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น ภาวะเบาหวานขึ้นตา โรคหัวใจ โรคไต ภาวะเส้นประสาทเสื่อม จึงควรหมั่นสังเกตอาการและดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน DM type 2 คือ อะไร DM type 2 หรือ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นโรคเบาหวานชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด มีสาเหตุหลักมาจากภาวะดื้ออินซูลิน โดยปกติแล้ว ตับอ่อนจะผลิตอินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนหลักที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ออกฤทธิ์กระตุ้นให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายนำน้ำตาลไปเผาผลาญเป็นพลังงาน แต่หากร่างกายมีภาวะดื้ออินซูลิน จะทำให้การตอบสนองต่ออินซูลินของเซลล์ผิดปกติ จึงไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ตับอ่อนจึงต้องพยายามสร้างอินซูลินเพิ่มมากขึ้นเพื่อมาชดเชย เมื่อเวลาผ่านไป […]

สำรวจ โรคเบาหวานชนิดที่ 2

โรคเบาหวานชนิดที่ 2

เวย์โปรตีนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ในผู้ป่วยเบาหวาน

เวย์โปรตีนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ได้หรือไม่ อาจเป็นคำถามที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานหลายคนสงสัย เวย์โปรตีนเป็นอาหารเสริมโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย มีคุณสมบัติแตกต่างจากโปรตีนชนิดอื่น เนื่องจากมีไขมันต่ำ เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 การรับประทานเวย์โปรตีนก่อนมื้ออาหาร ช่วยกระตุ้นอินซูลิน ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานควบคุมระดับน้ำตาลได้ดียิ่งขึ้น  เวย์โปรตีนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ได้จริงหรือไม่ เวย์โปรตีนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยผลการวิจัยที่บรรยายในที่ประชุมวิชาชีพเบาหวานแห่งสหราชอาณาจักร พบว่า การรับประทานเวย์โปรตีนก่อนมื้ออาหาร จะช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน และช่วยควบคุมให้ระดับน้ำตาลลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานควบคุมระดับน้ำตาลได้ดียิ่งขึ้น  นอกจากนี้ผลการวิจัยในที่ประชุมทางการแพทย์ โดย ศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ Daniela Jakubowicz มหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ (Tel Aviv) ในประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 1 เมษายน ปี พ.ศ. 2559 พบว่า จากผลการวิจัยในผู้ที่มีน้ำหนักเกินและอยู่ในภาวะอ้วน จำนวน 48 คน ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยเฉลี่ยมีอายุ 59 ปี พบว่า หลังจากรับประทานเวย์โปรตีนติดต่อกัน 3 เดือน จะรู้สึกอิ่มนานขึ้นและหิวน้อยลงตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงหลังรับประทานอาหารและยังส่งผลให้น้ำหนักลดลงอีกด้วย  คุณประโยชน์จากเวย์โปรตีนต่อผู้ป่วยเบาหวาน  เวย์โปรตีน เป็นโปรตีนที่อุดมด้วยคุณค่าทางสารอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน ดังนี้ กระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เวย์โปรตีน […]


โรคเบาหวานชนิดที่ 2

ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในผู้ป่วยเบาหวาน มีข้อควรระวังอย่างไร

ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในผู้ป่วยเบาหวาน มีเป้าหมายเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสชนิดนี้ เป็นการป้องกันและลดความความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งลดความรุนเเรงหรืออาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหากติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ผู้ที่เป็นเบาหวานนับเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เปราะบางที่จำเป็นต้องสังเกตอาการทั้งก่อนและหลังฉีดวัคซีนอย่างใกล้ชิด [embed-health-tool-heart-rate] ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในผู้ป่วยเบาหวาน มีข้อควรรู้อะไรบ้าง สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย (Diabetes Assocition of Thailand) ได้ให้คำแนะนำสำหรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในผู้ป่วยเบาหวาน ดังต่อไปนี้ หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ผู้ป่วยเบาหวานจึงควรเฝ้าระวังด้วยการหมั่นเจาะตรวจระดับน้ำตาลปลายนิ้วด้วยตนเองในช่วง 48 ชั่วโมงหลังฉีดวัคซีน เเละควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ สำหรับคุณเเม่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรที่เป็นโรคเบาหวาน หรือมีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หากติดเชื้อโควิด-19 ควรปรึกษารีบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทันที เพราะนับว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดอาการของโควิด-19 ได้รุนเเรงกว่าคนทั่วไป อีกทั้งในปัจจุบันยังไม่ข้อมูลในเเง่ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนในกลุ่มคุณเเม่ที่ตั้งครรภ์ ถึงแม้ผู้ป่วยเบาหวานจะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่ควรละเลยการป้องกันและดูแลตนเอง เพราะเเม้จะฉีดวัคซีนเเล้ว ก็ยังมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ ดังนั้น ผู้ป่วยเบาหวานควรรักษาสุขอนามัยอยู่เสมอ เช่น สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่างทางสังคม เมื่อผู้ป่วยเบาหวานมีอาการเจ็บป่วย หรือกำลังอยู่ในช่วงรักษาอาการป่วย หรือเคยมีประวัติการแพ้วัคซีน หรือ ควรปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ก่อนฉีดวัคซีน ไม่จำเป็นต้องงดอาหารหรือยาโรคประจำตัวก่อนมาฉีดวัคซีน วัคซีนป้องกันโควิด-19 ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือไม่? วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ได้รับการอนุญาตจากองค์การอาหารเเละยาทั้งของประเทศไทยเเละต่างประเทศ ในปัจจุบัน ได้เเก่ วัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer BioNTech) วัคซีนโมเดอร์นา […]


โรคเบาหวานชนิดที่ 2

เบาหวานในวัยเด็ก ปัจจัยเสี่ยง และการป้องกัน

เบาหวานในวัยเด็ก เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มักเกิดขึ้นในเด็กที่มีน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน ส่งผลให้ร่างกายมีภาวะดื้ออินซูลิน จึงทำให้ร่างกายมีการจัดการกับน้ำตาลบกพร่อง และมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงตามมา ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนั้น การได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงและวิธีการดูเเลเพื่อป้องกันโรคเบาหวาน จะช่วยให้สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเเทรกซ้อนต่อสุขภาพในระยะยาวได้ [embed-health-tool-bmi] ทำความรู้จัก โรคเบาหวานในวัยเด็ก ในปัจจุบันได้มีเด็กและวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากภาวะความอ้วน ซึ่งส่งผลทำให้ร่างกายเกิดภาวะดื้ออินซูลิน หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม หรือ ปล่อยให้มีระดับนำ้ตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงจากโรคเบาหวานได้ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไต เบาหวานขึ้นตา เเละ เส้นประสาทเสื่อมจากเบาหวาน ทั้งนี้หากลูก/หลานของท่านเป็นเบาหวาน ควรรีบไปพบเเพทย์เพื่อรับกรรักษาเเละควบคุมระดับน้ำตาลให้ได้ตามเป้าหมาย เพื่อให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีในระยะยาว  ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้เด็กเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค เบาหวานในวัยเด็ก มีดังต่อไปนี้ น้ำหนักเกิน เด็กที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน หรือ เป็นโรคอ้วน นับเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เนื่องจากทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้เซลล์ในร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินบกพร่อง จนนำไปสู่โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในที่สุด ปัจจัยทางพันธุกรรม หากสมาชิกในครอบครัว เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง เป็นโรคเบาหวาน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานได้ น้ำหนักแรกคลอด เด็กที่มีนำ้หนักเเรกคลอดมากกว่า 4 […]


โรคเบาหวานชนิดที่ 2

การพยาบาลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ อาจพบได้ในผู้ที่เป็นโรคเบาหวานแล้วอาจได้รับยาหรือมีพฤติกรรมที่ทำให้ยาลดระดับน้ำตาลหรืออินซูลินที่ใช้ ปริมาณอาหารที่รับประทาน รวมถึงกิจกรรมที่ใช้พลังงานในแต่ละวันไม่สมดุลกัน จนเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำตามมา ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที อาจทำให้อาการรุนเเรงขึ้นจนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ สิ่งสำคัญคือจะต้องได้รับการประเมินอาการอย่างถูกต้องและรวดเร็ว รวมถึงทราบวิธีการรักษาเบื้องต้นที่เหมาะสม เพื่อมิให้อาการทรุดลงจนถึงขั้นอันตราย ดังนั้น หากทราบถึงวิธี การพยาบาลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ก็อาจช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ดูแลทำความเข้าใจและมีความรู้ในการดูแลตนเอง ป้องกัน รวมถึงแก้ไขภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้อย่างมั่นใจ [embed-health-tool-heart-rate] ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ คืออะไร ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) ในผู้ที่เป็นเบาหวาน คือ ภาวะที่มีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดต่ำกว่า 70 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร โดยสาเหตุมักเกิดจากได้รับยาเบาหวาน หรืออินซูลินมากจนเกินไป นอกจากนี้อาจมีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ม รวมถึงการออกกำลังกายมากกว่าปกติด้วย หากผู้ป่วยเบาหวานมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ ใจสั่น และหากไม่รีบแก้ไขอย่างทันท่วงที อาการอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานกลุ่มไหนบ้าง ที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เมื่อปริมาณยาลดระดับน้ำตาลหรืออินซูลินที่ได้รับ ปริมาณอาหารที่รับประทาน รวมถึงกิจกรรมที่ใช้พลังงานในแต่ละวันไม่สมดุลกันจะก่อให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้   ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ อาจมีดังนี้ ใช้อินซูลินหรือยาลดระดับน้ำตาลกลุ่มซัลโฟนิลยูเรีย (Sulfonylurea) ในปริมาณที่สูง รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา หรืออดอาหารบางมื้อ ออกกำลังกายมากหักโหม หรือ มีกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากกว่าปกติ ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ๆ  เด็กเล็กและผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานมาเป็นระยะเวลานาน ๆ (มากกว่า 5-10 ปี) มีโรคร่วม […]


โรคเบาหวานชนิดที่ 2

ยาเบาหวาน คานากลิโฟซิน ยาตัวใหม่ในการรักษาผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2

ยาเบาหวาน คือยาที่ใช้รักษาโรคเบาหวาน มีทั้งยาฉีดอินซูลิน และยารับประทาน โดยยาคานากลิโฟลซิน จัดเป็นยารับประทานเพื่อรักษาโรคเบาหวานตัวใหม่ สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งมีคุณสมบัติต่างจากยารักษาโรคเบาหวานทั่วไป โดยยาตัวนี้มีคุณสมบัติลดระดับน้ำตาลในเลือดบริเวณท่อไต จึงทำให้ควบคุมเบาหวานได้ดีขึ้น แต่มีรายละเอียดอื่น ๆ ที่ผู้ป่วยเบาหวานควรทำความรู้จักไว้   ยาเบาหวาน คานากลิโฟลซิน ยารักษาโรคเบาหวานตัวใหม่ ในการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ผู้ป่วยจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ร่วมกับการรับประทานยาเบาหวานตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เป็นการลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งโดยปกติมียาเบาหวานหลายชนิดที่แพทย์สั่งขึ้นอยู่กับสภาวะของผู้ป่วยแต่ละคนที่แตกต่างกันไป ยาเบาหวาน ตัวใหม่มีชื่อว่า คานากลิโฟลซิน Canagliflozin หรือยาอินโวคานา (Invokana) เป็นยาชนิดรับประทานสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จัดอยู่ในกลุ่ม ยารักษาโรคเบาหวานตัวใหม่ ซึ่งออกฤทธิ์ควบคุมการดูดซึมกลับของน้ำตาลกลูโคสบริเวณท่อไต โดยการกระตุ้นให้ร่างกายกรองน้ำตาลกลูโคสออกจากเลือดมากขึ้น และขับออกทางปัสสาวะ ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้โดยน้ำหนักไม่เพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งนี้ผู้ป่วยจะต้องควบคุมการรับประทานอาหารให้สมดุลกับน้ำหนัก และออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานตามแพทย์สั่งเท่านั้น ยาเบาหวาน คานากลิโฟลซิน ช่วยรักษาโรคเบาหวานได้อย่างไร  ยาคานากลิโฟลซิน จัดอยู่ในกลุ่ม Sodium glucose co-transporter type 2 (SGLT2) เป็นโปรตีนขนส่งกลูโคส ซึ่งทำหน้าที่ในการเพิ่มปริมาณกลูโคสที่ส่งออกทางปัสสาวะ  โดยปกติเมื่อเลือดไหลผ่านไต ไตจะกรองกลูโคสออกจากเลือด แต่ยาในกลุ่มโปรตีนขนส่งกลูโคส  (SGLT2) […]


โรคเบาหวานชนิดที่ 2

5 วิธีดูแลผิวผู้ป่วยเบาหวาน

ผู้ป่วยเบาหวาน มักจะมีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ จึงทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะการติดเชื้อทางผิวหนัง การเรียนรู้เกี่ยวกับ วิธีดูแลผิวผู้ป่วยเบาหวาน จึงอาจช่วยดูแลสุขภาพผิวของผู้ป่วยโรคเบาหวานให้มีสุขภาพดี และช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ [embed-health-tool-bmi] ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 กับสุขภาพทางผิวหนัง โรคเบาหวานมักส่งผลกระทบต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงปัญหาทางด้านผิวหนัง เนื่องจากระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ ทำให้เลือดไหลเวียนไปยังผิวหนังลดลง และเกิดการติดเชื้อทางผิวหนังได้ง่าย  อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีผู้ป่วยโรคเบาหวานอาจมีอาการทางผิวหนังที่ส่งผลกระทบบุคคลรอบข้างได้อีกด้วย เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อรา และอาการคัน เป็นต้น  ปัญหาทางผิวหนังที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อาการทางผิวหนังที่พบได้บ่อยใน ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีดังต่อไปนี้ อาการคัน ที่อาจเกิดจากการติดเชื้อราบนผิวหนัง หรือจากการไหลเวียนของระบบเลือดที่ไม่ดี ผิวเปลี่ยนสี เช่น ผิวหนังมีสีคล้ำน้ำตาล ซึ่งพบได้บ่อยในเพศชายมากกว่าเพศหญิง การติดเชื้อรา คือเชื้อรา Candida albicans มักพบในบริเวณที่มีความอับชื้น รอบพับตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ผิวหนังแข็งและหนา โดยส่วนใหญ่ผิวหนังบริเวณนิ้วมือ นิ้วเท้า จะมีลักษณะแข็งและหนาขึ้น  โรคด่างขาว เกิดจากความผิดปกติของสีผิว เมื่อเซลล์เม็ดสีถูกทำลาย จึงทำให้สีผิวมีลักษณะเป็นดวงขาว ๆ ขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกาย 5 […]


โรคเบาหวานชนิดที่ 2

คาร์โบไฮเดรตกับโรคเบาหวาน เกี่ยวข้องกันอย่างไร

คาร์โบไฮเดรตกับโรคเบาหวาน เกี่ยวข้องกันอย่างมาก เพราะหากไม่ควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ เนื่องจากร่างกายจะย่อยอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคส เมื่อปริมาณน้ำตาลกลูโคสเพิ่มสูงขึ้น โอกาสเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงก็ยิ่งสูงตามไปด้วยและเป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน ความเชื่อมโยงระหว่าง คาร์โบไฮเดรตกับโรคเบาหวาน หากรับประทานอาหารที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate) มากจนเกินไป อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นเพราะร่างกายจะย่อยอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคส เมื่อปริมาณน้ำตาลกลูโคสเพิ่มสูงขึ้น ร่างกายจึงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานได้ง่าย ดังนั้น ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โดยการลดปริมาณคาร์โบไฮเดรต (คาร์โบไฮเดรตคืออาหารประเภทน้ำตาล ข้าว แป้ง นมวัว ผักที่มีแป้งมาก) และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูง  อาหารที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ควรรับประทานและหลีกเลี่ยง สำหรับ  ถึงแม้ว่าคาร์โบไฮเดรตจะมีส่วนเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำตาลในเลือดสามารถควบคุมได้ดชด้วยการกำหนดปริมาณคาร์โบไฮเดรตหรือรับประทานอาหารที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ โดยปกติในแต่ละวัน ร่างกายไม่ควรได้รับคาร์โบไฮเดรตเกินวันละ 30 กรัม   คาร์โบไฮเดรตที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ควรรับประทาน ได้แก่ ผักที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ เช่น กะหล่ำปลี คะน้า บร็อคโคลี่ อาหารที่มีแคลอรี่ต่ำและมีไขมันดี อะโวคาโด น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว ปลา อาหารทะเล อื่น ๆ ไข่ ชีส ขนมปัง คาร์โบไฮเดรตที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 […]


โรคเบาหวานชนิดที่ 2

ผักสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ช่วยลดน้ำตาลในเลือด

พืชผักสมุนไพรบางชนิดอาจลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ และผักบางชนิดก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานได้เช่นกัน ดังนั้น การเลือกรับประทานผักจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นเดียวกับการเลือกรับประทานอาหารต่าง ๆ โดย ผักสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ได้แก่ บร็อคโคลี่ บวบ ผักขม ซึ่งเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ที่อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ [embed-health-tool-bmi] ผักสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน มีความจำเป็นอย่างไร การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่อาจช่วยควบคุมเบาหวานได้โดยไม่ต้องรับประทานยา ซึ่งผักถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานผักอย่างน้อย 2.5 ถ้วย/วัน เนื่องจากผักอุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ ซึ่งมีประโยชน์สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ผักสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ถึงแม้ว่าผักจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย แต่ไม่ได้หมายความว่าผักทุกชนิดจะเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยผักที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรเป็นผักที่มีดัชนีน้ำตาลในเลือดต่ำซึ่งเมื่อรับประทานแล้วไม่ทำให้ค่าระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นทันที ซึ่งอาจมีดังนี้ แครอท แครอทอุดมด้วยไฟเบอร์และวิตามินเอ ซึ่งมีความสำคัญสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน นอกจากนี้ อาจช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและบำรุงสุขภาพดวงตาให้แข็งแรงอีกด้วย จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน Preventive Nutrition and Food Science เมื่อ พ.ศ. 2561 ศึกษาเกี่ยวกับแครอทผงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด พบว่า การเสริมแครอทเข้าไปในมื้ออาหารช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อความผิดปกติของหัวใจและการต่อต้านอนุมูลอิสระ อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของแครอทต่อผู้ป่วยเบาหวานต่อไป บร็อคโคลี่ บร็อคโคลี่อุดมด้วยสารอาหารพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) ซึ่งมีส่วนช่วยปรับสมดุลภายในลำไส้  และยังช่วยเผาผลาญกลูโคสและคอเลสเตอรอลภายในร่างกาย จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน Preventive Nutrition and Food […]


โรคเบาหวานชนิดที่ 2

ผลข้างเคียงของยาเบาหวาน ที่ควรรู้

ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes mellitus) นอกจากการปรับพฤติกรรมสุขภาพแล้ว ยังจำเป็นต้องรับประทานยาลดระดับน้ำตาลอย่างสม่ำเสมอด้วย เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม แต่ในผู้ป่วยบางราย อาจเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น  อาการไม่สบายท้อง คลื่นไส้ เบื่ออาหาร หรือ อาจเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ จึงควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนการใช้ยา และใช้รับประทานยาตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันมิให้เกิดผลข้างเคียงดังกล่าว [embed-health-tool-bmi] ยารักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 สำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในเบื้องต้นคุณหมอจะแนะนำให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในชีวิตประจำวัน เช่น การเลิกสูบบุหรี่ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารกลุ่มแป้งและน้ำตาล ควบคุมน้ำหนัก รวมทังออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ตามเป้าหมาย ร่วมกับการใช้ยาลดระดับน้ำตาล โดยยาที่ใช้สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีดังต่อไปนี้ ยาที่ช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนอินซูลิน ได้แก่ ยากลุ่มซัลโฟนิลยูเรีย (Sulfonylurea) และ ยากลุ่มเมกลิทิไนด์ (Meglitinides) ยาเมดฟอร์มิน (Metformin) ซึ่งช่วยลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน และ ลดการสร้างน้ำตาลจากตับ ยากลุ่มที่ช่วยในเซลล์ตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น ได้แก่  ยากลุ่มไทอะโซลิดิไดโอน (Thiazolidinediones) ยากลุ่มที่ยับยั้งเอนไซม์ดีพีพี-4 (Dipeptidyl peptidase-4 inhibitors)  ยาลดระดับน้ำตาลกลุ่มที่ออกฤทธิ์ผ่านฮอร์โมนที่สร้างจากลำไส้ […]


โรคเบาหวานชนิดที่ 2

5 ผลไม้สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องให้ความใส่ใจ เพราะหากไม่ระมัดระวังอาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ดังนั้น จึงควรศึกษาเกี่ยวกับผลไม้สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 เพื่อให้รู้ว่าผลไม้แบบไหนที่ควรเลือกรับประทาน ผลไม้แบบไหนที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้สามารถควบคุมอาการของโรคเบาหวานได้ดียิ่งขึ้น [embed-health-tool-bmi] 5 ผลไม้สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ผลไม้ ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 มีดังต่อไปนี้ 1. ลูกพีช ลูกพีช เป็นอีกหนึ่ง ผลไม้ ที่มีกลิ่นหอม รสชาติหวานฉ่ำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับรับประทานเป็นอาหารว่าง โดยลูกพีช 1 ผลขนาดกลาง ให้พลังงาน 59 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 14 กรัม วิตามินซี 10 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 285 มิลลิกรัม 2. แอปริคอต  แอปริคอต เป็น ผลไม้ ประจำฤดูร้อน ที่มีรสชาติหวาน อุดมด้วยไฟเบอร์ ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร โดยแอปริคอต 1 ลูก ให้พลังงาน 17 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 4 กรัม 3. ส้ม  ส้ม จัดเป็น ผลไม้ […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

คุณกำลังเป็นเบาหวานอยู่ใช่หรือไม่?

คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เข้าร่วมชุมชนเบาหวานและแลกเปลี่ยนเรื่องราวและประสบการณ์ของคุณ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!


advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม